ความคิดเห็นที่ 1 รอพี่จักร ณ เมืองเอกมาตอบข้อ กม. ละกันครับ ทุกอย่างปกติ แต่จะใจแคบเรื่องให้ลาออกวันที่ 12 นะครับ จากคุณ : ฉันมันตัวเปล่า เขียนเมื่อ : 20 มี.ค. 55 13:35:22

ความคิดเห็นที่ 2 วันนี้วันที่ 20 มี.ค. ก็ให้ยื่นวันที่ 20 มี.ค.แล้วมีผล 20 เม.ย. ก็ยังดีกว่า ถ้าอย่างนั้นก็บอกบริษัทว่าการกระทำเช่นนี้เป็นการยื่นย้อนหลังซึ่งผิดกฏหมาย เข้าข่ายปลอมแปลงเอกสาร เราจะยื่นตามนี้ หากบริษัทมีข้อคิดเห็นประการใดให้ออกเป็นลายลักษณ์อักษรมา มิฉะนั้นขอให้บริษัทปฏิบัติตามกฏคือจ่ายเงินเดือนถึงวันที่ลาออก จากคุณ : TLL01 เขียนเมื่อ : 20 มี.ค. 55 13:39:14

ความคิดเห็นที่ 3 เรื่องวันลาพักร้อน - ไม่ถูกต้องค่ะ สิทธิ์การลาพักร้อนเป็นผลมาจากการทำงานของปีที่ก่อน เพื่อเอามาใช้ในปีนี้ ทำอย่างนี้มันเอาเปรียบกันเกินไป ส่วนวันลาที่ 26/3/55 - 12/4/55 ถ้าไม่ผิดระเบียบของบริษัท เรื่องแจ้งลาออกล่วงหน้าไม่ครบ 30 วัน พนักงานคงคัดค้านอะไรไม่ได้ค่ะ จากคุณ : กล้วยไม้สีเทา เขียนเมื่อ : 20 มี.ค. 55 13:41:04 A:58.8.6.88 X: TicketID:324995

ความคิดเห็นที่ 4 บริษัททำเช่นนี้ระวังงานจะเข้าเอานะครับ เพราะว่าสิทธิการลาออกนั้นเป็นสิทธิส่วตัวของลูกจ้าง นายจ้างจะไปโต้แย้งสิทธิอันชอบธรรมไม่ได้ การที่ลูกจ้างได้บอกกล่าวล่วงหน้าเอาไว้ 30 วันซึ่งสอดคล้องตามระเบียบข้อบังคับหรือมาตรา 17 แห่งพรบ.คุ้มครองแรงงานแล้ว นายจ้างจะไปโต้แย้งสิทธิให้ลดลงมาไม่ได้ เนื่องจากหากนายจ้างบังคับให้ลูกจ้างเขียนใบลาออกให้มีกำหนดเวลาลดลง ถึงแม้เป็นคุณต่อลูกจ้างเรื่องการให้ผลการลาออกนั้นเร็วขึ้น แต่สิทธิการได้รับค่าจ้างและสวัสดิการในวันหยุดจะถูกตัดสิทธิโดยทันที ผมเห็นว่ากรณีเรื่องการเปลี่ยนแปลงวันลาออก ไม่เป็นธรรมต่อลูกจ้างครับ ท่านเจ้าของกระทู้ลองค้นฎีกาหมายเลข 10161/2551 ขึ้นมาอ้างอิงครับ ต่อมาเรื่องสิทธิการลาหยุดพักผ่อนประจำปี ถึงแม่ว่าลูกจ้างทำงานต่อเนื่องกันมานาน 2 ปีแล้วก็ตาม แต่ตามมาตรา 30 ซึ่งให้สิทธิลูกจ้างในการลาหยุดนั้น ก็ให้สิทธินายจ้างในการจัดการวันลาดังกล่าวด้วยเช่นเดียวกัน ว่าจะให้สิทธิหรือแบ่งเฉลี่ยนสิทธิ์ไปอย่างไร เพียงแต่ นายจ้างต้องประกาศวิธีการจัดการนั้นๆให้ลูกจ้างทราบ ถ้าไม่มีการชี้แจงให้ทราบ ตามกฎหมายให้ถือว่าลูกจ้างได้สิทธิเต็มไปตั้งแต่การเริ่มรอบปัญชีของปีครับ ผมว่า ถ้านายจ้างหรือฝ่ายบุคคลไปหยุ๋มหยิ๋มเรื่องค่าจ้างในวันหยุดสงกรานต์เพียงเท่านี้ ผมคงต้องไล่ให้บริษัทแห่งนี้ไปอ่านสิทธิตามกฎหมายเสียใหม่ล่ะครับ แก้ไขเมื่อ 20 มี.ค. 55 14:20:40 จากคุณ : Chalk_HR เขียนเมื่อ : 20 มี.ค. 55 14:18:41

ความคิดเห็นที่ 5 เรื่องวันลาพักร้อน บริษัทเก่าของผม ถ้าลาออกบริษัทจะคิดตามสัดส่วน เช่น ลาออกสิ้นเดือนมิถุนา สามารถใช้พักร้อนได้เพียง 3 วัน หรือ ลาออกสิ้นเดือนเมษา ก็สามารถใช้พักร้อนได้ 2 วัน หากไม่มีวันลาพักร้อนสะสมมาจากปีก่อน หรือหากมีสะสมมา เช่น 5 วัน ก็สามารถใช้ได้หมดทั้ง 5 วัน รวมกับของปีที่ลาออก ส่วนวันลากิจ ใช้ได้เต็ม 6 วัน จากคุณ : หนุ่ม (Noum NaMon) เขียนเมื่อ : 20 มี.ค. 55 15:00:34

ความคิดเห็นที่ 6 คุณ Chalk_HR หรือ ผู้รู้ทุกท่าน รบกวนขอสอบถามหน่อยนะคะ ถ้าเป็นลาป่วย 1 ปีพนักงานสามารถลาได้ 30 วันโดยไม่ถูกหักเงินเดือน มีกฏหมายแบบนี้กับการลากิจไหมคะว่า ใน 1 ปีพนักงานมีสิทธิลากิจได้กี่วันโดยไม่ถูกหักเงินเดือน จากคุณ : ไปต่อไป... เขียนเมื่อ : 20 มี.ค. 55 16:17:43

ความคิดเห็นที่ 7 ตอบความคิดเห็นที่ 6 การลากิจ อยู่ในมาตรา 34 ของพรบ.คุ้มครองแรงงาน โดยกล่าวว่า "ให้ลูกจ้างมีสิทธิลาเพื่อกิจธุระอันจำเป้นได้ตามข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงาน" ข้อนี้เห็นขัดเจนว่า กฎหมายไม่ได้บังคับว่า นายจ้างจะต้องให้ลากี่วัน หรือต้องจ่ายค่าจ้างหรือไม่ ดังนั้น นายจ้างก็ไปกำหนดเองได้ว่าจะให้สิทธิกี่วัน จะจ่ายหรือไม่จ่ายค่าจ้างก็ได้ ไม่ผิดแต่อย่างใดครับ เพียงแต่เมื่อกำหนดแล้ว ต้องประกาศเป็นระเบียบข้อบังคับการทำงานให้พนักงานได้ทราบโดยทั่วกันเท่านั้นเอง แก้ไขเมื่อ 20 มี.ค. 55 16:23:15 จากคุณ : Chalk_HR เขียนเมื่อ : 20 มี.ค. 55 16:22:45

ความคิดเห็นที่ 8 เรื่องวันลาพักร้อน ต้องดูระเบียบของบริษัทว่าระบุอย่างไร เป็นผลจากการทำงานปีก่อนหรือไม่ ถึงได้คิดสัดส่วนเช่นนั้น ต้องเช็คให้ดี ส่วนลากิจ เป็นสิทธิของบริษัทที่จะพิจารณาตามความจำเป็นและเหมาะสม ไม่ใช่สิทธิของพนักงานที่จะได้รับอนุมัติเสมอ และได้มากที่สุดกี่วัน ตามที่บริษัทระบุในระเบียบครับ เรื่องวันลากิจ เข้าใจผิดกันมาก ถึงปีลาพักร้อน+ลากิจตามวันที่ไม่ได้ลา อย่างนี้ไม่ถูกต้องครับ จากคุณ : TinyNu เขียนเมื่อ : 20 มี.ค. 55 16:37:04

ความคิดเห็นที่ 9 ถ้าให้เข้าใจง่ายๆนะครับ วันลาพักร้อน ในทางกฎหมายเขาเรียก "วันหยุดพักผ่อนประจำปี" อยู่ในมาตรา 30 ให้สิทธิอย่างน้อย 6 วัน นายจ้างสามารถจัดการวันลาได้ เมื่อครบปี วันลาเหลือ ให้สะสมไปหรือต้องจ่ายคืนเป็นเงินค่าจ้างให้ ไปตัดทิ้งไม่ได้เพราะเป็นสิทธิลูกจ้าง วันลากิจ อยู่ในมาตรา 34 การลาประเภทนี้ กฎหมายไม่กำหนดว่ากี่วัน หรือต้องจ่ายค่าจ้างหรือไม่ นายจ้างจัดการได้เองตามสะดวก จากคุณ : Chalk_HR เขียนเมื่อ : 20 มี.ค. 55 16:43:51

ความคิดเห็นที่ 10 ขอบคุณทุกความเห็นนะคะ ส่วนตัวเราคิดว่าบริษัทเอาเปรียบพนักงานเกินไป จะออกทั้งทีก็น่าจะให้มีความรู้สึกดีๆหลงเหลือต่อกันบ้าง ขอบคุณข้อมูลจากคุณ Chalk_HR นะคะ ข้อมูลเป็นประโยชน์มากๆค่ะ ไม่ชอบเลยค่ะบริษัทที่แสวงหาแต่ช่องทางเอาเปรียบพนักงานที่ไม่มีทางสู้ จากคุณ : Xingyun เขียนเมื่อ : 20 มี.ค. 55 16:47:46

ความคิดเห็นที่ 11 ขอถามคุณ Chalk_HR เพิ่มเติมในส่วนของวันลาพักร้อนค่ะ กรณีที่พนักงานใช้วันลาพักร้อนตามที่บริษัทจัดให้ไม่หมด สมมุติปีที่แล้วดิฉันได้ลาพักร้อน 6 วัน แต่ใช้ไปแค่ 3 วัน แต่บริษัทก็ไม่ได้จ่ายเป็นเงินค่าจ้างคืนให้ หรือสมทบมาให้ในปีนี้   โดยบริษัทบอกว่าไม่มีนโยบายจ่ายคืนเป็นเงินหรือสะสมไปในปีถัดไป กำหนดให้พนักทุกคนใช้พักร้อนที่ได้ให้หมดอย่างเดียว ถ้าใช้ไม่หมดก็เป็นเรื่องของพนักงานที่ไม่ใช้สิทธิ์เอง ทั้งนี้บริษัทได้แจ้งระเบียบนี้ในวันที่รับพนักงานเข้าทำงานแล้ว แบบนี้ถือว่าบริษัททำผิดมาตรา 30 ไหมคะ ขอบคุณค่ะ จากคุณ : Xingyun เขียนเมื่อ : 20 มี.ค. 55 17:11:00

ความคิดเห็นที่ 12 ใครใช้ให้เขียนใบลาล่ะ ได้เงินเดือนแล้วเดินออกมาเลย กลัวอะไร. จากคุณ : dupdanup (ดูบดานูป) เขียนเมื่อ : 20 มี.ค. 55 17:36:17

ความคิดเห็นที่ 13 สมมุติปีที่แล้วดิฉันได้ลาพักร้อน 6 วัน แต่ใช้ไปแค่ 3 วัน แต่บริษัทก็ไม่ได้จ่ายเป็นเงินค่าจ้างคืนให้ หรือสมทบมาให้ในปีนี้   โดยบริษัทบอกว่าไม่มีนโยบายจ่ายคืนเป็นเงินหรือสะสมไปในปีถัดไป กำหนดให้พนักทุกคนใช้พักร้อนที่ได้ให้หมดอย่างเดียว ถ้าใช้ไม่หมดก็เป็นเรื่องของพนักงานที่ไม่ใช้สิทธิ์เอง ทั้งนี้บริษัทได้แจ้งระเบียบนี้ในวันที่รับพนักงานเข้าทำงานแล้ว แบบนี้ถือว่าบริษัททำผิดมาตรา 30 ไหมคะ >>>>>>>>>> ไม่ผิด ม. 30 เพราะบริษัทมีระเบียบข้อบังคับ และพนักงานได้รับแจ้งชัดเจนแล้ว ถ้าคุณไม่ใช้สิทธิ คุณก็จะไม่ได้รับเงินหรือสะสมวันลาพักร้อนครับ จากคุณ : TinyNu เขียนเมื่อ : 20 มี.ค. 55 20:58:56

ความคิดเห็นที่ 14 ไม่ชอบเลยค่ะบริษัทที่แสวงหาแต่ช่องทางเอาเปรียบพนักงานที่ไม่มีทางสู้ >>>>>>> เพราะคำ "พนักงานที่ไม่มีทางสู้" เคยทำให้ผมยับยั้งใจไม่โกรธพนักงานคนหนึ่ง คนเป็นนายจ้างหนักใจเหมือนกัน บางทีต้องทำใจ คิดเสียว่า ถ้าเขารู้จักคิดเหมือนเรา เขาคงไม่มาเป็นลูกจ้างเรา ครับ ในทำนองเดียวกัน ในฐานะพนักงานก็ควรเข้าใจนายจ้างบ้างตามสมควร นายจ้างเขาลงทุนทำธุรกิจ เขามุ่งกำไรจากผลประกอบการ คงไม่มีนายจ้างคนไหน คิดจะเอาเปรียบค้ากำไรหยุมหยิมจากลูกจ้างหรอกครับ   เว้นเสียแต่ลูกจ้างคนนั้นเขี้ยวลากดิน จนเกินจะรับได้ จากคุณ : TinyNu เขียนเมื่อ : 20 มี.ค. 55 21:07:19

ความคิดเห็นที่ 15 ผมคงต้องขอตอบคำถามที่ 11 ของคุณXingyun และขอแย้งในความเห็นที่13 ของคุณTinyNu  เนื่องจากความเห็นของคุณ TinyNu  นั้นไม่ถูกต้องครับ เรื่องดังกล่าวนี้ต้องบอกว่า หากนายจ้างได้ให้สิทธิลูกจ้างในการบริหารวันลาพักผ่อนประจำปีอย่างน้อย 6 วันตามกฎหมายแล้ว เท่ากับลูกจ้างได้สิทธิการลานั้น และหากลูกจ้างไม่ได้ใช้สิทธิ์ลาดังกล่าว นายจ้างต้องจ่ายค่าจ้างคืนแก่ลูกจ้าง หรือจัดให้สิทธิการลา สะสมไปยังปีถัดไปอย่างใดอย่างหนึ่งก็ได้ แต่ที่สำคัญคือ ไปตัดสิทธิลูกจ้างทิ้งไม่ได้ ทำไมผมถึงกล่าวเช่นนั้น ก่อนอื่นต้องขอท้าวความไปก่อนว่า ผมเองนั้นเห็นปัญหาจุดนี้ตั้งแต่ช่วงของการร่างกฎหมายฉบับนี้ เพราะในมาตราดังกล่าวมิได้กล่าวไว้อย่างชัดเจนว่าให้จ่ายคือ แล้วคำถามคือ เราใช้หลักไหนมาอ้างอิงว่านายจ้างต้องจ่ายค่าจ้างหากลูกจ้างไม่ได้ใช้สิทธิ ต้องตอบว่า นักกฎหมายใช้กฎหมายหลายมาตราในการอ้างอิง ไม่ว่าจะเป็นมาตรา 30 ที่ได้ให้สิทธิ์ลูกจ้างในการมีวันหยุด และมาตรา 56 ในการให้สิทธิลูกจ้างในการได้รับค่าจ้างในวันลาหยุดพักผ่อนประจำปี รวมทั้งฎีกาหลายๆฉบับก็ได้ตัดสินออกมาแล้ว ว่าวันลาหยุดพักผ่อนประจำปีของลูกจ้าง เป็นสิทธิตามกฎหมายของลูกจ้าง นายจ้างไปตัดสิทธิทิ้งไม่ได้ ดังนั้น ผมสรุปง่ายๆที่ว่ากฎหมายได้ให้สิทธินายจ้างในท้ายวรรคที่ 30 ว่าสามารถให้นายจ้างบริหารจัดการวันลาได้ ว่าจะกำหนดวันลาหรือไม่อย่างไร แต่ที่คุณ TinyNu  กล่าวว่า หากลาไม่หมด ก็ถือว่าพนักงานไม่ใช้สิทธิเอง จึงตัดทิ้งเพราะระบุในระเบียบข้อบังคับเอาไว้แล้ว ข้อนี้ผมขอยืนยันว่าไม่เป็นจริงครับ เพราะสิทธิ์นั้นเกิดขึ้นตามกฎหมาย และระเบียบดังกล่าวของคุณTinyNu  นั้นขัดต่อกฎหมาย ระเบียบหรือหนังสือสัญญาใดๆที่ขัดต่อกฎหมาย ถือว่าเป็นโมฆะสำหรับกรณีแรงงานตามมาตรา 14/1 ครับ ดังนั้น ถึงแม้ไปประกาศให้ทราบแล้ว แต่ข้อบังคับขัดต่อกฎหมายก็ใช้บังคับไม่ได้อยู่ดี เพราะเป็นการใช้บังคับที่ขัดต่อกฎหมาย จริงๆแล้ว ผมไม่ค่อยอยากเขียนเรื่องวันลาพักผ่อนประจำปีมากนัก เพราะจากประสบการณ์ผมเชื่อว่า นายจ้างกว่า 50% ยังไม่เข้าใจเรื่องนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง บริษัทเล็กๆ หรือ HR ที่ยังไม่คล่องเรื่องการตีความกฎหมาย หรือไม่เคยแม้แต่จะอ่านฎีกา ซึ่งกรณีนี้เอง ผมเคยเถียงกับ HR ของบริษัทรถยนต์ยักษ์ใหญ่แห่งหนึ่งในปลวกแดง สุดท้าย บริษัทถึงเข้าใจและต้องจ่ายเงินวันลาคืนแก่พนักงานเป็นเงินหลายสิบล้านบาท ดังนั้น บริหารค่าจ้างให้เป็นไปตามกฎหมาย...สบายใจที่สุดครับ จากคุณ : Chalk_HR เขียนเมื่อ : 20 มี.ค. 55 23:00:41

ความคิดเห็นที่ 16 ขอบคุณ คุณ Chalk_HR มากๆค่ะ ตอบคุณ TinyNu "คงไม่มีนายจ้างคนไหน คิดจะเอาเปรียบค้ากำไรหยุมหยิมจากลูกจ้างหรอกครับ  เว้นเสียแต่ลูกจ้างคนนั้นเขี้ยวลากดิน จนเกินจะรับได้ " ขอตอบว่ามีนายจ้างที่เป็นแบบนี้ค่ะ มีจริงๆ สาเหตุที่ดิฉันมาตั้งกระทู้นี้เพราะอยากทราบว่าสิ่งที่บริษัทนี้ปฏิบัติกับพนักงานนั้นถูกต้องหรือเปล่า เพราะเห็นหลายๆกรณี พนักงานเหมือนจะถูกเอาเปรียบเกินไป เหมือนในกรณีที่ได้นำมาถามในกระทู้นี้นี่แหละค่ะ พนักงานเอ คนนี้เคยยื่นใบลาออกแล้วครั้งหนึ่งตอนปีใหม่ แต่บริษัทขอร้องให้เธออยู่ต่อเพราะยังหาคนงานใหม่มาแทนไม่ได้ เธอก็อยู่ต่อให้จนมาถึงวันนี้ที่บริษัทรับคนใหม่ได้แล้ว เธอถึงยื่นใบลาออกอีกครั้ง  ซึ้งดิฉันมองว่าการที่บริษัททำแบบนี้กับเธอมันเป็นสิ่งที่ไม่น่าเกิดขึ้นเลย จากคุณ : Xingyun เขียนเมื่อ : 21 มี.ค. 55 08:40:31

ความคิดเห็นที่ 17 1. นายจ้าง ไม่สามารถสั่งให้ลูกจ้างแก้ไขกำหนดวันลาออกได้ 2.เรื่องสิทธิ การหยุดพักผ่อนประจำปี(ลาพักร้อน) กฏหมายกำหนดว่า เมื่อลุกจ้างทำงานมาครบ 1 ปี มีสิทธิหยุดพักผ่อนได้ไม่น้อยกว่า 6 วัน กฏหมายกำหนดวิธีการไว้ว่า  ให้นายจ้างเป็นผู้กำหนด วันหยุดพักผ่อนประจำปี หรือ นายจ้างลุกจ้างตกลงกัน คำถามคือ นายจ้างได้กำหนดไว้ล่วงหน้าหรือยัง คำว่ากำหนดล่วงหน้านี้ อาจจะอยู่ในระเบียบก็ได้ แต่ไม่ว่าจะมีระเบียบหรือไม่มีในระเบียบ หรือนายจ้างจะกำหนดไว้แล้วก็ตาม เมื่อลูกจ้างลาออก หลังจากได้สิทธิ์แล้ว(ทำงานมาครบ1ปี) สิทธิ์นั้น ลุกจ้างยังคงได้เต็มเช่น นายก. เริ่มทำงาน 15 ม.ค. 2554 ครบ 1 ปี 14 ม.ค. 55  นายจ้างกำหนดให้นาย ก.ลาพักร้อนในวันที่ 25 สิงหาคม 55 จำนวน 3 วัน และ 25 ธันวาคม 55 อีก 3 วัน แต่ นายก. ลาออก 25 ก.พ. 55  นายก. ยังต้องได้สิทธิ์ พักร้อน 6 วันเต็มเช่นเดิม ซึ่งนายจ้างจะใช้วิธีจ่ายค่าจ้างเพิ่มให้ 6 วัน หริแจะให้หยุด ก่อนกำหนดออก 6 วันโดยได้รับค่าจ้างก็ได้ จากคุณ : พี (peh_chai) เขียนเมื่อ : 21 มี.ค. 55 10:12:18

ความคิดเห็นที่ 18 ขอบคุณ คุณ Chalk_HR  มาอธิบายเรื่องนี้ ผมเห็นด้วยที่ว่า ระเบียบข้อบังคับของบริษัท ต้องไม่ขัดต่อกฏหมาย แต่ในขณะเดียวกัน ม. 30 ให้สิทธิทั้งลูกจ้างและนายจ้างที่จะบริหารเรื่องวันลาพักร้อน อ้างถึง คห. 4 ตรงที่ผมทำเครื่องหมาย ** เอาไว้ นี่คือที่มาของความเข้าใจของผมว่า นายจ้างได้ประกาศนโยบายการลาพักร้อนไว้ชัดเจนแล้ว เช่น สะสมข้ามปีไม่ได้ เป็นต้น และผมเคยเห็น มีบริษัทหลายแห่งใช้นโยบายนี้ จะผิดกฏหาย ม. 30 หรือไม่ ผมก็ไม่แน่ใจ จาก คห. 4 //.. ต่อมาเรื่องสิทธิการลาหยุดพักผ่อนประจำปี ถึงแม่ว่าลูกจ้างทำงานต่อเนื่องกันมานาน 2 ปีแล้วก็ตาม แต่ตามมาตรา 30 ซึ่งให้สิทธิลูกจ้างในการลาหยุดนั้น ก็ให้สิทธินายจ้างในการจัดการวันลาดังกล่าวด้วยเช่นเดียวกัน ว่าจะให้สิทธิหรือแบ่งเฉลี่ยนสิทธิ์ไปอย่างไร **เพียงแต่ นายจ้างต้องประกาศวิธีการจัดการนั้นๆให้ลูกจ้างทราบ** ถ้าไม่มีการชี้แจงให้ทราบ ตามกฎหมายให้ถือว่าลูกจ้างได้สิทธิเต็มไปตั้งแต่การเริ่มรอบปัญชีของปีครับ ..// จากคุณ : TinyNu เขียนเมื่อ : 21 มี.ค. 55 10:14:17

ความคิดเห็นที่ 19 คห 17 คำถามคือ นายจ้างได้กำหนดไว้ล่วงหน้าหรือยัง คำว่ากำหนดล่วงหน้านี้ อาจจะอยู่ในระเบียบก็ได้ แต่ไม่ว่าจะมีระเบียบหรือไม่มีในระเบียบ หรือนายจ้างจะกำหนดไว้แล้วก็ตาม >>>>>>>> ผมเห็นว่า ระเบียบหรือนโยบายที่ประกาศไว้ จะต้องไม่ขัดต่อกฏหมาย ในที่นี้คือ ม. 30 ครับ จากคุณ : TinyNu เขียนเมื่อ : 21 มี.ค. 55 10:16:57

ความคิดเห็นที่ 20 คห. 16 ซึ้งดิฉันมองว่าการที่บริษัททำแบบนี้กับเธอมันเป็นสิ่งที่ไม่น่าเกิดขึ้นเลย จากคุณ : Xingyun     เขียนเมื่อ : 21 มี.ค. 55 08:40:31     >>>>>>>>>>> เท่าที่ผมอ่านดู ผมเชื่อคุณ ครับ จากคุณ : TinyNu เขียนเมื่อ : 21 มี.ค. 55 10:18:11

ความคิดเห็นที่ 21 ตอบความเห็นที่ 19 คุณ TinyNu คุณจะมองว่าไม่ขัดต่อมาตรา 30 เพียงอย่างเดียวไม่ได้ครับ การตีความกฎหมาย ต้องพิจารณากฎหมายทั้งฉบับ ในกรณีของคุณที่ยกตัวอย่างมานั้น เจตนารมย์ของกฎหมายในมาตรา 30 ที่ให้สิทธินายจ้างในการจัดการ คือการให้สิทธิที่จะบริหารจัดการวันลานั้นแก่ลูกจ้าง เนื่องจากในวรรคแรกได้ระบุเอาไว้ว่า "โดยให้นายจ้างเป็นผู้กำหนดวันหยุดดังกล่าวให้แก่ลูกจ้างล่วงหน้า หรือกำหนดให้ตามที่นายจ้างและลูกจ้างตกลงกัน" ดังนั้นในประเด็นนี้คือ นายจ้างมีสิทธิบังคับหยุด หรือกำหนดไปเลยว่า ในช่วงนี้ให้หยุดกี่วัน เท่านั้นเท่านี้ สามารถทำได้  หรือถ้านายจ้างไม่บังคับหรือไม่ได้กำหนดอะไรเลย ก็ให้ถือเป็นสิทธิของลูกจ้างที่จะลาหรือไม่ลาเมื่อไรก็ได้ และจากวรรคต่อมา ก็ให้สิทธินายจ้างในการกำหนดวันลาให้มากกว่า 6 วันก็ในในปีต่อๆไป ส่วนวรรคสุดท้าย นายจ้างและลูกจ้างอาจตกลงกันล่วงหน้าให้สะสม หรือเลื่อนวันหยุดพักผ่อนประจำปีที่มิได้หยุดนั้นเข้ารวมกับปีต่อๆไปก็ได้ ดังนั้น หากไม่อนุญาตให้สะสมไปปีถัดไป ก็ต้องจายคือสิทธินั้นแก่ลูกจ้าง เพราะลูกจ้างมีสิทธิได้ แต่นายจ้างไปตัวสิทธิทิ้ง ข้อนี้นายจ้างสามารถทำได้ แต่ต้องจ่ายคืน ไม่ใช่ตัดทิ้งไปเฉยๆ ดังจะเห็นได้ว่า มาตรา 30 ทั้งหมดนั้น ไม่ได้มีข้อไหนระบุว่าให้นายจ้างตัดสิทธิหากวันลาเหลือทิ้งไปก็จริง ถ้าท่าน TinyNu อ้างว่าไม่ผิดมาตราที่ 30 นี้ก็จริง แต่....อย่างที่ผมบอกว่าต้องมองในภาพรวมต่อเนื่องว่า กฎหมายให้สิทธิลูกจ้างในวันหยุด ถือเป็นสิทธิติดตัว ดังนั้น หากนายจ้างจะตัดสิทธิทิ้ง ก็เท่ากับว่าขัดต่อมาตรา 56 และมาตรา67 ประกอบด้วย ดังนั้น จึงเป็นอย่างที่ผมบอกว่า ถึงแม้มาตรา 30 ไม่ผิดก็จริง แต่ขัดต่อมาตราอื่น เท่ากับระเบียบข้อบังคับนั้นก็เป็นโมฆะอยู่ดี การบริหารจัดการงานบุคคล จะต้องวางมาตรฐานของระเบียบให้ล้อตามกฎหมายครับ จะไปยึดแนวปฏิบัติเดิม หรือบริษัทอื่นๆแล้วทำตามไม่ได้ เพราะเราจะรู้ได้อย่างไรว่าแนวปฎิบัติดังกล่าวนั้นถูกต้องหรือไม่อย่างไร ผมยกตัวอย่างง่ายๆ กรณีไฟฉุกเฉินของรถยนต์ กฎหมายระบุไว้ชัดเจนว่า ให้ใช้ต่อเมื่อรถเสียและนำรถจอดเข้าข้างทาง แต่ ณ ปัจจุบัน คนใช้งานกันพร่ำเพื่อ ใช้เพื่อจอดซื้อของข้างถนน ใช้เพื่อขอทางวิ่งทางตรงกรณ๊ผ่านทางร่วมทางแยก ใช้เพื่อจองช่องจอดรถกรณีเข้าห้าง ซึ่งทั้งหลายทั้งปวง ทำตามๆกันมาจากวิธีที่ผิดทั้งนั้นครับ และทำต่อเนื่องกันมาจนคิดว่าสิ่งที่ทำนั้นเป็นสิ่งที่ถูกและเป็นสากล แก้ไขเมื่อ 21 มี.ค. 55 10:37:22 จากคุณ : Chalk_HR เขียนเมื่อ : 21 มี.ค. 55 10:34:49

ความคิดเห็นที่ 22 สอบถามคุณ Chalk_HR เพิ่มเติมค่ะ กรณีที่บริษัท ให้โอนสิทธิวันพักร้อนไปปีถัดไปได้ไม่เกินสิทธิที่จะได้รับ เช่น วันพักร้อนเหลือ 6 วัน สิทธิที่จะได้รับใหม่คือ 6 วัน วันก็จะโอนได้ 6 วัน แต่หากพนักงานไม่ได้ใช้พักร้อนอีก ทำให้มีจำนวนวันพักร้อนคงเหลือ 12 วันในปีปัจจุบัน บริษัท ให้สิทธิโอนไปแค่ 6 วันเท่านั้น การตัดวันพักร้อนออกแบบนี้ ถือว่าผิดกม. หรือไม่คะ ส่วนการเฉลี่ยวันพักร้อนให้พนักงานให้เป็นรายเดือน ใน 1 ปี นั้น มีการแจ้งให้พนักงานทราบทุกๆ เดือน ถือว่าเป็นการรับทราบร่วมกันหรือไม่คะ หากกรณีที่พนักงานลาออกระหว่างปี แล้วมีการใช้วันพักร้อนเกิน หรือ กรณีที่ต้องคืนเงินกรณีที่วันพักร้อนคงเหลือ ขอบคุณมากค่ะ สำหรับข้อมูลดีๆ จากคุณ : -- (gis) เขียนเมื่อ : 21 มี.ค. 55 11:05:35

ความคิดเห็นที่ 23 ตอบคำถามตามความเห็นที่ 22 คุณ -- (gis) การจัดการเช่นนั้นสามารถทำได้ แต่ยังมีสิ่งที่ขัดดต่อกฎหมายอยู่ครับ การที่บริษัทจัดการให้สิทธิการโอนวันลาคงเหลือไปปีถัดไปได้ ถือว่าไม่ขัดต่อมาตรา 30 และเป็นคุณต่อลูกจ้าง แต่หากกำหนดว่า โอนไปได้เท่านั้นเท่านี้ ส่วนที่เกินจะตัดทิ้งในทันทีนี้ ไม่สามารถทำได้ครับ ถือว่าขัดต่อมาตรา 56 ประกอบ ทันที เพราะผมท้าวความตามที่ได้อ้างอิงไว้ในความเห็นต้นๆครับว่า วันลาพักผ่อนประจำปี เป็นสิทธิลูกจ้าง นายจ้างจะไปตัดทิ้งได้อย่างไร ดังนั้น วิธีการที่ถูกต้องของคุณคือ หากสมทบไปปีถัดไป อาจมีข้อกำหนดซึ่งตั้งขึ้นมาเองได้ว่า สมทบไปได้ไม่เกินกี่วัน แต่วันที่เหลือที่ไม่สามารถสมทบไปได้นั้น ต้องจ่ายคืนเป็นเงินค่าจ้างแก่ลูกจ้างครับ ต่อมาเรื่องวันลาพักร้อนคงเหลือ ในกรณีลูกจ้างลาออก คำตอบข้อนี้แน่นอนครับว่า อย่างไรต้องจ่ายคืนอย่างแน่นอน เพราะมาตรา 67 ได้กำหนดเอาไว้ชัดเจนว่า "กรณีที่นายจ้างเลิกจ้าง โดยมิใช่กรณีตามมาตรา 119 ให้นายจ้างจ่ายค่าจ้างให้แก่ลูกจ้างสำหรับวันหยุดพักผ่อนประจำปี ในปีที่เลิกจ้างตามส่วนของวันหยุดพักผ่อนประจำปีที่ลูกจ้างพึงมีสิทธิได้รับตามมาตรา 30 ในกรณีที่ลูกจ้างเป็นฝ่ายบอกเลิกสัญญาจ้างหรือนายจ้างเลิกจ้าง ไม่ว่าการเลิกจ้างนั้นเป็นกรณ๊ตามมาตรา 119 หรือไม่ก็ตาม ให้นายจ้างจ่ายค่าจ้างสำหรับวันหยุดพักผ่อนประจำปีสะสมที่ลูกจ้างพึงมีสิทธิได้รับตามมาตรา 30 " ดังนั้นชัดเจนครับว่า หากกรณีลูกจ้างลาออกระหว่างปี นายจ้างต้องจ่ายค่าจ้างในวันหยุดพักผ่อนประจำปีคงเหลือคืนแก่ลูกจ้างด้วยครับ สุดท้าย หากใช้พักร้อนเกินสิทธิ ก็สามารถหักวันลาเกิน (ขาดงาน) นั้นได้ แต่ทั้งนี้ ในวรรค 2 ของมาตรา 67 ไม่ได้กำหนดว่าให้จ่ายคืนเป็นสัดส่วน ดังนั้น ถึงแม้ไม่มีสิทธิลาหรือลาเกินในสัดส่วนที่กำหนดไว้ แต่ภาพรวมทั้งปียังไม่เกิน ก็ไปตัดวันลานั้นๆทิ้งไม่ได้ หรือไปงดจายค่าจ้างไม่ได้ครับ ยกตัวอย่างเช่น ลูกจ้างได้สิทธิวันลา 6 วันในปีนี้ นายจ้างกำหนดเอาไว้ว่า ให้ลาได้ดังนี้ มค.-กพ. ใช้สิทธิได้ 1 วัน มีค.-เมย. ใช้สิทธิได้ 1 วัน พค.-มิย. ใช้สิทธิได้ 1 วัน กค.สค. ใช้สิทธิได้ 1 วัน กย.-ตค. ใช้สิทธิได้ 1 วัน พย.-ธค. ใช้สิทธิได้ 1 วัน การกำหนเการจัดการเช่นนี้ สามารถทำได้ ไม่ขัดต่อกฎหมาย แต่หากพนักงานลาออก ในช่วงปี เช่น ลาออกในเดือนพฤษภาคม ซึ่งในขณะนั้นนายจ้างกำหนดให้ลาได้เพียง 3 วัน แต่หากลาออกกลางปีเช่นนี้ นายจ้างก็ยังคงต้องจ่ายค่าจ้างสำหรับวันหยุดพักผ่อนประจำปีคงเหลือที่ 4 วันให้อยู่ดี เพราะสิทธิของลูกจ้างเป็นสิทธิทั้งปี ไม่ใช่เฉลี่ยตามที่นายจ้างจัดการ การที่นายจ้างเฉลี่ยนั้น เป็นเพียงการเฉลี่ยนสิทธิ"ที่จะขออนุญาตลา"เท่านั้น ไม่ใช่"สิทธิการลาของลูกจ้าง" ครับ จากคุณ : Chalk_HR เขียนเมื่อ : 21 มี.ค. 55 11:29:55

ความคิดเห็นที่ 24 ตอบ คห.19 กลับไปอ่านคำตอบผม ใน คห.17ให้เข้าใจครับ เพราะกรอบคำตอบ ว่าด้วยเรื่องถูกกฏหมายทั้งนั้น  ประเด็นที่ชี้คือศักดิ์ของสิทธิ์ ใครเหนือกว่ากันต่างหาก จากคุณ : พี (peh_chai) เขียนเมื่อ : 21 มี.ค. 55 12:47:03

ความคิดเห็นที่ 25 ขอบคุณคุณ Chalk_HR มากๆค่ะ จากคุณ : gis เขียนเมื่อ : 21 มี.ค. 55 15:03:07

ความคิดเห็นที่ 26 ขอบคุณ คุณ Chalk_HR  มาให้ความรู้ ผมเห็น HR ต่อท้าย จึงอยากสนทนา ให้ผมเข้าใจชัดเจนถือเป็นแนวทางที่ถูกต้อง ขอทำความเข้าใจ จากข้อสรุปตามลำดับ ดังนี้ คห. 21 1)--ดังนั้นในประเด็นนี้คือ นายจ้างมีสิทธิบังคับหยุด หรือกำหนดไปเลยว่า ในช่วงนี้ให้หยุดกี่วัน เท่านั้นเท่านี้ สามารถทำได้  หรือถ้านายจ้างไม่บังคับหรือไม่ได้กำหนดอะไรเลย ก็ให้ถือเป็นสิทธิของลูกจ้างที่จะลาหรือไม่ลาเมื่อไรก็ได้ >>>>>>>> เข้าใจว่าเป็นสิทธิติดตัวของลูกจ้าง จะใช้สิทธิ หรือ ไม่ใช้สิทธิที่จะลาเมื่อไรก็ได้ ครับ แต่ถ้าลูกจ้างไม่ใช้สิทธิภายในกำหนด .....ข้อนี้ไม่ใช่นายจ้างไปตัดสิทธิของเขา ใช่ไหมครับ ?? ********** 2)--และจากวรรคต่อมา ก็ให้สิทธินายจ้างในการกำหนดวันลาให้มากกว่า 6 วันก็ในในปีต่อๆไป ส่วนวรรคสุดท้าย นายจ้างและลูกจ้างอาจตกลงกันล่วงหน้าให้สะสม หรือเลื่อนวันหยุดพักผ่อนประจำปีที่มิได้หยุดนั้นเข้ารวมกับปีต่อๆไปก็ได้ ดังนั้น หากไม่อนุญาตให้สะสมไปปีถัดไป ก็ต้องจายคือสิทธินั้นแก่ลูกจ้าง เพราะลูกจ้างมีสิทธิได้ แต่นายจ้างไปตัวสิทธิทิ้ง ข้อนี้นายจ้างสามารถทำได้ แต่ต้องจ่ายคืน ไม่ใช่ตัดทิ้งไปเฉยๆ >>>>>>>>>>> ช่วยตีความ...นายจ้างและลูกจ้างอาจตกลงกันล่วงหน้า..ฯลฯ ..หากไม่อนุญาตให้สะสม(วันหยุด) และ ลูกจ้างไม่ใช้สิทธิพึงมีพึงได้ ...ภายในข้อตกลง ก็ไม่ควรถือว่า นายจ้างตัดสิทธิ ไม่ใช่หรือ ? และทำไมนายจ้างจะต้องรับผิดชอบในสิ่งที่ลูกจ้างไม่ยอมใช้สิทธิภายในกำหนด อยากได้คำอธิบายในแง่กฎหมาย 3)--ดังจะเห็นได้ว่า มาตรา 30 ทั้งหมดนั้น ไม่ได้มีข้อไหนระบุว่าให้นายจ้างตัดสิทธิหากวันลาเหลือทิ้งไปก็จริง ถ้าท่าน TinyNu อ้างว่าไม่ผิดมาตราที่ 30 นี้ก็จริง แต่....อย่างที่ผมบอกว่าต้องมองในภาพรวมต่อเนื่องว่า กฎหมายให้สิทธิลูกจ้างในวันหยุด ถือเป็นสิทธิติดตัว ดังนั้น หากนายจ้างจะตัดสิทธิทิ้ง ก็เท่ากับว่าขัดต่อมาตรา 56 และมาตรา67 ประกอบด้วย >>>>>>>>> ข้อนี้เห็นด้วย หากนายจ้างตัดสิทธิไม่ยอมให้ลูกจ้างใช้สิทธื นายจ้างต้องรับผิดชอบ จะไปตัดสิทธิลูกจ้างไม่ได้ แต่ถ้าลูกจ้างไม่ยอมใช้สิทธิติดตัว พึงมีพึงได้ เพิกเฉยเสีย ทำไมนายจ้างจะต้องรับผิดชอบ ?? ข้อสุดท้าย อยากทราบว่า บริษัทในเมืองไทย มีบริษัทไหนบ้างที่ยอมให้ลูกจ้างสะสมวันหยุดได้"ตามอำเภอใจ" หมายถึง เป็นไปได้ไหม หากลูกจ้างสะสมวันหยุด 10-20 ปี อยากถามเพียงว่า เคยมีกรณีตัวอย่างบ้างไหม ? ผมมีตัวอย่างพนักงานที่ทำงานสโตร์ โดยไม่เคยลาพักร้อนติดต่อกันกว่า 20 ปี เขาบอกว่า ถ้าลาหยุด เขาจะต้องเช็คสต๊อกกันเหนื่อย จากคุณ : TinyNu เขียนเมื่อ : 22 มี.ค. 55 09:15:01

ความคิดเห็นที่ 27 โปรดเข้าใจว่า ที่ผมถาม ผมถามเพื่อความเข้าใจ ต้องการความรู้จริง ที่สำคัญ กรณีตัวอย่าง ให้ถือเป็นตัวอย่างเฉยๆ ไมใช่เอาไปงัดข้อกับกฎหมาย ขอบคุณ ครับ จากคุณ : TinyNu เขียนเมื่อ : 22 มี.ค. 55 09:16:53

ความคิดเห็นที่ 28 สรุปประเด็นที่สงสัย คือ ลูกจ้างมีสิทธิที่จะลาพักร้อนได้ x วัน อันนี้คือ สิทธิติดตัวลูกจ้าง นายจ้างตัดสิทธิไม่ได้ แต่ถ้าลูกจ้างเพิกเฉย ไม่ยอมใช้สิทธิ ตามเงื่อนไขของกฎหมายนี้ ถามว่า นายจ้าง จะต้องรับผิดชอบหรือไม่ ? ถามแค่นี้ ครับ จากคุณ : TinyNu เขียนเมื่อ : 22 มี.ค. 55 09:25:43

ความคิดเห็นที่ 29 ตอบคุณ TinyNU ถึงแม้ลูกจ้างเพิกเฉย ไม่ใช้สิทธิลา เมื่อถึงสิ้นปี วันลาคงเหลือ นายจ้างก็ต้องจ่ายค่าจ้างคืนให้เช่นเดียวกันครับ เพราะกฎหมายได้เปิดช่องให้นายจ้างจัดให้หยุดแล้ว ในเมื่อนายจ้างไม่จัดให้หยุดเอง จะไปอ้างลูกจ้างเพิกเฉยไม่ใช้สิทธิหยุดไม่ได้ครับ เพราะลูกจ้างเขามาทำงาน เป็นคุณต่อนายจ้าง เป็นหน้าที่ของนายจ้าง ที่จะต้องจ่ายค่าจ้างในวันดังกล่าวให้ครับ ผมสรุปกรอบการจัดการคร่าวๆให้ดังนี้ 1. วันหยุดพักผ่อนประจำปี เป็นหน้าที่ของนายจ้างที่ต้องจัดให้ กำหนดวัน กำหนดชื่อกันให้ชัดเจนว่าจะให้ครหยุด หยุดวันไหน 2. ทำงานไม่ครบปี ยังไม่ได้สิทธิหยุด แต่สะสมไปปีถัดไปได้ 3. ถ้าทำงานครบปีแล้วได้วันลาอย่างน้อย6 วัน ปีที่สองเป็นต้นไป ไม่ต้องครบปีก็ได้ปีละไม่น้อยกว่า 6 วัน 4. อาจตกลงสะสมวันหยุดไปกี่ปี กี่วันก็ได้ แต่ไม่น้อยกว่าปีละ 6 วัน 5. ถ้านายจ้างไม่จัดให้ ให้จ่ายเป็นเงินทดแทน 6. ถ้าจัดให้แล้ว ลูกจ้างไม่หยุด ไม่ต้องจ่ายเงิน ไม่ต้องจัดให้ใหม่ 7. ไม่มีกฎหมายกำหนดให้ลูกจ้างหยุดเอง หากไม่หยุดจะตัดสิทธิ์ทิ้งไม่ได้ 8. ถ้าเลิกจ้างโดยไม่มีความผิด ให้จ่ายวันลาพักผ่อนประจำปีคงเหลือ ถ้าไม่ครบปีให้จ่ายตามสัดส่วน 9. ให้นำค่าจ้างปีปัจจุบัน เป็นฐานคำนวณค่าวันหยุด 10. ถ้าใช้วันลาหมดแล้ว ลาออก ไม่สามารถหักเงินคืนได้ เรื่องวันลาพักผ่อนประจำปีนี้ นายจ้างและลูกจ้างส่วนใหญ่ มากกว่า 80% เข้าใจผิดว่า เป็นสิทธิของลูกจ้างที่จะหยุดวันไหนก็ได้ นายจ้างเองก็ไปเข้าใจเอาว่า ลูกจ้างไม่หยุดถือว่าเสียสิทธิ ไม่จ่ายเงิน ไม่สะสมให้ ซึ่งเป็นความเข้าใจที่ผิด และปฏิบัติผิดๆกันมาทั้งคู่ จากคุณ : Chalk_HR เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 55 15:06:00

ความคิดเห็นที่ 30 ถ้าถามว่าในประเทศไทย มีบริษัทไหนที่อนุญาตให้สะสมวันลาได้ตามอำเภอใจ ผมต้องตอบว่า ไม่น่ามีครับ แต่ส่วนใหญ่แล้ว ฝ่ายบุคคลจะทำการวางระเบียบเพื่อให้ง่ายต่อการจัดการ เช่น 1. ไม่อนุญาตให้สะสมวันลา จะตัดวันลาทุกสิ้นปี แล้วจ่ายคืนเป็นค่าจ้างให้ วิธีนี้จัดการง่าย เพราะต้นปีก็เริ่มนับหนึ่งใหม่ 2. อนุญาตให้สะสมไปปีถัดไป แต่ไม่เกิน XX วัน วันที่เกินสะสมไปไม่ได้ ให้จ่ายคืนเป็นเงินค่าจ้าง พื้นฐานทั้งสองวิธีนี้ บริษัทที่มีมาตรการจัดการที่ค่อนค่างเป็นระบบก็ใช้ยึดเป็นพื้นฐานกันครับ แต่ในบางสถานประกอบการอาจเลี่ยงเล็กๆน้อยๆ ผิดบ้างละเมิดบ้าง หากไม่เป็นเรื่องเป็นราวก็แล้วไป แต่หากมีคดีความขึ้นมา ก็จ่ายย้อนหลังกันอาน ผมยกตัวอย่างกรณีห้าง Hypermart สีเขียวแห่งหนึ่ง ที่ไม่ให้ลูกจ้างหยุดพักผ่อนประจำปี แต่ให้ลูกจ้างมาทำงานวันหยุดและสลับวันหยุดเอา ภายหลังศาลท่านได้สั่งจ่ายคืนเงินให้ลูกจ้างทุกคนทุกสาขากว่า 300 ล้านบาท ลอง search กรณีแรงงานนี้ดู ยังพอมีหลงเหลือให้ศึกษาได้ครับ จากคุณ : Chalk_HR เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 55 15:12:18

ความคิดเห็นที่ 31 ถึงแม้ลูกจ้างเพิกเฉย ไม่ใช้สิทธิลา เมื่อถึงสิ้นปี วันลาคงเหลือ นายจ้างก็ต้องจ่ายค่าจ้างคืนให้เช่นเดียวกันครับ >>>>>>>>> ขอบคุณมากครับ คุณ Chalk_HR  ที่กรุณาไขข้อข้องใจอย่างละเอียด เรื่อง HR เป็นงานละเอียดอ่อนไหวมาก ต้องขอโทษที่ผมกลับมาช้า ลืมมาร์กไว้ ในขณะเดียวกันผมพยายามค้นเรื่องนี้ ได้ความตรงกันครับ (เป็นฎีกาตัวอย่าง เดี่ยวผมค่อยเอาลิ้งค์มาแปะ) สรุป หากลูกจ้างยังใช้วันลาพักร้อนไม่หมด นายจ้างต้องจ่ายเป็นเงินชดเชย จากคุณ : TinyNu เขียนเมื่อ : 25 มี.ค. 55 11:48:52

ความคิดเห็นที่ 32 เรื่องวันลาพักผ่อนประจำปีนี้ นายจ้างและลูกจ้างส่วนใหญ่ มากกว่า 80% เข้าใจผิดว่า เป็นสิทธิของลูกจ้างที่จะหยุดวันไหนก็ได้ นายจ้างเองก็ไปเข้าใจเอาว่า ลูกจ้างไม่หยุดถือว่าเสียสิทธิ ไม่จ่ายเงิน ไม่สะสมให้ ซึ่งเป็นความเข้าใจที่ผิด และปฏิบัติผิดๆกันมาทั้งคู่ >>>>>>>> จริงครับ เรื่องนี้ส่วนใหญ่เข้าใจผิดกัน อีกเรื่องคือ ลากิจ ที่ลูกจ้างคิดว่า ยังลาไม่หมด ถึงเวลาเอาวันลากิจมารวมด้วย จากคุณ : TinyNu เขียนเมื่อ : 25 มี.ค. 55 11:51:25

ความคิดเห็นที่ 33 คุณ Chalk_HR ขอบคุณมาก ๆ นะคะสำหรับคำตอบ เพิ่งได้มีโอกาสเข้ามาอีกครั้ง แต่ยังไม่ได้อ่านอย่างละเอียด เช้าวันจันทร์งานตรึม จากคุณ : ไปต่อไป... เขียนเมื่อ : 26 มี.ค. 55 09:37:21

ความคิดเห็นที่ 34 ด้วยความยินดีครับ ทุกๆท่าน จากคุณ : Chalk_HR เขียนเมื่อ : 26 มี.ค. 55 10:25:48