ความคิดเห็นที่ 1 1.แบ่งผลกำไรตามสัดส่วน  10%นั้น ถูกต้องแล้ว แต่ ต้องหักค่าใช้จ่ายต่างๆก่อน   เหลือเท่าไหร่ หุ้นส่วนเอาไป10% หุ้นหลักเอาไป90% 2.ควรมีเงินเดือนให้กับคนที่มาทำงานครับ เช่น คุณทำงานดูแลร้านเป็นหลักก็ต้องมีเงินเดือนต่างหาก และหุ้นส่วนที่มาดูแลร้านอาทิตย์ละวัน ก็มีเงินเดือนด้วย  (จะเท่าไหร่ ก็ไปว่ากันเอาเองนะครับ) (แต่ถ้าหากอยู่ภาวะไม่มีกำไร เจ้าของและหุ้นส่วนที่ทำงานยังไม่ควรรับเงินเดือน หรือถ้ากำไรยังน้อยเกินไปก็ให้รับเงินเดือนตามสัดส่วนที่เหมาะสม ไปตกลงกันเอาเองครับ) 3.คุณควรแบ่งกำไรกัน ไม่ใช่ทุกเดือน อาจจะเป็นทุก3เดือน 6เดือน เป็นต้น ไม่เช่นนั้น ถ้าคุณบริหารไม่ดี อาจจะไม่มีเงินทุนสำรอง และเงินทุนหมุนเวียนต่อไปในอนาคต(ดังข้อ4) 4.แบ่งส่วนของกำไรออกมาซักส่วนหนึ่งก่อนไว้เป็นทุนสำรอง เช่น ดึงกำไรออกมา25% ส่วนกำไรที่เหลือ75% ก็ค่อยเอามาแบ่งปันผล (ทุนสำรอง เอาไว้ขยายกิจการต่อไปในอนาคต จะไม่เอามารวมกับกำไรในรอบต่อไป .. เว้นเสียแต่ว่า มีการถอนหุ้น ถึงจะเอาทุนสำรองออกมาปันผลคืนให้กับผู้ถือหุ้น) 4.2 จะเอาเงินที่เหลือ 2แสนบาท มารวมในส่วนทุนสำรองนี้ก็ได้ 4.3 เงินทุนสำรอง ไม่เกี่ยวกับเงินทุนหมุนเวียนครับ (เงินทุนหมุนเวียน เช่น ซื้อวัตถุดิบเข้าร้าน ค่าโฆษณา ภาษี ค่าแรง เป็นต้น) 5.ทำข้อตกลงทุกอย่างเป็นลายลักษณ์อักษร เซ็นต์ต่อหน้าพยาน มีสำเนาทั้ง2ฝ่าย (เพื่อป้องกันปัญหาในอนาคต) นี่เป็นเพียง แนะนำแนวทางเท่านั้นครับ  ใช้ดุลยพินิจในการตัดสินใจด้วยนะครับ รอ คห.อื่นๆมาเพิ่มเติมนะครับ จากคุณ : aumpaump12 เขียนเมื่อ : 27 ก.ค. 55 02:40:51

ความคิดเห็นที่ 2 เห็นด้วยกับข้างบนครับ ควรมีเงินเดือนหักให้ตัวเองเพราะทำงานเยอะกว่า จากคุณ : HaungTae เขียนเมื่อ : 27 ก.ค. 55 07:18:50

ความคิดเห็นที่ 3 ขอบคุณคุณ คคห.ที่ 1 และ สอง มากนะคะ ได้ความรู้มาก ๆ เลยค่ะ ขอบคุณค่ะ จากคุณ : snow... เขียนเมื่อ : 28 ก.ค. 55 14:14:57

ความคิดเห็นที่ 4 มันขึ้นอยู่กับคุณบริหาร 1. เงินสองแสน แนะนำให้เก็บไว้เป็นทุนสำรองครับ 2. ค่าโฆษณา ค่าดำเนินงาน ค่าจิปาถะ ค่าประกัน(อัคคี น้ำท่วม บลาๆ ของร้าน) ถือเป็นต้นทุนทั้งหมดครับ 3. เรื่องเงินค่ามาทำงาน อย่างที่ คห.1 บอกครับ ทุกคนที่มาทำงาน รวมทั้งคนบริหาร ต้องมีเงินเดือน มากเท่าไร ต้องตกลงกันระหว่างหุ้นส่วน อาจจะคิดเป็น% ของกำไรก็ได้ เช่น 0.3% ของกำไรต่อวัน เช่น กำไร 2 หมื่นต่อเดือน คุณไปทำงานทุกวัน ก็ต้องได้เงินเดือน 0.3%*30*20000= 1800 บาท เพื่อนคุณเข้างาน 4 วันต่อเดือน ก็ต้องได้ 240 บาท 4. กำไรที่นำมาแบ่งกันนั้น ต้องหักค่าดำเนินการของร้านด้วยครับ (แนะนำตรงนี้ เงินเดือนไม่มากให้จ่ายค่าจ้างมากหน่อยครับ แล้วให้เป็นค่าที่ไม่นำมาคิดภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาดีกว่าครับ เช่น ค่าน้ำมัน อะไรทำนองนี้) เช่น หักค่าอย่างอื่นแล้ว กำไร 2 หมื่นบาท 4.1 ให้ค่าจ้างการบริหาร 0.3%ของกำไร ต่อวันมาทำงาน หักไป 1800+240 เหลือ 17960 4.2 ถ้ามีประกันร้านสมมติจ่ายเบี้ยปีละ 12000 บาท ก็หักไป 12000/12 = 1000 บาท หักไป เหลือ 16960 4.3 มีค่าอะไร ก็คิดเป็นปีแล้ว หารเดือนออกมาจ่ายเป็นรายเดือนก็ได้ครับ (แต่เพื่อสภาพคล่องอย่างที่ คห.1 บอก ถ้าจ่ายได้ทุก 3 6 หรือ 12 เดือนได้ยิ่งดี) 4.4 16960 นี่แหละครับ จะนำมาคิดภาษี สมมติภาษี 20% ก็เหลือ 13568 4.5 ต่อไปก็นำมาแบ่งส่วนเก็บเป็นเงินทุนสำรอง และปันผลแก่ผู้ถือหุ้น (เพิ่งเปิดร้านใหม่ เป็นผม จะปันผลแค่ 60%) 13568 จะเก็บเป็นสำรอง 5427.2 และปันผล 8140.8 ซึ่งคุณได้ 90% คือ 7326.72 เพื่อนได้ 10% คือ 814.08 สรุปคุณได้ 7326.72+1800 = 9126.72 ต่อเดือน เพื่อนได้ 814.08+240 = 1054.08 ต่อเดือน ก็ประมาณนี้ครับ แก้ไขเมื่อ 29 ก.ค. 55 14:12:40 จากคุณ : MondayCool เขียนเมื่อ : 29 ก.ค. 55 14:07:22