ความคิดเห็นที่ 1 เพิ่มเติมครับ โรงงานผมเองเปิดได้ 3 ปีแล้ว ทำแบบธุรกิจเสริมรายได้ และค้าขายเงินสดมาโดยตลอดเลยไม่ได้อัพ Statement ทางการเงินเลย ถ้าใครมีข้อคิดเห็นกรุณาให้ความรู้ด้วยนะครับ จากคุณ : สุวพิชญ์ (suwapitch04) เขียนเมื่อ : 2 ม.ค. 55 15:01:11

ความคิดเห็นที่ 2 หันซ้ายหันขวา  แล้วเอาทองหรือของมีค่าไปจำนำ  (พูดจริงนะเจ้า)  โรงรับจำนำเนี่ยไม่เรื่องมาก  อะไรก็รับ  ทีวีเก่าๆยังรับเลยเจ้า จากคุณ : กุนซือเอกแห่งรัฐวุ่ย เขียนเมื่อ : 2 ม.ค. 55 15:13:55

ความคิดเห็นที่ 3 -ยืมญาติพี่น้อง คนละหมื่น ละแสน รวมๆกัน -หาที่จำนำของ ทอง ทรัพย์สิน ที่เสียดอกพอรับได้ -เอาทั้งหมดมารวมกัน แล้วทำบัญชีให้เรียบร้อย เวลายืมเขาก้อเผื่อเวลาซักหน่อย แล้วคืนให้ตรงเวลา คราวหน้าเดือดร้อน เราจะได้มีเครดิต ความน่าเชื่อถือ จากคุณ : สุดโหดโคตรโรแมนติค เขียนเมื่อ : 2 ม.ค. 55 15:36:52

ความคิดเห็นที่ 4 แล้วถ้าผมเอาใบสั่งซื้อสินค้าจากลูกค้าไปยื่นกู้กับธนาคารจะได้หรือเปล่าครับ วิธีนี้ เนื่องจากคำสั่งซื้อยอดเงินเป็นแสน และผมเองก็ไม่ได้มีเงินเก็บเยอะขนาดนั้น รวมทั้งญาติๆผมเองก็ไม่ได้ร่ำรวยอะไรซะด้วยซ้ำ จากคุณ : สุวพิชญ์ (suwapitch04) เขียนเมื่อ : 2 ม.ค. 55 15:43:12

ความคิดเห็นที่ 5 คงต้องกู้นอกระบบล่ะครับ ธนาคารขอโอดีก้อต้องมีสเตทเม้นท์ เพราะมันเป็นการดิวครั้งแรกธนาคารเขาก้อกลัวเหมือนกัน ยืมญาติแบบไม่เสียดอกซักไม่กี่หมื่นก้อยังดีมาให้ได้มากที่สุด แล้วไปกู้นอกระบบ มารวมๆกัน แต่เล่นกับเงินกู้ต้องระวังเรื่องดอกเบี้ยด้วย คราวหลังถ้าคุณทำธุรกิจต้องเอาเงินหมุนในธนาคารด้วยครับ เผื่อมีเรื่องไม่คาดฝัน จะเสียโอกาส หรือเครียดได้ จากคุณ : สุดโหดโคตรโรแมนติค เขียนเมื่อ : 2 ม.ค. 55 16:17:35

ความคิดเห็นที่ 6 คร้าบ เป็นข้อผิดพลาดของผมที่ไม่เคยนึกถึงเลยครับ แต่ไม่มีสินเชื่อแบบที่ใช้หลักฐานทางการค้าใดๆเลยเหรอครับ จากคุณ : สุวพิชญ์ (suwapitch04) เขียนเมื่อ : 2 ม.ค. 55 16:41:11

ความคิดเห็นที่ 7 มีครับของ kbank สินเชื่อsme อนุมัติภายใน7วัน แต่ต้องทำธุรกิจมากกว่า3ปี มีผลการดำเนินงานยอดขายตามที่เขากำหนด และวงเงินอนุมติเกินล้านทั้งนั้นนั่นสิ่ครับ นอกนั้นผมไม่ค่อยเห็นมีเลย มีก้อใกล้เคียงกันแบบนี้ทั้งนั้น อีกวิธีคือกู้เงินนอกระบบ หาดอกเบี้ยถูกๆระยะสั้นสุด พอได้เช็คก้อวิ่งขายเอา รีบจ่ายคืน อาจจะได้กำไรมาน้อย แต่ยังพอไม่เสียลูกค้า ผมแนะได้แค่นี้ ถ้าไม่ไหวจริง หลบหลีกได้ก้อหลบครับ หรือรอท่านอื่นแนะวิธีดีๆครับ โชคดีครับ แก้ไขเมื่อ 02 ม.ค. 55 16:57:17 จากคุณ : สุดโหดโคตรโรแมนติค เขียนเมื่อ : 2 ม.ค. 55 16:52:37

ความคิดเห็นที่ 8 สุดยอดเลยครับ เป็นแนวทางที่ดีมากครับ ถ้าไม่ได้ก็ต้องหาเงินกู้นอกระบบเอาครับ แต่ยังมีอีกตัวนึงพอดีผม Search ทางเวปน่ะครับ ก็คือ -สินเชื่อกรุงไทยออเดอร์ไฟแนนซ์ซิ่ง ลองดูและคอมเม้มหน่อยครับว่าดีหรือเปล่า โดยผมวิ่งหาออเดอร์ลูกค้า โดยผมเองมีเครื่องจักรกระบวนการผลิตอยู่แล้ว พอได้คำสั่งซื้อมา ผมก็เอาใบคำสั่งซื้อกู้เงินมา...แต่พอดีผมไม่เก่งเรื่องการเงินสักเท่าไหร่ ก็เลยวานผู้รู้(คุณสุดโหด) หรือคนอื่นๆครับ วันพุธนี้ ผมคาดว่าคงจะเข้าไปสอบถามทาง Bank ดูครับ ได้ความยังไงก็จะเขียนอธิบายให้ฟังอีกทีครับ จากคุณ : สุวพิชญ์ (suwapitch04) เขียนเมื่อ : 2 ม.ค. 55 17:04:06

ความคิดเห็นที่ 9 จมารออ่านค่ะ เพราะเผื่อเราเองเป็นแบบ จขกท จะได้รุ้ช่องทาง เพรื่องการกู้ยืมญาตินี่หมดสิทธิ์จริงๆ เฮ้อ... จากคุณ : jazzzero เขียนเมื่อ : 2 ม.ค. 55 17:38:56

ความคิดเห็นที่ 10 ลองไปคุยกับธนาคารดูเลยครับ แต่บางที่คำตอบมันก้อคล้ายๆกับที่ผมบอกนั่นแหล่ะ ธนาคารบางที่เผื่อเขาแนะนำดีๆก้อมี แต่ไปพรุ่งนี้อาจจะต้องทำใจ เพราะงานธนาคารเขาเยอะ คุณอาจจะไม่ได้รับความสะดวกเท่าที่ควรในการกู้ยืม มีอีกวิธีเป็นทางเลือกสุดท้าย..... คือประกาศหาผู้ร่วมทุนครับ(ฟังดูหรู แต่คือยืมเงินเขานั่นแหล่ะ) ประกาศไปเลย ผลกำไรเท่าไหร่ มีกำไรชัวร์ๆกว่าฝากธนาคาร มีหลักฐานรับเงินชัวร์ ทำให้เขามั่นใจ จริงๆหาผู้หลักผู้ใหญ่หรือใครก้อได้พอมีเงินสนับสนุน ที่ไม่เรื่องมาก ผมเชื่อว่าคุณทำธุรกิจ น่าจะรู้จักคนเยอะบ้าง ทำสัญญา ทุกอย่างโปร่งใส แล้วก้อให้เขาจริงๆ จ่ายตรง เผื่อเดือดร้อนมาร่วมทุนกันใหม่ ไม่เสียเครดิต จากคุณ : สุดโหดโคตรโรแมนติค เขียนเมื่อ : 2 ม.ค. 55 17:46:30

ความคิดเห็นที่ 11 ถ้ามีบ้าน ผมแนะนำให้ขอ OD โดยใช้บ้านเป็นตัวค้ำ สินเชื่อ KBank จะได้ 150% ของราคาประเมินครับ และเจ้าหน้าที่จะเดินเรื่องเป็น OD แบบ SME ได้ โดยเสียดอกแค่ปีละ 9% ถ้าอายุกิจการเกิน 1 ปีขึ้นไป ลองยื่นเอกสารเพื่อเช็คคะแนนดูก่อนดีกว่าครับ ต้นปีอาจปล่อยง่าย ถ้าได้ก้อนนี้ผมแนะนำให้ลองหา แชร์มือใหญ่ที่น่าเชื่อถือเล่นดูครับ เผื่อจะได้สำรองในอนาคตได้ จากคุณ : แมวละเมอ เขียนเมื่อ : 2 ม.ค. 55 17:59:32

ความคิดเห็นที่ 12 ทำ Factoring ครับ เอาใบคำสั่งซื้อเป็นประกันครับ คล้าย ๆ กับการขายงานครับ จากคุณ : yuanhan49 เขียนเมื่อ : 2 ม.ค. 55 21:15:29

ความคิดเห็นที่ 13 ไม่มีวางมัดจำบางส่วนด้วยเหรอคะ จากคุณ : JiGGO InLove เขียนเมื่อ : 2 ม.ค. 55 21:21:20

ความคิดเห็นที่ 14 ธุรกิจ factoring ช่วยท่านได้ ค้นหาเองนะครับ ผมไม่เคยใช้บริการ เคยแต่ซื้อหุ้นบริษัท factoring เลยรู้ว่า เวลาไปขายของให้พวกบริษัทใหญ่ๆ เขี้ยวๆ กว่าจะจ่ายนี่เครดิตยาวเลย ก็เอาหนี้ไปขายให้บริษัท factoring วางบิลปุ๊บก็ขาย(โอนหนี้ให้ factoring)ปั๊บรับเงินมา(ไม่เต็มจำนวน โดนหักดอกเบี้ยล่วงหน้า) ลองดูว่าบริษัทมหาชนที่ว่า มีบริษัทลูกที่ทำธุรกิจ factoring หรือเปล่า ถ้ามีก็ติดต่อบริษัทนั้นแหละ ถ้าไม่มีก็ลองถามๆบริษัทอื่นๆดู แต่ครั้งแรกคงไม่ง่ายนัก ถ้าไม่ใช่บริษัทในเครือ จากคุณ : vision เขียนเมื่อ : 2 ม.ค. 55 21:25:18

ความคิดเห็นที่ 15 ต้องใช้เงินทั้งหมดเท่าไหร่ครับ ถ้าไม่เกิน 2แสน ออมสินอาจจะช่วยท่านได้ โดยสินเชื่อธนาคารประชาชน ดอกเบี้ย 0.75% ต่อเดือน ใช้คนค้ำประกัน 2 คน เตรียมเอกสารให้พร้อม สำเนาบัตรประชาชน ,สำเนาทะเบียนบ้าน ,ใบเสร็จสั่งซื้อสินค้า และก้อเอกสารทางการเงินเท่าที่เตรียมได้ครับ ปล. คุณสุวพิชญ์ อยู่เขตพื้นที่ไหนครับ จากคุณ : coffeeway เขียนเมื่อ : 2 ม.ค. 55 21:54:56

ความคิดเห็นที่ 16 ดีครับ ช่วยๆกัน จากคุณ : สุดโหดโคตรโรแมนติค เขียนเมื่อ : 2 ม.ค. 55 22:59:11

ความคิดเห็นที่ 17 SME bank ละคะ ดูรึยัง ไม่รู้รายละเอียดนะคะ แต่เห็นมันเป็น SME น่าจะง่ายกว่า จากคุณ : แพนดาโระ เขียนเมื่อ : 2 ม.ค. 55 23:14:48

ความคิดเห็นที่ 18 Factoring เหมือนกันค่ะ แต่ก็ต้องใช้ Bank Statement, งบการเงินย้อนหลัง 3 ปี เหมือนกันแหล่ะ ลองเซิจหาดู มีหลายบริษัท เงื่อนไขอาจต่างกัน ดอกเบี้ยอาจจะแพงกว่าแบงค์ จากคุณ : MeaoNoi เขียนเมื่อ : 2 ม.ค. 55 23:17:14

ความคิดเห็นที่ 19 ถ้าของ สินเชื่อธุรกิจไม่ได้ ไปสมัคร personal loan เอามาสัก2-3แบงค์ไปเลย ที่ละ4-5หมื่นก็น่าจะได้หลักแสนแล้วนะ (เห็นชอบโทรมาให้กู้กันจั้ง) ผมว่ายังไงดอกก็ดีกว่ากู้นอกระบบ จากคุณ : typeV เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 55 01:05:04

ความคิดเห็นที่ 20 เห็นด้วยกับ คห.13 "วางมัดจำ" ทำสัญญาจ้าง ..วางมัดจำเงินสด(หรือเครดิตไม่เกินกี่วัน ก็ว่าไป .. แล้วส่งสินค้าเป็นงวดๆ ... - วางมัดจำรอบแรกซัก 1ใน3(เท่าไหร่ก็แล้วแต่ จขกท. แล้วเอาเงินมัดจำไปลงทุนผลิต)    แล้วก็ส่งสินค้าล็อตแรก - วางมัดจำรอบสอง  1ใน3 (เท่านี้ก็น่าจะได้ทุนทั้งหมดแล้วล่ะ)    แล้วก็ส่งสินค้าล็อตสอง - ส่งสินค้าล็อตสาม (จบงาน)   รับเช็คงวดสุดท้าย จะเครดิต45วัน ก็ยังได้ ลอง พูดคุยกับลูกค้าแนวทางนี้บ้างสิครับ   (ตามที่ผมแนะนำ เขาอาจจะมีต่อรองอะไรบ้าง ก็เตรียมราคาไว้เผื่อโดนต่อนะครับ) ไม่ต้องไปกลัวลูกค้าจะยกเลิกหรอกครับ  เรื่องแบบนี้ พูดคุย,ต่อรอง กันได้ เป็นธรรมดาธุรกิจ  ธุรกิจคือการต่อรอง ถ้าราคาคุณน่าสนใจจริง  ผมว่า ทางนู้นก็น่าจะยังไหว ส่วนวัตถุดิบ ที่จะเอามาผลิตสินค้า ก็ลองคุยกับคนขายดูครับ ว่าพอจะให้เครดิตเราได้ไหม หรือ จ่ายเป็นงวดๆ อะไรก็ว่าไป ลองวิธีนี้ดูก่อนได้ไหม  ต่อรองและสร้างเงื่อนไขให้เป็น ถ้าจนแล้วจนรอดใช้วิธีผมไม่ได้  ไม่มีใครยอม  ก็ค่อยวิ่งไปหากู้เงิน ให้ช่วยอะไรก็บอกนะ ยินดีให้คำปรึกษา เป็นกำลังใจให้ สู้ๆ จากคุณ : aumpaump12 เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 55 01:14:12

ความคิดเห็นที่ 21 ประสบปัญหาเดียวกัน เข้ามาศึกษาครับ ปล.แก้ไขคำผิดครับ                     แก้ไขเมื่อ 03 ม.ค. 55 12:21:22 แก้ไขเมื่อ 03 ม.ค. 55 11:19:40 จากคุณ : hikaru_hurb เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 55 11:17:49

ความคิดเห็นที่ 22 สอบถามความเห้นนะครับ สินค้าผม กำไรสุทธิหักค่าใช้จ่ายทุกอย่างแล้วมีกำไรประมาณ 9-10% ที่ยังไม่สูงเพราะว่า ประสิทุธิภาพกำลังการผลิตยังไม่สมบูรณ์ ถ้าผมจะให้กำไรแก่ผู้ที่ร่วมทุนควรให้เท่าไหร่ดีครับ คิดต่อเดือนเลยครับ เช่น ลงทุน 100 บาท เอาไปเลย 3 บาท(3%) มันจะเหมาะสมหรือเปล่าครับ แต่มีคนเสนอร่วมทุน ขอ 5% ต่อเดือน(ต่อรอบสินค้า) จากคุณ : suwapitch04 (suwapitch04) เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 55 15:50:40

ความคิดเห็นที่ 23 ตอบทีละความเห็นนะครับ 1.คุณแมวละเมอ - บ้านผมยังผ่อนธนาคารไม่หมดเลยน่ะครับ เลยไม่แน่ใจว่าจะทำเรื่อง OD ได้หรือเปล่า 2.คุณ CoffeeWay - น่าสนใจครับ สำหรับสินเชื่อธนาคารออมสิน ผมจะลองวิ่งไปสอบถามดูในวันพฤหัสครับ ซึ่งดอกเบี้ยร้อยละ 0.75% ต่อเดือน เป็นอัตราที่ผมรับได้มากครับ -ผมอยู่แถว ปากน้ำ สมุทรปราการ 3.คุณแพนดาโระ - ตอนนี้ผมยังไม่เจอครับ อาจเป็นเพราะผมยังค้นหาไม่ดีครับ คาดว่าวันพฤหัสก็จะวิ่งเข้าไปสอบถามดูเช่นกันครับ 4.คุณtypeV - Personal Loan ติดที่ว่าอัตราดอกเบี้ยทบต้นและปิดงบกูเไม่ได้เลยในคราวเดียว อันนี้ข้อมูลจากเพื่อนผมเล่าให้ฟังมานะครับ แต่ก็เป็นทางเลือกนึงที่ผมไม่ได้มองข้ามครับ 5.คุณ AumpAump12 - ข้อนี้เป็นวิธีที่ผมว่าดีที่สุด สำหรับผมเนื่องจากถ้าสามารถต่อรองได้โดยได้ Best Condition ที่ดีที่สุดคือของไปเงินมา....แต่คงยาก แต่น่าจะมีจุดสมดุลๆอยู่จุดนึงที่ยอมรับกันได้ทั้งคู่ ไว้ผมจะมาอัพเดท....เพื่อกรณีศึกษาให้นะครับ จากคุณ : สุวพิชญ์ (suwapitch04) เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 55 16:43:02

ความคิดเห็นที่ 24 ผู้ใหญ่ที่นับถือสอนเรามา เงินกำไรที่ได้ให้แบ่งเป็น 3-4 ส่วน ส่วนที่หนึ่ง : สำรองดำเนินกิจการ คุณต้องเผื่อช่วงเวลาที่ไม่มีรายได้เข้า แต่รายจ่ายมีอยู่ตลอด คุณจะทำยังไง ส่วนที่สอง : งบลงทุน/ขยายงาน ส่วนที่สาม : วิจัยและพัฒนา (ถ้ามี) ส่วนที่สี่ : โบนัสพนักงานและเงินปันผลผู้ถือหุ้น คุณได้กำไรไม่ถึง 10% จะปันผล 5% เราว่ามันมากไปนะ จากคุณ : สาวน้อยร้อยแปด เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 55 20:26:27

ความคิดเห็นที่ 25 กับบริษัทใหญ่ หรือ มหาชน จริง โอกาสเก็บเงินมัดจำล่วงหน้า ยากมากๆ ครับ ยกเว้น เป็นสินค้าเฉพาะ ที่ ไม่มีคู่แข่ง จริง ๆ   เครดิต 45 วัน ยังพอไหวครับ ของผม เจอ 60 วัน ไม่รวม วันวางบิลและวันรับเช็ค โดยมากโดน ไปเกือบ 90 วัน      สู้ๆ ครับลอง คุยกับแบงค์ดูนะครับ เอาหลักฐาน ใบสั่งซื้อของลูกค้าไปคุยดูครับ  ขอให้โชคดี  รวยๆ ครับ จากคุณ : boy2000 เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 55 21:40:43

ความคิดเห็นที่ 26 ตอบ จขกท ในความเห็น22 นะครับ อย่างนั้นเค้าเรียกปล่อยกู้แล้วครับ ถ้าจะลงทุนร่วมกัน จขกท.ต้องตีมูลค่าเงินทุนและทรัพย์สินของคุณว่ามีเท่าไหร่ นั้นคือส่วนของคุณ ส่วนนายทุนเค้าเอามาลงเท่าไหร่ นั้นคือส่วนของเค้า แบ่งกำไรตามสัดส่วนการถือหุ้น เช่น เครื่องจักร + เงินทุนคุณตีราคาได้ 7000 บาท เค้าเอาเงินมาลง 3000 บาท รวมทุนจดทะเบียน 10000 บาท คุณถือหุ้น70% นายทุนถือหุ้น30% ทำจบงาน แล้วได้กำไร 200 บาท จ่ายเงินเดือนคุณ(ในฐานะคนทำงาน ไม่ใช่ผู้ถือหุ้น) 50 บาท หักค่าดำเนินการอื่นๆ 50 บาท เหลือกำไรสุทธิ 100 บาท กันเงินไว้ดำเนินงานต่อไป 50 บาท ปันผล 50 บาท คุณจะได้ปันผล 35 บาท(70%) นายทุนได้ปันผล 15 บาท(30%) คอนเซ็ปประมาณนี้ครับ จากคุณ : typeV เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 55 22:58:43

ความคิดเห็นที่ 27 สิ้นหนทางจริงๆ ก็นี่เลย บัตรเครดิต กดเอาเงินสดออกมาใช้ก่อน แต่คงหลายใบหน่อยนะ จากคุณ : vizion เขียนเมื่อ : 4 ม.ค. 55 10:39:32

ความคิดเห็นที่ 28 ปัญหาเดียวกันเลย(เงินหมุนเวียนไม่พอ) ขอมาเก็บความรู้ในกระทู้นี้ด้วยคนค่ะ เป็นกำลังใจให้ จขกท. หาเงินได้เร็วๆ นะคะ ปล.อยู่สมุทรปราการเหมือนกัน...สู้ๆๆ จากคุณ : Devil Love MoM เขียนเมื่อ : 4 ม.ค. 55 11:30:07

ความคิดเห็นที่ 29 เงินทุนไม่พอ ต้องค่้อยๆหาวิธีทำให้พอ อย่าเพิ่งให้สินเชื่อกับใคร แม้จะเป็นบริษัทมหาชน ก็อาจมีปัญหาและพบกับความเสี่ยงในธุรกิจ ได้ ย้อนกลับสู่พื้นฐานพัฒนางานธุรกิจให้ดีๆ ดีกว่าครับ -ขายให้ได้ โดยเก็บเงินมัดจำทั้งหมดหรือบางส่วนก่อนซื้อหรือสั่งผลิต -ลดโสหุ้ยหรือต้นทุนประจำให้เหลือน้อยที่สุด -สร้างส่วนต่างระหว่างต้นทุนกับราคาขายให้ห่างมากที่สุด -อื่นๆ ใช้เทคนิคทำกำไรเพิ่ม 2 เท่า พร้อมๆหาวิธีการลดต้นเดิม 2 เท่า การหาเงินทุนหมุนเวียนเข้าระบบนอกจากหยิบยืมญาติพี่น้องแล้ว การใช้เทคนิคเก็บเงินเร็วขึ้นจากลูกหนี้ซัก 15 วัน และการขอยืด ชำระหนี้จากเจ้าหนี้ให้นานขึ้น 15 วันหรือเท่าที่จะเจรจาต่อรองได้ โดยเจ้าหนี้ไม่เสียผลประโยชน์หรือยอมรับได้ เป็นวิธีการที่นักธุรกิจ หรือเจ้าของกิจการมักใช้กัน รวมถึงองค์กรมหาชนใหญ่ๆหลายแห่ง ก็ใช้วิธีการนี้ เป็นการเพิ่มเงินทุนหมุนเวียนโดยไม่มีภาระดอกเบี้ย และทำได้เร็วที่สุด เท่ากับมีเงินหมุนเวียนเพิ่มในระบบอีก 30 วัน หรือ 1 เท่าตัวเลยครับ จากคุณ : pc เขียนเมื่อ : 5 ม.ค. 55 12:35:36 A:171.4.246.12 X: TicketID:315677

ความคิดเห็นที่ 30 อัพเดทนะครับ วันพุธที่ผ่านมา...แวะไปธนาคารกรุงไทย แต่ปรากฎว่า สินเชื่อออเดอร์รีไฟแนนซ์ซิ่งก็ต้องใช้หลักฐาน Statement ทางการเงินอย่างน้อย 6 เดือน และต้องมีหลักทรัพย์ค้ำประกัน ซึ่งผมดูแล้วก็ไม่ได้ต่างจากตัวอื่นๆเลยครับ ส่วนวันศุกร์ไปหาลูกค้า...ที่เครดิตผม 45 วันเพื่อคุยรายละเอียด แต่ปรากฎว่า ข้อเสนอยังคงเหมือนเดิม 45 วันไม่รวมเสาร์-อาทิตย์ ก็ว่ากันง่ายๆก็ประมาณ 60 วัน ส่วนเงินทุนหมุนเวียน ก็ต้องกู้ธนาคารครับ โดยการดึงเพื่อนมาร่วมทุนและก็ใช้เงินของครอบครัวเพื่อนผมค้ำประกันในธนาคารแล้วก็ขอกู้ครับ วันจันทร์...ผมจะเข้าไปคุยกับธนาคารออมสิน เนื่องจากคุณ CoffeeWay แนะนำสินเชื่อ 1 ตัวที่น่าสนใจมากๆเลยทีเดียวครับ แล้วจะอัพเดทให้ฟังอีกทีครับ จากคุณ : สุวพิชญ์ (suwapitch04) เขียนเมื่อ : 8 ม.ค. 55 11:40:21

ความคิดเห็นที่ 31 รอฟังนะคะ จากคุณ : booklovers เขียนเมื่อ : 10 ม.ค. 55 13:32:35

ความคิดเห็นที่ 32 แนะนำให้เตั้งแชร์ครับ กับญาติหรือเพื่อนสนิทที่มีเงินจ่ายชัวร์ครับ สมัยก่อนนู้น คนจีนในไทยไม่สามารถทำธุรกรรมกับทางธนาคารได้เลย เค้าใช้วิธีนี้ช่วยกันครับ ดีกว่ากู้ธนาคาร ถ้าเป็นเท้าแชร์ ไม่เสียดอก ถ้าเป็นลูกแชร์ เสียดอกแต่ไม่ต้องยื่นเอกสาร ขอย้ำว่า หาคนที่คิดว่าจ่ายได้ชัวร์นะครับ จากคุณ : จงเลือกแล้วเดินให้สุดทาง เขียนเมื่อ : 11 ม.ค. 55 23:03:44

ความคิดเห็นที่ 33 อีกเรื่องคือลองขอเครดิตซัพพลายเออร์ให้พอดีกับที่เราจะได้รับเงินครับ จากคุณ : จงเลือกแล้วเดินให้สุดทาง เขียนเมื่อ : 11 ม.ค. 55 23:17:49

ความคิดเห็นที่ 34 ขอบคุณสำหรับทุกความเห้นครับ ตอนนี้กำลังนำสินค้าไปตรวจสอบในห้องแลป ถ้าผ่านก็จะทำเรื่องคุยกับซัพพลายเออร์เรื่องเครดิตวัตถุดิบ จากคุณ : สุวพิชญ์ (suwapitch04) เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 55 16:24:45