ความคิดเห็นที่ 1 ถ้าจะคุยกับนาย ก็ต้องทำใจระดับนึงก่อน ว่าถ้าเค้าไม่ให้ เราจะทำใจยอมรับตรงนี้ได้ไหม จะเคืองไหม? งานเลขา มันคือ งานกว้าง ๆ ง่าย ๆ ก็คือ "แล้วแต่นายจะสั่ง" ุ่ถ้าจะไปคุย แล้วบอกว่า เพราะว่างานที่ทำมันเยอะเกินไป แล้วถ้านายเค้าแก้ปัญหา ด้วยการ หาเด็ก Admin มาช่วยแทน จะตอบโจทย์ของนาย แต่จะตอบโจทย์ของคุณไหม? ปัญหา อยู่ที่ งานเพิ่ม .... คุณไม่มีเวลาให้กับการเรียนของคุณ....หรือเพราะว่าเงินน้อย ต้องตีโจทย์ของคุณเองให้แตกก่อนด้วยนะคะ นายบางคน ถ้าคุยแล้ว ไม่ให้ ก็แล้ว ๆ กันไป นายบางคน ถ้าคุยแล้ว ไม่ให้ ยังมีอคติต่ออีก นายบางคน คุยแล้ว ให้เพิ่ม แต่งานก็เพิ่มด้วย ซึ่งคุณจะไปบ่นต่อก็ไม่ได้ เพราะว่าเค้าก็ให้เพิ่มแล้ว ถ้าโชคร้ายเจอกรณีที่ไม่อยากเจอ พร้อมรึเปล่า ที่จะต้องหางานใหม่ จากคุณ : ดอกฟ้าสีลาเต้ เขียนเมื่อ : 12 พ.ค. 55 12:29:24

ความคิดเห็นที่ 2 เงินเดือนเยอะดีค่ะ ทำหน้าที่อะไรบ้างค่ะถึงจะประเมินถูกว่าควรขอเพิ่มไหม จากคุณ : ป้าบางแค เขียนเมื่อ : 12 พ.ค. 55 12:31:40

ความคิดเห็นที่ 3 จขกท ค่ะ ปัญหาคือ เรียงลำดับตามความสำคัญ 1.เงินน้อย ถ้าต้องเรียนโทด้วย ค่าใช้จ่ายจะไม่พอใช้ระหว่างเดือน เพราะปัจจุบัน เงินพอใช้แบบพอดีมากๆ ( ไม่ต้องพูดถึงเรื่องให้กลับไปใช้เงินเก็บ เพราะไม่เก็บเงิน ได้เงินมา เอาให้แม่ไป แม่จะเอาไปเก็บให้เราเอง แต่เราตั้งใจไว้ว่า จะไม่ขอเงินจากแม่อีก ให้แล้วให้เลย ) 2.งานเยอะ ทำอะไรบ้าง เราเป็นเลขาฯหลักของประธานและช่วยดูงานให้ MD. ด้วย ทำทุกอย่าง ดูแลน้องๆลูกๆนายด้วย งานออฟฟิสก็ทุกอย่างของนาย บริษัทเราเป็นมหาชน มีบ.ย่อยมี 6 บ. นายคุมทั้งหมด เราก็ดูแลทั้งหมดนัั่นด้วย  เลยคิดว่าชั้นคนเดียว เหมือนทำงาน 2 คน ถ้าจะจ้างชั้นคนเดียว น่าจะเพิ่มให้ได้อีกซักนิด ( อาจจะคิดเข้าข้างตัวเอง ) จากคุณ : เก๋าแอนด์กั๊บ เขียนเมื่อ : 12 พ.ค. 55 12:53:12

ความคิดเห็นที่ 4 ป้าบางแคขอตอบในฐานะเลขา บ.ย่อย ของบริษัทใหญ่ในเครือ CP คุณ คห. 1 เค้าสรุปไว้ดีแล้วค่ะ เราเองก็เคยขอค่ะ แต่นั่นเพราะเจ้านายไม่ชอบต้องการเขี่ยเราออกไปอยู่แผนกอื่นที่ไม่ใกล้ชิดเรื่องการเงิน (ไม่ต้องการให้เรารู้ว่าเค้าทุจริต) เราก็เคยขอเงินเดือนขึ้น 30% และลูกน้องอีก 2-4 คน แต่ฝ่ายบุคคลเค้าไม่ให้ แต่ก็ทำให้มองหน้าไม่ติดกันต่อไป.... แต่โดยรวมงานเลขาเป็นงานที่ "ไม่มีผลงาน" เพราะเราคือ "ผู้ช่วย" ไม่สามารถพูดได้ว่าหนักหรือเบาไป... (ไม่ค่อยมีใครเห็นคุณค่า) เปรียบเสมือนน้ำมันหล่อลื่น แค่ทำให้งานราบรื่นขึ้น แต่ขาดเราเค้าก็ทำกันเองได้... ลองคิดเอาเองละกันน่ะค่ะ อีกอย่าง เรื่องเรียนปริญญาโท หรือความต้องการใช้จ่ายเงินที่เพิ่มขึ้นจนไม่พอใช้เป็นความต้องการส่วนตัวของคุณเอง ไม่อาจเอามาอ้างเป็นภาระได้ การให้เงินคุณแม่นับเป็นเรื่องดี แต่หากเราถึงกับเดือดร้อนก็ควรเรียนท่านตามตรง เราควรแบ่งไว้เก็บเองบ้างเผื่อยามฉุกเฉินหรือเราต้องใช้จริงๆ (ถ้าเราคิดว่าจำเป็น) จากคุณ : ป้าบางแค เขียนเมื่อ : 12 พ.ค. 55 13:19:41

ความคิดเห็นที่ 5 เรียงลำดับตามความสำคัญ 1.เงินน้อย ถ้าต้องเรียนโทด้วย ค่าใช้จ่ายจะไม่พอใช้ระหว่างเดือน เพราะปัจจุบัน เงินพอใช้แบบพอดีมากๆ ( ไม่ต้องพูดถึงเรื่องให้กลับไปใช้เงินเก็บ เพราะไม่เก็บเงิน ได้เงินมา เอาให้แม่ไป แม่จะเอาไปเก็บให้เราเอง แต่เราตั้งใจไว้ว่า จะไม่ขอเงินจากแม่อีก ให้แล้วให้เลย ) ***** จากข้อนี้....เรื่องเงินน้อยเพราะว่าลงเรียน เป็นเรื่องส่วนตัว ที่ทางบริษัท ไม่จำเป็นต้องมารับผิดชอบ หรือรับภาระในส่วนนี้ เมื่อทางบริษัท เสนอยอดตัวเลขเวลาัรับคุณเค้าทำงาน คุณพอใจ ตัวเลขนั้น...ตอบรับข้อเสนอ ก็เป็นอันจบค่ะ 2.งานเยอะ ทำอะไรบ้าง เราเป็นเลขาฯหลักของประธานและช่วยดูงานให้ MD. ด้วย ทำทุกอย่าง ดูแลน้องๆลูกๆนายด้วย งานออฟฟิสก็ทุกอย่างของนาย บริษัทเราเป็นมหาชน มีบ.ย่อยมี 6 บ. นายคุมทั้งหมด เราก็ดูแลทั้งหมดนัั่นด้วย   เลยคิดว่าชั้นคนเดียว เหมือนทำงาน 2 คน ถ้าจะจ้างชั้นคนเดียว น่าจะเพิ่มให้ได้อีกซักนิด ( อาจจะคิดเข้าข้างตัวเอง ) ***** อันนี้ ถ้างานทำไม่ทัน ทำไม่ไหว ปัญหาคือ แรงงาน ค่ะ ไม่ใช่ยอดเงิน ถ้าจ้าง 1 พัน ทำงานไม่ทัน แต่ถ้าจ้าง 1 หมื่น แล้วจะทำงานทัน มันอยู่ที่ ทัศนคติ แรงจูงใจในการทำงาน และความสามารถของพนักงานค่ะ ไม่ใช่ เม็ดเงิน หากเราเป็นเจ้านาย ลูกน้องบอกว่า นายจ้างชั้น 1 พัน งานชั้นเลยทำไม่ทัน นายต้องจ้างชั้น 1 หมื่นสิ แล้วชั้นจะทำงานให้นายทัน ถ้าได้ยินแบบนี้ เราจะบอกให้ HR หาพนักงานใหม่เลยค่ะ เพราะว่ามันแปลว่า ณ ปัจจุบัน พนักงานยังทำงานให้เราไม่เต็มศักยภาพตามจริง ถ้าเราหาคนใหม่ แล้วสามารถทำงานให้ทันได้ เราเปลี่ยนคนใหม่ ทันทีค่ะ ป.ล. ถ้า จขกท อยากจะหารายได้เพิ่มจริง ๆ ลอง มอง ๆ หางานใหม่ดูนะคะ แล้วตอนต่อรอง ก็ขอเยอะ ๆ ต่อรองให้ได้ เราว่าน่าจะดีกว่า บอกเหตุผลที่แจ้งไว้ด้านบนค่ะ สู้ ๆ นะคะ โชคดีค่ะ จากคุณ : ดอกฟ้าสีลาเต้ เขียนเมื่อ : 12 พ.ค. 55 13:35:23

ความคิดเห็นที่ 6 เราก็เป็นหน้าห้องค่ะทำงานเต็มเหนี่ยวทั้งวันไม่มีพักกินข้าวเที่ยง 30 นาที เท่านั้น กลับบ้านประมาณ 1-2 ทุ่ม  ไม่มีค่าโอที เงินเดือน 10,000 บาท (รับราชการ) จากคุณ : แม่พุงพุ้ย เขียนเมื่อ : 12 พ.ค. 55 19:26:43

ความคิดเห็นที่ 7 ไม่มีใครให้เงินคุณก่อนที่คุณจะแสดงให้เขาเห็นว่าคุณทำงานให้เขามากกว่าที่เขาจ่ายไปจริงๆหรอกครับ ผมว่าถ้าคุณไปพูดเรื่องขึ้นเงินเดือนคุณก็เตรียมใจโดนปลดได้เลยครับ อาจจะต้องออกแบบจากกันไม่ดี ถ้างานที่นี่มันให้น้อยจริง คุณคิดว่าคุณควรได้มากกว่านี้จริง ผมว่าคุณหางานใหม่ดีกว่าครับ ถ้าบริษัทใหม่เขาเห็นว่าคุณทำงานได้จริง เขาก็คงให้คุณมากกว่านี้แหละครับ แล้วค่อยลาออก จะได้จากกันด้วยดี ถ้าไม่มีใครให้เงินคุณมากกว่าที่ได้ตอนนี้ คุณก็จะได้รู้ตัวเองว่า อันที่จริงคุณเองไม่ได้เก่งกว่าที่คุณคิด แก้ไขเมื่อ 13 พ.ค. 55 19:23:25 จากคุณ : ซื่อสัตย์ มั่นคง เขียนเมื่อ : 13 พ.ค. 55 19:21:17