ทางสำนักราชฯ จะดำเนินการเองโดยไม่ผ่าน กพ. ครับ เป็นระบบปิด
วิธีการคือ ทางสำนักราชฯ จะส่งเรื่องไปที่มหาวิทยาลัยทั้ง 5 แห่ง เพื่อขอรายชื่อบัณฑิตที่จบการศึกษาระดับเกียรตินิยม และยังไม่ได้ทำงานกับหน่วยงานราชการอื่น ๆ คือ
- จุฬา
- ธรรมศาสตร์
- เกษตรศาสตร์
- ศรีนครินทร์วิโรฒ
- ศิลปากร
เท่าที่ทราบเขารับเฉพาะที่จบเอกภาษาไทย ประวัติศาสตร์ ภาษาอังกฤษ นิติศาสตร์ เศรษฐศาสตร์ บรรณารักษ์ รัฐศาสตร์ อาจจะมีนิเทศศาสตร์ด้วย จากนั้นเมื่อได้รายชื่อพร้อมที่อยู่ที่ติดต่อของบัณฑิตแล้ว ทางสำนักราชฯ จะส่งจดหมายติดต่อเจ้าตัวเพื่อถามความสมัครใจที่จะมาสมัครสอบทำงานกับสำนักราชฯ หากเจ้าตัวตกลงก็เตรียมหลักฐานให้พร้อมมาเขียนใบสมัครที่สำนักราชฯ ในวังหลวง จากนั้นเจ้าหน้าที่จะตรวจสอบเอกสารก่อน แล้วจะติดต่อนัดวันเวลาที่จะมาสอบอีกครั้ง 4 วิชาหลักที่สอบข้อเขียนคือ หลัก คือ ภาษาอังกฤษ การเมืองการปกครอง เศรษฐกิจ และกฎหมาย ซึ่งต้องรู้เรื่องข่าวสารบ้านเมืองด้วย จากนั้นรอฟังผล ทางสำนักราชฯ จะโทรมาแจ้ง แล้วก็นัดวันสัมภาษณ์ การสอบสัมภาษณ์ของสำนักราชฯ เข้มข้นมาก สอบทีละคนโดยมีคณะกรรมการสอบที่เป็นผู้หลักผู้ใหญ่ในสำนักราชฯ ตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป ถามทุกสิ่งทุกอย่าง
การเตรียมตัวที่ดีสำหรับการสอบสัมภาษณ์คือ แต่งกายสุภาพ กิริยามารยาทพูดจาเรียบร้อย อย่าประหม่าเกินไป เมื่อกรรมการถามให้คิดให้ดีก่อนตอบ อย่ารีบตอบโดยไม่คิด ถ้าตอบไม่ได้หรือไม่ทราบข้อมูล ก็ให้ตอบว่าไม่ทราบ อย่าอวดรู้ถ้าเราไม่รู้ ส่วนที่รู้ก็ให้ตอบให้ชัดเจนด้วยท่าทางที่สง่า ตอนสอบสัมภาษณ์นี่แหละที่คนตกกันเยอะเพราะเขาเอาจริง
จากนั้นรอฟังผลสอบ คนที่ผ่านการสอบสัมภาษณ์จะต้องผ่านการทดสอบหรือตรวจสุขภาพจิต และสุดท้ายคือการไปพิมพ์ลายนิ้วมือที่สถานีตำรวจในภูมิลำเนาเกิด เพื่อให้ส่วนแยกนำไปใช้ในการสอบประวัติอย่างละเอียดว่าเป็นลูกเต้าเหล่าใคร ความประพฤติอย่างไร (ข่าวกรอง) จะเห็นว่ากว่าจะเป็นข้าราชการที่นี่ได้ค่อนข้างยาก แต่เป็นแล้วภูมิใจมีเกียรติ และมีคนจำนวนไม่มากที่จะได้ทำงานตรงนี้ แม้จะเงินเดือนไม่มาก
จากคุณ chotiwat เมื่อปี 51 ค่ะ
แก้ไขเมื่อ 13 ก.ค. 55 00:43:44
จากคุณ |
:
ผ่านไปผ่านมา (เบนบ้านคลอง)
|
เขียนเมื่อ |
:
13 ก.ค. 55 00:39:36
|
|
|
|