ความคิดเห็นที่ 1 รายละเอียดทุกอย่างของสินค้าสามารถให้เค้าส่ง email มาได้ครับ อย่างพวก Specification มันไม่ใช่ความลับอะไรอยู่แล้ว ส่วนราคาก็อาจจะต้องมีเรื่องปริมาณสั่งซื้อเข้ามาเกี่ยวข้องก่อนที่จะทำ Quotation ซึ่งเค้าจะกำหนด MoQ ให้คุณ และคุณก็บอกปริมาณที่ต้องการไป วิธีการส่งของก็แล้วแต่ประเภทและน้ำหนักของสินค้า จะมาทาง Air ลงที่สุวรรณภูมิ หรือทางเรือลงที่คลองเตยหรืออื่น ๆ ก็ว่ากันไป เรื่อง Sample อยู่ที่การเจรจา ถ้าไม่เหลือบ่ากว่าแรงเค้า ก็คงไม่มีปัญหา ถ้าทางผู้ผลิตใจดี เค้าอาจส่ง sample ให้คุณแบบไม่คิดมูลค่า หรือถ้าปกติทั่วไป คุณอาจจะต้องจ่ายค่าจัดส่งเอง ไม่จำเป็นต้องลงทุนบินไปดูที่โรงงานหรอก เว้นเสียแต่ว่าสินค้าของคุณมันจำเป็น หรือคุณว่างอยากไปเสียเอง วิธีการต่อรองราคา คุณก็ต้องดูสิว่าในตลาดผู้ผลิต ราคาเฉลี่ยมันอยู่ที่เท่าไหร่ ถ้าเค้าแพงกว่าก็ให้เค้าชี้แจงสาเหตุว่าทำไมถึงขายราคานี้ หรือไม่คุณก็หา supplier ซัก 2-3 เจ้า แล้วก็ต่อราคาไปซะทุกเจ้า ในราคาที่คุณต้องการ เดี๋ยวเค้าก็บอกเองว่าให้ได้ดีสุดเท่าไหร่ แต่ถ้าคุณอยากได้สินค้าตัวนี้มาก ๆ ก็คงต่อรองอะไรไม่ได้มากหรอก มันอยู่ที่ประเภทของสินค้าด้วย บางตลาดเป็น red ocean คุณก็ต่อรองได้มากหน่อย แต่ถ้าเป็นพวก blue หรือ specialty คุณอาจต้องง้อผู้ผลิตด้วยซ้ำ แต่อย่างไรก็ดี สำคัญสุดไม่ได้อยู่ที่ตรงนั้น มันอยู่ที่เวลาที่ของถึงเมืองไทยต่างหาก ... หน่วยงานราชการคือกำแพงหินที่คุณต้องฝ่าออกไป คุณต้องรู้ก่อนว่าสินค้าชนิดนี้ ในเมื่อคุณนำเข้ามาในเชิงพาณิชย์ ถ้าปริมาณน้อย ๆ ยังไม่ค่อยมีปัญหาเท่าไหร่ แต่ถ้าเริ่มเยอะ คุณต้องรู้ว่าสินค้าประเภทนี้ การนำเข้าต้องขอใบอนุญาตอะไรบ้าง นอกเหนือจากด่านแรกที่ต้องเจอคือศุลกากร เช่น อาหาร เครื่องสำอาง ยา และวัตถุดิบในการผลิตพวกนี้ คุณต้องไปขอใบอนุญาตนำเข้าที่ อ.ย. เสียก่อน เป็นต้น ดังนั้น ก่อนนำเข้าอะไร ศึกษาข้อกำหนดให้เรียบร้อยซะ จะได้ไม่ต้องมีปัญหาใต้โต๊ะ บนโต๊ะ ให้ปวดหัว เวลาของมาถึงประเทศ ... มันเจ็บ 555+ แก้ไขเมื่อ 01 ก.พ. 55 05:14:05 จากคุณ : Morning Star เขียนเมื่อ : 1 ก.พ. 55 05:13:53

ความคิดเห็นที่ 2 ตาม คห บนค่ะ รายละเอียดคร่าวๆ แต่ครบถ้วน เริ่มแรกแนะนำว่านำเข้ามาน้อยๆ ก่อนก็ดี ราคาให้ทางโรงงานเสนอแบบ terms CPT Bangkok airport (สินค้า+airfreight+ insurrance) หรือ CIF Bangnkok port มาทางเรือรวมค่าระวางและประกันภัย การนำเข้าต้องเสียภาษีอากร + vat Import tax & duty นี่อาจจะ 0% เว้นอากร หรือสูงๆ มาก 30-40% ตามประเภทสินค้า ถามหาพิกัดอัตราศุลกากรก่อน นำมาคำณวน เพื่อเตรียมเงิน Import tax = คิดจาก ราคา CIF x % << ต้องเตรียมเงินก้อนนี้จ่ายกรมศุลฯ Vat 7% ปัจจุบัน = ราคา CIF + import tax นำมา x 7% <<ต้องเตรียมเงินจ่ายรวมกับภาษีนำเข้า ...นี่คือต้นทุนที่แท้จริงแต่ละครั้งที่นำเข้า (land cost) ส่วน vat นำมาเป็น vat ซื้อได้ อ้อ ถามหา HS code จากผู้ส่งออก จะได้นำมาหาอัตราพิกัดตอนนำเข้า ลองไปหาหนังสือมาอ่านเพิ่มเติมก็ดี จากคุณ : เขียนบน iPad (Blue Baleen) เขียนเมื่อ : 1 ก.พ. 55 06:46:03

ความคิดเห็นที่ 3 ข้อมูลจัดเต็ม ขอบคุณมากค่ะ จากคุณ : เผอิญผ่านมา (chalaluck) เขียนเมื่อ : 1 ก.พ. 55 10:10:00

ความคิดเห็นที่ 4 vc จากคุณ : okb เขียนเมื่อ : 1 ก.พ. 55 14:56:20