ความคิดเห็นที่ 1 วันที่ 7 ใช้ชีวิตให้เป็นประโยชน์ที่สุด ในตัวบุคคลที่ประสบผลสำเร็จอย่างแท้จริง จะมีลักษณะ รวมพิเศษน่าศึกษาอยู่อย่าง หนึ่งคือ คนเหล่านี้ท่าทางหนุ่มแน่นและกระฉับกระเฉง ทั้งนี้เพราะว่า ไม่รู้สึกเซ็งใน ชีวิตเลย จะร่าเริงอยู่ทุกขณะจิต คุณจะสังเกตได้อีกว่า ใบหน้าคนเหล่านั้นดูจะทอ ประกายแห่งความหวัง เหมือนกับว่าชั่วอึดใจต่อไปเขาจะได้พบกับของขวัญชิ้นใหม่ น่าทึ่ง ของชิ้นใหม่นี้อาจจะเป็นความคิดใหม่ เพื่อนใหม่ งานอดิเรกชิ้นใหม่ แผนการ ใหม่ และคนเหล่านี่จะไม่ปล่อยให้พลาดโอกาสสำคัญ เมื่อสิ่งนั้นๆ เข้ามาถึงตัว สิ่งประดิษฐ์ที่ยิ่งใหญ่ทั้งหลายของโลก ล้วนเป็นผลอของความบันดาลใจ เพียงชั่ว แวบที่ผ่านเข้ามาในความคิดของนักประดิษฐ์ เพียงชั่วแวบไม่พอจะนับเป็นหนึ่งวินาที ที่เสียด้วยซ้ำ จากนั้นก็เป็นเรื่องของความมีขันติอดทน อุตสาหะ วิริยะ ทดลองอีกเป็น ปีๆ ติดตามมา จากคุณ : ลุงแอ็ด เขียนเมื่อ : 21 มี.ค. 55 11:06:37

ความคิดเห็นที่ 2 ภาพ  :  ห้องกล้อง  พันทิบดอทคอม จากคุณ : ลุงแอ็ด เขียนเมื่อ : 21 มี.ค. 55 11:08:19

ความคิดเห็นที่ 3 ทำทุกขณะจิตมีความหมาย อนุสาวรีย์ทางวรรณกรรมมากมาย ของคนเรา ย่อมเป็นหนี้โอกาสที่คนเรามีอยู่จะใช้ โอกาสนั้นไปอย่างดียิ่ง กระนั้นคนอีกจำนวนไม่น้อยพลาดสิ่งที่มีคุณค่าบางอย่างไป เพราะไม่รู้คุณค่า ของเวลาที่มีอยู่ การที่คุณจะประสบผลสำเร็จได้อย่างรวดเร็วคุณจะ ต้องทำให้ทุกขณะจิตมีความหมาย เวลาเดินไปเรื่อยไม่เคยหยุด และจะไม่หวนกลับมาซ้ำรอยเดิมของตนอีก มีผู้กล่าวไว้ อย่างน่าฟังว่า “บนถนนแห่งกาลเวลาอนุญาตให้คนและรถราผ่านไปได้ทางเดียว ที่ ไปแล้วไม่มีวันจะหวนมาเหยียบรอยเท้าของตนได้อีก เมื่อคนเราผ่านวัยหนุ่มสาวไป แล้ว ก็แล้วกัน ............ เมื่อคนหนุ่มสาวเดินทอด น่องไปตามถนนจนถึงวัย 30 ควรจะตื่นตัว มีความคิดอ่า และทะเยอทะยานในชีวิตได้แล้ว แต่พวกเขาจะต้องเสียใจให้กับเวลาอีกหลายปีใน อดีตผ่านเลยไปเปล่า ๆ” จากคุณ : ลุงแอ็ด เขียนเมื่อ : 21 มี.ค. 55 11:11:44

ความคิดเห็นที่ 4 ภาพ  :  ห้องกล้อง  พันทิบดอทคอม จากคุณ : ลุงแอ็ด เขียนเมื่อ : 21 มี.ค. 55 11:12:22

ความคิดเห็นที่ 5 รอสักครู่เถอะ คุณเคยได้ยินเรื่องของชายคนหนึ่ง ที่พาภรรยาไปงานปาร์ตี้หรือเปล่า? เขาโกนหนวด อาบน้ำแต่งตัวจะเดินออกจากบ้านอยู่แล้ว แต่ภรรยาพูดขึ้นว่าเธอยังไม่เรียบร้อย กำลัง เอาแป้งลูบจมูกเธออยู่ “ที่รัก ฉันจะเสร็จก็อีกสักครู่นี่แหละ รอด้วย” เมื่อเธอโผล่จาก ห้องแต่งตัวออกมาผู้ชายคนนั้นกลับเข้าไปในห้องอีก “คุณจะไปไหนอีกล่ะ? ภรรยาถามอย่างขาดความอดทน “หนวดยังไม่เกลี้ยงเลย ขอไปโกนอีกก่อน” สามีตอบ การรอคอยเป็นไปอย่างเนิ่นนาน ขอให้ตัดสินใจลงไปเลยว่า เมื่อคุณพูดว่าประเดี๋ยวก็ต้องเป็นประเดี๋ยว ไม่เพียงแต่สุภาพสตรีเท่านั้นที่ถูกกล่าวหาว่าไม่สามารถรักษาเวลา นับครั้งไม่ถ้วน ที่ ผมเองก็เคยเดินเข้าเดินออกห้องโถงหน้าโรงภาพยนตร์รอคอยเพื่อนชาย หลายครั้ง หลายหนเข้าก็เลยเรียนรู้วิธีขจัดการรอคอยออกไปจากหัวใจโดยการฝาก ตั๋วพิเศษใบ นั้นไว้กับพนักงานหน้าประตู คุณลองดูก็ได้ในคราวหน้า ผมว่าได้ผล ยิ่งถ้าตั๋วพิเศษ ใบนั้นเป็นของสุภาพสตรีด้วยแล้ว คนเฝ้าประตูจะขอบคุณเป็นพิเศษด้วยซ้ำ พอจะแนะนำแนวทางไปสู่ความสำเร็จในชีวิตได้แล้วว่า “ใช้โอกาสและคนที่คุณมีอยู่ ให้เต็มที่เพื่อบรรลุผลสำเร็จ” เมื่อคิดได้ดังนี้แล้ว คุณจะสามารถแก้ปัญหาต่างๆ ได้ มากมาย เป็นการประหยัดเวลาและขจัดความยุ่งยากได้ ลองดูเถอะครับ จากคุณ : ลุงแอ็ด เขียนเมื่อ : 21 มี.ค. 55 11:16:34

ความคิดเห็นที่ 6 ภาพ  :  ห้องกล้อง  พันทิบดอทคอม จากคุณ : ลุงแอ็ด เขียนเมื่อ : 21 มี.ค. 55 11:17:10

ความคิดเห็นที่ 7 ลองพยายามเป็นฝ่ายให้ การที่จะใช้ชีวิตให้เป็นประโยชน์มากที่สุด คงต้องมีอะไรมากกว่าการสร้างเพื่อนไว้มาก มาย คุณจะต้องเป็นเพื่อนคนหนึ่งของโลก อย่างที่เราเคยพูดไว้แล้วในวันที่ 3 นั้นว่า วิธีที่ดีที่สุดในการสร้างเพื่อนก็คือเป็นฝ่ายให้ ลองพิจารณาดูชีวิตการงานและชีวิตส่วนตัวของคุณว่าคุณได้ทำสิ่งที่ผมจะกล่าว ต่อ ไปนี้บ้างหรือเปล่า การให้มีอยู่หลายทาง หลายวิธี เมื่อเราพูดถึงความใจกว้างของคน เราก็มักจะเอาความคิดของเราโยงไปถึงเรื่อง เงิน แต่ไม่ใช่เงินสักนิดซึ่งก็นับว่าดูอยู่ คนโดยมากมักจะหิวโหยสิ่งที่เงินซื้อหาไม่ได้ เราอยากได้คำชมอยากให้คนอื่นมามอง เห็นค่าของเรา อยากได้ความเห็นใจและความรัก กระนั้น เราต้องยอมรับว่า เราเองไม่ เคยคิดที่จะให้สิ่งเหล่านี้แก่ใครเลยจริงไหม? พวกเราส่วนมาก จะมาคำนึงวันเดือนปี เอาก็ต่อเมื่อปลายเดือนธันวาคม แต่ช่วงก่อน หน้านั้นหนึ่งปีหายไปไหนเล่า ทำไมไม่เอามาคำนึง ทำไมไม่ตรวจสอบเวลาทุกสิ้น เดือน และมีอะไรหรือมาทัดทานเราไม่ให้ทำ ทุกสิ้นสัปดาห์? และประโยคต่อไปที่ผมจะ เขียน คุณก็นึกเดาอยู่อย่างถูกต้องแล้วว่า “คุณทำไมไม่ตรวจสอบเวลาตอนสิ้นสุด วันนี้เลยเล่า?” จากคุณ : ลุงแอ็ด เขียนเมื่อ : 21 มี.ค. 55 11:19:39

ความคิดเห็นที่ 8 ภาพ  :  ห้องกล้อง  พันทิบดอทคอม จากคุณ : ลุงแอ็ด เขียนเมื่อ : 21 มี.ค. 55 11:20:15

ความคิดเห็นที่ 9 การที่เราให้เงินใครไปเป็นจำนวนเท่าไรนั้นไม่เป็นประเด็น แต่ประเด็นอยู่ที่ความ เมตตาเอื้ออารีย์ที่คุณให้ สิ่งที่คุณลงทุนไปในธุรกิจวันนี้อาจจะพังภินท์ภายในพริบตา ในวันพรุ่งนี้แต่ คนที่คุณกระตุ้นที่คุณฝึกฝน เพื่อนฝูงที่คุณยกย่องความพยายามผู้ใต้ บังคับบัญชาที่คุณให้กำลังใจคนเหล่า นี้เอง ที่จะส่งผลกำไรที่มั่นคงต่อไป และคุณก็ พลอยได้รับผลประโยชน์เหล่านั้นไปด้วยจริงอย่างที่มีคนกล่าวไว้ว่า “คนเราจะทำดี ไม่ได้ หากไม่ได้รับการกระทำต่อที่ดีกว่ามาก่อน” หากคุณต้องการความสำเร็จในชีวิต จำต้องเรียนรู้จักการให้ หากคุณต้องการความสุขต้องรู้จักวิธีทำให้คนอื่นมีสุข คุณอาจจะเป็นยอดนักขายในวันนี้ คุณอาจจะชนะการติดต่อกับลูกค้ารายใหม่ในวันนี้ อาจจะชนะคู่ต่อสู้ สิ่งเหล่านี้ล้วนสร้างความพึงพอใจให้แก่คุณ พอหมดไปหนึ่งวันคุณ จะได้พบว่า กำลังถูฝ่ามือตัวเองไปมาด้วยความพึงพอใจแต่พอตกกลางคืน เมื่อ ทุกอย่างเงียบสงบ วงล้อธุรกิจที่เคยหมุนให้คุณ ฟังจนหนวกหูสงบนิ่งลง คุณจะไม่ รู้สึกมีความพอใจใดๆ เหลืออยู่ในส่วนลึกของหัวใจ นอกจากคุณจะได้กระตุ้นหัวใจที่ เหนื่อยหน่ายสักดวงให้มีพลัง ให้ความอบอุ่นกับคนงานสักคนที่สิ้นหวังใส่ไฟในหัวใจ ที่ท้อแท้เสริมความหวัง ให้กับคนที่ทำงานหนัก หรือช่วยเหลือคนที่ขาดความหวัง จากคุณ : ลุงแอ็ด เขียนเมื่อ : 21 มี.ค. 55 11:22:00

ความคิดเห็นที่ 10 ภาพ  :  ห้องกล้อง  พันทิบดอทคอม จากคุณ : ลุงแอ็ด เขียนเมื่อ : 21 มี.ค. 55 11:23:05

ความคิดเห็นที่ 11 แต่ถ้าตลอดวันอันยาวนาน คุณไม่เคยจุดความทะเยอทะยานให้ใครเลย วันสิ้นก็สิ้นไป ไม่ทำอะไรไว้พอคิดถึงได้แล้วใจสบาย นิดหน่อยจะทำก็ไม่เคย เพียงจะช่วยใครโดยไม่ต้องเสียอะไรไป วันนั้นบอกได้ว่าแย่ยิ่งสิ่งสูญเสีย คุณผู้อ่านที่รัก จึงไม่แปลกใจอย่างไรอีกว่า ทำไมพวกเราจึงต้องเรียนหลักสูตรความ สำเร็จได้เชื่องช้านักแต่ใช้เวลาเพียง น้อยนิดในการศึกษาหาความสุข ขอให้เรามาใช้ เดือนนี้เป็นเดือนพิจารณาการค้นหาหัวใจของเราเองเถิด อย่าเริ่มวันนี้เลย เริ่มเลยเสีย เดี๋ยวนี้ แล้วจะพบว่าหากคุณให้สิ่งที่ดีที่สุดที่คุณมีแก่โลก ส่วนที่ดีที่สุดนั้นจะกลับมา หาคุณเอง จากคุณ : ลุงแอ็ด เขียนเมื่อ : 21 มี.ค. 55 11:24:48

ความคิดเห็นที่ 12 ภาพ  :  ห้องกล้อง  พันทิบดอทคอม จากคุณ : ลุงแอ็ด เขียนเมื่อ : 21 มี.ค. 55 11:25:36

ความคิดเห็นที่ 13 กระฉับกระเฉงอยู่เสมอ นักหนังสือพิมพ์ชาวสวิตซ์คนหนึ่งไปสัมภาษณ์นายอัลซิเดเดอกัสปารี ตอนที่ฝ่าย หลังได้เป็นนายกรัฐมนตรีของประเทศอิตาลี นักหนังสือพิมพ์ “ผมขอรายงานการสัมภาษณ์ให้กับหนังสือพิมพ์ ครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้ายแล้วครับ ผม เองอายุ 65 ปี แล้วขอพักผ่อนเสียที” “น่าสงสารจริงๆ เลยคุณ” นายกรัฐมนตรี กัสปารี ตอบไปอย่างไม่เห็นด้วย “ผมก็อายุ 65 เหมือนกัน แต่ผมเพิ่งจะเริ่มอาชีพใหม่นะ” เรื่องอายุไม่เกี่ยวกับความสำเร็จ ถ้าหากคุณยังคิดว่าคุณหนุ่ม หนุ่มพอจะพิชิตชื่อเสียง และสินทรัพย์ ขอให้จำไว้ว่า อเลกซานเดอร์ มหาราช พิชิตโลกทั้งโลกได้เมื่ออายุ 33 เซอร์ โรเบิร์ตพิล (1788-1850) เดินเข้าสภาเมื่ออายุ 21 ปี โรเบิร์ต บราวนิ่ง (1812-1889) รจนากวีนิพนธ์ได้ยอดเยี่ยมตั้งแต่อายุ 11 ยอร์จ เฟเดอริกค์ แฮนเดล (1685-1759) นักแต่งเพลงชาวอังกฤษสามารถเครื่องดนตรีได้สามอย่าง สามารถแต่ง เพลงได้ 1 ชิ้นต่อสัปดาห์เพียงเมื่ออายุได้ 7 ขวบ ใกล้เมืองเราเข้ามา รามันธัน กริ ษนัน มีชื่อไปทั่วโลกเทนนิสเมื่ออายุ 23 เอาชนะแชมป์วิมเบิลดัน อเลกซ์โอเมโดได้ อายุเป็นเพียงสภาพจิตใจ เมื่อพูดถึงความแก่ก็มีอยู่ 2 ทาง คือ ถ้าไม่แก่ขึ้นก็แก่ลง แกลสโตน (1809-1898) เพิ่งจะไต่เต้าเข้าสู่เวทีการเมืองเมื่ออายุ 80 คุณ ปู่คาโต (234-149 BC) รัฐบุรุษและขุนพลชาวโรมันเจ้าของวลีประวัติศาสตร์อัน ลือลั่น “คาร์เถจต้องถูกทำลาย” เพิ่งจะเริ่มเรียนภาษากรีกเอาเมื่ออายุ 80 เช่นกัน ถึงอายุจะ 89 ซึ่งเป็นปีสุดท้ายของชีวิต ไมเคิล แอนเจโล ยังวาดภาพที่เป็นอมตะ ออกมาเรื่อย จากคุณ : ลุงแอ็ด เขียนเมื่อ : 21 มี.ค. 55 11:29:00

ความคิดเห็นที่ 14 ภาพ  :  ห้องกล้อง  พันทิบดอทคอม จากคุณ : ลุงแอ็ด เขียนเมื่อ : 21 มี.ค. 55 11:30:06

ความคิดเห็นที่ 15 ใน ยุคของเราก็เถอะ ยังคงมีคนทั้งผู้หญิงผู้ชายที่อายุเลย 60 ปีไปแล้ว ไม่ว่าฐานะต่ำ ต้อยหรือสูงส่ง ยังคงมีความกระฉับกระเฉงมุมานะมากกว่าอีกหลายคนที่มีอายุเพียง 30 ปีที่เรารู้จักเสียอีก คนเหล่านี้จะบอกคุณว่า “หากคุณแก่เกินไปที่เรียน คุณก็แก่เกิน ไปที่จะมีชีวิตอยู่” ประธานาธิบดี ไอเซนฮาว แห่งอเมริกา และนายกรัฐมนตรีเนห์รู แห่งอินเดีย ถึงอายุ จะกว่า 60 แต่มองเห็นว่างานทุกชิ้นไม่ใช่สิ่งที่จะต้องทำเล่นเลย ในธุรกิจการแสดง คลาร์ด เกเบิ้ล โจน ครอว์ฟอร์ด และบิง ครอสบี้ ที่เคยอยู่กับสปอตไลท์บนเวทีการ แสดงมากกว่า 20 ปี แล้วยังคงเป็นดาราแสดงนำได้ ในวงการพระศาสนา ใครเล่าจะ ทำงานหนักโดยไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยไปยิ่งกว่า ถึงจะหนักขนาดไหน พระองค์ก็ยังทรง กระฉับกระเฉง เสด็จตามหมายกำหนดการทุกวัน ไม่คำนึงถึงพระชนมายุซึ่งเข้าสู่วัย ชราแล้ว ใครๆ เขาก็เชื่อกันทั้งนั้นว่าอายุเป็นเรื่องของสภาพจิตใจ ไม่ใช่เรื่อง แปลกอะไรเลยที่โลกทั้งโลก ยังมีคนประเภทที่กระฉับกระเฉงให้เห็นกัน อยู่ คุณจะเป็นอย่างเขาเหล่านั้นก็ได้เพียงแต่เชื่อว่าอายุเป็นเรื่องของสภาพจิต ใจ ไม่ ใช่เรื่องของปีตามปฏิทิน พวกเรายังจะหนุ่มอยู่ตามที่ความรู้สึก และการกระทำของ เรา พวกเราจะยังหนุ่มตราบเท่าที่ความกระตือรือร้นยังมีแต่จะแก่หง่อมไปทันที เมื่อ เรารู้สึกเกลียดโลกมนุษย์ เท่าที่ชีวิตผ่านมาแล้ว หากคุณประสบผลสำเร็จ ก็ขอให้รักษาสถิติอันนั้นเอาไว้ ถ้า หากความสำเร็จยังไม่มาถึง ก็อย่าได้รอจนกว่ามันจะมาถึงเอง ให้รีบทำ ให้ออกไปพบ ความสำเร็จเสียตรงครึ่งทาง แล้วคุณจะได้พบ หากคุณเฝ้าฝัน ไม่รีบตื่น หรือมัวแต่ดุด่าโชคชะตา ความฝันจะเป็นจริงได้อย่างไร ขอ ให้รีบตื่นขึ้นทำความฝันเหล่านั้นให้เป็นจริง วันนี้เป็นความฝัน พรุ่งนี้เป็นเพียงภาพอัน เลือนลางความเป็นจริงจึงอยู่ที่วันนี้ เริ่มเดี๋ยวนี้เสียเลย ใช้ชีวิตวันนี้ให้คุ้มค่าที่สุดแล้ว พรุ่งนี้จะเป็นของคุณเอง จากคุณ : ลุงแอ็ด เขียนเมื่อ : 21 มี.ค. 55 11:33:02

ความคิดเห็นที่ 16 30 วัน สูตรสู่ความสำเร็จ ตอนที่ 1 : 30 วัน สูตรสู่ความสำเร็จ บทที่ 1 http://www.pantip.com/cafe/silom/topic/B11789844/B11789844.html#15 ตอนที่ 2 : 30 วัน สูตรสู่ความสำเร็จ วันที่ 1. ความสำเร็จเป็นสิ่งที่คุณจะต้องเอื้อม http://www.pantip.com/cafe/silom/topic/B11794884/B11794884.html#13 ตอนที่ 3 : 30 วัน สูตรสู่ความสำเร็จ วันที่ 2. ราคาแห่งความสำเร็จ http://www.pantip.com/cafe/silom/topic/B11803153/B11803153.html ตอนที่ 4 : 30 วัน สูตรสู่ความสำเร็จ วันที่ 3. ความสุขต้องมาก่อน http://www.pantip.com/cafe/silom/topic/B11820722/B11820722.html#19 ตอนที่ 5 : 30 วัน สูตรสู่ความสำเร็จ วันที่ 4. แผนการสำหรับวันนี้ http://www.pantip.com/cafe/silom/topic/B11830168/B11830168.html ตอนที่ 6 : 30 วัน สูตรสู่ความสำเร็จ วันที่ 5. มองดูจุดเริ่มต้น http://www.pantip.com/cafe/silom/topic/B11839344/B11839344.html ตอนที่ 7 : 30 วัน สูตรสู่ความสำเร็จ วันที่ 6. ดีอยู่ที่ความถูกต้องชัดเจน http://www.pantip.com/cafe/silom/topic/B11851223/B11851223.html จากคุณ : ลุงแอ็ด เขียนเมื่อ : 21 มี.ค. 55 11:34:53

ความคิดเห็นที่ 17 โปรดติดตามตอนต่อไป.......(อย่าลืมเก็บในกระทู้เก่าด้วยนะขอรับ) ตอนที่ 9 : 30 วัน สูตรสู่ความสำเร็จ วันที่ 8. ร่างเดียวมี 3 คน อมร  ถาวรมาศ amorntvm@hotmail.com จากคุณ : ลุงแอ็ด เขียนเมื่อ : 21 มี.ค. 55 11:36:43

ความคิดเห็นที่ 18 ลุงแอ็ดครับ ผมเป็นคนแบบที่หนังสือเค้ากล่าวไว้เลยครับลุง ผมรู้สึกกระฉับกระเฉง (อายุ34) รู้สึกมีความสุขตลอดทั้งวัน  ดีใจที่ได้พบเพื่อนใหม่ ได้พูดคุยกับคนที่ไม่เคยรู้จักมาก่อน และคนที่คุยกับผมจากหน้าบึ้งดูไม่มีความสุขก็จะร่าเริงไปกับผมด้วย ผมเพิ่งไปเยี่ยมคุณยายที่กำลังแย่แล้ว(อายุ89) ผมสามารถทำให้ท่านยิ้มทำให้หัวเราะได้ ผมไม่ได้เป็นคนตลกไร้สาระนะครับ แบบนี้ผมควรจะมุ่งไปในทางใดดีครับ ลุงแ็อ็ดช่วยชี้แนะด้วยครัีบ ขอบคุณครับ แก้ไขเมื่อ 21 มี.ค. 55 13:34:53 จากคุณ : HMC เขียนเมื่อ : 21 มี.ค. 55 13:08:01

ความคิดเห็นที่ 19 ลุงแ็อ็ดไม่มาอ่านกระทู้ที่ตั้งไว้เหรอครับเนี่ย จากคุณ : HMC เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 55 09:05:30

ความคิดเห็นที่ 20 ขอโทษทีครับ คุณ HMC ที่มาตอบกระทู้ช้าไป รู้สึกว่า คุณจะเป็นผู้โชคดีนะครับ  ที่มีบุคลิกเข้ากับคนได้ดี  มีความกระตือรือร้น และ มีความกระฉับกระเฉง  คุณจะทำงานอะไรก็ได้  บุคคลิกอย่างนี้  จะเสริมทุกอาชีพ ให้ คุณได้มีโอกาสก้าวหน้าได้ในที่สุด แต่เนื่องจาก ทุกอาชีพ  ต้องเกี่ยวกับเรื่อง "คน" ไม่ว่าจะทำอาชีพบัญชี  อาชีพ ทรัพยากรมนุษย์  อาชีพวิศวกรรม ฯลฯ  ในที่สุด  คุณก็จะหนีไม่พ้นเรื่องการ Deal กับ คน และการทำงานกับคนนั้น สิ่งที่จำเป็นเป็นลูกน้องคน  เป็นหัวหน้าคน  เป็นผู้ตามที่ดี เป็นผู้นำที่ดีนั้น  ก็ไม่หนีสิ่งที่คุณกำลังทำอยู่  และทำเป็น "ธรรมชาติ" เสียด้วย ดังนั้น  หากคุณได้ทำงานเกี่ยวกับคนตั้งแต่เริ่มต้น  เช่นการเป็นพนักงานขาย  โอกาส ที่จะก้าวหน้ารวดเร็วกว่าคนอื่น  ก็ย่อมจะเป็นสิ่งที่เป็นไปได้ หวังว่าคุณคนจะได้อะไรจากคำตอบของลุงบ้างนะครับ และต้องขออภัยเป็นอย่างยิ่งมา ณ ที่นี้ด้วย  (ที่ตอบช้า) เพราะลุงกำลังจะเปิดเทอม ที่สองในการเรียนปริญญาโทในวันเสาร์ - อาทิตย์นี้  ช่วงนี้เลยยุ่งๆ หน่อยครับ จากคุณ : ลุงแอ็ด เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 55 10:04:26

ความคิดเห็นที่ 21 ขอขอบคุณ  :  คุณ black rhino ขอขอบคุณ  :  คุณ todam ขอขอบคุณ  :  คุณ HMC จากคุณ : ลุงแอ็ด เขียนเมื่อ : 26 มี.ค. 55 13:21:12