ความคิดเห็นที่ 1 วันที่ 8 ร่างเดียวมี 3 คน ความ ยุ่งยากในโลกนี้ ครึ่งหนึ่งเกิดจากความจริงที่ว่า พวกเราส่วนมากไม่รู้ว่าเราไม่ใช่ คนคนเดียว จริง ๆแล้วมีถึง 3 คนในร่างเดียวกัน คือ คนที่คิดว่าเราเป็น คนที่เราเป็นในสายตาคนอื่น คนที่เราเป็นจริง ๆ ตราบใดที่เรายังทำเป็นคนอื่นนอกเหนือไปจากคนที่เราเป็นที่แท้จริงแล้ว ตราบนั้นเรา จะไม่พบความสงบสุข หรือแม้แต่ความสำเร็จได้เลย จากคุณ : ลุงแอ็ด เขียนเมื่อ : 26 มี.ค. 55 12:43:43

ความคิดเห็นที่ 2 ภาพ  :  ห้องกล้อง  พันทิบดอทคอม จากคุณ : ลุงแอ็ด เขียนเมื่อ : 26 มี.ค. 55 12:45:12

ความคิดเห็นที่ 3 คนที่วาดภาพเหมือน รู้สึกจะได้เปรียบกว่านักถ่ายรูปเพราะเขาจะวาดภาพของคุณ ออกมา ตามภาพที่คุณปรากฏต่อหน้าเขา อย่างที่คุณปรากฏต่อตัวเอง หรืออย่างที่คุณ จะให้เป็นต่อหน้าคนอื่นก็ได้ แต่สิ่งที่เป็นต้นตอจริง ๆจะไม่เปลี่ยนเลย ทางหนึ่ง ที่จะทำให้เรารู้ว่าเราเป็นอย่างไรจริง ๆนั้นก็คือ ปรึกษานักวิเคราะห์ลายมือ ชั้นดีสักคนคนประเภทนี้สามารถจะบอกลักษณะพิเศษที่ ซุกซ่อนอยู่ในนิสัยของคุณ ได้อย่างดี แม้แต่ตัวคุณเองก็ไม่นึกฝันว่ามันมีอยู่ ผมเองเคยศึกษาวิธีดูลายมือเขียน ตอนนั้นผมให้ครูดูลายมือให้โดยเขียนปะปนไปกับคนอื่น ครูคนนั้นก็วิจารณ์ไปต่าง ๆ นานามีอยู่ตอนหนึ่ง เขาทักขึ้นว่า “คน ๆนี้ไว้ใจเรื่องเงินไม่ได้” ผมตะลึง ถามไปว่า “เขาขึ้โกงหรือ” “ไม่ใช่” เขาอธิบาย “พูดถึงซื่อนะเขาเป็นคนซื่อสัตย์อยู่หรอก แต่ถ้าปล่อยให้เขาเป็น หัวหน้าโครงการอะไรสักอย่างแล้ว เขาจะมุ่งมั่นอยู่แต่กับความสำเร็จของโครงการเท่า นั้น มุ่งมั่นเสียจนลืมดูบัญชีรายจ่าย ที่ผมพูดนี่ก็หมายถึงอย่าให้คน ๆนี้ดูแลบัญชี” ได้ฟังก็โล่งใจไป พอได้ความรู้ไหมถึงสิ่งที่ซุกซ่อนอยู่ในนิสัยของตัวเองแล้ว ผม กลายเป็นคนระมัดระวังมากขึ้นตั้งแต่นั้นมา จากคุณ : ลุงแอ็ด เขียนเมื่อ : 26 มี.ค. 55 12:49:38

ความคิดเห็นที่ 4 ภาพ  :  ห้องกล้อง  พันทิบดอทคอม จากคุณ : ลุงแอ็ด เขียนเมื่อ : 26 มี.ค. 55 12:50:19

ความคิดเห็นที่ 5 การที่จะรู้ว่าคนอื่นเขาคิดว่าเราเป็นคนอย่างไร ก็ไม่ยากเกินไป ผมเองเขียนหนังสือ หลายเรื่อง หลายนามปากกาผมจึงพอจะรู้ถึงสิ่งละอันพันละน้อย ที่ข้อเขียนของผมมี ต่อความคิดของผู้อ่าน โดยที่ผมไม่ต้องแสดงตัวจริงอย่างอื่นออกมา แต่วิธีนี้ออกจะ เสี่ยงเพราะถ้าคุณไม่สามารถเผชิญความจริงหรือไม่สามารถ ประเมินความคิดของผู้ อ่าน ตามพื้นฐานและประสบการณ์ของคนนั้นแล้ว คุณจะเสียใจได้ง่าย ๆ อีกอย่างหนึ่งถ้าเราเป็นนักวิจารณ์ตัวเองที่ดีแล้ว เราที่เป็นเราจริง ๆ กับเราที่คิดว่าเรา เป็นนั้น สามารถทำให้เป็นคนเดียวกันได้ง่าย นักเขียนที่ดีต้องเป็นผู้วิจารณ์ตัวเองได้ อย่างรุนแรงดุเดือด เมื่อคุณพบนักเขียนมือหนึ่งสักคนแล้วไปบอกเขาว่า ข้อเขียนชิ้น หนึ่งเขาดีมากก็เท่ากับว่าคุณไม่ได้บอกอะไรที่ใหม่ให้เขาเลย นอกเสียจากบางทีคุณ ไปบอกว่า คุณเป็นนักอ่านช่างพินิจ พอจะมองเห็นคุณค่าของข้อเขียนเมื่อได้อ่าน ซึ่ง ก็เหมือนกับพูดว่า นักสนทนาที่ดีไม่ใช่นักพูดที่ดี แต่นักสนทนาที่ดีคือ นักฟังที่ดีต่าง หากเล่า จากคุณ : ลุงแอ็ด เขียนเมื่อ : 26 มี.ค. 55 12:52:18

ความคิดเห็นที่ 6 ภาพ  :  ห้องกล้อง  พันทิบดอทคอม จากคุณ : ลุงแอ็ด เขียนเมื่อ : 26 มี.ค. 55 12:52:58

ความคิดเห็นที่ 7 หันมามอง คนที่อยู่รอบข้างคุณ ถ้าเขาเป็น คนไม่รู้อะไรเลย แถมยังไม่รู้ว่าตัวเองไม่รู้ ปล่อยเขาเถอะ ถ้าเขาเป็น คนไม่รู้อะไร แต่พอรู้ว่าเขาเป็นคนไม่รู้ย่อมเป็นธรรมดา สอนเขาเถอะ ถ้า เขารู้ แต่ไม่รู้ว่าเขารู้ คนนั้นกำลังนอนหลับ ปลุกเขาเสีย ถ้า เขารู้ และรู้ว่าเขารู้ นั่นคนฉลาดล่ะ ให้ฟังเขา ระวังข้อบกพร่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ของคุณเอง เขาคนนั้นนั่งเขียนหนังสืออยู่ที่โต๊ะทำงาน ภรรยานั่งสอยเสื้อผ้าอยู่บนโซฟาข้าง ๆ ทุกอย่างในห้องดูเป็นระเบียบ บรรยากาศในห้องเงียบและสงบ ชั่วอึดใจ หลอดด้าย กลิ้งตกจากโซฟาเกิดเสียงรบกวนความเงียบ เขาคนนั้นขมวดคิ้วนิ่วหน้า ภรรยาต้อง รีบลุกหนีออกจากห้องโดยไม่ชักช้า ผู้ชายคนนี้คือ อาร์โนลด์ เบน เตนน์ (1867-1931) นักเขียนชาวอังกฤษ เป็นคนมีประสาทหูเร็วมาก สามารถ ถูกรบกวนได้แม้แต่เสียงเพียงแผ่วเบาขณะนั่งทำงาน ฝ่ายภรรยาไม่ยอมอุธรณ์ใด ๆ เธอเข้าใจว่านักเขียนอย่างเขาต้องใช้ชีวิตอย่างตึงเครียด เธอเข้าใจสามีและให้อภัย ต่อความผิดเล็ก ๆ น้อย ๆ ของนักเขียนผู้ยิ่งใหญ่ อย่าได้เอาข้อบกพร่องไปปะปนกับความโง่เง่า มีคนที่ทำเป็นคนฉลาดเพียงเพื่อจะได้ เป็นลาที่แท้จริง โดยแสร้งทำเป็นวางเฉยไม่สนใจ เจ้าอารมณ์หรือกิริยาอย่างอื่นใดที่ คบไม่ค่อยได้ มีหลายคนที่จินตนาการว่าคนที่มีความรู้สึกเร็วคือ คนที่แสดงความหุน หันออกมา หลายคนที่เป็นอัจฉริยะ แต่ขาดระเบียบวินัยในตัวเองจึงทำให้พลาดโอกาสอะไร บางอย่าง เพียงแต่ระเบิดอารมณ์ออกมาเร็วเกินไป หลายคนสูญเสียเวลาไปหลาย เดือนหลายปีจนกว่าโลกจะยอมรับงานชิ้นเอกของเขา ในบางอาชีพความเป็นคนเจ้าอารมณ์บ่อย ๆ ก็ขวางกั้นความสำเร็จได้เหมือนกัน ขอให้ สอบถามเพื่อนที่เป็นนักสังเกตให้ช่วยวิจารณ์ด้วยว่า นิสัยอะไรที่ไม่ดีของเราจะเป็น อุปสรรคขวางกั้นจนเราเข้ากับคนอื่นไม่ได้ หรือทำให้เราขาดบุคลิกที่ดีไป ให้หลีกเลี่ยงกิริยาอาการที่หงอยเหงาเศร้าซึม การเคาะโต๊ะ การเอานิ้วแตะน้ำลายเสีย ก่อนค่อยเปิดหนังสือ การเอาเท้าวางบนโต๊ะ การกระดิกขาเป็นต้น เหล่านี้ถือว่าเป็น การเสียบุคลิก ขอให้อดทนกับข้อบกพร่องของคนอื่น ขณะเดียวกันขอให้จดข้อบกพร่องภายในตน เอง จากคุณ : ลุงแอ็ด เขียนเมื่อ : 26 มี.ค. 55 12:58:17

ความคิดเห็นที่ 8 ภาพ  :  ห้องกล้อง  พันทิบดอทคอม จากคุณ : ลุงแอ็ด เขียนเมื่อ : 26 มี.ค. 55 12:59:01

ความคิดเห็นที่ 9 บุคลิกที่ดีย่อมมีผล คนในวัยหนุ่มสาว มักจะมีคำถามอยู่เสมอว่า จะปรับปรุงบุคลิกของตนได้อย่างไร การ เสาะแสวงหาบุคลิกภาพที่ดีไม่ใช่เรื่องใหม่ เป็นเรื่องที่มีมาพร้อมมนุษยชาติ หนุ่มสาวชาวกรีกเคยถามปัญหาเดียว กันนี้ต่อโซดราตีส และคำตอบที่ได้คือ “ให้รู้ตัว เอง” นับเป็นคำแนะนำที่ดีมาก แต่ยังไม่จุใจใครต่อใคร เพราะไม่ครอบคลุมหลัก ปฏิบัติที่มากพอนั่นเอง เมื่อมาถึงหนุ่มสาวชาวโรมบ้าง พวกเขาพากันถาม มาร์คุส ออ เรลิอุส และได้รับคำตอบว่า “ขอให้เป็นตัวของตัวเองสิ” ถึงยุคหนุ่มสาวยุคจรวดนัก จิตวิทยาร่วมสมัยจะให้คำตอบว่า “พัฒนาตัวเองสิ” และพวกเราในปัจจุบันนี้ก็ชอบ ถามกันนักหนาว่า “บุคลิกภาพคืออะไร?” คำตอบก็คือ “บุคลิกภาพคือการพัฒนาตนเอง” จากคุณ : ลุงแอ็ด เขียนเมื่อ : 26 มี.ค. 55 13:02:01

ความคิดเห็นที่ 10 ภาพ  :  ห้องกล้อง  พันทิบดอทคอม จากคุณ : ลุงแอ็ด เขียนเมื่อ : 26 มี.ค. 55 13:02:39

ความคิดเห็นที่ 11 เมื่อหลายร้อยปีที่ผ่านมา บรรดานักการศึกษาให้คำแนะนำว่า การศึกษาคือการป้อน ความรู้ให้เด็ก ระยะหลังการศึกษาจึงได้มาถึงความหมาย เดิมที่เป็นภาษาลาตินว่า Educo ครั้งหนึ่งเคยคิดกันว่า บุคลิกเป็นอย่างเครื่องแต่งตัวหรือเครื่องปกปิดร่างกายที่ ใครก็สามารถสวมใส่ได้ เครื่องแต่งตัวประเภทนี้ประกอบด้วยมารยาทที่ดีงามตามสังคม แต่งกายสวยงาม เสื้อ ผ้าสะอาดและบอกรสนิยมเป็นต้น แต่บัดนี้เรารู้แล้วว่า บุคลิกไม่ใช่สิ่งที่ปรากฏเพียงภายนอกของแต่ละคนหากหมายถึงตัวตนที่พัฒนาแล้ว คุณไม่สามารถเป็นคนมีบุคลิกได้เลยด้วยการจำเอาขี้ปากนักปราชญ์มาพูด หรือพ่น ความคิดเชิงแหลมหลักของผู้นำสังคม หากคุณทำอย่างนั้น จะเป็นได้ก็เพียงกระบอก เสียงของผู้เป็นครู ก็แค่นั้นทางที่จะเป็นได้ก็ด้วยการคิดได้ด้วยตัวเอง แสดงความคิด เห็นที่เป็นตัวของตัวเอง คนเราไม่สามารถมีบุคลิกได้เพียงแต่ด้วยการแต่งกายเลียน แบบดารา เอาอย่างการวางท่าของนางแบบนายแบบตามนิตยสาร  หากคุณจะต้อง เลือกผ้าที่เข้ากับผิวพรรณของตัวคุณ รวมไปถึงสถานภาพทางสังคมและสิ่งแวดล้อม ตัวคุณอยู่ เป็นเสื้อผ้าที่สร้างให้คุณมีเสน่ห์ทำให้คนอื่นมาสนใจ จากคุณ : ลุงแอ็ด เขียนเมื่อ : 26 มี.ค. 55 13:06:42

ความคิดเห็นที่ 12 ภาพ  :  ห้องกล้อง  พันทิบดอทคอม จากคุณ : ลุงแอ็ด เขียนเมื่อ : 26 มี.ค. 55 13:07:21

ความคิดเห็นที่ 13 ปัจจัย 3 อย่างในการสร้างบุคลิก ปัจจัยที่จำเป็น 3 อย่างในการสร้างบุคลิกภาพก็คือ ความจริงใจ ความรู้ และการให้ บริการคนอื่น อย่าได้ลอกเลียนคนอื่นต้องเป็นตัวของตัวเอง บุคลิกอยู่ที่นี่ แน่นอนละ ในใจของคุณย่อมอดที่จะเอาเยี่ยงอย่างคนที่คุณชื่นชอบได้หรือลอกแบบจุดดีของ คนที่คุณนิยม แต่การเลียนแบบไม่ใช่การเอาเยี่ยงอย่างเรียนรู้จากคนอื่นได้ แต่เวลา ทำต้องทำด้วยตัวเอง ทำอย่างเป็นตัวของตัวเอง ศึกษาคุณสมบัติที่ดีเด่นของคนที่ คุณยกย่อง และพยายามเพาะบ่มคุณสมบัติเหล่านั้นให้เกิดในตัวคุณ เช่น ความ ประพฤติหรือการพูดอย่างจริงใจตรงไปตรงมา ทำตามคำมั่นสัญญาการเป็น อิสระไม่ยอมให้การปลอมปนหรือเสแสร้ง มาครอบงำการไม่รู้จักการประจบสอพลอ ความมีจิตใจเบิกบาน ความอยากช่วยเหลือผู้อื่น ความกระตือรือร้นในชีวิต ความจริง ใจเป็นแผ่นคอนกรีตรองรับบุคลิก ความจริงใจย่อมสำคัญกว่า ความสวยงามหรือ อิริยาบถอย่างอื่น จากคุณ : ลุงแอ็ด เขียนเมื่อ : 26 มี.ค. 55 13:09:18

ความคิดเห็นที่ 14 ภาพ  :  ห้องกล้อง  พันทิบดอทคอม จากคุณ : ลุงแอ็ด เขียนเมื่อ : 26 มี.ค. 55 13:09:59

ความคิดเห็นที่ 15 ปัจจัยข้อที่ 2 คือความรู้ ความไม่รู้ทำให้เกิดความขลาด ความรู้ก่อให้เกิดความมั่นใจ ขอให้อ่านหนังสือให้กว้างขวางและอย่างฉลาด จุดประสงค์ที่แท้จริงของการอ่านไม่ ใช่เพื่อเพิ่มพูนความรู้ แต่เพื่อจะได้นำความรู้ไปใช้ให้เป็นประโยชน์ หนังสือประเภท ไดเจสต์ เช่น Reader Digest, Catholic Digest หรือเล่มอื่นที่เห็นว่าดีควรหามาอ่าน ๆแล้วอย่าลืมแลกเปลี่ยนความรู้และทัศนคติกับเพื่อนของคุณ วิธีการที่เร็วที่สุดในการพัฒนาบุคลิกก็คือ การให้บริการทางสังคม วิธีการอย่างนี้ให้ โอกาสคุณอย่างมากมายที่จะได้แสดงออก ช่วยให้คุณรู้แนวทางสอนคุณให้รู้จักความ อดทนจะเน้นให้คุณรู้จักความว่างเปล่าของการประจบสอพลอและความไม่มีอะไร จากการหลอกลวง แม้คุณจะอยู่ในวัยศึกษาก็ยังมีโอกาสมากมายที่คุณจะได้ช่วย บริการสังคม บริการชุมชน เช่นเข้าร่วมรณรงค์สิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อส่วนรวม เข้าอบรม การบรรเทาสาธารณภัย อบรมการปฐมพยาบาล เป็นต้น รับใช้เพื่อนบ้านใกล้เรือน เคียงเสียก่อน แล้วคุณจะรู้จักวิธีนำชุมชน นำสังคม นำประเทศชาติเพราะว่า การให้ บริการผู้อื่น ความไม่เห็นแก่ตัว และการอุทิศตัวเอง เพื่อประโยชน์แก่ส่วนรวมจะปลูก ฝังแก่นแของความเป็นผู้นำและบุคลิกที่เด่นให้ คุณ คุณจะสามารถทอประกายบุคลิกที่มีเสน่ห์ออกไปรอบด้านได้ เหมือนดาราภาพยนตร์ ที่คุณชื่นชอบ ถ้าหากคุณต้องการด้วยความกระตือรือร้น และพยายามฝ่าฟันด้วยดวง ใจเด็ดเดี่ยว เขียนเป็นรายการออกมาดูจุดอ่อนและจุดบกพร่องของคุณ พยายามสร้าง นิสัยที่ดีขึ้นมาแทนที่จุดที่ไม่ดีที่มีปัญหา ใช้เวลา 24 ชั่วโมงที่มีอยู่ให้เป็นประโยชน์ สูงสุด เวลาขอให้ใช้อย่างประหยัดอย่าสุรุ่ยสุร่าย ขยายจุดสนใจต่าง ๆ ในชีวิตออกไป ให้กว้าง งานอดิเรกอย่างเดียวไม่พอ ก็ขยายออกไปให้เป็นสอง ขอให้เป็นคนมีความ กระตือรือร้นในชีวิต ใช้ชีวิตให้เป็นประโยชน์มากที่สุด เหนือสิ่งอื่นใด คือ ต้องมีความจริงใจ ฉลาด และทำตนให้เป็นประโยชน์ จากคุณ : ลุงแอ็ด เขียนเมื่อ : 26 มี.ค. 55 13:14:30

ความคิดเห็นที่ 16 30 วัน สูตรสู่ความสำเร็จ ตอนที่ 1 : 30 วัน สูตรสู่ความสำเร็จ บทที่ 1 http://www.pantip.com/cafe/silom/topic/B11789844/B11789844.html#15 ตอนที่ 2 : 30 วัน สูตรสู่ความสำเร็จ วันที่ 1. ความสำเร็จเป็นสิ่งที่คุณจะต้องเอื้อม http://www.pantip.com/cafe/silom/topic/B11794884/B11794884.html#13 ตอนที่ 3 : 30 วัน สูตรสู่ความสำเร็จ วันที่ 2. ราคาแห่งความสำเร็จ http://www.pantip.com/cafe/silom/topic/B11803153/B11803153.html ตอนที่ 4 : 30 วัน สูตรสู่ความสำเร็จ วันที่ 3. ความสุขต้องมาก่อน http://www.pantip.com/cafe/silom/topic/B11820722/B11820722.html#19 ตอนที่ 5 : 30 วัน สูตรสู่ความสำเร็จ วันที่ 4. แผนการสำหรับวันนี้ http://www.pantip.com/cafe/silom/topic/B11830168/B11830168.html ตอนที่ 6 : 30 วัน สูตรสู่ความสำเร็จ วันที่ 5. มองดูจุดเริ่มต้น http://www.pantip.com/cafe/silom/topic/B11839344/B11839344.html ตอนที่ 7 : 30 วัน สูตรสู่ความสำเร็จ วันที่ 6. ดีอยู่ที่ความถูกต้องชัดเจน http://www.pantip.com/cafe/silom/topic/B11851223/B11851223.html ตอนที่ 8 : 30 วัน สูตรสู่ความสำเร็จ วันที่ 7. ใช้ชีวิตให้เป็นประโยชน์ที่สุด http://www.pantip.com/cafe/silom/topic/B11861100/B11861100.html จากคุณ : ลุงแอ็ด เขียนเมื่อ : 26 มี.ค. 55 13:17:01

ความคิดเห็นที่ 17 โปรดติดตามตอนต่อไป.......(อย่าลืมเก็บในกระทู้เก่าด้วยนะขอรับ) ตอนที่ 10 : 30 วัน สูตรสู่ความสำเร็จ วันที่ 9. ความหยิ่งเป็นเรื่องของคนใจแคบ อมร  ถาวรมาศ amorntvm@hotmail.com จากคุณ : ลุงแอ็ด เขียนเมื่อ : 26 มี.ค. 55 13:18:57

ความคิดเห็นที่ 18 เหมือนเดิมครับลุง จากคุณ : หมึกสด เขียนเมื่อ : 26 มี.ค. 55 19:00:59

ความคิดเห็นที่ 19 ขอบคุณครับ จากคุณ : FreeWing เขียนเมื่อ : 26 มี.ค. 55 21:24:58

ความคิดเห็นที่ 20 ขอขอบคุณ  :  คุณ สาวน้อยร้อยแปด ขอขอบคุณ  :  คุณ black rhino ขอขอบคุณ  :  คุณ หมึกสด ขอขอบคุณ  :  คุณ FreeWing จากคุณ : ลุงแอ็ด เขียนเมื่อ : 2 เม.ย. 55 21:21:29