ความคิดเห็นที่ 1 ควรพิจารณาตามที่สองเสนอครับ โดยเรียกสองไปพบแล้วพูดถึงปัญหาให้ฟัง ให้เขาร่วมรับรู้และช่วยคิดหาวิธีการ บอกคนเก่าเขาอยู่มานาน ไม่อยากให้กระทบถึงจิตใจ  แต่บริษัทก็ต้องการความก้าวหน้า   จึงเห็นด้วยที่จะแยกงานออกจากกัน  แต่การแยกอยากให้ค่อยเป็นค่อยไป ทำแบบละมุนละไมครับ ในเมื่อสองเป็นคนฉลาด เขาย่อมรู้ถึงปัญหา พอเขารู้ถึงเจตนา  เขาจะให้ความร่วมมือถูก  และช่วยคิดหาวิธีแยกงานแบบบัวไม่ช้ำ ให้คนเก่าเกิดความรู้สึกน้อยที่สุดครับ จากคุณ : บุญถิ่น เขียนเมื่อ : 18 มิ.ย. 55 20:55:41

ความคิดเห็นที่ 2 คงต้องคุยกับคนที่สองก่อนนะครับ ให้เขาลองปรับทัศนคตินิดนึง ผมถือคติว่า คนเป็นหัวหน้าย่อมมองภาพที่ใหญ่กว่า การตัดสินใจอนุมัติหรือไม่ ก็ต้องมีเหตุผล แต่ถ้ามองในแง่ร้าย หัวหน้าก็คงไม่อยากให้ลูกน้องเด่นเกินตัว จากประสบการณ์ หัวหน้าส่วนใหญ่จะเป็นแบบนี้นะครับ การนำเสนองานแต่ละครั้ง แม้จะทำมาดีที่สุดแล้ว แต่อย่างน้อยก็ต้องมีสัก1 จุด ที่หัวหน้าต้องแก้ นี่คือธรรมเนียม ดังนั้น คนที่ต้องปรับตัวคือลูกน้องครับ จะมีวิธีจูงใจให้หัวหน้าทำตามเรา แถมเทคนิคแปลกๆ ฮาๆ ที่ใช้ได้ก็มีเยอะเลยครับ อย่างเช่น เสนอความคิดที่ตรงข้าม หัวหน้าจะไปเลือกอีก Choice ที่เราซ้อนแผนไว้ ทำแบบนี้เหมือนปิดทองหลังพระครับ แต่มันไม่มีทางเลือก แต่ถ้าสุดท้าย คุณเลือกคนที่ 2 จริงๆ ผมเคยเห็นทั้ง case ที่ดีและไม่ดี มาแล้ว ถ้าบริษัทคุณมีการทำงานอย่างเป็นระบบ พนักงานไม่อคติกับผู้บริหาร การเลือกคนที่ 2 จะเป็นการกดดันให้คนที่ 1 ลาออกไป แต่งานยังคงดำเนินไปได้ เพราะการทำงานเป็นระบบ และพนักงานส่วนใหญ่ ก็ไม่ได้สนใจกับเหตุการณ์นี้มากนัก แต่ถ้าการทำงานไม่ค่อยเป็นระบบ ความลับขอบบริษัทถูกเก็บอยู่กับคนที่ 1 และพนักงานส่วนใหญ่มีอคติกับผู้บริหารอยู่แล้ว อย่างเช่น มีนโยบายลดสวัสดิการ หรือถูกผู้บริหารมองว่าคนเก่าไม่มีประสิทธิภาพ ลักษณะนี้ จะทำให้เกิดปรากฎการณ์แพแตก พากันลาออกยกทีม ความลับของบริษัทหายไปกับคนเก่า พนักงานที่เข้ามาใหม่ก็จะรู้สึกไม่มั่นคง เพราะอัตราการลาออกสูง และจะเกิดการลาออกต่อกันไปเรื่อยๆ บริษัทก็คล้ายกับต้องมาเริ่มใหม่อยู่ตลอดเวลา จากคุณ : Dragonfly7Colors (Dragonfly7Colors) เขียนเมื่อ : 18 มิ.ย. 55 22:00:45

ความคิดเห็นที่ 3 ตัวผมเองไม่เคยมีประสบการณ์ตรง ประสบการณ์ยังน้อย แต่เคยอ่านหนังสือ ฟังผู้ใหญ่มาบ้าง หลายๆทีจะมีการจัดตั้งตำแหน่งใหม่ ที่เทียบเท่า แยกความรับผิดชอบจากกันชัดเจน ให้เป็นการเติบโตของบริษัทต่อไป  บางทีก็ต้องให้ คนแรกได้รู้ด้วยว่า เราต้องเดินหน้า ไม่ย่ำอยู่กับที่ และหากคนแรกรับไม่ได้ อยากไปก็ให้เขาไป .. "หากคุณไม่สามารถทำงานได้คนนึง ผมจะต้องปิดบริษัทเลยหรือ?" เป็นคำพูดเจ้าของธุรกิจคนนึงที่ผมเคยรู้จัก จากคุณ : SleepAway เขียนเมื่อ : 18 มิ.ย. 55 22:19:26

ความคิดเห็นที่ 4 ไม่มีอะไรที่ได้ทั้งหมดครับ ทางเลือกที่ดีที่สุดก็ไม่ได้สมบูรณ์แบบในตัวเองครับ ถ้าเป็นผมจะลดบทบาทคนแรก และเพิ่มบทบาทคนที่สอง หรือแยกอำนาจเพื่อให้ทำงานได้อิสระตามที่ขอ ส่วนคนเก่าจะมองยังไงนั้น บริษัทต้องทำความเข้าใจว่าบริษัทนี้มีค่านิยมหลักคือส่งเสริมค่าของคนที่ผลงาน ไม่ใช่อยู่นาน ส่วนค่านิยมรองคือการดูแลพนักงานที่ซื่อสัตย์ที่ทำผ่าน provident fund และสวัสดิการต่างๆ ที่อ้างอิงระยะเวลาการทำงาน ถ้าทำแบบนี้พนักงานจะเข้าใจว่าบริษัทไม่ได้ปิดโอกาสในการเติบโต เพราะวัดผลตามค่าของงาน ขณะเดียวกันบริษัทไม่ได้ทอดทิ้งคนเก่าแก่ด้วยการอ้างอิงสวัสดิการจากระยะเวลาการทำงานมากขึ้น ปล. ที่ผมเห็นมาคนแบบคนเก่าที่ยกตัวอย่าง สุดท้ายก็ต้องเอาออกไป เพราะโลกธุรกิจหมุนตามการแข่งขัน ไม่ใช่หมุนรอบตัวเอง ^^ จากคุณ : Mr. Prodigy เขียนเมื่อ : 19 มิ.ย. 55 01:46:17

ความคิดเห็นที่ 5 งานอะไรครับ ต้องมีรายละเอียดด้วย เพราะมีกลุ่มงานที่แยกฝ่ายได้ กับแยกไม่ได้ เช่น งานขาย อย่างนี้แยกกันได้ ให้รับผิดชอบพื้นที่ หรือผลิตภัณฑ์ แต่งานผลิต งานบุคคล งานบัญชี  พวกนี้แยกไม่ได้ จากคุณ : พี (peh_chai) เขียนเมื่อ : 19 มิ.ย. 55 09:12:15

ความคิดเห็นที่ 6 ให้ คนที่ 2 ขึ้นเป็น หัวหน้า แทน คนเก่า หรือไม่ก็แยกสายงาน ออกไป เป็น หัวหน้า ทั้ง 2 คน คนใหม่ ก็มีสิทธ์ ขึ้นเป็นหัวหน้า ได้นะครับ ถ้ามีผลงานที่โดดเด่น จากคุณ : love_vinai เขียนเมื่อ : 19 มิ.ย. 55 09:39:06

ความคิดเห็นที่ 7 ขอบคุณทุกความเห็นน่ะค่ะ เป็นคำแนะนำที่ดีและเป็นประโยชน์มากๆค่ะ  : ) #5 ขอตอบเป็นการส่วนตัวน่ะค่ะ ข้อมูลบางอย่างต้องใช้ความระมัดระวังในการบอกกล่าวอะค่ะ  ^ ^/ จากคุณ : MollyPa เขียนเมื่อ : 19 มิ.ย. 55 14:50:51