ความคิดเห็นที่ 1 วันที่ 3 ความสุขต้องมาก่อน สองวันก่อน พวกเราได้พูดกันถึงวิธีการเอาชนะความ สำเร็จ และ สิ่งที่ต้องลงทุนไปก่อนจะได้มา วันนี้ผมเองใคร่ขอเตือนคุณผู้อ่าน ว่า ไม่ควรประสบความสำเร็จไปปะปนกันเพียงแค่ความมั่งคั่ง การ ได้เงินเดือนสูงแต่งานสบาย การได้เป็นนักการเมืองผู้เกริกเกียรติ นักเขียนมีชื่อหรือนักประดิษฐ์ผู้ยิ่งใหญ่ หรือการได้ชื่นชมกับเสียง ปรบมือจากผู้ฟังทุกครั้งที่ตนปาฐก การได้เป็นนักกีฬา หรือ เทพบุตรในวงการแข่งขันทั้งหลาย ความสำเร็จ ย่อมสำคัญกว่าการบรรลุจุดประสงค์อย่างหนึ่งอย่าง ใดแน่นอน ลองพิจารณาดูตัวอย่างจากคนสักคนก็ได้ ผู้ชายคนหนึ่ง ตัดการเสพย์สุขทุกอย่างออกไป วันหยุดพักผ่อนก็ ไม่ยอมให้มี มุ่งหน้าแต่จะรวบรวมทรัพย์สมบัติให้มั่งคั่งอยู่ทุกขณะ จิต จุดมุ่งหมายคือ เพราะพยายามจะเป็นคนร่ำรวยจนสามารถจะมี ไก่กินเป็นประจำสำหรับอาหารเย็นทุก มื้อ ในที่สุดเขาก็รวยถึงขั้น นั้นจริงๆ แต่กลายเป็นว่าเขาไม่รู้สึกอยากกินไก่อีกเลย เพราะไก่ ไม่อร่อยอีกต่อไปแล้วและฟันยังไม่มีจะเคี้ยวเสียอีก คุณผู้อ่านจะ พูดได้ไหมครับว่า ผู้ชายคนนี้ประสบความสำเร็จ.... ผมว่าไม่ อย่างแน่นอน จากคุณ : ลุงแอ็ด เขียนเมื่อ : 12 มี.ค. 55 09:34:20

ความคิดเห็นที่ 2 ภาพ  :  ห้องกล้อง  พันทิบดอทคอม จากคุณ : ลุงแอ็ด เขียนเมื่อ : 12 มี.ค. 55 09:35:28

ความคิดเห็นที่ 3 มีอีกหลายคน ที่ขึ้นถึงยอดแห่งความเป็นผู้มีชื่อเสียง แต่เพราะมีเกียรติและอำนาจที่ตัวเองจะ ต้องตามเฝ้ารักษา ทำให้ต้องสูญเสียเพื่อนไปมากมายเมื่อโลกนี้อยู่อุ้งบาทของพวกเขาแล้วกลับ ต้องความสุข สนุกสนานในชีวิตไป บางคนถึงขึ้นฆ่าตัวตาย เพราะความเบื่อหน่ายว้าเหว่เต็มที่ ดังนั้นต้องทำความเข้าใจให้แน่ชัดว่า ความสุขต้องเป็นจุดประสงค์อันดับแรกของคุณไว้ก่อน เสมอ อย่าได้ถือว่าเป็นเรื่องธรรมดา ดาราภาพยนตร์ศิลปินสร้างสรรค์ ตลอดจนผู้หญิงผู้ชายที่ทำ งานทั้งหลายต่างเคยเสียใจมาแล้วที่อุทิศความสุขของ ตัวเองไปแลกกับความมีชื่อเสียง เกริก เกียรติ อำนาจ หรือความมั่งคั่งแม้เพียงจะขยายเวลาออกไปสักนิด ไม่คว้าสิ่งเหล่านี้เสียเดี๋ยวนั้น ก็ถือว่าเป็นความเสี่ยง ขอให้วางแผนชีวิตของคุณไว้ให้ได้ว่า แผนนั้นจะต้องให้ชื่นชมกับความสำเร็จในระยะสั้นบ้าง แต่ คุณเองยังคงดำเนินเพื่อเอาชนะจุดมุ่งหมายที่วางแผนระยะยาวเอาไว้ จุดมุ่งหมายที่คุณจะขาดเสียมิได้นั้นรวมถึงความรักของครอบครัวของคุณ ความรักความซื่อสัตย์ ของบรรดาเพื่อนพ้อง ความนับถือที่คุณต้องได้จากเพื่อนร่วมงาน ตลอดจนผู้บังคับบัญชาเห็น และประจักษ์ใจในความสำคัญของคุณ การที่จะบรรลุเป้าดังกล่าวนี้ ก็ด้วยการถือนโยบายให้และรับ จากคุณ : ลุงแอ็ด เขียนเมื่อ : 12 มี.ค. 55 09:39:09

ความคิดเห็นที่ 4 ภาพ  :  ห้องกล้อง  พันทิบดอทคอม จากคุณ : ลุงแอ็ด เขียนเมื่อ : 12 มี.ค. 55 09:39:49

ความคิดเห็นที่ 5 ในการแสวงหาความสุข คนเราต้องพึ่งปรัชญาหลายหลากมีปรัชญาของพุทธศาสนา ปรัชญาจาก สำนักของจีนและปรัชญาทางฝ่าย คริสต์ศาสนา สำหรับคนทั่วไปอย่างคุณผู้อ่านกับผมแล้วจะ เชื่อปรัชญาใหญ่ๆ อยู่ 2 แขนงคือ พวกหนึ่งเชื่อว่า ชีวิตคือการรับ อีกพวกหนึ่งชีวิตคือการให้แต่ สิ่งสูงสุดก็คือ มีทั้งให้และรับร่วมกัน ซึ่งค่อนข้างจะหนักไปทาง ให้ นั้นมากกว่า ยอดนักขายของบริษัทประกันภัยคนหนึ่งชื่อ วาช ยัง เคยเขียนหนังสือไว้เล่มหนึ่งชื่อ ความสุข คือการให้ ได้ช่วยกระตุ้นคนเป็นจำนวนล้านให้ใฝ่หาความสุขในชีวิตเขากล่าวไว้ว่า นักขายที่ได้ ชื่อว่าประสบความสำเร็จนั้น คือนักขายที่เน้นทางด้านให้มากกว่าทางด้านรับ โคลแมน คอกซ์ กล่าวเป็นเชิงแนะนำไว้อย่างเฉียบขาดตรงไปตรงมาว่า “สร้างลูกค้าให้มาเป็นมิตร อย่าสร้างมิตร ให้เป็นลูกค้า” จากคุณ : ลุงแอ็ด เขียนเมื่อ : 12 มี.ค. 55 09:42:10

ความคิดเห็นที่ 6 ภาพ  :  ห้องกล้อง  พันทิบดอทคอม จากคุณ : ลุงแอ็ด เขียนเมื่อ : 12 มี.ค. 55 09:42:48

ความคิดเห็นที่ 7 สร้างเพื่อนเอาไว้ก่อน หนทางสร้างเพื่อนมีมากมาย คุณอาจจะสร้างเพื่อนให้มาเป็นมิตรด้วยการเพียงให้ยืมหนังสือ หรือนิตยสารไปอ่านสร้างเพื่อนภายในที่ทำงานเดียวกัน ด้วยการกล่าวทักทายอย่างจริงใจทุก เช้าที่เดินเข้าที่ทำงาน และทุกเย็นที่ต้องจากกัน ในระหว่างมิตรสนิทอย่าลืมให้คำเสริมที่เป็น กำลังใจในเวลาอันเหมาะหรือ คำยกย่องในเวลาอันควร คุณจะสร้างความสำเร็จพร้อมกับความสุขได้อย่างมั่นใจที่สุดคือ ขยายวงเพื่อนฝูงมิตรสหายให้ กว้างออกเหมือนกับที่คุณขยายงานขยายธุรกิจ ฉันใดก็ฉันนั้น ถ้าหากคุณรู้จักแบ่งปันความสำเร็จ แล้ว คุณจะไม่เคยขาดเพื่อนฝูง และมิตรภาพที่แท้จริงนั่นเอง จะส่งผลสะท้อนเป็นความสุขความ รื่นรมย์ สำหรับคุณ มีคนที่ได้ชื่อว่าประสบความสำเร็จไม่น้อยที่รำพึงรำพันออกมาว่าพวกเขาเหงา เหลือเกิน ทั้งๆ ที่ มีสโมสร สมาคมอยู่มากมายคนเหล่านี้เข้าไปแต่ไม่เคยพบความพอใจเลย ได้เพื่อนใหม่มาก็ เพียงเพื่อจะเสียไป เพราะอะไร คนส่วนมากที่ว้าเหว่ จะว้าเหว่ก็เพราะเขาสร้างกำแพงขึ้นล้อม รอบตัว แทนที่จะสร้างสะพานขึ้นมา เพื่อมิตรภาพกับผู้อื่น และคนที่ไม่รู้จักและคนที่ไม่มีเพื่อนใช่ ว่าจะเป็นคนที่ไม่รู้จักหาเพื่อน แต่เป็นคนที่ไม่รู้จักรักษาเพื่อนเอาไว้เท่านั้น (ขอให้พลิกไปอ่าน วันที่ 7 ดู) จากคุณ : ลุงแอ็ด เขียนเมื่อ : 12 มี.ค. 55 09:44:39

ความคิดเห็นที่ 8 ภาพ  :  ห้องกล้อง  พันทิบดอทคอม จากคุณ : ลุงแอ็ด เขียนเมื่อ : 12 มี.ค. 55 09:45:16

ความคิดเห็นที่ 9 ความสุขก็ไม่ได้ขึ้นกับความร่ำรวย ตรงกันข้าม ความร่ำรวยมักจะเป็นสาเหตุแห่งความไม่เป็นสุข เสียอีก ครอบครัวหนึ่งครอบครัวใด หากถูกลอตเตอร์รี่ ก็จะกลายเป็นคนร่ำรวยภายในหนึ่งวันได้ แล้วปัญหาที่ตามมาก็ เช่น จะซื้อรถยี่ห้ออะไรมาใช้ดี บ้านจะกลายเป็นยิ่งกว่าโรงแรม คนอิจฉา ริษยาก็มีมากขึ้นเป็นกองเหมือนสิ่งปฎิกูลที่ถูกน้ำพัดพามาทับถมไม่ น่าครอบครัวนั้น ก็จะแตก เป็นเสี่ยง ยุบลงราบดิน ความไม่สงบสุข ย่อมเนื่องมาจากความโลภ ความกังวล ความอิจฉาริษยา และความสงสัยในพิรุธ ลองมองไปที่ภาพของเด็กอนุบาลที่น่ารักสักคน เธอมีชอคโกแลต อยู่แท่งหนึ่งหยิบขึ้นมาแล้ว แบ่งให้เพื่อนร่วมชั้นเรียน เธอเองกินเพียงครึ่งเดียวแต่ความสุขใจเธอมีเป็นสองเท่า จากการที่ เธอได้แบ่งปันเพื่อนฝูงแต่เพื่อนของเธออีกคนกำลังแอบหลบไปอยู่ที่ มุมห้อง เพียงเพื่อจะได้ กิน ชอกโกแลตของเธอเพียงลำพัง ความพอใจ มักน้อยสันโดษ เป็นเรื่องจำเป็นมากสำหรับความสุข เพราะสิ่งที่เราเรียกว่าความสุข นั้นถือเป็นเรื่องเฉพาะตนและจีรังเป็นเพียง ชั่วครั้ง ชั่วคราวเท่านั้น ยกตัวอย่างให้เห็นได้ง่ายก็ อย่างเช่น เด็กคนหนึ่ง ไม่มีรองเท้าจะสวมใส่ เป็นทุกข์เป็นร้อนขนาดหนัก แต่พอเดินไปเห็นคน หนึ่งขาด้วนเดินสวนทางมาค่อยสบายใจขึ้น ขณะที่คุณพยายามอย่างยิ่งในชีวิตเพื่อจะไต่เต้าไป สู่ตำแหน่งที่ดีกว่า ขอให้ระวังว่าจะต้องไม่เสียใจในเมื่อตำแหน่งนั้น ยังมาไม่ถึง หรือ คุณแพ้ เพียงชั่วครั้งชั่วคราวความไม่พึงพอใจย่อมเป็นตัวสร้างความทุกข์ที่มีพลังยิ่ง คนที่มีความสุข คือ คนที่หาความสุขจากสิ่งที่เขามี เขาพอใจที่จะรักษาดวงดาวที่ชีวิตนี้มีมาให้เขา ดื่มด่ำหาความสุข จากการลิ้มลองสิ่งที่ฟ้าประทานมา ส่วนคนที่ไม่มีความสุขนั้น จะยื่นมือแห่งความโลภกระหาย ไขว่คว้าดวงดาวที่สูงสุดกู่ แต่ก็ต้องเศร้าใจ เมื่อดวงดาวนั้นสูงสุดเอื้อม จากคุณ : ลุงแอ็ด เขียนเมื่อ : 12 มี.ค. 55 09:49:01

ความคิดเห็นที่ 10 ภาพ  :  ห้องกล้อง  พันทิบดอทคอม จากคุณ : ลุงแอ็ด เขียนเมื่อ : 12 มี.ค. 55 09:49:37

ความคิดเห็นที่ 11 ทั้งนี้ไม่ได้หมายความว่า คนที่มีความสุขจะไม่ต้องการ มีเหมือน]กัน แต่เป็นประเด็นแตกต่างที่ต้องคิด คนเหล่านี้จะเป็นหนี้บุญคุณต่อสิ่งที่เขามี แล้วค่อยหาเพิ่มเติม ส่วนคนทุกข์ทรมานย่อมตรงกัน ข้าม คือเป็นคนโลภะทะยานและโมโทสัน สิ่งที่ตนเองมีอยู่ไม่เคยสนใจโดยถือเป็นของเพียงเล็ก น้อยจิ๊บจ๊อย และเฝ้าแต่ไขว่คว้าสิ่งที่สุดเอื่อม เหมือนกับสุนัขขี้โลภในนิทานอีสป ที่มองเป็นเงา ตัวเองในน้ำ แล้วกระโดดลงไปในลำธารเพื่อจะแย่งก้อนเนื้อชิ้นโตจาก “สุนัขอีกตัว” จนกระทั่ง ก้อนเนื้อที่อยู่ในปากของตนต้องหลุดลอยไป คนที่ขาดความสุขคือคนลืมสิ่งที่ตนมี กลัดกลุ้มกับ โชคลาภของคนอื่น ปรารถนาก็แต่สิ่งที่ดีล้นซึ่งอยู่ในมือของคนอื่นรอบข้าง คนอย่างนี้ดีแต่ดันทุรัง เชื่อว่าหญ้าบริเวณรั้วอีกข้างหนึ่งย่อมเขียวสดกว่า เสมอ พวกนี้มักจะเห็นว่าชีวิตเป็นโรงอาหาร แบบบริการตัวเอง ครั้งแรกตนเองก็เลือกตักอาหารที่ตนชอบ แต่พอเห็นคนอื่นตักอาหารอย่างอื่น ตัวเองอยากได้อาหารอย่างนั้นบ้าง ไม่สนใจอาหารที่ตนเองมีเอาเสียเลย จากคุณ : ลุงแอ็ด เขียนเมื่อ : 12 มี.ค. 55 09:52:44

ความคิดเห็นที่ 12 ภาพ  :  ห้องกล้อง  พันทิบดอทคอม จากคุณ : ลุงแอ็ด เขียนเมื่อ : 12 มี.ค. 55 09:53:20

ความคิดเห็นที่ 13 อย่าลืมยึดที่พึ่งทางใจเอาไว้ จากการสำรวจที่อเมริกา เมื่อไม่นานมานี้พบว่า 50 เปอร์เซ็นต์จากกลุ่มสุ่มตัวอย่างมีความเห็นว่า หากมีเงินมากขึ้นจะทำให้พวกเขามีความสุข อย่างไรก็ตาม 86 เปอร์เซ็นต์ของกลุ่มพอจะพูดได้ ว่ามีความสุขนั้น บอกว่า แหล่งแห่งความพอใจและเป็นที่พึ่งได้ ของพวกตนมาจากศาสนา เฮนรี่ ซี ลิงค์ นักจิตวิทยาคนหนึ่งเขียนไว้ในหนังสือ Return to Religion ได้บอกเคล็ดลับเรื่องความ สุขให้แก่สังคมไว้ง่ายๆว่า “ให้หันหน้าเข้าหาพระ” ในการแสวงหาความสุข หากคุณยึดทางพระศาสนาไว้เป็นที่พึ่งทางใจแล้ว จะไม่มีวันพลาดความ สุขเลย เพราะว่าแผนแห่งความสุขจะต้องตั้งอยู่บนความซื่อสัตย์ และศรัทธาที่มั่นคง คุณจะไม่มี วันฝืดเคืองและขมขื่นหากคุณยึดสองสิ่งนั้นไว้ในหัวใจ ความอดทนจะช่วยเป็นน้ำหล่อเลี้ยงความ แข็งแรงให้แก่ชีวิต ให้คุณได้ขยันหมั่นเพียร จนกว่าคุณจะชนะได้อย่างเด็ดขาด ท้ายสุด โปรดจำไว้ว่า ถึงแม้ความสำเร็จตามจุดมุ่งหมายจะขึ้นอยู่กับโอกาสแห่งกาลเวลา สถาน ที่ และผู้อื่นรอบด้านก็ตาม แต่ความสุขที่แท้จริงขึ้นอยู่กับตัวคุณเท่านั้น เมื่อคุณถูกยั่วยุให้คิดไป อย่างอื่น พอให้ท่องคำพูดที่ชาญฉลาดของนักปรัชญาที่กล่าวไว้ว่า “คุณจะมีความสุขได้ ถ้าคุณรู้ว่า สิ่งสำคัญในชีวิตไม่ได้อยู่ที่ฐานะ หรือตำแหน่งหน้าที่ แต่อยู่ที่ ความพึงพอใจของเราเองต่างหาก” จากคุณ : ลุงแอ็ด เขียนเมื่อ : 12 มี.ค. 55 09:55:14

ความคิดเห็นที่ 14 ภาพ  :  ห้องกล้อง  พันทิบดอทคอม จากคุณ : ลุงแอ็ด เขียนเมื่อ : 12 มี.ค. 55 09:55:49

ความคิดเห็นที่ 15 30 วัน สูตรสู่ความสำเร็จ ตอนที่ 1 : 30 วัน สูตรสู่ความสำเร็จ บทที่ 1 http://www.pantip.com/cafe/silom/topic/B11789844/B11789844.html#15 ตอนที่ 2 : 30 วัน สูตรสู่ความสำเร็จ วันที่ 1. ความสำเร็จเป็นสิ่งที่คุณจะต้องเอื้อม http://www.pantip.com/cafe/silom/topic/B11794884/B11794884.html#13 ตอนที่ 3 : 30 วัน สูตรสู่ความสำเร็จ วันที่ 2. ราคาแห่งความสำเร็จ http://www.pantip.com/cafe/silom/topic/B11803153/B11803153.html จากคุณ : ลุงแอ็ด เขียนเมื่อ : 12 มี.ค. 55 09:58:00

ความคิดเห็นที่ 16 โปรดติดตามตอนต่อไป.......(อย่าลืมเก็บในกระทู้เก่าด้วยนะขอรับ) ตอนที่ 5 : 30 วัน สูตรสู่ความสำเร็จ วันที่ 4. แผนการสำหรับวันนี้ อมร  ถาวรมาศ amorntvm@hotmail.com จากคุณ : ลุงแอ็ด เขียนเมื่อ : 12 มี.ค. 55 09:59:42

ความคิดเห็นที่ 17 เหมือนเดิมครับลุง จากคุณ : หมึกสด เขียนเมื่อ : 12 มี.ค. 55 11:19:45

ความคิดเห็นที่ 18 ขอบคุณครับ จากคุณ : krit tasana เขียนเมื่อ : 12 มี.ค. 55 17:48:43

ความคิดเห็นที่ 19 ขอบคุณครับ  :  คุณ หมึกสด ขอบคุณครับ  :  คุณ krit tasana จากคุณ : ลุงแอ็ด เขียนเมื่อ : 14 มี.ค. 55 09:39:18

ความคิดเห็นที่ 20 ขอบคุณครับ  :  คุณ Baking Street ขอบคุณครับ  :  คุณ black rhino ขอบคุณครับ  :  คุณ สาวน้อยร้อยแปด ขอบคุณครับ  :  คุณ jajump จากคุณ : ลุงแอ็ด เขียนเมื่อ : 14 มี.ค. 55 10:23:55

ความคิดเห็นที่ 21 ขอขอบคุณ  :  คุณ เที่ยวตามแม่พิมพ์ จากคุณ : ลุงแอ็ด เขียนเมื่อ : 14 มี.ค. 55 10:25:43