ความคิดเห็นที่ 1 ลองไปถามห้องหว้ากอ หรือ ห้องสมุดดูนะคะ อาจจะได้คำตอบค่ะ ^ ^ ส่วนมากที่เห็นก็ไปเป็นอาจารย์ เป็นนักวิทย์ กันน่ะค่ะ ถ้าเป็นเอกชนนี่ก็ไม่ทราบเหมือนกันค่ะ ^ ^ แก้ไขเมื่อ 24 ก.พ. 55 21:16:45 จากคุณ : นกปิ๊ดตาลิวเบิร์ด เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 55 21:15:25

ความคิดเห็นที่ 2 มีคนรู้จัก เป็นโปรแกรมเมอร์ค่ะ แต่เราจบ applied math อาศัยวิชาโท คอมพิวเตอร์ ตอนนี้เป็นโปรแกรมเมอร์มาเก้าปีแล้วค่ะ จากคุณ : Zbee เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 55 21:25:26

ความคิดเห็นที่ 3 เรียนต่อปริญญาโทได้เปรียบมาก ไม่ว่าจะเรียนสาขาอะไร (ข้อสอบเข้ามีคณิตศาสตร์อยู่เสมอ) อย่าลืมฝึกภาษาอังกฤษล่ะ เพื่อนไปทำบริษัทประกัน จากคุณ : vision เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 55 21:44:38

ความคิดเห็นที่ 4 ชอบคุณครับ จากคุณ : จขกท เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 55 22:38:25 A:118.173.189.146 X: TicketID:350198

ความคิดเห็นที่ 5 ญาติไปทำธนาคาร แต่ควรเรียนต่อ้าน financial engineer จะรุ่ง รวยยยยย ถ้าไม่ต่อก็อาจไม่รุ่ง จากคุณ : คนบ่น เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 55 22:39:11

ความคิดเห็นที่ 6 ขอบคุณครับคุณ นกปิ๊ดตาลิวเบิร์ด คุณZbee คุณ vision คุณคนบ่น ผมกำลังสับสนว่าจะเลือกอะไรดีระหว่าง ภาคเคมี กับภาคคณิตศาสตร์ เลยไปหาข้อมูลมาแล้วได้ไปอ่านบทข่าวเกี่ยวกับ financial engineering รู้สึกสนใจ เลยมาถามห้องนี้เพราะเห็นเกี่ยวกับธุรกิจครับ ฮ่าฮ่าฮ่า ครับ จากคุณ : จขกท เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 55 22:44:27 A:118.173.189.146 X: TicketID:350198

ความคิดเห็นที่ 7 ไม่สนใจวิศวะเหรอครับ ได้คำนวนเยอะเหมือนกันนะ โดยเฉพาะพวกวิศวไฟฟ้า จากคุณ : คุณหลอกดาว เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 55 22:53:12

ความคิดเห็นที่ 8 financial engineer ท่านจะเจอ math มหาโหด ที่สุดของที่สุดใน math จะได้เจอเกือบครบครับ จากคุณ : giser เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 55 23:10:36

ความคิดเห็นที่ 9 ^ ^ เขาจบเอก math วิทย์มานะ Math finance มันไม่ได้ยากไปกว่านั้นหรอก จากคุณ : Queen of hearts เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 55 23:24:42

ความคิดเห็นที่ 10 ผมไม่แน่ใจว่าอาชีพนักคณิตศาสตร์ประกันภัย (Actuary) จะเกี่ยวข้องกับคณะที่คุณจะเรียนรึเปล่า ลองศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมดูนะครับ พอจะทราบมาว่าอาชีพนี้เงินดีมากมีค่าวิชาชีพค่อนข้างสูง ผมไม่แน่ใจว่าในประเทศไทยสูงแค่ไหน แต่เคยลองหาตำแหน่งงานว่างในอังกฤษ  อาชีพนักคณิตศาสตร์ประกันภัยได้ค่าจ้างเทียบเท่ากับ(หรือสูงกว่า) อาชีพนักกฎหมายเลยทีเดียว (อาชีพนักกฎหมายในอังกฤษส่วนใหญ่รายได้สูงกว่าอาชีพอื่นๆอยู่พอสมควร) ขอให้โชคดี แก้ไขเมื่อ 24 ก.พ. 55 23:59:42 จากคุณ : Vimsy เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 55 23:44:14

ความคิดเห็นที่ 11 #9 ถ้าไม่ยาก เค้าจะเอาชื่อ engineer มาใส่ในสาย finance ทำไมหละครับ -*- ในฐานะที่เป็น engineer คนนึงที่อยากต่อสายนี้ math ยากจริงครับ มัน cover หมด พวก เขียนโปรแกรม, Numerical, Probability and Stochastic (แล้วแต่ U ที่เปิดสอน แต่ส่วนใหญ่มีพวกนี้เป็นแกน) แต่เงินดีสุดๆนะครับ แลกกับที่ต้องเก่งมากๆด้วย (ในไทยไม่เปิดมั้ง แต่คล้ายๆว่าเปิดอยู่เอกชนที่นึง แต่ไปเรียนที่ usa ดีสุดครับสายนี้) แก้ไขเมื่อ 25 ก.พ. 55 01:55:39 จากคุณ : giser เขียนเมื่อ : 25 ก.พ. 55 00:45:53

ความคิดเห็นที่ 12 นักคณิตศาสตร์ประกันภัย ต่อโทได้ครับ สบายๆ ในไทยคนทำสายนี้ยิ่งน้อยมากๆ จากคุณ : giser เขียนเมื่อ : 25 ก.พ. 55 00:47:49

ความคิดเห็นที่ 13 เพื่อนที่เรียน pure math มาตลอด ตอนนี้ก็เรียนเอกค่ะ เป็นอาจารย์แน่นอน จริง ๆ แล้วต่อได้หลายสายเลยค่ะ ที่ใช้คณิตศาสตร์ต่อ เช่น สถิติ การเงิน คอมพิวเตอร์ ประกัน จากคุณ : riskx_ray เขียนเมื่อ : 25 ก.พ. 55 06:07:57

ความคิดเห็นที่ 14 ทำงานได้หลายสายครับ ที่เมืองนอกพวกเทรดค่าเงิน ส่วนมากจบคณิตศาสตร์ครับ ทางด้านการเงิน ถ้ามีพื้นทางการคำนวณมาดี ๆ แล้วจะรุ่ง ถ้าจะเรียนต่อ ทางด้านเศรษฐศาสตร์ ก็ได้ถ้าเน้นคำนวณเลยก็ต้องเศรษฐมิติ หรือต่อทางด้าน การเงิน แบบ Financial Engineer  หรือทางด้านคณิตศาสตร์ประกันภัย ก็ได้ แต่จริง ๆ แล้ว ถ้าจบสถิติ แล้วต่อทางสายข้างต้น จะตรงมากกว่า คณิตศาสตร์ จากคุณ : khunj เขียนเมื่อ : 25 ก.พ. 55 10:27:46

ความคิดเห็นที่ 15 ถ้าชอบทั้งเคมี และคำนวณ ก็เรียนวิศวะเคมีฯ เคมีเทคนิค เคมีอุตสาหกรรม สิครับ ได้ใช้ความรู้พื้นฐานเคมี เอามาคำนวณ เพื่อออกแบบกระบวนการผลิต หน่วยปฏิบัติการต่างๆ ได้เรียนทั้งเคมี และคณิตศาสตร์อย่างที่ชอบ เพียงแต่จะไม่ลึกและเยอะเท่ากับคนที่เรียน pure chem or pure math จบมาก็มีงานรองรับเยอะนะครับ เพราะค่อนข้างกว้าง เป็นได้ทั้งวิศวกรในโรงงาน ปิโตรเคมี, เป็น QC, เป็น sales, เรียนต่อโท เอก เป็นอาจารย์ ตามมหาวิทยาลัย หรือนักวิจัยตามสถาบันวิจัยต่างๆ ทั้งของภาครัฐและเอกชน จากคุณ : ฟุตลอง เขียนเมื่อ : 25 ก.พ. 55 14:39:03

ความคิดเห็นที่ 16 คห 11 ตกลงมันยากเพราะชื่อเป็น engineer เหรอคะ ตรรกะแปลกๆนะ ที่กล้าพูดเพราะเราจบตรีวิทย์ฯมาไม่ใช่สาย math แต่ลง math ตัวพื้นๆยังว่ามันยากเลย  พวกเอก math เรียน math กันแอดวานซ์กว่านี้อีก  เราต่อโท Finance ลงบางวิชาเลือกตัวที่เป็นของ Finance Engineer เราว่า math มันยากกว่าสายพาณิชย์และบัญชีทั่วไปจริงแต่สายวิทย์และวิศวะถือว่าธรรมดาๆค่ะ จากคุณ : Queen of hearts เขียนเมื่อ : 25 ก.พ. 55 15:24:56

ความคิดเห็นที่ 17 คุณ  giser  ตรรกะวิบัติมากกก พึ่งรู้ว่า engineer นี่คือคำแสดงสถานะว่า "ยาก" หรอ? Finance Engineer  มี math ยาก โคตรๆ หรอ? แล้วเคยเรียน pure math ไหม pure physics เคยป่าว? เอาแค่ pure phys ก็ใช้ advanced math มากกว่า engineering แล้ว เชื่อว่า Finance Engineer ไม่มี Tensor, Topology แน่ เพิ่มเติม ที่คุณกล่าวมาทั้งหมดใน คห.11 นั้น เด็ก math และ physics ได้เรียนหมดแล้วในปริญญาตรี สามารถหาดูหลักสูตรได้ครับ แนะนำของจุฬาฯ ปล. แล้วการที่เขาใส่ engineer ไม่ได้ใส่เพื่อแสดงความยากแต่ใส่ เพื่อบ่งบอกว่าตัวสาขาวิชานั้นไปทางใด เข้าใจไหม? ถ้าอะไรที่เป็นแก่นของมันซึ่งยากเข้าน่าจะใช่ pure หรือ philos  ไม่ดีกว่าหรอ แก้ไขเมื่อ 25 ก.พ. 55 21:16:26 จากคุณ : IceStory เขียนเมื่อ : 25 ก.พ. 55 21:05:44

ความคิดเห็นที่ 18 สำหรับ จขกท. คนจบตรี คณิตศาสตร์มา ทำงานได้หลักๆเลยนะครับ ถ้าเป็นเด็กทุนฯ มักจะเป็น ต่อ เอก เพื่อเป็นอาจารย์ หรือ นักวิจัยครับ เงินเดือนนั้น ห้าปีแรกก็กัดฟัน แต่ผ่านพ้นได้ ก็เตรียมมุ่งหน้าสู่เงินเดือนสูงๆได้เลยครับ แต่ถ้าไม่ล่ะ? เอาแค่ตรี ก็ทำงานเป็นครูได้ครับ แต่หากชอบ "การเงิน" "การพาณิชย์" การต่อโท ด้านนี้ถือว่าได้เปรียบมาก โดยเฉพาะในต่างประเทศนั้น ในวงตลาดทุน ตลาดเงิน ชอบจ้าง นักคณิตศาสตร์และนักฟิสิกส์ เข้าไปทำงาน เนื่องจากกลุ่มพวกนี้ จะมีการมองที่เป็นระบบและเขียนโมเดลได้ดี (pure sci. ที่ยุโรป เขาจะมองพวกนี้ nerd และมักให้เกียรติในการต่อสายประยุกต์ เช่น วิศวะ หรือสายการเงิน เช่นคุณจบวิศวะมา จะต่อฟิสิกส์ คุณต้องมีเงื่อนไขมากกว่า คุณจบฟิสิกส์แล้วมาต่อวิศวะ) ทฤษฏีทางเศรษฐศาสตร์หรือหุ้น หลายตัววางรากฐานด้วยหลักการฟิสิกส์และคณิตศาสตร์ แต่ในเมืองไทยนั้น อาชีพทางด้านนี้ยังไม่มีมาก แต่มีให้ทำแน่นอน เงินเดือนค่อนข้างสูง ถ้าจบ phys math ต่อด้านนี้ได้สบายครับ จากคุณ : IceStory เขียนเมื่อ : 25 ก.พ. 55 21:13:26

ความคิดเห็นที่ 19 ขอบคุณทุกคนนะครับ ที่มาช่วยแนะข้อมูลให้ ตอนนี้ไม่รู้จะไปปรึกษาใครดี เพราะพ่อแม่ไม่ได้ทำงานสายอาชีพนี้ ส่วนคุณครูแนะแนวก็ไม่ได้ให้ข้อมูลอะไรเลยครับ เหอๆ จากคุณ : จขกท เขียนเมื่อ : 25 ก.พ. 55 22:24:56 A:118.173.190.181 X: TicketID:350198

ความคิดเห็นที่ 20 I am from one of the top five financial engineering program. I don't know where the information of above comments based on but what I see is there is few position for FE grads in Thailand, and the salary is not that high (usually lower than traditional finance role like ib ). For the job in the US, the salary is a little higher than MBA students but most of the time they hire PhD students not just a Master, so the salary is not that high because MBA is just Master's degree but if you really love math, just do it. จากคุณ : FE เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 55 00:05:15 A:209.2.50.183 X: TicketID:350331

ความคิดเห็นที่ 21 Tensor ตอนเรียนวิศวะ ป.ตรี นี่ยากจริง ขนาดเรียนแค่ผิวเผินแล้วนะ ส่วน Topology รุ่นพี่ไปโดน ตอนอยู่ป.โท เกือบตายเหมือนกัน วิชาประยุกต์ของวิศวะ ไม่ได้ยากเทียบกับวิชาบริสุทธิ์ของวิทยา วิศวะใช้คณิตศาสตร์เป็นเครื่องมือในการแก้ปัญหาในทางปฏิบัติเท่าที่จำเป็น จึงเรียนเท่าที่จำเป็นต้องใช้ ซึ่งไม่ได้ลึกซึ้งถึงแก่นของที่สายบริสุทธิ์เรียนอยู่แล้ว  เอาแค่ว่าเรียนโดยไม่รู้ว่า แต่ละท่อน แต่ละบทมันเอาไปใช้ทำมาหากินอะไรได้จริงๆ นี่ก็เริ่มต้นยากโคตรๆ แล้ว ถ้าห้อยคำว่า engineer เนี่ยไม่ได้สื่อเลย ว่า มันยาก  แต่จะสื่อว่าประยุกต์ใช้งานได้ต่างหาก จากคุณ : Sgt.Oat เขียนเมื่อ : 27 ก.พ. 55 11:12:44

ความคิดเห็นที่ 22 I don't agree that there is "Engineering" in the end because it is applicable. I think it is because their roles in the banks that makes them an engineer. One of what these people do is to create new financial products and that makes them an engineer. จากคุณ : FE เขียนเมื่อ : 27 ก.พ. 55 14:58:45 A:209.2.51.129 X: TicketID:350331

ความคิดเห็นที่ 23 Well, to me Financial Engineer is probably a universal term used in financial derivatives management community. But, it's still pretentious bollox, lacking skill and expertise to be called an engineer by those who are traditionally engineers. What mechanical device exactly does a 'financial engineer' make ? The monkeys that work in garages, for example, are not 'engineers', they are at best 'mechanics' and in truth 'fitters'. The guys that fix computers, they are not 'engineers', they are technicians at best, as are the guys who mend washing machines and dishwashers. Nothing Financial Engineer can do with money can make him an 'engineer'.  Exactly how does the Second Law of Thermodynamics apply to buying shares, for example ? Answer - it doesn't, and he is not an engineer. At best he is a glorified accountant finding fancy ways to launder money. จากคุณ : Sgt.Oat เขียนเมื่อ : 27 ก.พ. 55 16:29:46

ความคิดเห็นที่ 24 This is pretty much off topic but I'm afraid other readers will get a wrong sense for what Financial Engineer do. Google it. It is not related to accounting. จากคุณ : Dude เขียนเมื่อ : 27 ก.พ. 55 23:02:57 A:209.2.48.160 X: TicketID:350331

ความคิดเห็นที่ 25 ผมจบ คณิตศาตร์ประกันภัย มา ได้ความรู้เยอะมากครับ จากคุณ : กาแฟผสมโกโก้ เขียนเมื่อ : 27 ก.พ. 55 23:03:45

ความคิดเห็นที่ 26 Agree only for getting off much topic and there is no point to discourage people just love to have engineer word on his business card. จากคุณ : Sgt.Oat เขียนเมื่อ : 28 ก.พ. 55 09:40:13

ความคิดเห็นที่ 27 You get me wrong. I don't even care what people call it. You can call it "Trash of Finance". I don't even care. The only reason I said this because the information you gave here is not really accurate and this is public. Some students might try to find an information relating to FE (Me as an example). That's why I just said that the accounting part is not really right. จากคุณ : fg เขียนเมื่อ : 28 ก.พ. 55 12:34:26 A:209.2.50.241 X: TicketID:350331

ความคิดเห็นที่ 28 Then it might not be as right as engineer part the name suggests, I suppose. จากคุณ : Sgt.Oat เขียนเมื่อ : 29 ก.พ. 55 00:03:44

ความคิดเห็นที่ 29 What are you saying ? 5555 จากคุณ : rger เขียนเมื่อ : 29 ก.พ. 55 08:35:51 A:209.2.50.125 X: TicketID:350331

ความคิดเห็นที่ 30 Hypocrisy, if you can get it. จากคุณ : Sgt.Oat เขียนเมื่อ : 29 ก.พ. 55 13:01:18

ความคิดเห็นที่ 31 You mean the comment #22 ? That is my opinion and I clearly stated that this is my opinion (I said "I think"). I never acted as if I know it really well when I don't. Laundering ? Accounting ? What are you talking about ? It's not even close. You don't even know what financial engineering is about. What is wrong with you ? You are so proud with everything with engineering. p.s. I don't think putting engineering in the end makes thing sound awesome even though I am from engineering background. I personally prefer the term Financial Mathematics though. จากคุณ : gf เขียนเมื่อ : 29 ก.พ. 55 14:26:25 A:209.2.50.125 X: TicketID:350331

ความคิดเห็นที่ 32 Well, when I said "to me" was also equal to "I think". And, when you think FE stuff is closer to engineering term than money laundering or accounting, then it is your own interpretation and business. But, I only think about the opposite being a humble engineer, not a deviated one. If you had not been well explained previously, engineer word is not untouchable sacred, and can be used behind Financial or money stuff by those American dudes if they feel like to. But, to express again that a Thai engineer like me and most European view it as bollox. For the sake of your engineering background, creating new financial products or similar makes no one an engineer in my opinion. จากคุณ : Sgt.Oat เขียนเมื่อ : 1 มี.ค. 55 10:11:51

ความคิดเห็นที่ 33 มาทำงานด้าน Supply Chain เลย  เก่ง Math & Stat ทำงานด้าน planning สบาย ผมก้อจบ Math ทำงานด้าน Supply Chain จากคุณ : Lee (Lee4210) เขียนเมื่อ : 1 มี.ค. 55 16:53:12

ความคิดเห็นที่ 34 ฮ่าฮ่าฮ่า เตรียมตัวสอบเลยไม่ได้เข้ามาเลย ตอนนี้ค่อนข้างตัดสินใจได้แล้วว่าจะเลือก pure math แต่ก็คิดว่าจะลงเศรษฐศาสตร์รามคำแหงไว้ด้วยครับ แต่กลัวว่ามันจะหนักเกินไปเหมือนกัน จากคุณ : นะครับ เขียนเมื่อ : 2 มี.ค. 55 14:27:00 A:58.9.21.41 X: TicketID:350198