ความคิดเห็นที่ 1 ดีทั้งคู่น่ะครับ เป็นข้าราชการ ไปถึง อธิบดี ปลัด ได้  ถึงจะน้อยถึงน้อยมาก แต่มันก็มีตำแหน่งให้เป็นได้ เป็นอาจารย์ ก็ไปได้ถึง คณบดี อธิการบดี ถึงจะน้อยถึงน้อยมาก แต่มันก็มีตำแหน่งให้เป็นได้ ทั้งคู่ถ้าไปถึงระดับหัวขององค์กรณ์ก็ไปเป็น กรรมการ ที่ปรึกษา อะไรได้อีกเยอะแยะ ดีทั้งคู่น่ะครับ ทั้งนี้อาจาร์ย ความหลากหลายของงานเยอะกว่า นอกจากสอนแล้วยังมีอะไรให้ทำอีกมาก  ว่าไปมหาวิทยาลัยหนึ่งๆ ก็อาณาจักรดีๆนี่เองแหละครับ จากคุณ : golfturbo (golfturbo) เขียนเมื่อ : 19 มี.ค. 55 22:23:20

ความคิดเห็นที่ 2 ผมว่าแล้วแต่ที่แล้วแต่สายนะ อย่างสายผมขึ้นได้เรื่อยๆถึงระดับ ผอ.ทุกคน ยังงี้ราชการโอกว่า เพราะได้บำนาญ ตันก็สูงเงินประจำตำแหน่งก็สูง แต่ถ้าสายที่ตันเร็วกว่านี้จริงๆ เป็นอาจารย์ก็อาจจะดีกว่านะ แต่จริงๆที่ผมทราบมาอาจารย์ก็ตันเร็วนะ แต่จะดีที่มีทุนวิจัย แต่ข้าราชการถ้าถูกหน่วยงบพวกนนี้ก็ไม่น้อยหรอก ดังนั้นผมว่าคำว่าราชการมันกว้างไปคุณต้องระบุว่าข้าราชการอะไรครับ เอาง่ายๆคุณอาจจะบอกว่าอาจารย์มันเป็นได้ถึง อธิการ แต่สายปกครองก็ได้เป็นถึงผู้ว่า(C เท่ากัน) ผมว่าใน ประเทศไทยผู้ว่ามีเยอะกว่าอธิการ และที่สำคัญผู้ว่าใหญ่กว่าอธิการเยอะ จังหวัดยิ่งกว่าอาณาจักรดีๆอีกครับ 1 มหาลัยมีพนักงานเกือบพัน มีอธิการ 1 คน ข้าราชการฝ่ายปกครองมี 50k มีผู้ว่า 76 คน(ไม่รวมกทม.) อัตราแข่งขันก็พอๆกัน แถมเอาจริงๆแค่นายอำเภอก็ใหญ่โคตรๆแล้วพี่น้อง ส่วนทหารตำรวจ เป็นแค่หมวด แต่ถ้าได้เป็นหน.หน่วยอิสระ นี่ก็อาณาจักรดีๆไม่แพ้กันครับ ลูกน้องเป็นร้อย มีรถมีงบ ไม่ต้องพูดถึงผบ.พลที่ตำแหน่งเท่าอธิการเลย ส่วนหมอ แค่จบใหม่ก็เป็นผอ.รพ. แล้วครับ เป็นอาจารย์หมอก็ดีแต่ว่าเป็นผอ.รพ. ใหญ่ๆก็ไม่เบาครับ น้องผมเป็นนักบินของทางราชการจบใหม่ เงินเดือน เกือบ 50k ไปบินซิมปีละครั้งเบี้ยเลี้ยงเกือบแสน ผมก็ว่าไม่เลวครับ สรุประบุชัดไปเลยดีกว่าครับว่าตัวใหน เพราะแต่ละอาชีพแต่ระสายไม่เหมือนกัน ข้าราชการเหมือนกัน ต่างหน่วยต่างกันเยอะครับ ส่วนผมทุกวันนี้รับราชการ ไม่ได้รับราชการเป็นครูนะครับ แต่ผมก็รับงานสอนเป็นอาจารย์พิเศษตามมหาลัย ทั้งรัฐและเอกชน  ไม่เห็นว่าจะทำได้ต่างจากอาจารย์มหาลัยรับงานอย่างไร อย่ามองมุมแคบครับ การรับงานสอน ไม่จำเป็นต้องเป็นอาจารย์แค่คุณทำงานสายของคุณให้เก่งและชำนาญ เค้าก็เชิญคุณไปสอนเองครับ แก้ไขเมื่อ 19 มี.ค. 55 23:50:52 แก้ไขเมื่อ 19 มี.ค. 55 23:47:19 แก้ไขเมื่อ 19 มี.ค. 55 23:33:07 จากคุณ : hil4552 เขียนเมื่อ : 19 มี.ค. 55 23:29:22

ความคิดเห็นที่ 3 อาจารย์มหาวิทยาลัยที่เป็นข้าราชการ จากคุณ : น้องส้มเช้ง เขียนเมื่อ : 20 มี.ค. 55 08:34:59

ความคิดเห็นที่ 4 ถ้าคุณคิดจะก้าวหน้า คุณต้องทำงานเอกชน ถ้าคิดทำงานมั่นคง ก็ทำงานราชการ เช้าชามเย็นชาม+ไม่ขัดใจนาย แถมทาชะแล็คสักนิด ก้าวหน้าไม่ยาก เลิกคิดเถอะครับ ที่จะหางานที่มั่นคง แค่คิดอย่างนี้ก็แสดงให้เห็นว่า ... ขาดตกบกพร่อง ... ความกระตือรือล้น จากคุณ : TinyNu เขียนเมื่อ : 20 มี.ค. 55 09:22:11

ความคิดเห็นที่ 5 #4 ไม่เห็นเกี่ยวเลยครับ อย่ามาหัวโบราณแล้วเหมา ลองมาทำงานราชการดูมันไม่ได้ง่ายและเช้ามเย็นชามขนาดนั้นหรอกนะ ส่วนเรื่องหางานมั่นคง หรือไม่มั่นคงอะไรเหตุผลของแต่ละคน อย่ามาตัดสินคนอื่น คนชอบความมั่นคงไม่ได้ หมายความว่าขาดตกบกพร่อง ไม่กระตือรือล้น คนอื่นคนไม่เหมือนตัวเองไม่ได้หมายความว่าเค้าโง่   เพราะปากอย่างนี้ไม่แปลกที่โดนตะโก้ตามเล่นทุกกระทู้ จากคุณ : hil4552 เขียนเมื่อ : 20 มี.ค. 55 09:40:40

ความคิดเห็นที่ 6 ข้าราชการตำแหน่งตัน คนเก่าไม่ออกไม่ได้ขึ้นแน่ อาจารย์ำขอแค่คุณเก่ง ผลงานถึงได้เลื่อนตำแหน่งเลย จากคุณ : giser เขียนเมื่อ : 20 มี.ค. 55 10:19:35

ความคิดเห็นที่ 7 ต้องข้าราชการครูอยู่แล้ว เลื่อนตำแหน่งโดยไม่มีกั๊ก ต่างจาก ข้าราชการพลเรือนสามัญสังกัด กพ  เลย จากคุณ : หวานแซบ เขียนเมื่อ : 20 มี.ค. 55 11:19:18

ความคิดเห็นที่ 8 ครูดีกว่ามากจริงๆครับ ถ้าเก่ง+มีความสามารถเป็นครูรุ่งแน่ๆ ยุคทองของครูจริงๆ จากคุณ : GRAYG เขียนเมื่อ : 20 มี.ค. 55 12:24:05

ความคิดเห็นที่ 9 d จากคุณ : okb เขียนเมื่อ : 20 มี.ค. 55 12:58:50

ความคิดเห็นที่ 10 ที่แน่ๆ ถ้าเป็นอาจารย์นี้  ถ้าคุณแน่พอ มุ่งมั่นสอน มีผลงาน แล้วยิ่งถ้าคุณกล้าขอโปรเจค รู้จักหาเส้นสายหรือconnectionดีๆในราชการ หรือNGOsทุนหนาๆ(นี้พูดในแง่บวกนะคะ) หรือกล้าออกสื่อ  บรรยายบ่อยๆ บอกอย่างเดียวว่า ได้ทั้งเงินได้ทั้งกล่อง อย่างเจ้านายเก่าเรา มีหน้ามีตา แถมรายได้เดือนละตกหลายแสนอยู่... แต่สุดท้าย ทุกอย่างอยู่ที่ตัวคุณเองค่ะ :) จากคุณ : ปืนติดพิษ เขียนเมื่อ : 20 มี.ค. 55 14:03:27

ความคิดเห็นที่ 11 ต่อไปครูเงินเดือนถึงแสนจริงๆนะครับ จากคุณ : alfabaron (alfabaron) เขียนเมื่อ : 20 มี.ค. 55 14:28:59

ความคิดเห็นที่ 12 อาจารย์มหาวิทยาลัยต้องดูว่ามหาวิทยาลัยไหนด้วย ถ้าเป็นมหาวิทยาลัยเอกชนที่ไม่ดัง (เช่นในตจว) คงยาก เพราะบางมหาวิทยาลัยบริหารแบบครอบครัวหรือแบบธุรกิจมากเกินไป เน้นปริมาณมากกว่าคุณภาพ จากคุณ : Alex on the rock เขียนเมื่อ : 20 มี.ค. 55 15:31:24

ความคิดเห็นที่ 13 ...ถ้าเก่งจริงๆ น่ะ ไปเป็นอะไรมันก็เก่งหมดนั่นแหละครับ... ไปตัดผมก็รวย ไปเตะบอลก็รวย ไปทาเล็บก็รวย ไปเป็นชาวนาก็รวย อัจฉริยะมีตั้ง 8 ประการ ข้าราชการก็เช่นกัน อาจใช้ความเป็นอัจฉริยะที่แตกต่างจากเอกชนบ้าง เช่น การเข้าใจตนเอง การเข้าใจผู้อื่น การใช้ภาษา เป็นต้น ลองได้คุยกับ ข้าราชการขั้นสูงๆ แบบ C9- C10 ก็จะพบว่าคนกลุ่มนี้เก่งนะ ก็ไม่ได้แตกต่างจากเจ้าของกิจการ หรือเจ้าของโรงงานใหญ่ๆ เลย กล้าลุย กล้าได้ กล้าเสีย พร้อมชนทุกสถานการณ์ สรุปสั้นๆ ถ้าท่าน จขกท. มั่นใจตัวเอง จัดไปเลยครับ!!! อะไรก็ได้ รุ่งหมดนั่นแหละ จากคุณ : amnakim เขียนเมื่อ : 20 มี.ค. 55 16:39:43

ความคิดเห็นที่ 14 ข้อเท็จจริงมีอยู่ว่า ข้าราชการยุคหลังๆนี้ ข้าราชการระดับสูงๆได้ขึ้นมาเพราะนักการเมืองเกือบทั้งหมด ส่วนใหญ่ไม่ได้โตจากความรู้ ความสามารถที่แท้จริง คุณภาพข้าราชการระดับสูงจะใกล้เคียงกับคุณภาพนักการเมืองที่แต่งตั้ง จากคุณ : chauve-souris เขียนเมื่อ : 20 มี.ค. 55 19:19:41

ความคิดเห็นที่ 15 ข้าราชการอีกไม่เกิน 5 ปี หลายๆหน่วยงานอธิบดี รอง ผอ.สำนัก ผอ.กลุ่ม และพวกระดับชำนาญการพิเศษจะหายไปกันเยอะเลยครับเพราะนโยบายคุมกำเนิดราชการในสมัยนึงทำให้หลายๆหน่วยงานมีปัญหาสร้างคนไม่ทัน อีกไม่นานจะเห็นคนรุ่น 40 เป็นผอ. เยอะมาก ส่วนเรื่องงานถ้าไม่อยากทำงานรูทีนก็ให้ย้ายมาทำงานส่วนกลางกับหน่วยงานที่เป็นฝ่ายชงเรื่องเข้าครม. รับรองเลยว่าหางานรูทีนยากมาก เพราะหน่วยงานที่ทำเรื่องเข้าครม. หน่วยงานเหล่านี้จะได้ทำงานใหม่ๆตลอด ทั้งอธิบดีสั่งอย่างนี้ ปลัดสั่งอย่างโน้น ที่ปรึกษารัฐมนตรีจะเอาแบบนี้ ที่ประชุมเอาแบบโน้น มีม็อบนู่นมาจะจัดการยังไง เรียกว่าเป็นงานที่ไม่มีตำราหรือคู่มือให้ทำตามแต่ต้องหาวิธีการเอาเอง เรียกว่าต้องแก้ปัญหาเฉพาะหน้าทุกวันไม่มีซ้ำ เพราะนายจะเยอะมากถึงมากที่สุด จากคุณ : สายลมปุยเมฆกับฟ้าสีคราม เขียนเมื่อ : 21 มี.ค. 55 01:00:22