ความคิดเห็นที่ 1 ถ้าตั้งใจทำจริงจัง ไม่ใช่ทำเพื่อเป็นอาชีพเสริมแบบฆ่าเวลา และมีทำเลที่ดีจริงๆ   ก็ยังทำได้อยู่ค่ะ จะลงเป็นซุ้ม เคานเตอร์ หรือเป็นร้านก็แล้วแต่ทำเล ขอเล่าประสบการณ์ให้ฟังนะคะ เคยเปิดเมื่อประมาณ 5 ปีที่แล้ว เปิดเป็นร้าน มีกาแฟ อาหารว่าง เบเกอรี่ มีที่นั่งกินเป็นเรื่องเป็นราว เทียบกับร้านแถวย่านเดียวกัน ร้านเราขายแพงกว่าคนอื่น  แต่ลูกค้าเข้าเยอะที่สุด ขายไปซักพัก บ้านติดกัน ห่างไปห้องเดียว เห็นร้านเราขายดี ก็เอาซุ้มกาแฟมาเปิดบ้าง ขายถูกกว่าเราแก้วละ 10--30 บาท เป็นแฟรนไชส์ เอาเครื่องชงมาลง คนขายมาสอนสูตรให้ แล้วก็เปิดขายเลย แต่อยู่ได้แค่เดือนเดียว ก็ต้องปิดตัวไป เพราะคนไม่ซื้อ ส่วนมากเฮไปซื้อตอนเปิดร้านใหม่ๆ แต่ซื้อแล้ว ก็ไม่ซื้อซ้ำอีก ตอนหลังเราต้องการย้ายสถานที่ตั้งร้าน มาอยู่รวมที่เดียวกับร้านของแฟน เพื่อประหยัดค่าเช่าต่างๆ นาๆ แต่พอย้ายมาแล้ว ยังไม่ทันได้เปิดร้านใหม่ ก็มีปัญหาหลายอย่าง จนต้องหยุดทำไปก่อน  (แต่ปีหน้า กำลังมีแผนการ ว่าคงจะได้เปิดอีกครั้ง) ที่เล่ามา สะท้อนให้เห็นบางอย่าง คือ ร้านกาแฟ ควรลงทุน ในเรื่องที่ จำเป็นต้องลงทุน แต่หลายคนมักมองข้ามไป ต้องยอมที่จะยุ่งยาก ต้องเหนื่อย ต้องเรื่องมาก ในบางเรื่องถึงจะทำได้ค่ะ ไม่ว่าเจ้าของกระทู้จะเปิดเป็นแค่ซุ้มเล็กๆ มุมเล็กๆ หรือมีแค่ซอกวางขายเล็กๆ ต้องลงทุนกับสิ่งที่สำคัญที่สุด คือ เครื่องชงนี่แหล่ะ - ตัวเครื่องชงกาแฟ เครื่องบด เครื่องปั่น ที่ใช้ ให้ใช้ของอย่างดี  อย่าเอาแบบอัตโนมัติเครื่องทำให้ทุกอย่าง หรือซื้อเพราะถูก   (คนส่วนมากอาจคิดว่า เครื่องกาแฟไหนๆ ก็เหมือนกัน แค่ดูสวยก็พอ แต่จริงๆ แล้ว   เครื่องกาแฟคนละเกรด ทำกาแฟออกมาได้รสชาดต่างกันราวนรกกับสวรรค์เลยทีเดียว   เครื่องที่ดีก็อาจจะแพงซักหน่อย เป็นธรรมดา)   - เมล็ดกาแฟ ใช้เกรดดี ต้องทดลองกินหลายๆ เจ้า อย่าหลับตาจิ้มเอา   อย่าเลือกเพราะถูกอีกเหมือนกัน  กาแฟที่จะขายตัวเองได้คือ กลิ่นดี รสดี หน้าตาดี   อันไหนที่เรากินแล้วคิดว่าอร่อยมาก ถูกใจเรามาก เลือกเอาอันนั้นมาขาย  (แต่ก่อนร้านกาแฟแถวบ้านเรา ใช้กาแฟโลละ 150-200 แต่ร้านเราใช้กาแฟโลละ 400 ค่ะ  ทั้งกลิ่น ทั้งรส ต่างกันอย่างเห็นได้ชัด) -วัตถุดิบทุกอย่าง ใช้ของดีๆ ใส่แบบจัดเต็ม อย่าประหยัดเครื่องปรุง ถ้ามันจะทำให้รสชาดเสียไป - เจ้าของร้านต้องรู้ทุกอย่าง ทำเองเป็นทุกขั้นตอน และต้องกำกับให้พนักงานทำให้ได้ตามที่เรากำหนดสูตรไว้ด้วย พนักงานลาหยุด ต้องทำเองได้ทุกเมนู   ต้องชิม ต้องกำหนดสูตรเอง  ไม่จำเป็นต้องเก่งแบบกูรู  หรือขนาดเป็นบาริสต้า หรือผู้ชำนาญการด้านกาแฟ  เราแค่รู้ ในสิ่งที่เราจำเป็นต้องใช้ ประกอบอาชีพก็พอแล้ว  ไม่ใช่แค่ไปลงเรียนมาไม่กี่ชั่วโมงแล้วก็เปิดร้านได้เลย ก่อนเปิดร้าน  เราฝึกชงเองอยู่บ้านอีกเป็นเดือน กาแฟชง ชิม ทิ้ง ชง ชิม ทิ้ง หมดเมล็ดไปหลายกิโล ก่อนหน้านั้นก็เปิดอ่านข้อมูลต่างๆ ในเน็ต อ่านมากจนเก็บไปฝัน เพราะตอนนั้น เราเริ่มต้นแบบเป็นศูนย์ ไม่รู้อะไรเลย รู้แค่อยากเปิด เลยต้องทำการบ้านมากกว่าคนอื่น ถ้าทำแบบข้างบนแล้ว จะมีข้อจำกัดคือ ไม่สามารถขายราคาถูกๆ ได้ ถ้าไม่ตรงกับกลุ่มลูกค้าที่เรามองไว้ว่าจะขายให้เขา ก็จะลำบากค่ะ เปิดไปแล้วอาจอยู่ไม่ได้ อาจต้องมองหากิจการอย่างอื่น ที่น่าจะขายได้ ดีกว่า ที่เหมาะสมกับทำเลนั้นๆ มากกว่ามาแทนร้านกาแฟ เช่น เปลี่ยนจากกาแฟสด มาขายกาแฟโบราณ เครื่องดื่ม อื่นๆ แทน หรือถ้าขายถูก ใช้ของถูก แต่ถ้าคนมากินแล้ว ไม่อร่อย ไม่ถูกปาก เขาคงจะไม่กลับมาซื้ออีก จากคุณ : JiGGO InLove เขียนเมื่อ : 15 ธ.ค. 54 17:03:14

ความคิดเห็นที่ 2 แถมกาแฟให้แก้วนึงค่ะ พูดถึงแล้วอยากกินขึ้นมาทันที :> จากคุณ : JiGGO InLove เขียนเมื่อ : 15 ธ.ค. 54 17:14:52

ความคิดเห็นที่ 3 ลองอ่านดูกระทู้เก่าๆผมในคลังกระทู้ได้ครับ อาจจะพอมีประโยชน์บ้างไม่มากก็น้อย http://topicstock.pantip.com/silom/topicstock/2009/07/B8080436/B8080436.html http://topicstock.pantip.com/silom/topicstock/2010/01/B8746497/B8746497.html จากคุณ : kennyG เขียนเมื่อ : 15 ธ.ค. 54 22:40:28

ความคิดเห็นที่ 4 ขอบคุณมากค่ะ จากคุณ : NuxnixClub เขียนเมื่อ : 16 ธ.ค. 54 15:36:37