ความคิดเห็นที่ 1 เกาะขอบจอรอครับ จากคุณ : คนมีตังค์ เขียนเมื่อ : 16 ก.ค. 55 09:15:04

ความคิดเห็นที่ 2 ปูเสื่อรอ T__T จากคุณ : reseller_19 เขียนเมื่อ : 16 ก.ค. 55 09:18:12

ความคิดเห็นที่ 3 รออ่านครับ จากคุณ : RAORUE เขียนเมื่อ : 16 ก.ค. 55 09:28:38

ความคิดเห็นที่ 4 ติดตามครับ จากคุณ : TFR93 เขียนเมื่อ : 16 ก.ค. 55 09:46:24

ความคิดเห็นที่ 5 โครงการหมู่บ้านนี้ โดนธนาคารฯที่เป็นเจ้าหนี้ยึดทั้งโครงการ แสดงว่าโครงการนี้ขอเงินกู้จากธนาคารมาพัฒนาโครงการ โดยที่โครงการได้นำที่ดินและอสังหาฯอื่นมาค้ำประกัน เมื่อโครงการล้ม ธนาคารจึงยึดอสังหาฯที่ยังขายไม่ได้ทั้งหมดไม่ว่าจะเป็น อาคารพาณิชย์ ทาวเฮ้าส์  บ้านเดี่ยว และ ที่ดินเปล่า อยู่มาวันหนึ่ง มีเรื่องราวที่ทำให้ผมใจระทึกเป็นครั้งแรก เมื่อแม่โทรมาแจ้งว่า ธนาคารฯเจ้าหนี้ ประกาศขายโครงการ นี้แล้ว อ้าวเฮ้ย!! เอาแล้วไง เอาแล้วไง มีลุ้นล่ะงานนี้..... พอฟังไปฟังมา สรุปว่าธนาคารขายจริงแต่.....ขายทั้งโครงการที่เหลืออยู่ทั้งหมดในราคา 33 ล้านบาท!!!! บร่ะ บร๊ะ บะ บา บ้าไปแล้ว!!!!.....หลังจากนั้นก็ อ่อ อึม เหรอ หงอย.. เบี้ยน้อยหอยน้อยอย่างเราคงได้แต่มองตาปริบๆๆล่ะเนอะ 5555+ โปรเจคนี้จึงต้องหยุดชะงักไป..... จากคุณ : มาม่ากับปลากระป๋อง เขียนเมื่อ : 16 ก.ค. 55 09:52:43

ความคิดเห็นที่ 6 รออ่าน จากคุณ : saturday5th เขียนเมื่อ : 16 ก.ค. 55 10:20:21

ความคิดเห็นที่ 7 ในระหวางที่โปรเจคหยุดชะงักชั่วคราว ผมขอกล่าวถึงทีมของผมสักนิด “เรา” ในที่นี้และที่ผมจะกล่าวถึงต่อๆไป ประกอบด้วย 4 คน คือ 1. คุณแม่ผม ดูแลในเรื่องการประสานงานกับหน่วงงานต่างๆที่เกี่ยวข้อง และเป็นผู้ดูแลเงินทุน 2. ภรรยาผม เธอดูแลและให้คำปรึกษาแก่ผมในเรื่องการตลาด เธอมีประสบการณ์กับอสังหาฯพอสมควรเพราะเธอเคยเป็นเซลล์ขายบ้านโครงการหมูบ้านจัดสรร 3. และผม ทำหน้าที่วิเคราะห์ความเป็นไปได้และความคุ้มค่าของการลงทุน และ คุณพ่อ จะคอยให้กำลังใจคุณแม่เสมอมาและคอยห้ามทัพเมื่อผมกับแม่กำลังจะโต้แย้งกัน (โต้กันด้วยเหตุผลจริงนะ 5555+) ในทีมทุกคนมีงานหลักอื่นทั้งหมดโปรเจคจึงเป็น โปรเจคเสริมความมั่งคั่ง (เรียกซะเท่เชียว 555+) หลังจากแนะนำทีมแล้ว ผมขออธิบายแปลนโครงการหมู่บ้านกันสักหน่อย สีส้มคือออฟฟิตคุณแม่ครับ สีเขียวคือแปลงที่ดินเปล่าที่สนใจ ช่องขีดเล็กๆคือทาวเฮาส์ ช่องขนาดสี่เหลี่ยมจัตุรัสเล็กๆท้ายๆหมู่บ้านคือบ้านเดี่ยว ช่องสี่เหลี่ยมผืนผ้ายาวๆคือที่ดินเปล่า จากคุณ : มาม่ากับปลากระป๋อง เขียนเมื่อ : 16 ก.ค. 55 10:27:54

ความคิดเห็นที่ 8 สีส้มคือออฟฟิตคุณแม่ครับ สีเขียวคือแปลงที่ดินเปล่าที่สนใจ ช่องขีดเล็กๆคือทาวเฮาส์ ช่องขนาดสี่เหลี่ยมจัตุรัสเล็กๆท้ายๆหมู่บ้านคือบ้านเดี่ยว ช่องสี่เหลี่ยมผืนผ้ายาวๆคือที่ดินเปล่า จากคุณ : มาม่ากับปลากระป๋อง เขียนเมื่อ : 16 ก.ค. 55 10:28:59

ความคิดเห็นที่ 9 เกาะกระทู้ ^^ จากคุณ : saturday5th เขียนเมื่อ : 16 ก.ค. 55 10:47:40

ความคิดเห็นที่ 10 ถามว่าทำไมเราถึงอยากไปที่ดินแปลงนี้นัก? นอกจากอยู่ข้างออฟฟิตแล้ว ที่ดินแปลงนี้อยู่ติดถนนหลวงสองเลนแล้ว ที่ดินแปลงนี้ยังใกล้กับตัวตลาดของอำเภอเพียง 200 เมตร ห่างจากตลาดนัดใหญ่ที่มี 2 วันต่อสัปดาห์ประมาณ 100 เมตร และที่สำคัญที่สุด เรารู้ว่าเขาจะตัดถนนเส้นนี้เป็นถนนสี่เลนในเร็วๆนี้ (ข้อมูลเชิงลึก 555+) ต่อมาราวต้นปี 2552 ผ่านไปปีกว่าโครงการนี้ยังขายไม่ออก ในที่สุดเวลาที่เรารอคอยก็มาถึง ธนาคารประกาศขายแยกแปลง!!!!! เอาแล้วไงล่ะที่นี้ โอกาสมาปะหน้าแล้วจะยังไงล่ะทีนี้??? และที่ดินแปลงที่สนใจ ธนาคารเคาะราคามาที่ประมาณ สองล้านบาท!! เคาะมาราคานี้ เหมือนกับที่ดินจะบอกเราว่า เอ็งมีข้าไว้ ไม่ขาดทุน (555+) ธนาคารได้แจ้งทางเราเป็นกลุ่มแรกๆ เนื่องจาก เราเคยโทรไปสอบถามและเราเองก็อยู่ในทำเลนั้น ธนาคารเองก็อยากให้เราช่วยขายบ้านและอสังหาฯอีกทางหนึ่ง ผมจำได้ว่าช่วงเวลานั้นทำเอาบ้านผมนอนไม่หลับกระสับกระส่ายกันทั้งบ้านเพราะเราแน่ใจว่าทีทำเลนี้คือทำเลทอง เก็บไว้ได้เป็นกำไรแน่!!! แต่ก็จนใจจนนอนไม่หลับกันอยู่หลายวันเพราะเวลาเอาเข้าจริงก็ ไม่มีเงินสด จากนี้ไปเราจะพึงคิดไว้ว่า “โอกาสมักจะมาเมื่อเราไม่พร้อมเสมอ” ในระหว่างที่เรายังคง คิดไม่ตก หาเงินไม่ได้ แม่ก็บอกขายคนอื่นต่ออีกที เพราะจะได้ค่านายหน้า 5555+ สักนิดๆหน่อย การที่เราศึกษาข้อมูลและวิเคราะห์ให้มากที่สุดและมากเพียงพอ จะทำให้ความเสี่ยงที่อาจเกิดจากการลงทุนนั้นน้อยลง (ผมขอละ กระบวนการขั้นตอนของผมออกไปนะครับเพราะมันจะทำให้กระทู้ยืดยาวออกไป) จนผมบอกกับคุณแม่อย่างมั่นใจว่า “เราต้องซื้อที่ดินแปลงนี้ให้ได้” ในเมื่อเราไม่มีเงินทุนพอที่จะซื้อบ้าน เราจะทำอย่างไรที่จะทำให้เรามีเงินมากพอ ในที่สุดเราก็ตัดสินใจขายบ้านของเรา!!!! จากคุณ : มาม่ากับปลากระป๋อง เขียนเมื่อ : 16 ก.ค. 55 11:09:42

ความคิดเห็นที่ 11 โฮ ที่ดิน ทอง เลยนะนั่น จากคุณ : kokusen เขียนเมื่อ : 16 ก.ค. 55 11:16:50

ความคิดเห็นที่ 12 บ้านนี้เป็นบ้านเดี่ยว สองห้องนอนหนึ่งห้องน้ำ แต่เราไม่เคยอยู่บ้านหลังนี้ เพราะว่าเราพักอาศัยอยู่บ้านพักข้าราชการการตลอดมา(ตั้งแต่ผมเกิด) เราคิดจะย้ายไปอยู่บ้านหลังนี้หลายครั้ง แต่ก็ไม่สำเร็จ เราก็ไม่ได้ย้ายไปเสียที เสียดายเงินที่ได้จากค่าเช่าบ้างล่ะ ไม่อยากจากบ้านหลังนี้ไปบ้างล่ะ กลัวเหงาเพราะต้องย้ายบ้านบ้างล่ะ ถึงบ้านหลังนี้ครอบครัวเราจะไม่เคยอยู่ แต่บ้านหลังนี้ก็มีคุณค่าทางจิตใจกับครอบครัวของเรามาก เพราะบ้านหลังนี้คือบ้านที่คุณพ่อกับคุณแม่ซื้อไว้เมื่อตอนท่านทั้งคู่แต่งงาน ซึ่งท่านเก็บหอมรอมริบกระเบียดกระเสียรกว่าจะปลดหนี้บ้านหลังนี้ได้ก็ใช้เวลาหลายปี ผมยังจำช่วงเวลาปรับปรุงบ้านได้เสมอ เพราะเมื่อหลังจากคนเช่าเก่าออก ผม แม่และพ่อ ก็จะไปช่วยกันทาสี ทะความสะอาด ตัดหญ้า อยู่ตลอดมา ตอนนี้ เราย้ายมาอยู่บ้านยายในสวนกันที่ต่างจังหวัดทั้งหมด คุณแม่เกษียณราชการก่อนกำหนดออกมาทำธุรกิจใกล้ๆบ้านยาย ผมก็มาทำงานใกล้บ้านยายด้วยเช่นกัน ในที่สุดคุณพ่อก็เกษียณราชการก่อนกำหนดตามมา (เราก็คืนบ้านพักข้าราชการไป) ในเมื่อเราตัดใจขายบ้านเดี่ยวหลังนี้ออก แรงกดดันและความคาดหวังที่คาดว่าจะได้รับจากการลงทุนย่อมสูงขึ้นไปอีก คนที่เป็นหัวเรี่ยวหัวแรงในโปรเจคนี้คือผมเอง ดังนั้น ผมจะต้องไม่พลาด!!!! ในเมื่อตัดสินใจขาย เราก็ต้องหาคนซื้อ หลังจากที่เราประกาศขาย มีคนสนใจซื้อมากพอสมควร เราตัดสินใจขายให้ ลูกสาวของเพื่อนสนิทของครอบครัว เพราะอย่างน้อยเราก็ขายบ้านที่เรารักให้กับคนที่เราสนิทที่สุดและเค้ามีความต้องการบ้านของเราอย่างแท้จริง เราขายบ้านเราไปในราคา ล้านเจ็ด ราคาที่ดินที่เราอยากได้ขายอยู่ที่ สองล้าน ขาดอยู่สามแสน ตอนนั้นเราคาดว่าจะมาโปะได้ไม่น่ามีปัญหา ที่ดินแปลงนี้เราซื้อแน่ เพราะเราตัดสินใจขายบ้านแล้ว แต่ติดตรงที่ต้องใช้เวลาเตรียมเงิน เหตุการณ์เหล่านี้ทั้งหมดเกิดขึ้นในเวลาผ่านไปเพียงไม่กี่วันหลังจากที่ธนาคารบอกขาย เราทำการบ้านกันหนักมากในช่วงนั้นเพราะเรารู้ว่าอีกไม่นานคนอื่นที่มีความพร้อมด้านการเงินมากกว่าจะรู้ข่าวประกาศขายนี้เช่นกัน การที่ธนาคารแจ้งทางเราเป็นกลุ่มแรกๆ นี่คือ อีกหนึ่งโอกาส เพราะเราเห็นโอกาสก่อนใคร โอกาสที่จะทำกำไรได้ก่อนใคร เราจึงยื้อเวลาให้นานที่สุด เราแจ้งเจ้าหน้าที่ธนาคารว่า “เราจะซื้อที่แปลงนี้แน่นอน” แต่ “เรากำลังรวบรวมเงินอยู่ตอนนี้” และ “ถ้ามีใครมาซื้อหรือสนใจที่จะมาจองที่แปลงนี้แจ้งเราก่อน” เพราะ “เราจะสนใจที่จริงๆ” ซึ่งเจ้าหน้าที่ธนาคารก็รับคำเราเป็นอย่างดี นี่คือ การเจรจาที่เราใช้เพื่อดึงเวลาไว้ เป็นการเจรจากึ่งร้องขอและบ่งบอกถึงความมุ่งมั่นและตั้งใจจริง ในต่อๆไปผมขอเรียกเจ้าหน้าที่ธนาคารท่านนี้ว่าคุณเจ ตัวคุณเจเองก็ตอบรับเราอย่างดี และเขาอยากให้เราได้ที่แปลงนี้เช่นกัน พอมีคนโทรมาจองที่กับคุณเจ คุณเจเขาจะบ่ายเบี่ยงรายอื่นไป เพื่อรอให้เราพร้อม จากคุณ : มาม่ากับปลากระป๋อง เขียนเมื่อ : 16 ก.ค. 55 12:17:17

ความคิดเห็นที่ 13 ปูเสื่อรอ จากคุณ : MaManG เขียนเมื่อ : 16 ก.ค. 55 12:38:37

ความคิดเห็นที่ 14 นั่งคิดและพิมพ์ไม่ลืมหูลืมตาเลยทีเดียว กะจะเล่นให้จบเลยรวดเดียวเลย ดีใจที่มีคนอ่านกระทู้ของผม ...[^,^]... คุณ kokusen ที่ดินทองจริงๆครับแต่กว่าจะได้มาเล่นเอาเหงื่อหยดไปสามปี๊ป 555+ มาต่อกันครับ ณ ช่วงเวลานั้นเองผมคิดว่าถ้าเราจะต่อยอดจากที่แปลงนี้ เราจำเป็นที่จะต้องมีอะไร? แน่นอน ว่ามันต้องเป็น เงินทุน เราคาดว่าเราอาจจะไม่มี “เงินกู” มากพอ เราต้องวางแผนหา “เงินกู้” เพื่อรองรับโครงการในอนาคต ถ้าเราจะใช้เงินกู้สิ่งที่เราจำเป็นคือ “ความน่าเชื่อถือ” ความหน้าเชื่อถือในทางการเงิน ความน่าเชื่อถือทางการเงินที่ผมพูดถึงคือ ระหว่าง “บุคคลธรรมดา” กับ “นิติบุคคล” เราเลือกที่จะจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทขึ้นมาเพื่อ ปั้นธุรกิจ ปั้นบริษัท ทางด้านอสังหาฯขึ้นมาหนึ่งบริษัท เพื่อรองรับ “การกู้เงิน” จากธนาคาร และ เพื่อประโยชน์ทางด้านวางแผนทางภาษี (ถ้าสร้างอาคารพาณิชย์ 7 คูหาตามแผนเดิมของโครงการเก่าต้องใช้ทุนไม่ต่ำกว่า เจ็ดล้านแน่นอน) หลังจากที่เราตกลงใจว่าจะจัดตั้งบริษัทได้ เราก็ให้ทนายไปจัดการจดบริษัท หลังจากเราจดทะเบียนได้ไม่นานเราก็ได้รับโทรศัพท์จากเจ้าหน้าที่ธนาคารว่ามีคนสนใจที่แปลงนี้แล้ว และเขาพร้อมจะทำสัญญาทันที่ ถ้าเราตอ้งการที่แปลงนี้ ให้เราเตรียมเงิน เตรยมเงินได้เลย ในช่วงนี้จะเป็นช่วงที่เอกสารจะขลุกขลักมากๆ เนื่องจาก ยังจดทะเบียนบริษัทไม่เสร็จ แต่ เราจะต้องจองซื้อในนามบริษัทที่กำลังจดอยู่ เงินที่รอจากการขายบ้านก็ไม่ได้เพราะผู้ซื้อเขากู้แบงค์ซื้ออีกที่หนึ่ง เราก็ได้รับการช่วยเหลือจาก คุณเจ (อีกเช่นเคย) ที่แนะนำวิธีการต่างๆแก่เราเช่นวางดาวน์ไปก่อน แล้วแจ้งเหตุผลไปว่าเรากำลังจดทะเบียนบริษัทอยู่ และอื่นๆอีกมา ทำให้ปัญหาเรื่องรอเงินและเอกสารสำเร็จลุล่วง ในที่สุดเราก็ได้ที่แปลงนี้มาครอบครองสมใจ แต่ที่ดินนี้มีจะดีเหทือนที่เราคิดจริงหรือ? จากคุณ : มาม่ากับปลากระป๋อง เขียนเมื่อ : 16 ก.ค. 55 12:43:56

ความคิดเห็นที่ 15 ลุ้นต่อไป...... จากคุณ : saturday5th เขียนเมื่อ : 16 ก.ค. 55 12:57:25

ความคิดเห็นที่ 16 ลุ้นอย่างแรงเลยค่ะ จากคุณ : Well-beloved เขียนเมื่อ : 16 ก.ค. 55 13:10:38

ความคิดเห็นที่ 17 ถ้าเราคิดผิดเรื่องการตัดถนนสี่เลน ไม่มีการตัดถนนสี่เลนเกิดขึ้นจริง เราก็จะซื้อที่มาในราคาตลาด ที่ดินทีมจะราคา “ไม่ถูก” เพราะราคานี้คือราคาผ่านการกลั่นกรองจากแบงค์มาแล้วว่าเหมาะสม โอกาสที่เราจะทำกำไรจึงน้อย พูดได้ง่ายๆ ชัดๆ คือ ถ้าพลาด จะมีแต่ขาดทุนกับเสมอตัว ถ้าจะรอขายให้ได้กำไรก็คือถือยาวๆ กว่าจะรอเก็บเงินได้ก็อีกหลายหนึบ เวลานี้คือ ลุ้น และ รอเวลา.... ขั้นจังหวะนอกเรื่องนิด เพื่อรอลุ้น และรอเวลา หลังจากที่เราได้ที่ดินแปลงนี้เรียบร้อย ใจเป้าเรามุ่งไปที่ “บ้านทาวเฮ้าส์” ที่อยู่ในโครงการ เพราะน่าจะนำมาให้เช่าเสียจริงๆ ตัวผมเองตอนนั้นก็พอจะมีเครดิตเหลืออยู่บ้าง รถก็ไม่ได้ผ่อน บัตรเครดิตก็ไม่มี มีผ่อนบ้านหลังเล็กอยู่หลังหนึ่งยอดหนี้ไม่สูงนัก ผมก็เลยจัดมาหนึ่งหลังเพื่อให้เช่าจนถึงปัจจุบัน (วางมัดจำไป 15% ผ่อนยาวๆไป 30 ปี ผ่อนเดือนล่ะสามพัน ปล่อยเช่าสามพันห้า) ***พิมพ์ตกหนึ่งประโยคครับ แก้ไขเมื่อ 16 ก.ค. 55 14:00:26 จากคุณ : มาม่ากับปลากระป๋อง เขียนเมื่อ : 16 ก.ค. 55 13:52:56

ความคิดเห็นที่ 18 รออ่านนะคะ  :) จากคุณ : joyly_polly เขียนเมื่อ : 16 ก.ค. 55 14:08:56

ความคิดเห็นที่ 19 หลายเดือนผ่านไป   วันที่รอคอยก็มาถึง.....เขามาแล้ว รถเกรด รถบดถนน รถบรรทุก รถเทยางมะตอย เหล่าคนงานพาเหรดกันมาทำถนนสี่เลนกันอย่างขะมักเขม้น ในชาวบ้านร้านตลาดบ่นกันระงมเรื่อง ฝุ่นเอย เสียงเอย บลาๆๆ ส่วนเราได้แต่ยิ้มอยู่ในใจ เอาล่ะ สิ่งที่เรารอคอย เขาก็มาแล้ว ความตึงเครียดของเราลดไปส่วนหนึ่ง ในขณะที่เหล่าคนงานกำลังตัดถนนกันอย่างขะมักเขม้น ก็มีเหตุการณ์เกิดขึ้น (จะไม่กล่าวถึงเขาคงไม่ได้) ก็มีช่างคนหนึ่งมาขอต่อไฟจากออฟฟิตของคุณแม่ คุณแม่ก็ถามไปเรื่อยๆว่าต่อไปทำไม ทำอะไร ฯลฯ ช่างคนนี้เป็นผู้รับเหมาช่วง ได้งานชาวงมาทำงานระบบท่อระบายน้ำอีกต่อหนึ่งคู่กับถนนเส้นนี้ จากการที่พูดคุยกันถูกคอ และ ไม่รู้ว่าจะคิดเงินอย่างไรด้วย คุณแม่ก็ให้ต่อไฟใช้ไปอีกหลายสัปดาห์ “โดยไม่คิดสตางค์” ในต่อๆไปผมจะขอเรียกเขาว่า ช่างที จากคุณ : มาม่ากับปลากระป๋อง เขียนเมื่อ : 16 ก.ค. 55 14:12:40

ความคิดเห็นที่ 20 เวลาผ่านไปอีกอึดใจ ถนนก็ตัดผ่านหน้าร้านไปเรียบร้อย เราก็เลยให้คนมาตัดหญ้า เอารถไถมาไถที่ให้เรียบๆและเรี่ยมๆ ที่จริงก็ยังไม่ได้ตัดสินทำอะไรกับที่นี้เพียงแค่คิดว่า มันรกและไม่น่าดู หลายวันผ่านไป วันนั้นจำได้แม่นเวลาประมาณ สามทุ่มกว่าๆ ในขณะที่ผมกำลังนั่งชิลล์เบียร์พอกึ่มๆกับเพื่อนสนิทคนหนึ่ง ณ ร้านอาหารป่า เสียงโทรศัพท์เรียกเข้า ชื่อว่า “คุณแม่” โทรมา “สวัสดีครับผม” “อยู่ไหนเนี่ย ลูก” “กินข้าวอยู่กับแอร์ครับแม่” “แม่มีเรื่องจะเล่าให้ฟัง” “เรื่องอะไรครับแม่” “เราจำที่ดิน แปลงที่เลยที่เราไปได้มั้ยที่เค้าติดป้ายขายหนะ?” “อ๋อ แปลงที่เลยที่เราไป ประมาณ 500 เมตร ที่อยู่ติดถนนเหมือนกันใช่มั้ยแม่?” “นั่นล่ะ ที่เราบอกกันว่าที่ไม่เรียบต้องถมสักหน่อยนั่นแหละ เขาขายไปแล้วนะ” “เหรอครับแม่ เค้าขายไปเท่าไหร่อ่ะครับ?” “สามล้าน เนื่อที่ 120 ตรว.” ผมจำประโยคต่อๆไปไม่ได้แล้ว เพราะ แลเหมือนว่าความอัดอั้นตันใจ และความเครียดที่เราเก็บไว้ในใจนับปี มันได้ทะลายล้นออกมาข้างนอก ออกมาเป็นรอยยิ้ม และหน้ารู้สึกร้อนผ่าว(เป็นเพราะเบียร์หรือป่าวก็ไม่รู้ เนอะ 555+) ในใจคิดเพียงแต่ว่า ที่ดินเรามีเนื้อที่มากกว่า ทำเลดีกว่า ราคาที่ดินของเราต้องมากกว่านี้แน่นอน และก็เป็นจริงดังว่า... มีคนเสนอราคาให้เราหลายรายด้วยกัน และราคาสุดท้ายมีคนเสนอให้เราคือที่ สามล้านห้า ระยะเวลาเพียงปีเศษกับกำไรล้านห้า เราควรจะตัดใจขายที่แปลงนี้ไหม? เพราะกำไรมันเร้าใจเหลือเกิน จากคุณ : มาม่ากับปลากระป๋อง เขียนเมื่อ : 16 ก.ค. 55 14:28:51

ความคิดเห็นที่ 21 มาให้กำลังใจครับ จากคุณ : ซ่อมคอมถึงบ้าน เขียนเมื่อ : 16 ก.ค. 55 14:44:31

ความคิดเห็นที่ 22 มารออ่านอยู่คะ จากคุณ : สายหนึ่งอยุธยา เขียนเมื่อ : 16 ก.ค. 55 14:48:04

ความคิดเห็นที่ 23 เราแทบไม่ต้องคิดเลยว่าจะขายที่แปลงนี้หรือไม่ เราไม่ขายแน่นอน เพราะเรามั่นใจว่าราคามันต้องไปอีก และ เราสามารถต่อยอดได้อีกจากที่แปลงนี้ได้ ในเมื่อเราไม่ขายแล้วเราจะจัดการกับที่ดินนี้อย่างไร ถ้าเราเลือกที่จะต่อยอด นั่นคือ ปล่อยเช่า เราปล่อยเช่าเพื่อรอเวลา รอให้เราสะสมเงินได้มากพอ ผมประมาณว่าอย่างน้อยต้องมากกว่า 8 ปีกับเงินจำนวน ไม่น้อยกว่า 7 ล้าน 8 ปีกับ 7 ล้าน วางแผนอย่างไร? หลังจากการประกาศให้เช่า มีคนมาติดต่อหลายราย ร้านเครื่องพลาสติกเอย ร้านขายข้าวก็มี มีบางรายขอเช่าเพื่อไปทำเพิงเพื่อจัดสรรต่ออีกทอด ในท้ายที่สุด เราทำสัญญาให้เช่าระยะยาวไป 8 ปีกับคนรู้จักที่สนใจจะทำ “คาร์แคร์” ที่สร้างแบบในรูปแบบมีมาตรฐาน ทำให้ทัศนีย์ภาพในแถบนั้นไม่เสียไป ราคาเช่าที่ดินเปล่า ที่ระบุในสัญญาคือ 8,000 บาทต่อเดือน ใน 2 ปีแรก 10,000 บาทต่อเดือน ใน 3 ปีถัดมา 12,000 บาทต่อเดือน ใน 3 ปีสุดท้าย ในระยะเวลาแปดปี ผมจะได้รับเงินจากค่าเช่าที่ดิน 984,000 บาท นี่คือสัญญาที่เราระบุไว้ สรุปที่ดินแปลงหน้าก็จบไป จากคุณ : มาม่ากับปลากระป๋อง เขียนเมื่อ : 16 ก.ค. 55 14:51:38

ความคิดเห็นที่ 24 แต่ที่ดินทำเลดีๆแบบนี้ ที่ดินแปลงอื่นๆก็น่าสนใจเช่นกัน อยากได้ไว้ในครอบครอง แต่เงินไม่มี ทำไง!!!! จากคุณ : มาม่ากับปลากระป๋อง เขียนเมื่อ : 16 ก.ค. 55 14:53:34

ความคิดเห็นที่ 25 ตามอยู่นะครับ จากคุณ : Restarted เขียนเมื่อ : 16 ก.ค. 55 15:06:33

ความคิดเห็นที่ 26 ครอบครัวผมกำลังวางแผนซื้อมาขายไปเหมือนกันครับ กำลังระดมทุนขายที่ กับบ้านอยู่ เรื่องที่นี่ไม่ค่อยเท่าไหร่ แต่บ้านนี่ผมเกือบร้องไห้เลยครับ เพราะเป็นบ้านที่ผมโตมาตั้งแต่เด็กๆ พอรู้ว่าวันนึงผมจะต้องขายเขา มันก็อดน้ำตาไหลไม่ได้ เลยบอกกับตัวบ้านละครับว่า เราไม่ได้ขายหรอกนะ แค่เปลี่ยนเจ้าของ เราสัญญาว่าความทรงจำดีๆกับบ้านหลังนี้จะติดตัวไปตลอด จากคุณ : พี่คับก๋วยจั๊บชาม เขียนเมื่อ : 16 ก.ค. 55 15:24:31

ความคิดเห็นที่ 27 การที่เราศึกษาข้อมูลและวิเคราะห์ให้มากที่สุดและมากเพียงพอ จะทำให้ความเสี่ยงที่อาจเกิดจากการลงทุนนั้นน้อยลง (ผมขอละ กระบวนการขั้นตอนของผมออกไปนะครับเพราะมันจะทำให้กระทู้ยืดยาวออกไป) >>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>> จากประโยคเหล่านี้ ผมกลับอยากได้ แนวคิด และกระบวนการวิเคราะห์ของคุณน่ะครับ มัน่จะเป็นวิทยาทาน แก่ทุกท่านน่ะครับ ไม่ทราบว่าช่วยแชร์ แนวคิด การวิเคราะห์ด้วยจะได้ไหมครับ ขอบคุณมากมากครับผม จากคุณ : mix_more เขียนเมื่อ : 16 ก.ค. 55 15:43:39

ความคิดเห็นที่ 28 ช่วงนั้นใจมันหวิวมากครับคุณพี่คับก๋วยจั๊บชาม ... ขอเป็นกำลังใจครับ .... อยากได้ที่ เงินสดไม่มี แต่ทรัพย์สินยังมี ผมขอเรียกกระบวนการนี้ว่า “กระบวนการเปลี่ยนแปลงรูปแบบทรัพย์สิน” เราขาย ถ่ายทรัพย์สินออกไปมากมาย เราขายที่ดินแปลงอื่นออกไป ขายทาว์เฮาส์ไปอีกหลัง ถอนพันธบัตรรัฐบาล (พอดีครบวาระ) ถอนเงินลงทุนในหุ้น (แทบทั้งหมด) รวบรวมเงินลงทุนได้ ล้านนิดๆ  แทบจะเรียกได้ว่าเทเกือบหมดหน้าตัก เพื่อไปลงในทรัพย์สินรูปแบบใหม่ ที่เราคาดหวังว่าจะให้ผลตอบแทนที่คุ้มค่ากว่า >>>อย่าเชื่อผมแต่จงเชื่อในการวิเคราะห์และข้อมูลของท่านเอง <<< >>การลงทุนมีความเสี่ยง โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน << เพราะเกมธุรกิจมันกำลังจะเริ่มจากนี้ แก้ไขเมื่อ 16 ก.ค. 55 16:06:32 จากคุณ : มาม่ากับปลากระป๋อง เขียนเมื่อ : 16 ก.ค. 55 15:50:43

ความคิดเห็นที่ 29 มาอยู่เป็นเพื่อนค่ะ :) จากคุณ : สติไม่มาปัญญาช้อปเกิด เขียนเมื่อ : 16 ก.ค. 55 16:16:41

ความคิดเห็นที่ 30 ซื้อขายที่ก็สนุกดีเหมือนกันนะครับ ผมกับพี่ชาย ก็เคยซื้อมาเก็งกำไรอยู่หลายเคสเหมือนกัน เช่น -ซื้อแถวบางแสน 50ตรว 2แสนกว่า อีกเดือนครึ่ง ขายไป5แสน -ซื้อที่ใกล้บ้านที่ต่างจังหวัด 390 ตรว 3หมื่น2 แบ่งขายทันทีไป190ตรว 4หมื่น เหลือไว้ขายอีก200 ตรว ผ่านไป2ปีแล้ว ถ้าขายคงแสนขึ้น   แต่อีกทีหนึงยังเสียดายไม่หาย แถวบ้านขาย50ไร่ ล้านสอง มียูคาปลูกเต็มแปลง ติดถนนลูกรังอีกหน่อยก็เทคอนกรีต ราคานี้เมื่อ2ปีที่แล้ว ตอนนี้ไร่ละแสนแล้ว ติดอย่างเดียวคือไม่มีทุน จากคุณ : 55 (yunisoft) เขียนเมื่อ : 16 ก.ค. 55 16:29:49

ความคิดเห็นที่ 31 ยอดเลยครับ พ่อแม่ผมก็เหมือนกัน ซื้อบ้านมาทิ้งไว้ 20 เดือน ขายต่อได้กำไร 1 ล้านเศษๆ ผมก็ลุ้นเหมือนกับคุณเลย เพราะกลัวขายไม่ออก ไปทีไรเห็นบ้านฝุ่นจับ จากคุณ : ยอดชายนายซานต้า เขียนเมื่อ : 16 ก.ค. 55 16:34:03

ความคิดเห็นที่ 32 คุณmix_more ผมขอแนะนำหนังสือของอาจารย์ท่านนี้ครับ อ.อนุชา กุลวิสุทธิ์ ท่านเขียนสรุปได้อ่านเข้าใจง่ายมากๆครับ ผมอ่านหลังสือ "ลงทุนในอสังหาริมทรัพย์แบบมืออาชีพ" เป็นเล่มแรก หลังจากนั้นก็ตามอ่านหนังสือของท่านเรื่อยมา ครอบครัวผมอยู่ต่างจังหวัด แต่ถึงกระนั้นผมก็สมัครและให้คุณแม่เข้าไปลงเรียนกับท่านที่ ม.เกษตร (บางเขน) นู่น หลังจากคุณแม่จบคอสคุณแม่ก็เอาตำรามาให้ผมนั้งศึกษาต่ออีกที ผมเลยขอเป็นลูกศิษย์ของท่านเลยทีเดียว (ท่านไม่รู้หรอกผมตั้งตัวเป็นลูกศิยษ์เอง 555+) จากคุณ : มาม่ากับปลากระป๋อง เขียนเมื่อ : 16 ก.ค. 55 16:57:08

ความคิดเห็นที่ 33 ทุนมีแล้ว จัดมาแล้ว ดังนั้นเลือกที่แปลงไหนดี? ราคาที่ดิน สนนราคาที่ เลข 1 ที่น้อยกว่าเพื่อน ราคาท่อนละประมาณ 8 แสนบาท เลข 2,3,4,5,6,7,8,9,11,13,14,15,16 ราคาท่อนละ 1 ล้านบาท เลข 10, 12 ราคาท่อนละ 2 ล้านบาท ข้อมูลเพิ่มเติมคือ ณ เวลานั้นกำแพงรั้วกันที่ดินตั้งแต่เลข 1 ถึง 7 พังทั้งแถบ ถ้าวันไหนฝนตกมากๆ น้ำมาเยอะๆ น้ำสีแดงๆจะไหลทะลัก จากเลข 7 พุ่งลิ่วมาออกที่หน้าหมู่บ้าน (ผ่านเลข 5,3,2,1) เลยทีเดียว จากคุณ : มาม่ากับปลากระป๋อง เขียนเมื่อ : 16 ก.ค. 55 17:21:21

ความคิดเห็นที่ 34 รออ่านค่ะ^^ จากคุณ : ป้าอุ่น เขียนเมื่อ : 16 ก.ค. 55 17:37:50

ความคิดเห็นที่ 35 รออ่านต่อค่ะ จากคุณ : twin peaks เขียนเมื่อ : 16 ก.ค. 55 17:43:05

ความคิดเห็นที่ 36 ที่ดินที่เราสนใจเราจะนำที่ดินที่ซื้อพัฒนาสร้างทาวน์เฮ้าส์ เราเล็งอยู่ 2 แปลง คือ 1 และ 15 แปลงที่ 1 -ออฟฟิตแม่มีความประสงค์จะซื้อที่ต่อจากเราส่วนหนึ่งเพื่อทำโกดัง -ใกล้ทางออกมากที่สุด น่าจะขายได้ง่ายกว่า แปลงที่ 15 -ติดสวนสาธารณะของหมู่บ้าน -ถนนหน้าบ้านขนาดใหญ่กว่า โอเคเราสนใจอยากได้ที่หนึ่งในสองแปลงนี้ เราเลยโทรไปหาคุณ J เราเลยรู้ว่ามีคนจองแล้ว..... อ้าว เอาแล้วไง งานมาแล้ว เพราะ ใครจอง? ไม่สำคัญเท่า จองไปทำอะไร? จากคุณ : มาม่ากับปลากระป๋อง เขียนเมื่อ : 16 ก.ค. 55 17:43:37

ความคิดเห็นที่ 37 ติดตามอยู่นะคะ ขอบคุณที่มาแชร์แนวคิดและประสบการณ์ค่ะ จากคุณ : MonaliZa^^ ($an-Dee) เขียนเมื่อ : 16 ก.ค. 55 17:46:39

ความคิดเห็นที่ 38 จังหวะนี้ ถ้าเค้าจองไปเพื่อสร้างขาย เค้าจะเป็น คู่แข่ง ทันที เราติดต่อหาคุณเจดังนี้ “คุณเจพี่สนใจที่เปล่าแปลงที่ 15” “แปลงที่ 15 เหรอครับพี่ มีคนจองแล้วครับ” “อ้าวเหรอ ใครล่ะ?” “เห็นพี่เค้าบอกว่าเค้าชื่อ คุณเอส เขาเป็น ......... ” “อืมเหรอ แล้วเค้าซื้อไปทำอะไร คุณเจได้ถามเค้าหรือเปล่า?” “เห็นเขาแจ้งผมว่าที่แปลง 15 เค้าจะซื้อไว้ปลูกบ้านนะครับ” ได้ฟังดังนั้นก็โล่งอก เพราะคิดว่าอย่างน้อยคู่แข่งก็ยังไม่เข้ามาในเวลานี้ แต่การสนทนายังไม่จบ.... “แต่คุณเอส เขาซื้อแปลงที่ 13 ไว้ด้วยนะครับ เห็นเขาบอกผมว่าแปลงนี้เขาจะสร้างทาวน์เฮ้าส์ขาย” นั่นไง คนที่เห็นโอกาสเหมือนเรา เขามาแล้วคู่แข่ง “รายที่ 1” หลังจากนั้นเราก็อัพเดทว่ามีแปลงไหนบ้างที่โดนจองไปแล้วบ้าง สรุปแปลงที่ 16 มีคนซื้อไปเพื่อปลูกบ้านพักอาศัย ซื้อไปสร้างบ้านอยู่เองเราก็สบายใจไป และจากที่ฟังคุณเจเค้าไปพลักดันขายบ้านทาวน์เฮ้าที่เหลืออยู่ก่อนที่ดินเปล่า เราเลยได้ประโยชน์จากจุดนี้ไปด้วย จากคุณ : มาม่ากับปลากระป๋อง เขียนเมื่อ : 16 ก.ค. 55 18:12:50

ความคิดเห็นที่ 39 ผมกะว่าจะลากยาวให้จบในวันนี้ แต่ไม่จบครับ จะต้องปิดออฟฟิตแล้ว เดี๋ยวกลับไปกินข้าวที่บ้านไม่ทัน จะโพสต่อที่บ้านก็ไม่ได้เพราะไม่มีอินเตอร์เน็ต (บ้านในสวน) สัญญาว่าคืนนี้จะไปพิมพ์มายาวๆ พรุ่งนี้เข้างานปุ๊ป โพสต่อเนื่องกันเลย สวัสดียามเย็นครับ ปล. รูปบ้านในสวนของผมครับ ดัดแปลงจากบ้านมีใต้ถุนยกสูง ขุดบ่อปลาหน้านิดหน่อย จากคุณ : มาม่ากับปลากระป๋อง เขียนเมื่อ : 16 ก.ค. 55 18:23:52

ความคิดเห็นที่ 40 ตามติดอยู่ครับ จากคุณ : เถียร เขียนเมื่อ : 16 ก.ค. 55 18:53:21

ความคิดเห็นที่ 41 เอาใจช่วยนะคะ ขอให้ได้ผู้ร่วมทุนน้ำใจงามด้วยนะคะ จากคุณ : jureejung เขียนเมื่อ : 16 ก.ค. 55 19:43:16

ความคิดเห็นที่ 42 ขอแสดงความยินดีค่ะ รออ่านอยุ่ค่ะ   แต่ อยากถามว่า แผนผังอสังหาริมทรัยพ์ ของ คุณมาม่ากับปลากะป๋อง อยุ่ที่ระยองหรือเปล่าค่ะ จากคุณ : zumozuma เขียนเมื่อ : 16 ก.ค. 55 19:55:25

ความคิดเห็นที่ 43 สุดยอดครับ คนเราจะรวยได้เร็วๆ ส่วนหนึ่ง ต้องมีเงินด้วยละครับ มีเงินเยอะ ก็รวยเร็ว ส่วนตัวผมเองนั้น ทุนมีไม่กี่พัน (กำลังเรียนอยู่) กำลังเริ่มไปเรื่อยๆ จากมีเจ็คร้อยบาททุมหมดตัวจริงๆเลย  กำลังจะกลายเป็น  หนึ่งพัน สองพัน สามพัน สี่พัน กว่าจะถึงล้านนี้กี่ปีวะ  ชาตินี้หรือชาติไหนนิ  555 อ่านสนุกดีครับ ขอติดตามไปด้วยคน จากคุณ : Honza_Like a ku เขียนเมื่อ : 16 ก.ค. 55 20:06:01

ความคิดเห็นที่ 44 ลงชื่อรออ่านต่อนะคะ อสังหาน่าเล่นจริง ๆ แต่ต้องมีทุนหนาพอสมควรนะเนี่ย จากคุณ : fantastic GiRL เขียนเมื่อ : 16 ก.ค. 55 22:02:49

ความคิดเห็นที่ 45 อ่านสนุกมากๆค่ะ ที่บ้านก้อเก็บเกี่ยวรายได้จากอสังหาเหมือนกัน แต่ไม่ได้ซื้อมาขายไป จัดสรรให้เช่าซะส่วนใหญ่ อ่านกระทู้นี้แล้วมันสนุกบอกไม่ถูกเลยค่ะ รออ่านต่อนะคะ จากคุณ : Thundergirl เขียนเมื่อ : 16 ก.ค. 55 22:27:49

ความคิดเห็นที่ 46 ติดตามอยู่นะครับ จากคุณ : giselle26 เขียนเมื่อ : 16 ก.ค. 55 22:31:20

ความคิดเห็นที่ 47 สนุกดีครับ จากคุณ : Bierhoff เขียนเมื่อ : 17 ก.ค. 55 00:47:58

ความคิดเห็นที่ 48 สวัสดียามเช้าครับทุกท่าน เก็บภาพ ยามเช้ามาฝากครับ ....[^,^]... จากคุณ : มาม่ากับปลากระป๋อง เขียนเมื่อ : 17 ก.ค. 55 08:56:50

ความคิดเห็นที่ 49 คุณzumozuma ถูกต้องนะครับ ....[^,^]... ผมเดาว่า คุณzumozuma น่าจะอยู่ใกล้ๆผมนะครับ เอ หรือไม่ คุณzumozuma ก็น่าจะทำงานอยู่ในวงการอสังหาฯ 555+ คุณHonza_Like a ku ทุกอย่างสามารถค่อยๆไปได้ครับ ใจสู้ไว้ก่อน ....[^,^]... คุณThundergirl โดยพื้นฐานที่จริงแล้วผมชอบปล่อยเช่าเก็บยาวๆมากกว่า เสียว(เสี่ยง)น้อยได้ผลนาน แต่ก็มีกรณีนี้ล่ะครับที่ต้องกระโจนเข้าไปในวง (ภายภาคหน้าค่อยว่ากันใหม่) มาต่อกันครับ ในเมื่อแปลง 15 โดนซิวไปแล้ว เราก็จำต้องเลือกแปลง 1 เราซื้อในนามบริษัทที่เราจดขึ้นใหม่ แปลงที่ 1 ติดปัญหาตรงที่กำแพงพัง เราคิดว่าเราสามารถรับต้นทุนที่เพิ่มขึ้นจากการสร้างกำแพงในส่วนของเราเองได้ อย่างที่ผมได้กล่าวไปว่ากำแพงด้านซ้ายของหมู่บ้านพักเกือบทั้งหมด ในช่วงเวลานั้น เราก็พลักดันให้ แจกแจงให้คุณเจเห็นถึงข้อดีถึงการซ่อมกำแพงที่พังๆเหล่านั้น หลังจากการชี้แจงหลายๆครั้งเข้า การการชี้แจงปนเกลี้ยกล่อมจึงประสบผล คุณเจโทรมาถามว่าเรามีช่างที่รับงานทำกำแพงนี้หรือไม่? อยากให้ทำใบเสนอราคาให้ เรานึกถึงช่างทีขึ้นมา เราเลยให้ช่างทีติดต่อเข้าไปหาคุณเจ จากคุณ : มาม่ากับปลากระป๋อง เขียนเมื่อ : 17 ก.ค. 55 09:02:12

ความคิดเห็นที่ 50 ขอตามแต่เช้าเลยนะครับ...สนุกดี จากคุณ : Restarted เขียนเมื่อ : 17 ก.ค. 55 09:27:44

ความคิดเห็นที่ 51 ในระยะเวลาผ่านไปเพียงไม่กี่สัปดาห์ หลังจากการประกาศขายแยกแปลง โดยเรายึดแปลงหน้าสุด กับ แปลงที่ 1 ไว้แล้ว ในช่วงเวลานี้ของการช่วงชิงพื้นที่ทำเลทอง!!!!! เราคาดว่าโอกาสดีๆนี้ มีผ่านมาครั้งเดียว ผ่านแล้วผ่านเลยแน่นนอน เราแปลงรูปแบบทรัพย์สินอีกครั้ง จาก ทองคำ สู่เงินสด และระดมเงินส่วนละนิดละหน่อยจากอีกหลายช่องทาง เราเกิดรวบรวมเงินเฮือกสุดท้ายเพื่อกระโจนลงไปแย่งชิงทำเลทอง เรารู้เลาๆว่าธนาคารจะสร้างกำแพงให้ แต่ยังไม่มีข้อมูลยืนยันใดๆ เราเลยไม่มั่นใจว่าจะยังไงกับทำเลด้านหน้า เพราะช่วงนั้นน้ำเข้ามาจากแปลง 7 ไหลท่วมไล่ลงมา 6 5 4 3 2 และแปลงของเราก่อนออกถนนแพงด้านบน เรากระโดดไปวางดาวน์(ผ่อน)กันท่าในแปลงที่ 12 เพื่อชิงทำเลก่อน เราคิดถูกเพราะ คุณเอส จองเข้าหลังเราไปเพียงไม่กี่วัน คุณเอส หันไปชิงทำเลที่ แปลง 10 และ 14 และคุณเอสชักชวน “ช่างคนสนิท” (คุณเอ คู่แข่ง “รายที่ 2”) ซื้อแปลง ที่ 11 เราตกลงปลงใจล็อกที่แปลง 2 ไว้อีกจุดหนึ่ง ในที่สุดเราก็ใช้เงินทุนเฮือกสุดท้ายแทบสิ้น.... จากคุณ : มาม่ากับปลากระป๋อง เขียนเมื่อ : 17 ก.ค. 55 09:42:05

ความคิดเห็นที่ 52 ในขณะที่แผนในแผ่นกระดาษที่อยู่ในมือมันฟ้องไว้แล้วว่าเงินจะหมดเราต้องหาทางเตรียมไว้ ซื้อที่ดินเงินก็หมดหน้าตักแล้วทำอย่างไรดี? จะเอาเงินที่ไหนสร้าง? ในเมื่อ “เงินกู” เทหมดหน้าตักไปแล้วก็คงต้องถึง คราว “เงินกู้” แล้วครับ ยามนี้เราทำให้เราได้ตระหนักว่า >จงรักษาเครดิตตัวเราให้ดีๆ ไม่ว่าจะกับธนาคารหรือคู่ค้า ญาติพี่น้อง< เพราะในเวลาที่เราต้องการเขา เขาเหล่านี้จะเต็มใจที่จะช่วยเราก็ต่อเมื่อเรามีเครดิตดีและน่าเชื่อถือ เราใช้เงินกู้จาก 2 แหล่ง หนึ่ง ญาติ ด้วยความที่ครอบครัวเรา มีเครดิตดีและน่าเชื่อถือเสมอมา ญาติๆหลายคนเต็มใจให้เรากู้ยืม (ที่สำคัญ เรายืมเฉพาะญาติที่เราสนิทเท่านั้น) เรากู้ยืมญาติหลายคน ด้วยเงื่อนไขดังนี้ เราทำสัญญาเป็นรายลักษณ์อักษรชัดแจน เราจ่ายดอกเบี้ยรายเดือนที่อัตราร้อยละ 8 ต่อปี เราใช้โฉนดที่ดินค้ำประกันการกู้ยืม เราให้สิทธิซื้อบ้านที่เราสร้างในราคาพิเศษ ตามจำนวนที่ให้เรากู้ยืม เจ้าหนี้จะเรียกคืนเงินต้นเมื่อใดก็ได้แต่ต้องแจ้งเราล่วงหน้าอย่างน้อย 3 เดือน สอง ธนาคาร เราต้องการกู้ระยะกลางเราลองติดต่อไปหลายธนาคารแต่ก็ไม่เป็นผลเท่าใดนัก เราจึงตัดสินใจใช้จะเงินระยะสั้น O/D เมื่อยาม กระแสเงินสดขาดมือ เราจะรู้ได้อย่างไรว่า เงินจะขาดมือ หลักง่ายๆที่ผมใช้ประจำคือคาดการณ์รายได้และคาดการณ์ค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้นในอนาคต แล้วนำไปลงบันทึก โดยเรียงตามลำดับเวลา   ได้เงินตอนไหน จ่ายวันไหน เรียงไปเรื่อยๆ ถ้าเงินขาดมือ เราจะเห็น ตัวเลขตัวแดงๆ ก็จะปรากฏให้เราเห็น ปล. ตัวเลขที่ปรากฏในภาพอาจไม่ตรงกับความเป็นจริงที่ทำ เพราะมันเปลี่ยนแปลงตลอด และเอกสารชุดนี้ผมจัดทำไว้ก่อนทำจริงนานพอสมควร ดูพอเป็นแนวทางนะครับ หาไฟล์ฉบับปรับปรุงไม่เจอผ่อนชำระค่าที่จริง ประมาณ 17,000 ใน ภาพ ฉบับเดิมแค่ 10,000 แก้ไขเมื่อ 17 ก.ค. 55 09:59:12 จากคุณ : มาม่ากับปลากระป๋อง เขียนเมื่อ : 17 ก.ค. 55 09:46:22

ความคิดเห็นที่ 53 ใช่ ตามที่ คาดการณ์ จริง ๆ ค่ะ Zumozuma อยู่ ระยอง ค่ะ แต่ ไม่ได ทำ อสังหาริมทรัพย์ ค่ะ กำลัง คิดอยาก จะทำแบบ คุณ มาม่ากับปลากระป๋องเหมือนกัน ขอเดาอีกนิดว่า อำเภอ นิคมพัฒนา แถว ๆ กม 12 หรือ เปล่า ค่ะ มาเขียน ต่อ ด่วน เลยค่ะ กำลังสนุกเลยค่ะ จากคุณ : zumozuma (zumozuma) เขียนเมื่อ : 17 ก.ค. 55 09:49:52

ความคิดเห็นที่ 54 คุณZumozuma ครับอย่างนั้นไม่เรียกเดาแล้วครับ เค้าเรียกรู้เลยดีกว่า 5555+ มาต่อเลยครับ... "ทำอย่างไรเมื่อขายได้ ไม่สำคัญ เท่ากับ ทำอย่างไรเมื่อขายไม่ได้" ผมตระหนักเสมอถึงเหตุการณ์ที่แย่ที่สุดที่จะเกิดได้กับกิจการ มีแผนหนึ่ง ก็ต้องมีแผนสอง และต้องมีแผนสามกันพลาด เราเทเงินหมดหน้าตัก เรากู้หนี้ยืมสิน เราจะทำอย่างไรเมื่อบ้านที่เราสร้างขายไม่ได้? แผนในกรณีที่เลวร้ายที่สุดคือ ผมกู้จะซื้อบ้านที่ตัวเองสร้าง กู้คนเดียวไม่ผ่านก็กู้ร่วมเข้าไป แล้วนำเงินที่ได้จากการกู้มาให้หนี้เจ้าหนี้ทั้งหมด แล้วบ้านที่ขายไม่ออกล่ะ? คำตอบคือปล่อยเช่า นี่คือแผนสำรองขั้นสุดท้ายของผม จากคุณ : มาม่ากับปลากระป๋อง เขียนเมื่อ : 17 ก.ค. 55 09:55:37

ความคิดเห็นที่ 55 วนเข้ามาอีกรอบครับ จากคุณ : RAORUE เขียนเมื่อ : 17 ก.ค. 55 10:00:52

ความคิดเห็นที่ 56 หลายสัปดาห์หลังจากนั้น ช่างทีโทรกลับมาหาคุณแม่และขอบคุณเป็นการใหญ่ ที่ทำให้เขาได้งานทำกำแพงจากธนาคาร ช่างทีเสนอค่าตอบแทนให้สำหรับค่าแนะนำ แน่นอนว่า....เราไม่รับ แม่ผมถามต่อไปว่า ช่างทีสนใจงานสร้างทาวน์เฮ้าหรือเปล่า? ช่างทีตอบตกลง พร้อมกันนั้นเราได้คุยผู้รับเหมาหลายรายเพื่อเปรียบเทียบและหาข้อมูล ระหว่างนั้นเราก็ แบ่งแยกที่ดิน ออกแบบ ขออนุมัติก่อสร้าง ฯลฯ ในท้ายที่สุดเราก็เลือก ช่างที ให้เป็นผู้รับเหมาที่จะสร้างบ้านให้แก่เรา จากคุณ : มาม่ากับปลากระป๋อง เขียนเมื่อ : 17 ก.ค. 55 10:16:04

ความคิดเห็นที่ 57 เมื่อกำแพงเสร็จธนาคารลงทำการตลาด ช่วงเวลานี้ของการช่วงชิงพื้นที่ก็เกิดขึ้นอีกครั้ง เราหมดหน้าตักไปแล้ว เราจึงต้องนั่งมองคนอื่นเค้าซื้อที่ ตาปลิบๆ (5555+) ช่วงนี้เป็นช่วงที่เราต้องเตือนสติตัวเองให้มากที่สุดว่า... >>>จงอย่าโลภมาก<<< ความโลภมากไปจะทำให้เราดึงดัน จนอาจจะเราขัดสนเงินมากไปกว่านี้ จนแผนล้มทั้งกระดาน เพราะหนี้เท่านี้ที่เรามีก็ตึงมือมากพอดูแล้ว ที่เราทำได้คือ แนะนำให้คนรู้จักเข้ามาซื้อ ในที่สุดเราก็ยุช่างทีขึ้น ช่างที่เลือกแปลงที่ 9 กะไว้สร้างบ้านอยู่เอง และ แปลง 7 เพื่อขาย เราไปดูภาพการช่วงชิงพื้นที่ครั้งที่สองกัน ****แก้ไขครับ บอกที่ผิดแปลง**** แก้ไขเมื่อ 17 ก.ค. 55 10:42:50 จากคุณ : มาม่ากับปลากระป๋อง เขียนเมื่อ : 17 ก.ค. 55 10:17:05

ความคิดเห็นที่ 58 รอติดตามอยู่นะคะ  สนใจอสังหาเหมือนกันค่ะ  แต่ทุนน้อยคงต้องค่อย ๆ เก็บไปก่อน จากคุณ : เจ๋อน้อยน้อย เขียนเมื่อ : 17 ก.ค. 55 10:31:53

ความคิดเห็นที่ 59 ดิฉันติดตามอยู่คะ  แต่แย้งนิดนึง ตกลงว่าที่แปลงที่ 10 นี่ของใครกันแน่คะ  เลื่อนขึ้นไปดู คห. 51 แปลงที่ 10 เป็นของคุณเอสไม่ใช่เหรอ? จากคุณ : lol lol lol เขียนเมื่อ : 17 ก.ค. 55 10:36:10

ความคิดเห็นที่ 60 ขอบคุณมากๆครับ คุณ lol lol lol ผิดจริงๆด้วยเรายุช่างที 9 และ แปลง 7 ครับ มาต่อกันครับ... ผมสร้างทาวน์เฮ้าส์ขายไปสี่หลัง ผมตั้งราคาขายไม่สูงเพราะผม ทำเองขายกันเอง ขายคนที่เรารู้จักที่ต้องการได้บ้านของเรา ผลปรากฏว่าเป็นที่น่าพอใจ เราขายไปสามหลังอย่างรวดเร็ว ส่วนอีกหลังมีคนมาขอซื้อเยอะมาก แต่เราก็ตัดสินใจไม่ขาย เพราะเป็นหลังแรกที่เราไปลงเสาเอก เราจะเพื่อเก็บไว้เป็นมรดกให้ลูกหลาน เราจะได้บอกว่านี่คือจุดเริ่มต้นของกิจการเรา โดยคุณแม่เราเป็นคนลงเสาเอกต้นนี้เองกับมือ บ้านหลังนี้ปัจจุบันมีเราปล่อยเช่า รูปลงเสาเอก กิจการจะรุ่งเรื่องก็จากคำอวยพรและสิ่งดีๆที่ และข้าวตอก ดอกไม้ที่คุณแม่ใส่ลงไปในเสาเอกนี่ล่ะครับ จากคุณ : มาม่ากับปลากระป๋อง เขียนเมื่อ : 17 ก.ค. 55 10:41:59

ความคิดเห็นที่ 61 ขอถามแทรกนิดนึงนะคะ การกู้แบงค์นี่ เห็นช่วงแรกๆ ที่คุณมาม่ากับปลากระป๋องกู้ธนาคารในนาม นิติบุคคล ไม่ทราบมีผลดีอย่างไรคะ ต่างจากกู้ในนามบุคคลธรรมดาอย่างไร ขอบคุณค่ะ จากคุณ : ติดตามอ่านอยู่นะคะ (kopukan) เขียนเมื่อ : 17 ก.ค. 55 10:45:32

ความคิดเห็นที่ 62 ไม่ทราบว่า คุณมาม่ากับปลากระป๋อง  มี เบอร์ ติดต่อ ช่างที หรือเปล่า ค่ะ ราคารับเหมา แพง หรือ เปล่า ค่ะ จากคุณ : zumozuma เขียนเมื่อ : 17 ก.ค. 55 10:58:44

ความคิดเห็นที่ 63 คุณ kopukan “บุคคลธรรมดา” กับ “นิติบุคคล” ขณะนั้น “ศักยภาพทางการเงินของบุคคลธรรมดา” มีมากกว่าครับ มีรายได้ชัดเจน มีรายจ่ายตรวจสอบได้ บัญชีธนาคารเดินมาดีหมด แต่ในขณะเดียวกัน นิติบุคคล พึ่งเกิดหมาดๆ บริษัทพึ่งจดทะเบียน ไม่มีความน่าเชื่อถือ ไม่มีงบการเงิน เราจึงไม่ได้กู้ธนาคารเลย เงินสดล้วน เพราะกู้ไปน่าอนุมัติยากครับ เช่นที่ดินแปลง 12 ผมกู้ในนามบุคคลธรรมดาครับ นอกประเด็นนิดนึงนะครับ ผมเคยติดต่อขอกู้ซื้ออาคารพาณิชย์ เพื่อเป็นที่ทำการของบริษัท ช่วงนั้นบริษัทยอดขายและกำไรก็พอไปได้(ยอดขาย สิบล้าน+ กำไรพอมีบ้าง) แต่ธนาคารจะไม่อนุมัติให้เราเพราะ ขาดเงื่อนไขที่สำคัญข้อหนึ่งคือ เปิดดำเนินการมาไม่ถึงสามปี (ผมเปิดมาได้ สองปี เป็นต้น ข้อมูลเพิ่มเติม จากที่ผมโทรสอบถาม ธนาคารจะปล่อยให้กู้เพื่อสร้างขายเป็นรายกรณีไป และจากที่ผมโทรสอบถาม โดยมากธนาคารจะปล่อยกู้เพื่อสร้างอสังหาฯให้เช่ามากกว่าสร้างขายครับ (สำหรับรายย่อย)นะครับ ในทำนองเดียวกัน แต่ผมวางแผนปั้นบริษัทไปสักสี่ห้าปี ถึงเวลานั้นการกู้โดยใช้นิติบุคคลออกหน้า น่าจะไม่เหลือบ่ากว่าแรงเท่าใดนัก ไม่แน่ใจว่าตอบตรงคำถามหรือเปล่านะครับ ….[^,^]… จากคุณ : มาม่ากับปลากระป๋อง เขียนเมื่อ : 17 ก.ค. 55 11:12:06

ความคิดเห็นที่ 64 จังหวะนี้ไม่ต้องอำพรางแล้ว เพราะโดนเปิดเผยที่ตั้งไปแล้ว 5555+ ลงรูปเลยแล้วกัน ...[^,^]... รูปบ้านทาวน์เฮ้าสี่หลังครับ จากคุณ : มาม่ากับปลากระป๋อง เขียนเมื่อ : 17 ก.ค. 55 11:15:28

ความคิดเห็นที่ 65 clear ขอบคุณค่า เคยหาข้อมูลอยู่บ้างเรื่องสร้างที่อยู่อาศัยขาย มีแบงค์แนะนำว่าไม่ต้องกู้เพื่อมาสร้างขายแต่ให้ขึ้นแบบขึ้นแปลน ให้คนมาจองและให้คนจะซื้อนั้นทำเรื่องกู้กับแบงค์เลย เป็นการกู้แบบสร้างแนบแบบ ซึ่งเงินงวดจะออกตามความคืบหน้าของงาน ซึ่งพอเงินออกแทนที่ธนาคารจะให้กับผู้กู้ธนาคารก็จะนำมาให้เราที่เป็นเจ้าของโครงการเลย แต่ยังไม่ได้ตามต่อน่ะค่ะ ตอนนี้ขอเก็บข้อมูล เตรียมความพร้อมสักพัก ขอบคุณคุณ มาม่ากับปลากระป๋อง ที่มีอะไรดีๆ มาให้อ่าน น่าสนุกตื่นเต้นดีนะคะ เฮงๆๆ นะคะ จากคุณ : ก็ยังติดตามอยู่ (kopukan) เขียนเมื่อ : 17 ก.ค. 55 11:22:07

ความคิดเห็นที่ 66 ต่อเลยครับ ในขณะที่สร้างทาวน์เฮ้าส์ขายชุดแรก เราก็ไปติดต่อ กรมที่ดินเพื่อแบ่งแยกที่ดิน แปลงที่ 2 ออกเป็น 6 แปลงย่อย เพื่อสร้างทาวน์เฮ้าส์ต่อ แต่กรมที่ดินปฎิเสธการแบ่งแยกเนื่องจากติด พ.ร.บ.บ้านจัดสรร ถ้าไม่เข้าจะติด กฎหมายการฟอกเงิน จังหวะนั้น มันคือ อะไร หว่า? ที่ดิน หนึ่งผืน แบ่งได้ 9 แปลง ถ้าแบ่งมากกว่านั้นต้อง ทำเป็นจัดสรรที่ดิน (อันนี้ผมไม่แน่ใจว่าผมเข้าใจถูกหรือไม่ รบกวนผู้รู้ท่านอื่นแถลงไขด้วย) กล่าวคือ ถ้าเราไม่รวมที่ดิน เราแบ่งไปแล้ว 5 แปลงย่อย(ขายที่ให้ออฟฟิตแม่ไป 1 แปลงย่อย ทำทาวน์เฮ้าส์อีก 4 ห้อง) แล้วเราจะมาแบ่งแปลงใหม่เพิ่มอีก 6 แปลงย่อยทำไม่ได้(เพราะเกิน 9) ได้ฟังดังนั้นเราก็ อ่อ.... ทำยังไงล่ะที่นี้ ก็ตอนนั้นตังค์ ก็ไม่ได้มีพร้อมกันนี้หว่า? จะได้ซื้อทีเดียวแบ่งทีเดียว….. เราจึงเปลี่ยนแผนเป็นสร้างบ้านเดี่ยวหลังเล็กๆแทน และหลังจากที่ผมได้เงินจากการขายบ้านชุดแรกไปผมก็นำเงินไปซื้อที่เพิ่ม ในขณะเดียวกันก็รับทราบว่าคุณเอ เก็บทีเพิ่มไปอีกหนึ่งชุด จากคุณ : มาม่ากับปลากระป๋อง เขียนเมื่อ : 17 ก.ค. 55 11:29:36

ความคิดเห็นที่ 67 อ้อ ไม่ต้องห่วงเรื่องไปสร้างขายแข่งนะคะ อยู่คนละฟากของประเทศไทยค่าาาา  ^ ^ อีกนาน จากคุณ : kopukan เขียนเมื่อ : 17 ก.ค. 55 11:31:20

ความคิดเห็นที่ 68 เขียนมานาน ในที่สุดก็ถึงปัจจุบัน ในขณะที่ผม กระโดดข้ามลงไปเล่นบ้านเดี่ยวหลังเล็กๆ คุณเอส กำลังทำทาวน์เฮ้าส์ขายต่อส่วนที่สองเพิ่มอีกหกหลัง(ส่วนหกหลังแรกขายหมดไปแล้ว) ในขณะเดียวกัน คุณเอ(ซึ่งเป็นผู้รับเหมาของคุณเอส) ก็กำลังขึ้นทาวน์เฮ้าส์ออกมาขายอีกนับสิบห้อง ในขณะที่คุณยู คู่แข่งรายที่ 3 กำลังตั้งท่าอยู่ ไปรู้ว่าจะกระโดดลงมาเล่นเมื่อไหร่ ตอนนี้สถานการณ์การแข่งขันกำลังเข้มข้น ผมว่างานนี้มีสนุกจนหยดสุดท้ายแน่นอน เขียนมาถึงจุดนี้ ผมได้รับข้อมูลจากภรรยาที่ออกตรวจสอบข้อมูลตลาดเซอร์เวย์ ตลาดอสังหาฯโดยรวมเรียบร้อย จากจุดนี้หน้าที่ของผมคือ ผมต้องวางตำแห่งตัวเองให้ชัดเจน ต้องอาศัยวิชาความรู้ที่เรามี ประมวลข้อมูลดิบที่มีมากมาย ออกมาเป็นข้อมูลที่มีค่า และนำมาใช้ได้จริง และวางแผนการใช้เงินให้รัดกุม พร้อมรับผลพวงของการแข่งขันที่จะเกิดขึ้น จากการแข่งขันภายในหมู่บ้านโครงการเดียวกับเราและ หมู่บ้านโครงการอื่น ธุรกิจก็จะดำเนินต่อไป ตอนนี้เราปลดหนี้ที่ยืมมาแล้ว จากกำไรที่เราได้มา ตอนนี้เราสร้างทั้งหมดจากเงินที่เรามี ตอนนี้การลงทุนของเราเป็น เงินเย็น เราจะทำไปเรื่อยๆ แบบไม่เร่งรีบ ต่อจากนี้ เราจะสร้างและขายและสร้างและขาย ไปทีละน้อย ตามที่เงินทุนเราอำนวย ตามแผนบนกระดาษที่วางไว้ เราจะกำเงิน ได้อย่างน้อย หกล้าน ในปี 2562 ตอนนี้ ปี 2555 พึ่งผ่านไปได้เสี้ยวเดียว หนทางยังอีกยาวไกล อุปสรรคคงอีกมาก ปัญหาคงอีกเยอะ แต่เราก็ไม่กลัว ขอบคุณมากครับที่ติดตามอ่านมาถึงตรงนี้ …[^,^]… ปล. ขอบคุณ คุณเจ ถ้าเราไม่ได้รับการช่วยเหลือจากเขาโปรเจคนี้คงมีอันต้องล้มพับไปแต่ต้น ขอบคุณ ช่างที เค้าว่ากันว่า “ผู้รับเหมาดีๆหายาก” แต่ เนื่องจากดวงหรือบุญพาวาสนาส่ง ก็ไม่รู้ที่ทำให้เราได้รู้จักช่างท่านนี้ ผมเองได้เขียนเรื่องราวเกี่ยวอสังหาฯไว้บ้าง ลงในพันทิพนี่ล่ะแต่โดนลบไปหมดแล้ว ผมอาจจะเขียนได้ไม่ดีพอ ผมคงต้องฝึกทักษะการเขียนอีกมาก...[^,^]... ลองติดตามอ่านดูได้ใน ทำงาน 5 วัน ทำเงินงอกมาได้ 50,000 บาท จากการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ http://goo.gl/PVqVS เรื่องนี้ผมซื้อบ้านจากกรมบังคับคดีแล้วปล่อยต่ออีกทอด ไม่ต้องคาดเดาว่า บ้านที่ไหน ก็บ้านในโครงการเดียวกับที่เล่ามาทั้งหมดนี่ล่ะครับ และอีกหัวข้อคือ กลลวงของคณิตศาสตร์ในการพิจารณาการลงทุน http://goo.gl/oDRFJ และก็เขียนเรื่องราวเกี่ยวกับร้านกิ๊ฟช็อปเล็กๆของภรรยา ลงในพันทิพเช่นเดิมแต่ตอนเก่าๆโดนลบไปหมดแล้ว สนใจติดตามได้ในhttp://goo.gl/511dF จากคุณ : มาม่ากับปลากระป๋อง เขียนเมื่อ : 17 ก.ค. 55 11:55:39

ความคิดเห็นที่ 69 ขอทิ้งท้ายสั้นๆ เพื่อเป็นแรงบันดาลใจ ครอบครัวของผมเป็นครอบครัวข้าราชการทั้งคุณพ่อและแม่เป็นข้าราชการ เมื่อสมัยผมยังเด็กผมจำได้ว่าเรามีหนี้หลักล้านที่เกิดจากความผิดพลาด ยามสิ้นหนทางยืมเงินคนอื่นจนคนอื่นเมินหน้าหนี เงินทั้งบ้านเหลือเพียง 40 บาท ถึงกระนั้น คุณแม่ได้ยื้นเงินให้ผมไปโรงเรียน 20 บาท แล้วบอกผมทั้งน้ำตาว่าให้ตั้งใจเรียน แล้วพ่อกับแม่ก็แบ่งเงินกันคนละ 10 บาทแล้วแยกย้ายกันไปทำงาน ช่วงเวลาที่สาหัสนี้ผ่านไปนานนับปี จนเวลาล่วงเลยไปหลายสิบปี ด้วยความขยันหมั่นเพียร และความอุตสาหะของท่าน สินทรัพย์ของพวกท่านได้เพิ่มขึ้นมากมายนัก..... ถึงแม้ผมจะไม่ตั้งใจเรียนมากเท่าใดนัก แต่ช่วงเวลาที่ผ่านมาผมศึกษาสิ่งต่างๆที่สนใจอย่างไม่หยุดยั้ง ตอนนี้ผมมีโอกาสที่จะทำในสิ่งที่เราศึกษามาและผมจะทำอย่างเต็มภาคภูมิ ที่ผ่านมาผมเห็นบุคคลคู่หนึ่งที่ “สู้” มาตลอดชีวิต ต่อแต่นี้ไป ผมก็จะ “สู้ไม่ถอย” เช่นเดียวกัน จากคุณ : มาม่ากับปลากระป๋อง เขียนเมื่อ : 17 ก.ค. 55 12:03:37

ความคิดเห็นที่ 70 ตามมาอ่าน กระทู้เก่าๆน่าจะอยู่ใน คลังกระทู้บ้างแหละ จากคุณ : ก้นกบ เขียนเมื่อ : 17 ก.ค. 55 12:31:24

ความคิดเห็นที่ 71 ยอดเยี่ยมมากค่ะ ชอบอ่านเรื่องราวแบบนี้จริงๆ ทำให้เรามีแรงบันดาลใจ จากคุณ : น้องเปิ่น เขียนเมื่อ : 17 ก.ค. 55 13:38:27

ความคิดเห็นที่ 72 ขอบคุณสำหรับ เรื่องราวดี ๆ ค่ะ ไม่ทราบว่า คุณมาม่ากับปลากระป๋อง อยุ่ที่ office วันอะไรบาง ค่ะ เผื่อมีโอกาส ไปทำความรูจักค่ะ และ ขอแชร์ประสบการณ์ค่ะ จากคุณ : zumozuma (zumozuma) เขียนเมื่อ : 17 ก.ค. 55 15:44:21

ความคิดเห็นที่ 73 เขียนได้น่าติดตาม ชวนอ่านมากค่ะ ขอบคุณที่แบ่งปันประสบการณ์นะคะ ช่วยโหวตและเก็บกระทู้เข้าคลังแล้วค่ะ ^-^ จากคุณ : อยากจะกินน้ำแข็งไส เขียนเมื่อ : 17 ก.ค. 55 16:22:43

ความคิดเห็นที่ 74 ขอบคุณเจ้าของกระทู้มากๆ ครับ ที่นำเรื่องดีๆ มาแชร์กัน มีแนวความคิดเดียวกัน ว่าจะทำ แต่ด้วยสุขภาพจึงหมดไฟไป ตอนนี้ได้กระทู้ของท่านเติมเชื้อเข้าไปอีกรอบ ขอบคุณครับ จากคุณ : dukedik เขียนเมื่อ : 17 ก.ค. 55 17:11:52

ความคิดเห็นที่ 75 มีเพื่อนค่ะ เพิ่งซื้อที่มาสร้างออฟฟิศ ซื้อมา 4.5 ล้าน ยังไม่ถึงปีด้วยซ้ำ มีคนมาติดต่อซื้อ 13 ล้าน ทั้งๆที่ไม่ได้ตั้งใจซื้อมาขายนะคะ ตอนนี้เพื่อนก็ตกลงขายไปแล้ว >< แล้วเพื่อนบอกอีกว่าที่ติดๆกันแถวนั้น เขาขาย 20 ล้านขึ้นค่ะ มีเพื่อนขายถูดสุด จากคุณ : หนูส้มค่ะ เขียนเมื่อ : 17 ก.ค. 55 17:54:29

ความคิดเห็นที่ 76 มาลงชื่อว่าอ่านจบแล้ว อยากทำให้ได้อย่างนี้บ้างจัง จากคุณ : เด็กน้อยร้ายเดียงสา เขียนเมื่อ : 17 ก.ค. 55 20:09:21

ความคิดเห็นที่ 77 ความสำเร็จของ จขกท. มาจากความตั้งใจจริง และการคิดอย่างเป็นระบบ มองทุกอย่างให้เป็นโจทย์และมีคำตอบเพื่อไว้  ขอให้ประสบความสำเร็จอย่างที่หวังนะครับ ชื่นชมด้วยใจจริงครับ จากคุณ : kob76 เขียนเมื่อ : 18 ก.ค. 55 09:12:39

ความคิดเห็นที่ 78 ขอบคุณทุกๆท่านอีกครั้งครับ และเมื่อเวลาผ่านไปอีกสักพัก ผมจะนำมาเล่าต่อว่าเป็นอย่างไรต่อไปนะครับ ...[^,^]... จากคุณ : มาม่ากับปลากระป๋อง เขียนเมื่อ : 18 ก.ค. 55 17:31:04

ความคิดเห็นที่ 79 ขอบคุณที่นำเรื่องดๆมาแบ่งปัน จากคุณ : คนบางแคแค่บ้างคน เขียนเมื่อ : 18 ก.ค. 55 20:37:06

ความคิดเห็นที่ 80 ^^ ขอบคุณค่ะที่นำสิ่งดีๆๆมาแชร์กัน จะติดตามคุณมาม่ากับปลากระป๋อง ไปเรื่อยๆๆ จากคุณ : Nicky (porjai2011) เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 55 11:01:39

ความคิดเห็นที่ 81 ดีใจที่วันนี้อ่านจบ เป็นประสบการณ์ที่ดีจริงๆค่ะ อ่านแล้วสนุกตื่นเต้นดีแท้ ( ตื่นเต้นอยู่คนเดียว )  มาตกใจคห.75 โอ๊วพระเจ้า .....อสังหามันเป็นอะไรที่สร้างความประหลาดใจได้เสมอ ^ ^ จากคุณ : Thundergirl เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 55 13:25:42

ความคิดเห็นที่ 82 ขอบคุณที่เอาประสบการณ์ และความรู้มาแบ่งปันกันค่ะ     อ่านสนุก ดีค่ะ ชอบค่ะ จากคุณ : หาดขาว เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 55 13:27:03

ความคิดเห็นที่ 83 ขอบคุณครับ สำหรับประสบการณ์ ที่สุดยอดแบบนี้.. ปล.ระวังคู่แข่ง มาแอบอ่านน่ะครับ อิอิอิ จากคุณ : เจ้าชาย...แห่งรัตติกาล (ChoTZa) เขียนเมื่อ : 20 ก.ค. 55 01:58:02

ความคิดเห็นที่ 84 เข้ามาดู ... จากคุณ : D_YONG เขียนเมื่อ : 20 ก.ค. 55 10:17:45

ความคิดเห็นที่ 85 ขอบคุณครับที่แบ่งปันประสบการณ์ดีๆ จากคุณ : Mr.CareJim เขียนเมื่อ : 20 ก.ค. 55 16:56:43

ความคิดเห็นที่ 86 ... ครับ ... ครั้งนะครับว่า ช่วยๆๆ กันกด VOTE ก็ดีนะครับ เพี่อที่ กระทู้จะได้อยู่ได้นานๆ นะครับ จากคุณ : okb เขียนเมื่อ : 21 ก.ค. 55 10:29:33

ความคิดเห็นที่ 87 ขอบคุณเจ้าของกระทู้ มากครับ จากคุณ : เผื่อใจเอาไว้ก่อน เขียนเมื่อ : 26 ก.ค. 55 09:17:21