ความคิดเห็นที่ 1 ขอ e-mail หลังไมค์มาก็ได้ครับ พอจะมีข้อมูลแชร์ให้ได้ และกรณีนี้ต้องทำทุกคนนะครับ ไม่เกี่ยวกบการมีหรือไม่มีกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ หรืออายุงานมากน้อยเท่าใด จึงแจ้งมาเพื่อพิจารณา จากคุณ : Paniti P (Paniti P) เขียนเมื่อ : 20 ก.พ. 55 12:20:50

ความคิดเห็นที่ 2 โดยปกติ  เรื่องการ ตั้งบัญชีสำรองเงินเพื่อการชดเชยการเกษียณอายุงานของพนักงาน   เป็นหน้าที่โดยตรง ที่ ผู้จัดการฝ่ายบุคคล ต้องเรียนรู้ หรือศึกษาให้เข้าใจอย่างละเอียด   เพื่อสิทธิประโยชน์ของพนักงานทุกคน  แล้วส่งรายงานตัวเลข แจ้งให้ฝ่ายบัญชีทราบ เพื่อ บันทึกข้อมูลลงในบัญชีสำรองเงินเพื่อการชดเชยการเกษียณอายุงานขึ้น               ถ้าไม่เข้าใจอย่างละเอียดแล้ว   อาจจะทำให้มีอุปสรรคเมื่อบริษัทต้องเลิกกิจการ หรือ มีการโอนพนักงานระหว่างบริษัท ด้วยกัน            แม้บริษัท จะมีเงินกองทุนสำรองเลี้ยงชีพแล้ว ก็ตาม   บัญชีสำรองเงินเพื่อการชดเชยการเกษียณอายุงาน  ก็ต้องทำด้วย และจะต้องเอาจำนวนพนักงานทุกคน เข้ามาคำนวณ ด้วย  เริ่มตั้งแต่พนักงานที่เข้ามาใหม่  จน ถึงพนักงานที่ใกล้จะเกษียณอายุด้วย            บัญชีสำรองเงินเพื่อการชดเชยการเกษียณงานนี้   ถูกกำหนดขึ้นโดยมาตรฐานการบัญชีที่ยอมรับกันทั่วไป  โดยกำหนดให้ตั้งบัญชีนี้ ขึ้นมาทุกปี  ตามจำนวนของพนักงานที่มีอยู่   และคำนวณ ดูว่า  พนักงานทุกคน ตามอายุงานโดยเฉลี่ย  บริษัท ควรจะต้องจ่ายเงินค่าชดเชยเป็นจำนวนเท่าไหร่  ในปีแรก ที่ตั้งบัญชีนี้ขึ้นมา            บริษัท สามารถนำมาบันทึกเป็นค่าใช้จ่ายของบริษัทได้  และอาจจะมีผลกระทบทำให้ บริษัท มีกำไรลดลงได้    ปีต่อมา ก็ต้องคำนวณใหม่อีก ว่ามีพนักงานเข้าและออกอย่างไร และต้องตั้งสำรองเพิ่มหรือไม่    หรือ อาจจะ  ล้างจำนวนเงินสำรองของปีก่อนออก แล้วเอาจำนวนเงินสำรองปัจจุบันเข้าไปบันทึกแทน  ทำอย่างนี้ทุกปี ไปเรื่อย ๆ  หมุนเวียนกันไป         สาเหตุที่ต้องตั้งบัญชีสำรองนี้ ขึ้นมา  ก็เพื่อ ประโยชน์ในเรื่องการบริหารงาน  และเป็นการรักษาผลประโยชน์ให้กับพนักงาน ในกรณีที่บริษัทดำเนินงาน แล้ว เกิด ล้มละลายขึ้นมา  พนักงานมีสิทธิ์ เรียกร้องเงินชดเชยได้   บริษัท ก็จะมีเงินที่สามารถจ่ายชดเชยให้พนักงานได้          การตั้งบัญชีสำรองนี้  บางครั้ง ยังอาจจะเกี่ยวข้องกับเรื่องการโอนย้ายพนักงาน ระหว่างบริษัท ในเครือ ด้วยกันด้วย    บริษัทที่โอนพนักงานไปให้บริษัทในเครือ ก็ต้องทำการโอนเงินสำรองนี้ไปให้บริษัทในเครือด้วย   ส่วนบริษัทในเครือที่รับโอนพนักงานมา  เมื่อได้เงินสำรองบัญชีนี้  จะไม่ถือเป็นรายได้นะครับ     และถ้าพนักงานเกิดการลาออก หรือ เกษียณอายุงานที่บริษัทในเครือ  บริษัทในเครือ จะไม่สามารถบันทึกเงินที่รับมาเป็นค่าใช้จ่ายของบริษัท  นะครับ                        ถ้าหากมีปัญหา เรื่องการตั้งเงินสำรองบัญชีนี้  ควรจะศึกษาเพิ่มเติมจากฝ่ายบัญชีของบริษัท ให้เขาอธิบายรายละเอียดให้เข้าใจ   เพราะทุกสิ้นปี จะต้องคำนวณตัวเลขนะครับ แก้ไขเมื่อ 20 ก.พ. 55 13:14:14 จากคุณ : รุ่งโรจน์ทวีคูณ (รุ่งโรจน์ทวีคูณ) เขียนเมื่อ : 20 ก.พ. 55 13:10:28

ความคิดเห็นที่ 3 ขอบคุณ คุณPaniti P (Paniti P) และ คุณรุ่งโรจน์ทวีคูณ (รุ่งโรจน์ทวีคูณ) ที่กรุณาตอบคำถามค่ะ คุณPaniti P (Paniti P) ดิฉันเพิ่งเคยใช้pantip ค่ะ เลยไม่ค่อยรู้ว่าอะไรอยู่ตรงไหนของฝาก email ไว้ที่นี่นะคะ kanittha19@gmail.com จากคุณ : jinny เขียนเมื่อ : 20 ก.พ. 55 13:55:14 A:180.183.103.195 X: TicketID:304769

ความคิดเห็นที่ 4 คุณรุ่งโรจน์ทวีคูณ (รุ่งโรจน์ทวีคูณ) ค่ะจากคำตอบ “ พนักงานทุกคน ตามอายุงานโดยเฉลี่ย บริษัท ควรจะต้องจ่ายเงินค่าชดเชยเป็นจำนวนเท่าไหร่ ในปีแรก ที่ตั้งบัญชีนี้ขึ้นมา ” หมายความว่า ถ้าเรามีพนักงาน 100 คน ก็หาอายุงานเฉลี่ยของคน 100 คน แล้วก็หาเงินเดือนเฉลี่ยของคน 100 คน แล้วนำเลขตัวนี้มาคิดเป็นจำนวนเงินที่ต้องจ่ายชดเชยและให้บัญชีไปตั้งค่าใช่มั๊ยคะ ขอบคุณมากๆ เลยค่ะ จากคุณ : jinny เขียนเมื่อ : 20 ก.พ. 55 13:58:12 A:180.183.103.195 X: TicketID:304769

ความคิดเห็นที่ 5 ตอบ ตามความคิดเห็นที่ 4             ถ้าเป็นการประมาณการรายจ่าย  ก็ใช้วิธีการกะประมาณเอา  โดยแบ่งกลุ่มของพนักงาน ออกตามอายุการทำงาน  ในจำนวน 100  คน   ว่าแต่ละกลุ่มอายุงานมีพนักงานกะประมาณกี่คน              สมมติ                  พนักงาน  10  คน มีอายุงาน  3  ปี  ควรจะได้รับเงินชดเชยเท่าไรเมื่อต้องถูกเลิกจ้างหรือ ให้ออกจากงาน                  พนักงาน   50 คน มีอายุงาน  5  ปี  ควรจะได้รับเงินชดเชยเท่าไร เมื่อต้องถูกเลิกจ้าง หรือ ให้ออกจากงาน                  คำนวณอย่างนี้ ไปเรื่อย ๆ  จนกว่าจะครบ 100 คน  เป็นเงินเท่าไหร่                  บางครั้งเราอาจจะคำนวณเป็นอัตราส่วนเปอร์เซ็นต์ ก็ได้  เพื่อให้ได้ยอดเงินชดเชยของพนักงานทั้งหมด แล้วส่วตัวเลขให้ฝ่ายบัญชีไปบันทึกข้อมูลครับ จากคุณ : รุ่งโรจน์ทวีคูณ (รุ่งโรจน์ทวีคูณ) เขียนเมื่อ : 20 ก.พ. 55 14:20:37

ความคิดเห็นที่ 6 ขอบคุณมากค่ะ จากคุณ : jinny เขียนเมื่อ : 20 ก.พ. 55 16:36:29 A:180.183.103.195 X: TicketID:304769

ความคิดเห็นที่ 7 เงินสำรองเกษียณของผมใช้ข้อมูลจริงครับ ไม่ใช่ประมาณการ โดยใช้ฐานข้อมูลจากประวัติพนักงานมาคำนวณ ส่วนหลักการคำนวณอยู่ที่ มาตรา118 ของ พรบ.คุ้มครองแรงงาน2541 ปัจจุบันเป็นโลกของดิจิตอลแล้วครับ สามารถทำจริงๆได้ตลอดเวลา เมื่อเราอัพเดทข้อมูลพนักงาน จากคุณ : พี (peh_chai) เขียนเมื่อ : 20 ก.พ. 55 22:37:04

ความคิดเห็นที่ 8 ขอบคุณทุกคนที่ให้ความรู้ค่ะ จากคุณ : jinny เขียนเมื่อ : 21 ก.พ. 55 14:01:16 A:180.183.113.198 X: TicketID:304769

ความคิดเห็นที่ 9 เคยไปอบรมมา  เราต้องใช้นักคณิตศาสตร์ประกันภัยคำนวณให้ค่ะ (เสียตังค์) เราก็ให้ข้อมูลพนักงาน  อายุ เงินเดือน อัตราพนักงานลาออก ฯลฯ พนักงานบัญชีกับสรรพากร ทั่วไปคำนวณกันไม่ได้หรอกค่ะ เราไปอบรม เค้าบอกวิธีการมาเหมือนกัน แต่ก็ทำเองไม่ได้ มึนตืบจริงๆ จากคุณ : เจ๊วรรณา เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 55 01:20:16