 |
จบโท มาอย่าทำเซลล์อสังหาฯ เลยครับ
จาก ปสก. ผมทำในส่วนผู้จัดการโครงการ ฝ่ายขาย 5 ปี (ตอนนี้ออกมา 5 ปีแล้วเช่นกัน) เงินเดือนขึ้นอยู่กับนโยบายของแต่ละบริษัทฯ บางบริษัทฯ ก็โปรโมชั่นให้เลือกเช่นบริษัทฯ ที่ผมเลยทำ โปรแรกให้ 15,000 แต่ทุกๆ 3 เดือนเฉลี่ยยอดขายแล้วต้องขายให้ได้ 10-15 ล้านบาทต่อเดือน ถ้าเกินจากนั้นให้คอมฯ 0.05% จากราคาโอน
โปรที่ 2 เงินเดือน 8,500 ไม่บังคับยอด ให้เราต่อสู้กันเองได้คอมพ์ 0.10% แต่ทุกๆ ไตรมาสต้องได้ 30 ล้าน+
ค่าคอมพ์แต่ละบริษัทฯ ไม่เท่ากันนะครับ แม้แต่บริษัทฯ เดียวกันต่างโครงการกันคอมฯ ก็ต่างกัน ขึ้นอยู่กับดีมานของโครงการนั้นๆ ของผมทำโครงการ th ราคาระดับ 3 ล้าน+ ในเมืองค่าคอมฯ ของน้องๆ จะได้ 0.05% - 0.10% ส่วนโครงบ้านเดี่ยวนอกเมือง ได้ 0.15% คอนโดได้ 0.03% เพราะคอนโดขายได้ด้วยทำเลของตัวมันเองเลยได้คอมฯ น้อย แต่พอขายเอาจริงๆ มูลค่ารวมทั้งโครงการ ค่าคอมฯ เยอะแทบช๊อค ผมเองบางเดือนยังได้น้อยกว่าน้องๆ เลย
ส่วนมากพนักงานขายจะเป็นสัญญาจ้างปีต่อปีสวัสดิการไม่ได้มากเท่าพนักงานประจำ อาศัยกอบโกยเอาจากค่าคอมฯ เอา แต่หน้าที่การงานมักจะไม่โต น้อยคนที่จะโตมาจากพนักงานขาย เพราะส่วนมากบริษัทฯ จะรับผู้จัดการจากคนนอก บริษัทฯ เช่นผม อิอิ ไม่รับเอาเด็กๆ ที่เป็นพนักงานขายขึ้นมาเป็นผู้จัดการ เท่าที่ผมอยู่มา 5 ปี มีขึ้นมา 1 คนเอง
มาว่าในส่วนการขาย 100 พ่อ 1000 แม่นะครับลูกค้าทั้งหลาย แล้วยิ่งเราเป็นหน้าด่านสำคัญในการปะทะแล้วด้วย เต็มๆ เลยครับ ความเครียดมีมาก ถึงมากที่สุด เพราะปัญหาจะมาทุกๆ นาที แล้วเป็นปัญหาที่ไม่สามารถแก้ไขได้เองด้วย และบริษัทฯ หรือบรรดาผู้บริหารก็เมิน ให้จัดการกันเอง เอาเป็นว่าไว้จะมาเล่าประสบการณ์ที่น้องๆ และผมโดนมาให้ฟังนะครับ
ก่อนอื่นคุณต้องทำใจเลยงานบริการ แน่นอน ยิ้มสวยๆ เข้าไว้ พูดได้ไม่กี่คำ คำที่พูดได้ติดปากคือ ค่ะ สวัสดีค่ะ ขอโทษค่ะ รับทราบค่ะ ขอปรึกษาผู้ใหญ่ก่อนนะคะ
อย่าได้พูดคำว่า ไม่ทราบค่ะ ไม่แน่ใจค่ะ ไม่รู้ค่ะ ก็ตามนี้แหละค่ะ
งานหน้าด่านเป็นงานที่โดนจับผิดและเล่นงานจากลูกค้าและบริษัทฯ บ่อยๆ ย้ำว่าจากบริษัทฯ บ่อยๆ เพราะอะไรรู้ไหมครับ เพราะค่าคอมฯ ไง ถ้าคุณทำอะไรพลาดมาถือว่าผิดต่อบริษัทฯ ไม่จ่ายคอมฯ หรือโดนหักคอมฯ 50% ผมเห็นน้องๆ โดนแล้วก็สงสารไม่รู้จะทำยังไงเพราะบริษัทฯ ใหญ่ๆ เขาต้องเซฟค่าใช้จ่ายอยู่แล้ว
ต้องศึกษาอสังหาฯ ที่จะขายนั้นให้ดีถ่องแม้ ไม่ใช่แค่ผิวเผิน ต้องรู้ว่าโครงสร้างหลักๆ มีอะไร ใช้เหล็กขนาดเท่าไหร่ เสาเข็มลงไปกี่เมตร แบบต่อแผ่นเหล็กหรือแบบหล่อเทปูน พื้นทำปูด้วยวัสดุอะไร กระเบื้องหรือแกรนิต ถ้าเป็นกระเบื้องทำไมปูกระเบื้อง แล้วต่างจากแกรนิตยังไง ประตูไม้อะไร ไม้อัดหรือ mdf แล้วมันต่างกันยังไง ปลวกรับประทานไหม ฯลฯ
ไหนจะเรื่องสินเชื่อ ดอกเบี้ยธนาคารนี้เท่าไหร่ โปรฯ ยังไง แล้วธนาคารนี้ล่ะเท่าไหร่โปรฯ ยังไง ส่งได้ 2 เท่าของงวดที่ส่งได้หรือเปล่า ปิดบัญชีได้เลยไหมถ้ามีเงินก้อน จะเสียค่าปรับไหม เสียเท่าไหร่ ค่าโอนที่ดินเท่าไหร่ เสียภาษีเท่าไหร่ คิดค่าโอนยังไง ราคาประเมินอยู่ที่เท่าไหร่ ราคากู้เท่านี้ต้องมีรายได้สุทธิเท่าไหร่ กู้ 2 คนได้ไหม สมรสแต่ไม่จดทะเบียนกู้ได้ไหม ทำไมธนาคารนี้กู้ได้ ทำไมธนาคารนี้ให้กู้ไม่ได้ จะเอาธนาคารนี้ทำให้หน่อยไม่เอาธนาคารอื่น
พอกู้ไม่ผ่าน ต้องคืนเงินให้ลูกค้ามีปัญหากับบริษัทฯ อีกว่าทำไมถึงคืน แจ้งว่าลูกค้ากู้ไม่ผ่าน ก็ว่าเราอีกว่าก่อนจองได้คุยกับลูกค้ายังว่ารายได้เท่าไหร่ถึงกู้ได้ แล้วแจ้งให้ลูกค้าเอาเอกสารมาให้ภายใน 3 วันหลังจากจองหรือเปล่า บางทีลูกค้าก็เฉื่อยโทรฯ ตามก็แล้ว อะไรก็แล้ว กว่าจะเอามาได้ปาเข้าไปเป็นอาทิตย์ พอกู้ไม่ผ่าน บริษัทฯ ก็แจ้งว่าลูกค้าผิดเงื่อนไขไม่เอาเอกสารมาให้ธนาคารตามกำหนด ไม่ยอมคืนเงินให้ เราก็ต้องเป็นหน้าด่านโดนด่า ลูกค้าบางคนก็ด่าถึงบุพการีเลยนะ แต่ก็เถียงไม่ได้ด้วยลองเถียงสักคำเราโดนหักคอมฯ หรือไม่ก็ออก แค่ชักสีหน้าใส่ลูกค้าเราก็เตรียมตัวตายได้เลย
เอาเท่านี้ก่อนนะรายละเอียดปลีกย่อยเยอะมาก เอาเป็นว่าถ้าคุณต้องการเก็บเงินสักก้อนใน 1-2 ปีนี้ และคุณมีภูมิคุ้มกันทางอารมณ์ดี ก็ลองทำดู ก่อนจะทำคุยกับ hr ใช้ชัวร์ อ่านสัญญาให่แน่ แต่ถ้ามีแต่คำพูดไม่มีระบุในสัญญา อย่าได้เซ็นเด็ดขาด แล้วอีกอย่างที่อยากให้ทราบไม่ว่าจะมีปัญหาอะไร บริษัทฯ มองว่าเราผิดเสมอ ลูกค้าถูกต้อง และที่สำคัญบริษัทฯ จัดให้พนักงานขายอยู่ในประเภททรัพย์สิน ไม่ใช่ทุนเหมือนพนักงานประจำ
ที่กล่าวมาเนี่ยเนื้องานล้วนๆ ยังไม่รวมกับปัญหาหน้างานที่จะได้เจออีกหลายสิ่ง
เอาเท่านี้ก่อนนะ เดี๋ยวจะถ้อซะก่อน
จากคุณ |
:
Bacardi Boy
|
เขียนเมื่อ |
:
29 ก.พ. 55 19:30:55
|
|
|
|
 |