ความคิดเห็นที่ 1 ถ้าอังกฤษอ่อนมาก เราว่าเรียนทีละภาษาให้เก่งก่อนดีกว่าค่ะ Spanish ในเมืองไทยมีโอกาสใช้น้อย เราเรียนมาก็ลืมแล้ว จะเรียนภาษาให้ดี ต้องมีโอกาสฝึกฝน คงบอกยากค่ะว่าใช้เวลานานมั๊ย อย่างเราตอนนี้ bilingual ใช้เวลา 1 ปีีที่ไม่ใช้ภาษาไทยเลย ใช้อังกฤษล้วน ในเมืองที่ไม่มีคนไทย สำหรับการสมัครงานในปัจจุบัน ภาษาอังกฤษสำคัญมากนะคะ เราได้งานที่ทำอยู่นี้ก็เพราะภาษาล้วนๆ ป.เอกที่จบมานี่ไม่เกี่ยวเลยด้วยซ้ำค่ะ ยังไงก็ลองหาที่เรียนที่ดีๆนะคะ เรียนกับเจ้าของภาษาที่ได้รับการรับรองจะดีมากค่ะ แล้วก็หมั่นฝึกฝน ที่เราว่าช่วยได้มากคือการเปลี่ยนสิ่งแวดล้อม เช่น ฟังเพลง ดูทีวี อ่านหนังสือ ให้เป็นอังกฤษให้หมด เดี๋ยวก็ชินค่ะ สู้ๆนะคะ จากคุณ : smallkid เขียนเมื่อ : 31 มี.ค. 55 08:01:20

ความคิดเห็นที่ 2 ^ ^ ผมดูหนัง ฟังเพลง ฝรั่งซะส่วนใหญ่  คืออย่างที่บอกน่ะครับว่าทักษะการฟังอ่อนมากครับ โดยเฉพาะถ้าเจอสำเนียงเจ้าของภาษาผมไปไม่ถูกเลยครับ เพราะเคยเรียนแต่ครูคนไทย ถ้าคนไทยพูดอังกฤษผมก็พอฟังออกนะ จากคุณ : osk1988 เขียนเมื่อ : 31 มี.ค. 55 08:07:38

ความคิดเห็นที่ 3 ถ้าสำหรับคนที่อ่อนภาษามาก ๆ  คงต้องใช้เวลานานมาก แต่ขึ้นอยู่กับความตั้งใจ และเวลาที่จะฝึกฝนว่า ใช้เวลานานแค่ไหนในการฝึกฝนและพัฒนา ภาษาอังกฤษเป็นทักษะที่ต้องใช้เวลาต่อเนื่องในการฝึก และต้องหมั่นใช้บ่อย ๆ จนชำนาญ หากไม่มีโอกาสฝึก ก้ต้องหาหนทางให้ได้ อีกสองปีกว่า ๆ เราจะเข้าสู่ประชาคมอาเซียนแล้ว คนทำงานที่ไมได้ภาษาอังกฤษ ผมว่า ลำบากแน่ ๆ ... มิน่า สถาบันสอนภาษาอังกฤษ เปิดเยอะเหลือเกิน ดูดเงินคนไทยไปเยอะแยะเลย จากคุณ : Panda Smile เขียนเมื่อ : 31 มี.ค. 55 08:26:42

ความคิดเห็นที่ 4 ขอบอกว่าใจกล้าหน้าด้าน อย่าไปกังวลเรื่องtense มากนัก พูดชัดเจนให้เขาเข้าใจเรา แต่ถ้าไม่มั่นใจแล้วพูดอ้อเอ้ เขาก็ยิ่งไม่เข้าใจใหญ่ เป็นขั้นต้นในการพูด อย่าลืมว่า แม้ภาษาไทยเราเอง เพียงภาตกลาง ชาวต่างชาติได้สำเนียง กทมมา แต่เพียงข้ามจังหวัดไปสุพรรณ ก็แย่แล้ว ซึ่งก็เป็นภาษาไทยเหมือนกันจริงไหมครับ ดังนั้นอย่าไปกลัวหรือตกใจว่า ไหงเราไม่เข้าใจที่เขาพูด เขาอาจจะมาจากท้องถิ่นอื่นและเป็นสำเนียงท้องถิ่นของเขา ทั้งนี้และทั้งนั้น คำศัพท์นี่สำคัญมาก ตราบใดที่เราส่งสำเนียงไม่ถูกแล้วเขาไม่เข้าใจ เรายังสะกดให้เขารับทราบว่า เราหมายถึงอะไร มักจะร้องโอ้....ฉันทะเลทันที แต่ถ้าคำศัพท์ก็ไม่ได้..จบครับ ดังนั้นถ้าพบชาวต่างชาติกางแผนที่หันรีหันขวาง นั้นเป็นครูที่จะทดสอบภาษาได้ดี ไม่จำเป็นต้องเป็นคนทางตะวันตก ทางตะวันออกหัวดำเหมือนเราก็ทดสอบและให้ความช่วยเหลือเราได้ดี อย่างน้อยช่วยเขาด้วยภาษาใบ้ก็ยังดี เสริมกำลังใจให้เราได้ดี และต่อไปพบชาวต่างชาติถึงไม่เดินมาหาเราเราเดินอย่างมั่นใจไปหาและให้ความช่วยเหลือเขาเท่าที่จะเป็นไปได้ เขาก็จะประทับใจขอบคุณแล้วขอบคุณอีก แต่ก็ต้องดูจังหวะนะครับ เดี๋ยวนึกว่าเราเป็นพวกนางงามชนะมาหลายเวทีได้รางวัลมาเยอะ เขาอาจเดินหนีเราได้นะครับ..โชคดีครับผม จากคุณ : ลุงทอม เขียนเมื่อ : 31 มี.ค. 55 08:47:00

ความคิดเห็นที่ 5 พยายามทำทุกอย่างรอบตัวเราให้เป็นภาษาอังกฤษ อ่านตำราหาความรู้ อย่ากลัวกับการที่จะคุยกับฝรั่ง อย่ากลัวว่าจะพูดผิด คนเราเกิดมาพูดเป็นประโยคเลยได้ที่ใหน ใช้เวลากันทั้งนั้น ตัวผมเองจบนิติศาสตร์ เวลาเรียนก็ไม่ได้เกี่ยวกับภาษาเลยซักนิด หลังจากผมโดนฝรั่งคอมเพลนผมเกี่ยวกับทักษะด้านภาษา หลังจากนั้นผมใช้เวลาแค่สองเดือน ย้ำ สองเดือน พัฒนาตัวเองจนเดี๋ยวนี้เวลาฝรั่งพูดแสลงผมยังเข้าใจ ไม่ได้ยกว่าตัวเองเก่งนะครับ แต่ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนเกิดจากความพยายาม ฝึกฝน ตั้งใจ แต่ผมก็ไม่ชะล่าใจนะครับ ทุกวันนี้ก็ยังฝึกฝนทักษะด้านภาษาต่อเนื่องอยู่ทุกวัน ย้ำ ทุกวันจริงๆ  วันละนิดละหน่อย ฝึกอ่านข่าวภาษาอังกฤษ ฝึกแปล จำเท้นซ์ คอมเพล็ก คอมพาวด์ คอร์พาร์ท คำศัพท์ etc. สู้ๆนะครับ จากคุณ : โอ้พี่รักน้อง เขียนเมื่อ : 31 มี.ค. 55 09:19:43

ความคิดเห็นที่ 6 การเรียนรู้ภาษาอังกฤษ นอกจากเรียนรู้จากสถาบันที่สอนแล้ว มันก็ขึ้นอยู่กับตัวเราเองที่จะพัฒนา นั่นก็คือหมั่นหัดอ่าน (เอาความ) พูด (ให้ได้เรื่อง) เขียน (ให้ได้ใจความ) เวลาว่างหาหนังฝัร่งดูฟังแต่ซาว์นแทรก โดยไม่พยายามดูซัพไตเติ้ล (ปิดทิ้งเลย) ดูรอบแรกแล้วเข้าใจได้แค่ไหน ดูรอบสอง รอบสาม จนสามารถเข้าใจได้ถึง 70 เปอร์เซ็นต์ขึ้นไป ทักษะในการฟังก็จะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ คนไทยที่แบกจ๊อบทำงานในอเมริกา (โดยเฉพาะที่แอลเอ) อยู่อเมริกามากว่าสิบปี ยังดูหนังฝรั่งฟังไม่รู้เรื่องสักเรื่อง เหตุผลคือเขาจะสังคมอยู่กันแต่ในหมู่คนไทย กินอาหารไทย อ่าน นสพ ไทย ฟังเพลงดูหนังดูละครที่ส่งไปจากเมืองไทย พูดง่ายๆคือ สลัดการใช้ชีวิตความเป็นคนไทยในเมืองไทยไม่ได้ จากคุณ : คนที่ราบสูง เขียนเมื่อ : 31 มี.ค. 55 09:59:10 A:58.9.218.109 X: TicketID:255841

ความคิดเห็นที่ 7 ถ้าทักษะภาษาอังกฤษอ่อน แนะนำให้เรียนขั้นพื้นฐานเลยครับ เพื่อนผมหลายคนเรียนเก่งแต่ตกม้าตายเรื่องภาษา ในชีวิตประจำวันก็ฝึกใช้ภาษาอังกฤษให้มากที่สุด ทั้งการฟังเพลง ฟังข่าว อ่านข่าว ส่งจดหมาย ขนาดผมไปต่างประเทศแถวสิงค์โปร์ มาเลเซีย เขายังพูดภาษาอังกฤษกันปร๋อ เราคนไทยต้องพัฒนาแล้วละ จากคุณ : ใจหล่อ (ใจหล่อ) เขียนเมื่อ : 31 มี.ค. 55 10:02:25

ความคิดเห็นที่ 8 เราฝึกภาษาจากวิธีบ้านๆ มากค่ะ เล่น chat ห้อง Eng เริ่มที่ pantip เมื่อประมาณ 10 กว่าปีก่อน เล่น ICQ Pirch สมัยนั้น ไม่คุยห้องไทยเท่าไหร่ แต่เข้าห้องฝรั่งตลอด ได้ภาษามา ผิดบ้าง ถูกบ้าง สแลงบ้าง ก็อาศัยเปิดดิคบ้าง ไรบ้าง ก็ใช้ภาษาได้ดีค่ะ ประกอบกับ เราทำงานบริษัทฝรั่งมาตลอด มีโอกาสได้ใช้ เลยไม่ลืม แต่พอว่างงาน เกือบ 2 ปี รู้เลยว่า มันฝืดๆ พูดเรอ่มไม่คล่อง คิดคำไม่ออก อ้ำๆ อึ้งๆ เลยต้องหมั่นใช้บ่อยๆ ค่ะ Eng ไม่ยาก หากฝึกฝนค่ะ จากคุณ : Dreams Catcher เขียนเมื่อ : 31 มี.ค. 55 10:30:46

ความคิดเห็นที่ 9 คุณ osk1988 ก็อย่างที่บอกไปน่ะค่ะ คือไปเรียนกับเจ้าของภาษา มีหลายที่เลยนะคะ ที่เราว่าใช้ได้และไม่แพง อย่าง AUA ก็โอเคนะคะ เรื่องสิ่งแวดล้อม เปลี่ยนทุกอย่างให้เป็นอังกฤษให้หมดเลย ยิ่งถ้าหาคนที่คุยเป็นอังกฤษได้ด้วยจะยิ่งดีค่ะ ที่ทำงานเราพูดอังกฤษกันเลยแหละ ช่วยให้ได้ใช้ตลอด ยิ่งใช้ก็ยิ่งเก่งขึ้นค่ะ อย่าลืมดูหนัง ฟังเพลง วิทยุ อะไรก็ได้ แล้วก็ลองอ่านหนังสือหรือนิตยสารเรื่องที่คุณสนใจอยู่เดิม จะช่วยให้คุณเข้าใจเนื้อหาได้ไม่ยาก และได้คำศัพท์โดยไม่เหนื่อยมาก ถ้าเก่งแล้ว เราแนะนำให้อ่าน Time และ Bangkok Post หรือ The Nation ให้ได้ซักสัปดาห์ละเล่มสองเล่มค่ะ จะช่วยให้ได้อะไรอีกเยอะมาก เพราะหนังสือเหล่านี้เขียนได้ดีจริงๆ ลองดูนะคะ จากคุณ : smallkid เขียนเมื่อ : 31 มี.ค. 55 11:57:59

ความคิดเห็นที่ 10 เราดูหนังค่ะ ดูจนไม่ต้องมี thai sub ก็ได้ แรกๆจะ งง ๆ แต่แนะนำให้อดทนค่ะ ทนปวดหัวไปก่อน อ่านหนังสือที่ชอบ เป็นแบบที่ยังไม่แปลไทย  ทั้ง แฮรี่ ทไวไลท์ อ่านไปสักพัก จะรู้สึกว่าเราไม่ได้แปลแล้วค่ะ จะเริ่มชิน เจอชาวต่างชาติ ให้พุ่งไปหาเลยค่ะ ไม่ต้องกลัว แบบเรานี่มองหาเลย คุนกับช้านเถอะ ....พลีสสส ที่สำคัญคือต้องขวนขวาย และพยายามค่ะ .....เป็นกำลังใจให้ค่ะ ปล. คิดถูกแล้วนะคะที่เตรียมความพร้อมก่อนเริ่มงาน ภาษาอังกฤษถือว่าสำคัญมากค่ะ ในปัจจุบันนี้ จากคุณ : Orange Online เขียนเมื่อ : 31 มี.ค. 55 12:39:52

ความคิดเห็นที่ 11 ตัวอย่างจากเพื่อนเรานะ  เรียนมหาลัยแล้วแต่ภาษาอังกฤษมันง่อยมาก เราเรียนกับมันยังคิดว่า มันจะไม่ได้ขนาดนี้เลยหรอ นี่ผ่านมัธยมมาได้ไง ประมาณนี้ ...ต่อมา มันก็เป็นคนพัฒนาตัวเองมากนะ ไปอยู่ ตปท. ไปทำงานล้างจาน เรียนไปด้วย ตอนนี้กลับมา คนละคนเลย เขียนบล็อคเป็นภาษาอังกฤษฉิวแล้ว ฟัง พูด เขียน อ่าน ได้หมดหน้ามือเป็นหลังมือ...มันทำให้เราคิดได้ว่า ... มีแต่คนขี้เกียจ และ ไม่สนใจเท่านั้นแล่ะ ที่คิดว่าำภาษาอังกฤษมันยาก รวมทั้งเราด้วย ^ ^' จากคุณ : แอ๊ปเปิ้ลป่า เขียนเมื่อ : 31 มี.ค. 55 14:32:33

ความคิดเห็นที่ 12 ถ้าฟื้นฟู ซ่อมฐานนี่ ต้อง 6 เดือน แต่ถ้าอัดแบบ ปรับสภาพแวดล้อมตัวเองเป็นภาษาอังกฤษ งดดูTVไทยไปตั้งแต่ Sep 2004 ก็ 4 เดือน แล้วพอฐานแข็ง ก็ต่อยอดเยอรมัน เรียนเป็น เยอรมันไทย คอร์สแรกก็ฟังออก พอคอร์สสอง เยอรมัน อังกฤษ ไทย คอร์สสาม ก็เยอรมัน อังกฤษ ตัดไทยออก ต่อ Intensive คือ เรียน 5 วัน/week ประมาณนร ทุนเยอรมันไปต่อป โท DAAD แต่ไม่ได้สอบ ได้ไปทำงานกับ TV เยอรมนีแทน เพราะเจอ Graphic ,Producers ชาวDusseldorf คู่หนึ่งตอนคริสมาส 2004 เส้นทางชีวิต นำพาไปเจอ Chef เยอรมนีจาก Nuernberg ทำให้เข้าสู่วงการ หอการค้าไทยเยอรมัน ภาคธุรกิจ พอปี 2008 เปิดโรงเรียนสอนภาษาอังกฤษ private ปีที่สอง รื้อฟื้นจีนเด็ก อนุบาล 3 ก้าวสู่ปีที่ 3 ก็เริ่มสตาร์ท ภาษาที่3 คือ Italian กลุ่มสายภาษาโรแมนติก ตัวบน " อิตาเลียน ฝรั่งเศส สแปนิช " ซึ่งทำให้เข้าใจฝรั่งเศส สเปน จากคำ ประโยค ไปด้วย เหมือนฐานอังกฤษแข็ง สามารถเข้าใจเยอรมันได้รวดเร็ว ในกลุ่ม Neo Latin ปลายปี2010 Dec Blog โรงเรียนได้ถือกำเนิดมา วิชาสินค้าถูกพัฒนา ปรับไปตามกงล้อ ดีมานด์แท้ของตลาด บางอันเกิดมาจากปัญหาเดิมผู้เรียนที่สะสม ไม่ได้ถูกแก้แต่วัยเด็ก มาแก้ตอน ม4 มหาลัย ปี 2 จนทำงานเป็น Manager , Senior บริษัทข้ามชาติ ธนาคารข้ามชาติ วัย 29-34 ปีก็มี จนปีที่ 5 ก็มีนร จากยุโรป มาดริด บาเซโลน่า คาซาบลังก้า มาเรียนไทย หลังรู้จักกันมา 1 ปีได้หนังสือ อักษรไทยแบบ Roman ไปเรียนเอง ก็ต้องการคนแก้ไขโดยตรง เพราะในอนาคตถ้า สเปน Strike เผาไฟ จะย้ายมาอยู่ ทำธุรกิจนำเข้า ส่งออกที่ไทย ปีที่ 6 นี่จะโตคู่กับ Partner ไม่โรงเรียนเปียโน ก็ Cooking School ในพัทยา หลังเป็นเจ้าของอสังหาริมทรัพย์เรียบร้อยก่อน แบบไม่เช่า ไม่ผ่อน ฐานรากแก้วแข็งปั๋ง เหมือนอันปัจจุบัน ซึ่งอันปัจจุบัน พ่อแม่ สร้างที่ทางรอมา ส่วนอันหลัง น่าจะหุ้นส่วน คู่ชีวิตยุโรป สร้างร่วมมา...บางทีธนาคารอาจมาสนับสนุนต่อไป ถ้าลอยลมถึงวันหนึ่ง จากคุณ : kuddle เขียนเมื่อ : 31 มี.ค. 55 18:42:23

ความคิดเห็นที่ 13 ข้างต้นนี้พูดถึงอะไร จะสื่อถึงอะไร อ่านแล้วไม่เห็นจะรู้เรื่อง จากคุณ : คนที่ราบสูง เขียนเมื่อ : 1 เม.ย. 55 14:10:41 A:58.11.160.182 X: TicketID:255841