ความคิดเห็นที่ 1 ^^ ขอบคุณค่ะ จากคุณ : Sweet gerbera เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 55 12:05:43

ความคิดเห็นที่ 2 ผมชอบครับ ตอนนี้กำลังสับสนกับชีวิตอยู่อย่างมากมาย ผมรู้แล้วล่ะตอนนี้ ผมจะตรงไปที่เป้าหมายเลยไม่เวะที่ไหนเพื่อทำเท่ห์ล่ะ ชีวิตมันสั้นเมื่อมีสิ่งที่เข้ามาให้ตัดสินใจ ชีวิตก็ต้องเลือกเอาซักอย่างนึงถึงแม้มันจะสวยหรูทั้ง คู่ก็ตาม แต่มันต้องมีทางนึงที่ตรงเป้ากว่า พุ่งชนเลยคราบบ จากคุณ : เจ้าชายขายกล้วยปิ้ง เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 55 12:14:30

ความคิดเห็นที่ 3 ผมชอบที่จะได้ดูข้างทางครับ ทั้งหาบเร่ แผงลอย ทุ่งนา ป่า สวน บางทีก็หยุดรถแล้วลงมาเดินเล่น ก้มดูดอกไม้ใบหญ้า บางที....... ผมอาจจะกำลัง achieve เป้าหมายของตัวผมเองอยู่ก็เป็นได้ จากคุณ : basicball เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 55 12:25:13

ความคิดเห็นที่ 4 เดี๋ยวนี้ คนเริ่มคิดแต่ภาพใกล้ตัว มองแค่ จะก้าวขาข้างต่อไปข้างไหนดี แต่ลืมมอง ว่าขาที่ก้าว จะเดินไปทางไหน หรือเดินไปเพื่อทำอะไร ขอบคุณ ที่ช่วยเตือนสติ ใครอีกหลาย ๆ คนค่ะ ^_^ จากคุณ : ดอกฟ้าสีลาเต้ เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 55 12:27:11

ความคิดเห็นที่ 5 ทำไมเด็กไทย...ถึงเรียนเก่ง...แต่ไม่ประสบความสำเร็จ..ในการสร้างชีวิต -เพราะ...เราสอนเด็กผิด เรื่องการตั้งเป้าหมายชีวิต       เราสอนให้เด็กตั้งเป้าหมายแค่ครั้งเดียวในชีวิตคือ ต้องEntให้ติด               พอEntติดแล้ว ไม่รู้จะทำยังไงต่อ....เลยไม่มีอนาคต จากคุณ : วายุหมุน เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 55 12:34:04

ความคิดเห็นที่ 6 บางคน เป้าหมายในชีวิอาจจะไม่ใช่สิ่งสำคัญเท่า สิ่งที่พบเจอตามรายทางของชีวิตที่ทำให้เป็นประสบการณ์ที่จะจำลึกลงในห้วงของหัวใจก็ได้ครับ จากคุณ : et009 เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 55 14:03:20

ความคิดเห็นที่ 7 สนับสนุนแนวคิดนี้ค่ะ เมื่อก่อนเราก็ดำเนินชีวิตแบบเรื่อยๆ มาเรียงๆ มีชีวิตอยู่ไปวันๆ ก็ได้ชีวิตแบบซังกะตาย มีคำถามให้ตัวเอง เราทำอะไรอยู่ เราทำเพื่ออะไร จนมาวันนึงก็คิดได้เพราะเราไม่มีเป้าหมายในชีวิตนี่เอง ทุกวันนี้เรามีเป้าหมายในชีวิต ทั้งใกล้ กลาง ไกล ทำให้ชีวิตมีความสุขขึ้น มาทำงานเบื่อคนนะ แต่ไม่เบื่องาน เพราะเรามีเป้าหมายที่จับจ้องอยู่ ทำให้เรามองข้ามอุปสรรคคือคนไปได้ จับจ้องที่เป้าหมาย ไม่ใช่อุปสรรค จริงแท้เลยทีเดียว บางวันเบื่อ เครียด จนอยากจะร้องไห้ ก็บอกตัวเองว่า อดทน ถ้าทนได้เป้าหมายเราก็ใกล้นิดเดียว อยากจะบอกเพื่อนๆห้องสีลมว่า ลองตั้งเป้าหมายง่ายๆก่อนก็ได้ เช่น ทำงานเสร็จ ชั้นจะไปทำนู่น กินนี่ แล้วเราทำได้ มันคือความสุขสุดๆ เป้าหมาย ทำให้ชีวิตมีความสุขขึ้น  จริงๆนะ จากคุณ : เจ้าหญิงอันดามัน เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 55 14:04:35

ความคิดเห็นที่ 8 การไม่มีเป้าหมายของตัวเอง "เป็นอันตรายอย่างยิ่ง" โดยเฉพาะใครที่เกิดมาแล้วต้องรับใช้เป้าหมายของคนรอบข้างไปเรื่อยๆ ..เมื่อถึงวันหนึ่งที่คนรอบข้างล้มหายตายจากไปตามกาลเวลา วันที่ได้ตั้งต้นเพื่อเป้าหมายของตัวเองในวันนั้น .. "เราอายุเท่าไหร่แล้ว...?" .......และเราจะต้องใช้เวลาสักกี่ปีเพื่อบรรลุเป้าหมายของ-ตัวเราเอง- ชีวิตคนนั้นมีเวลาจำกัด จะตัดสินใจแต่ละวันต้องมีสติ 100% ครับ :) จากคุณ : PASSION_WARFARE เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 55 14:15:16

ความคิดเห็นที่ 9 โหวตตตตต จากคุณ : >>Hunter_One<< เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 55 14:44:12

ความคิดเห็นที่ 10 การจะเดินทางไปสู่เป้าหมาย อย่างไรให้มีความสุขก็สำคัญนะครับ จากคุณ : บันทึก..การเดินทาง เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 55 14:49:15

ความคิดเห็นที่ 11 "การเดินทางของชีวิต..." การเดินทางของชีวิต มิใช่มีเพียงต้องเดินหน้าเสมอไป บางครั้งเราก็อาจต้องถอยหลังบ้าง การเดินทางของชีวิต.. มิใช่มีเพียงต้องเดินหน้าเสมอไป บางครั้งเราก็อาจต้องถอยหลังบ้าง เพื่อจะก้าวเดินไปข้างหน้าได้ยาวไกลขึ้น เป็นการถอยเพื่อจะก้าวต่อ มิใช่ถอยเพื่อจะท้อหรือทอดวาง เพราะบางครั้งการขืนดึงดันที่จะก้าวต่อ... ทั้งที่รู้ว่าอาจเกิดอันตรายจะมีประโยชน์อันใด การจะก้าวข้ามฝั่ง “สายน้ำชีวิต” ยามที่ไม่มีสะพานให้ก้าวข้าม บางครั้งเราอาจต้องยอมเดินย้อนถอยกลับไป เพื่อหาวิธีข้ามสู่อีกฟากฝั่งโดยใช้ “สะพานใจ” เช่นเดียวกับยามที่เจอะเจอปัญหา ลองถอยห่างออกแล้วมองเข้าไป... ว่าเราจะหาทางออกต่อได้อย่างไร ?.. เพราะถ้าเราจมอยู่กับปัญหาหนทางก็อาจจะยิ่งมืดมน การถอยหรือหลบเลี่ยงมิใช่ว่าเป็นการแพ้หรือล้มเหลว แต่คือท่วงทำนองของการดำเนินชีวิต... ถ้าบางครั้งจำเป็นต้องหยุดนิ่งบ้าง... ก็คงไม่ใช่เรื่องต้องทุกข์ร้อนหรือผิดอันใด หยุดนิ่งเพื่อไตร่ตรองและก้าวต่อ คงดีกว่าขืนดึงดันจนเหยียบ “กับดักของชีวิต” ที่บางครั้งอาจทำให้เราเดินต่อได้ยากยิ่งกว่า ก้าวที่เดินไป...จุดที่ยืนอยู่... ไม่สำคัญว่าจะยิ่งใหญ่มากหรือน้อยกว่าใครๆ อื่น... เพราะองค์ประกอบ ปัจจัย และโอกาส ของแต่ละคนย่อมมีแตกต่างกันไป... เพียงเราตระหนักในคุณค่าของตัวเอง ในสิ่งที่เราทำ ในก้าวที่เราก้าว และรู้ว่าทุกหน้าที่การงาน... ทุกภาระความรับผิดชอบ ล้วนมีคุณค่าในตัวเอง ก้าวอาจช้าไปบ้าง ... ข้างทางอาจไม่เป็นอย่างที่หวังไปทั้งหมด แต่อย่างน้อยเราก็ภูมิใจได้มิใช่หรือ ที่ขณะเวลาที่ผ่านไป... เราได้สร้างคุณค่าด้วยสองมือ ของเราเอง ที่ความยิ่งใหญ่อยู่ที่ความทุ่มเทด้วยกายและใจ ที่ความสำเร็จอยู่ที่เราได้ลงมือทำด้วยความตั้งใจ เพียงอย่าหวั่นกังวลกับจังหวะที่เดิน... ว่าจะเหมือนหรือต่างจากใคร... เพราะชีวิตย่อมก้าวไปด้วยจังหวะของเราเอง ..มิใช่หรือ ... "ช่วงหนึ่งในการเดินทางของชีวิต อาจจะดูมืดมิดไร้จุดหมายไปบ้าง ถึงจะไกลแค่ไหนกับระยะทาง ก็ไม่เคยคิดจะปล่อยวางทิ้งมันไป บางทีก็ต้องอยู่อย่างเหงา-เหงา บางทีก็เศร้า-เศร้า อยากจะร้องไห้ บางครั้งความสุขเข้ามาแล้วก็จากไป ไม่เคยเห็นมีอะไรที่แน่นอน.." นี่แหละ..คือ "ชีวิต" ว.วชิรเมธี จากคุณ : -นอนกอดตัวเองทุกคืน- เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 55 17:19:24

ความคิดเห็นที่ 12 โอ้! ยกตัวอย่างซะ เห็นภาพเลยครับ ทำไม ผมถึงมาเจอบทความนี้ เมื่อสายไปเสียแล้ว จากคุณ : Poprock Engineer เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 55 17:21:19

ความคิดเห็นที่ 13 ดีมากครับผม ต่อไปผมต้องมีเป้าหมายแล้ว จากคุณ : Zeedza เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 55 19:42:42 A:171.4.24.117 X: TicketID:352356

ความคิดเห็นที่ 14 โหวตให้ครับ จากคุณ : หมึกสด เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 55 20:00:13

ความคิดเห็นที่ 15 เป้าหมาย ความหมายคล้ายๆกับความฝันหรือเปล่านะ ถ้าคล้ายกัน บางครั้งความฝันกับความจริง มันช่างห่างไกล... จากคุณ : Monkey D Lufy เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 55 20:17:34

ความคิดเห็นที่ 16 ผมทำงานมา 10 ปีแล้วครับ T_T เพิ่มจะเริ่มฝันถึงเป้าหมายที่ต้องการเป็นและกำลังพยายามทำอยู่ครับ จากคุณ : นักวิจัยความฝัน เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 55 22:18:25

ความคิดเห็นที่ 17 <BR>ขอบคุณมากครับ ทำให้ผมเข้าใจ แล้วเห็นภาพได้ชัดขึ้น <BR><BR> อย่าได้กลัว อย่ามัวรีรอ ลงมือทำเลยครับ  <BR><BR> โหวตให้ครับ จากคุณ : BeeBoy (bee1983) เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 55 22:33:09

ความคิดเห็นที่ 18 บทความเยี่ยมเลยครับ ลงอีกเรื่อยๆ นะครับ จากคุณ : oak_o เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 55 22:48:16

ความคิดเห็นที่ 19 ผมก็วางแผนนะครับ แต่ชีวิตมัน ช่างไม่ตรงตามแผนที่ วางไว้ซะเลย จากคุณ : Sacrifice เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 55 23:07:48

ความคิดเห็นที่ 20 ผมได้อ่านบทความนี้แล้วทำให้ผมเริ่มมีความคิดที่จะวางเป้าหมายในชีวิตของตัวเอง และครับ และตอนนี้ผมก็จบจะปี 4 ละ ขอบคุณสำหรับบทความดีๆที่ช่วยในการเตือนสติของผมนะครับ จากคุณ : supachoksmart เขียนเมื่อ : 18 มี.ค. 55 05:40:54

ความคิดเห็นที่ 21 ฟังจากคนที่ประสบความสำเร็จๆ หลายๆ คนผมสรุปได้ข้อหนึ่งว่า คุณต้องมองให้เห็นภาพชัดไปเลยว่าอีกสิบปีจะทำอะไร อยู่ที่ไหน หรือแม้กระทั่งใส่เสื้อผ้ายังไง เพราะถ้าภาพคุณยิ่งชัด คุณยิ่งเดินไปหามันได้ง่ายขึ้น จากคุณ : หมึกสด เขียนเมื่อ : 18 มี.ค. 55 14:56:48

ความคิดเห็นที่ 22 ขอบคุณข้อมูลดีๆนะค่ะ เป็นแรงบัลดาลใจให้เดินตามเป้าหมายและฝันได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียวค่ะ^^ จากคุณ : kikujungna_Minkky9 เขียนเมื่อ : 18 มี.ค. 55 17:25:27

ความคิดเห็นที่ 24 เรามีเป้าหมายตั้งแต่ประถมเลยอ่ะ แต่มันก็ทำให้เหมือนกดดันตัวเองเหมือนกันนะคะ แต่มันก็ทำให้ชีวิตเรารู้เป้าหมาย ทำอะไรได้ง่ายขึ้น เวลาเราเหนื่อย ท้อ หมดกำลังใจ เราจะเกิดแรงฮึดอยู่ในตัวแม้จะกำลังร้องไห้เสียใจขนาดไหน เพราะเรารู้เป้าหมายของตนเอง เรารู้ว่าเราต้องเดิน เราต้องไม่หยุด เป้าหมายมีไว้พุ่งชนจริงๆ นะ สำหรับบางคน ท้อเหนื่อย ร้องไห้เสียใจ แต่ก็ยังร้องไห้เสียใจอยู่อย่างนั้น มองไปทางไหนมืดมนไปหมด เพราะไม่รู้เป้าหมายของตนเอง อยู่ประถม ต้องเลือกโรงเรียนที่มีห้องวิทย์ตั้งแต่ ม.ต้น เพราะเหมือนเป็นกระแสตอนนั้นว่า เรียนสายอื่นเธอไม่มีงานมีการทำหรอก อยากไปเตะฝุ่นเหรอ อาจจะเป็นการกรอกหูของแม่ 555 มองไว้เลยว่าจะทำอาชีพอะไร ไปทำที่ไหน ทำกี่ปี แล้วจะลงทุนอะไรต่อ เป็นความคิดของเราตอนประถม พอจบ ม.ต้น มองถึง มหาวิทยาลัย การสอบเข้า เป้าหมายต่อไป เป็นลำดับ เราก็เลยเลือกเรียน โรงเรียนที่มีโควต้าเข้าได้ง่าย แล้วก็ง่ายจริง เข้าได้โดยไม่ค่อยใช้ความพยายามมากเหมือนคนอื่นที่เข้ามาด้วยกัน จนมาถึงตอนนี้ เข้ามหาวิทยาลัยแล้ว เลือกเรียนสายการแพทย์ ทำงานไปด้วย ศึกษาด้านการลงทุนในอนาคต ตลาดหุ้น ทอง อสังหาริมทรัพย์ เพราะไม่คิดว่าทำงานใน รพ จะทำให้เรามีความมั่นคงทางด้านการเงินสักเท่าไร เพื่อนสนิทที่เรียนด้วยกัน เค้าก็บอกว่าเรา เกินคน บ้าไปแล้วจะคิดให้เยอะเพื่ออะไร เราก็ถามเค้า แกอยากไปลูกน้องเค้าไปตลอดชีวิตเหรอ เป้าหมายของเราคือ อายุไม่เกิน 30-35 ต้องมีกิจการของตนเองที่มั่นคง สามารถดูแลครอบครัว ช่วยเพื่อนร่วมโลกได้ เก็บเงิน พาพ่อแม่ไปเที่ยวต่างประเทศให้ได้เร็วที่สุด แหม ก็หนูไม่รวยนี่คะ 555 เห็นด้วยสำหรับบางคนว่าการมองข้างทาง มองสิ่งต่างๆ ก็มีส่วนสำคัญ สำหรับเรา มันสำคัญทั้ง 2 อย่าง เป้าหมาย ทางที่เดินไป มันจะดีกว่าไหม ถ้าเราใช้ชีวิตให้คุ้ม ได้ทั้ง 2 ด้าน แล้วเราจะมีความสุขเพิ่มเป็น 2 เท่า แก้ไขเมื่อ 18 มี.ค. 55 21:28:12 จากคุณ : Aris_L (Aris_L) เขียนเมื่อ : 18 มี.ค. 55 21:24:00

ความคิดเห็นที่ 25 ในการวางเป้าหมายชีวิต มันมีวิธีการวางเป้าหมายครับ ไม่ใช่คิดอยากจะวางยังไงก็วางได้ มันมีวิธีแนวคิดเกี่ยวกับการวางเป้าหมายชีวิตอยู่ คนที่วางไม่เป็นก็ไม่ต่างจากคนที่นั่งรถเมล์ผิดสาย หรือขึ้น Taxi แล้วบอกทางผิด โชคดีอาจจะถึงที่หมายแต่เดินทางอ้อมเสียเวลา แย่กว่าคือไปถึงผิดที่เสียเวลาไปทั้งชีวิต เกี่ยวกับการวางเป้าหมาย ผมจะเจอคน 4 แบบครับ 1.วางเป้าหมายเป็น 2.วางเป้าหมายไม่เป็น แต่คิดว่าตัวเองวางเป้าหมายเป็น   3.วางเป้าหมายไม่เป็น และมีแนวโน้มที่จะวางถ้ามีคนแนะนำ 4.วางเป้าหมายไม่เป็น และไม่เคยคิดที่จะวางเป้าหมายใดๆในชีวิต แบบที่ 2 จะเยอะมาก แบบที่ 3-4 ก็มีเยอะ แต่แบบที่ 1 หายาก จากประสบการณ์ส่วนตัวของผมจากคน 10 คนจะมีคนแบบที่ 1 เพียง 2 คน (20%) อยากทราบไหมครับ ว่าในบรรดาคนทั้ง 4 ประเภท ใครน่าสงสารที่สุด แบบที่ 2 ครับ เพราะคนกลุ่มนี้ ก็ไม่ต่างจากคนที่โบก Taxi แล้วให้ Taxi พาไปส่งผิดที่ เสียทั้งเงิน เสียทั้งเวลา รายละเอียดการวางเป้าหมายชีวิต ถ้าจะให้แบ่งปันคงไม่จำเป็นเพราะมีหนังสือดีๆที่อธิบายเรื่องพวกนี้ไว้มากมาย และเป็นหนังสือที่ดีกับชีวิตเรามากๆ ถ้าใครได้ตั้งใจอ่านสัก2-3 รอบ ผมเชื่อว่าชีวิตจะเปลี่ยนไปเยอะ ใครที่สนใจจริงๆมาถามหลังไมค์ได้ครับ อยากให้คนที่ซีเรียสกับชีวิตได้อ่านจะได้มีอะไรเปลี่ยนในชีวิต  แต่ใครที่ไม่อยากมีชีวิตที่ดีขึ้นคงไม่ต้องอ่าน เพราะไม่จำเป็น แก้ไขเมื่อ 18 มี.ค. 55 22:19:45 จากคุณ : kennyG เขียนเมื่อ : 18 มี.ค. 55 22:18:12

ความคิดเห็นที่ 26 ขอบคุณมากครับสำหรับบทความ ช่วงนี้ผมก็นั่งคิดอยู่ว่าผมกำลังทำอะไรอยู่ อายุ 25 ปีแล้ว เหลือเวลาอีกไม่กี่ปีก็จะต้องมีครอบครัวแล้ว ผมเสียเวลาไปกับเรื่องไร้สาระแต่ละวันทุกวันนี้ แทบไม่ได้พัฒนาอะไรตัวเองเพิ่มเลย จากนี้ไปผมจะทำจริงจังแล้วครับ จะฝึกสื่อสารภาษาอังกฤษให้เก่งๆ แล้วผมจะไปทำงานเมืองนอกให้ได้ภายในอายุ 35 ปี ถึงตอนนั้นผมก็จะต้องมีเงินใช้ฟรีๆ เดือนละ 1 หมื่นด้วยเงินปันผลในหุ้น บวกกับเงินเดือนที่ได้ น่าจะทำให้พ่อแม่อยู่ได้อย่างสบาย ผมไม่รู้ว่าผมจะไปถึงแค่ไหน แต่ผมก็จะพยายามทำให้ได้ครับ ขอบคุณเจ้าของกระทู้มากนะครับ ที่ตอกย้ำความคิดให้ผมอีกครั้งหนึ่ง ^^ จากคุณ : มือใหม่สุดๆ เขียนเมื่อ : 18 มี.ค. 55 22:37:15

ความคิดเห็นที่ 27 ค่าทางด่วนเท่าไรครับ? แท็กซี่สภาพดีไหมครับ? คนขับแท็กซี่ขับอย่างไร บริการอย่างไรครับ? ขับๆอยู่จะไล่ลงแล้วไปส่งรถไหมครับ? ถ้าไม่มีค่าทางด่วน? อะ...ค่าทางด่วนมีพอ...แต่รถเสีย?(บนทางด่วนก็แน่นอนครับ ไม่มีแท็กซี่ว่าง) อยู่บนทางด่วนจู่ๆมีรถสาวไฮโซมาสอยท้าย? แท็กซี่โกงมิเตอร์? ทางด่วนยังซ่อมไม่เสร็จ? คนขับแท็กซี่หาทางลงจากทางด่วนไม่เจอ ตัวเองก็ไม่ทราบมาก่อนว่าเส้นทางเปลี่ยน...? ป้ายทางด่วนติดผิด? "ผมคิดว่า มีหลายปัจจัยในชีวิตคนที่เกิดขึ้นอย่างช่วยไม่ได้ ไม่คาดฝัน หลีกเลี่ยงไม่ได้ฯลฯซึ่งมีผลกระทบต่อเป้าหมายชีวิตครับ" จากคุณ : ทูตซ้ายเอี้ยเซียว เขียนเมื่อ : 19 มี.ค. 55 00:41:30

ความคิดเห็นที่ 28 ต้องมองเป็นทั้งใกล้ ไกล จากคุณ : Ao+ เขียนเมื่อ : 19 มี.ค. 55 00:41:37

ความคิดเห็นที่ 29 สำหรับความเห็นส่วนตัวคิดว่า คนไทยขาดการสอนในเรื่องของแนวคิดที่มันนอกกรอบ เพราะจะถูกปลูกฝังอยู่ในหัวตั้งแต่เล็กให้อยู่ในกรอบ เป็นกบ อ๊บ อ๊บ กันไป เหมือนเราเองแต่ก่อนคิดอะไรอยู่ในกรอบตลอด จะทำอะไรแต่ละที ต้องฟังผู้ใหญ่ เค้าสั่งไม่ให้ทำก็ไม่ทำเลยทั้ง ๆ ที่ใจอยากจะทำมากมาย แต่ตอนนี้หลังจากทำงานหาเลี้ยงตัวเองได้แล้ว เริ่มปีกกล้าขาแข็งเพราะที่บ้านปล่อยให้คิดเองทำเองทุกอย่าง มีล้มลุกคลุกคลานบ้างแต่ก็สู้กันไป ไม่เคยท้อแท้ เพราะว่าวางแผนทุก ๆ ครั้งที่จะทำอะไร เราวางเป้าหมายทุกสิ่งที่ทำใหญ่เว่อร์ทุกครั้ง บอกให้ใครฟังก็มีแต่คนหัวเราะเยาะเย้ย แต่เราไม่แคร์ เพราะเค้าไม่รู้หรอกว่าระหว่างทางเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่ เราซอยย่อยเป้าหมายเป็นแบบ รายวัน รายสัปดาห์ รายเดือน รายไตรมาศ และรายปี เราเชื่อและศรัทธาเสมอว่า หากเราทำเป้าหมายย่อยได้สำเร็จ มันจะนำพาไปสู่ เป้าหมายใหญ่เอง เป้าหมายที่ยิ่งใหญ่ไม่ได้มาง่าย ๆ เพียงแต่นอนฝัน การจะไปถึงเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่ได้ ต้องอย่าลืมการวางแผน "การวางแผนที่ล้มเหลวที่สุดก็คือการไม่วางแผน เมื่อเราล้มเหลวตั้งแต่วางแผนแล้วเราจะไปสู่เป้าหมายได้อย่างไร" ^_^ จากคุณ : MorningGirl เขียนเมื่อ : 19 มี.ค. 55 06:57:31

ความคิดเห็นที่ 30 อีกไม่กี่ปี ผมก็จะ เกษียร ถึงวันนั้น ผมจะไม่ใช้ วิธีทำงานหาเงิน แล้ว แต่ผมจะเอาเงินมาทำงานให้ผมครับ จากคุณ : p_warat (p_warat) เขียนเมื่อ : 19 มี.ค. 55 11:58:56

ความคิดเห็นที่ 31 เป้าหมาย ชีวิต เปลี่ยนไปเรื่อยๆ ตาม อายุเลยล่ะ เฮ้อ เป้า เยอะเกิน บางทีก็ งงๆ ตัวเอง คิดเยอะไปปล่าวเนี่ย จากคุณ : ก้นกบ เขียนเมื่อ : 19 มี.ค. 55 15:17:17

ความคิดเห็นที่ 32 ตอนนี้ต่อให้ก่อน..ผมไม่รีบ เป้าหมายผมน่ะ อยู่ไกลสุดฟ้าเลยล่ะครับ ผมก็ไม่รู้ทาง Taxi ก็ไม่รู้ทาง ทางด่วนเส้นอื่นๆ คนก็แย่งกันขึ้นไป จนตอนนี้ ถ้าผมจะขับตามไป ผมก็คงไปถึงช้ากว่าคนอื่นเป็นแน่ เพราะทุกคนล้วนเก่งๆ กันทั้งนั้น สามปีที่ผ่านมา ผมบอก Taxi หยุดรถ เพื่อที่จะได้มีเวลาสูดกลิ่นดอกไม้ หรือมองข้างทาง ดมควันพิษ หรือแม้แต่ใคร่ครวญเรื่องต่างๆ รวมถึงเห็นคนที่ประสบความสำเร็จมากมาย...แต่ผมไม่คิดอยากเอาอย่างเขาหรอกนะ เพราะมีคนทำตามเขาเยอะแล้ว... ที่สำคัญ ค่า Taxi ผมมีจำกัด ทางด่วนบางสาย ผมก็ขึ้นไม่ได้ มันแพงเหลือเกิน... แต่ตอนนี้ผมเห็นแล้ว ทางด่วนเส้นนั้น เส้นที่พิเศษที่สุด เส้นที่ผมจะสามารถพาทุกๆ คนไปได้ ทั้งคนรัก ครอบครัว เพื่อนฝูงและเพื่อนร่วมงาน รวมไปถึงลาภ ยศ สรรเสริญ ทางด่วนเส้นนี้คือเส้นแรกของผมที่จะข้ามไป ปีนี้แหละท่าน!!! จากคุณ : amnakim เขียนเมื่อ : 19 มี.ค. 55 15:34:19

ความคิดเห็นที่ 33 โดนมากเลยคะ กำลังจะเรียนจบ ไม่อยากใช้ชีวิตไร้จุดหมาย ตอนนี้มีเป้าหมายในใจ แล้วก็จะไปให้ถึงคะ จากคุณ : Snack Box in The Summer เขียนเมื่อ : 19 มี.ค. 55 15:56:15

ความคิดเห็นที่ 34 โหวตค่ะ ...เราเป็นคนที่มีเป้าหมายทั้งระยะสั้น ระยะยาว ชัดเจนมาก ไม่รู้ว่าคนอื่นเป็นยังไงแต่สำหรับเรา "เวลา"มีค่ามาก ทุกอย่างมีเป้าหมายพร้อมทั้งแผนรองรับเสมอ... สู้ๆค่ะ จากคุณ : minkblue เขียนเมื่อ : 19 มี.ค. 55 16:13:29

ความคิดเห็นที่ 35 เราว่าสำคัญทั้งสองอย่างค่ะ ทั้งการมีเป้าหมาย กับการที่เรามองดูข้างทางไปด้วย เราชอบเรื่องหนึ่งในหนังสือ เรื่อง The Alchemist ของ เปาโล โคเอโย มาก เวลาที่เราท้อ หรือเวลาที่ชีวิตไม่มีเป้าหมาย หรือขาดความสุข อ่านเรื่องนี้ทีไร ก็รู้สึกดีทุกที ....................... เด็กหนุ่มผู้หนึ่งได้เดินทางไปเรียนรู้เคล็ดลับความสุขจากชายผู้ชาญฉลาดที่สุดในโลก เขาเดินทางไปในทะเลทราย 40 วัน   จนได้พบกับที่พำนักของชายผู้นั้นซึ่งปรากฏเป็นปราสาทงาม  ตั้งตระหง่านอยู่บนภูผา     เขาได้พบกับชายผู้ชาญฉลาดที่สุดในโลกอย่างที่คาดหวัง แต่ชายผู้นั้นยังไม่ว่างที่จะคุยกับเด็กหนุ่ม เขาจึงแนะนำให้เด็กหนุ่มเดินสำรวจรอบ ๆ ปราสาทไปก่อน พร้อมกับให้เขาถือช้อนซึ่งมีน้ำมันสองหยดไปด้วย เด็กหนุ่มเดินสำรวจรอบ ๆ ปราสาท แต่ตาของเขามัวจับจ้องอยู่ที่ช้อนและหยดน้ำมัน  เขาจึงไม่ได้เห็นอะไรมากนัก เมื่อกลับมายังที่เดิม  ชายผู้ชาญฉลาดถามเขาว่า "เธอได้เห็นผ้าทอเปอร์เซียที่ประดับอยู่ในห้องอาหารไหม? เธอเห็นสวนอันสวยงามที่คนทำสวนใช้เวลาสิบกว่าปีสร้างมันขึ้นมาไหม? แล้วเอกสารที่คัดด้วยลายมืออันสวยงามในห้องสมุดล่ะ  เธอเห็นของล้ำค่าเหล่านั้นไหม?" เด็กหนุ่มรู้สึกละอายและสารภาพว่าเขาไม่ได้ชื่นชมกับสิ่งใดเลย เพราะมัวแต่ระวังไม่ให้น้ำมันในช้อนหกเลอะเทอะ ชายผู้นั้นจึงบอกให้เด็กหนุ่มกลับไปสำรวจปราสาทของเขาอีกครั้ง พร้อมน้ำมันสองหยดในช้อนเหมือนเช่นเคย คราวนี้เด็กหนุ่มมองเห็นผลงานศิลปะชั้นเลิศทั้งบนผนังและเพดานห้อง เขาเห็นสวนสวยงามและดอกไม้นานาพันธุ์ ทุกสิ่งทุกอย่างที่เขาเห็น ล้วนแล้วแต่บ่งบอกถึงรสนิยมอันเป็นเลิศของผู้เป็นเจ้าของปราสาท เมื่อเด็กหนุ่มกลับมาที่ห้องเดิมหลังเวลาผ่านไปสองชั่วโมง เขาได้เล่าทุกสิ่งทุกอย่างที่เขาเห็นให้ชายผู้ชาญฉลาดฟังอย่างละเอียด "แล้ว...หยดน้ำมันที่ฉันให้เธอดูแลล่ะ?"   เด็กหนุ่มมองที่ช้อนและพบว่าหยดน้ำมันหายไปแล้ว ชายผู้ชาญฉลาดที่สุดในโลกจึงพูดว่า "สิ่งที่ฉันอยากบอกเธอมีเพียงอย่างเดียว... เคล็ดลับของความสุขคือการมองเห็นความมหัศจรรย์ทั้งปวงในโลก  ในขณะเดียวกันก็ต้องไม่ลืมหยดน้ำมันในช้อนด้วย" ....................... การเดินทางที่มองแต่น้ำในช้อน ก็เหมือนกับการใช้ชีวิตที่มองแต่เป้าหมาย ขาดการสนใจรอบข้าง ชีวิตมันดูหม่นหมองไปมั้ยคะ ในขณะที่มัวแต่สนใจรอบด้าน จนทำน้ำหกจากช้อน ก็ดูชีวิตไร้แก่นสารเกินไป สำหรับเราแล้ว การที่ทำให้ชีวิตให้สมดุลเป็นสิ่งที่ดีที่สุด ทั้งเป้าหมายเอ่ย ทั้งการใช้ชีวิตโดยสังเกต ป่าไม้ ขุนเขา ผู้คน มันต้องเดินไปด้วยกัน เพื่อไม่ให้วันสุดท้ายของชีวิตมานั่งเสียใจว่า เฮ้อออ รู้งี้นะ ฉันทำชีวิตให้ดีกว่านี้ดีกว่า หรือ เฮ้ออ ชีวิตนี้ฉันน่าจะหาความสุขให้มากกว่านี้ดีกว่า เราเองก็กำลังเรียนรู้การใช้ชีวิตอยู่เช่นกัน มีความสุขกับทุกวันที่ได้ยืนอยู่บนโลก เล็กๆ ใบนี้ จากคุณ : amakin เขียนเมื่อ : 19 มี.ค. 55 16:37:40

ความคิดเห็นที่ 36 เพิ่งอ่านเจอในเฟสบุคพี่คนนึง แนวคิด Begin with the end in mind : มองเห็นภาพจบให้ได้ก่อนแล้วค่อยเริ่มลงมือทำ ชีวิตจะมีทิศทางไม่ค่อยเป๋ เด็กไทยส่วนใหญ่ไม่เคยถูกสอนให้คิดอย่างนี้ ไม่เคยได้จินตนาการชีวิตข้างหน้าให้ยาว ให้ชัดให้สุดตอนเลือกคณะเรียน เลือกคนแต่งงาน หรือเลือกอะไรก็ตามในชีวิต ตัวอย่างง่ายๆเช่นฝรั่งเค้าสอนเด็กให้ติดกระดุมจากเม็ดสุดท้าย ซึ่งเปอร์เซนการติดผิดมันน้อยมาก จากคุณ : SmallSweetSmile เขียนเมื่อ : 19 มี.ค. 55 17:56:21

ความคิดเห็นที่ 37 ไม่ค่อยเห็นด้วยซักเท่าไหร่ เพราะบางครั้งชีวิตมันก็หักเห ความไม่แน่นอนของชีวิต ทำให้ชีวิตเรามีสีสัน ใครละเดินเข้าหาเป้าหมาย ที่แท้จริงได้ตลอดเวลา ถ้าทางเบี่ยงทางอ้อม ไม่ใช่เป้าหมายแล้ว ชีวิตจะเสียเวลาไปหรือไร ตอบยากนะ คุณเจ้าของกระทู้ น่าจะไปดู ปาฐกถาของ สตีฟ จ๊อป ที่เขาให้ไว้ ณ มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง  ความคิดของเขา แย้งกับ ที่คุณเขียนไว้อย่างมาก พูดถึง จุดต่างๆ ของชีวิต  ซึ่งเราจะเห็นมันได้ เมื่อเรา ผ่านจุดๆนั้นมาแล้ว แล้วเราจึงจะสามารถเชื่อมต่อโยงมัน เป็นเส้นได้ครับ บทที่เขาพูดนี้ ได้รับการกล่าวถึงกันว่า เป็น ปาฐกถาที่ดีที่สุดในโลกอันนึง ลองดูนะครับ ผมเอง เป็นคนที่พลาดจุด บ่อยๆ หมายถึงไม่ค่อยมุ่งว่าอยากจะเป็นอะไร แต่เมื่อต้องเป็นอะไร ก็มักจะทำให้ดีที่สุด มันก็นำพาผมมาได้ในระดับที่น่า พอใจครับ บางอย่างก็มาจากสิ่งที่ค่อยเกี่ยวข้องกับ จุดมุ่งหมายซักเท่าไหร่ แต่มันพาลเป็นองค์ประกอบสำคัญ ที่ทำให้เราเดินมาตรงนี้ได้ ของแบบนี้ก็ มีเยอะนะครับ จากคุณ : ดาวสุริยะ เขียนเมื่อ : 19 มี.ค. 55 18:41:14

ความคิดเห็นที่ 38 กำลังจะแสดงความเห็นเรื่องเกี่ยวกับการลากเส้นต่อจุดของจ้อบส์เหมือน คห. 37 เลยค่ะ เรานั่งมองเส้นย้อนหลังสั้นๆ6เดือน รู้สึกเรามีจุดเป็นรูปร่างมากมายและมีเหตุการณ์หลายอย่างเกิดขึ้นเลย ซึ่งบางครั้งมันก็ไม่ได้เกิดจากการทำตามแผน แต่ผลลัพธ์ที่เกิดจากการค่อยๆลากเส้นนั้น มีผลดีเกิดขึ้นเชื่อมไปถึงอนาคตได้เลยค่ะ  ตอนนี้ก็ลากเส้นไปเรื่อยๆแบบมีแผน อิอิ จากคุณ : Drama Kitty เขียนเมื่อ : 19 มี.ค. 55 19:45:09

ความคิดเห็นที่ 39 เด็กๆเวลาพูดฝันอะไรออกมา ผู้ใหญ่มักมองว่าชอบหนังฝันกลางวัน บางครั้งมันก็เป็นการทำลายฝันของเด็กคนนั้นลงได้ จากคุณ : เติมน้ำมัน เขียนเมื่อ : 19 มี.ค. 55 20:15:47

ความคิดเห็นที่ 40 เด็กจบใหม่ มีเงินเดือน อย่ารีบ มีบัตรเครดิต นะ พี่ขอร้อง จากคุณ : หนุ่มดอยใจดี เขียนเมื่อ : 19 มี.ค. 55 20:34:11

ความคิดเห็นที่ 41 กำลังจะยื่นใบลาออกเดือนหน้า เหตุผลง่ายๆ 29 แล้ว ผมยังไม่ได้ทำตามใจตัวเองเลย ตอนนี้พ่อแม่แก่แล้ว อยากกลับไปสืบทอดกิจการจริงๆซะที ตอนจะออกก็เสียดาย ถ้าย้ายงานหละ เงินเดือนก็เพิ่ม กินเงินเดือนก็สบายอยู่แล้ว เงินเดือนก็ไม่ใช่น้อยๆ ย้ายได้เพิ่มอย่างน้อย 20% เยอะเหมือนกัน แต่คิดไปคิดมา...ถ้าติดเรื่องเงิน มันก็จะติดไปเรื่อยๆ วันนี้ติด วันหน้าเงินเดือนมากกว่าเดิมไม่ยิ่งติดหนักเหรอ คนเราตายไป มีหมื่น้าน หรือน้อยเดียวก็พกไปไม่ได้ การเป็นเจ้าของกิจการไม่ได้แปลว่าจะรวยกว่า ดีกว่าเสมอไป แต่อย่างน้อยมันตอบโจทย์ชีวิตตัวเอง แค่นั้นก็เป็นเหตุผลที่เพียงพอแล้ว จากคุณ : Mr. Prodigy เขียนเมื่อ : 20 มี.ค. 55 01:01:28

ความคิดเห็นที่ 42 สตีฟ จ๊อป เป็นหนึ่งคนที่มีแนวความคิดเรื่องการวางเป้าหมายที่ชัดเจนมากๆ เพราะเขาเป็นคนที่ตื่นมาทุกเช้า และเฝ้าถามตัวเองว่าเขาใกล้ถึงสิ่งที่เขาฝันไว้หรือยัง ยุคที่เขามาบริหารบริษัท apple ตอนหลัง เห็นได้ชัดเจนมากๆ สตีฟ เป็นคนหนึ่งคนที่มี "ฝัน" และ "เป้าหมายชีวิตที่ชัดเจน แต่ในยุคแรกๆของเขา การที่เขามีจุดๆ ของเหตุการณ์ในชีวิต นั่นไม่ได้แปลว่าเขาไม่มีเป้าหมายนะครับ สตีฟ เป็นคนที่มีเป้าหมายตั้งแต่หนุ่ม และมีฝันที่ชัดเจนครับ นั่นจึงทำให้จุดต่างๆของเขามันส่งเสริมให้เขาไปถึงเป้าหมายและคว้าฝันมาได้ จุดต่างๆของ สตีฟ เป็นจุดที่มีคุณค่าและเขาทำในเส้นทางของความฝันของเขา จ ไม่ใช่จุดประเภท ติดยา เที่ยวผับบาร์ หรือทำตัวไร้สาระ จากคุณ : kennyG เขียนเมื่อ : 20 มี.ค. 55 01:26:02

ความคิดเห็นที่ 43 ถูกใจมากคะ มันเป็นเรื่องจริงทั้งสินเลยคะ เรากำลังจะจบมหาวิทยาลัย เพื่อนเราที่เริ่มจบกันแล้ว พอถาม ส่วนใหญ่มีแต่ตอบว่า ไม่รู้ ไม่อยาก ไม่แน่ใจ แต่คนที่มุ่งมั่นจริงๆก็เห็นเค้าก็ทำหน้าที่การงานในตอนนี้ไปก่อน แต่ข้างหน้าไม่่รู้เหมือนกัน จากคุณ : Miniaa32 เขียนเมื่อ : 20 มี.ค. 55 02:09:09

ความคิดเห็นที่ 44 ขอบคุณครับ สะกิดใจดีจริงๆ จากคุณ : cud28 เขียนเมื่อ : 20 มี.ค. 55 07:37:45

ความคิดเห็นที่ 45 เข้ามาดู ... จากคุณ : D_YONG เขียนเมื่อ : 20 มี.ค. 55 10:13:01

ความคิดเห็นที่ 46 คุณ KennyG ครับ ที่คุณสตีฟ แกไปเรียนออกแบบอักษรประดิษฐ์ โดยที่แกเองยังไม่รู้เลยว่าจะเอาไปใช้ทำอะไร รู้แต่ว่าชอบ อันนั้นจะเรียกว่า ทำตามเป้าหมายที่ชัดเจนได้อย่างไร การที่ ipod ดังขึ้นมา ก็ไม่ใช่มาจากแนวคิดของแกเอง เพียงแต่ซื้อเขามาเพราะ มองเห็นศักยภาพ ว่ามันจะไปได้ดี นั่นก็ไม่ใช่เป้าหมายหลัก แต่เป็นเพราะมองเห็นลู่ทาง ที่แกหลุดไปทำ PIXAR นั่นก็ไม่ใช่เป้าหมายหลัก  เป็นเพราะแกหลุดจาก Apple ไป ผมกลับมองว่า คนที่สามารถเปลี่ยนแปลงเป้าหมายได้ ตามสภาพแวดล้อมจะทำให้ ประสบความสำเร็จมากกว่าครับ ผมว่าตาสตีฟแก ไม่เคยนึกฝันหรอกว่าชีวิตนี้จะต้องมา ทำโทรศัพท์มือถือ เพราะเป้าหมายแกอยู่ที่ คอมพิวเตอร์ ตั้งแต่เริ่มต้น ดร. สุขุม นวลสกุล นักกฎหมายชื่อดัง แกบอกว่า แกนะอยากเป็นแพทย์เหลือเกิน แต่แกก็บอกว่าถ้าแกดันทุรัง ไปเรียนแพทย์ ตอนนี้ก็ไม่รู้เป็นอะไรอยู่ ผมมองว่า เป้าหมาย กำหนดไว้ได้แบบหลวมๆ พอเป็นทิศทางให้กับเรา เมื่อเรามุ่งเข้าหาทิศนั้น เจอทางอ้อม ทางเบี่ยงทางตัน ก็ต้องถอยเป็น หรือเปลี่ยนแปลงเป็นครับ มีเป้าหมายนะดี แต่อย่างที่หลายความเห็นได้แบ่งปันไว้แล้ว มันมีปัจจัยอีกหลากหลาย ในการกำหนดความสำเร็จ ของชีวิต  บางอย่างมันก็ไม่ได้อยู่ภายใต้การควบคุมครับ อย่าให้ใครบางคนตายกลางตาม ระหว่างตะเกียกตะกายให้ถึงเป้าหมายเลย ชีวิตมันควรเสพรับความสุขได้มากกว่านั้นครับ จากคุณ : ดาวสุริยะ เขียนเมื่อ : 20 มี.ค. 55 10:22:21

ความคิดเห็นที่ 47 ชายหนุ่มคนที่ 1 โบกรถ taxi บอกอย่างชัดเจนว่าจะไปที่ไหน บอกรายละเอียดแม้กระทั่งเส้นทางและวิธีที่จะไป (ทางด่วน) และไม่ลืมบอกคนขับอย่างชัดเจนว่าเขารีบมาก ผ่านไปหนึ่งชั่วโมงเขายืนอยู่ ณ ที่หมาย ทว่าเขาเพิ่งนึกได้ว่าเขาลืมแวะรับภรรยาระหว่างทาง... ชายหนุ่มคนที่ 2 โบกรถ taxi แจ้งจุดหมายกับคนขับโดยไม่ลืมบอกด้วยว่าเขาจะขอแวะรับลูกชายจากโรงเรียนระหว่างทาง คนขับ taxi พาเขาไปตามแผนการที่วางไว้ทุกอย่าง เมื่อรับลูชายตัวน้อยขึ้นรถแล้ว ระหว่างทางผ่านห้างสรรพสินค้าเจ้าหนูบอกว่าเขาหิวอยากจะขอพ่อแวะหาของกินซักหน่อย แต่ชายหนุ่มไม่ได้ยินเสียงของลูกชายเพราะมัวแต่บอกช่องทางที่เร็วที่สุดให้กับคนขับ ผ่านไปอีกหน่อยเจ้าลูกชายเริ่มบ่นว่าปวดท้อง แต่ชายหนุ่มผู้เป็นพ่อกำลังหยิบเงินค่าทางด่วนส่งให้คนขับก็เลยไม่ทันฟัง ได้ยินเสียงลูกชายพึมพำก็คิดว่าเด็กน้อยคงนั่งรถนานเลยบ่นด้วยความเบื่อจึงไม่สนใจ พอรถมาถึงจุดหมายชายหนุ่มจ่ายเงินก่อนหันไปหาลูกชายเพื่อจะพบว่าหนู้อยกำลังนอนร้องโอดโอยอยู่บนเบาะที่นั่งข้างหลังเพราะปวดท้องขั้นรุนแรง... ชายหนุ่มคนที่ 3 โบกรถ taxi คุยกับคนขับเรียบร้อยถึงสถานที่ที่ต้องการไปและบอกเส้นทางให้คนขับรับทราบ คนขับทำหน้าที่ได้อย่างไม่ขาดตกบ่งพร่องและเส้นทางที่พวกเขาใช้เดินทางก็ราบรื่นมากแทบไม่มีรถติด ชายหนุ่มจึงมาถึงที่หมายได้ในเวลาอันรวดเร็ว เมื่อคนขับ taxi ออกรถจากไป ชายหนุ่มที่ยืนอยู่ตามลำพังก็พบว่าที่จริงแล้วเขานั้นไม่ได้อยากมายังที่หมายนี้เลย ตัวเขาเองนั้นไม่ชอบทั้งรูปร่างหน้าตาของอาคารที่นี่ กลิ่นใหม่ๆ ของอาคารเขาก็ไม่ได้หลงใหล เวลาที่เขาอยู่ที่นี่ก็ไม่ได้มีความสุขอะไรเลยแม้ว่าจะมีสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครันมากเพียงไหน ชายหนุ่มนั่งคิดอยู่หน้าอาคารแล้วพบว่าที่จริงแล้วเขาอยากจะแวะนั่งเล่นที่สวนสาธารณะเล็กข้างทางจิบกาแฟกระป๋องพร้อมกับฟังเสียงเพลงที่บรรเลงโดยนักดนตรีจนๆ คนนึงเท่านั้น น่าเสียดายที่รถ taxi คันสุดท้ายได้วิ่งออกไปแล้วและแถวนี้ก็จะไม่มีรถรับส่งจนกว่าจะเช้าวันรุ่งขึ้น ชายหนุ่มจึงได้แต่ฝืนทนอยู่ในตึกอันหนาวเหน็บนั้นอย่างไร้ความสุขตลอดทั้งคืน จากคุณ : AYLIT เขียนเมื่อ : 20 มี.ค. 55 12:51:45

ความคิดเห็นที่ 48 เยี่ยมครับ ผมเคยมีเป้าหมายที่ดี แต่มันพลาดเป้าไป เพราะมัวเสียเวลากับสิ่งข้างทาง ซึ่งบังเอิญเป็นทางที่อ้อมซะด้วย กว่าจะกลับมาทางครงได้ เสียเวลาและค่ามิเตอร์ไปมากโข ก็เลยต้องปรับเป้าใหม่ เส้นทางใหม่ แผนใหม่หมด ระหว่างเส้นทางใหม่ตอนนี้ก็โอเคครับ ดีในระดับหนึ่ง ก็ได้แต่ไม่ประมาทในระหว่างทางที่เหลือ จากคุณ : SDI 0500 เขียนเมื่อ : 20 มี.ค. 55 14:06:24 A:169.252.4.21 X: TicketID:299803

ความคิดเห็นที่ 49 อ่านแล้วอยากจะร้องไห้จังเลยค่ะ รู้สึกว่าตัวเองก็ไม่มีเป้าหมายในชีวิตเหมือนกัน เหมือนรออะไรไม่รู้ ทั้งที่ไม่ควรรอ หรือไม่ควรเสียเวลารออีกต่อไป แต่ก็ไม่รู้จะไปไหน จ่ายค่ามิเตอร์ไปเรื่อยๆ เหมือนที่คุณจขกท.ว่าเลยค่ะ อยากโดดลงจากแท็กซี่จังเลย จะบาดเจ็บแค่ไหนเน้อ?? กระทู้แนะนำห้องนี้น่ารักนะ สังเกตหลายครั้งแล้ว มีเรื่องราวดีๆ มาแบ่งปันกันเสมอ^^ จากคุณ : Alex on the rock เขียนเมื่อ : 20 มี.ค. 55 15:22:08

ความคิดเห็นที่ 50 เราก็ไม่รู้จะวางเป้าหมายยังไง เราอยากออกไปเปิดร้านหนังสือ ขายหนังสือออนไลน์ แต่เราไม่รู้จะทำยังไง มีแต่คนคัดค้าน นู่นนี่ ขายไม่ได้หรอก อย่างงู้นอย่างงี้ ได้แน่นั่งเป็นโปรแกรมเมอร์ไปวันๆ ทั้งๆ ที่เป็นอาชีพที่ใฝ่ฝันมาตั้งแต่เด็กๆ จากคุณ : ร่มแห่งความหวัง เขียนเมื่อ : 20 มี.ค. 55 16:05:37

ความคิดเห็นที่ 51 ผมเป็นคนนนึงที่ไม่มีเป้าหมายในชีวิต  ไม่มีเลยจริง ๆ แค่ตื่นมาทำงาน เย็นกลับบ้านนอน ไม่ใช่ผมไม่อยากมี แต่มันไม่มีก็ไม่รู้จะทำยังไง พยายามหา แต่ก็ยังไม่เจอ ผมก็อยู่ไปวัน ๆ เงินเดือนก็แค่พอประทังชีวิต อนาคตเป็นสิ่งนึงที่ผมไม่อยากคิด เพราะคิดไป มันก็คิดได้แต่เรื่องร้าย ๆ เงินเดือนแค่นี้ ความรู้ ก็แค่นี้ อายุขนาดนี้ แค่คิดก็เครียดแล้ว 55555 แต่ผมโชคดีที่มีบ้านให้นอน แฟนไม่มี ก็มีแค่ พ่อแม่ ที่ต้องดูแล แค่นั้น ทุกวันนี้ได้แค่ ทำความดี สวดมนต์ ก่อนนอน แผ่ส่วนกุศล ก็หวังว่า ชะตาคงจะพาให้ไปเจอเป้าหมายสักวัน ... จากคุณ : ทำกรรมไว้เยอะ (พ่อมดกระป๋อง) เขียนเมื่อ : 20 มี.ค. 55 17:46:00

ความคิดเห็นที่ 52 ยังไม่รู้เลยครับตั้งแต่เด็กว่าอยากเป็นอะไร  ทหาร หมอ นักบินอะไรก็ไม่ใช่ หวังแต่ว่าชีวิตจะร่ำรวยบ้าง   มีความสุขเยอะๆ   ก็พอแล้ว    แบบนี้ถือเป็นเป้าหมายได้หรือเปล่าครับ จากคุณ : ต้อมMRP เขียนเมื่อ : 20 มี.ค. 55 21:59:39

ความคิดเห็นที่ 53 จากที่เคยเจอมานะครับ คนวางเป้าหมายเป็นมีเยอะมาก แต่บริหารแผนไม่เป็น ทำให้ไม่ประสบผลสำเร็จเท่าที่ควร  ไม่มีใครหรอกครับที่วางแผนไว้แล้วจะได้ตามที่คิด ทุกอย่างมันมีอุปสัก และ อุบัติเหตต่างๆเข้ามาตลอดเวลา     มันมีกระบวนการคิด ประเมิน และปรับปรุงแผนอยู่ตลอดเวลา เพิ่อให้บรรลุเป้าหมาย   ความสำเร็จตรงตามเป้าหมายหรือไม่อยู่ที่การบริหารแผน และความถี่ในการประเมินผลของแผนงาน ตอนผมคิดได้ก็ 29 แล้วไม่มีอะไรติดตัวเลย นอกจากหนี้ 4แสนกับเงินเดือน 15,000 ผมเคยวางเป้าหมายว่า เกษียนรตอนอายุ 55 จะมีสวน 3 ไร่แล้วไปทำสวน ,ขายข้าวแกงแก้เหงาด้านหน้าสวน วันละ 20-30จาน โดยมีเงินเก็บใว้กินไว้ใช้ วันละ 500-1000 บาท  (ถ้าตอนนี้ผมเอาทรัพสินที่มีอยู่ให้เช่า ก็น่าจะได้ครบแล้ว)   ผ่านปัญหามากมายทั้งต้มยำกุ้ง, 911, hamburger crisis ,ก็ปรับแผนมาเรื่อยๆ  ไม่รีบร้อน ตอนนี้ขาดแค่ที่ทำสวนอย่างเดียว คาดว่าจะมีครบทุกอย่างเร็วๆนี้แล้ว ก่อนเวลาหลายปีอยู่ เวลาที่เหลือคือกำไรชีวิต ที่สำคัญอย่าลืมให้เวลาและรางวัลกับตัวเองและครอบครัวบ้าง  จากคุณ : Lumpu เขียนเมื่อ : 20 มี.ค. 55 22:25:55

ความคิดเห็นที่ 54 ความคิดเห็นที่ 36     เพิ่งอ่านเจอในเฟสบุคพี่คนนึง แนวคิด Begin with the end in mind :  มองเห็นภาพจบให้ได้ก่อนแล้วค่อยเริ่มลงมือทำ ชีวิตจะมีทิศทางไม่ค่อยเป๋  เด็กไทยส่วนใหญ่ไม่เคยถูกสอนให้คิดอย่างนี้ ไม่เคยได้จินตนาการชีวิตข้างหน้าให้ยาว ให้ชัดให้สุดตอนเลือกคณะเรียน เลือกคนแต่งงาน หรือเลือกอะไรก็ตามในชีวิต ตัวอย่างง่ายๆเช่นฝรั่งเค้าสอนเด็กให้ติดกระดุมจากเม็ดสุดท้าย ซึ่งเปอร์เซนการติดผิดมันน้อยมาก จากคุณ : SmallSweetSmile  เขียนเมื่อ : 19 มี.ค. 55 17:56:21   ลองอ่าน 7 habits ดูครับ Be proactive          เลือกที่จะเป็นหรือทำ แล้วทำให้ดีที่สุด   Begin with the end in mind  การนำผลลัพธ์สุดท้ายที่เราต้องการเป็นตัวตั้ง Put First things first  การบริหารเวลา อย่าปล่อยให้ทุกอย่างเป็นปัญหาเร่งด่วน Think win-win            การแก้ไขปัญหาต่างๆ เป็นไปเพื่อให้ทุกฝ่ายได้รับประโยชน์    Seek understand rather than to be understood   เข้าใจคนอื่นก่อนจะให้คนอื่นเข้าใจเรา Synergies  เกิดจากการยอมรับในคุณค่าของตนเอง และเข้าใจในความแตกต่างที่ผู้อื่นมีมุมมอง ลดการวิพากษ์วิจารณ์อย่างไม่สร้างสรรค์ Sharpen the saw   ฝึกฝนอยู่เสมอ จากคุณ : Lumpu เขียนเมื่อ : 20 มี.ค. 55 22:44:25

ความคิดเห็นที่ 55 ความคิดเห็นที่ 27     ค่าทางด่วนเท่าไรครับ? แท็กซี่สภาพดีไหมครับ? คนขับแท็กซี่ขับอย่างไร บริการอย่างไรครับ? ขับๆอยู่จะไล่ลงแล้วไปส่งรถไหมครับ? ถ้าไม่มีค่าทางด่วน? อะ...ค่าทางด่วนมีพอ...แต่รถเสีย?(บนทางด่วนก็แน่นอนครับ ไม่มีแท็กซี่ว่าง) อยู่บนทางด่วนจู่ๆมีรถสาวไฮโซมาสอยท้าย? แท็กซี่โกงมิเตอร์? ทางด่วนยังซ่อมไม่เสร็จ? คนขับแท็กซี่หาทางลงจากทางด่วนไม่เจอ ตัวเองก็ไม่ทราบมาก่อนว่าเส้นทางเปลี่ยน...? ป้ายทางด่วนติดผิด? "ผมคิดว่า มีหลายปัจจัยในชีวิตคนที่เกิดขึ้นอย่างช่วยไม่ได้ ไม่คาดฝัน หลีกเลี่ยงไม่ได้ฯลฯซึ่งมีผลกระทบต่อเป้าหมายชีวิตครับ" จากคุณ : ทูตซ้ายเอี้ยเซียว    ;============================ อันนี้เขาเรียกไม่บริหารแผนงานครับ  คุณเลือกได้ที่จะปล่อยให้มันเป็นไปตามยถากรรมหรือ ปรับแผนตัวเองเพื่อให้ยังอยู่ในแผนงาน  ผู้บริหารที่แท้จริงจะไม่รอโชคชะตาครับ เขาจะทำสิ่งต่างๆเพื่อให้แผนงานเป็นไปอย่างที่ควรมากที่สุด จากคุณ : Lumpu เขียนเมื่อ : 20 มี.ค. 55 22:51:52

ความคิดเห็นที่ 56 เป้าหมายมีไว้พิชิต รายทางมีเรื่องให้เล่าขานจดจำ ลำนำคือเสียงที่คลอในใจตลอดเวลา น้ำตาและเสียงหัวเราะสลับสับเปลี่ยนกันมาดั่งฤดูกาล แม้ไปไม่ถึงเป้าหมาย ก็มิได้หมายความว่าการเดินทางจะไร้ความหมาย ผู้พิชิตเป้าหมายแล้ว อาจยังไม่บรรลุจุดหมายในใจ ผู้ที่ละเลิกจากเป้าหมาย ทั้งที่เหลืออีกเพียงก้าวเล็กๆ ก้าวเดียวเท่านั้น แต่การยุติการเดินทางอันยาวนานด้วยความรู้ตัว อาจยังความปีติยิ่งกว่าการพิชิตเป้าหมายก็ได้ นะครับ ปล. อยากติดตามตอนที่สองของ จขกท. ด้วยนะครับ จากคุณ : PoojeeChunn เขียนเมื่อ : 21 มี.ค. 55 01:06:32

ความคิดเห็นที่ 57 หลายแนวคิดในนี้น่าสนใจมากจริงๆ ขอบคุณครับ จากคุณ : cougar no.9 เขียนเมื่อ : 21 มี.ค. 55 11:40:17

ความคิดเห็นที่ 58 ขอบคุณมาก ๆ ครับที่สะกิดใจผมหลายๆ อย่าง ได้แต่ถอนหายใจ เฮ้อ.. จากคุณ : JusTTOwn เขียนเมื่อ : 21 มี.ค. 55 16:30:15

ความคิดเห็นที่ 59 ถ้าเป้าหมาย เปรียบเหมือน ความใฝ่ฝัน ความสำเร็จ ในโลกของความเป็นจริง มีสักกี่คนที่ไปถึงจุดนั้นได้ครับ แต่สำคํญ หากมีเป้าหมาย การวางแผนไปสู่เป้าหมาย ก็อาจจะง่ายขึ้น แต่สำหรับบางคน เส้นทางที่จะไปสู้เป้าหมาย มันช่างเหนื่อยเหลือเกินครับ จากคุณ : dekmanu เขียนเมื่อ : 21 มี.ค. 55 18:50:30

ความคิดเห็นที่ 60 เป้าหมาย ดี ชัดเจน สำเร็จได้ เหมือนตัวเราลิขิตได้เอง แต่บางอย่างเคยเจอกันบ้างมั๊ย ปัจจัยอื่นเหมือนอุปสรรค แต่ยิ่งกว่าอุปสรรค อุปมาเหมือนรถแท็กซี่เจออุบัติเหตุ หรือ สินามิน้ำจืด นี่แหละ เขาเรียกว่า ฟ้าลิขิต ครึ่งนึง เราลิขิตครึ่งนึง จากคุณ : irisquartz เขียนเมื่อ : 21 มี.ค. 55 19:57:15

ความคิดเห็นที่ 61 ต่อจาก ความคิดเห็นที่ 47 ชายคนที่ 4 โบกรถ taxi แท๊กซี่  : "ส่งรถครับ" .. จากคุณ : ขำ ๆ น๊าาาา :P (DarkEnemy) เขียนเมื่อ : 22 มี.ค. 55 12:01:07

ความคิดเห็นที่ 62 บทความไม่ว่าจะอันไหน เค้าให้คุณมองที่จุดประสงค์หลักเมื่อจบบทความว่า คุณควรจะมีเป้าหมายชีวิต สักทาง เน้นว่า "ทาง" ส่วนเนื้อหาย่อยพวกเปรียบเปรย รถแท็กซี่ มันก็แค่เปรียบเปรย มันตอบโจทย์ชีวิตคนทุกคนบนโลกไม่ได้หรอกค่ะ ป่วยการที่จะมานั่งเถียงว่า วิธีการบอกแท็กซี่ของใครถูกหรือผิด อย่างเรื่องสตีฟ จ๊อบก็เหมือนกัน เป้าหมายเค้าคือ "บางอย่าง" ความรู้สึกนี้ แนวนี้ สักวันชั้นจะต้องไปยืน ที่ที่เป็นแนวทางของชั้นไม่ใช่ คอม มือถือ ไอแพด ไอพอด นั่นคือวัตถุ นั่นคือผลงาน ที่แตกหน่อออกมาการันตีความเป็น  Apple (อย่ามานั่งแย้งอีกนะว่า โอ้ย ระหว่างนี้โดนออกจาก apple งั้นงี้ นั่นมันระหว่างทาง) จากคุณ : หนูนากระป๋อง เขียนเมื่อ : 22 มี.ค. 55 13:04:46

ความคิดเห็นที่ 63 จากคุณ : เอก (akeiti06) เขียนเมื่อ : 22 มี.ค. 55 15:14:24

ความคิดเห็นที่ 64 เรื่องชีวิตเป็นเรื่องแปลกอยู่อย่างหนึ่ง ตรงที่แต่ละคนมีของตัวเองไม่เหมือนใคร สิ่งสำคัญในชีวิตคืออะไรมีเพียงเจ้าตัวเท่านั้นที่รู้ บางคนรู้ตั้งแต่แรกๆ แล้วก็เลยตัดสินใจยอมทิ้งบางสิ่งเพื่อรักษาสิ่งสำคัญนั้นไว้ บางคนกว่าจะรู้ก็ต่อเมื่อสูญเสียอะไรบางอย่างไปแล้ว บางคนรู้ตัวเมื่อถึงวันสุดท้ายของชีวิต ในจำนวนนั้นมีบางคนที่แม้ตายไปแล้วก็ยังไม่เคยรู้เลย หลายคนเมื่อเวลาผ่านไปก็พบว่าสิ่งที่เคยคิดว่าสำคัญนั้นมันไม่ได้สำคัญอีกต่อไปแล้ว ขณะที่สิ่งที่เคยคิดว่าไร้สาระประโยชน์ใดๆ กลับกลายมาเป็นสิ่งสำคัญในชีวิต ถ้าไม่สายเกินไปที่จะกลับไปให้เวลากับมันหรือหากตายไปเลยโดยไม่รู้เรื่องนี้ก็ถือเป็นโชคที่ดีแต่ก็มีบางคนที่กว่าจะรู้ตัวก็กลับลำไม่ทัน วิถีทางในการดำเนินชีวิตก็คือหนึ่งในเรื่อง "สิ่งสำคัญ" นี้ จึงเป็นเรื่องที่อธิบายให้ใครคนอื่นฟังก็ไม่เข้าใจ คนที่ฟังแล้วจะเข้าใจมีแต่คนที่มีสิ่งสำคัญอย่างเดียวกันนั่นเอง ตัวเราเองนั้นได้แต่หวังว่าเราจะมีเวลาให้กับ "สิ่งที่เราคิดว่าสำคัญ" อยู่ทุกวันนี้และมันจะยังคงเป็น "สิ่งสำคัญสำหรับเรา" ในอีกสิบปี ยี่สิบปีข้างหน้า แม้ว่าจะมองย้อนกลับมาในอดีตและก็จะเป็นอย่างนี้ไปจนวันสุดท้ายของเราอย่างไม่เปลี่ยนแปลง และเมื่อเวลานั้นมาถึงเราจะได้ไม่ต้องนึกถึงประโยคที่ว่า "รู้งี้ทำ/ไม่ทำตั้งแต่ตอนนั้นเสียก็ดี" เพียงเท่านั้นเอง... จากคุณ : AYLIT เขียนเมื่อ : 22 มี.ค. 55 15:28:00

ความคิดเห็นที่ 65 ขอแชร์ครับ  อ่านแล้วผมเริ่มวางเป้าหมายในชีวิตแล้วครับ ขอบคุณครับ จากคุณ : Jalalabut (Jalalabut) เขียนเมื่อ : 22 มี.ค. 55 16:18:58

ความคิดเห็นที่ 66 เป้าหมายมีไว้พุ่งชน ฉะนั้นเรามาเป็นกระทิงกันเถอะ ^^ จากคุณ : ปากกาสีจาง เขียนเมื่อ : 22 มี.ค. 55 20:51:30

ความคิดเห็นที่ 67 จะผิดไหมถ้าผมจะบอกว่า เป้าหมายของชีวิตผมคือ ไม่ต้องทำงาน อยู่แบบชิลๆ จากเงินที่เป็นดอกเป็นผลจาก การลงทุนไม่ว่าจะเป็นดอกเบี้ย หรือว่า ทอง หรือ หุ้น ก็แล้วแต่ โดยที่ไม่ต้องมีเงินมากมาย ปล ตอนนี้ฝันที่ว่า เดินทางมาได้ สัก 25 เปอร์เซนต์แล้ว แก้ไขเมื่อ 22 มี.ค. 55 21:53:46 จากคุณ : อย่าหวังทางลัด (ponknook) เขียนเมื่อ : 22 มี.ค. 55 21:51:55

ความคิดเห็นที่ 68 ผมว่าทุกคนมีเป้าหมายในใจกันแทบทั้งนั้นแหละ เพียงแต่ในชีวิตคนเรามันมีเรื่องมากมายให้ต้องคิด ต้องกังวล บางครั้งทำให้เราลืม จนขาดความต่อเนื่องในการลงมือปฏิบัติไป นี่ยังไม่นับคู่แข่งของคุณที่จะต้องเจอในสายงานคุณอีกต่างหาก ตอนเด็กๆผมชอบหาหนังสือแนวๆนี้มาอ่านเป็นบ้าเป็นหลังเลย อ่านแล้วก็มันส์ ไฟลุกพรึ่บพรั่บ เดี๋ยวนี้พอได้ยินคำว่าการวางเป้าหมาย พาลให้นึกถึงภาพการแข่งขันอย่างเอาเป็นเอาตายเพื่อไปสู่ความร่ำรวยซะงั้น เลยขอใช้วิตแบบเรือเกลือดีกว่า ซึ่งคงจะไม่ผิดอะไรนัก เพราะมันก็คือชีวิตอีกรูปแบบหนึ่งอยู่แล้ว จากคุณ : head of a nail (headofanail) เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 55 02:25:38

ความคิดเห็นที่ 69 เมื่อย้อนไปยี่สิบกว่าปีที่แล้ว เรียนให้เก่ง จบให้เร็ว เข้าทำงานราชการ คือโครงร่างของเป้าคร่าว ๆ ที่วาดไว้ ยี่สิบปีผ่านไป มันก็เป็นไปตามเป้า สิบกว่าปีที่ผ่านมา อยากมีครอบครัวที่อบอุ่น อยู่ด้วยกันทุกวัน พัฒนางานที่ทำบ้าง คือโครงร่างเป้าหมายลาง ๆ สิบปีต่อจากนี้ คือ พัฒนางานที่ทำ  ท่องเที่ยว ดูแลพ่อ แม่ ดูแล เมีย ๆ ลูก ๆ ให้เติบโต คือเป้าลาง ๆ ที่วางไว้ พอใช้ได้ไปครับสำหรับ Plan อย่างนี้ แต่ละช่วง มันทุกข์ซะ หกสิบกว่าเปอร์เซ็นต์ สุขสี่สิบกว่าเปอร์เซ็นต์ แต่มันก็พอผ่านไปได้ทุกช่วง ขอแชร์ประมาณนี้ครับ จากคุณ : ครูตู้ เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 55 11:43:34

ความคิดเห็นที่ 70 เราก็ยังไม่เห็นเป้าหมายในชีวิตซักที เรียนจะจบแล้วเนี่ย รู้สึกเคว้งๆเลยอ่ะ ปกติก็ได้แต่ไปโรงเรยน ไปมหาลัย นี่จบแล้วก็ยังไม่มีงานอะไร รู้สึกตัวเองไม่มีความฝันเอาซะเลย แย่จริง มีเรื่องที่อยากทำแต่ไม่รู้จะได้ทำหรือเปล่านี่สิ เฮ้อ คิดแล้วก็กลุ้ม จากคุณ : แม่นางคำ เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 55 11:50:34

ความคิดเห็นที่ 71 ขอแชร์นะครับ จากคุณ : nonbindil เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 55 16:00:43

ความคิดเห็นที่ 72 เห็นด้วยกับเจ้าของกระทู้ครับ ผมก็เป็นคนนึงที่ชอบนั่งแท็กซี่แบบไม่รู้ว่าจะไปไหนเหมือนกัน ตลอดเวลาที่ใช้ชีวิตทำงานบริษัทเอกชนอยู่ทุกวันนี้  ก็ถามตัวเองตลอดเวลา ว่าอนาคตจะเป็นยังไง  จะรับจ้างไปแบบไม่มีเงินเก็บยังงี้จริงๆหรือ  และจะจบแบบไหน  อีกนานเท่าไหร่...(ไม่เคยตอบตัวเองได้เลยสักที) จนทุกวันนี้ 33 แล้วครับ มีแฟน 1 คน กำลังจะแต่งงาน แต่ไม่จบในคำถามอยู่ดี......อนาคตข้างหน้าจะเป็นอย่างไร ไม่ทราบเช่นเดิม อีกไม่กีปี(อึดใจ) ลูกต้องเกิด ก็คิดว่าต้องถามตัวเองแบบตอบไม่ได้อย่างนี้ต่อไปอีก... และคิดว่าคนไทยจำนวนไม่น้อย เป็นเช่นเดียวกันกับผมหรือแย่กว่าผมนี้เสียอีก วันที่ท่านเฉลียวเสีย...ก็ศึกษาประวัติท่านย้อนหลังนะ  ยอมรับว่านี่แหละของจริง มาจากดินโดยแท้  นั่นแปลว่ามีเป้าหมาย และผมก็ไม่ทราบว่าทำได้ยังไง ในการไต่เต้าของชีวิต เริ่มจาก 0 แต่ไต่ระดับได้จนถึงขีดสูงสุดของยอดมนุษย์ ธุรกิจของคุณเฉลียว สามารถยึดโลกได้ เช่นเดียวกันกับธุรกิจ ซอร์ฟแวร์ ของบิลเกตต์เลยทีเดียวนะ  เพราะไม่มีเขตพื้นที่การขายและไม่มีคนชาติใดในโลกบอกว่ากระทิงแดงมีรสชาดขม หรือฝาด ขนาดธุรกิจคุณทักษิณ มีจำกัดพื้นที่การสัมปทานสัณญาณดาวเทียม  ยังรวยได้ขนาดนี้เลยพ่อคุณเอ๋ย  แล้วเฉลียวจะขนาดไหน ลองคูณดูนะครับ ................................................................................ ที่ยกตัวอย่างมานี้ ผมแค่เปรียบเทียบในมุมที่ผมมอง แต่บางท่านอาจไม่ได้คิดเช่นนี้ จากที่ดูคุณเฉลียวผมมองเห็นว่า ความสำเร็จของชีวิตคนเรา เป็นไปทั้งนั้น ไม่จำกัดชนชั้นนะ...มันอยู่ที่เป้าหมายจริงๆครับ ฝันให้ไกล  แต่ต้องไปให้ถึงครับ  อันนี้ได้ยินจนชินเช่นกัน คำว่าไปให้ถึงนี่แหละมันยากและสำคัญ บางทีผมทั้งแบ่งรับแบ่งสู้ เดินแบบหยุดๆหย่อนๆไม่ต่อเนื่อง เพราะไม่ถ่องแท้กับวลี สโลแกนโฆษณาของกระทิงแดงที่ว่า  "เป้าหมายมีไว้พุ่งชน" ก่อนนี้ผมเฉยๆกับวลีนี้นะ แต่ตอนนี้ เพิ่งจะแปลออก  ลึกซึ้งมาก!!!  คุณเฉลียวคงท่องมาตลอดชีวิต และก็ประสบความสำเร็จในชีวิตอย่างไม่น่าเชื่อ เพราะเป้าหมายมีไว้พุ่งชน ............................................................................................. สรุป  ผมเห็นด้วยกับเจ้าของกระทู้นี้ และอยากให้เพื่อนๆทุกท่าน อย่าเห็นเป้าหมายเป็นสิ่งไกลเกินตัว  จงท่องให้ขึ้นใจและทำให้จนถึงว่า "เป้าหมายมีไว้พุ่งชน" นึกถึงคุณเฉลียว และกระทิงแดงเข้าไว้ครับ  อย่างน้อยก็จะเตือนให้เราไม่ท้อในชีวิตครับ/// แก้ไขเมื่อ 23 มี.ค. 55 22:55:36 แก้ไขเมื่อ 23 มี.ค. 55 22:52:32 จากคุณ : เพชรภูธร เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 55 22:44:38

ความคิดเห็นที่ 73 ตัวผมเองตั้งเป้าหมายไว้ว่า เมื่ออายุ 30ปี ต้องมีรายได้ต่อเดือนให้ได้ อย่างต่ำ 1แสนบาท/เดือน หรือไม่งั้นก็ต้องมีธุรกิจเป็นของตัวเองให้ได้  คือเห็นหคนหลายๆคนเป็นจำนวนมากเขาก็ทำกันได้ แล้วพอย้อนมามองตัวเอง ก็ได้แต่ถอนหายใจแรงๆหลายๆเฮือก พึ่งมารู้สึกเสียดายเวลาเอาก็ตอนนี้จริงๆ  แอบรู้สึกเสียดายเวลามากๆกับการตัดสินใจที่อาจจะเรียกได้ว่า ผิดพลาดที่สุดครั้งหนึ่งในชีวิตนี้ แทนที่ตอนนี้จะมีประสบการทำงาน 5ปี ดันกลายเป็น 3ปี ซะงั้น   แต่ด้วยทิฐิที่ตอนนั้นยอมทิ้งหลายๆสิ่งเพื่อวิ่งตามความฝันในวัยเด็กของตัวเอง ผลคือเวลาที่หายไป 2ปี นอกจากเรื่องประสบการชีวิตบางอย่างแล้ว 2ปีที่เสียไปตอนนั้น ไม่ได้ช่วยอะไรได้มากมายกับอาชีพของผมเลยจริงๆ แทนที่จากเดิมมีเวลา 8 ปีเพื่อใช้ในการบรรลุเป้าหมาย ตอนนี้เหลือ 6ปี..   ไหนจะเงินเก็บทั้งหมดที่เสียไปเพื่อเอาไปใช้เพื่อวิ่งตามความฝันนั้นอีก... นี่แหละครับ คือผลของการที่มีแค่เป้าหมาย แต่ไม่ได้คิดถึงมีวิธีการแผนการทางเลือกเดินที่เราจะไป.. ใช้ชีวิตไร้สาระไปวันๆ ลงเอยก็จะมานั่งเสียดายเวลาแบบผมนี่แหละ จากคุณ : GusZ เขียนเมื่อ : 24 มี.ค. 55 02:13:25

ความคิดเห็นที่ 74 ... ครับ ... ครั้งนะครับว่า ช่วยๆๆ กันกด VOTE ก็ดีนะครับ เพี่อที่ กระทู้จะได้อยู่ได้นานๆ นะครับ จากคุณ : okb เขียนเมื่อ : 24 มี.ค. 55 09:48:45

ความคิดเห็นที่ 75 อ่านแล้ว "โดน" คะ จากคุณ : น้องนู๋ GaZib เขียนเมื่อ : 26 มี.ค. 55 18:53:23