ความคิดเห็นที่ 1 สายงานการตลาดพูดเต็ม ๆ กว้างขวางมีหลายมุมหลายแคบมากมาย แต่ที่มันแตกต่างกัน หรือการที่คุณมานั่งสงสัย เพราะเจอไม่ครบ เจอแต่ marcom ท่าเดียวนั้นเป็นเพราะสายงานการตลาดในแต่ละธุรกิจจะมีความแตกต่างและเหมือนกันไปตามลักษณะประเภทของธุรกิจและองค์กรนั้น ๆ ทำให้กลยุทธ์ในการบริหารจัดการก็จะต่างกันและโครงสร้างสายงานก็พลอยต่างกันไปด้วย สายงานการตลาดที่นิยมแบ่งในแบบสากลแบ่งออกเป็นสายงานกว้าง ๆ ได้ 2 สายตามลักษณะลูกค้า เพราะการตลาดคือการบริหารจัดการลูกค้า ซึ่งเป็นแหล่งรายได้ขององค์กร Consumer Marketing การตลาดผู้บริโภค B2B Marketing (Business to Business Marketing) การตลาดลูกค้าองค์กร ที่นิยมแบ่งแบบนี้เพราะว่า การทำการตลาดทั้งสองประเภทมีความแตกต่างกันชัดเจนทั้งในแง่ของสายงาน การบริหารจัดการ เทคนิคเครื่องไม้เครื่องมือ และการแข่งขันการปรับเปลี่ยนที่รุนแรง(พลวัตร)ของตลาด Consumer Marketing จะมีลักษณะธรรมชาติที่มีการแข่งขันสูง มีความถี่ในการซื้อทุกวัน มีการปรับเปลี่ยนตลาดบ่อย ๆ มีปรากฏการณ์สำคัญ ๆ ต้องใช้กลยุทธ์ไม้เด็ดมางัดใจลูกค้ากันไม่เว้นแต่ละวัน สายงานที่พบได้บ่อย ๆ ก็ เช่น ฝ่ายวิจัยตลาด การบริหารผลิตภัณฑ์ การสื่อสารการตลาด สายงานจัดการลูกค้าสัมพันธ์(CRM) และธุรกิจค้าปลีกทั่วไป ถ้าคุณบอกว่าคุณรู้จักแต่ marcomm แสดงว่าธุรกิจของคุณน่าจะเป็นลักษณะนี้ คือสินค้าขายปลีก ขายหน่วยชิ้นเล็ก ๆ หรือสินค้าอุปโภคบริโภค สบู่ ยาสีฟัน ของกินของใช้ อาหาร เครื่องดื่มในชีวิตประจำวัน ธุรกิจกลุ่มนี้มักจะมี marcomm เป็นสายงานหนึ่งเพราะมีความสำคัญและใช้งานบ่อยมาก B2B Marketing จะมีลักษณะที่ค่อนข้างแตกต่างจาก Consumer Marketing ของขายได้เรื่อย ๆ ซื้อทีละมาก ๆ ไม่ได้ซื้อบ่อย มีความถี่ในการซื้อต่ำ การแข่งขันไม่สูงมากขนาดที่จะต้องมีพลวัตรในทุกวัน ทุกนาที ส่วนมากจะเป็นสินค้าอุตสาหกรรมขายทีเป็นล็อต ๆ เช่น สีพ่นรถยนต์ สินค้าเทคโนโลยี เครื่องจักร เครื่องมือแพทย์ หรือสินค้าอุปโภคบริโภคที่ขายเป็นล็อต เช่น ซีอิ๊วขายทีเป็นแกลอนส่งร้านอาหาร เป๊ปซี่ขายทีเป็นแกลอนส่งร้านเคเอฟซี ยาเป็นล็อต ๆ ที่ดีเทลยาขายให้โรงพยาบาล ธุรกิจในกลุ่มนี้ก็เลยมักจะมีสายงานขายเป็นสายงานหลักสายงานหนึ่ง พบได้บ่อย ๆ ซึ่งเราอาจจะไม่เจอ marcomm ด้วยซ้ำ สายงานวิจัยและพัฒนา สายงานบริหารสินค้า สายงานบริหารค้าส่ง สายงานลอจิสติกส์ อันนี้คือแบ่งแบบกว้างมาก แก้ไขเมื่อ 13 ก.พ. 55 14:02:40 แก้ไขเมื่อ 13 ก.พ. 55 14:01:59 แก้ไขเมื่อ 13 ก.พ. 55 13:51:49 แก้ไขเมื่อ 13 ก.พ. 55 13:43:31 จากคุณ : สถานีสามย่าน (รถด่วนลอยได้) เขียนเมื่อ : 13 ก.พ. 55 13:42:59

ความคิดเห็นที่ 2 ก็อีกแหละว่าคุณขายอะไร ถ้าคุณขายสินค้า สายงานก็คงจะไม่ต่างจากที่ผมบอกไปมากนัก แต่ถ้าคุณขายการบริการละ ขายบริหารแบบปลีก อย่างโรงหนัง ขายตั๋วคอนเสิร์ตเป็นใบ ๆ สายการบิน โรงแรม ก็ต้องมีสายงานบริการลูกค้าเกิดขึ้น คอยบริหารและบริหารเรื่องร้องเรียน มีคอลเซนเตอร์ มีสายงานจัดการประสบการณ์ลูกค้าขึ้นมา (CEM) แต่ถ้าคุณขายบริการแบบเป็นล็อต ทำสื่อโฆษณาให้ลูกค้า อาจจะต้องมีสายงานการพัฒนาบุคลากร สายงานอบรมเทคนิคการขายให้ AE ของคุณด้วยซ้ำ แล้วเกิดธุรกิจของคุณขายทั้งสินค้าและบริการละ มีทั้งร้านอาหารให้ชมวิวแล้วก็อาหารดี ๆ ด้วย คุณก็ต้องมีทั้งแผนกจัดซื้อจัดหา บริหารสินค้าแล้วก็ดันต้องมีฝ่ายบริการลูกค้าอีกด้วย แต่กระนั้นต่อให้เป็นธุรกิจประเภทเดียวกันหรือกลุ่มใกล้เคียงกัน ก็มีความแตกต่างกันไปอีกตามลักษณะของลูกค้าหรือกลุ่มเป้าหมายเป็นหลัก (บอกแล้วว่าการตลาดคือการบริหารลูกค้า องค์กรเราจะมีสายงานอะไรขึ้นอยู่กับธรรมชาติของลูกค้าที่เราทำธุรกิจอยู่) สินค้าเดียวกันหรือธุรกิจประเภทเดียวกันก็อาจจะมีสายงานต่างกันได้อีก ถ้าลูกค้าเป็นกลุ่มพรีเมี่ยม เราจะไม่ค่อยมีงานโฆษณา หรือสายงาน marcomm จะเน้นไปที่การประชาสัมพันธ์ การทำอีเว้นท์ กิจกรรมซะส่วนใหญ่ ถ้าลูกค้าเป็นกลุ่มแมส การทำโฆษณาจะสำคัญในทันทีและเราก็อาจจะต้องจ้างเอเจนซี่หรือมีฝ่ายกราฟฟิกเป็นของเราเองด้วย ถ้าลูกค้าเป็นกลุ่มเฉพาะจริง ๆ (Niche Market) เช่น ลูกค้าต่างชาติเท่านั้น บาร์เกย์เท่านั้น เราอาจจะใช้สื่อที่เฉพาะมาก ๆ เช่น สื่อออนไลน์ SMS หรือ direct mail หรือพนักงานขาย ลักษณะการเติบโตของสินค้าหรือธุรกิจเองก็ทำให้สายงานเราต่างด้วยเช่นกัน ธุรกิจหรือสินค้าที่เพิ่งจะเริ่มต้นมักจะเน้นไปที่สายงานการบริหารสินค้าเป็นหลัก ธุรกิจหรือสินค้าที่เริ่มขยายกิจการ ก็จะเน้นไปที่สายงานที่พัฒนาช่องทางการจัดจำหน่าย กระจายสินค้า ธุรกิจหรือสินค้าที่เติบโตเต็มที่ในตลาด หรืออิ่มตัวมาก ๆ แล้วก็จะเน้นไปที่สายงานพัฒนาธุรกิจ สายงานการตลาดระหว่างประเทศ มีอีกกี่ประเภทก็ว่าไป สายงานการสื่อสาร การทำกิจกรรมกับลูกค้า โปรโมชั่น หรือการจัดการลูกค้าสัมพันธ์ (CRM) มีระบบบัตรสมาชิกขึ้นมา อยากให้สังเกตกลุ่ม true ที่เพิ่งจะมี red card / black card เป็นของตัวเอง แสดงว่าธุรกิจเขาเริ่มอิ่มในระดับนึงแล้ว รอก้าวใหญ่ ๆ ต่อไป นอกจากนี้ในวงการตลาดอาจจะมีสายงานหรือบริษัทที่เป็นตัวแทนเฉพาะ รับทำงานการตลาดนั้น ๆ โดยเฉพาะ เป็นผู้ชำนาญการพิเศษ เช่น บริษัทวิจัยตลาด เอเจนซี่ ธุรกิจค้าปลีก บริษัทระบบสารสนเทศทางการตลาด ซึ่งมีลักษณะงานเฉพาะนั้น ๆ เลย บริษัทวิจัยก็จะรับทำวิจัยอย่างเดียว คุณก็คงไม่ได้เห็น marcomm ในนั้น แต่กลับจะไปเป็นห้องทำ focus group แทน หรือเอเจนซี่ที่ทำ marcomm อาจจะไม่ได้ทำครบวงจร แต่รับทำงานเฉพาะอย่าง เช่น จัดอีเวนท์อย่างเดียวเลยก็มี ผู้บริหารการตลาดที่ดีไม่ใช่ว่าต้องมีคุณสมบัติอะไร แต่ต้องรู้ว่าองค์กรเราต้องมีสายงานอะไรถึงจะเหมาะกับลูกค้าของเรา ต้องสร้างสายงานนั้น ๆ ขึ้นมาได้ ต้องบริหารงานในสายนั้น ๆ ได้ สรุปว่าคำถามที่คุณถามเนี่ย ธุรกิจหรือองค์กรคุณเองจะเป็นคนตอบได้ว่า บริษัทเราต้องมีสายงานอะไร แล้วหัวหน้าคุณต้องเป็นอะไรบ้าง นอกจาก marcomm เท่าที่ข้อมูลคุณให้มาน้อยนิด ทายไปเล่น ๆ ว่า สินค้าของคุณน่าจะเป็นสินค้ากลุ่ม Consumer Marketing เพราะมี marcomm และต้องทำโฆษณาด้วยคงค่อนข้างแมส ไม่น่าจะมีการบริการ และก็ทำธุรกิจภายในประเทศ แก้ไขเมื่อ 13 ก.พ. 55 14:03:42 แก้ไขเมื่อ 13 ก.พ. 55 14:00:21 แก้ไขเมื่อ 13 ก.พ. 55 13:59:42 แก้ไขเมื่อ 13 ก.พ. 55 13:51:55 จากคุณ : สถานีสามย่าน (รถด่วนลอยได้) เขียนเมื่อ : 13 ก.พ. 55 13:51:36

ความคิดเห็นที่ 3 ตอบได้ยอดเยี่ยมครับ เอาไปหกแต้ม ข้อความทั้งหมด ขอเมมเข้าหัวระยะยาวเลยครับ ธุรกิจเป็นอาหารหมายี่ห้อนึงครับ ชัดเจนไปเลย การโฆษณาที่ลง ไม่ใช่โฆษณา Mass หรอกครับ เฉพาะสื่อที่เลือกมาแล้วเหมือนกัน จากคุณ : Niya เขียนเมื่อ : 13 ก.พ. 55 15:02:14