ความคิดเห็นที่ 1 ลืมไปหนึ่งคำถามครับ 4. ยอดรายได้ 1.8 ล้านต่อปี สมมุติ แฟนผมเปิดแผงขายรองเท้าในตลาดนัด ต่อปีรายได้ 2 แสน ส่วนผมขายเสื้อผ้าบนเว็บรายได้ 1.6 ล้าน อย่างนี้ถือว่ารวมกันรายได้ 1.8 ล้าน ต้องจด Vat ผมเข้าใจถูกมั๊ยครับ จากคุณ : ถนอม เขียนเมื่อ : 18 พ.ค. 55 00:03:59 A:223.206.101.46 X: TicketID:359837

ความคิดเห็นที่ 2 ที่คุณเข้าใจน่ะ ถูกต้องหมดแล้วค่ะ เพียงแต่.....ไม่มีใครเค้าเอามารวมกัน แล้วแสดงต่อสรรพากร โดยเฉพาะข้อ 4 จากคุณ : มนอุ๊งอิ๊ง เขียนเมื่อ : 18 พ.ค. 55 07:51:55

ความคิดเห็นที่ 3 ลองดูว่าถ้าถึงเวลาต้องจด VAT จริง ๆ ให้จดเพราะมี VAT ซื้อครับ เพราะอยากได้ VAT คืน ไม่ใช่จดเพราะมีรายได้เกิน 1.8 ล้านแล้วต้องจด หลายที่เมื่อจด VAT ก็ทำ 2 ระบบ คือ VAT กับ No-VAT ถ้าลูกค้าเคลม VAT ได้ก็ขายแบบ VAT ถ้าลูกค้าเคลมไม่ได้ก็ขาย No VAT แบบนี้ก็มี จากคุณ : TLL01 เขียนเมื่อ : 18 พ.ค. 55 09:17:43

ความคิดเห็นที่ 4 ตามคห 2 กับ 3 เลยค่ะ จากคุณ : iyim เขียนเมื่อ : 18 พ.ค. 55 10:47:27

ความคิดเห็นที่ 5 ตามคห 3 (คุณ TLL01) แต่ประเด็นที่ผมกังวลคือว่า พ่อค้าแม่ค้า e-com จะแตกต่างกับพ่อค้าแม่ค้าในตลาดนัดที่เปิดแผง หรือพ่อค้าแม่ค้าที่ขายเปิดซุ่มขายเสื้อผ้าในห้าง (ที่มียอดขายต่อวันเฉลี่ย 3000 บาท ต่อปี 1.8 ล้าน) ถ้าเป็นพ่อค้า-แม่ค้าออฟไลน์ ยอดขายประมาณนี้คงไม่มีใครไปขอเข้าระบบ VAT และแน่นอนว่าผมก็ไม่อยากเข้าระบบ VAT เพราะดูจะไม่ได้ประโยชน์อะไรเลย เพราะถ้าเข้าระบบ VAT 1.ตอนรับของมาขาย ส่วนใหญ่ผู้ขายที่ผมไปรับของมาก็ออกใบกำกับภาษีไม่ได้ (รายได้อาจจะไม่ถึง 1.8 ล้าน หรืออาจจะเลี่ยงก็สุดแท้แต่ ) 2. จากข้อหนึ่ง ภาษีซื้อเป็น 0 แต่เวลาขายต้องบวก VAT ภาษีขาย นั่นก็แปบว่า ต้องนำส่ง ภาษีขายเต็ม ๆ เอามาหักไม่ได้ 3. แถมต้องมานั่งทำบัญชี(จ้างทำ) วุ่นวาย แต่ประเด็นที่กังวล สำหรับผม และพ่อค้า-แม่ค้า e-com ที่มีอนาคตอันสดใสยอดขายมีโอกาสทะลุ 1.8 ล้านต่อปี คือ ถ้ายอดถึงแล้วไม่เข้าระบบ VAT จะโดนค่าปรับ 7% ของรายได้ X 3 เท่าอนไลน์น่าจะตระหนักดีครับ โพรงนี้ไม่ต้องชี้กระรอก(สรร-พา-กร) ก็วิ่งเข้ามา เพียงแต่ไม่ช้าก็เร็ว สำหรับพ่อค้าแม่ค้าออฟไลน์ต่อให้รายได้เกินไป สองเท่าตัวก็ยังตรวจสอบลำบาก หากนักบัญชี หรือพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ที่มีประสบการณ์ในเรื่องนี้มาอ่านและมีแนวทางที่ถูกต้องพอจะแนะนำได้ก็จักขอบพระคุณมากครับ เพราะผมคิดว่าทุกวันนี้พ่อค้า-แม่ค้าออนไลน์ที่พอจะมียอดขายหรือแนวโน้มในอนาคตสดใส และตระหนักถึงสัจธรรมที่ว่า ในโลกนี้สองสิ่งที่หนีไม่พ้นคือ ความตาย กับ ภาษี คงต้องนอนก่ายหน้าผากเหมือนผมแน่ ๆ จากคุณ : ถนอม เขียนเมื่อ : 18 พ.ค. 55 12:53:10 A:223.204.193.196 X: TicketID:359837

ความคิดเห็นที่ 6 แก้ไข คห.5 นะครับ เคาะแป้นพิมพ์แล้วมันไปลบบรรทัดอ่านไม่รู้เรื่อง ตามคห 3 (คุณ TLL01) แต่ประเด็นที่ผมกังวลคือว่า พ่อค้าแม่ค้า e-com จะแตกต่างกับพ่อค้าแม่ค้าในตลาดนัดที่เปิดแผง หรือพ่อค้าแม่ค้าที่ขายเปิดซุ่มขายเสื้อผ้าในห้าง (ที่มียอดขายต่อวันเฉลี่ย 3000 บาท ต่อปี 1.8 ล้าน) ถ้าเป็นพ่อค้า-แม่ค้าออฟไลน์ ยอดขายประมาณนี้คงไม่มีใครไปขอเข้าระบบ VAT และแน่นอนว่าผมก็ไม่อยากเข้าระบบ VAT เพราะดูจะไม่ได้ประโยชน์อะไรเลย เพราะถ้าเข้าระบบ VAT 1.ตอนรับของมาขาย ส่วนใหญ่ผู้ขายที่ผมไปรับของมาก็ออกใบกำกับภาษีไม่ได้ (รายได้อาจจะไม่ถึง 1.8 ล้าน หรืออาจจะเลี่ยงก็สุดแท้แต่ ) 2. จากข้อหนึ่ง ภาษีซื้อเป็น 0 แต่เวลาขายต้องบวก VAT ภาษีขาย นั่นก็แปบว่า ต้องนำส่ง ภาษีขายเต็ม ๆ เอามาหักไม่ได้ 3. แถมต้องมานั่งทำบัญชี(จ้างทำ) วุ่นวาย แต่ประเด็นที่กังวล สำหรับผม และพ่อค้า-แม่ค้า e-com ที่มีอนาคตอันสดใสยอดขายมีโอกาสทะลุ 1.8 ล้านต่อปี คือ ถ้ายอดถึงแล้วไม่เข้าระบบ VAT จะโดนค่าปรับ 7% ของรายได้ X 3 เท่า หรือเท่ากับ 680,4000 บาทของยอดขาย 1.8 ล้าน ขาดทุนจนแทบจะปิดกิจการเอาทีเดียว ถามว่าสรร-พา-กร จะรู้ได้อย่างไรว่าเว็บนี้ยอดขายต่อปีประมาณเท่าไหร่ อันนี้พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์น่าจะตระหนักดีครับไม่ขอลงรายละเอียด โพรงนี้ไม่ต้องชี้กระรอก(สรร-พา-กร) ก็วิ่งเข้ามา เพียงแต่ไม่ช้าก็เร็ว (ช่วงนี้เห็นเริ่ม ๆ มีออกมาตั้งกระทู้กันบ้างแล้ว) สำหรับพ่อค้าแม่ค้าออฟไลน์ต่อให้รายได้เกินไป สองเท่าตัวก็ยังตรวจสอบลำบาก หากนักบัญชี หรือพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ที่มีประสบการณ์ในเรื่องนี้มาอ่านและมีแนวทางที่ถูกต้องพอจะแนะนำได้ก็จักขอบพระคุณมากครับ เพราะผมคิดว่าทุกวันนี้พ่อค้า-แม่ค้าออนไลน์ที่พอจะมียอดขายหรือแนวโน้มในอนาคตสดใสคงต้องนอนก่ายหน้าผากเหมือนผมแน่ ๆ เพราะสัจธรรมที่ว่า ในโลกนี้สองสิ่งที่หนีไม่พ้นคือ ความตาย และภาษี จากคุณ : ถนอม เขียนเมื่อ : 18 พ.ค. 55 13:00:43 A:223.204.193.196 X: TicketID:359837

ความคิดเห็นที่ 7 เราว่าเรื่องภาษีมูลค่าเพิ่ม สำหรับยอดขายขนาดนั้น คงหลีกยาก (แม้ว่าจะหลีกภาษี โดยภรรยาแยกยื่นแล้ วหากว่ายังเกินรายได้ที่เข้าเกณฑ์อีก) ก็มีวิธีโดยการจดทะเบียนการค้าแยกสินค้าบางกลุ่มออกไป ในนามนิติบุคคล  เพราะโดยหลักการของธุรกิจเจ้าของคนเดียว เมื่อรายได้สูงเกินไปจนอัตรภาษีก้าวหน้าเงินได้บุคคลธรรมดาสูงเกินภาษีนิติบุคคล ก็ต้องหันไปจดทะเบียนในรูปบริษัท จากคุณ : ตาโต ชั้นเดียว เขียนเมื่อ : 18 พ.ค. 55 15:29:43

ความคิดเห็นที่ 8 หลังไมค์มาน่ะค่ะหรือเมลล์มาที่ rlaopiyasakul@scpaccount.com จากคุณ : <^^>HuLaHop<^^> เขียนเมื่อ : 20 พ.ค. 55 06:23:43