ความคิดเห็นที่ 1 อันที่สอง ฝากขายตามร้านยาและอาหารเสริมชื่อดัง เช่น w....สีฟ้าอมเขียว อันนี้เพื่อนในวงการให้ข้อมูลมาว่า คล้ายๆ แคตตาล็อกเจ้าด้านบน แต่ว่า - ต้องเสียค่าวางของในชั้น จำไม่ผิด (ใครมีข้อมูลแม่นกว่า แย้งได้เลยนะคะ) คิดต่อชนิดสินค้า 5 หมื่นบาท และมีค่า โน่นนี่จิปาถะ ที่มาชาร์ตเพิ่ม เพื่อนเราบอกว่า มีคนรู้จัก โดนบิลมาเก็บตลอด เช่นค่าจัดโปรรายเดือน ค่าส่งเสริมการขายโน่นสารพัด เพื่อนเราบอกว่าไม่จบ เหนื่อย - หักเปอร์เซ็นต์โหดพอดู เราจำไม่ได้ว่า กี่เปอร์เซ็นต์ แต่มากกว่า  40 เปอร์เซ็นต์แน่นอน - ของจะมีอยู่ในโกดักสต๊อกในแต่ละสาขา + วางบนชั้น ของจะค่อนข้างช้ำ คนจับเยอะ ซื้อไม่ซื้ออีกเรื่อง แต่มีโอกาสเยินสูง -เรื่องจ่ายเงินค่าสินค้า ก็เป็นเครดิตอีกเช่นกัน แต่เราไมไ่ด้ถามว่ากี่วัน เพราะ แค่มีค่าขึ้นชั้น 5 หมื่นเราก็บายเลย แต่ถ้าใครคิดว่า สิ่งที่บอกมาด้านบนไม่เป็นปัญหา เราบอกได้เลยว่า ก็ทำให้รวยมาหลายรายแล้ว ขายได้ทั่วประเทศ อาจจะต้องจ้าง pc ประจำ คอยเชียร์ ถ้าคุณทำสินค้ามาขายเยอะ ทุนหนาพอ น่าลองนะคะ จากคุณ : Shorty and The Freaky Dogs เขียนเมื่อ : 6 มี.ค. 55 01:38:09

ความคิดเห็นที่ 2 มาเรื่อง การนำของประเภทอาหารเสริม เครื่องสำอางเข้ามาจาก ต่างประเทศ หลายคนคิดว่า ชิวๆ แต่เราบอกว่า ยากมากกก จุกจิกเรื่องมาก เสี่ยงด้วย ทำไมเราต้องเกาะพี่ยศแน่นแม้แกจะ เอาเปรียบเราหลายที + เอาแต่ใจสุดๆ เราไม่พยายามหาทางอื่นเลยหรือ จะบอกว่า เราพยายามหาทางอื่นตลอดค่ะ ก็เราไม่ได้ปลื้มนักกับการทำงานร่วมกับพี่ยศ เราจะเล่าหลายๆ กรณีให้นะคะที่เราเจอ จนคิดว่า พี่ยศดีสุดสำหรับเราตอนนี้แล้ว - การเอาของประเภทนี้เข้ามา มันติดปัญหาตั้งแต่จะออกจากประเทศแม่แล้ว เนื่องจาก ไม่ได้มี ใบอนุญาตถูกต้องในการขายของพวกนี้ มัีนผิดนะคะ เค้ามีสิทธิ์ไม่ให้ผ่านออกจากสนามบินประเทศแม่ได้เลย เราเคยเอาของมาโดยใช้ forwarder + Currier จะเจอปัญหาวุ่นวายต้องหาเอกสารมายืนยันว่า เอาอาหารเสิรมเครื่องสำอางออกได้ บลาๆๆๆ สารพัด เคยทำกับเจ้านึงเค้าเอาของออกจากประเทศแม่ให้เราไม่ได้อ่ะค่ะ ของต้องตีกลับมาบ้านเพื่อนเรา และสุดท้ายต้องเรียกพี่ยศบินไปเอา เสียเงินสองต่อ เราเลยเข็ดเลยค่ะ แค่จะเอาออกจากประเทศแม่ยังต้องเสี่ยงเลย forwarder currier ที่เถรตรงไม่ทำให้เลย ติดต่อไปเยอะมาก ไล่โทรหากระทั่งจากเว็บโดนปฏิเสธไม่ทำสินค้าประเภทนี้ซัก 80 เปอร์เซ็นต์ที่เหลือ รับปากแต่ไม่แน่ใจ และอาจจะเจอแจคพ็อตเหมือนเจ้าที่เคยเจอ ส่งคืนกลางอากาศ - ค่าขนส่งในประเทศแม่ ของเราญี่ปุ่น แพงมาก ขนส่งภายในประเทศทีก็ต้นทุนสูงแล้ว บางที ใช้ฟอเวิร์ดเดอร์เจอตรงนี้ยิบย่อย ไม่เ็ช็คให้ดีขาดทุนเลยค่ะ - สมมติว่า โชคดีของออกจากประเทศแม่ได้ พอเอาของเข้ามาต้องมีชิปปิ้งเมืองไทยเคลียร์ ทีนี้ต้องเสี่ยงว่า ชิปปิ้งเมืองไทยคนนั้นเคลียร์ได้จริงหรือ เปล่า คำว่าเคลียร์ได้จริงคือ ต้องผ่านทุกด่านได้ ไม่ใช้ไปติดด่านใดด่านหนึ่ง ออกมาไม่ได้ คู่แข่งเรามีบทเรียน เอาเข้ามาแรกๆ ไม่เป็นไร พอครั้งที่ 10 โดนยึดเลย เพราะชิปปิ้งเคลียร์ไม่ได้แล้วไม่บอก เราถึงบอกว่า เสี่ยง ยาก ไม่ง่าย และกำไรน้อยมาก จนเราเลิกทำมาทำของถูกต้อง ไม่ตอ้งเจอสภาพแบบนี้ ใครสนใจรายละเอียดหลังไมค์ดีกว่า ไม่อยากพูดมากกว่านี้ ไม่ค่อยดีเท่าไร จากคุณ : Shorty and The Freaky Dogs เขียนเมื่อ : 6 มี.ค. 55 01:50:27

ความคิดเห็นที่ 3 สำหรับการลงนิตยสาร - เราติดต่อไปนิตยสารดังที่ผู้หญิงชอบอ่าน คือ ที... กับ ที่แปลว่า เผ็ดร้อน ค่าลงโฆษณาเต็มหน้า 5 หมื่นอัพ ขึ้นอยู่กับหน้า หน้าที่เด่นๆ เช่นหน้ากลาง หลังปกอีกราคา ราคาที่ว่าลงได้แค่ปักษ์เดียวเท่านั้น เราสอบถามเซลล์ ดีที่เซลล์ก็บอกความจริงว่า ต้องลงเดือนละ 1-2 ปักษ์ถึงจะเริ่มติดตลาด และต้องมีงบลงสัก 3 เดือน ถ้าไปลงเดือนเดียว หรือครั้งเดียวหาย ลูกค้าจะไม่เชื่อถือ จำไม่ได้ สูญเปล่า เราเห็นว่า เงินไม่มีพอจะลงต่อเนื่องเลยพักไว้ก่อน แต่ช่องทางนี้ในอนาคตถ้าเราสามารถตั้งตัวมีเงินพอ อยากจะทำที่สุดค่ะ จากคุณ : Shorty and The Freaky Dogs เขียนเมื่อ : 6 มี.ค. 55 01:54:03

ความคิดเห็นที่ 4 สุดท้ายประสบการ์ณเจ็บจี๊ดล่าสุด อันนี้โดนกับตัว ไม่ใช้สลิงค์ สตั๊นเล่นเองค่ะเจ็บจริง ลงขายทางเคเบิ้ลทีวี ของเราเลือกจานสีดำนะคะ ตอนแรกเคเบิ้ลไม่อยู่ในหัวเราเลยนะ เราคิดว่า คงไม่ใช่ตลาดเรา พอดีคนมันจะเสียเงิน จะซวย เคราะห์ก็มาเยือน พอดีพี่ที่รู้จักมีพี่สาวขายของในเคเบิ้ล เป็นยาอกฟูรูฟิต พี่คนนี้สมมติว่า ชื่อ พี่ปีใหม่ เราก็คุยกับพี่ปีใหม่บ่อยๆ เคยทำงานที่เดียวกันมา เราก็เล่าให้เค้าฟังว่า เรากำลังจะทำอาหารเสริมแบรนด์ตัวเอง เล่าไปงั้นไม่ได้คิดอะไร สักพักเป็นจังหวะด้วย พี่ปีใหม่ติดต่อมาว่า พี่สาวเค้า พี่ปอย ขายอาหารเสริมเหมือนกัน แต่ทางเคเบิ้ล ขายจนจากเกือบล้มละลายเป็นตั้งตัวได้ (เราตาลุกเลย เฮ้ยย เราอยากเป็นบ้าง) สนใจมาคุยรายละเอียดไหม เผื่อพี่ปอยจะแนะนำอะไรดีๆให้ ไม่ให้เป็นการเสียโอกาส ดีๆ เราตกลงค่ะ พอเจอพี่ปอย พี่เค้าดูอ่อนหวาน ใจดี เราว่าพี่เ้ค้าเก่งนะคะ ออกแนวเซลล์ที่ขายเก่งๆ นิ่มๆ คุยๆ กันตอนแรกเรื่องอาหารเสริม คุยไปเรื่อย พี่ปอยก็บอกว่า ไม่เอามาลงเคเบิ้ลล่ะ จะได้ขายหมดเร็วๆ คนดูเยอะนะ จานดำเป็นหลักล้าน ของเรามีแค 1 พัีนกล่องจิ๊บๆ เค้าเคยขาย ซันคาร่า หมื่นกล่องยังขายไม่พอ ปลาๆๆ เราเคลิ้มเลยค่ะ อีกอย่าง เราไม่โทษใครหรอก เค้าก็คงทำหน้าที่เซลล์เพื่อรายได้ของเค้า แต่เรา เราอ่ะ คิดว่า เค้าเป็นคนที่พี่ที่เรารู้จักแนะนำมา เหมือนคนกันเอง เค้าคงจริงใจระดับนึง ปกติเราอ่ะ ไม่ค่อยเคลิ้มกับคำพูดเซลล์หรอกค่ะ  เราชอบตั้งแง่ เพราะคิดว่าจะมาขายของเรา อะไรๆ ก็ีดีหมดแหละ เราไม่โง่นะ เราพลาดหลายอย่าง เราชอบคิดว่า คนอื่นจะเหมือนเรา เพราะ เราอ่ะ ถ้าใครมาขอคำแนะนำอะไร ให้เราช่วยไร เราจะบอกหมดเปลือก ไม่ปิดบัง ตังค์ก็ไม่กล้าเอา ยิ่งถ้าเพื่อนกันนะ 1 บาทก็ไม่เอา ทำไม่ลง เราว่า เราโง่นะ หรือเราไม่เหมาะกับการทำธุรกิจก็ได้ มาต่อๆ เรื่องพี่ปอย พี่ปอย บอกเราว่า เอาสินค้าลงเคเบิ้ล นะ จะขายดี บางทีตัวแทนรายใหญ่ๆมาซื้อเป็น 100ชิ้น รวยเร็วๆ เดือนนึงหลักหมื่นเค้าไม่มองกัน หลักแสนหลักล้านสารพัด แต่เราก็ยังไม่ตัดสินใจนะคะ เพราะ ใช้งบประมาณ 1 แสนบาท เราไม่มีเงินหนาขนาดนั้น เรามีคำถามถามพี่ปอยไปหลายอัน เพื่อให้แน่ใจว่าคุ้ม Q * ต้องลงโฆษณาสักกี่ครั้งกี่วันถึงจะมีลูกค้าเหรอคะ A * ก็ถ้าไม่มีทุนมาก ทุนจำกัดก็ ส-อ ก็ได้ 2 วัน แต่เป็นวันหยุดคนก็ติดต่อมาเรื่อยๆ พี่ออกตอนตี 1-2 ยังมีคนโทรมาเลย -- เราก็เคลิ้ม ถ้าลองแค่ ส-อ เราคงพอไหว เรื่องเคเบิ้ลเราไม่มีประสบการ์ณจริงๆ คนรู้จักก็ไม่มี ขนาดเราให้เพื่อนแฟนที่เป็นเจ้าของเคเบิ้ลท้องถิ่นเช็คให้ว่า ควรลงไหม เค้าก็ตอบไม่ได้เพราะเค้าไม่ได้ขายของในเคเิบิ้ลไม่รู้ฟิตแบ๊กว่าจะดีไม่ดี เราเลยเลือกจะเชื่อพี่ปอยไปก่อน (โง่ ซื่อ ไร้เดียงสา) Q * แล้วพี่ขายได้เท่าไรต่อเดือนล่ะคะ พี่ลงมากี่เดือนแล้ว A * ก็มีคนโทรมาเรื่อยๆ วันละ 10 กล่องเดือนนึงก็หลายร้อย พี่เพิ่งลงจริงจังได้เดือนเดียวเอง ตอนแรกก็ลง ส-อ เหมือนที่แนะนำน้องแหละ ขายได้เรื่อยๆ นะ วันธรรมดาคนก็โทรมา (เฮี้ยนจริงๆ ขนาดไม่ได้ลงโฆษณาคนยังโทรมา เราก็ลืมคิด) บางคนนะ จดเบอร์อีก 3 วันโทรก็มี ( ของเรายังกับป่าช้า ผ่านมากี่วันก็ไม่โทร) และคำถามอื่นๆ อีกมากมายแต่พี่ปอยตอบให้เรามั่นใจว่า พี่เค้าทำอยู่มันไปได้ เราติดต่อพี่เค้าเดือน มค 2012 และเริ่มแพ้ท้องหนัก ตอนนั้นก็มึน เครียด คิดไม่ออกว่าจะปล่อยของไง มันกองเต็มบ้านเลย พี่ปอยก็ขยันโทรมาหาเรา บอกเราว่า จะลงเคเบิ้ลไหม จะได้ปล่อยเร็วๆ เหมือนโดนสะกดจิต เราก็เชื่อเลยตกลงทำ ..... แล้วเคราะห์ก็พุ่งชนเต็มๆ ราคาค่าถ่ายทำเทปออกรายการ 5 เทป 5 หมื่นรวมพิธีการ + 3000 ค่าทำสปอร์ตโฆษณา ค่าเช่าเวลาในเคเบิ้ล 1 ชม 12000 ต้องซื้อที 4 ชม ก็รวม 48000 ได้ เราตกลงทำก็เริ่มเลย เราก็ไปอัดรายการ หาแขกรับเชิญก็เอาจากเพื่อนที่แสนดีไปให้ฟรี เราก็ตอบแทนเพื่อนด้วยการไปเลี้ยงข้าว การถ่ายทำก็ดำเนินไป วันที่ถ่ายทำ เราเห็นลางร้าย เมื่อมีป้าคนนึงเข้ามาในสตูดิโอ แกก็ขายของลงเคเบิ้ลเหมือนกันแต่ทำมานานแล้ว เรามีโอกาสได้ถามข้อมูลแก แกบอกคนละอย่างกับพี่ปอยเลย แกบอกว่า วงการนี้ต้องทุนหนานะน้อง ถ้าน้องไม่มีเงินลงเช่าเวลาออกอากาศเยอะ ให้คนติดตาติดหู มันยากที่จะขายออก ป้าแกบอกว่า แกลงทุนสำหรับสินค้าใหม่แกไป 3 แสนแล้วออกอากาศมันทุกวัน ตอนนี้ยังหมาหอนผีหลอกเลย แต่แกลงช่องอื่น ช่องที่ที่พี่ปอยแนะนำเราแกก็เคยลง แต่แกไม่บอกไรมาก เราเดาว่า แกคงไม่อยากหักหน้าพี่ปอยมากกว่า และเราก็ไม่ใช่ลุกหลานไรแก แกเลยไม่จำเป็นต้องมาบอกเราหมด แกบอกเราในอีกด้าน สินค้าพวกนี้ ดาราคนดังขายเยอะ อย่างเราจะไปสู้ได้ไง ขายทางเคเบิ้ลเจอคนดังๆ ตีกระจุย กว่าคนจะติดสินค้าแม้จะดีจริง เราจะมีทุนหนาพอจะรอไหม ฟังบ้าแกพูดวันนั้นเรา ขนลุก หนาวว สะท้าน ลางร้ายมาแล้ว แต่อ้อยเข้าปากช้างแล้วเราจ่ายเงินค่าถ่ายทำไป 5 หมื่นแล้วและ ตอนนั้นก็ถ่ายไป 3 เทปแล้วเราจะทำอะไรได้ พยายามคิดเข้าข้างตัวเองว่า เอาน่ะ ป้าแกกับเราคนละคนกัน อาจจะไม่เหมือนกันก็ได้ ( ปลอบใจสุดๆ) จากคุณ : Shorty and The Freaky Dogs เขียนเมื่อ : 6 มี.ค. 55 02:27:18

ความคิดเห็นที่ 5 หลังจากถ่ายทำเสร็จ พี่ปอยก็เริ่มโทรมาหาเราบ่อยๆ ถามว่าเมื่อไรเราจะจองเวลาออกอากาศสักที เดี๋ยวเวลาเต็มนะ โทรมาแทบทุกวัน แต่เค้าจะพูดแนวว่า เป็นห่วงอยากให้ขายได้เร็วๆ สำหรับเราทำไงได้ถ่ายทำไปแล้วไม่เอาไปออกก็เสียเปล่าเลยซื้อเวลาไป ขั้นต่ำสุด 4 ชม สินค้าเราออกอากาศ วัน ส-อ เวลา 12.00 -12.30 วันละครึ่งชม ทั้งหมด 4 อาทิตย์ ่เริ่มออกไปแล้ววันที่ 3-4 มีนา 2012 มาหอน ผีลืมหลุม ซอมบี้ ไม่มีสักสายโทรมา.............เราลงเบอร์ไว้ถึง 4 เบอร์ ไม่มีสักคนหลงมา เฮ้ยยย วันละ 10 กล่องเดือนละ 100 กล่อง ++ มันจะเป็นไปได้เหรอ สองวันนี้ไม่มีใครโทรมาเลย เราหมุนโทรศัพท์ไปหาีพี่ปอย ถามว่าทำไมมันเงียบงี้ พี่ปอยบอกว่า แหมเพิ่งออกอากาศใครมันจะโทรมาเรื่องปกติ แต่พี่ไมไ่ด้บอกหนูนิตอนมาเสนอหนู พี่บอกว่า ปกติมันมีคนโทรมาแน่นอนไม่ว่าจะกี่สายก็ตาม เราก็ถามต่อว่า พี่แล้วหนูจะทำไง เงินก้อนสุดท้ายของหนู หนูยืมเค้ามาด้วย (เราบอกพี่ปอยเสมอนะว่า เราไม่มีเงิน เงินนี้เป็นก้อนสุดท้าย เราคิดว่าเค้าคงไม่ทำกับเราหรอกคงสงสารเรา) พี่ปอยบอกว่า ก็อาจจะต้องลงเพิ่มอีกสัก 2 เดือน อ้าววว กำ พี่ไม่เคยบอกหนูว่า หนูต้องลงยาว 2-3 เดือนถึงจะมีลูกค้า ไม่งั้นหนูไม่ทำหรอก พี่ปอยบอกว่า เจ้าที่ขายได้เยอะ ๆ เค้าลงทุกวัน วันละ 3 เวลา อ้าววพี่ทำไมพี่ไม่บอกหนูตั้งแต่แรก หนูจะได้ไม่ทำ เสร็จแล้วพี่ปอยก็ตัดบทวางหูไป เราร้องไห้ เครียดเศร้า มึนชา เงินหมดกระเป๋า ของขายไม่ได้ ไม่มีเงินต่อทุนอึ้งๆๆๆๆๆๆ หลังจากได้เงินไปครบ พี่ปอยแทบไม่ติดต่อเราเลย จากที่โทรมาบ่อยๆ ก็หายไป ล่าสุด เราโทรไปถามว่า เราขอเงินคืนในส่วนที่ไม่ออกอากาศได้ไหม เราไม่อยากทำแล้ว เค้าบอกว่าไม่ได้ จ่ายเงินให้สถานีไปหมดแล้ว เราต้องก้มหน้ารับกรรมต่อไป เรารู้แล้วว่า ออกอากาศที่เหลือก็ไม่มีใครโทรมาหรอก เรารู้แล้วว่า ทำตรงนี้ ตรงทุนหนา ต้องออกอากาศทุกวัน เหมือนสะกดจิต มันทำให้คุณรวยได้ แต่คุณต้องมีเงินมากพอจะทำให้มันรวย ทุนน้อยทุนก้อนสุดท้ายอย่างเราก็เอาเงินมาเททิ้ง แม่น้ำ เราไม่โทษพี่ปอย เรารู้ว่า เราโง่เอง อยากปล่อยของเร็วๆ ก็ตื่นเต้นกับสิ่งที่เ้ค้าพูดไม่คิดให้ดี ตอนนั้นความโลภบังตา เข็ดแล้วค่ะ ต่อไปนี้จะขอทำรังแต่พอตัว ไม่ต้องรวย ไม่ต้องขายได้เยอะ แต่ขอให้จ่ายน้อยๆ ค่อยๆ ไปดีกว่า จากคุณ : Shorty and The Freaky Dogs เขียนเมื่อ : 6 มี.ค. 55 02:38:50

ความคิดเห็นที่ 6 เรารบกวนเพื่อนที่มาอ่านช่วยระดมสมองหน่อยว่าเราจะปล่อยของทางไหนดี ที่ใช่เงินน้อยที่สุดเพราะตอนนี้เรามีติดตัวแค่ 2 พันบาท หวังว่า เราจะได้ไอเดียดีๆ ไปทำต่อ จะได้ปลดหนี้ได้ มีเงินมาประทังชีวิต ผลิตภัณเราอาหารเสริมเพื่อผิวขาว เราอยากตั้งราคาขายอยู่ที่ 900-1100 แต่เราจะขายแถมพร้อมวิตามินซี เรายืนยันว่าได้ผล มีคนซื้อไปทานโดยตรงจากเราแล้วเกือบ 50 กล่องรวมทั้งพี่ปอยซื้อไปชายต่อด้วย (กดราคาเราน่าดูเพราะรู้ว่าเราร้อนเงิน) แต่อีกเกือบพันกล่องที่กองจะไปที่ไหนดี ขอระดมสมองหน่อยนะคะ ทานได้30 วัน ช่วยเราคิดทีนะคะ ขอบคุณมากค่ะ  จากคุณ : Shorty and The Freaky Dogs เขียนเมื่อ : 6 มี.ค. 55 02:43:06

ความคิดเห็นที่ 7 ไม่เกี่ยวกับเรื่องธุรกิจนะ  แต่ตามอ่านตามแจกกีพให้ จขกท  ตลอด  เป็นกำลังใจให้นะค่ะ เราก็เคยผ่านช่วงเวลาอยากลำบากแบบคุณมาก่อน   เราเห็นเวลาที่  จขกท  มานั่งเขียนกระทู้   ตีสองกว่าๆแล้วยังไม่นอนอีก  ในขณะที่คุณกำลังท้องอยู่   คุณควรจะปล่อยวางบ้าง   รักษาสุขภาพตัวเองให้มากกว่านี้หน่อย  เพราะตอนนี้คุณไม่ได้สู้ตายอยู่คนเดียว  ยังมีอีกหนึ่งตัวน้อยนอนอยู่ในท้องด้วย   อาการนอนไม่หลับ  แล้วคิดตลอดเวลา  ไม่ยอมปิดสวิตช์สมอง  เราก็เคยเป็น  และคิดว่านักธุรกิจทุกๆคนก็ผ่านกันมาทั้งนั้น    อาการเครียดมันจะสะสมโดยที่ตัวคุณเองจะไม่รู้ตัว   ระวังไว้หน่อยก็ดีนะค่ะ  คิดถึงลูกก่อน เดีญวลูกเป็นอะไรขึ้นมาอีกแล้ว  งานจะงอกขึ้นมาอีกดอก  อันนี้ไม่ได้แช่งนะค่ะ  เราหวังดีจริงๆ  เอาให้ลูกคลอดก่อนแล้วคุณจะไปสู้ตาย  ไปลุย  อดนอน  ทนถึก  ขนาดไหน  ก็ตามสบาย จากคุณ : tjlove เขียนเมื่อ : 6 มี.ค. 55 07:21:36

ความคิดเห็นที่ 8 เท่าที่ตามอ่าน  อาหารเสริมของ  จขกท  ยังไม่มี  อย  ไม่ใช่เหรอค่ะ  ถ้าคุณเชื่อมั่นว่า  สินค้าคุณดีจริงๆ  ได้ผลดีจริงๆ  คุณควรจะไปขอ  อย  ก่อน  เพื่อเป็นหลักประกันปัญหาอีกร้อยแปดที่จะตามมา  ถ้าอาหารเสริมไม่มี  อย  แล้วเอามาขาย  คุณอยู่ในวงการ  คุณน่าจะรู้ว่า  อย  เหมือนยันต์กันผี  คนที่ไม่มีเค้าโดนอะไรกันไปบ้าง เราคิดว่า  ต้นตอของปัญหา  คือ  การไม่มี  อย  แล้ว  จขกท  ไปพยายามหาช่องขาย   ต่อให้คุณขายไปได้  เดีีญวมันก็จะมีปัญหาตามมาอีก  แต่ถ้า  จขกท  คิดแค่ว่า  จะปล่อยๆของให้มันหมดๆไป  ไม่คิดที่จะจริงจังกัสินค้า  ก็ว่ากันไปอีกเรื่อง จากคุณ : tjlove เขียนเมื่อ : 6 มี.ค. 55 07:43:08

ความคิดเห็นที่ 9 อีกเรื่องที่อยากจะเตือน  จขกท  คือ vat ย้อนหลัง 7%  เราเดาว่ารายได้  จขกท  เกิน 1.8 ล้าน ต่อปีแน่นอน  อันนี้เราไม่พูดอะไรมาก  จขกท  ต้องไปหาทางป้องกันเอาเอง  ถ้าโดนย้อนหลังมาอีก  รับรอง  งานงอกอีกบาน อยากจะบอก  จขกท  ด้วยความหวังดีว่า   คุณยังไม่เจอปัญหาแแบบหนักจริงๆนะ  จะบอกให้  ที่คุณเจอมาปัญหาส่วนใหญ่เกิดจากความผิดพลาดของตัวคุณเอง   สองเรื่องข้างบนที่เราเตือน  ขอให้  จขกท  คิดให้ดีๆนะจ๊ะ  ด้วยความหวังดีจริงๆ จากคุณ : tjlove เขียนเมื่อ : 6 มี.ค. 55 07:55:36

ความคิดเห็นที่ 10  ความคิดเห็นที่ 8     เท่าที่ตามอ่าน  อาหารเสริมของ  จขกท  ยังไม่มี  อย  ไม่ใช่เหรอค่ะ  ถ้าคุณเชื่อมั่นว่า  สินค้าคุณดีจริงๆ  ได้ผลดีจริงๆ  คุณควรจะไปขอ  อย  ก่อน  เพื่อเป็นหลักประกันปัญหาอีกร้อยแปดที่จะตามมา  ถ้าอาหารเสริมไม่มี  อย  แล้วเอามาขาย  คุณอยู่ในวงการ  คุณน่าจะรู้ว่า  อย  เหมือนยันต์กันผี  คนที่ไม่มีเค้าโดนอะไรกันไปบ้าง เราคิดว่า  ต้นตอของปัญหา  คือ  การไม่มี  อย  แล้ว  จขกท  ไปพยายามหาช่องขาย   ต่อให้คุณขายไปได้  เดีีญวมันก็จะมีปัญหาตามมาอีก  แต่ถ้า  จขกท  คิดแค่ว่า  จะปล่อยๆของให้มันหมดๆไป  ไม่คิดที่จะจริงจังกัสินค้า  ก็ว่ากันไปอีกเรื่อง --------เอ่อ อาหารเสิรม ล่าสุดเรามี อย นะคะ เราอาจจะเขียนไม่ละเอียด แต่ขอ อย ผ่านเรียบร้อยแล้วค่ะ  จากคุณ : Shorty and The Freaky Dogs เขียนเมื่อ : 6 มี.ค. 55 08:05:05

ความคิดเห็นที่ 11 ความคิดเห็นที่ 9     อีกเรื่องที่อยากจะเตือน  จขกท  คือ vat ย้อนหลัง 7%  เราเดาว่ารายได้  จขกท  เกิน 1.8 ล้าน ต่อปีแน่นอน  อันนี้เราไม่พูดอะไรมาก  จขกท  ต้องไปหาทางป้องกันเอาเอง  ถ้าโดนย้อนหลังมาอีก  รับรอง  งานงอกอีกบาน อยากจะบอก  จขกท  ด้วยความหวังดีว่า   คุณยังไม่เจอปัญหาแแบบหนักจริงๆนะ  จะบอกให้  ที่คุณเจอมาปัญหาส่วนใหญ่เกิดจากความผิดพลาดของตัวคุณเอง   สองเรื่องข้างบนที่เราเตือน  ขอให้  จขกท  คิดให้ดีๆนะจ๊ะ  ด้วยความหวังดีจริงๆ --- อันนี้เราสงสัยเหมือนกัน เพราะ เราไม่ได้เปิดบริษัทอะไรนะคะ เงินก็ไม่ได้ผ่านบัญชีเรา เราไมไ่ด้ขายของออกบิล เหมือนฝากซื้อของน่ะค่ะ ลูกค้าเราฝากเราซื้อของ โอนเงินมาให้เราไปซื้อของ แล้วเราเอาของไปส่ง เราต้องเสีย VAt ด้วยเหรอคะ เหมือนพวก แอร์ที่หิ้วของมาขายน่ะค่ะ อย่างนี้ พวกนี้ต้องโดนเสีย Vat หมดเลยหรือเปล่า แม่ค้าัรับพรีออเดอร์สินค้าตามเว็บด้วย เราสงสัย เวลาเรานำเข้ามา เราหิ้วมาเหมือนพวกแอร์หิ้วของน่ะค่ะ ไม่ได้ มีเอกสารใดๆ เรางงว่า เราต้องโดน Vat ด้วยเหรอคะ ถ้าเราโดน คนที่ทำอาชีพนี้ต้องโดนหมดเลยไหมคะ พี่ยศก็ต้องโดนด้วยเพราะ เค้าก็บินไปหิ้วของทีหลักล้านเลย ถ้าเราโดน Vat คู่แข่งเราไม่น่ากลัวกว่าเหรอคะ เค้าเอาของเข้ามา แต่เอามาลงเรือ มีใบผ่านพิธิการด้วยเพราะเค้าเอามาในนามบริษัท เอาเข้ามาทีรอบละเป็นล้านๆ เราว่าเยอะมากเลยอ่ะค่ะ แต่เรายังไม่เห็นเค้าโดนอะไรเลยนะคะ ของเค้ามีหลักฐานมัดตัว แต่ของเราเหมือนแอร์เก็บของใส่กระเป๋าเดินทางมาไทย เราต้องโดนด้วยเหรอคะ ถ้าตอบได้ช่วยตอบเราตรงนี้ด้วยเถอะค่ะ เพราะว่า แม่ค้าพรีออเดอร์ก็ทำแบบเรา เอาเงินลูกค้าไปซื้อของ ได้ค่าธรรมเนียมนิดหน่อย หลายคนจะได้เตรียมตัว จ่าย VAT รบกวนตอบด้วยนะคะ เพราะเราก็แอบกลัวแล้วค่ะ แก้ไขเมื่อ 06 มี.ค. 55 08:20:58 จากคุณ : Shorty and The Freaky Dogs เขียนเมื่อ : 6 มี.ค. 55 08:11:37

ความคิดเห็นที่ 12 อย่างที่ตอบตั้งแต่กระทู้ที่แล้วว่า เป็นสินค้าไม่มี อย.ก็เท่ากับขาอยู่ในตระรางไป 1 ข้าง ยิ่งตอนนี้เจอปัญหาการเงินบีบเข้ามาอีก   จ้อยยังคิดเหมือนที่ตอบในกระทู้นั้น ว่าต้องตัดค่าใช้จ่ายทั้งหมด ขายรถ เครื่องใช้สำนักงานที่ไม่จำเป็น ทรัพย์สินที่ไม่จำเป็นต้องขายค่ะ  ทำตัวให้เล็กลงเท่าที่ทำได้ แล้ว จขกท ต้องรีบติดต่อแลปที่ผลิตอาหารเสริมตัวนี้ ถ้าอาหารเสริมตัวนี้ไม่มีสารอันตราย ก็ให้ทางแลปยื่นขอ อย ให้ได้เลย มีค่าใช้จ่ายด้านเอกสาร(ไม่ควรมาก)ก็ต้องจ่ายไปค่ะ   จขกท ถึงจะสามารถทำตลาดได้ที่เต็มที่ ไม่ใช่ธุกิจสีเทาแบบนี้ค่ะ จากคุณ : จ้อย..ยย เขียนเมื่อ : 6 มี.ค. 55 08:34:17

ความคิดเห็นที่ 13 เรียน คุณShorty and The Freaky Dogs ทำการฝากขายสินค้าในเว็ปอื่นๆ สิครับ คุณต้องท่องเว็บแล้วเลือกเว็ปที่ดูแล้วสินค้าคุณน่าจะไปด้วยกันได้เช่น เสื้อผ้า ก็ทำการติดต่อเจ้าของเว็บว่า ขอร่วใเป็น Trading partners ขอลงสินค้าในเว็บเขา ให้เขาเป็นช่องทางการจำหน่าย เพราะลูกค้าที่าเลือกดูเสื้อผ้าเขา ก็จะเจอสินค้าของเราด้วย ให้เขาทำการขายแทน พอลูกค้าออร์เดอร์มาเขาก็สั่งมาทางคุณ คุณก็ส่งสินค้าให้กับลูกค้าโดยตรงเลย แล้วก็ค่อยให้ Trading partners โอนเงินหลังจากหัก % แล้วมาให้คุณ วิน วิน เพราะ Trading partners คุณไม่ต้องสต๊อคสินค้า เขาทำหน้าที่ช่วยกระจายสินค้าของคุณให้กับลูกค้าของเขา เพราะผมก็ทำแบบนี้ จึงอยู่ได้ ลูกค้ามีออร์เดอร์ทุกวัน แต่หลักสำคัญคือคุณต้องให้เครดิต Trading partners คุณก่อน คุณต้องยอมวัดดวงเอาว่าจะโดน Trading partners โกงไหม ลองทำ fb ด้วยอีกทางก็ดีครับ จากคุณ : Bacardi Boy เขียนเมื่อ : 6 มี.ค. 55 08:38:01

ความคิดเห็นที่ 14 สินค้าของเจ้าของกระทู้ มี อย. แล้วครับ จากคุณ : Bacardi Boy เขียนเมื่อ : 6 มี.ค. 55 08:43:33

ความคิดเห็นที่ 15 สินค้าเรามี อย แล้วจ้า พอดีเห็นหลายความเห็น อาจจะอ่านข้ามไป เราเลยอยากขายแบบโปรโมตรเต็มที่ค่ะ นี่เป็นธุรกิจสีขาวแล้วค่า จากคุณ : Shorty and The Freaky Dogs เขียนเมื่อ : 6 มี.ค. 55 08:51:05

ความคิดเห็นที่ 16 ตอบ ความคิดเห็นที่ 11  ของ  จขกท  นะค่ะ คุณไม่ต้องไปสนว่า  คู่แข่งคนอื่นของคุณเค้าจะทำอะไรถูกหรือผิด  เค้าจะจัดการเรื่องธุรกิจอะไรยังไง   เค้าจะหิ้วมาใต้โต๊ะบนโต๊ะ   ยิ่งเค้าทำผิดๆนั้นแหละดีซะอีกนะจะบอกให้  อิอิอิ  วันดีคืนดีเค้าโดนกวาด  โดนย้อนหลัง   คุณก็สบาย  อยู่ดีๆก็มีคนมาช่วยคุณกำจัดคู่แข่งไปซะง่ายๆ   มันอาจจะดูโหดร้ายไปหน่อยนะค่ะ  แต่ธุรกิจเค้ามองกันแบบนี้จริงๆ สิ่งทีคุณควรจะต้องรู้คือ  การที่คุณจะทำธุรกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืน  คุณควรจะทำอะไรให้มันถูกต้อง  ไม่จำเป็นต้องเป๊ะ100%  เอาแค่พอไปวัดไปวาได้   การแอบอยู่ในมุมเทาๆตลอดเวลา  มันไปได้ไม่ไกลหรอก  วิธีการง่ายๆ  คือ คุณไปหาสำนักบัญชีที่พอจะน่าเชื่อถือได้   แล้วคุยกับเค้าตรงๆ  การคุยกับเค้า  คุณก็อย่าไปเปิดไพ่ซะจนหมดหน้าตัก  เล่าอะไรเท่าที่เล่าได้  ความลับอะไรหลายๆอย่างไม่จำเป็นก็ไม่ต้องบอก  ที่อยู่  ชื่อจริง   ชื่อสินค้า  ไรงี้  ไม่ต้องไปบอก   สิ่งที่คุณควรจะบอกกับสำนักบัญชี  คือ  คุณมีรายได้ประมาณเท่านี้   จากการขายสิ้งค้าแนวๆนี้  วิธีการทำการค้าของคูณเป็นแบบนี้   เค้าจะมีวิธีการทำบัญชีให้คูรได้ยังไงบ้าง  จะทำสองบัญชี  อะไรก็ว่ากันไป เรื่องที่คุณอาจจะโดนย้อนหลังเรื่อง vat7% คุณแก้ง่ายๆ  ไม่ต้องไปคิดไรมาก  โดนก็ถือทำบุญมาน้อย  ไปต่อรองกับเจ้าหน้าที่เอาทีหลัง  เพราะมันผ่านมาแล้วทำไรไม่ได้     แต่ต่อจากนี้ไป  เริ่มซะตั้งแต่วันนี้ได้ยิ่งดี  คุณต้องจัดการระบบการเงินของคุณใหม่   คุณควร  ของย้ำนะค่ะ  ว่าควรจะทำ  คือ  ตั้งราคาสินค้าบวกไปเลยอย่างน้อย 7%  แล้วดึงเงิน 7% นี่ออกมาทุกครั้งที่คุณมียอดรับจากการขาย  อันนี้คุณต้องมีวินัยมากๆ  แล้วอย่าหลอกตัวเอง  อย่าหาข้ออ้างให้กับตัวเองเอาเงินจำนวนนี้มาใช้   คุณแยกเงินนี้ออกไปอยู่อีกบัญชีหนึ่งเลย  ไม่ต้องทำบัตรเอทีเอ็ม   ห้ามถอนเด็ดขาด  ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น แล้วคูณก็ขายของคุณไปเรื่อยๆ  อยู่แบบเทาๆไปเรื่อยๆ  ไม่เป้นไร  ถ้าคุณยังไม่พร้อมเข้าระบบ  ก็ไม่เป็นไร   ถ้าคุณทำบุญมาดี   คุณก็ไม่มีปัญหาอะไร  ถ้าเมื่อไหร่บุญหมด   โดนย้อนหลังขึ้นมา   คุณก็ไปต่อรองขอลดหย่อน  คุณก็เอาเงินที่กันไว้นั้นแหละไปจ่ายซะ จากคุณ : tjlove เขียนเมื่อ : 6 มี.ค. 55 09:15:30

ความคิดเห็นที่ 17 ความคิดเห็นที่ 16 ขอบคุณมากค่ะที่ให้ข้อมูล แต่ประเด็นคือ ทำธุรกิจแบบเราไม่มีบิลซื้อบิลขาย เราจะโดน Vat ได้ยังไง สรรพกรมาประเมินเราได้จากตรงไหน พอดีเราสงสัยตรงนี้มาก ว่า สรรพกรจะมารู้ว่าเรามีเงินได้จากไหน เมื่อไม่มีเอกสาร หรือหลักฐานการซื้อขาย ถ้าจะมาดูสมุดบัญชีเรา เค้าจะใช้ตรงนี้ประเมินได้เหรอคะ เพราะ เงินที่เข้าออกบัญชี บางที มันไม่ได้มาจากการค้าขาย เช่น เราทำอยู่คือ เราให้คนช่วยเดินสเตแม้นให้เพื่อขอกู้เงินน่ะค่ะ เงินไม่ใช่ของเราจริงๆ คือ ถ้าสรรพกรมีสิทธิ์ประเมินจากสเตเม้น อย่างนี้ใครที่มีเงินเข้าบัญชีเยอะๆ จากสาเหตุอื่น เช่น มีคนให้โดยสเน่ห์หา มีป๋าเลี้ยงซื้อรถซื้อคอนโดส่งเสียรายเดือน ก็ต้องโดนตรวจสอบว่าทำไมเงินเข้าจากอะไร หรือเปล่าคะ ต่อให้เป็นพนักงานออฟฟิส ถ้าเงินเดือนไม่เท่าไร แต่ดันมีเงินในบัญชีเยอะมากๆ เป็นหลักล้านจะโดนไหมคะเนี่ย เราก็เห็นข่าวดาราโดนประเมินกันโครมๆ แต่เคยลองถามผู้รู้หลายท่าน ดาราโดนเพราะ ใบหัก ณ ที่จ่ายที่ทำให้สรรพกรสืบได้ อย่างระดับดาราเค้าคงมีเงินใน statement มาก เงินเค้าอาจจะมาหลายทาง แฟนให้บ้าง ทำงานบ้าง อย่างนี้ เค้าต้องโดนประเมินเงินทุกอย่างที่เข้าบัญชีเลยเหรอคะ ส่วนสำนักบัญชีเราเคยติดต่อ แบบเราส่วนใหญ่เค้าไม่รับทำให้ เพราะว่า มันไม่มีหลักฐานในการทำ เป็ฯเหมือนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ไม่ใช่บริษัท คล้ายๆ เช่าที่ตามห้างขายของ หรือ ออกบู๊ทตลาดนัดน่ะคะ ช่วยชี้แจงนิดนึงนะคะ เราก็แอบกังวลเหมือนกันค่ะ จากคุณ : Shorty and The Freaky Dogs เขียนเมื่อ : 6 มี.ค. 55 09:28:15

ความคิดเห็นที่ 18 อยากช่วยซื้อแต่เป็นคนผิวขาวอยู่แล้ว อุตสาห์ไปทะเลอาบแดดให้คล้ำขึ้น ถ้ามีสินค้าอื่น ๆ หลังไม ค์ มานะคะ ตอนนี้กำลังบ้าเครื่องสำอางค์เกาหลี ยินดีลองเปลี่ยนยี่ห้อคะ (อย่าทำหน้าพี่พังนะ) จากคุณ : Muay ja เขียนเมื่อ : 6 มี.ค. 55 09:35:00

ความคิดเห็นที่ 19 ตอบเจ้าของกระทู้ ปัญหาในความคิดเห็นที่ 17 กรณีผมเคยโดนครับ สรรพกรขอใบสั่งซื้อ หรือใบสั่งผลิตของเราจากผู้ผลิตครับ แน่นอนเมื่อเขาได้ทราบว่าใครขายให้เราหรือผลิตให้เรา เขาก็จะขอใส่เสร็จรับเงินจากบริษัทฯ นั้นอีกที่ สรรพกรจะทราบว่าเรามีสินค้าขายเท่าไหร่ แล้วเราแจ้งขายไปเท่าไหร่ เขาก็จะคิดเอาจากตรงนั้นครับ แต่ขอบอกว่า โดนเยอะมาก ถ้าอะไรผ่านไปได้ด้วยดีแล้วอยากกลับมาทำใหม่ ลองจดทะเบียนนะครับ จากคุณ : Bacardi Boy เขียนเมื่อ : 6 มี.ค. 55 09:48:19

ความคิดเห็นที่ 20 เจ๊เล่นร้านตามห้างเลยอะ --* ร้านขายยาแบบใหญ่ตามกรุงเทพเแยอะแยะ ศิริเวช คลังยา ไรพวกนี้ ขายแบบฝากขายก่อนได้แล้วค่อยไปนับสต๊อกเก็บบิลพอขายดี แล้ว ค่อยเล่นตัว จากคุณ : Bug_yan (Bug_yan) เขียนเมื่อ : 6 มี.ค. 55 10:03:49

ความคิดเห็นที่ 21 กระทู้นี้ลองไปคุยกับพี่เค้า  ดูว่าพี่เค้าโดนอะไรไปกี่ดอก  คุณก็เตรียมตัวรับสถานการณ์ไว้ซะ   คุณไม่โดนไม่เป้นไร  แต่ป้องกันไว้ไม่เสียหาย http://www.pantip.com/cafe/silom/topic/B11760188/B11760188.html เราจะเน้นเรื่องระบบการจัดการด้านการเงิน  เราคิดว่างานด้านการขายของ จขกท   ตัวคุณเองเก่งแล้ว  แต่ด้านการบริหารเงิน  คุณล้มเหลวอย่างมาก  แล้วถ้าคุณไม่รีบแก้ไข   รับรองได้ว่าปัญหาจะตามมาอีกหลายดอก จขกท  เขียนว่า  >>> เราทำอยู่คือ เราให้คนช่วยเดินสเตแม้นให้เพื่อขอกู้เงินน่ะค่ะ เงินไม่ใช่ของเราจริงๆ  >>>>>   อันนี้ระวังหน่อยนะค่ะ  เดี๊ยวงานงอก เราไม่รู้ว่า  จขกท  ทำบัญชี  ส่วนตัวไว้บ้างหรือเปล่า   จขกท มีต้นทุนแท้จริงของธุรกิจที่คุณจ่ายไปหรือเปล่า   เรากำลังสงสัยว่า  จริงๆแล้วที่  จขกท  ทำธุรกิจมาทั้งหมด  คุณได้กำไรจริงหรือแค่คุณหลอกตัวเองว่าได้กำไรจากการหมุนเงินมาลง คุณจ่ายดอกเบี๊ยบัตรกดเงินสด  คุณทราบหรือเปล่าว่า  ดอกเบี๊ยที่คุณจ่ายไปเท่าไหร่  แล้วมันพอกหางหมูทบต้นทบดอกให้คุณไปเท่าไหร่แล้ว เราว่า  จขกท  มีสัดส่วนหนี้ต่อทุนสูงมาก(เราเดาเอาเองจากที่อ่านกระทู้นะค่ะ)   คุณเปิดใจตัวเอง  ยอมรับความจริงแล้วทำบัญชีก่อนดีกว่าไหม รายได้ของคุณมาจาก 2 ทาง  คือ  หิ้วของนอก  กับ ทำสินค้าตัวเองที่มี  อย  แล้วจะขายในประเทศ  แล้วคุณคิดจะลุย  ธุรกิจสินค้าตัวหลังอย่างจริงจัง  ใช่ไหม  ??  แย้งได้นะค่ะ  ถ้าเราอ่านผิดไป คุณควรจดบริษัทกับสินค้าทีมี  อย   จดทะเบียนการค้า  จดบริษัทแล้วทำบัญชีอย่างถูกต้อง  ไม่ต้องเป๊ะ100%   เอาแค่พอดูได้ไม่น่าเกลียด   จะช่วยคุณอย่างมากในการ  ขยายกิจการต่อไป   คุณสามารถโปรโมทสินค้าคุณได้อย่างเต็มที่  แถมอัดคู่แข่งข้างหลังไปเลยว่า  สินค้าคุณน่าเชื่อถือ  บลาๆๆๆๆๆ  การกระจายสินค้าต่อไป  คุณทำในนามบริษัท  การเปิดบิล  การฝากขายสินค้า  ในนามบุคคลกับในนามบริษัท  ความน่าเชื่อถือไม่เหมือนกัน  ยังไงคุณก็หนี้ไม่พ้นที่จะต้องเข้าระบบ  คุณเดินบัญชีบริษัทให้สวยๆ  การกู้เงินมาลงทุนต่อก็จะง่าย   ดอกก็ถูกกว่าคุณไปกู้นอกระบบ ข้อแนะนำที่คุณควรจะทำ   คือ  ย้อนดูระบบบัญชีตัวเอง  อย่างน้อย 2 ปีก่อนนับจากวันนี้   ว่าคุณมีรายรับ  รายจ่ายเท่าไหร่  กำไรขาดทุน  มาจากได้บ้าง  เพื่อหาต้นทุนที่แท้จริงของคุณ  ดอกเบี๊ยมหาโหดดจากบัตรกดเงิน  คิดๆไปด้วยนะค่ะ  แล้วคุณจะรู้ว่า  แท้จริงแล้ว  ณ  วันนี้คุณอาจจะไม่มีกำไรอย่างที่คุณคิดก็ได้ จากคุณ : tjlove เขียนเมื่อ : 6 มี.ค. 55 10:06:36

ความคิดเห็นที่ 22 อีกเรื่องที่จะเตือนไว้คือ  ถ้าคุณเจอลูกค้าเปรี้ยวๆ  เค้าใช้สินค้าของคุณแล้วหน้าเค้าพัง  เค้าฟ้องร้องคุณเรียกค่าเสียหาย  แล้วคุณซวยจริงๆ  คุณแพ้คดี  สมมตินะค่ะว่าเรียกมา 10 ล้าน   ถ้าคุณทำธุรกิจในนามบริษัท   บริษัทและกรรมการบริษัทรับหนี้ไป   จะมีวิธีการคิดว่ารับหนี้ได้เท่าไหร่  อันนี้คุณต้องไปศึกษาเอาเอง   แต่เอาเป็นว่ามันจะจำกัดความเสี่ยง  คุณจ่ายเค้าจริงแต่จะจ่ายน้อยกว่าไม่จดบริษัท   มันทำให้ตัวคุณเองรอดไม่ติดหนี้หัวโตว่างั้นเถอะ   แต่ถ้าคุณโดนฟ้องในนามบุคคลล่ะก็  ชิหายแน่นอนนะค่ะ   คุณจะรับเต็มๆเลย จากคุณ : tjlove เขียนเมื่อ : 6 มี.ค. 55 10:39:56

ความคิดเห็นที่ 23 ทำไมไม่ลองลงขายในsbntownหรือซื้อขายของห้องแป้งก็ได้ แล้้วบอกว่าคุณใส่อะไรลงไปในผลิตภัณฑ์บ้าง แต่ละอย่างดียังไง ของแถมที่น่าสนใจเราว่าเป็นพวกเม็ดมาส์กหน้าไว้ใช้คู่กับครีมของคุณ จะให้ดีก็ต้องเป็นน้ำๆพวกserum นิยมทำกันในห้องแป้งตามสาวญี่ปุ่น ถ้าส่วนผสมเป็นพวก VitC arbutin พวกทำให้ขาว แล้วยังแถมเม็ดมาส์กอีกเป็นเรา เราก็อยากซื้อนะ แต่ราคาต้องประมาณ500เพราะไม่ใช่เคาร์เตอร์แบรนด์ ตัดสินใจซื้อยากถ้าราคาเฉียดพัน จากคุณ : วันนี้หนูมาคนเดียว เขียนเมื่อ : 6 มี.ค. 55 11:03:19

ความคิดเห็นที่ 24 จขกท.ครับ ผมหลังไมค์ไปแล้ว ถ้าว่างรบกวนตอบนิดนึงนะครับ เรื่องสินค้าของจขกท. ส่งรายละเอียดมาก็ได้นะครับ ผมมีช่องทางระบายอยู่เล็กน้อย จากคุณ : @Lfa7D เขียนเมื่อ : 6 มี.ค. 55 11:59:59

ความคิดเห็นที่ 25 เราติดตามกระทู้คุณมาตั้งแต่มะวาน เราว่าคุณเป็นคนเก่ง แต่ใช้เงินไม่เป็น แต่คราวนี้ประสบการณ์คงสอนอะไรหลายๆ อย่างเนอะ ท้อได้ แต่ห้ามสิ้นหวัง หมดหวังนะค่ะ ส่วนตัวเราไม่มีหัวทางด้านธุรกิจเลยขอไม่ให้คำปรึกษาเพราะกลัวจะพากันลงเหว ^.^ สำหรับเรา เราคิดนะ ถึงคุณจะสิ้นไร้ไม้ตอกยังไง ความรู้ของคุณมันไม่ได้หายไปไหนนิค่ะ สำนวนที่บอกว่า ความรู้เปรียบทรัพย์นับแสน ไม่ไม่มีวันตายค่ะ ของที่หามาได้มีวันถูกขโมย แต่ความรู้ของคุณมันไม่มีใครขโมยมันไปได้นะค่ะ บอกตามตรง รู้ภาษาญี่ปุ่นระดับคุณ เอาไปใช้เป็นเครื่องมือทำมาหากินได้ค่ะ ตอนนี้อาจจะท้อง แต่รับรองว่ามันคงมีช่องทางหาเงิน โดยใช้ความรู้ ความสามารถในการหา หา หา ระดับคุณไม่อดตายแน่นอนค่ะ สู้ๆ เป็นกำลังใจให้จ้า ^^ จากคุณ : jairm เขียนเมื่อ : 6 มี.ค. 55 12:40:00

ความคิดเห็นที่ 26 เล่ากระทู้ให้แฟนเราฟัง แฟนเราบ้านทำธุรกิจมานานแล้ว เค้าบอกสั้นๆว่า "ทำ sample แจกได้รึเปล่า" เราว่าน่าไปลองคิดดูนะคะ สู้ๆ ค่ะ จากคุณ : Blue as Danube เขียนเมื่อ : 6 มี.ค. 55 12:43:00

ความคิดเห็นที่ 27 เท่าที่คิดได้ ตอนนี้ คือ ช่องทางจาก Face book อ่ะครับ คิดได้เท่านี้ ตอนนี้อ่ะครับ จากคุณ : mix_more เขียนเมื่อ : 6 มี.ค. 55 12:59:21

ความคิดเห็นที่ 28 ตาม ข้างบนเลย จดบริษัทก่อน ทำให้น่าเชื่อถือแล้ว  โปรโมท ตาม seo ที่ จขกท เคยทำน่ะแหละ อาจจะต้อง หา  presentor  ด้วยนะ เพราะ ของแบบนี้ ต้องให้คน ดูดีพรีเซนต์ให้ จากคุณ : ก้นกบ เขียนเมื่อ : 6 มี.ค. 55 13:22:26

ความคิดเห็นที่ 29 เราเห็นด้วยกับ คคห.20 ค่ะ เราเคยไปร้านขายยา แล้วคนในร้านก็เชียร์ให้ซื้ออาหารเสริมอันนั้นอันนี่ สุดท้ายเราก็ทนเค้าตื๊อไม่ได้ ก็ซื้อมากินค่ะ ทั้งๆ ที่ไม่ได้เป็นแบรนด์ดังอะไรเลยนะคะ แต่เรายังพอมั่นใจในตัวอาหารเสริมอันนั้น เพราะขายในร้านขายยาค่ะ ยังไง ลองหาลู่ทางดูนะคะ แต่อยากบอกคุณว่า อย่าลืมดูแลเอาใจใส่สุขภาพของตัวเองและลูกในท้องด้วยนะคะ เราว่าตอนนี้คุณเครียดเกินไปค่ะ ปล่อยวางบ้าง เลิกคิดถึงเรื่องนี้บ้าง เอาแค่ก่อนนอนก็ได้ค่ะ ก่อนจะหลับไป อยากให้ทำใจให้สบาย ไม่ต้องคิดอะไร เพราะเวลาคุณหลับ คุณก็ไม่สามารถที่จะคิดอะไรได้อยู่แล้ว ไว้ตื่นขึ้นมาแล้วค่อยคิดต่อ  อยากให้คุณได้พักผ่อนเยอะๆ เพื่อวันพรุ่งนี้ของตัวคุณเองและลูกในท้องค่ะ เป็นกำลังใจให้นะคะ ขอให้พบแสงสว่างในเร็ววันค่ะ [edit] มาเพิ่มเติมค่ะ เราเพิ่งนึกถึงเวบมีดหมอขึ้นมาได้ (อันนี้ต้องให้เครดิตจ่าพิชิต) คุณลองเข้าไปดูในเวบนั้นค่ะ คนที่เล่นเวบนั้น ส่วนมากอยากสวย รายละเอียดอื่นๆ คุณไปอ่านเอาเองละกันนะคะ เราไม่สามารถอธิบายได้ทั้งหมดค่ะ .. search คำว่า เวบมีดหมอ ก็เจอแล้วค่ะ .. แก้ไขเมื่อ 06 มี.ค. 55 13:58:41 จากคุณ : Select Star เขียนเมื่อ : 6 มี.ค. 55 13:55:39

ความคิดเห็นที่ 30 หลักการตลาดง่ายๆ 4 P Product อาหารเสริมของ จขกท ได้จุดขาย 1 อย่างแล้วคือ ผ่าน อย. ต่อไปหาจุดเด่นของส่วนประกอบในอาหารเสริมตัวนี้มาทำการตลาดค่ะ อาหารเสริมตัวอื่นในท้องตลาดมาส่วนประกอบแบบเรามั้ย เรามีปริมาณมากกว่า หาข้อมูลวิชาการที่ถูกต้องเชื่อถือได้มาอ้างอิง การที่คนขายบอกว่าดีกินแล้วได้ผล น้ำหนักไม่เท่าข้อมูลทางวิชาการที่ได้รับการยอมรับค่ะ แล้วมาดูว่าแพกเกต ฉลาก สวยงามมั้ย ต้องดูดีหนีอาหารเสริมคู่แข่งคนอื่น ต้องของอาหารเสริมเป็นฉลากที่ดูมีมาตรฐาน ดูน่าเชื่อถือค่ะ price กลยุทธการตั้งราคาก็มีส่วนสำคัญ สัมพันธ์กับการผลิตและการตลาด คุณอาจทำบรรจุภัณท์เล็กลง  เพื่อให้ราคาลดลง เพื่อจูงใจให้ลูกค้าที่อยากทดลองลองซื้อไปรับประทานก่อน หรือตั้งราคาแบบซื้อ 3 แถม 1 , หรือชิ้นที่ 2 ได้ในราคา 50% มีกลยุทธด้านราคาเยอะแยะที่คุณเลือกใช้เพื่อจูงใจลูกค้าให้อยากลองซื้อสินค้าเราได้ กลยุทธด้านราคากับคนที่รับของเราไปขายต่อมาเยอะแยะค่ะ เช่นให้เปอร์เซ็นต์ตามขั้นบันได  ให้เป็นของแถม  ให้เบิ้ลยอด อยู่ที่ว่าคุณจะวางกลยุทธแบบไหน  เพื่อจูงใจให้คนที่เอาไปขายของของเราอยากเชียร์ของให้ Place ในที่นี่คือช่องทางการจัดจำหน่าย  คุณควรบุกทั้งตลาดจริงและตลาดออนไลนด์ ตลาดจริงก็ดูว่ามีตลาดหรือแหล่งไหนที่สาวๆเดินกันเยอะ ดูกลุ่มเป้าหมายที่มีกำลังซื้อ ต้องไปเช่าแผงเปิดร้านเองคุ้มมั้ย ถ้าไม่คุ้มก็ต้องเปิดตลาดหาร้านค้าที่รับของเราไปขาย ร้านขายยา ร้านขายเครื่ิองสำอาง ร้านขายอาหารเสริม ร้านสปา ร้านเสริมสวย ร้านอะไรที่ผู้หญิงชอบเข้า ร้านพวกนั้นคือแหล่งที่จะกระจายสินค้าของคุณ แล้วคุณมีเงื่อนไขการขายยังไงต้องเจรจากันเอง ต้องเลือกด้วย ไม่อย่างนั้นเอาสินค้าไปวางแล้วหายไป หรือขายแล้วเก็บเงินไม่ได้  ต้องเลือกค่ะ ช่องทางออนไลนด์  เปิดร้านออนไลน์แต่ก็ต้องเรียนรู้การทำ seo ดันให้เวปเป็นที่รู้จัก เปิด fb อาจต้องใช้ ad fb เพื่อไปหากลุ่มลูกค้าเป้าหมาย เวบบอร์ดไหนสาวๆเยอะ  ก็เอาไปขายค่ะ  ขยันโพสกันไป แล้วถ้าลูกค้าใช้ได้ผลก็ขอให้เค้ากลับมารีวิวที่เวปให้  อาจจะมีของขวัญเล็กๆมอบให้หรือให้ส่วนลดอะไรก็ว่ากันไป Promotion ต่อให้สินค้าดีเลิศแค่ไหน ถ้าไม่มีคนรู้จัก ก็เหมือนเพชรที่อยู่ใต้ดิน ไม่ได้รับการเจียระนัยขึ้นตัวเรือน  เอามาตั้งโชว์ในร้าน ก็ไม่มีใครรู้ คุณก็ต้องหาทางโปรโมทสินค้าให้เป็นที่รู้จัก ว่ามันดีกินแล้วขาวจริง แล้วมันดีกว่าของคนอื่นตรงไหนถึงต้องมากินของเรา อันนี้เป็นแค่เบื้องต้น  ทุกอย่างต้องคิดและวางแผนคู่กันไปค่ะ ขอให้ จขกท ใจเย็นๆ บางทีก็ต้องดึงตัวเองออกจากปัญหาสักพัก ไม่อย่างนั้นสมองก็วนเวียนคิดแต่ปัญหาเหมือนการเดินไปอย่างไม่มีจุดหมายในเขาวงกต เอาใจช่วยขอให้โชคดีค่ะ จากคุณ : จ้อย..ยย เขียนเมื่อ : 6 มี.ค. 55 14:02:32

ความคิดเห็นที่ 31 ขอรายละเอียดสินค้าเป็นข้อๆตามนี้ครับ 1. ผลิตภัณฑ์ของ จขกท. รับเข้าสู่ร่างกายทางไหน กิน ทา ฉีด พ่น มาสก์ 9ล9 2. เท่าที่อ่านมาผลิตภัณฑ์นั้นๆมีอย.แล้ว สั่งผลิตจากแหล่งไหน โรงงานชื่ออะไร (ถ้าไม่สะดวกตอบข้อนี้ หลังไมค์มาได้ครับ) ที่ถามเพราะจะประเมินความน่าเชื่อถือของแหล่งผลิตให้ เกี่ยวพันถึงกลยุทธ์ที่ใช้จำหน่ายต่อไปครับ 3. สถานะของผลิตภัณฑ์ตัวนี้เป็นอย่างไร กำไรที่ต้องการกี่เปอร์เซนต์ วันหมดอายุอีกประมาณกี่เดือน เหลือสต๊อกมากไหม จัดส่งได้บริเวณไหนบ้าง 4. กลุ่มลูกค้าที่ต้องการประมาณไหน พอจะกำหนดกลุ่มลูกค้าไว้อย่างไรบ้างครับ ส่วนตัวทำงานในวงการที่เกี่ยวข้องอยู่บ้างครับ เห็นสินค้าแนวนี้มาใหม่มาก็มาก ล้มก็มาก รุ่งก็มาก หากจขกท.ระบายสินค้าชุดนี้หมดแล้วก็เรียนรู้จากบทเรียนของเพื่อนสมาชิกดูแล้วปรับปรุงในอนาคตนะครับ ที่คุณเจอ ผมว่ามันเป็นแค่เนินเล็กๆของก้าวที่ยิ่งใหญ่ในอนาคตครับ คาดว่าหาก จขกท.ปรับปรุงจุดอ่อนได้ อีกไม่กี่ปีรวยแน่นอนครับ จากคุณ : basicball เขียนเมื่อ : 6 มี.ค. 55 14:22:08

ความคิดเห็นที่ 32 ขอหลังไมล์ด้วยค่ะ ผลิตภัณฑ์ เว็บ ชื่ออะไรค่ะ จากคุณ : พัชากะหมากระป๋อง เขียนเมื่อ : 6 มี.ค. 55 15:23:30

ความคิดเห็นที่ 33 ก่อนอื่นขอให้กำลังใจ จขกท.ก่อนครับ คนทำค้าขายแค่ปกติก็กลางคืนเป็นควันกลางวันเป็นไฟอยู่แล้ว ยิ่งเจอสถานการณ์แบบนี้ก็ไม่ต้องพูดถึง... ขอให้สู้ๆครับ ในส่วนของตัวสินค้าที่คุณทำขึ้นมาเองนั้น ผมว่ายากครับถ้าคุณจะไปตามเส้นทางของทุนนิยม เพราะสารพัดหนทางที่คุณลุยมา ทำมา มันแนวทางทุนนิยมหมดเลย แต่คุณดันมีทุนจำกัดผมว่าไปกันไม่ได้หรอกครับ ลองหนทางแบบบ้านๆ ลูกทุ่งๆ เดินเข้าร้านขายยาขนาดกลาง ร้านเวชสำอางตามตลาดค้าปลีก แบบที่หลายๆคนว่ายังจะดีกว่า แล้วฝากวางขายน่าจะยังพอระบายของออกได้บ้าง ถ้าของมันดีจริง ล๊อตแรกแค่เอาทุนกับค่าเหนื่อยกลับมาก่อน ล๊อตต่อไปค่อยฟันกำไรเยอะๆ เป็นไปตามกลไกตลาดครับ ส่วนของญี่ปุ่นที่คุณเคยทำแล้วรุ่งนั่น ไม่รู้ว่าทิ้งไปหรือยังแต่น่าจะยังใช่ไหมครับ กลับไปหากินของเดิมด้วยนะครับ เพราะนั่นคือช่องทางทำทุนที่จะทำสินค้าของตัวเอง แต่คิดใหม่ ประเมิณใหม่ ลองทำบัญชีใช้จ่ายแบบละเอียดๆ แล้วคำนวนเอาครับ บางทียอดสั่งขนาดที่คุณมีนี้ คุณไม่จำเป็นที่จะต้องไปสั่งของเข้ามาเอง ไปซื้อจากเจ้าใหญ่นั่นแหละครับ ในราคาส่ง ถ้าส่วนต่างของการขายนั้นโอเค ก็ไม่จำเป็นต้องไปแบกความเสี่ยงต่างๆและความไม่นิ่งเอง ผมอ่านกระทู้ที่ก่อนจะแตกประเด็นมานี้ไม่หมดนะครับ ผมไม่ขอออกความเห็นในเรื่องของการบริหารธุรกิจแล้วกัน เพราะเห็นหลายๆคนคอมเม้นท์ไปแล้ว ซึ่งคุณเองจริงๆ ผมเชื่อว่าก็เข้าใจตัวเองอยู่แล้วแหละ แต่ทำไม่ได้ซะมากกว่า ผมขอออกความเห็นในส่วนของปัจจัยในการจัดหาสินค้านะครับ ในฐานะที่ทำแนวๆเดียวกันแต่ของผมไม่ใช่ญี่ปุ่น ทาเคชินี่ จริงๆไม่ได้มีความจำเป็นเลยครับ มืออาชีพก็ไม่ใช่ พวกมืออาชีพจริงๆหรือเผลอๆผู้ค้าที่ทำส่งออกสินค้าตัวที่คุณขายโดยตรงก็มีให้ถมไปครับ แต่คุณยังหาไม่เจอเท่านั้น ส่วนพี่ยศนี่ ตัดได้ก็ตัดไปเหอะครับ เส้นทางการขนส่งสินค้าแบบหิ้วเข้าประเทศเนี่ย บอกเลยว่าแพงมาก แต่ข้อดีคือของจะไม่ค่อยเสียหายและไว ยิ่งถ้าคุณขนสินค้าเข้ามาทีเกิน 100 กิโลกรัม ผมคิดว่าจากญี่ปุ่นมาทางเครื่องบิน ค่าขนค่าผ่านด่านอยู่แถวๆ 150-260 บาทต่อกิโลกรัม เท่านั้นครับ แล้วก็เข้าได้ทุกครั้งแน่นอนครับ นั่งรอที่บ้านมาส่งถึงหน้าบ้านเลย นอกจากมีสถานการณ์ที่เป็นกันทั้งประเทศถึงจะชะลอตัวบ้างครับ แล้วคนที่ทำงานอาชีพแบบหิ้วเองแบบพี่ยศเนี่ย ถ้าบินเองจริง เค้าต้องง้อคุณครับ เค้าไม่ได้บินไปตัวเปล่าเพื่อไปเอากลับหรอกครับ เค้าจะต้องมีรับหิ้วทั้งไปและกลับไม่งั้นก็ไม่คุ้มหรอกครับ แล้วเท่าที่รู้ถ้าเกิน 100 กิโลกรัมต่อเที่ยวต่อคน ก็ทำยากแล้วครับเว้นเสียแต่มีทีมงานติดตาม ไม่งั้นจริงๆเค้าก็ใช้ให้ของบินมาเฉยๆแต่กินหัวคิวคุณครับ ส่วนเรื่อง Vat7% ย้อนหลัง 2 ปี ที่คุณซักถามในกระทู้นี้นั้น คุณไปหาบริษัทรับทำบัญชี ที่พอจะเชื่อใจได้ ...ไม่สิบริษัทไหนก็ได้(เพราะผมเห็นคุณก็โดนเขกมาตลอดที่ว่าไว้ใจได้ๆเนี่ย) แล้วบอกรายละเอียดเว้บที่คุณทำคร่าวๆพอ แล้วปรึกษาเค้าว่าต้องทำอะไรบ้าง เตรียมรับมืออะไรบ้าง เพราะว่าใช่ ที่คุณไม่มีหลักฐานอะไรยืนยันว่าเงินที่เข้ามาเป็นเงินขายของ แต่เว็บของคุณ ชื่อจดทะเบียน เลขบัญชีที่หน้าเว็บ อะไรต่ออะไรพวกนี้มันก็เชื่อมโยงตัวคุณไว้ทั้งหมดครับ ถ้าเครียร์ตัวเองต่อหลักฐานที่สรรพากรสรรหามาได้ ก็รอดครับ ขอให้โชคดี และลูกน้อยคลอดง่าย แข็งแรงสมบูรณ์ครับ จากคุณ : 21st@1st (immercury) เขียนเมื่อ : 6 มี.ค. 55 16:23:24

ความคิดเห็นที่ 34 คำว่าเคลียร์ได้จริงคือ ต้องผ่านทุกด่านได้ ไม่ใช้ไปติดด่านใดด่านหนึ่ง ออกมาไม่ได้ -----อันนี้จริงที่สุดค่ะ คนที่เคลียร์ต้องเคลียร์กับทุกด่าน ไม่งั้นจะมีปัญหาทีหลัง ชิปปิ้งที่เราเคยใช้ เล่นตุกติก อยากลดต้นทุน เอาราคาค่าขนส่งต่ำๆมาเรียกลูกค้า แล้วจ่ายไม่ครบทุกด่าน ผลสรุป โดนจับค่ะ โดนยึดของ ขนาดเคลียร์ของออกมาแล้วนะ ศุลกากรไล่ตามจับรถกะบะที่ขนของออกมากันเลยทีเดียว รอบนั้นเห็นโดนยึด ipad ไปหลายเครื่องเลยค่ะ ช่วงนั้น ipad2ออกมาใหม่ๆไม่นาน น่าเสียดายแทน โชคดีที่ของเราไม่โดนไปกะเค้าด้วย ^^ จากคุณ : ซิ่วฮุ่ย เขียนเมื่อ : 6 มี.ค. 55 16:43:36

ความคิดเห็นที่ 35 มันไม่สร้างสรรค์ตั้งแต่ไปคบกับคนจำพวกที่  ขายยาเพื่อเรื่องเพศ แล้วล่ะึค่ะ จากคุณ : รินบุญญา เขียนเมื่อ : 6 มี.ค. 55 16:44:38

ความคิดเห็นที่ 36 สำหรับงบ (เท่าที่มีติดตัว) 2พันบาท ลงทุนอะไรก็คงยากแล้ว คงต้องพึ่งแรงตัวเองให้มากที่สุด มีอีกทางนึง ปล่อยของให้พวก ที่มีเวปขายของอยู่แล้ว  ให้เขาเป็นพรีออเดอร์ วิธีการ - ติดต่อเจ้าของเวปขายของ(ที่เป็นแนวทางเดียวกับคุณ) โดยการ  ประกาศ,เมลไปหา เป็นต้น - วางแผนคุมราคาให้เรียบร้อย  (ราคาต้นทุนของคุณเท่าไหร่ คุณจะเอากำไรเท่าไร ไม่ต้องบอกใคร) ให้ขายเขาในราคาเท่าไหร่ แบ่งกำไรให้เขาเท่าไหร่ ก็บอกไป - เอารูปสินค้า , คำบรรยายสินค้า ให้เขาไปเลย (ถ้าเขาสนใจกำไรที่ได้ เดี๋ยวเขาก็เอาลงเวปของเขาเองแหล่ะ) ขั้นตอน การขายแบบ พรีออเดอร์  เพื่อให้พอเข้าใจเป็นสังเขป - ผู้ขายส่ง(จขกท. นั่นแหล่ะ) ส่งข้อมูลทุกอย่างให้  เวปขายของ(เวปอะไรก็ว่าไป ในที่นี้เขาคือ พรีออเดอร์) (พร้อมทั้งตกลง แบ่งกำไร ต่างๆเป็นที่เรียบร้อย) - พรีออเดอร์  เอาสินค้า ลงโฆษณาขายในเวป - ลูกค้าสั่งซื้อสินค้าในเวป   ---จ่ายเงินให้เวป พร้อมบอกที่อยู่ในการจัดส่งให้ เรียบร้อย - พรีออเดอร์ โอนเงินให้ผู้ค้าส่ง(ในราคาส่ง) พร้อมบอกที่อยู่ลูกค้า - ผู้ค้าส่ง ส่งสินค้าให้กับลูกค้า ข้อดีของพรีออเดอร์ คือ - พรีออเดอร์ ไม่ต้องสต๊อคสินค้า  ลงทุนค่าไฟ(คอมพิวเตอร์) กับค่าแรง เท่านั้น - ช่วยกระจายสินค้าให้ผู้ค้าส่ง ข้อสำคัญ - คุณอย่าไปยุ่งกับลูกค้าของเขา อย่าไปโฆษณาใดเพิ่มเติม  แค่จัดส่งสินค้าอย่างเดียวเท่านั้น อย่าเอาอะไรอย่างอื่นแฝงไปด้วย - ตั้งราคาต่างๆให้ดี อย่าให้เข้าเนื้อ แต่ก็ให้พรีออเดอร์มีกำไรด้วย และ อย่าให้ราคาสูงจนเกินกำลังผู้บริโภค (อย่าลืมคิดค่าส่งด้วยล่ะ เหอๆ) - สำหรับเวปที่เขาขายสินค้าชนิดเดียวกับคุณ และเขาผลิตเอง ขายเอง อันนี้ไม่จำเป็นต้องติดต่อให้เสียเวลาหรอก  ไปติดต่อพวกเวปที่ ซื้อมาขายไป คละยี่ห้อ ดีกว่า  ถ้าให้กำไรเขาดี ไม่ต้องห่วง เขาเชียร์สินค้าเราแน่ (เขาก็อยากได้กำไรดีๆกันทั้งนั้นนิ) - ถ้าีคุณมี พรีออเดอร์อยู่ในสังกัดมากพอ  สิ่งที่คุณควรคิดคือ ทำอย่างไรให้เขาขายได้ (ไม่ใช่ว่า ทำอย่างไรให้เราขายได้)  เพราะ การที่เขาขายของได้ นั่นก็หมายความว่าเราได้ขายด้วย   ...อาจจะมีโปรโมชั่นพิเศษ เช่น ซื้อ1กระปุกแถมไอ้นั่น แถมไอ้นี่(อย่าลืมกำหนดระยะเวลาด้วยล่ะ) ... ไม่ต้องกลัวว่าพรีออเดอร์จะอมของแถม เพราะเราเป็นคนส่งสินค้านี่นะ  เป็นต้น ใจจริง ก็อยากจะให้ทำ สินค้าตัวอย่าง ไปแจกให้คนอื่นๆลองใช้นะ แต่ปัญหามันก็มีอยู่ว่า  มีเงินติดตัวแค่2พันนี่อ่ะจิ ไหนจะบรรจุภัณฑ์สินค้าตัวอย่าง  แค่นี้ก็เกินงบไปบานแล๋ว ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ อีกวิธีนึง  คือ เดิน เข้าไปติดต่อ ฝากวางขายในร้านขายยาต่างๆ (ดังที่ คห.บนๆได้เสนอ) และอีกร้านนึงที่น่าสนใจเอาเข้าไปวางขาย  "ร้านเสริมสวย" ครับ (ผู้หญิง ถ้าไม่อยากสวย ไม่อยากดูดี คงไม่เข้าร้านเสริมสวย  ในเมื่อสินค้าคุณ ทำให้คนดูดีขึ้น ดูสวยขึ้น มั่นใจขึ้น แล้วทำไมจะไม่เหมาะกับร้านเสริมสวยล่ะครับ  จริงม่ะ) ผมก็ช่วยคิดได้เท่านี้แหล่ะครับ จากคุณ : aumpaump12 เขียนเมื่อ : 6 มี.ค. 55 17:17:03

ความคิดเห็นที่ 37 เรื่องบัญชีขอย้ำกับ จขกท ว่าสำคัญมาก อย่าไปอ้างว่าคนอื่นเขาทำอะไรยังไง ในเมื่อรู้อยู่แล้วว่าไม่ถูกต้อง ยิ่งไม่ออกใบเสร็จ ไม่จดทะเบียนให้เรียบร้อย ความผิดมันจะทบทวีไปเรื่อยๆ ทั้ง Vat ก็ด้วย ทั้งภาษีประจำปีก็ด้วย เข้าข่ายหลบเลี่ยงด้วย อีกหลายบริษัท อีกหลายที่ที่ทำแบบผิดๆ ใช่ว่าจะรอดเพียงแต่ซื้อเวลาและรอว่าจะแจ๊คพ็อตเมื่อไหร่ก็เท่านั้น เคยฟังข่าวไหมที่ว่าโดนสรรพากรเก็บภาษีย้อนหลังเป็นหลักล้านน่ะ เพราะอะไรล่ะ ผิดระยะแรกๆเขาให้โอกาสกลับตัวยอดมันก็ยังไม่เยอะ แต่ทำไปนานๆน่ะก็โดนย้อนแบบนั้นล่ะ ไม่ต้องสงสัยหรอกค่ะว่าสรรพากรเขาจะเช็คได้ยังไง รู้ได้ยังไง เตรียมไว้อย่างเดียวพอคือหากถูกเรียกสอบจะตอบยังไงในเมื่อมันผิดน่ะ คนทำธุรกิจต้องรู้กฎหมายค่ะ รีบทำให้มันถูกซะ เลือกบัญชีที่ตอบคำถามให้คุณได้ ขอให้คุณอย่าไปเจอพวกบัญชีหน้าเงินที่คอยจะเก็บเงินคุณบอกว่าจะช่วยนั่นช่วยนี่ได้แล้วก็เชิดเงินไปก็แล้วกัน คุณกำลังตั้งครรภ์ ยังไงก็นึกถึงเด็กด้วยรวมทั้งสุขภาพตัวคุณเองด้วยนะคะ คุณเป็นคนเก่ง คุณจะผ่านเหตุการณ์ต่างๆไปได้ด้วยดี ตั้งสติให้ดี สติจะดึงคุณกลับมาทำในสิ่งที่ถูกต้องและจะพาคุณก้าวข้ามอุปสรรคต่างๆไปได้นะคะ จากคุณ : rainy&sun เขียนเมื่อ : 6 มี.ค. 55 18:38:09

ความคิดเห็นที่ 38 ตามมาจากกระทู้โน้นครับ ยังรอหลังไมค์เรื่องสินค้าอยู่นะครับ จะช่วยอุดหนุนครับ จากคุณ : Piboonsak เขียนเมื่อ : 6 มี.ค. 55 19:08:25

ความคิดเห็นที่ 39 เราบอกวิธีเพิ่มความน่าเชื่อถือไปให้จขกท.ทางหลังไมค์แล้วนะ สุดท้าย เราอยากให้จขกท.ลองปรึกษาแฟนหรือคนใกล้ชิดดู เค้าอาจจะมีมุมมองอะไรที่เราคิดไม่ถึงก็ได้  แฟนเราก็ไม่ค่อยรู้เรื่องขายของอะไร แต่เค้าอยู่ด้านนอก บางทีเค้าอาจจะเห็นอะไรในอีกมุม เห็นข้อผิดพลาดของเรา รู้จุดอ่อนและนิสัยเราดีที่สุด แล้วจะช่วยระวังหรือแก้ปัญหาให้เราก็ได้นะ อย่างบางเรื่องที่จขกท.ไม่น่าพลาด เช่นเรื่องโดนลูกจ้างข่มขู่เรื่องอย. นี่เราว่าจริงๆจบง่ายเลยน่ะ แรงมาก็แรงไป เสียดายไม่น่าไปยอมเล้ยย. เป็นกำลังใจให้นะ สู้ๆ จากคุณ : ไม่ยอม เขียนเมื่อ : 6 มี.ค. 55 20:33:03

ความคิดเห็นที่ 40 มา ให้กำลังใจครับ คึดถึงตัวเองเลยครับ คล้ายๆ จขกท แต่ก็พยายาม ดิ้นรนกันไป จากคุณ : systemdoor เขียนเมื่อ : 6 มี.ค. 55 21:56:00

ความคิดเห็นที่ 41 เอามาฝากเราขายที่ FB มั้ยคะ เราไม่เอาอะไรเลย ถ้าลูกค้าสนใจเดี๋ยวเราลงข้อมูลให้ติดต่อคุณโดยตรง จริง ๆ เราไปตอบกระทู้โน้นของคุณมาแล้ว แต่ไม่ได้อ่านคอมเม้นท์อื่น ๆ มาอ่านอีกครั้งจึงพึ่งเห็นว่าคุณแตกกระทู้ ตอนนี้คุณต้องตั้งสติก่อนนะคะ ค่อย ๆ คิดวิธีแก้ปัญหา เราสนับสนุนให้คุณขายใน FB นะ เพราะคุณไม่ต้องลงทุนอะไรเลย ทำรูปสินค้าใน FB แล้วเดี๋ยวเราจะแชร์แปะในเฟสเราให้เพื่อน ๆ เราเห็น เผื่อมีคนสนใจจะได้ช่วยอุดหนุนคุณ คุณรู้มั้ย เรามีเพื่อนคนนึง ที่ชีวิตเค้าเกือบจะหมดตัว แต่เค้าลืมตาอ้าปากได้เพราะ FB นี่ล่ะ เพื่อนเราน่ะ แต่ก่อนทำกิจการร้านเกมส์ มีถึงสองร้าน อดหลับอดนอนคุมร้านเกมส์กับสามีช่วยกันทำเหนื่อยแทบตาย วันดีคืนดี พ่อแม่สามี บอกว่าจะมาเอาเงินรายได้ของร้านเข้าเป็น เงินกงสี และจะเอาไปให้น้องชายสามี เพื่อนเราก็ไม่ยอม โกรธหัวฟัดหัวเหวี่ยง เพราะกว่าจะมีร้านถึงสองร้าน เหนื่อยสายตัวแทบขาด แถมเป็นเงินที่หามาเองกับสามีล้วน ๆ ไม่เคยขอเงินใครมา จู่ ๆ พ่อแม่สามีจะมาชุบมือเปิบ ใครจะยอม.... แต่สามีเป็นคนรักพ่อแม่ ก็เลยมีปัญหาทะเลาะกัน สุดท้ายบ้านแตก เพื่อนเราหอบลูกเก็บเสื้อผ้าขับรถกลับบ้าน มีเงินเก็บติดตัวประมาณสามหมื่น กลับมาบ้านก็กลุ้มใจมาก จะทำมาหากินอะไร  จะเอาอะไรเลี้ยงลูก จนพี่ชายบอกว่า ขายเสื้อผ้าในเน็ตเอามั้ย เดี๋ยวไปหาซื้อเสื้อผ้าให้ เพื่อนเราก็ทำเว็บไซด์ขายเสื้อผ้าอยู่เป็นปีค่ะ พอขายได้ แต่ไม่บูม  ไม่รวย จนตอนหลังมีเฟสบุ๊คเข้ามา เพื่อนเราเป็นแม่ค้ารายแรก ๆ ในเฟสบุ๊คเลยค่ะ เพื่อนบอกเราว่า... " เชื่อมั้ยเธอ  รายได้ขายเสื้อผ้าเด็กบน FB น่ะ เยอะกว่ารายได้ร้านเน็ตสองร้านรวมกันเสียอีก... " เราเลยอยากขายของบนเฟสบ้าง แต่ตอนนั้นไม่รู้จะขายอะไรคะ จนล่าสุดสามีไล่ให้เรามาค้าขายที่ตลาด เราก็เลยเพิ่มช่องทางขายบน FB ด้วย ก็พอขายได้ค่ะ ชั่วโมงบินเรายังน้อย ก็ยังขายไม่เก่ง ลองดูนะคะ ถ้าจะให้เราช่วยโฆษณาในเฟสบุ๊คให้ เรายินดีค่ะ ส่งรูปและข้อมูลมาได้เลย หรือ คุณจะทำเฟสเองก็ได้ เดี๋ยวเราไปกดแชร์ค่ะ คนจะได้เห็นเยอะ ๆ ลองพิจารณาช่องทางนี้ดูนะคะ เอาใจช่วยค่ะ จากคุณ : แม่โอ๋เรนเจอร์ เขียนเมื่อ : 6 มี.ค. 55 22:02:43

ความคิดเห็นที่ 42 คุณเจ้าของกระทู้มีเว็บไซต์เป็นของตัวเองรึเปล่าคะ โปรโมทตามโพสต์ฝากเว็บ ขยันๆโพสต์หน่อย น่าจะช่วยได้บ้างนะ เอาใจช่วยคะ จากคุณ : Charming barbie เขียนเมื่อ : 6 มี.ค. 55 23:12:44

ความคิดเห็นที่ 43 เห็นเม้นท์ของคุณ "วันนี้หนูมาคนเดียว" แล้วเกิดไอเดียนิดหน่อย จขกท. ลองเอาสินค้าของคุณไปโพสท์ในห้องแป้งดีไหมคะ คือไม่ใช่ไปขาย แต่ไปเล่าความเป็นมา สถานการณ์ของคุณตอนนี้ให้สาวๆฟัง บอกส่วนผสม และรายละเอียดอื่นๆอย่างครบถ้วน (สาวๆเค้ารู้เรื่องส่วนผสมดีทีเดียว) และถ้าเป็นเรา เราจะให้ทดลองฟรีๆไปเลย!!! (แต่จำนวนเท่าไหร่ กติกาอย่างไรก็อยู่ที่คุณ) ถ้ามันเวิร์ค สินค้าของคุณจะถูกพูดถึงในหมู่สาวๆ บอกตามตรง ถ้าสินค้าตัวไหนเป็นที่ยอมรับในห้องแป้ง สินค้าตัวนั้นมักจะเป็นที่นิยม ลองดูค่ะ ใส่ความจริงใจไปเยอะๆ สาวๆห้องนั้นใจดีทุกคนค่ะ สู้ๆนะคะ จากคุณ : POLAR_POLAR เขียนเมื่อ : 7 มี.ค. 55 00:24:15

ความคิดเห็นที่ 44 เหมือนเดิม ผมแนะนำเฉพาะปัญหากับช่องทางตรงๆพอนะครับ ด้วยเงื่อนไขว่า "ไม่ต้องมีเงินลงทุนในการกระจายสินค้า" เริ่มจากปัญหาก่อน ตอนนี้ปัญหาสำคัญของการกระจายสินค้าคุณอยู่ที่ 1. คุณไม่มีเงินลงทุน(ทั้งค่าวางและโฆษณา) 2. สินค้าของคุณราคาแพงมาก (ขายยาก ไม่ใช่ขนาดที่ลูกค้าจะลองเสี่ยง) 3. แบรนด์ของคุณยังไม่ได้เข้ามาในตลาดเลย (ยกเว้นที่โฆษณาเคเบิ้ล) เอาล่ะ วิธีแก้คือ 1. ใช้โฆษณาที่เคยลงไปทางเคเบิ้ลให้เป็นประโยชน์ ทำแผ่นพับ/ทำคลิปตัดต่อจากรายการ(เอาเฉพาะเนื้อๆ เน้นๆ) มาเพื่อใช้ในการโฆษณา ตรงนี้มันลงทุนไม่เยอะหรอกครับ แผ่นพับก็ปริ๊นเตอร์ธรรมดา คลิปก็นั่งจิ้มๆเอาหน่อย(ขอเทปจากรายการ) ไม่ยากไม่ลำบากเลย 2. ทำ Facebook เป็นเวปไซต์หลักในการติดต่อ/ให้ข้อมูลสินค้า เพื่อให้มีสินค้าดูมีหลักแหล่งแน่นอน(อย่าลืมตั้งชื่อบริษัทเพื่อให้ดูน่าเชื่อถือด้วย ถ้าเริ่มมีทุนไปจดทะเบียนเป็นบริษัทด้วยก็ดี) 3. ยอมตัดสินค้าบางส่วนมาทำเป็นสินค้า Sample (อันนี้ไ่ม่แน่ใจว่ากินน้อยๆมีผลแค่ไหน แต่ลองทำก็ดีครับ) เพื่อให้ลูกค้าสามารถตัดสินใจได้ง่ายขึ้น (ปกติของหลักพันไม่รวยจริงๆไม่มีใครซื้อมาลองหรอกครับ แต่ถ้ามีขนาดเล็ก ราคาไม่กี่สิบ หรือ ของทดลองให้ใช้ฟรีก่อน แล้วดีจริง คนจะกล้าซื้อครับ) 4. ช่องทางการจัดจำหน่ายที่เป็นไปได้ มีดังนี้ 1) ทาง Internet 1.1) Youtube : อัพวิดีโอ้ที่ตัดต่อมาจากรายการลง youtube เพื่อใช้เป็นวีดีโอโฆษณาหลัก อย่าลืมลิงค์ไปที่ FB ตัวเองด้วย 1.2) เวปบอร์ด : ใช้ข้อมูล-วิดีโอจาก 1.1) เพื่อโฆษณาตามเวปบอร์ดต่างๆ 1.3) ฝากขาย : ฝากขายในที่นี้คือติดต่อแม่ค้าเจ้าดังๆที่ขายสินค้าพวกนี้เพื่อฝากขายโดยมีค่าคอมเยอะหน่อย มีเงื่อนไขว่า "ถ้ามีออเดอร์เข้ามา คุณจะจัดส่งสินค้าเอง ไม่เอาสินค้าไปวางจมกับแม่ค้า โดยรับเงินจากแม่ค้าก่อนส่งสินค้าทุกครั้ง" อย่าติดต่อกับแม่ค้าทาง internet อย่างเดียว จะหาคู่ค้าแบบนี้ ต้องนัดคุยกันโดยตรง รวมทั้งพาเค้าไปดูบ้านสินค้าคุณ และคุณเองก็ต้องรู้จักบ้านคู่ค้าของคุณด้วย 1.4) e-bay : อันนี้ไม่รู้จะเรียกว่าแนะนำดีหรือเปล่า แต่ถ้าทางเลือกสุดท้าย อยากจะระบายสต๊อกเอาทุนไว้ก่อนจริงๆ อาจใช้วิธีลองเสนอขายยกล็อตผ่าน ebay อาจจะมีคนไทย-ฝรั่งมาซื้อก็ได้ แต่ราคาคงต้องถูกจริงๆ+ค่าส่งคงบานใช้ได้ 2. ฝากขายผ่านร้านขายยา : เงื่อนไขเหมือนเดิมคือ ค่าคอมเยอะแต่ไม่มีค่าวาง ขายมากได้มาก ขายน้อยได้น้อย ควรมีแผ่นพับ+ป้ายตั้งโฆษณาเล็กๆ+sample ให้เค้าด้วย ถามว่าจะติดต่ออย่างไร? ก็แบบที่คุณทำตอนนี้แหละครับ คือเล่าเรื่องของคุณทั้งหมดให้เค้าฟังตรงๆไปเลยนำเสนอทั้งในแง่การค้าและขอความเห็นใจ แต่จำไว้อย่างทำเลไม่ดีส่วนมากของราคาหลักพันแบบนี้ขายไมไ่ด้หรอกครับ เพื่อไม่ให้เสียเวลาควรไปดูตามร้านขายยาที่มีคนมีฐานะหน่อยเดินครับ อาจจะต้องติดต่อหลายร้านกว่าเค้าจะยอมสักร้านหนึ่ง แต่ลงแรงก็ดีกว่าลงเงินสำหรับคุณตอนนี้จริงมั้ยครับ จบแล้ว แก้ไขเมื่อ 07 มี.ค. 55 02:12:06 จากคุณ : Greaty O-U!! เขียนเมื่อ : 7 มี.ค. 55 01:55:40

ความคิดเห็นที่ 45 คุณ Greaty O-U แนะนำดีมากจริงๆค่ะ เห็นด้วยกับเรื่องเทปโฆษณาที่คุณลงทุนไป จริงๆสามารถเอามาต่อยอดได้อีกเยอะ เอามาตัดใหม่ จากรายการครึ่งชม. ก็ให้เหลือเป็นหนังโฆษณาที่น่าสนใจซัก 30-45 วิ. แล้วไล่โพสตามกระทู้ อ้างอิงไปด้วยว่าออกทีวีช่องไหน เคเบิลอะไร เพิ่มความน่าเชื่อถือ หาก จขกท.ทำไม่เป็น ไม่รู้ว่าทำยังไง ส่งมาให้เราค่ะ เดี๋ยวเราช่วย ไม่คิดตังค์ (เราทำงานด้านนี้อยู่ค่ะ) จากคุณ : POLAR_POLAR เขียนเมื่อ : 7 มี.ค. 55 02:30:07

ความคิดเห็นที่ 46 ลงขายเมื่อไหร่ หลังไมค์มาตามนะคะ จะช่วยอุดหนุนคนเก่งๆอย่างคุณ จขกท สู้ๆค่ะ จากคุณ : นู๋ชื่อยินดีไม่มีปัญหา เขียนเมื่อ : 7 มี.ค. 55 04:36:47

ความคิดเห็นที่ 47 ขายตามพวก คูปองดีลได้ไหมคะ จากคุณ : 00 เขียนเมื่อ : 7 มี.ค. 55 07:58:23 A:88.77.193.224 X: TicketID:324043

ความคิดเห็นที่ 48 ถ้ามี FB เราจะช่วยแชร์ให้ค่ะ และถ้ามีปัญหาด้านภาษีและบัญชี เราสามารถให้คำแนะนำได้บ้างนะคะ เพราะเราทำอยู่บางเรื่องถ้าไม่รู้ก็สามารถสอบถามและหาข้อมูลให้ได้ค่ะ ยินดีช่วยค่ะ เราว่าเพิ่มความเชื่อมั่นให้กับลูกค้าจดทะเบียนการค้าค่ะ ไม่จำเป็นต้องจดเป็นบริษัท จดเป็นร้านค้าธรรมดาได้ค่ะ เป็นกำลังใจให้นะคะ จากคุณ : nutpram เขียนเมื่อ : 7 มี.ค. 55 09:08:13

ความคิดเห็นที่ 49 เอา clip รายการ มาลง YouTube ดูไหมคะ จากคุณ : hoe is't? เขียนเมื่อ : 7 มี.ค. 55 17:33:49

ความคิดเห็นที่ 50 ขอบคุณทุกความเห็นมากที่นี่มีน้ำใจจริง พอดีวันสองวันนี้ ร่างกายเราแย่ เราเหมือนป่วยลุกไม่ขึ้นเราเลยต้องนอนพัก พอดีเราห่วงลูกในท้อง เดี๋ยวขอฟื้นตัวสักพักเราจะมาตอบหลังไมค์และหน้าไมค์นะคะ จากคุณ : Shorty and The Freaky Dogs เขียนเมื่อ : 7 มี.ค. 55 18:24:32

ความคิดเห็นที่ 51 อย่ายึดติดกับบ้านกับรถเลยค่ะ จะพากันล้มไปทั้งหมด   ตัดใจปล่อยไปซะ  จะได้มีกระเเสเงินสดเข้า --- เราเคยเป็นเภสัชกรอยู่ร้านขายยา ถ้าอาหารเสริมของคุณไม่ดัง ขายกล่องเป็นพัน ขายยากมากค่ะ ต้องลดราคาลงมา --- ไม่ต้องไปวางสินค้าที่บูทส์ วัตสันหรอกค่ะ คุณสายป่านไม่ยาวพอ ไปตามร้านยาค้าส่งตามหัวเมืองใหญ่ๆค่ะ เช่น พัทยา  ภูเก็ต  อะไรพวกนี้   เเล้วให้ค่าหยิบกับพนักงาน  ค่าปล่อยของกับเจ้าของร้าน --- ถ้าไม่รู้จักร้าน หลังไมค์มาค่ะ เราพอเเนะนำให้ได้ค่ะ --- จริงๆเรามีเพื่อน ทำอยู่โรงงานผลิตอาหารเสริม เป็นผู้จัดการเลย เเล้วเค้าก็ทำได้ทุกอย่างตั้งเเต่ตั้งสูตรตำรับ จนขออย. ชอบมาชวนเรายิกๆ ให้ร่วมลงทุนกันทำอาหารเสริมขาย เพราะเราเป็นเภสัช เราไม่เคยสนใจเลย  เพราะไม่ชอบไม่ใช่เเนว เเล้วก็รู้ว่ามีเเบรนด์เกิดใหม่เยอะ  ส่วนใหญ่มาไว ไปไว ตายเร็ว เเล้วเราก็ไม่ชอบดีลกับคนมากๆด้วย จากคุณ : RoseTiara เขียนเมื่อ : 7 มี.ค. 55 19:06:51

ความคิดเห็นที่ 52 ตอบในฐานะที่อยู่ในวงการทีวีดาวเทียมกับเคเบิ้ล ในสมัยก่อนมีช่องออกอากาศไม่กี่ช่องคนที่เข้ามาทำธุรกิจอาหารเสริมในช่วงแรกๆ พูดได้ว่ารวยแทบทุกคน บางคนทำรายได้เป็นร้อยล้าน แต่ปัจจุบันช่องรายการเยอะกว่าสมัยก่อนมากส่วนแบ่งในการแชร์คนดูก็มากขึ้น คนมาขายอาหารเสริมก็มากขึ้นโอกาสแจ้งเกิดยากมากๆขึ้นอยู่กับดวงจริงๆ        เพื่อนผมทำรายการธุรกิจออกอากาศเสร็จต้องรอรับโทรศัพท์เป็นจำนวนมาก บางคนมาขอเบอร์สินค้าที่จดไม่ทันหรือเทปรายการก็มี น้อยรายมากที่ออกอากาศไปแล้วไม่มีคนโทรมา เท่าที่เคยคุยรู้สึกจะมีรายเดียวแต่ก็ออกอากาศซ้ำให้ฟรี แต่ออกครั้งหลังนี่คนโทรมาถล่มทลายจากต่างประเทศก็มี        ถ้าผมเป็นเจ้าของรายการที่คุณติดต่อ ผมจะยิงสปอตโฆษณาให้ฟรีไม่ต่ำกว่าสามเดือนเลย เพราะสมัยนี้สินค้าที่ลงโฆษณาแค่ไม่กี่ครั้งโอกาสติดตลาดยากมากๆถ้าไม่ช่วยเหลือกันบ้างนิดๆหน่อย จ้องจะฟันเงินลูกค้าที่ขายไม่ได้เลยก็ไม่ไหว จากคุณ : lek2you เขียนเมื่อ : 7 มี.ค. 55 21:47:17

ความคิดเห็นที่ 53 จขกท. หลังไมค์มาหน่อยค่ะ อยากอุดหนุนนนน!! :) Noomz2006@gmail.com จากคุณ : น้องต่างดาว" เขียนเมื่อ : 7 มี.ค. 55 22:10:13 A:110.49.243.112 X: TicketID:340021

ความคิดเห็นที่ 54 ตามอ่านมาตั้งแต่กระทู้นี้ http://www.pantip.com/cafe/silom/topic/B11785993/B11785993.html เข้าใจและเห็นใจ จขกท. ครับ เพราะทุกวันนี้ก็ต้องขายของเลี้ยงลูก2คนเหมือนกัน ตอนนี้ผมกับแฟนขายของเกี่ยวกับความสวยความงามของผู้หญิง ไม่ทราบว่า จขกท. จะลองเอาสินค้ามาฝากวางที่ร้านผมมั้ยครับ ถ้าสนใจหลังไมค์มานะครับ จากคุณ : always use this profile เขียนเมื่อ : 7 มี.ค. 55 23:17:05

ความคิดเห็นที่ 55 โปรโมทผ่านเว็บไซต์ใช้ทุนน้อยที่สุดครับ ตลาดสินค้าประเภทนี้แข่งกันเยอะมากๆเลย ถ้ามีความรู้ทางด้าน SEO ลุยเลยมันมีตั้งหลาย Keywords และถ้าจับจุดจริงๆจะเข้าใจว่ามันไม่ยากเลย เอาใจช่วยครับ จากคุณ : dnasiam เขียนเมื่อ : 8 มี.ค. 55 00:04:23

ความคิดเห็นที่ 56 เจ้าของกระทู้กล้าหาญมากๆครับ เป็นกำลังใจให้ ขอให้คุณมีสติ คิดให้รอบคอบ ข้อดีข้อเสีย ก่อนที่จะเอาอะไรไปเดิมพันครับ หากคุณมีสติ คุณจะหลีกเลี่ยงบทเรียนที่แสนเจ็บปวดได้แน่นอนครับ รักษาสุขภาพด้วยนะครับ ยินดีกับเจ้าของกระทู้ด้วยครับ มีคนเก่งๆ มาคอยให้ความช่วยเหลือเพียบเลย และอย่าลืม เรื่องการเงิน สำคัญมากๆนะครับ ทำธุรกิจ ต้องมีเงินสดสำรองไว้ด้วย คำนวนรายจ่ายคงที่ รายจ่ายไม่คงที่ ไม่ใช่ทำจนเข้าเนื้อนะครับ ขอให้นำบทเรียนครั้งนี้มาพัฒนาข้อเสียของตัวเองครับ แล้วคุณจะทำได้ดีขึ้นแน่นอน ดั่งที่ว่าเจ็บแล้วจำ จากคุณ : acex เขียนเมื่อ : 8 มี.ค. 55 22:19:01

ความคิดเห็นที่ 57 เอาเข้าเสนอ ร้านเจ้เล้งดีป่าวคะ แล้วก็พวกเว็บดีล ขายดีบขายดีมากเล จากคุณ : lekumi เขียนเมื่อ : 9 มี.ค. 55 11:51:45

ความคิดเห็นที่ 58 หลังค์ไมค์มาค่อนข้างเยอะ เรายังไม่ได้ตอบ พอดีทำงานยุ่งมาก ทำคนเดียว กำลังนั่งนับของพรีออเดอร์ เป็นพันๆ ซอง ขอเวลาว่างแล้วจะ มาตอบทีละคนนะคะ จากคุณ : Shorty and The Freaky Dogs เขียนเมื่อ : 9 มี.ค. 55 12:25:59

ความคิดเห็นที่ 59 เป็นกำลังใจให้ค่ะ  เราว่าขายในเฟสบุ๊คเป็นวิธีที่ต้นทุนต่ำที่สุดแล้วค่ะ แล้วก็ดูแลลุกค้าดีๆ สินค้าแบบนี้มันเป็นปากต่อปาก  เรามักจะเชื่อคนที่เคยใช้มากกว่ามีผลต่อการตัดสินใจมากกว่า เพื่อนเราขายพวกกระเป๋า รองเท้าเดือนๆนึงก็กำลังหลายหมื่นเลยค่ะ มันใช้วิธีว่า ถ้าลูกค้าเก่ามารีวิว ถ่ายรูปแทีกมาให้เฟสบุ๊ค ซื้อครั้งหน้าจะได้ส่วนลด หรือ มีของแถมเล็กๆน้อยๆให้ค่ะ ทำให้ร้านดูคึกคักน่าสนใจด้วย  ลุกค้าใหม่ก็เชื่อใจ  เพราะในเฟสบุ๊คมันยืนยันตัวตนได้ค่อนข้างชัดเจนมากกว่าเว็บบอร์ดทั่วไป จขกท.อาจจะทำโปรโมชั่น ลูกค้ากลับมารีวิว แถมวิตามิน แถมมาร์ส หรือมีส่วนลดให้ครั้งหน้า อะไรทำนองนั้นก็น่าจะดีนะคะ สุ้ๆค่ะ :) จากคุณ : เจ็บแล้วจำคือคน !!! เขียนเมื่อ : 9 มี.ค. 55 18:12:06

ความคิดเห็นที่ 60 ถ้าว่างแล้วมาคุยกันนะคะ เราไม่มีหลังไมค์ค่ะ thaibijousilver@yahoo.com จากคุณ : หาทางออก เขียนเมื่อ : 9 มี.ค. 55 21:03:47 A:115.87.97.113 X: TicketID:159970

ความคิดเห็นที่ 61 คิดอยากช่วย จขกท. ทำงานที่ทำไม่ทันขณะนี้นะคะ เพราะบอกว่าแพ้ท้องอยู่...เชื่อว่าทำไม่ค่อยไหว จะนับของ หรือแพ็กของก็ช่วยได้ แต่เราเป็นคนแปลกหน้าต่อกัน...คุณควรจะเชื่อเราไหม? เอาเป็นว่าถ้า จขกท.อยากให้ช่วยทำอะไรช่วงแพ้ท้องนี้ก็ยินดีช่วยนะคะ โดยที่คุณคิดแล้วว่าเซฟสำหรับตัวเองน่ะค่ะ จากคุณ : หนูมิลาน เขียนเมื่อ : 10 มี.ค. 55 14:10:38

ความคิดเห็นที่ 62 เห็นด้วยกับ เว็บดีล และ ร้านเจ๊เล้งนะคะ ลองเข้าไปคุยดู หรือลองฝากวางที่ร้านยาเล็กๆ หรือร้าน คสอ ในห้างที่เป็นตู้ๆ ลดขนาดลงให้เหลือขวดนึงราคาไม่เกิน 300.- คนน่าจะซื้อได้ง่ายกว่าขวดนึงเป็นพัน เพราะมันคือการลองใช้ดู  ถ้าลองเป็นพันและไม่แน่ใจในผลเป็นเราคงไม่ลอง หรืออยากฝากร้านแม่เราขาย ก็ติดต่อมาค่ะ  แต่ร้านเล็กๆนะคะ คงไม่ได้ขายได้เยอะมากมายอะไร สู้ๆ เป็นกำลังใจให้ค่ะ จากคุณ : biletec เขียนเมื่อ : 10 มี.ค. 55 15:26:48

ความคิดเห็นที่ 63 เราไม่มีทุนทรัพย์เพียอพอที่เพช่วยเหลือในช่วงนี้ เพราะว่าตอนนี้กรอบ เหมือนกันค่ะ เหลือแต่แรงกายที่พอช่วยได้ ให้ช่วยนับของแพคของได้อยู่ เราว่างเสาร์ -  อาทิตย์ค่ะ, จันทร์-ศุกร์ ทํางานประจํา จะให้ช่วยขายบนFB ด้วยก็ยินดีค่ะ เดี๋ยวเราจะแชร์/แปะลิงค์ บนเฟซของเพื่อนๆให้ด้วย ยินดีทําด้วยใจค่ะ เมลล์เรานะค่ะ chanan_ibenes@hotmail.com ค่ะ จากคุณ : IBeNes เขียนเมื่อ : 10 มี.ค. 55 21:41:27

ความคิดเห็นที่ 64 เดี๋ยวหนูเปนพรีเซนเตอร์ให้เอง ฟรีเลย ถือว่าช่วยกัน!!  5555 หนูขาวหมวยเลยคะ สนใจหลังไมค์มาขอเฟสดูหน้าหนูได้ค่ะ  55555 เอ้ออ อยากทราบว่าจขกท ขายอาหารเสริมใช่ป่าวคะ คือหนูอยากขาวกว่านี้อีกอ่าคะ มีตัวไหนแนะนำบ้างมั้ยคะ สนใจๆ :) จากคุณ : เขียนบน iPhone (chachamijo) เขียนเมื่อ : 12 มี.ค. 55 02:49:14

ความคิดเห็นที่ 65 เป็นประโยชน์ ดีมาก ปล. ใครจะทำธุรกิจกับเจ๊ แนะนำให้ลองดู ประตูทางเข้าห้องเจ๊ก่อน ค่อยตัดสินใจ ถ้าจะทำ นะ ย้ำ ถ้าจะทำ ไป ยืนดูหน้าประตูห้องเจีเล้ง ชั้น 1 ซ้ายสุด ถ้ายืนดู 1 ชั่วโมงแล้วคุณรับได้ ค่อยเข้าไปคุย ถ้ารับไม่ได้ เดินออกมาครับ  ผมยืนอยู่ 3 ชั่วโมง ตรงนั้น เลยตัดสินใจกลับ จากคุณ : เจ้าหญิงน้อยแห่งอันดามัน เขียนเมื่อ : 12 มี.ค. 55 11:40:37

ความคิดเห็นที่ 66 คุณ จขกท สู้ๆน้า ^____^ จากคุณ : Mara_padkhai เขียนเมื่อ : 12 มี.ค. 55 20:36:20