ความคิดเห็นที่ 1 ผมคำนวนจาก "กำไร" ที่ต้องการต่อการขายสินค้า 1 ชิ้นก่อน แล้วดูว่า "ค่าเดินทาง" หรือ "ค่าขนส่ง" สำหรับไปรับสินค้าต่อ 1 ครั้ง ต้องซื้อสินค้าจำนวนเท่าไรถึงจะประหยัดต้นทุนที่สุด เพื่อให้ได้กำไรตามที่ตั้งใจไว้ แต่อย่าลืมคำนวนเรื่องเงินทุนจมด้วย กรณีสินค้าขายออกยาก กรณีสินค้ามีการหมุนเวียนหรือขายดี ก็อาจจะ Stock มากหน่อย เพราะประหยัดเวลาส่งสินค้าให้ลูกค้า (มีสินค้าอยู่กับตัวเองเพียงพอ ไม่ต้องไปรับสินค้าบ่อยๆ เสียเวลาและค่าใช้จ่าย) จากคุณ : Rabbit Fire เขียนเมื่อ : 11 เม.ย. 55 12:29:27

ความคิดเห็นที่ 2 ประมาณ 5,000 บาท ค่ะ ตัวเลขน่ารักเนอะ 555 จากคุณ : usdank เขียนเมื่อ : 11 เม.ย. 55 12:30:24

ความคิดเห็นที่ 3 ถ้าต้องการลดต้นทุนค่าขนส่ง ก็ต้องเป็น ล๊อตใหญ่ ซึ่งหนีไม่พ้นคำว่า ทุนจมค่ะ แต่ถ้า ทุนนั้นเป็นเงินเย็น ก็ไม่มีปัญหา   ของเราระยะแรก ปัญหาค่าขนส่งเป็นปัญหาใหญ่มาก หลีกเลี่ยงไม่ได้เลยเรื่องทุนจม  เพราะจะขนน้อยก็ไม่คุ้มค่าขนส่ง ทางอากาศระหว่างประเทศ ขนเยอะก็ไม่ได้เพราะยังไม่มีลูกค้า ก็เริ่ม จาก 10,000-20,000 บาท แล้วก็ต่อยอดมากเรื่อยๆ ระยะหลังใช้ทุน 150,000 บาท/ ล๊อต  แต่ปัจจุบัน 300,000 บาท ต่อล๊อต   ซึ่งตรงนี้จะตัดค่าส่งทางอากาศออกไป เป็นขนส่งทางเรือ   ก็จะได้กำไรเพิ่มมากขึ้นค่ะ แต่ว่าจะ ทำอย่างนี้ได้ ก็ต้องมีลูกค้าทีแน่นอน คือ เงินจะจมไม่เกิน 20% จากคุณ : amonwan เขียนเมื่อ : 11 เม.ย. 55 12:49:09

ความคิดเห็นที่ 4 Pre-order ค่ะเพราะไม่มีทุน แรกๆก็ท้อหน่อย เพราะจับเสือมือเปล่า อาศัยเวบฟรี แต่เราเน้นบริการดีๆลูกค้าประทับใจ เค้าก็บอกต่อเองจ้า จากคุณ : มะกิ~หมะกี๊~หมี่เกี๊ยว~ เขียนเมื่อ : 11 เม.ย. 55 13:27:55

ความคิดเห็นที่ 5 ตอนแรกก็ไม่สต๊อกเยอะค่ะ  แต่จะบริหารสต๊อกเอา ถ้าของเหลือ 1 ใน 4 ก็ค่อยสั่งมาเสริม  เลยไม่ค่อยมีปัญหาของขาด ตอนหลังเริ่มผลิตเอง แรกๆก็ใช้บรรจุภัณท์จากหลานหลวง ดูจากยอดขายประมาณการณ์แต่ละเดือนแล้วบริหารสต๊อกเอา พอเหลือประมาณ 1 ใน 4 ก็ค่อยโทรสั่งค่ะ แต่ตอนหลังสั่งโรงงานผลิตเอง จำเป็นต้องลงทุน แต่ดูแล้วว่าคุ้มกว่าก็ยอมสั่งค่ะ แต่เวลาสั่งโรงงานจะร่นเวลาสั่งจากเหลือ 1 ใน 4 แล้วสั่ง เป็นประมาณ 1 ใน 3 เพราะว่าต้องรอคิวผลิตประมาณ 30-45 วันค่ะ สำหรับวัตถุดิบจ้อยสั่ง ตปท ส่วนใหญ่สั่งลอตใหญ่ไปเลย จะเมล์ขอส่วนลดนอกรอบกับ supplier เลยค่ะ แต่มาเหนื่อยตอนลุ้นภาษีมากกว่าค่ะ จากคุณ : จ้อย..ยย เขียนเมื่อ : 11 เม.ย. 55 13:36:00

ความคิดเห็นที่ 6 เข้าใจคุณจ้อยเลยค่ะ ตอนลุ้นภาษีนี่ ลุ้นกันตัวโก่งเลย  ตอนนี้ของเราเพิ่ม ไลน์สินค้า ซึ่งเพิ่งเริ่มเดือนแรก  ขนมาทางอากาศ ปกติใช้เวลา 3 วันตอนนี้ 1 อาทิตย์เต็มแล้วยังมาไม่ถึงบ้านเลย ลุ้นกัน ชั่วโมงต่อ ชั่วโมงว่าเมื่อไหร่จะมาถึง ซักที เพราะเก็บเงินลูกค้ามาหมดแล้ว ลูกค้าก็รอรับของ จากคุณ : amonwan เขียนเมื่อ : 11 เม.ย. 55 13:40:30

ความคิดเห็นที่ 7 ตอนแรกไม่ Stock ตอนหลัง ไม่Stock ไม่ไหวครับ คนถามหาแล้วเราไม่มีของมันไม่หรอย ลูกค้าพาลจะหายหมด ก็เลยมี Stock ระดับหนึ่งครับ เอาแบบว่าถ้ามีคนซื้อแล้วใกล้หมดสั่งใหม่ก็ยังมาทันขายครับ จากคุณ : CMT เขียนเมื่อ : 11 เม.ย. 55 15:35:47

ความคิดเห็นที่ 8 ลงทุนครั้งแรก 60,000 บาท ใจกล้าบ้าบิ่นมากๆ  สินค้าช่วงแรกมีประมาณ 20 รายการ 2 หมวดหมู่  เป็นสินค้าสั่งตรงจากแบรนด์และเน้นหาของแปลกมาทำตลาด  สินค้าแปลกสั่งมาราว 10 รายการ รายการละ 50 ชิ้น รู้ไหมตอนนี้ของยังขายไม่หมดเลย อาศัยหมุนเงินจากการขายสินค้าแบรนด์ หมุนๆๆ  สินค้าแปลกต้องอาศัยเวลาตอนนี้ขายได้เรื่อยๆ ถามว่าทำไมยังเก็บของไว้ไม่ปล่อยถูกๆเพื่อเอาทุนคืน ก้อเพราะสินค้านี้ทำกำไร 500%  ขายได้เดือนละ 4-5 ชิ้นก้อโอเ้คละ เก็บกำไรไปเรื่อยๆ ขยันหมุนเวียนสต๊อกจากสินค้าแบรนด์ ก้ออยู่ได้นะคะ ตอนนี้หมวดหมู่สินค้าในร้าน 55 หมวดหมู่  429 รายการ เดือนหน้ามีสินค้าใหม่เข้ามาอีก หาของมาขายสนุกไปเลย อันไหนไม่เวิร์คค่อยๆทยอยปิดรายการค่ะ เราไม่ชอบพรีออเดอร์ค่ะ ชอบสต๊อค ขายเพลินกว่ามาก ตัดปัญหาลูกค้าตามจิกทวงของด้วยค่ะ จากคุณ : Thundergirl เขียนเมื่อ : 11 เม.ย. 55 15:46:00

ความคิดเห็นที่ 9 ไม่รุ้จะตอบข้อไหนดี เอาเป็นว่าข้อ 1 ไม่สต๊อกเพราะเป็น pre order แล้วกันค่ะ เพราะเริ่มแรกเลย เราเริ่มจาก 0 บาท ทำเป็นพรีออเดอร์ ลูกค้าสั่งซื้อโอนเงิน เราได้กำไร และสะสมกำไรจาก 10 เป็น 100 จาก 100 เป็น 1000 ฯลฯ และเราก็เอากำไรตรงนี้อ่ะ มาซื้อของลงสต๊อก เน้นซื้อเฉพาะของที่ต้วเองชอบและอยากได้เท่านั้น คิดแค่ว่า ถ้าขายไม่ได้ เก็บเอาไว้ใช้เองค่ะ จนทุกวันนี้ สต๊อกเยอะมากค่ะ นี่ขนาดเราไม่ได้ลงทุนกับสต๊อกนะค่ะ เรายังรู้สึกว่าเงินมันจมไปกับสต๊อกเลย จากคุณ : Jeab's Story เขียนเมื่อ : 11 เม.ย. 55 15:49:14

ความคิดเห็นที่ 10 คุณ Thundergirl ทำพรีออเดอร์ ปัญหาลูกค้าตามของนี่ ทำให้เครียดได้เลยนะค่ะ แต่ก็ต้องยอมรับว่า พรีออเดอร์ นี่ตัวทำกำไรให้เรามากกว่า ขายของสต๊อกอีกนะค่ะ เนื่องจาก มัน win win ทั้ง 2 ฝ่ายนะค่ะ ผุ้ขายได้กำไรถึงรับออเดอร์ ผู้ซื้อพอใจราคาและเงือนไข ถึงสั่งซื้อ จากคุณ : Jeab's Story เขียนเมื่อ : 11 เม.ย. 55 15:56:35

ความคิดเห็นที่ 11 ตอนแรกที่เริ่มทำก็เป็นพรีออเดอร์ก่อนค่ะ เงินทุนติดลบ 1200 บาท ยืมเพื่อนมา เปิด Lot แรกได้กำไร 500 บาท โอ้ซึ้ง 55 หลังๆ ดีขึ้นมากๆ พอได้กำไรมาก็เริ่มสต๊อกของ ได้กำไรเท่าไร ก็ซื้อของประมาณ 30-40% ของกำไร เหลือเงินไว้คืนลูกค้าเผื่อพรีแล้วไม่ได้ของ ทำมาตั้งแต่เดือนตุลา 54 พอสักต้นมีนา มีเงินทุน สองหมื่น ก็ซื้อของไปทั้งหมด 9000 ขายเกือบหมด (เอาเว็บจีนมาลงเกือบ 40 ตัว ตอนนี้เหลือ 2 และรับของไทยมาถ่ายรูปเอง อีก 42 ตัว เหลือ 18-19 ชิ้น เพราะถ่ายรูปไม่สวยเซ็งรับประทาน ไม่เป็นไร ไว้ผอม อิฉันจะใส่เอง) แล้วพอได้กำไรในแต่ละรอบ รอบนึงประมาณ 20 วันก็มาคำนวณอย่างที่บอกข้างต้นว่า ควรซื้อสินค้าพร้อมส่งกี่บาทค่ะ รอบที่ผ่านมาซื้อไป 5000-7000 บาทค่ะ กำไรที่เราได้ ได้จากพร้อมส่งค่ะ สำหรับปัญหาลูกค้าตามของเราไม่มีค่ะ เพราะทำตารางกำหนดไว้ชัดเจนที่หน้าเว็บ เฟสบุ้ค และใบสั่งซื้อของลูกค้าทุกคน คอนเฟิร์มทางอีเมลล์ ในอีเมลล์ที่เราทำเป็นลายเซ็นต์ได้ ก็กำหนดไว้ชัดเจน ส่งของตรงวัน ไม่เคยมีเกิน ถ้า Lot นั้นลูกค้าไม่ได้ของ ก็สรุปใบสั่งซื้อ โอนเงินคืนทันทีค่ะ (ตรงนี้ลูกค้าชอบมาก เพราะโอนไว แจ้งปุ๊บโอนปั๊บ หากเป็นเราเองก็ไม่ชอบรอ) ในอนาคตอยากจะ สต๊อกสินค้ามากกว่านี้ แต่ฐานลูกค้ายังไม่นิ่งพอค่ะ ปล. หนูอยากมีเงินเย็น 55 เฮ้อ ทุนเรามันบ่มี บ่นๆ ^^ จากคุณ : Aris_L เขียนเมื่อ : 12 เม.ย. 55 00:57:11