ความคิดเห็นที่ 1 ตอบไม่ได้หรอก....เพราะความต้องการของคนนั้นแตกต่างกัน.. บางคนใช้เงินเดือนละหกพัน เต็ดพันบาท ก็พอใจ อยู่ได้สบายๆ..ไม่ดิ่นรนแล้ว... แต่บางคนเงินเดือนเป็นแสน ยังต้องไขว่คว้าไม่ยอมหยุด... ภาระครอบครัวรุมเร้ารอบด้าน... เงินเป็นแสนก็ไม่พอ... ปัจจุบันผมเกษียณการทำงานแล้ว... บำนาญที่ได้รับ..บวกกับเงินดอกเลี้ยจากสถาบันออมทรัพย์ สำหรับผมเกินพอ... จากคุณ : หมู4X เขียนเมื่อ : 8 มี.ค. 55 11:43:14

ความคิดเห็นที่ 2 เงินลงทุน 10 ล้านบาทครับ จากคุณ : Shinemon คุง เขียนเมื่อ : 8 มี.ค. 55 11:45:40

ความคิดเห็นที่ 3 ไม่ได้อยู่ที่จำนวนเงิน แต่อยู่ที่คำว่า"พอ" จากคุณ : porlor เขียนเมื่อ : 8 มี.ค. 55 11:54:20

ความคิดเห็นที่ 4 เงินลงทุน 10 ล้าน และทำให้งอกเงยอย่างต่ำปีละ 10% ซึ่งเป็นเงินใช้จ่ายของเรา จากคุณ : by iPhone (บ้าแพะ) เขียนเมื่อ : 8 มี.ค. 55 12:11:33

ความคิดเห็นที่ 5 คือเอาแนวคิดและการใช้ชีวิตของเพื่อนสมาชิกเป็นหลักค่ะ ว่าเพียงพอสบายๆของท่านนี่ต้องยังไง ต้องมีเงินเท่าไหร่ จัดการและใช้เงินอย่างไร  ขออภัยคำถามอาจจะรวมไปหน่อย จากคุณ : จขกท (จันทร์สุขสดใส) เขียนเมื่อ : 8 มี.ค. 55 12:15:14

ความคิดเห็นที่ 6 จขกท.น่าจะเปลี่ยนระบบคิดใหม่ครับ คำว่าบุคลากรของชาติ ไม่ว่าชาติใดๆนั้น ไม่ได้เกิดมาเพื่อที่จะมองเฉพาะตัวเอง เอาตัวเองรอดอย่างเดียว คำว่า GDP นั้นคือผลของการทำงานของบุคลากรในชาตินั้นๆ ช่วยกันสร้างขึ้นมา หากคนคิดเพียงที่ จขกท.คิด ลองคิดถึงภาพรวมดูว่า ถ้าประเทศใด มีคนเช่นนี้มากๆ ประเทศนั้นจะเป็นเช่นไร จากคุณ : พี (peh_chai) เขียนเมื่อ : 8 มี.ค. 55 12:17:35

ความคิดเห็นที่ 7 #6 ดีแล้วที่พูดประเด็นนี้ น่าสนใจยิ่ง  เราเข้าใจกันถูกทางหรือไม่ ระบบทุนนิยมดีจริงหรือไม่ เราต้องการGDPสูงไปทำไมหากคนในชาติยังไม่มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น  คนรวยกระจุกคนจนกระจาย คนมีอำนาจและโอกาสครอบครองทรัพยากรของโลกที่มีอย่างจำกัดไว้มากเกินไปไหม  การแข่งขันเสรีดีไหม ช่วยไม่ได้โง่กว่าด้อยกว่าก็ต้องเป็นลูกน้องเป้นทาสเขา มือใครยาวก็สาวได้สาวเอา แบบนั้นดีไหม   GDP = C+G+I+X-M CGIสูงๆดีจริงเหรอ  ส่งออกให้มากกว่านำเข้าดีจริงเหรอ C การบริโภค, G การใช้จ่ายรัฐบาล, I การลงทุน เราต้องทบทวนระบบทุนนิยม และประชาธิปไตย(ที่ไม่แท้จริง แค่อ้าง) กันใหม่ไหม ค่านิยมที่ว่าโกงได้แต่ขอให้ทำงานและ   ทุกพรรคหรือการเมืองท้องถิ่นก็ซื้อเสียงกันทั้งนั้น  ค่านิยมแบบนี้ควรเปลี่ยนหรือไม่ ขออภัย ออกนอกเรื่องยาว เพียงแค่ถามให้คิด และมันก็ยังคงไม่มีคำตอบที่ตายตัวถูกต้อง จากคุณ : จขกท (จันทร์สุขสดใส) เขียนเมื่อ : 8 มี.ค. 55 12:43:26

ความคิดเห็นที่ 8 100 ล้าน จบ ทุกกรณี จากคุณ : mak2010 เขียนเมื่อ : 8 มี.ค. 55 13:18:31

ความคิดเห็นที่ 9 มีเงินเท่าไหร่ไม่รู้ครับ แต่คุณตัน , เจ้าสัวซีพี , เจ้าของเบียร์ช้าง ฯลฯ  ทุกวันนี้ก็ยังทำงาน แต่ถ้าพอใจกับเงินที่มีแล้ว ก็ไปทำงานเพื่อสังคมแทนก็ได้ครับ  เช่น อาสาฯต่างๆ จากคุณ : puieang เขียนเมื่อ : 8 มี.ค. 55 13:20:44

ความคิดเห็นที่ 10 10 ล้านก็นั่งแดก นอนแดก ไม่ต้องทำอะไรได้แล้ว ฝากประจำทั่วไปเฉลี่ยดอกเบี้ย 3% (ประจำ 12 เดือน) http://www.ดอกเบี้ยเงินฝาก.com จะได้ ปีล่ะ 300,000 บาทต่อปี = 25,000 บาทต่อเดือน สูงสุด 4.1% (ธ.เกียรตินาคิน) = 34,166 บาทต่อเดือน ถ้ามี 20 ล้าน ได้ = 50,000 บาทต่อเดือน ถ้ามี 20 ล้าน ได้ = 68,333 บาทต่อเดือน ถ้ามี 30 ล้าน ได้ = 75,000 บาทต่อเดือน ถ้ามี 30 ล้าน ได้ = 102,500 บาทต่อเดือน ปัญหาคือจะหาเงินฝาก 10-30 ล้านได้อย่างไร ? คำตอบ ทำอาชีพที่หาเงินได้เร็ว ๆ เช่น 1. เล่นหวยเผื่อฟลุคถูกรางวัลใหญ่ หวยรัฐบาล หวยออมสิน หวยธกส 2. เล่นหุ้น เก็งกำไรค่าเงิน forex เก็งกำไรที่ดิน เก็งกำไรต่าง ๆ 3. ทำอาชีพที่หาเงินหลักแสนขึ้นไปได้ง่าย เช่น นายหน้า ขายตรง พ่อค้าแม่ค้าตัวกลางซื้อมาขายไป ใครถูกหวยรัฐบาล อย่างลุงคนนี้ซัดไป 38 ล้าน http://breakingnews.nationchannel.com/read.php?newsid=554946 ฝากธนาคารกินดอกรับเละ 129,833 บาทต่อเดือน แต่คนถูกหวยก้อนโตส่วนใหญ่ 99% ใช้ตังไม่เป็น ได้เงินมาซื้อแหลกแป๊ปเดียวเงินหมด !!! จากคุณ : งวดนี้รวย เขียนเมื่อ : 8 มี.ค. 55 13:45:28 A:115.67.0.138 X: TicketID:210955

ความคิดเห็นที่ 11 สบายของคุณคืออะไร แล้วก็เอาเงินมาเทียบค่า แค่นั้นจบ จากคุณ : Tailogy เขียนเมื่อ : 8 มี.ค. 55 14:01:03

ความคิดเห็นที่ 12 ถ้ามีบ้าน รถพร้อม กินอยู่ประหยัด ตัวเลขกลมๆเดือนละ 1หมื่นก็พอมั้ง.. จากคุณ : u (kreingwit) เขียนเมื่อ : 8 มี.ค. 55 14:19:19

ความคิดเห็นที่ 13 มีเงินเท่าไหร่ก็ได้ครัีบ ตอนนี้ก็เริ่มพอแล้ว ค้าขายมาประมาณ 17 ปี แบบไม่มีภาระหนี้สิน ดำเนินการให้มีโสหุ้ยต่ำๆ ให้กิจการมีแต่รายรับ แต่ก็ยังคงต้องทำงาน ให้มียอดขายประมาณ เดือนละ 5-6 ล้านบาท เอารายได้และกำไรมาแบ่งลูกๆ และน้องๆ และเก็บค่าเช่าจากโกดัง และโรงงาน 12,000 ตรม. เก็บค่าเช่าพาเลทพลาสติกเดือนละ 20,000 แผ่น และคงต้อง ขยายการลงทุนไปเรื่อยๆ โดยไม่ให้เกิดภาระหนี้สินครับ จากคุณ : MPB เขียนเมื่อ : 8 มี.ค. 55 14:22:28 A:223.205.247.163 X: TicketID:315677

ความคิดเห็นที่ 14 ตอบ คห.7 จขกท. คงเข้าใจคลาดเคลื่อนระหว่าง การสร้างผลผลิต กับการจัดการผลผลิต ครับ อีกทั้งยังเข้าใจสับสนระหว่าง โอกาสการเข้าถึงทรัพยากร การแบ่งปันทรัพยากร ซึ่งมีสาเหตุมาจากระบบการจัดการแห่งรัฐนั้น รัฐ ถึงอย่างไรประชากรของรัฐยังคงต้องสร้างผลผลิต ซึ่งการสร้างผลผลิตนั้นก็ไม่ได้หมายรวมไปเสียทั้งหมดว่าต้องแลกเปลี่ยนเป็นเงิน ประเด็นที่ต้องการชี้ให้เห็น อยู่ตรงที่ว่า หน้าที่ประชากรแห่งรัฐนั้น ต้องทำงาน เพราะถ้ารัฐใดมีประชากรทำงานน้อยเท่าไร รัฐนั้นยิ่งอ่อนแอมากขึ้นเท่านั้น จากคุณ : พี (peh_chai) เขียนเมื่อ : 8 มี.ค. 55 14:49:47

ความคิดเห็นที่ 15 ตอบยากจังว่าต้องมีเงินเท่าไรถึงจะอยู่ได้อย่างสบาย ๆ โดยไม่ต้องทำงาน เพราะว่ารูปแบบการใช้ชีวิตของแต่ละคนไม่เหมือนกัน เมื่อก่อนก็เคยคิดเหมือนกันค่ะว่า ถ้ามีเงินเท่านี้เท่านั้นจะเลิกทำงาน จะอยู่อย่างสบาย ๆ ซะที ทุกวันนี้ ไม่เคยคิดเรื่องจะเลิกทำงานแล้วค่ะ เพราะได้รู้แล้วว่า งาน ยังมีอีกหลายอย่างที่ทำให้เราเรียนรู้และสนุก ถ้าเหนื่อยนักก็พักก่อน สำหรับตัวเองแล้ว ไม่ว่าจะมีเงินเท่าไร ก็จะทำงานต่อไปค่ะ แต่จะเป็นงานที่อยากจะทำ และงานที่เรารู้สึกสนุกที่ได้ทำค่ะ จากคุณ : ทะเลสวย น้ำใส เขียนเมื่อ : 8 มี.ค. 55 15:53:11

ความคิดเห็นที่ 16 มีที่ดิน สวน ไร่ บ้านสักหลัง ไม่ต้องมีเงินก็อยู่ได้ล่ะ จากคุณ : นาฬิกาปลาดาว เขียนเมื่อ : 8 มี.ค. 55 16:17:34

ความคิดเห็นที่ 17 มันไม่สบายหรอก ผมเป็นอยู่ (อายุ 30) ทุกวันนี้ได้เดือนละ 100k โดยไม่ต้องทำไรมากมาย (จะไม่เชื่อก็ได้) ถึงมันจะสบายกายแล้วก็จริง แต่ข้างในใจไม่ค่อยสบายมากขึ้นกว่าเดิมเท่าไหร่เลย จริงๆนะ เข้าใจเลยว่า คนรวยๆ บางคน ทุกข์กว่าคนจนเพราะอะไร ถ้าใจเค้าไม่พอ ไม่มีทางถึงสุขได้ ลองมานั่งๆคิดดู เพราะใจมันอยากมีมากกว่านี้อีก อยากทำต่อ อยากลงทุนเพิ่ม อยากๆๆ  ทุกวันนี้ต้องทำสมาธิ เพื่อให้ใจมัน"พอ" ให้ได้ แล้วมันจะรู้สึกเป็นสุขขึ้น เพราะงั้น ความสบายๆ กับ เงิน ดูเหมือนจะเป็นเรื่องเดียวกันทั้งหมด แต่จริงๆแล้วผมว่าแค่ 20% นะ ที่เหลือขึ้นอยู่กับใจล้วนๆ จากคุณ : eau_med เขียนเมื่อ : 8 มี.ค. 55 16:28:29

ความคิดเห็นที่ 18 x แก้ไขเมื่อ 08 มี.ค. 55 16:52:28 จากคุณ : Roby เขียนเมื่อ : 8 มี.ค. 55 16:50:20

ความคิดเห็นที่ 19 x จากคุณ : Roby เขียนเมื่อ : 8 มี.ค. 55 16:52:52

ความคิดเห็นที่ 20 ตอบเชิงอุดมคติบอกว่า ต้องรู้จักพอ แต่จริงๆแล้ว ถ้าเราไม่ฟุ่มเฟือย อย่างน้อยเราก็ยังมีรายจ่ายประจำอยู่ดี ค่ากิน ค่าอยู่ ค่าน้ำค่าไฟ จริงไหมครับ การอยู่ได้ในระยะยาว ต้องป้องกันในเรื่องค่ารักษาพยาบาลก่อน เพราะน่าจะหนักสุดเมื่ออายุมากขึ้นครับ  ดังนั้น คิดแค่เงินกินอยู่ไม่เพียงพอ ต้องทำประกันสุขภาพในระยะยาวด้วย ผมเองคิดว่า โดยทั่วไป เงินที่อยู่ได้ในกทม แบบมีบ้านมีรถ ไม่มีหนี้เนี่ย เดือนละ 20000-25000 บาท น่าจะเพียงพอสำหรับการอยู่แบบสมถะ ซึ่งนั่นหมายถึงว่า น่าจะมีเงินเก็บอย่างน้อย 7-10 ล้าน และสามารถลงทุนเพื่อชดเชยการลดของกำลังซื้ออันเนื่องจากเงินเฟ้อได้ด้วยครับ แต่คุณสามารถเริ่มลดความเสี่ยง ได้ตั้งแต่วันนี้ด้วยการเริ่มออกกำลังกายและรักษาสุขภาพครับ อาจจะช่วยลดจำนวนเงินที่คุณต้องหาไปอีกหลายล้านเลย จากคุณ : ป้อม (Bgate) เขียนเมื่อ : 8 มี.ค. 55 21:28:20

ความคิดเห็นที่ 21 ต้องดูไลสไตล์และพื้นฐานครอบครัวเดิมค่ะ ใช้+เก็บ(ออม+ประกัน)+ลงทุน อย่างมีความสุขตามอัตถภาพกับครอบครัว เช่น ไลสไตล์จะบ่งบอกถึงจำนวนเงินที่ใช้เพื่อความสุข/สนุก/งานอดิเรก/ของสะสม ซึ่งทุกคนมักจะมีและค่อนข้างจะดูสิ้นเปลืองในสายตาคนอื่น(เพราะแต่ละคนชอบไม่เหมือนกัน ส่วนนี้ต้องคำนวณไว้แต่ไม่ควรก่อให้เกิดหนี้ คือ ซื้อตอนเงินเหลือนั่นเอง พื้นฐานเดิมทางครอบครัว จะเป็นตัวบอกถึงปริมาณเงินที่เราควรทำงานหามาได้ ควรมากกว่าหรือเท่าๆเดิม เพราะทุกคนฝันว่าจะชีวิตจะมีความเจริญก้าวหน้า พ่อแม่ก็ภาคภูมิใจ เพราะฉะนั้นยิ่งคุณเคยจนก็จะยิ่งมีต้นทุนสูงและไม่เครียดที่ยังไงก็ไม่จนกว่าเดิมถ้าไม่ติดอบายมุขซะก่อน และภาระครอบครัวยังเป็นตัวบอกถึงรายจ่ายหลักที่แม้จะหนักแต่ก็เป็นสุข ได้แก่ ส่งเสียน้อง/ลูก ดูแลพ่อแม่ ใช้=ปัจจัย4+เทคโนโลยี เก็บ=ออมเงิน(สั้น+ยาว) + ประกันสุขภาพ/ชีวิต/บ้าน ลงทุน= เพื่อเป็นบำนาญชีวิต คุณจะเกษียณได้ตอนอายุเท่าไรและแบบไหนมักขึ้นกับตรงนี้ ปล.การลงทุนที่คุ้มค่าที่สุด คือ การเลี้ยงดูส่งเสียบุตรหลานให้มีความรู้ในการประกอบอาชีพสุจริตและมีศีลธรรม ไม่เชื่อลองดูพ่อแม่ที่มีลูกทำงานที่มั่นคงมีความกตัญญูเลี้ยงดูพ่อแม่ที่บางคนยังไม่ถึงวัยเกษียณเลยด้วยซำ้ สุดท้ายอยากจะบอกว่า ถึงจะมีรายได้ล้านกว่าๆต่อปีก็ยังไม่มีเหลือมากนัก จากไลสไตล์และภาระครอบครัวค่ะ ดีที่อยู่ราชการเลยค่อนข้างมั่นคง แถมอยู่สายสาธารณสุขไม่ค่อยห่วงเรื่่องเจ็บป่วยของตนเองและพ่อแม่มากนัก แต่ก็ยังซื้อประกันอยู่บ้างนะคะเพื่อความไม่ประมาท จากคุณ : by iPhone (หาได้แคร์ไม่) เขียนเมื่อ : 9 มี.ค. 55 00:07:52

ความคิดเห็นที่ 22 ผมคิดไว้ตั้งแต่ปีที่แล้วแล้วครับ ว่าถ้าจะเลิกทำงานตอนปีที่แล้ว(อายุ20) ต้องมีเงิน 365ล้านบาทครับ ความคิดของผมคือ ผมอายุ 20ปี ถ้าผมต้องการอยู่เฉยๆ ไม่ทำงาน แต่มีชีวิตสบายๆ ผมต้องการใช้เงินวันละ 20,000บาท ดังนั้น 1ปีผมต้องใช้เงิน 7.3ล้านบาท ถ้าผมอายุยืนปกติ ผมอาจจะตายตอนอายุซัก70ปี ก็คือเหลือเวลาอีก 50ปี ดังนั้นผมต้องใช้เงิน อีก 50x7.3= 365ล้านบาท คิดคร่าวๆนะครับ เรื่องค่าเจ็บป่วยต่างๆ ผมว่าวันนึงผมใช้ไม่ถึงหรอก 20,000บาทอะ ถ้าเกิดเจ็บป่วยก็หักลบกับเงินที่เหลือในแต่ละวัน ดังนั้นถ้าทำตามนี้ได้ ผมคิดว่าไม่น่าจะมีปัญหาทางการเงินนะ ปล.ตอนนี้อายุ 21ละ เป้าหมายลดลงมาเหลือแค่ 357.7ล้านบาทเอง จากคุณ : Teuton เขียนเมื่อ : 9 มี.ค. 55 06:20:39

ความคิดเห็นที่ 23 สัก 100 ล้านอ่ะ จากคุณ : ไม่หมูนะครับ เขียนเมื่อ : 9 มี.ค. 55 12:44:50

ความคิดเห็นที่ 24 มีเงินมาก คงอยู่สบาย มีเงินน้อย คงอยู่อย่างลำบากหน่อย แต่ถ้ามีแค่เงินอย่างเดียว...คงอยู่ไม่ได้ ดิฉันอยู่ไม่ได้ ถ้าไม่ได้ทำงานคะ อย่างที่คุณ eau_med บอกแหละค่ะ ดิฉันเงินเดือน 10k เองคะ แต่มีความสุขกับงานที่ทำอยู่ เงินใช้แค่เพียงซื้อปัจจัยสี่ ไม่เคยต้องใช้เงินเพื่อซื้อความสุขอย่างอื่นเลย ทุกวันนี้มีความสุขเพราะได้ทำงานที่รักนะคะ คนที่รวยเขาก็ยังทำงานกันนี่คะ จากคุณ : โลกนี้ไม่มีอะไรเลย เขียนเมื่อ : 9 มี.ค. 55 13:21:59