ความคิดเห็นที่ 1 ตอบไม่ถูก ยังไม่เคยโดน เพราะป้องกันไว้แล้ว แต่ฟังแล้วตกใจค่ะ  แค่เห็นว่า 7 หลักนี่ก็หนาวแล้ว จากคุณ : amonwan เขียนเมื่อ : 27 ก.พ. 55 06:01:14

ความคิดเห็นที่ 2 ทำมาหากิน มีกำไร ก็จ่ายไปเถอะครับ ภาษี เขาขอผ่อนกันได้ครับ ไม่ต้องกังวล ผมเคยโดนมาแล้ว จากคุณ : changkan เขียนเมื่อ : 27 ก.พ. 55 06:14:54

ความคิดเห็นที่ 3 ตอบ ค.ห. 2 ผมยินดีจ่ายครับ แต่ว่า ติดตรงที่เค้าจะคิดแต่รายรับ โดยไม่ลบต้นทุน และรายจ่ายของผม เพราะว่าเป็นภาษีบุคคลนะครับ ( แต่ตามเก็บมาจาก E-Commerce) ดังนั้นถ้าเค้าคิดเช่นนั้น เท่ากับว่า ผมจะโดน 60-70% ของกำไรครับ จากคุณ : Prinus เขียนเมื่อ : 27 ก.พ. 55 06:52:20

ความคิดเห็นที่ 4 "เบื้องต้นจ้างให้บัญชีคิดคร่าวๆ 2 ปีต้องเสียจำนวน 7 หลัก ไม่ใช่หลักต้นๆ !! จะเป็นลมครับ เพราะเค้าแจ้งมาว่า ภาษีแบบบุคคล ไม่นับต้นทุน ไม่นับรายจ่าย " ^ ^ ^ ก่อนอื่น รีบเปลี่ยนสำนักงานบัญชีก่อนเลยครับ   ถ้าเป็น E-Commerce ประเภทซื้อมาขายไป  คุณมีสิทธิหักรายจ่ายแบบเหมาได้ได้ 80% ของรายรับ โดยไม่จำเป็นต้องมีหลักฐานพิสูจน์รายจ่ายหรือต้นทุน แก้ไขเมื่อ 27 ก.พ. 55 06:56:00 จากคุณ : รัษฎา เขียนเมื่อ : 27 ก.พ. 55 06:54:50

ความคิดเห็นที่ 5 ตอบ ค.ห. 4 ขอบคุณมากๆเลยครับ เพราะว่า บัญชีเค้าบอกว่าไม่เคยเจอเคสนี้ ผมขอยกตัวอย่าง สมมติว่า มีเงินรายรับผมเข้ามา 20 ล้านปีนี้ เท่ากับว่า หัก 80% เป็น 4 ล้าน ถูกต้องไหมครับ แล้วคำนวนภาษีจากตรงนี้ อยากทราบว่า เราสามารถคุยได้ไหมว่าเป็นบัญชีส่วนตัว จะมีรายรับอื่นๆที่ไม่เกี่ยวข้อง (ซึ่งก็มีจริงๆ) เพื่อขอผ่อนผันให้น้อยไปกว่านี้นิดนึงได้ครับ นอกจากนี้ เค้ายังคิด 20% ค่าเรียกเก็บย้อนหลัง ตรงจุดนี้เราคุยได้ไหมครับ เค้าพอจะอะลุ่มอะล่วย เพราะเราไม่ได้ตั้งใจเลี่ยงจริงๆ แต่เกิดจากความไม่รอบคอบ เก็บแค่ 7% ตามปกติจะเป็นไปได้ไหมครับ ขอบคุณอีกครั้งครับ ที่ชี้ทางสว่าง ^^ แก้ไขเมื่อ 27 ก.พ. 55 07:17:47 จากคุณ : Prinus เขียนเมื่อ : 27 ก.พ. 55 07:17:27

ความคิดเห็นที่ 6 เหนื่อยนะครับเคสแบบนี้อ้างยาก ลองอุทธรณ์คำสั่งดูครับ จากคุณ : by iPhone (บ้าแพะ) เขียนเมื่อ : 27 ก.พ. 55 08:04:20

ความคิดเห็นที่ 7 ถ้าเป็นงานซื้อมาขายไปก็หักค่าใช้จ่าย 80% นะครับ ไม่ใช่คิดแบบเงินเดือน ให้สรรพากรบอกมาเป็นลายลักษณ์อักษรแล้วเอามาแฉกันเลยดีกว่า พูดเปล่า ๆ ไม่ต้องไปฟัง ลองหลังไมค์มาคุยได้ครับ อยากรู้ว่ารายได้เท่าไหร่ เดี๋ยวคำนวณให้ แก้ไขเมื่อ 27 ก.พ. 55 09:13:51 จากคุณ : TLL01 เขียนเมื่อ : 27 ก.พ. 55 09:12:44

ความคิดเห็นที่ 8 เข้าใจว่ามีทั้งภาษีมูลค่าเพิ่มและภาษีเงืนได้นะครับ ภาษีมูลค่าเพิ่มคือ7% ของราคาขาย ถ้ามีภาษีซื้อ ก็นำมาหักได้ ถ้าไม่มีก็เสียเต็มบวกเบี้ยปรับเงินเพิ่มนะครับ สำหรับภาษีบุคคลธรรมดา หักค่าใช้จ่ายเหมาและค่าลดหย่อนได้ ต้องลองคำนวณดูนะครับ จากคุณ : ขันติธรรม เขียนเมื่อ : 27 ก.พ. 55 09:39:34

ความคิดเห็นที่ 9 เป็นลักษณะซื้อมาขายไปนะครับ ไม่มีเงินแช่ แต่ผมไม่เคยจดทะเบียน (จดแต่หน้าร้าน) ที่เค้าเรียกมั่นใจว่า จาก E-Commerce เพราะว่าเลขบัญชีตามในเวปเลย ไม่ค่อยเข้าใจเรื่องนี้เท่าไหร่ แต่ว่าหัก 80% ได้ใช่ไหมครับ ค่อยโล่งใจขึ้นมานิดนึง แต่ยังสงสัยเรื่องบัญชีบุคคลของผม ที่มียอดอื่นๆ ไม่เกี่ยวข้องกับค้าขาย แบบนี้ควรทำไงดี และไม่ได้เก็บหลักฐานไว้ด้วย จากคุณ : เขียนบน iPhone (Prinus) เขียนเมื่อ : 27 ก.พ. 55 10:04:59

ความคิดเห็นที่ 10 ค.ห. 7 ผมส่งหลังไมค์ไปหาแล้วนะครับ ขอบคุณมากๆเลยครับ จากคุณ : Prinus เขียนเมื่อ : 27 ก.พ. 55 10:06:23

ความคิดเห็นที่ 11 อ่านแล้วหัวใจเต้นรัว...เพราะกลัวเจอเหตุการณ์แบบนี้ เอาไงดีหละ สงสัยต้องรีบไปจดทะเบียนพาณิชย์วันที่ 29 กพ. ซะแล้ว และก้อยื่นภาษีเงินได้ เฮ้ออออออออ ขอถอนหายใจด้วยความกลุ้ม ยาวๆ จากคุณ : Thundergirl เขียนเมื่อ : 27 ก.พ. 55 10:40:22

ความคิดเห็นที่ 12 ยอดขายเกิน 1.8 ล้านต่อปีหรือเปล่าครับ ถ้าเกินก็เจอ VAT 21% ของยอดขายแล้วล่ะครับ จากคุณ : MAX เขียนเมื่อ : 27 ก.พ. 55 11:12:32

ความคิดเห็นที่ 13 การเสียภาษีกรณีซื้อมาขายไปนั้น เสีย 2 แบบคือ 1.) หักคงที่ 80% 2.) หักตามจริง กรณีนี้เมื่อสรรพากรอ้างเงินที่เข้าบัญชีเป็นรายได้ ถ้าอย่างนั้นคุณก็อ้างเงินที่ออกจากบัญชีเป็นค่าใช้จ่าย ผมไม่เห็น Statement ของคุณ ไม่รู้ว่าจะคุ้มกว่าการใช้ 80% หรือไม่ ลองกลับไปดู Satement ตัวเอง แต่ถ้าการใช้ Statement ขาออกไม่คุ้ม ก็ปฏิเสธไปว่ามีเงินเข้าจากเรื่องอื่นด้วย ถ้าเจ้าหน้าที่พูดเฉย ๆ ไม่ต้องไปปฏิเสธ ให้เขาพูดไปฝ่ายเดียว ถ้าเขาจะเอาจริงให้เขาออกเอกสารมาแล้วค่อยตอบเอกสารกลับไป เวลาไปเจรจากับสรรพากร แนะนำว่าอย่าคุยเฉย ๆ ถ้าสรรพากรพูดอะไรไม่ต้องฟัง ให้ทำเป็นเอกสารมา ถ้าสรรพากรไม่ยอมทำเอกสาร นั่นแสดงว่าคุณกำลังเจอพวกขามั่ว คุณชนะแน่ เวลาไปคุยให้เตรียมเครื่องบันทึก VDO เผื่อถ้าเจ้าหน้าที่ไม่ยอมออกเอกสาร จะได้ทำการบันทึกการสนทนา ถ้าเจ้าหน้าที่ไม่อนุญาตให้บันทึก VDO ให้อ้างนโยบาย "ศูนย์ราชการใสสะอาด" ของกรมสรรพากรว่าการปฏิบัติราชการไม่ใช่ความลับ ดังนั้นเจ้าหน้าที่ไม่มีสิทธิ์ปฏิเสธ ถ้าเจ้าหน้าที่ไม่ยอมออกเอกสาร และบ่ายเบี่ยงไม่ให้บันทึก VDO คุณชนะแล้ว เพราะพวกขามั่วจะกลัวเรื่องพวกนี้ จากคุณ : TLL01 เขียนเมื่อ : 27 ก.พ. 55 11:15:27

ความคิดเห็นที่ 14 (เพิ่มเติม) ผมเห็นว่าการเอารายการเงินเข้าในสมุดบัญชีมาอ้างอิงรายได้เป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง เพราะอย่างที่บอก รายการมีทั้งส่วนที่เป็นรายได้จริง ๆ และรายการอื่น ๆ ที่ไม่เกี่ยวข้อง ดังนั้นแนะนำว่า - ให้สรรพากรออกเป็นหนังสือมาเลยว่า การคำนวณรายได้ของคุณ คำนวณมาจากเงินที่เข้าบัญชีทั้งหมด  (ผมคิดว่าสรรพากรไม่กล้าออกหนังสือนะ) ถ้าไม่ยอมออกหนังสือก็ทำแบบที่ผมแนะนำไว้ในความเห็นก่อนหน้า - ถ้าสรรพากรออกหนังสือมา ให้คุณท้าเจ้าหน้าที่สรรพากรคนนี้  ให้นำเอาบัญชีเงินเดือนของตัวเจ้าหน้าที่เองออกมาแสดง ว่าแจ้งเงินได้เท่าไหร่ และมีเงินเข้าบัญชีเท่าไหร่ ส่วนที่เกินมายกเว้นดอกเบี้ยเงินฝาก ให้ถือเป็นรายได้ด้วย ทำย้อนหลัง 5 ปี ผมคิดว่าเงินเข้าบัญชีต้องมากกว่าเงินได้ที่แจ้งอยู่แล้ว อ้างอิงจากหนังสือฉบับนี้ที่เจ้าหน้าที่คนนี้ออกมาเองว่าเงินที่เข้าบัญชีทั้งหมดไม่ว่ามาจากไหนต้องถือเป็นเงินได้และแจ้งภาษีด้วย เจ้าหน้าที่คนนี้ต้องจ่ายค่าปรับย้อนหลังพร้อมกับเสียภาษีเพิ่ม เขาจะโดนภาษีหนักกว่าคุณอีก เพราะเขาจะโดนในอันตราเงินเดือน - สุดท้ายถ้าคุยรู้เรื่องให้แจงทีละรายการ ว่ารายการใดคือรายได้จริง รายการใดไม่ใช่ ถ้าสรรพากรคิดว่ารายการใดเป็นรายได้ ให้สรรพากรหาหลักฐานมาเอง แน่นอนว่าคุณคงไม่ต้องแจ้งรายได้ทั้งหมด จากคุณ : TLL01 เขียนเมื่อ : 27 ก.พ. 55 14:16:59

ความคิดเห็นที่ 15 สำหรับปีต่อๆ ไป แนะนำให้ไปจดทะเบียนพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ซะนะครับ ^__^ ผมเองก็จดในนามบุคคลธรรมดา แต่คิดวิธีกันขามั่วไว้แล้วตั้งแต่แรกเลย โดยให้รายได้จากอีคอมเมิร์ซทั้งหมด เข้ามาที่บัญชีธนาคาร >>>ผ่านเพย์พาลกับเพย์สบายเท่านั้น<<< (บัญชีธุรกิจทั้งคู่) ถ้าใครมั่วมาผมสั่งพิมพ์หน้าบันทึกรายการ (ระบบบัญชี) ของเพย์พาลกับเพย์สบายออกมายันได้เลย ว่า Stamp ไหนมาจากไหน แทบไม่ต้องง้อ Statement ของบัญชีธนาคารด้วยซ้ำไปครับ.. เพราะจดแบบบุคคลธรรมดาอาจตกเป็นเป้านิ่งแบบจขกท.ได้ง่ายๆ เลย ก็เลยออกแบบการดำเนินธุรกิจไว้ก่อนจดทะเบียนฯ ครับ :) ท่านใดสนใจลองเอาไปใช้บ้างก็ได้นะครับ.. ## ขออนุญาตแตกประเด็นไปตั้งกระทู้ใหม่เพื่อแนะนำวิธีที่ผมใช้ดังกล่าวนี้ให้เป็นประโยชน์กับท่านอื่นๆ ด้วยนะครับ แก้ไขเมื่อ 27 ก.พ. 55 15:57:25 จากคุณ : PASSION_WARFARE เขียนเมื่อ : 27 ก.พ. 55 15:34:52

ความคิดเห็นที่ 16 ขอแตกประเด็นนะครับ เพื่อแบ่งปันวิธีการของผมให้เป็นประโยชน์กว้างๆ :) จากคุณ : PASSION_WARFARE เขียนเมื่อ : 27 ก.พ. 55 17:02:11

ความคิดเห็นที่ 17 ขอบคุณมากๆครับ ผมเช็คมาแล้ว เขาบอกว่า ถ้ารายรับเกิน 1.8 ล้าน ไม่สามารถหักต้นทุน 80% ได้ต้องโดนเต็ม แบบนี้เค้าแจ้งมาถูกต้องรึเปล่าครับ หรือถ้ามีก็ต้องยื่นขอคืนภาษีโดยมีบิล มีหลักฐานอย่างเดียว (ทั้งๆที่เป็น E-Commerce) ผมกำลังโดนเล่นงานรึเปล่า ? จากคุณ : Prinus เขียนเมื่อ : 27 ก.พ. 55 18:18:48

ความคิดเห็นที่ 18 ผมเข้าใจว่าทางสรรพากรเค้าแค่ เล่นงานคุณแค่เรื่อง VAT ก็เหลือเฟื้อแล้วครับ(จึงไม่ต้องนำเรื่องหักต้นทุน 80% มาคิด) เพราะแค่ VAT ที่คุณไม่ได้นำส่ง + ค่าปรับ  ก็มากกว่าภาษีบุคคลแล้วครับ ทางที่จะเลี่ยงหรือผ่อนหนักเป็นเบาได้ ลองเช็คย้อนหลังรายได้ของคุณเองว่า มีรายได้เกิน 1.8 ล้านจริงหรือไม่ ถ้ามากเกิน  มากขึ้นมาตั้งแต่ตอนไหน เช่น ถ้าเพิ่งเกิน 1.8 ล้านเมื่อปลายปี ก็อาจจะไม่ต้องโดนย้อนหลังทั้งหมด อนึ่งไม่เห็นด้วยความคิดของคุณ TLL01  ทั้งหมด อย่างเรื่องไปท้าให้ตรวจสอบบัญชีเงินเดือนอย่าไปทำเลย เพราะบ้างคนมีรายได้หลักคือเงินเดือน สำหรับผม บัญชีที่เป็นส่วนตัว อันไหนเงินเข้าผมเอาปากกาเขียนไว้ใน book นั้นแหละ ตามได้เกือบหมดทุกรายการ จากคุณ : MAX เขียนเมื่อ : 27 ก.พ. 55 20:21:51

ความคิดเห็นที่ 19 ค.ห. 18 เค้าเรีบกปี 53 ครับ ซึ่งเป็นยอดเงินเข้า 8 หลักครับ บัญชีบอกว่า โดนเต็มๆ และล่าสุดผมได้ยื่น Statement ให้สรรพากรไปคำนวณแล้ว แบบนี้ผมทำพลาดไหมครับ ? อยากรบกวนทราบความคิดเห็นเรื่องยอดเงินเข้าด้วยครับผม ปล. เครียดไมเกรนขึ้นครับ จากคุณ : Prinus เขียนเมื่อ : 27 ก.พ. 55 20:56:23

ความคิดเห็นที่ 20 #19 น่าจะพลาดไปแล้วครับ -_-' น่าจะทำแบบที่คุณ TLL01 แนะไว้ข้างต้น ๆ ครับ คือบ้างอย่างเราก็ต้องสงวนท่าทีด้วย และก็ต้องให้เรื่องเป็นทางการก่อนครับ จากคุณ : MAX เขียนเมื่อ : 27 ก.พ. 55 22:02:33

ความคิดเห็นที่ 21 อืมมมมม....กลัวจังเลยค่ะ เวปมีเป็นแสนๆ..เค้าจะสุ่มมาเจอเราได้ยังไงคะ??   ถ้าเราไม่เคยจดทะเบียนใดๆ จะเจอเราไหมคะ?? เค้าจะดู statement ธนาคารเลยเหรอคะ??  ละเมิดความเป็นส่วนตัวจัง จากคุณ : บ้านดอกชวนชมสารพัดสี เขียนเมื่อ : 28 ก.พ. 55 00:49:37

ความคิดเห็นที่ 22 #คห.21 พี่ชวนชม ผมคิดว่าคงไม่มีสรรพากรคนไหนเข้ามาตอบ เข้ามาเฉลยแน่ ว่ามีเกณฑ์อะไรในการเรียกสอบเว็บ ผมวิเคราะห์แบบว่า ถ้าผมเป็นเจ้าหน้าที่สรรพากร ผมโดนหน่วยเหนือสั่งให้เรียกเว็บมาสอบ... ผมคงจะเลือกเว็บที่เมื่อตรวจก็จะได้เก็บแน่ๆ แล้วเว็บที่จะต้องโดนแน่ๆล่ะครับ เพื่อให้ได้เนื้อได้น้ำ ดังนั้นเว็บที่จะโดนเรียกสอบก่อนเพื่อน ก็คือเว็บที่มีลักษณะแบบไหนล่ะครับ... ผมคงไม่ขอฟันธง เพราะเป็นวิจารณญาณ และสมมติฐานของผมเองคนเดียว คนที่จะฟันธงได้ก็มีแต่คนที่โดนแล้วกล้าบอกว่าตนน่ะเว็บอะไร หรือมีลักษณะแบบไหนเท่านั้นครับ ขอให้โชคดีทุกท่านครับ จากคุณ : 21st@1st (immercury) เขียนเมื่อ : 28 ก.พ. 55 02:50:10

ความคิดเห็นที่ 23 คุณ pirnus ได้ความยังไงมาบอกให้ฟังบ้างนะครับ ที่ผมสงสัยคือเค้ารู้ได้ไงว่าคุณมีรายได้เยอะขนาดนั้น แต่ที่แน่เค้ามีข้อมูลเว็บของคุณแน่นอนครับ น่าจะประเมินทั้งคนเข้าชม รายได้สินค้าแล้วข้อมูลอื่นๆ ยังไงเอาใจช่วยครับ จากคุณ : shuriken เขียนเมื่อ : 28 ก.พ. 55 11:46:10

ความคิดเห็นที่ 24 ขายนาฬิกา โดนเยอะ จากคุณ : masterdoodee เขียนเมื่อ : 2 มี.ค. 55 21:07:52

ความคิดเห็นที่ 25 งี้เปลี่ยนเป็นเว็บที่ไม่มีระบบสั่งซื้อ เป็นโชว์ภาพสินค้าอย่างเดียว สั่งต้องโทรคุยกันอีกที แบบนี้จะลดค่าใช้จ่ายลงไหมคะเนี่ย จากคุณ : นักออกแบบไส้แห้ง เขียนเมื่อ : 2 มี.ค. 55 22:33:22

ความคิดเห็นที่ 26 สงสัย จขกท. จะตกใจ เค้าถามไรมาเลยตอบจริงหมด  พอตอบไปแล้วจะหาทางแก้ไขก็เลยต้องหาหลักฐานมาประกอบเยอะ  คิดว่าภาษีที่เยอะ น่าจะเป็น VAT มากกว่า บุคคลไม่น่าจะโหดขนาดนี้   ถามอีกนิดนะคะ สรรพากรจะขอเอกสารหลักฐานอะไรที่ยืนยันว่า มีรายได้เข้าเยอะจริง เพราะบัญชีส่วนตัว ไม่รู้หรอกว่าเรามีกี่เล่ม หากโชว์แค่เล่มเดียวเค้าจะรู้ได้ยังไง เพราะถ้าเราไม่มีเอกสารรับเงินจากลูกค้าโชว์ ก็ยิ่งไม่รู้ใหญ่ ยิ่งทางอินเตอร์เน็ตด้วยการจะตรวจรายได้ยิ่งยาก คิดว่าที่เค้ารู้เพราะ จขกท. โชว์หมดทุกอย่าง ถือว่าพลาดอย่างแรง และแรงมากๆๆ เสียค่าความรู้แพงสุดๆ ถ้าไม่ถ่ายเอกสารธนาคารไปก้ไม่หนักมากหรอกค่ะ ยังพอหาทางออกได้ คำแนะนำคือ อย่าพึ่งเชื่อในสิ่งที่สรรพากรประเมินมาทั้งหมด ยืนบนพื้นฐานความจริงก่อน บางที่ จนท.ก็ช่วยเราค่ะ ลองถามบัญชีหลายๆคนก่อนค่ะ ตั้งเป็นนิติบุคคลดีกว่านะคะ ถ้ารายได้เยอะขนาดนี้ จากคุณ : หมูคิม เขียนเมื่อ : 3 มี.ค. 55 17:43:43

ความคิดเห็นที่ 27 ผมว่า....ขึ้นอยู่กับว่า เราจะพิสูจน์ยังไง ว่าเงินรายรับที่เข้ามาใน Statement เป็นรายได้ของเรา เราจะแต่งบัญชียังไงให้สรรพากรเชื่อว่าก้อนนี้ไม่ใช่รายได้ของเรา  นี่แหล่ะประเด็นหลักเลยครับ จากคุณ : next80 เขียนเมื่อ : 4 มี.ค. 55 00:06:44

ความคิดเห็นที่ 28 เห็นด้วยกับความคิดเห็นที่ 18 อย่าไปท้าสรรพากรเขา เขาเป็นต่ออยู่แล้ว เขาย้อนหลังคุณแค่ปี 53 ปีเดียวนะครับ ตามปกติสรรพากรจะย้อนหลัง 5 ปี เกิดเขาหมันไส้ ย้อนหลังปี 50 -52 และ 54 ที่พึ่งผ่านมา จบเกมเลยครับ ภาษี vat ย้อนหลัง 2 เท่า ก็รวม 21 % จากยอดขาย บวกกับ ภาษีกำไรอีก ซึ่งเป็นขั้นบันได เพราะไม่ได้เป็นรูปบริษัท น่าจะถึง 30 % บวก กับดอกเบี้ยปรับอีก 10% กว่าๆ ต่อปีจากยอดทั้งหมด ก็ลองคำนวณดูอ่ะครับ จากคุณ : xisum66 เขียนเมื่อ : 6 มี.ค. 55 20:02:38

ความคิดเห็นที่ 29 ถ้าเขาเรียกให้ชี้แจงรายได้แล้ว ไม่มีประโยชน์อันใดที่จะเลี่ยงแล้วครับ คือ ข้อมูลอยู่ในมือสรรพากรแทบจะครบทุกอย่างแล้ว เขาขอ statement คุณไม่ให้เขา เขาก็มีอำนาจที่จะไปขอจากธนาคารเอง ก็มีค่าเท่ากัน ทางที่ดี ต้องป้องกันไว้อย่าให้มีการเรียกเด็ดขาดเป็นดีที่สุด จากคุณ : xisum66 เขียนเมื่อ : 6 มี.ค. 55 20:07:54