|
ไอเดียของจขกท.ดีครับ แต่ผมคงทำธุรกิจที่ตนเองถนัด และชอบต่อไป ปัจจุบันทำธุรกิจพลาสติกอุตสาหกรรม เพิ่มมูลค่าจากวัตถุดิบได้ 2.0 เท่า จาก 30 บาท เพิ่มเป็น 60 บาท/กก.ใช้เวลาเพียง 7 วัน ในการแปรสภาพ ทำกำไรสุทธิได้... % มีต้นทุนประจำต่ำสุด,ต้นทุนโลจิสติกส์ไม่เกิน 4% ของยอดขาย ตลาดที่สำคัญ SMEs,โรงงานอุตสาหกรรม,หน่วยงานราชการทุกแห่ง ลูกค้ารายสำคัญ เครือสหพัฒน์ เบทาโกร ซี.พี. J&J SCG ไบเออร์ไทย อดิตยาเบอร์ล่า ไทยอาซาฮี ไทยซัมมิท SHARP NATIONAL ฯลฯ
อีกธุรกิจที่อยากจะทำและคิดว่าเพิ่มมูลค่าจากวัตถุดิบได้ประมาณ 4 เท่า น่าจะเป็นปุ๋ยมูลโคอัดเม็ด,มูลไก่อัดเม็ด,วัสดุปลูกอื่นๆที่เป็นผลพลอยได้ จากการสีข้าว เช่น แกลบ ขี้เถ้าดำ ฝุ่นละอองข้าว เศษหรือของเสียจาก การผลิตอาหารสัตว์นำมาทำปุ๋ยชีวภาพ ขายปลีกและส่ง ตลาดที่สำคัญ เน้นทำตลาด ร้านไม้ดอก-ไม้่ประดับ ถนนวงแหวนรอบนอกตะวันตก วางแผนการผลิตให้อยู่ใกล้ตลาดที่สุด เริ่มต้นกำลังผลิต 100 ตัน/เดือน เพื่อให้ได้เปรียบเรื่องต้นทุนโดยบริหารต้นทุนโลจิสติกส์ไม่เกิน 4% และส่งออกวัสดุปลูก เช่น ขี้เถ้าดำ,expanded clay,expanded perlite, อาหารเสริมสำหรับพืช กระถางพลาสติกดีไซน์ เพื่อใช้ปลูกพืชแบบไร้ดิน ในประเทศเมืองหนาว
เงื่อนไขที่ได้เปรียบ ในกลุ่มมีโรงสีข้าว โรงงานอาหารสัตว์ โรงงานผลิตปุ๋ย ฟาร์มและกลุ่มลูกค้า SMEs โรงงานเซรามิค อื่นๆ ซัพพลายสินค้าวัตถุดิบให้ มีแวร์เฮ้าส์เป็นของตนเอง,ใกล้แหล่งวัตถุดิบและตลาด ใช้แรงงานเดิม โดย ทำต้นทุนประจำให้เป็นศูนย์ครับ
จากคุณ |
:
pc
|
เขียนเมื่อ |
:
6 มิ.ย. 55 11:56:22
A:223.206.191.212 X: TicketID:315677
|
|
|
|
|