ความคิดเห็นที่ 1 ผมไม่เคยมีความรู้สึกเลยว่า เงินเดือนอาจารย์เยอะ และสงสัยมาถึงปัจจุบันว่า ทำไมได้น้อยจัง ทั้งๆที่เรียนก็ตั้งหลายปี หมดค่าใช้จ่ายระหว่างเรียนไปก็ตั้งเยอะ กลับเงินเดือนน้อยกว่าคนจบป.ตรีหลายๆคน ซะอีก ปล.ผมว่าอาจารย์ควรได้เงินเดือนขั้นต่ำอย่างน้อย 50,000 บาทครับ จากคุณ : ZoRuda เขียนเมื่อ : 27 ก.พ. 55 23:59:00

ความคิดเห็นที่ 2 คิดเหมือนคุณ  ZoRuda ค่ะ หากพวก อจ. ไปทำงานข้างนอกคงได้เยอะกว่านี้มากๆหลายเท่า แต่ละท่านจบสูงๆทั้งนั้น กว่าจะจบมาได้เลือดตาแทบกระเด็น ได้น้อยแบบนี้ ใครจะอยากมาเป็นอาจารย์ คงต้องใจรักจริงๆ จากคุณ : จขกท (kaenice) เขียนเมื่อ : 28 ก.พ. 55 00:08:22

ความคิดเห็นที่ 3 แก้ไขเมื่อ 28 ก.พ. 55 00:53:33 จากคุณ : nice_piggyy เขียนเมื่อ : 28 ก.พ. 55 00:41:06

ความคิดเห็นที่ 4 มันก็มีรายได้จากหลายทางนี่ครับ :) จากคุณ : krit tasana เขียนเมื่อ : 28 ก.พ. 55 00:54:31

ความคิดเห็นที่ 5 อาจาร์ยระดับปริญญาเอกของมหาวิทยาลัยรัฐน่ะนักเรียนทุนล้วนๆๆครับ กลับมาก็ทำงานใช้ทุนของมหาวิทยาลัยรัฐกันทั้งนั้นแล้วก็ได้เงินเดือน  ไม่มีใครเอาเงินตัวเองไปเรียนหรอกครับ ถ้าจะเป็นอาจาร์ยของมหาวิทยาลัยรัฐน่ะ  ไม่คุ้มแถมไม่มีงานรองรับอีก และถ้าถามว่าใครจะอยากมาเป็นอาจารย์ ขอตอบว่ามากกมายก่ายกองครับที่อยากเป็นอาจาร์ย เอาง่ายๆเลยน่ะครับ ตอนนี้คนไปเรียนปริญญาเอกเมืองนอกด้วยทุนส่วนตัวเป็นจำนวนมากและมีต่อเนื่องโดยตลอด การที่จะกลับมาจะหางานทำนี่ยากครับ ไปสมัครทำงานมหาวิทยาลัยเอกชนกันเยอะแยะ จนปัจจุบันเรียกว่า  มหาวิทยาลัยเอกชนไม่ต้องให้ทุนไปเรียนแล้ว รอให้คนที่ลงทุนไปเรียนเองกลับมาสมัครก็ได้  และมหาวิทยาลัยโดยเฉพาะของรัฐเป็นองค์กรณ์ใหญ่  อาจาร์ยจริงๆโดยเฉพาะปริญญาเอก ทำรำไพ่พิเศษได้เยอะครับ เอาชื่อไปเป็นกรรมการมหาวิทยาลัยเอกชนก็ได้  ยิ่งมหาวิทยาลัยเอกชน เปิดปริญาโทมากเท่าไร อาจาร์ยก็เอาชื่อไปไว้มากขึ้นเท่านั่น  นี่ยังไม่รวมโครงงานต่างๆในมหาวิทยาลัยเองสารพัด  มหาวิทยาลัยเงินหมุนเวียนปีๆหนึ่ง จากภาคปกติ ภาคพิเศษ ภาคสมทบ ภาคค่ำ สารพัดครับ  สรุปรายได้เงินเดือนไม่เท่าไร แต่ค่าอย่างอื่นโดยสุจริตมากกกมายยครับ จากคุณ : golfturbo (golfturbo) เขียนเมื่อ : 28 ก.พ. 55 01:05:35

ความคิดเห็นที่ 6 ผมว่าน่าจะได้ประโยชน์จากตำแหน่งและคอนเนคชั่นเยอะนะ ถ้าเป็นคนมีความรู้ มีช่องทางและต้องการหาเงินไว้ใช้ ที่บริษัทดังๆได้เด็กเก่งๆไป มันก็มาจากอาจารย์บ้าง แก้ไขเมื่อ 28 ก.พ. 55 13:46:28 จากคุณ : Rasia เขียนเมื่อ : 28 ก.พ. 55 01:30:55

ความคิดเห็นที่ 7 แต่อาจารย์ต่างจังหวัดนี่ ลำไพ่หายากนะคะ แถมถ้าเป็นพนักงานมหาวิทยาลัย สวัสดิการให้พ่อแม่เบิกค่ารักษาพยาบาลก็ไม่มี เกษียณมา ก็ได้เงินจากประกันสังคมเดือนละสี่พันกว่าบาท ระหว่างทำงาน ก็เบิกได้จากประกันสังคม ซึ่งจำกัด ถึงเงินเดือนข้าราชการจะน้อยกว่า ระหว่างที่ทำงาน แต่โดยรวมแล้ว ยังไงข้าราชการก็ดีกว่า สรุปคืออาจารย์ส่วนใหญ่ของประเทศไทย เงินเดือนน้อยจริง ๆ ค่ะ จากคุณ : production เขียนเมื่อ : 28 ก.พ. 55 05:06:56

ความคิดเห็นที่ 8 ผมมองในมุมกลับกันครับ แยกประเด็นเรื่องของเปน ครูโดยจิตวิญญาณออกไป และเป็นครูเพื่อใช้ทุนครับ  คนที่จบ ป.เอกแบบที่ไม่มีผลงานเด่น หรือจบมาด้วยความที่ถนัดเรื่องเรียนอย่างเดียว ทำงานไม่เป็นเลยและไม่เคยทำงานมาก่อนเลย ฉนั้นเมือจบมาก็ไม่สามารถไปต่อสู้ในองค์กรภาคเอกชนได้ เพราะทำงานไม่เปน สู้พวกที่เรียนมาด้วยทำงานมาด้วยไม่ได้ ก็เลยต้องกลับมาเปน ครูสอนตามมหาลัยครับ เพื่อใครๆจะได้เรียกว่า อาจารย์       ฉนั้น หากให้เงินเดือน ป.เอกเริ่มที่ 50,000 บาท ก็จะทำให้ ป. เอก ที่รับงานตามองค์กรเอกชน มาสมัครเปนครูตามมหาลัยต่างๆมากขึ้น เพราะวันนึงก็สอนไม่กี่วิชา รับงานเอกชน งานส่วนตัวได้อีกมากมาย เพราะมีองค์ความรู้ทุกด้าน ใครๆก็อยากจ้าง        คราวนี้ ถามว่า คนที่เรี่ยนตลอดชีวิตจนถึง ป.เอก (ชึ่งมีเยอะมาก)ที่ไม่เคยทำงานเลย หรือทำก็แค่งานสอนหนังสือ แล้วจบออกมา จะมารับเงินเดือน 50,000 สู้กับ ป.เอกที่เคยเรียนและทำงานมาด้วยกันได้หรือไม่ครับ แล้วในเมือคู่แข่งมากขึ้น คนที่จบมาแบบ นักศึกษาอาชีพไม่เคยทำงานเลย จะไปทำงานอะไรครับ  ก็ต้องมี ป. เอกว่างงาน ฉนั้นด้วยเหตุนี่แหละที่เค้าไม่ให้เงินเดือน ป.เอกสูง เพราะว่าถ้าเงินเดินสูง จะมี ป.เอก ว่างงานมาก ครับ และจะทำให้ภาคการศึกษาไทย ที่ดูแย่แล้ว กลับแย่ไปกว่าเดิมอีกครับ         เพื่อเรียนมาด้วยกัน มันอ่านแต่หนังสือ และเอาเปรียบเพื่อนทุกอย่างเพื่อให้มันได้ เกรดดี ตอนนี้มันจบ ป.เอก โดยที่เงินเดือนมัน เท่าๆ กับภาษี เงินได้ ที่ผมโดยหัก ณ ที่จ่าย ในแน่ละเดือนครับ  บางเดือน ผมเสียภาษี มากกว่าเงินเดิอนที่มันได้รับครับ จากคุณ : บองหลา เขียนเมื่อ : 28 ก.พ. 55 06:48:57

ความคิดเห็นที่ 9 รับงานนอก ได้มากมาย กันทั้งนั้นแหละ เครดิตดีจะได้ บ. ผม ก็ใช้บริการ จ้าง อ. หลายคนจาก ม. หลายที่มาทำ freelance จ่ายทีนึงเป็นแสนต่องาน จ้างอบรม ก็ เป็น หมื่น ต่อ ชั่วโมง และ ว่ากันตรงๆ มุมมองผม อาจารย์ งานไม่ได้แบกรับความเสี่ยง ความเสียหายร้ายแรง เหมือน หลายๆ อาชีพ เช่น หากเป็น หมอ ก็แบกรับกับ ชีวิตคนอื่นต้องรับผิดชอบหากผิดพลาด หากเงินเดือนน้อย ก็แย่หน่อย ไม่มีเงินไปต่อสู้เวลาโดนฟ้อง แต่เป็น อาจารย์ ไม่ต้องแบกรับ ความผิดอะไรเลย เว้นแต่ไปทำเด็กท้อง หรือ เด็กเรียนจบ ก็ไม่ต้องรับผิดชอบว่าเด็กต้องได้งานทำทุกคน นิ่ หากบอกว่า เป็น อาจารย์ สอนแล้วเด็กจบไป ตกงานเพียงคนเดียว ก็ต้องรับผิดชอบ จ่ายเงินเดือนให้เด็ก ผมว่าแบบนี้ ควรเงินเดือนสูงๆ หน่อย ถือว่าต้องรับผิดชอบ ศิษย์ จากคุณ : i hate boolean เขียนเมื่อ : 28 ก.พ. 55 06:51:52 A:96.44.163.76 X: TicketID:340977

ความคิดเห็นที่ 10 ผมว่าถึงแม้ไม่ค่าตอบแทนไม่มาก แต่สวัสดิการถือว่าดีอยู่ และที่สำคัญเป็นที่นับถือของคนทั่วไปสังคม และมีชื่อเสียงในผลงานวิชาการครับ โดนเชิญไปบรรยายก็เยอะนะครับ ในเรทราชการ ชม.ละ 600 บ.ครับ จากคุณ : Subject เขียนเมื่อ : 28 ก.พ. 55 07:51:55

ความคิดเห็นที่ 11 ยกตัวอย่าง อาจารย์มหาวิทยาลัยรัฐ ในกรุงเทพ จบ ป.เอก สายวิศวกรรม ได้ทุกเดือน -เงินเดือน 2 หมื่น -ค่าตำแหน่งทางวิชาการ 1 หมื่น -ทำงานบริหารได้อีก 1 หมื่น ได้ 10 เดือนต่อปี ในช่วงเปิดเทอม -สอนพิเศษในมหาวิทยาลัยได้ 2 หมื่น -สอนพิเศษนอกมหาวิทยาลัยได้ 2 หมื่น ตอนปิดเทอมก็ทำงานวิจัย ตีพิมพ์ไป Conference ต่างประเทศ มหาวิทยาลัยออกค่าใช้จ่ายให้ ถ้าเขียนตำราขาย ก็ได้ส่วนแบ่ง เล่มละ 100 บาท ถ้าไปเป็นกรรมการสอบวิทยานิพนธ์ ก็ได้ 1,000 ต่อครั้ง ปีหนึ่งประมาณ 10 ครั้ง ทำโครงการวิจัย ก็อาจได้สัก 500,000 ต่อโครงการ ใช้เวลา 2 ปี ไม่มีเจ้านายมาคอยจี้ ไม่มีตอกบัตร ขยันมากได้มาก ขยันน้อยได้น้อย แต่ที่สำคัญ ต้องเก่งจริง และต้องบังคับตัวเองให้ Active เพราะไม่มีใครมาคอยจี้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ถ้าสามารถทำได้ขนาดนี้ ไปทำเอกชนจะได้มากกว่าอย่างน้อย 1.5 เท่า แต่ต้องแลกมากับความเป็นอิสระที่น้อยลง ความกดดันและความเสี่ยงที่มากขึ้น จากคุณ : rp เขียนเมื่อ : 28 ก.พ. 55 08:18:55 A:110.171.8.110 X: TicketID:327691

ความคิดเห็นที่ 12 เงินเดือนอาจดูน้อย แต่พิเศษไม่น้อย เพื่อนผมเป็นอาจารย์ เงินเดือน หมื่นกว่าๆ แต่มี ทุนให้ทำงานวิจัย แถมมันมีเวลาออกไปทำ MLM ตกๆเดือนนึง ก็ หกเจ็ดหมื่น อิจฉานะเนี้ย แก้ไขเมื่อ 28 ก.พ. 55 08:51:45 จากคุณ : narmjaja เขียนเมื่อ : 28 ก.พ. 55 08:51:23

ความคิดเห็นที่ 13 ใช่ๆๆ มีค่านู่น นั่น นี่ อีกรวมก็หลายหมื่นครับ เลี้ยงนศ.อย่างสบายเลย555+ จากคุณ : เมียน้อยอาจารย์ เขียนเมื่อ : 28 ก.พ. 55 09:06:26 A:119.46.176.222 X: TicketID:350522

ความคิดเห็นที่ 14 อาจารย์หลาย ๆ ท่าน มีรายได้อื่น ๆ เพิ่มเติมนะคะ เช่น... รับงานอมรม สัมนา ชั่วโมงละหลายหมื่น เปิดคอร์ส สอนเด็กม.ปลาย เพื่อเตรียมเอนท์ เป็นที่ปรึกษาของโครงการ หรือ วิจัยเพิ่มเติม เขียนหนังสือ หรือ ชีท เพิ่มไว้ขาย สวัสดิการก็สร้างรายได้ให้อีกเช่นกัน เคยรู้มาว่า เมื่อเป็นอาจารย์ ใช้สิทธิ์อาจารย์/ราชการ กู้เงินได้ง่ายกว่า ดอกเบี้ยต่ำกว่า.....แล้วอาจารย์ที่ทำเรื่องกู้เหล่านี้ ก็เอามาปล่อยต่อค่ะ กินดอกเบี้ยไปฟรี ๆ เลย จากคุณ : ดอกฟ้าสีลาเต้ เขียนเมื่อ : 28 ก.พ. 55 09:36:34

ความคิดเห็นที่ 15 เงินเดือนน้อยจิง แต่มีรายได้ทางอื่น เช่น งานวิจัย จาก บริษัท โรงงานเอกชน ส่วนเเบ่งค่าลิขสิทธิ์ตำราเรียน สอนพิเศษตาม ม.เอกชน คิดคร่าวๆๆก็ เป็นแสนนะครับ - - จากคุณ : Bird เอง (Bird เอง) เขียนเมื่อ : 28 ก.พ. 55 11:05:32

ความคิดเห็นที่ 16 ของ ม.เกษตรศาสตร์นั่นอัตราเงินเดือนเก่าครับ ของใหม่ ต้องคูณ 5 เปอร์เซ็นต์ เป็น 20648 บาท ไม่รวมค่าตำแหน่งทางวิชาการที่จะได้ หรือค่าอื่นๆ บางคนรับงานนอกรายได้จากงานวิจัยเยอะว่าเงินเดือนด้วยซ้ำครับ รู้ไหมครับว่าที่มาเงินเดือนอาจารย์เค้าคิดจากฐานอะไร เดาว่าหลายๆท่านคงไม่ทราบว่าเงินเดือนของอาจารย์มหาวิิทยาลัยที่เป็นเงินงบประมาณนั้นคำนวณมาจากฐานเงินเดือนข้าราชการที่เกษียณอายุ ที่จะต้องยุบตำแหน่งข้าราชการทิ้ง โดนสำนักงบจะคืนเงินมาให้เป็นหมวดเงินอุดหนุน(ไม่ใช่เงินค่าจ้าง) ในอัตราดังนี้ สายวิชาการ 1.7 เท่า และสายสนับสนุน 1.5 เท่า โดยเงินจำนวนนี้รวมสวัสดิการต่างๆไว้หมดแล้ว และมหาวิทยาลัยจะกำหนดเป็นเงินเดือนเท่าไรเป็นอำนาจของมหาวิทยาลัย  ซึ่งโดยส่วนใหญ่อยู่ระหว่าง 1.3 -1.5  แล้วเอาส่วนที่เหลือมาบริหารจัดการในเรื่องสวัสดิการครับ จากคุณ : ความเป็นจริงที่ว่างเปล่า เขียนเมื่อ : 28 ก.พ. 55 11:09:58

ความคิดเห็นที่ 17 d จากคุณ : okb เขียนเมื่อ : 28 ก.พ. 55 12:03:04

ความคิดเห็นที่ 18 นั่นเป็นแค่ฐานเงินเดือน แต่ความจริงมีการสอนเกินก็ได้เงิน เป็นกรรมการสอบวิทยานิพนธ์ ก็ได้เงิน บางคนรายได้เป็นแสน/เดือน มีค่าตำแหน่งวิชาการอีก รวมแล้วเยอะอยู่ จากคุณ : Pariwat เขียนเมื่อ : 28 ก.พ. 55 14:47:11

ความคิดเห็นที่ 19 เงินเดือน อาจารย์ ราชภัฏสุรินทร์  บุรีรัมย์  ป.ตรี 15,000 บาท จากคุณ : หวานแซบ เขียนเมื่อ : 28 ก.พ. 55 15:31:09

ความคิดเห็นที่ 20 ว่าแต่อาจารย์ เจ้าหน้าที่เป็นพนักงานมหาลัย รายได้น้อยกว่าอาจารย์มาก โดนทั้งขึ้น มีปัญหาจะไปเถียงกะเขาก้ไม่ได้ งานหนักว่า รายได้มีแค่ทางเดี่ยว โอทีไม่มากเลย ทำฟรีส่านใหญ่ ทำเกินไม่มีจ่ายเหมือนอาจารย์นะ ออกไปหาจ๊อบข้างนอกในเวลาราชการถ้ารู้ก็โดนไล่ออก แต่อาจารย์ถ้าไม่มีสอนไปหาจ๊อบได้ไม่ผิด เรากลับที่ทุ่มสองทุ่ม เวลาว่างออกไปไหนไม่ได้ ต้องค่อยบริการทั้งเด้กทั้งอาจารย์ มีบุญมากๆถ้าใครว่าง แถมมหาลัยเล่นเอาระบบแท่งมาใช้ ปรับฐานเงินเดือนลงมาน้อยอีก ปีๆขึ้นมา 500-700เท่านั้น ไอ15000 และหลักเกณฑ์ตามรัฐประกาศ ไม่เอามาใช้ ทะลึ่ง เอาระบบแท่งแบบราชการมาใช้ ด้วยข้ออ้างว่าเรากินเงินรายได้แผ่นดินต้องทำตาม ประกาศของราชการ แต่15000 และหลักเกณฑ์ตามรัฐประกาศ ไม่เอามาใช้ ทั้งๆที่ สวัสดิการ ไม่มีอะไรเลย ใช้บัตรทองยังดีกว่าอีกยามป่วยไข้ ประกันสังคมถ้าไม่ไปโรงบาลที่ระบุไว้ ไม่รู้เขาจะรักษาไหม ไหนว่าจะเอาคนเก่งมาเป็นครู แต่เล่นสร้างระบบให้คนสร้างอนาคตของชาติอยู่ไม่ได้ คนมันก็หนีออกจากมหาลัยกันหมดซิ ปูเอาอยู่ค้า................... จากคุณ : KK เขียนเมื่อ : 28 ก.พ. 55 15:38:33 A:202.28.21.93 X: TicketID:196509

ความคิดเห็นที่ 21 น้อยไป หากเทียบกับอาชีพอื่น และความพยายามจนกว่าจะได้เป็นอาจารยมหาวิทยาลัย แต่ไม่ได้น้อยไปสำหรับการใช้ชีวิตอย่างพอเพียง คนเรียนส่วนใหญ่ก็ขอทุนคะ ทุนให้ทุกอย่าง ค่าเทอม เงินเดือน เงินวิจัย เงินเหล่านี้ มาจากภาษีของทุกคนนะคะ ทำงานเริ่มต้นที่ 20000 อาจน้อยไปในความคิดคนอื่น ๆ แต่สำหรับคนที่มีใจอยากจะเป็นอาจารย์ เขาไม่ได้สนใจเรื่องนี้มากหรอกนะคะ จากคุณ : โลกนี้ไม่มีอะไรเลย เขียนเมื่อ : 28 ก.พ. 55 17:23:51

ความคิดเห็นที่ 22 อาจารย์มหาวิทยาลัยก็ทำงานเหมือนเซลแหละครับ มีเงินเดือนเป็นฐานการันตีไว้ แต่ก็มี commission ให้ตามความสามารถว่าจะทำเ้าได้หรือป่าว เช่น สอนภาคพิเศษ งานเขียน งานวิจัย ตำแหน่งบริหาร ตำแหน่งวิชาการ ส่วนความคิดที่ว่า อ.มหาวิทยาลัย ได้เงินเยอะเพราะไปรับงานนอกอยู่ดี ผมว่าเป็นความคิดที่ผิด เพราะเขาใช้ความสามารถของเขาเองไปทำรายได้เอง จะเอารายได้ก้อนนี้มารวมกับที่มหาวิทยาลัยจ่ายได้ยังไง ก็เหมือนกับ พนักงานบริษัท วันหยุดก็ไปรับเป็นช่างภาพ หรือเปิดร้านอาหารตอนเย็นๆแหละ เงินมันคนละส่วนกัน อีกอย่าง ไม่อยากให้คิดว่า เงินมันไม่เยอะ เพราะอาจารย์กลุ่มหนึ่งก็เป็นเด็กทุน แต่ทุนไม่ได้มีแค่เรื่องเงินเท่านั้น ยังมีทุนทางปัญญาที่พวกอาจารย์ต้องใช้เยอะไประหว่างเรียนด้วย แม้ทุนทรัพย์จะใช้น้อยกว่าก็ตาม จากคุณ : กินอะไรหรือยัง เขียนเมื่อ : 28 ก.พ. 55 21:41:35

ความคิดเห็นที่ 23 น้อยคะ ถ้าได้ค่าตำแหน่งทางวิชาการหมื่นนึงนี่ต้องระดับ รศ. ระดับนั้นเงินเดือนคงเลยไปถึงไหนแล้วสามสี่หมื่น กว่าทำผศ.ได้ห้าพัน ก็ต้องรอ ห้าปีระหว่างนี้ก็กรุบกรอบไปก่อนนะคะยิ่งถ้าไม่ได้ จบ ป.เอก อีกเงินเดือนก็หมืนนิดๆ ถ้าไม่ได้จบเอก อยู่สถาบันเล็กๆ ต่างจังหวัดใครจะมาจ้างละคะ กว่ามีชื่อเสียงตำแหน่งทางวิชาการเยอะเป้นที่ปรึกษาได้ ก็คงต้องพรรษาแก่ๆ กรณีที่เจ้าของกระทุ้เขียนคงหมายถึงเงินเดือนอาจารย์จบใหม่เริ่มต้น ถ้าไม่ได้จบ ป.เอก ยิ่งน้อยนะคะ ช่วงนั้นลำบากหน่อย ต้องรออีกห้าปีทำตำแหน่งทางวิชาการผ่าน ก็เริ่มดีขึ้นแน่ๆ ที่ปรึกษาและการจ้างบรรยายจ๊อบนอก ถ้าไม่เจ๋งจริงเค้าก็ไม่จ้างหรอกเพราะเค้าไปจ้างอาจารย์เก๋า ตำแหน่งทางวิชาการสูง น่าเชื่อถือกว่า เพราะฉะนั้นต้องเริ่มสะสมบารมีหลังจากนั้นห้าปีนะคะ นานเนอะคะ ยกเว้น จบ ป.เอก สองปี ก็ทำได้แล้ว จากคุณ : นางสาวไม่จำกัดนามสกุล เขียนเมื่อ : 28 ก.พ. 55 21:42:31 A:119.42.69.108 X: TicketID:343333

ความคิดเห็นที่ 24 ผมละเกลียดคำว่า....อาจารย์ถึงเงินเดือนหลักจะน้อย  แต่มีรายได้จากที่อื่นเช่น รับ job นอกเป็นที่ปรึกษา บ.เอกชน รับสอนนอกมหาลัยอื่น เช่น เป็น อ.พิเศษ ม ต่างๆๆ   หรือ รับทำวิจัยให้หน่วยงานข้างนอก   มากเลยครับ คนที่จะเป็นอาจารย์ หน้าที่คือ สอนศิษย์ให้มีความรู้ไปประกอบอาชีพ นะครับ ถ้าอยากรับงานนอก ก็ไปทำ บริษัท เปิดเป็น บ.ที่รับปรึกษา ก็ได้ หรือ อยากเป็นนักวิจัย ก็ไปสมัครเป็นนักวิจัย ตามหน่วยงานต่างๆ   ก็เพราะเป็นเช่นนี้หละครับ การศึกษาของประเทศไทยจึงไม่ไปไหน อาจารย์เงินเดือนน้อยมาก สอนมาหกปี อาจจะน้อยกว่าลูกศิษย์ที่จบใหม่พึ่งทำงานได้หกเดือน เสียอีก เพราะเช่นนี้อาจารย์จึงไม่ทำหน้าที่อาจารย์ อาจารย์บรรจุใหม่ โดนอาจารย์แก่ๆๆใช้ให้ทำอะไรก็ยอมเช่นเขียนงานวิจัยให้ เพื่อให้ อ.แก่ๆๆ มีชื่อตำแหน่งทางวิชาการนำหน้าก่อนเกษียน โดยตัวเองยอมเป็นมือเป็นเท้าให้ทุกอย่าง เพื่อจะ อาศัย คอนเนคชั่นใช้เป็นใบเบิกทางในอนาคต อัพเลเวลเพิ่มเงินเดือนและความมั่นคงในอาชีพให้ตนเอง ส่วนสอนก็สอนไปวันๆๆ ส่วนตัวเองวิ่งรอก งานนอก งานวิจัย สมัยผมเรียน ก็มีเยอะครับ ไปหาอาจารย์เพื่อให้อาจารย์อธิบายนอกรอบ อาจารย์แทบไม่เคยอยู่ มัวแต่ไปวิ่งสอน ม.เอกชน ข้างนอกหรือภาคพิเศษ บางอาจารย์ก็ไม่เคยอยู่เอาเวลาสอนโดดไปรับงานวิจัย ทำวิจัย อาจารย์บางคน เดือนนึงให้เวลาลูกศิษย์วันเดียว จะไปพบต้องไปนั่งเข้าคิวแต่เช้ามืดจองคิว ต่อกันไปไหนไม่ได้ แถมเข้าพบให้เวล ปรึกษาแค่สิบนาที ทั้งที่วันและเวลาราชการ อาจารย์กลับเอาเวลาอื่นนอกจากเวลาสอนไปรับงานนอก หรือ ทำวิจัย นี่หรือครับ เรือจ้าง แต่โทษอาจารย์ก็คงไม่ได้ อาจารย์เค้าก็เป็นมนุษย์เป็นสัตว์สังคม มีเหตุให้กินให้ใช้ มีครอบครัวต้องเลี้ยงดู มีเงินให้ครอบครัวได้ใช้สมฐานะ เช่นลูกตัวน้อยอยากเรียนโรงเรียนประถมค่าเทอมเทอมละ 15000 ตัวเองไม่มีให้เพราะเงินเดือนแค่นี้จะไปให้ลูกเรียนฟรี โรงเรียนเทศบาลเช่นนั้นหรือ หรือแฟนท้อง เป็นห่วงไม่อยากให้แฟนโหนรถเมล์ไปทำงานพร้อมตัว หรือ ขี่รถมอไซด์ ก็จำเป็นต้องซื้อรถผ่อนเดือนละหมื่นห้า อาจารย์มหาวิทยาลัยก็คนนี่ครับ  ยิ่งสมัยนี้สวัสดิการไม่มีไรเลยแค่ประกันสังคมอย่างเดียว เกิดเจ็บป่วยเข้าโรงพยาบาลสักสองเดือน พักฟื้นอีกเทอม แล้ว มหาวิทยาลัยจะจ้างต่อหรือ ดังนั้นจึงจำต้องหารายได้เพิ่ม วิ่งรอกวิ่งนี่ไปหมด โดยลืมว่าหน้าที่หลักคือสอนลูกศิษย์ในคลาส นี่ละครับปัญหาระบบการศึกษาไทย จากคุณ : วิศวกรแมวเหมียว เขียนเมื่อ : 29 ก.พ. 55 11:44:42

ความคิดเห็นที่ 25 ตอบคุณวิศวกรแมวเหมียว  การศึกษาของประเทศไทยจึงไม่ไปไหน  แฮะๆ เมืองนอกเขาก็ทำกัน อาจาร์ยรับงานนอกเพียบ เป็น Guest Speaker เขียนตำรา ทำงานวิชาการ สารพัดสารเพ หนักกว่าเราอีก  เรื่องจะมาทำหน้าสอนศิษย์ให้มีความรู้ไปประกอบอาชีพอย่างเดียว อาจาร์ยระดับมหาวิทยาลัยทำไม่ได้ครับ ไม่ใช่เฉพาะเมืองไทย เมืองนอกก็เป็นครับ จากคุณ : golfturbo (golfturbo) เขียนเมื่อ : 29 ก.พ. 55 18:09:41

ความคิดเห็นที่ 26 กว่าจะปีกกล้า มีชื่อเสียง เป็นที่ยอมรับในวงการ ใช้เวลาหลายปีเน้อ กว่าจะถึงจุดนั้น จากคุณ : น้ำเต้าหู้กะปาท่องโก๋ เขียนเมื่อ : 29 ก.พ. 55 23:13:07

ความคิดเห็นที่ 27 คือไอ้ค่านู่น ค่านี่ ที่ว่าเนี่ย มันไม่ใช่ทุกคนที่จะทำได้ มันเป็นแค่ส่วนน้อยมากๆๆ ของระบบ และลองสังเกตดูว่ารายได้ที่ได้มาจากค่านู่น ค่านี่ บางทีมันไม่ได้เยอะเลยจริงๆ เหมือนเบี้ยเลี้ยงธรรมดาก็เยอะนะแบบนี้ คือถ้าเงินเดือนมันสอดคล้องกับภาระงานมันก็โอเคค่อยว่ากัน แต่นี่หลายๆ คนร่ำรวยจากความเพียรพยายามอย่างมากๆๆๆ ที่ไม่เกี่ยวกับวิชาชีพเลยยยย เช่น ไปขายตรง mlm เยอะมากกกกก จากคุณ : Das ist ein Mensch เขียนเมื่อ : 29 ก.พ. 55 23:44:32

ความคิดเห็นที่ 28 รายได้อ.ดร.ในมหาลัยไม่น้อยหรอกครับ มีแค่ฐานเงินเดือนนั่นแหละที่น้อย เป็นที่ปรึกษาโน่นนี่นั่น บรรยายนั่นโน่นนี่ เดือนๆต้องมีแสน+ แหละครับ จากคุณ : Armani Man เขียนเมื่อ : 2 มี.ค. 55 17:39:04

ความคิดเห็นที่ 29 การเป็นอาจารย์หมาวิทยาลัยเงินเดือนขั้นต้นถือว่าน้อย  แต่ชื่อเสียงของมหาวิทยาลัยหากินได้นะครับ เชื่อไหมอาจารย์แต่ละคนสอนเพียง 1 วิชา  นอกนั้นไปเป็นอาจารย์สอนข้างนอกครับ  ยิ่งเสาร์อาทิตย์  ก็ลาทิตย์ละหมื่นกว่าๆแล้ว  แต่ละเดือนเหยียบแสนนะครับ    ถ้าไม่เป็นอาจารย์ของมหาวิทยาลัย จะไปรับจ้างสอน ก็ไม่มีใครเขาจ้าง  ฉะนั้นการที่ได้เป็นอาจารย์ของมหาวิทยาลัยจะเป็นฐานของการหารายได้ครับ  เงินเดือนก็อิงราชการ  เดียวนี้มีเงินตำแหน่ง  เงินค่าวิชา  ค่าวิจัย  รับจ้างวิจัย  ยิ่งเป็นอาจารย์กฎหมายด้วยรับเงินไม่รู้เรื่อง จากคุณ : sukit654 เขียนเมื่อ : 2 มี.ค. 55 20:08:13

ความคิดเห็นที่ 30 ^ ^ นั่นคือส่วนน้อย มากๆๆ ลองถามอ. มหาลัยเอกชนซิ สอนกันคนละกี่วิชา แล้วมีวันหยุดไหม เหอะๆ อดอยากมากขอบอก จากคุณ : Das ist ein Mensch เขียนเมื่อ : 2 มี.ค. 55 21:43:35

ความคิดเห็นที่ 31 กว่าจะได้ปริญญามาแต่ละใบเนอะลงไปตั้งแค่ไหน จากคุณ : anumotanasatu เขียนเมื่อ : 3 มี.ค. 55 15:42:37