ความคิดเห็นที่ 1 เอา 28400 บาทไปซื้ออย่างอื่นมาขายได้กำไรเยอะกว่า 400 บาท ในหนึ่งเดือน.....หมุนเงินครับ จากคุณ : evoix เขียนเมื่อ : 3 ก.ค. 55 23:29:38

ความคิดเห็นที่ 2 กระแสเงินสดค่ะ จากคุณ : panny เขียนเมื่อ : 3 ก.ค. 55 23:34:56

ความคิดเห็นที่ 3 สมมุติถ้าเครดิต 3 เดือน แล้วคุณขายเสื้อ 40 ตัวหมดใน 3 เดือน เท่ากับว่าคุณได้กำไรเน้นๆ โดยที่ไม่ต้องลงทุนอะไรเลย ยิ่งว่าบริหารสภาพคล่องดีๆ คุณก็มีหนทางสร้างกำไรได้มากเท่าที่คุณสามารถทำได้ โดยไม่มีข้อจำกัดด้านเงินทุนเริ่มต้น จากคุณ : เดือนนี้ไม่มีวันหยุด เขียนเมื่อ : 3 ก.ค. 55 23:35:08

ความคิดเห็นที่ 4 คห3 แต่ในอนาคตเราก็ต้องจ่ายอยู่ดีอ่ะครับ แล้วมันดีไง ??? จากคุณ : ชีวิตเป็นของเรา เขียนเมื่อ : 3 ก.ค. 55 23:38:55

ความคิดเห็นที่ 5 ดีตรงที่   เงินเราเอาไปหมุนได้ เงินที่จะต้องจ่ายเราก็ได้จากที่ขายพัดลมไปแล้วไง ที่เหลือคือกำไรเรา เหมือนกับซื้อรถ  ซื้อสดกับผ่อน  รถ 1 ล้าน ถ้าซื้อเงินสด 1 ล้านบาท หายไป แต่ถ้าซื้อผ่อน+ดอกเบี้ย 1 ล้านเราเอาไปหมุนอย่างอื่นได้อีกเยอะให้เงินมันงอก จ่ายเป็นงวดพร้อมดอกเบี้ยก็สบายๆ จากคุณ : thuncpe200 เขียนเมื่อ : 3 ก.ค. 55 23:45:46

ความคิดเห็นที่ 6 ผมซื้อสินค้าเข้ามาขายจ่ายสดตลอด จ่ายสดดีตรงเรา เจรจาค้าขายกับใครก็ได้และก็ง่ายยิ่งซื้อจำนวนเยอะ สินค้าออกมาได้น้อย เค้าจะตัดให้เราก่อน เพราะ ผู้ขายได้เงินสด เว้นเสียแต่ว่าทุนไม่เยอะ ก็ซื้อเงิน ผ่อนหมุนเงินไปเรื่อยๆ แล้วแต่สไตล์ไม่มีใครผิดถูก จากคุณ : kitagawa_keiko เขียนเมื่อ : 4 ก.ค. 55 01:17:28

ความคิดเห็นที่ 7 ขายเงินสด จ่ายเงินเชื่อ ยิ่งขาย ยิ่งมีเงินสดบนหน้าตักมาก นี่แหละ เหตุผล จากคุณ : Morning Star เขียนเมื่อ : 4 ก.ค. 55 02:20:13

ความคิดเห็นที่ 8 เครดิตไม่ได้ดีกว่าเงินสดหรอกครับ เสียเปรียบเงินสดด้วยซ้ำ ก็ตามที่คุณยกตัวอย่างมานั่นแหละ ซื้อพัดลมเงินสด 40 ตัว ถูกกว่าซื้อเครดิต 400 บาท แต่ถ้าซื้อเงินสดในคราวเดียว 400 ตัว ส่วนลดพัดลมจะมากกว่านี้ครับ  สามารถแข่งราคากับผู้ซื้อเครดิตได้อย่างสบาย แต่เนื่องจากพ่อค้าส่วนหนึ่ง เงินสดมีจำกัด จึงต้องใช้เครดิตครับ เช่น ราคาพัดลมเงินสด 40 ตัว 28000 บาท  แต่สินค้าในร้านไม่ได้ขายแค่พัดลมอย่างเดียว ยังมีสินค้าอื่นๆอีกมาก เช่น หม้อหุมข้าวไฟฟ้า 40 ตัวอีก 28000 บาท เตารีดไฟฟ้า 40 ตัวอีก 28000 บาท ฯลฯ เหล่านี้ครับ   ร้านค้าร้านขาย สินค้าในร้านจะต้องมีมากมายหลายอย่าง จนแลลานตา จะช่วยจูงใจลูกค้าให้มาอุดหนุน  เมื่อสินค้ามาก เงินลงทุนก็ต้องมาก แต่เงินสดไม่พอ จึงจำเป็นต้องใช้เครดิตครับ จากคุณ : บุญถิ่น เขียนเมื่อ : 4 ก.ค. 55 07:50:47

ความคิดเห็นที่ 9 ถ้ามีเงินสำรองก็ไม่มีผล  ถ้าเงินเหลือๆพอดีมีผลแน่ จากคุณ : คิวปิดน้อย (คิวปิดน้อย) เขียนเมื่อ : 4 ก.ค. 55 08:04:59

ความคิดเห็นที่ 10 ถ้าคุณเก่งพอ ขายไอ้พัดลมอันนั้นให้ได้ตัวละ 720 บาท ในเวลาน้อยกว่า 1 เดือน เท่ากับว่า คุณได้กำไร โดยไม่ต้องลงทุนไงครับ (เครดิต 1 เดือน) :) จากคุณ : ชีวิตเดียว ใช้ให้คุ้ม เขียนเมื่อ : 4 ก.ค. 55 08:19:46

ความคิดเห็นที่ 11 1.ขายพัดลมตัวละ 1200 บาท ทุน 1000 บาท ลูกค้าจะสั่งซื้อ 10 ตัว มีของในสต็อค 2 ตัว ขาดอีก 8 ตัว ต้องใช้ทุน 8000 บาท มีเงินสดอยู่ 5000 บาท ขาด 3000  นี่ก็เป็นประโยชน์ของเครคิต 2.พัดลมรุ่นนี้ เดือนๆหนึ่ง เราขายได้ 100ตัว ควรมีสต็อคน้อยที่สุด เดือนละ 100 ตัว ถ้าใช้เงินสด ต้องมี 100*1000=100000 บาท ถ้ามีเงินทุนเพียง 50000  นี่ก็ประโยชน์ของเครดิต อาจจะมีบางคนแย้งว่า เราก็เอาเงิน 50000 ไปซื้อก่อน พอสินค้าระบายออก ขายได้เงิน ค่อยไปซื้อเพิ่ม ตรงนี้ต้องเข้าใจว่า 1 การสั่งซื้อ มีต้นทุนการจัดการ การสั่งซื้อ 100 ตัวกับ 20 ตัว ต้นทุนการจัดการ 1 ครั้ง กับ 5 ครั้งก็แตกต่างกัน แต่ถ้ามีเงินฝากเย็นๆอยู่ 100 ล้าน ดอกเบี้ย 3%ต่อปี แล้ว ทำธุรกิจ มูลค่า 1 ล้าน อย่างนี้ คงไม่มีใครต้องการเครดิตครับ จากคุณ : พี (peh_chai) เขียนเมื่อ : 4 ก.ค. 55 08:22:32

ความคิดเห็นที่ 12 หมุนเงินครับ เงินสดไม่พอ ถ้ามีเงิน 100 ล้าน ทำธุรกิจที่ใช้เงินหมุนเวียนเดือนละ 1 ล้าน ก็คงไม่ต้องการเครดิต แต่ส่วนมากถ้าอยากมีโอกาสกำไรเยอะๆ ก็ต้องลงทุนเกือบหมดหน้าตัก ดังนั้นเครดิตจึงจำเป็น ต้องบริหารกระแสเงินสดให้ได้ จึงใช้เครดิตมาช่วยไงครับ จากคุณ : LimitBreak เขียนเมื่อ : 4 ก.ค. 55 08:45:50

ความคิดเห็นที่ 13 เงินที่เพิ่มขึ้นมาจากการซื้อแบบเครดิตก็คือซื้อเวลาเอาเงินไปหมุน แล้วแต่ปรัชญาการทำธุรกิจของแต่ละที่ ถ้าเงินเย็นเยอะก็วางสดไปเลย ถ้าต้องจัดสรรเงินไปทำอย่างอื่นด้วยในเวลาเดียวกัน ก็ซื้อเวลาเค้าในการเก็บเงินมาจ่าย บางทีเก็บเงินเพลินใช้เวลาเกินก็มีให้เห็นกัน ก็จะกระทบความน่าเชื่อถือในการปล่อยเครดิตสำหรับซื้อขายครั้งต่อไป จากคุณ : ฟพเ (Nobody But Me) เขียนเมื่อ : 4 ก.ค. 55 09:00:52

ความคิดเห็นที่ 14 จ่ายสด งดเชื่อ เบื่อทวง ซื้อของเงินสด สร้างนิสัยประหยัด เจียมตัว ไม่เกินตัว ค้าขายบางทีก็จำต้องเอาของมาก่อน โอนเงินให้ทีหลัง ซัพพลายเราก็หมุนเงินดีขึ้น แต่ถ้าคนไหนมันเคี่ยวๆ สามเดือน ค่อยจ่าย จากคุณ : มังกรและหงษ์มงคลร่ำรวย เขียนเมื่อ : 4 ก.ค. 55 09:19:02

ความคิดเห็นที่ 15 ยกตัวอย่างง่ายๆ ถ้าคุณมี capacity ที่จะขายตัวละ 900 จำนวน 120 ตัวต่อเดือน แต่ทุนมีแค่ 28000 บาท สมมุติ lot ละ 40 ตัว (เพราะมีเงินซื้ออยู่แค่นี้) เท่ากับว่า คุณได้กำไรแค่เดือนละ 40* (900 - 700) = 8000 ทั้งที่คุณมี capacity ในการขายเหลืออยู่ ถ้าคุณก็ใช้เครดิต เพื่อให้ง่ายก็ใช้เครดิตหมดเลย ขายได้ 120 ตัว ในราคา 900 = 120 * (900 - 710) = 22800 โดยที่คุณยังเอาเงิน 28000 ที่เก็บไว้ ไปลงทุนอย่างอื่นต่อได้อีก จนทำให้เดือนนี้ได้กำไรมากกว่า 22800 อีกก็ได้ จะเห็นว่ากำไรต่างกันชัดเจน ถ้ารู้จักใช้ leverage ให้เป็นประโยชน์ จากคุณ : เดือนนี้ไม่มีวันหยุด เขียนเมื่อ : 4 ก.ค. 55 09:29:20

ความคิดเห็นที่ 16 เอาง่าย ๆ อีกกรณีนะครับ 1. ไปสั่งพัดลมไว้ 28,400.- บาท อีก 3 เดือนจ่าย 2. เอาเงิน 28,400.- นั้นไปซื้อสินค้าที่เค้าไม่ให้เครดิตมาขายอีก (เท่ากับเงิน 28,400.- ตอนนี้เราได้สินค้ามาขายถึง 2 อย่าง ) 3. เมื่อครบ 3 เดือน เราอาจจะไม่ต้องลงทุนเลย เพราะ ข้อ 1 , 2. เขาได้กำไรเอาไปจ่ายแทนแล้ว เงินต้นทุน 28,400.- อาจจะยังอยู่ครบ หรือขาดเหลือบ้างก็ถือเป็นกำไรแล้วครับ 4. เอาเงิน 28,400.- (ตาม 3 ) ไปเครดิตสินค้าอื่น และ ทำตามขอ 1 - 2 ได้อีก ไปเรื่อย ๆ พอจะเข้าใจไหมครับ จากคุณ : เชื่อเหอะ เขียนเมื่อ : 4 ก.ค. 55 11:32:18 A:1.0.190.199 X: TicketID:286511

ความคิดเห็นที่ 17 เหมาะกับ คนที่ ต้องใช้เงินสดไปทำอย่างอื่นต่อ ถ้า เงิน สดเหลือๆ ก็ไม่จำเป็น จากคุณ : ก้นกบ เขียนเมื่อ : 4 ก.ค. 55 13:20:02

ความคิดเห็นที่ 18 ขึ้นกับสถานการณ์ในการเลือกซื้อของร้านค้าและกระแสเงินสดในบัญชี ส่วนใหญ่คิดจากดอกเบี้ยประมาณ 1.5% ต่อเดือน ถ้าลดแล้่วได้มากกว่า 1.5% ก็ซื้อแบบเงินสด ถ้าได้รับออเดอร์โดยต้องซื้อปริมาณมากๆ กระแส เงินสดของร้านไม่พอ การเลือกซื้อแบบเครดิตจากเจ้าหนี้การค้าเป็นทางออก ที่ดีกว่า (ในวงการค้า ร้านค้าต่างๆเอา 1.5%เป็นเกณฑ์ เผื่อเอาเงินสดไปให้คน รู้จักกู้หรือรับซื้อขายลดเช็ค การขายลดเช็คได้เงินเพิ่มอีก 2-3% ต่อเดือน) การค้าของร้านค้ามันมีหลายระดับ เถ้าปั๊ว ยี่ปั๊ว ซาปั๊ว สถานะของร้่านค้ามี ส่วนทำให้ต้องซื้อสินค้าหรือบริการจากเจ้าหนี้แบบเครดิตหรือเงินสด เช่น เถ้าปั๊วเลือกซื้อเป็นเครดิตจากโรงงานเนื่องจากซื้อในปริมาณมากๆ ซาปั๊ว เลือกซื้อในเงื่อนไขเงินสดจากยี่ปั๊ว เงื่อนไขอื่นๆ สถานะของร้านค้าที่แตก ต่างกันจะได้เงื่อนไขมากกว่าราคาที่เป็นส่วนลดเงินสด ปัจจัยอื่นๆขึ้นกับ ระดับของร้านค้า ชนิด ปริมาณที่สั่งซื้อ ลูกหนี้ เวลา สถานที่ส่งมอบสินค้า อื่นๆ ตอนผมเิริ่มกิจการใหม่ เป็นเถ้าปั๊วให้โรงงาน โรงงานเจ้าหนี้ให้เครดิตการค้า 90 วัน แบบไม่ต้องมีหลักประกันและไม่จำกัดวงเงิน มีข้อดีคือ -ไม่ต้องใช้เงินลงทุนส่วนตัวหรือกู้เงินจากสถาบันการเงินมาเพื่อใช้่ในกิจการ -สามารถเลือกลูกค้าระดับของร้านค้าต่างๆได้ทั้ง ยี่ปั๊ว ซาปั๊ว หรือระดับผู้ใช้งาน -โดยนำสินค้ามาขายก่อนรับชำระเงินจากลูกหนี้ทั้งเป็นเงินสดหรือเครดิต ให้กับลูกหนี้ไม่เกิน 30 วัน -นำเงินที่ได้รับชำระจากลูกหนี้ มาพักไว้ในบัญชี สร้างกระแสเงินสด -นำเงินบางส่วน มาซื้อสินค้าอย่างอื่นเพื่อขายสร้างรายได้ให้กับกิจการ -นำเงินบางส่วน มาลงทุนสร้างแม่พิมพ์พลาสติกรองรับตลาดใหม่ๆและ ลูกค้าเก่า -นำเงินบางส่วน มาขยายกิจการใหม่ที่ตนเองถนัดและมีตลาดรองรับ -นำเงินบางส่วน มาสร้างทรัพย์สินที่ก่อให้่เกิดมูลค่าเพิ่ม เช่น อาคารโกดัง -อื่นๆ กรณีเกิดเหตุฉุกเฉินหรือมีข้อพิพาท เครดิตจากเจ้าหนี้สามารถแปลง เป็นเงินสดหรือเงินในบัญชีฝากประจำ สามารถนำมาใช้เป็นหลักประกันใน ชั้นสอบสวนของเจ้าพนักงานสอบสวน,อัยการ และใช้เป็นหลักประกันในชั้น ศาลได้ จากคุณ : pc&thesunshine เขียนเมื่อ : 4 ก.ค. 55 13:32:31 A:223.207.45.152 X: TicketID:315677

ความคิดเห็นที่ 19 ผมชอบเครดิตมากกว่าครับ เพราะยึดหลัก OPM หรือ Other People Money พูดง่ายๆคือใช้เงินคนอื่น(ลูกค้า) จ่ายค่าสินค้าให้เราไงครับ ส่วนของกำไรเราก็เก็บไว้ สรุปคือเราไม่ต้องใช้เงินตัวเองเลยไงครับ ^^ จากคุณ : Dune Wizard เขียนเมื่อ : 4 ก.ค. 55 15:32:32