Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
รู้สึกว่าเบื่อมากค่ะ ผิดไหมที่ไม่รักการเรียนในห้อง สนุกกับการทำงานมากกว่าค่ะ T^T ติดต่อทีมงาน

อาจจะเป็นเพราะเราหารายได้เลี้ยงตัวเองตั้งแต่อายุยังน้อยด้วยมั้งค่ะ แม่จ่ายแค่ค่าเทอมให้ตั้งมัธยม ค่าใช้จ่ายส่วนตัวเราหาเอง

เริ่มจาก ตอนประถม
>>> "ธุรกิจยางลบ" - เพื่อนชอบยืมยางลบ เลยคิดว่าน่าจะขายได้
พอดีที่บ้านเป็นมินิมาร์ทค่ะ เลยถือโอกาสเอาเครื่องเขียน ที่ร้านไปขายให้เพื่อนที่โรงเรียน
เอาไปแต่ลายที่เราชอบใส่กระเป๋าไป พอเพื่อนเห็น เพื่อนก็สั่งมา ตอนนั้นแม่ขำมาก
แต่ความรู้สึกเด็ก ป.สอง คิดว่า เย้ เราหาตังค์ได้แล้ว ก็เลยทำมาเรื่อยๆ
บางทีก็เปลี่ยนสินค้าไปเรื่อย

>>> "ธุรกิจขายมะนาว" ที่บ้านมีมะนาว สามต้น ดกมาก แม่เก็บใส่กระละมัง แจกเพื่อนบ้านจนไม่มีใครอยากได้ แต่ปีนั้นมะนาวแพง นั่งเรียนอยู่ได้ยินคุณครูคุยกับเพื่อนครูด้วยกัน เลยถามคุณครูว่าบ้านหนูขาย คุณครูช่วยซื้อหน่อยได้มั๊ยค่ะ ครูเลยช่วยอุดหนุน สรุปว่า หอบมะนาวมาขายให้คุณครูทั้งสายชั้น หนูไม่ได้ลงทุนอะไรเลย แต่หนูได้ตังค์ แม่ถึงกับปาดเหงื่อ เปิดกระเป๋านักเรียนเด็ก ป.สาม เจอมะนาวมัดเป็นถุง ถุงล่ะสิบลูก หนักมาก แต่หนังสือเรียนเอาออกหมดใส่ถุงกระดาษไปเรียนแทน

>>> "ธุรกิจขายของเล่น" ตอนหลังอยากได้ของเล่น แม่ให้เก็บตังค์ซื้อเอง แม่เลยบอกว่า
ถ้าหนูอยากได้มีอีกวิธีนึง แม่พาไปร้านขายของเล่นส่งเป็นโหล แบบถูกๆ มันมีสิบสองชิ้นต่อแผง
ต้นทุนสิบตัว กำไรสองตัว แม่จะซื้อให้หนูแบบนี้ แต่หนูต้องเอาทุนมาคืนแม่
ถ้าขายหมดกำไรจะเป็นของหนู 1 ชิ้น แล้วหนูก็จะได้ของเล่นฟรีอีก 1 ชิ้น เอาไหม?
ตอบแบบไม่คิด เอาค่ะ... สรุป เราสนุกกับการขายของเล่นมากกว่าเล่นของเล่น
ทำแบบนั้นไปเรื่อย เอาใส่กระเป๋าไปโรงเรียนบ้าง ฝากแม่ขายที่ร้านบ้าง

"ธุรกิจข้าวมันไก่" พอขึ้นป.ห้า เพื่อนบางคน ไม่ห่อข้าวไป เพราะพ่อแม่ไม่มีเวลา
เราไปโรงเรียนกับน้า น้าต้องไปส่ง ทางเข้าโรงเรียนมีร้านขายข้าวมันไก่
เลยให้น้าจอดถามว่ามาสั่งตอนเย็นแล้วตอนเช้ามารับได้ไหม
เจ้าของร้านบอกว่าได้ เลยไปรับออเดร์คนที่อยากกินข้าวเช้าหรืออยากกินข้าวกลางวัน
โดยไม่ต้องไปต่อแถวที่โรงอาหาร รับจากป้ามาสิบบาท ขายสิบสอง
(ราคานานมาก 55+)

พอขึ้นมัธยม แม่จับยัดเข้าโรงเรียนกินนอน หงุดหงิดมากกับชีวิตที่ต้องมีระเบียบ
นอกจากกินกับนอนในโรงเรียนเลยกลายเป็นเด็กดื้อ จนอาจารย์ต้องเรียกแม่ไปคุยหลายครั้ง
สุดท้ายแม่ยอมแพ้ต้องมาซื้อบ้านอีกหลังให้อยู่
(บ้านอยู่ไกลโรงเรียน แต่แม่เราอยากให้เรียนโรงเรียนดังค่ะ)
พอออกมาอยู่นอกรั้ว ไอเดียก็เกิด เพราะความอิสระ

"ธุรกิจกิฟช็อป" โบว์ผูกผม กิ๊บ เริ่มไปรับของมาขายให้เพื่อนในโรงเรียนแบบพรีออร์เดอร์(อีกแล้ว)เวลามีแฟชั่นใหม่มาก็จะถือกระดาษแผ่นนึงไปจดรายชื่อเพื่อนที่อยากได้ในโรงเรียน เพราะเราไปสืบมาจนได้ร้านขายส่งที่ถูกมาก เช่น ตลาดขายยี่สิบ เราขายสิบสอง เรารับมาสิบ อาศัยกำไรน้อยแต่เราได้ใช้ของฟรีด้วย

"ธุรกิจพิมพ์งาน" รับจ้างพิมพ์งานจากเพื่อนเวลามีรายงานเยอะๆ บางทีพิมพ์จนพ่อต้องมาบอกว่า นอนเถอะตีสี่แล้ว รับจ้างทำรายงานให้เพื่อนที่ขี้เกียจ(แอบไม่ดี)แต่เราทำแบบมือโปรนะคะ อย่างรายงานสรุปหัววิทยาศาสตร์ มีครั้งนึงเพื่อนจ้างเรื่องเดียวกัน หกเล่ม งานงอก เราไม่ก็อบจากเน๊ตค่ะ งานเราต้องมีคุณภาพ อาจารย์ต้องจับไม่ได้ มีเวลาทำอาทิตย์นึง สรุปมาเราอ่านหนังสือเรื่องนั้นเรื่องเดียวไปสิบสองเล่ม กะว่าจะย่อความให้เพื่อน หนังสือสองเล่มรวมกันได้หนึ่งรายงาน ทำเอาจนเสร็จ พอสอบไฟล์นอล เชื่อไหมค่ะ วิชานี้คะแนนสูงลิ่วนำเพื่อนไปทันที

"ธุรกิจโทรนาทีล่ะสองบาท" ตั้งโต๊ะโทรศัพท์สมัยทรูกำลังบูม นาที สองบาท แม่ซื้อโทรศัพท์ให้ เพื่อจะติดต่อได้สะดวก เราดันเอาโต๊ะกับป้ายไปกลางข้างถนนหน้าเซเว่น นาทีล่ะสองบาททั่วไทย เพราะต้นทุนโปรโมชั่นเราถูกกว่านั้นเยอะ เราเลยเอากำไรตอนเย็นไปด้วย
หาเงินใช้เองตลอด แต่ก็ไม่ใช่เด็กดีนะคะ แอบเที่ยวกลางคืนบ่อยๆ ตั้งแต่มัธยม
(แต่การเรียนไม่เสียจบมาด้วยเกรด 3.9)พร้อมได้โควต้า เรียนต่อมหาลัยที่พอใจ

ชีวิตเริ่มเข้ามหาลัย
- เริ่มด้วยการช่วยอาจารย์ทำวิจัย
- เป็นติวเตอร์ในบางวิชาที่ตัวเองถนัด
- บางทีไปรับงานมาแล้วก็ไปจ้างคนอื่นต่อแบบกินหัวคิว
- รับจ้างพิมพ์งาน
- ขายขนมส่ง รับขนมจากในเมืองแล้วไปติดต่อส่งตามโรงเรียนชนบทเวลากลับบ้าน
พอดีมีญาติเป็นครู เขาดูแลเรื่องร้านค้า เราต้องกลับบ้านทุกอาทิตย์อยู่แล้วเลยไปแวะแม็คโควแล้วกินเปอร์เซ็นนิดหน่อย น้าก็ช่วยติดต่อให้
- มีเปิดแพงขายตลาดไนท์บ้าง แต่เราลงทุนให้เพื่อนแล้วขอแบ่งกำไร 20% เพื่อนไม่มีทุนแต่เพื่อนต้องไปขายเอาไป 80%
- ขายข้าวสารยืมรถกระบะพ่อไปรับส่งข้าวสาร เหตุเกิดเพราะที่บ้านมีงานเลี้ยง แล้วจ้างโต๊ะจีนมา
ทุกคนแถวบ้านชมว่าข้าวสารอร่อยจะหาซื้อที่ไหนดี เลยเดินเข้าไปคุยกะแม่ครัวที่เขามาด้วยบอก ข้าวอร่อยดียี่ห้ออะไร ซื้อที่ไหน หอมดี อยากให้แม่หุงให้กิน แกจดชื่อเบอร์โทร โรงสีให้พร้อม อ้าว!! โรงสีอยู่ทางผ่านเวลากลับบ้านนี่น่าา แล้วเป็นแบรนด์เล็กๆ เลยเข้าไปคุยกับเจ้าของโรงสี
ขอมาสั่งวันจันทร์รับออร์เดอร์เวลากลับจากบ้าน วันศุกร์จะแวะมารับ เริ่มไปรับออร์เดอร์จากที่คนในซอย ขยายเป็นหมู่บ้าน บรรทุกจนกระบะพ่อแทบจะพัง ทำเองคนเดียว เหนื่อยโคตร
เรื่องเรียนไม่ได้ทิ้ง แต่ก็ไม่ได้ดีค่ะ วิชาหลักได้ A B+ วิชาที่ไม่ใช่เมเจอร์ D+,C โดดกระจาย นิสัยเสียอย่างนึงเป็นคนถ้าไม่ชอบอะไรก็จะไม่ยอมเรียน จบมาก็พอเอาตัวรอดได้สองกว่าเกือบสาม (น้ำตาจะไหล ถึงสามหน่อยก้ไม่ได้)
พอจบตรีมีประสบการณ์อยู่บริษัทต่างชาติเล็กน้อย
แม่ขอร้อง...แม่อยากให้ต่อโทต่างประเทศค่ะ เพราะในญาติๆ กัน
เขาจบเมืองนอก เราเป็นลูกคนโตของครอบครัวด้วย
เชื่อแม่สักครั้ง แม่จ่ายค่าเรียนให้นะ
ตอนนี้อายุ 23 กว่าจะจบก้อายุ 24 เกือบ 25
เพิ่งเริ่มเรียนจบเทอมแรกไป เหลืออีกปีครึ่ง เกิดควมรู้สึกอยากกลับไปทำงาน
รู้สึกชอบการทำงานมากกว่า ได้พัฒนาอะไรเร็วกว่า
อยากทำธุรกิจ และอีกใจนึงก็กลัวอายุ 25 แล้วประสบการณ์ทำงานไม่ถึงปี
กลับไปจะสู้เขาได้ไหม ชีวิตที่นี้ ทำงานพิเศษก็ถูกจำกัดได้ยี่สิบ ชม.
(เราไม่อยากแอบทำ ถูกส่งกลับแล้วมันไม่คุ้มกับอนาคต) เรียนที่นี้ชีวิตราบเรียบเกินไป
ทั้งๆ ที่ออกไปทำกิจกรรมกับฝรั่งบ้าง ไปกับเพื่อนในมหาลัยบ้าง เล่นกีฬาบ้าง เที่ยวกลางคืนบ้าง ทำอาสาสมัครของมหาลัยด้วย ว่างๆ กลางคืน ก็ฝึกเขียน Auto cad, sketch up, Vba, SPSS, Access, excel ฝึกเขียนสูตรเล่น,อ่านหนังสือเยอะมาก,เราชอบเรียนทุกอย่างด้วยตัวเอง ตอนนี้กำลังศึกษาและจะลองลงทุนให้หุ้นบ้าง คิดว่าจะให้ทุนตัวเองลงไปสองแสน ถ้าพลาดก็เป็นประสบการณ์ ถ้าได้ก็จะเอาเงินนั้นเป็นทุนต่อ จะไม่ยอมลงเพิ่ม แต่จะไม่ให้ที่บ้านรู้ เคยเกริ่นเล่นๆ อยากเล่นมาตั้งแต่มัธยมแต่พ่อถึงกับสั่งห้าม บอกว่ามันเป็นหวยคนรวย
เคยได้ยินไหม คนจนเล่นหวย คนรวยเล่นหุ้น
ตอนมหาลัย อายุยังน้อยต่ำกว่าเกณฑ์แอบเอาบัตรประชาชนพ่อไปสมัครเล่นเกมส์หุ้นสำหรับนักศึกษาเป็นกระดานจำลอง แต่ดันชนะได้รางวัลเป็นหุ้น ตอนหลังพ่อบ่นว่า ใครสักคนนี้ล่ะโทรเข้าเบอร์มือถือพ่อบอกให้ไปเปิดบัญชีก่อนถึงจะรับรางวัลได้ พ่อนึกว่าแก๊งต้มตุ๋น เลยสารภาพกับพ่อ
แต่พ่อบอกว่า พ่อปฎิเสธไปแล้ว ฝังใจจนถึงทุกวันนี้
อยากลองเล่น ถ้าจะขาดทุนก็คิดว่าตัวเองมีลิมิต ถ้าเราอยากทำอะไรแล้วไม่ได้ทำ มันคงคาใจ

ตอนนี้เราเก็บเงินมาตั้งแต่สมัยเรียน เราซื้อห้องแถวให้เช่าที่ต่างจังหวัดให้คนอื่นเช่า(เป็นห้องเล็กๆ) แต่ก็พอได้กินในแต่ละเดือน ไม่ได้บอกแม่นะคะ บอกท่านไม่ได้ เคยเกริ่นแม่ว่าอยากได้ แม่ห้ามไว้ บอกว่าจะกลับมาทำเมื่อไรก็ได้ เอาให้จบก่อน (เราไม่ฟัง ซื้อแล้วแอบบอกเพื่อนสนิทไว้หลายคนว่า แกถ้าฉันเป็นไรไป แกไปบอกแม่ฉันด้วยนะ นี่บ้านฉัน" แม่เคยบอกว่าจะทำอะไรก็ทำแต่ขอให้เรียนโทจบก่อน แม่อยากให้ตั้งใจเรียนอย่างเดียว แม่บอกว่าถ้าเราเรียนไม่จบ เสียดายตังค์เพราะแม่จ่ายค่าเทอมให้เรา พ่อเข้าใจเราทุกอย่าง พ่อไม่เคยห้ามเรา แต่ไม่เคยช่วย ช่วยอย่างมากก็ช่วยปิดบังแม่ แล้วพ่อตามใจแม่มาก --"

เพื่อนบอกว่า เราเป็นคนความคิดแปลก เราบอกน้องเราไว้ตั้งแต่แรก สมบัติทุกชิ้น เรายกให้น้อง เราไม่เอาอะไรจากที่บ้าน ขอแค่ที่บ้านส่งเราเรียนให้จบก็พอ เมื่อก่อนพ่อแม่ไม่มีอะไร ยังสร้างมาได้เลย เราขอสร้างด้วยตัวเราเองนะ เพื่อนบอกว่าเราบ้า แต่เราคิดแบบนั้นจริงๆ นะ ตอนนี้เราก็ยังไม่เปลี่ยนใจ เราบอกพ่อกับแม่ไว้แล้ว ท่านก็หัวเราะเรา T^T

>>> แต่ตอนนี้รู้สึกแย่กับความคิดตัวเองมาก ไม่มีอารมณ์เรียน เคยบ่นว่าเบื่อให้แม่ฟัง
แม่ถึงกับน้ำตาล่วง แม่ว่าเราไม่เห็นถึงความหวังดีของแม่ แม่บอกว่าการศึกษาดีดี สามารถเลี้ยงเราไปจนตายนะ เรารู้สึกไม่ชอบการเรียนในห้อง รู้นะคะ ว่าเป็นความคิดที่แย่! แต่เรารู้สึกถูกตีกรอบทางความคิด การทำงานงานจริงให้อะไรได้มากกว่า ไม่รู้ทำไม อยากกลับไทยแล้วเบื่อมากกับชีวิตที่นี้ แม่อยากให้เราทำงานที่มั่นคง แต่ในหัวเราคิดเสมอว่า ฉันจะกลับไปเป็นลูกน้องแค่อายุสามสิบเท่านั้นล่ะ หลังจากนั้น ต้องมีธุรกิจเป็นของตัวเอง แม่ก็บอกว่า เรียนให้จบแล้วก็ทำมันให้ดีที่สุด
อย่ากลับมาเด็ดขาดทั้งที่เรียนไม่จบ แม่รู้ทันนิสัยเรา แม่จะโกรธมากและเสียใจมาก


ปัญหาของเราตอนนี้ คือ ขาดแรงบัลดาลใจในการเรียนมาก ใจไปอยู่ที่ทำงาน อยู่ตลาด อยู่ร้านค้า อยู่ต่างๆ นานา ทนอยู่ทุกวันนี้ เพราะรักแม่ การเรียนของเราไม่ได้แย่นะคะ เรียนดีกว่าตอนอยู่เมืองไทยอีก สิ่งยั่วยุที่นี้มันน้อยกว่า =="

รบกวนช่วยแนะนำเราหน่อยได้ไหมค่ะ
1.เราจบโทเมืองนอกตอนอายุยี่สิบสี่กว่า แบบมีประสบการณ์ในสายงานน้อยมากหรือแทบเรียกได้ว่าไม่มีประสบการณ์ เวลาแข่งขันในการสมัครงาน มีผลด้านลบมากไหมค่ะ ในการพิจารณาเข้างาน
2.รบกวนขอคำแนะนำสร้างแรงจูงใจในการเรียนหน่อยในห้องหน่อยค่ะ เราอยากเรียนด้วยความสนุก

สุดท้ายนี้ เราไม่สามารถเปิดเผยชื่อจริงได้ ขอเสียมารยาทในการใช้บัตรผ่านนะคะ เพราะคนรู้จักเราเล่นบอร์ดนี้ ถึงเขาจะอ่านแล้วรู้จักเรา แต่ก็อยากปกปิดนิดนึงอยู่ดี ขอโทษจริงๆ ค่ะ เราแค่อยากได้คำแนะนำเพื่อใช้ในการให้กำลังใจตัวเองค่ะ

(หากคำไหนสะกดผิด ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะคะ เราตรวจคำผิดแล้วรอบนึง แต่ตาลายมองไม่เห็นแล้วค่ะ พิมพ์ยาวไปหน่อย)

จากคุณ : เบื่อมากจริงๆ ค่ะ
เขียนเมื่อ : 11 ก.ค. 55 01:51:01 A:220.245.193.124 X: TicketID:366447




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com