ความคิดเห็นที่ 1 เคยเห็นแต่ทำงานเอกชนเงินเดือนสูงๆต่อไป แล้วซื้อประกันสุขภาพ ประกันชีวิตหลายๆฉบับให้พ่อแม่ครับ คุ้มค่ากว่ามาทำราชการต๊อกต๋อยกว่าเยอะ จากคุณ : xhai เขียนเมื่อ : 31 ก.ค. 55 11:43:06

ความคิดเห็นที่ 2 นั่นดิ ซื้อประกันดีกว่ามั๊ย  ไม่ต้องใช้ชีวิตรันทดขนาดนั้นหรอกคะ เหมือนแต่ก่อนที่คนจีนขายตัวทำศพพ่อแม่นั่นหละ รันทดเกิน แต่ไม่ค่อยฉลาด จากคุณ : uyadas เขียนเมื่อ : 31 ก.ค. 55 11:50:41

ความคิดเห็นที่ 3 ถ้ากำลังก้าวหน้าไม่มีใครออกหรอก นอกจากว่าทำเอกชนแล้วยังไม่เห็นทางโต แบบนี้ถึงคุ้มที่จะออก จากคุณ : TLL01 เขียนเมื่อ : 31 ก.ค. 55 12:13:58

ความคิดเห็นที่ 4 คห.2 ครับ "เหมือนแต่ก่อนที่คนจีนขายตัวทำศพพ่อแม่นั่นหละ รันทดเกิน แต่ไม่ค่อยฉลาด" ผมไม่รู้ว่ามีจริงหรือไม่จริง แต่ถ้าทำถึงขั้นนั้นนะ ผมคิดว่าชีวิตเค้าคงลำบากแน่ๆครับ ไม่งั้นคงไม่เลือกทำใช่ไหมครับ คนเราเกิดมามีไม่เท่ากันทั้งเงินทองและความรู้ เลยไม่รู้หรอกว่าคนนั้นทำอย่างนั้น หรืออย่างนี้ฉลาดกว่ากันไหม แต่ถ้าชีวิตรันทดถึงขนาดขายตัวทำศพพ่อแม่ได้ ผมยอมรับคนอย่างนี้ครับ กตัญญู ดีกว่าขายตัวบำเรอสุขให้ตัวเอง จากคุณ : kjingjo เขียนเมื่อ : 31 ก.ค. 55 12:35:39

ความคิดเห็นที่ 5 ถ้าจะซื้อประกัน เอาเงินไปลงทุนดีกว่ามั้ย ไม่สูญเปล่าด้วยแบบประกัน แต่ของอย่างนี้เลือกได้ที่ไหน ถ้าพ่อแม่ป่วยก็คงไม่มีบริษัทไหนรับประกัน เค้าเช็คข้อมูลกับทางโรงพยาบาลอยู่แล้ว ก็คงต้องรับราชการแหละ จากคุณ : Talent เขียนเมื่อ : 31 ก.ค. 55 12:50:25 A:58.181.157.74 X: TicketID:366623

ความคิดเห็นที่ 6 ตอนนี้มีบัตรทองอยู่นี่ครับ ใช้สิทธิบัตรทองในการรักษา แล้วเราจ่ายเงินบ้างเพื่อซื้อห้องพิเศษ หรือยาบางตัวที่ไม่มีในรายการ เอาเงินเดือนเอกชนนั่นแหละครับจ่าย ผมว่าดีกว่าลาออกมาทำราชการนะครับ จากคุณ : Lpg_Horse เขียนเมื่อ : 31 ก.ค. 55 12:54:11

ความคิดเห็นที่ 7 จะบอกว่าถ้าลาออกมีเพราะคิดจะแค่เอาค่ารักษาก็อย่าออกเลยครับ ไม่คุ้มหรอก แต่ก็จะบอกเช่นกันว่าราชการมันก็ไม่ได้ต๊อกต๋อยและรันทดแบบที่บางคห.ว่า เดี๋ยวนี้จบใหม่ก็รับจริงๆ 15000-17000 อยู่แล้ว ส่วนโตๆไปหน่ะ ถ้าเก่งระดับนึงมันก็ถึงกันแสนเยอะครับ สำหรับคนเก่งจริงๆมันก็อาจไม่เยอะเท่าเอกชนหรอก แต่สำหรับคนทั่วไป ผมว่าไม่น้อย ยิ่งเทียบกับความมั่นคง ภาระงาน บำนาญ ไม่เลวหรอกครับ(เอกชนวันนี้บอกก้าวหน้าพรุ่งนี้อาจถูกปลดก็ได้เช่นกัน) แก้ไขเมื่อ 31 ก.ค. 55 13:08:55 จากคุณ : hil4552 เขียนเมื่อ : 31 ก.ค. 55 13:08:17

ความคิดเห็นที่ 8 ถ้าเป็นแค่สวัสดิการ ไม่ดี ถ้าเป็นเหตุผลทางจิตใจของคนรุ่นเก่า ทำได้ก็ทำ พยายามได้ก็พยายาม ------------------ ส่วนเรื่องกตัญญูหรือไม่ อย่าเอาเรื่องเงินมารวมกับเรื่องกตัญญูครับ เพราะคุณไม่ใช่ธนาคารสีเหลือง จากคุณ : lARtZnolASt เขียนเมื่อ : 31 ก.ค. 55 13:19:23

ความคิดเห็นที่ 9 การรักษา ระหว่าง ประกันสังคม กับ บัตรทอง 30 บาท กับ การรักษาแบบใช้สิทธิข้าราชการ มันไม่เหมือนกัน รึปล่าวครับ อยากให้มองจุดนี้ บัตรทอง ประกันสังคม มันเป็น แบบ บุฟเฟ่ คือ รัฐจ่ายเงินให้ รพ แล้ว คิดเหมาเป็นรายหัว มันจึงต้องมีการระบุ รพ ที่ใช้สิทธิ ไงครับ สังเกต ดูใน บัตรประกันสังคม ถ้า รพ จ่ายยาดี รักษาดี มันจะทำให้กำไรน้อย ถึง ขาดทุนได้ ในรายนั้นๆ กำไรหรือขาดทุน มันจึงต้องเอามาเฉลี่ย กับรายอื่น ที่ไม่ได้ใช้สิทธิ จึงทำให้มีกำไร ฉะนั้นที่คนเค้าบ่นๆ กัน ว่าประกันสังคม ห่วย ยารักษาไม่ดี บริการไม่ประทับใจ ก็เป็นเพราะจุดนี้ แต่ สวัสดิการแบบเบิกได้ของราชการ นั้น แตกต่างกันมากครับ รพ ไม่ได้รับเงินมาก่อน เวลาราชการมารักษา จะ จัดหนัก จัดเต็ม เอายาที่ดีที่สุด แพงสุดให้ไว้ก่อน เพราะค่าใช้จ่ายเหล่านี้ผู้จ่ายไม่ใช่คนไข้ แต่เป็น รัฐ ยิ่งจ่ายยาดี ยาแพงๆ ค่าคอมมิชชั่น ยิ่งสูง กำไร ยิ่งเยอะตาม มันต่างกันตรงนี้ครับ แต่แบบที่หลายคนบอกว่า ซื้อประกันสุขภาพไว้ นั้นก็เป็นกรณีนึงครับ แต่อยากให้นึกถึงกรณีที่ป่วยไปแล้ว ประกันที่ไหนจะเอาครับ เคสหนักๆ แบบ มะเร็ง ฟอกไต หรือโรคต่างมี แพงมากๆ ประกันความคุ้มครองไม่ Cover แบบนี้ครับที่ จขกท หมายถึง ครับ จากคุณ : จขกท (xengrtu) เขียนเมื่อ : 31 ก.ค. 55 13:42:25

ความคิดเห็นที่ 10 ถ้าทำงานเอกชนได้เกินแสนคงไม่ออก ถ้าทำเอกชนได้สามหมื่น แล้วได้ราชการออกดีกว่ามาเอาสวัสดิการที่เหมือนจะเทพ จากคุณ : คิวปิดน้อย เขียนเมื่อ : 31 ก.ค. 55 13:55:50

ความคิดเห็นที่ 11 #9 ถ้าเป็นปัญหาแบบคุณ ผมว่าราชการหรือรัฐวิสาหกิจก็ไม่เลวหรอกครับ แต่ปัญหาคือการจะเข้าได้ก็ไม่ง่ายนะครับ ผมว่าห้องนี้บางครั้งมองงานราชการแง่ร้ายไป ความจริงมันไม่ได้แย่ขนาดนั้นครับ ทุกวันนี้ผมอายุ 27 รายได้โดยรวม (งด. คชบ. เบี้ยเลี้ยง) ก็ 20k ขึ้นทุกเดือนนะครับ อาจจะไม่เยอะแต่ก็ไม่น้อยขนาดนั้นหรอก ถ้าคิดว่าทำงานวันละ 7 ชม. หยุดเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดราชการ เกษียณมามีบำนาญ (สิทธิรักษาพยาบาลเกษียณแล้วก็ยังติดตัวจนตายนะครับ)บลาๆ เวลาเลี้ยงรุ่นทีแน่นอนครับ ผมไม่ใช่คนที่เงินเดือนเยอะที่สุดแต่ผมก็อยุ่ในระดับเกินครึ่งอยู่นะ ชีวิตผมก็ไม่ได้ลำบาก เพราะถึงเงินเดือนน้อยแต่ก็ไม่ต้องตั้งเป้าเยอะ เพราะมีบำนาญ(ถ้ารับราชการมานานหน่อยปัจจุบันบำนาญถึงเดือนละ 40k นะครับ แต่รุ่นที่ได้ 15000 นี่บำนาญน่าจะพุ่งอีกเพราะคิดจากฐานเงินเดือนตอนเกษียณ) แก้ไขเมื่อ 31 ก.ค. 55 14:06:08 จากคุณ : hil4552 เขียนเมื่อ : 31 ก.ค. 55 14:02:33

ความคิดเห็นที่ 12 รับราชการ #1 ต๊อกต๋อย #2 รันทด ช่างกล้าคิด กล้าเขียนกันเน๊าะ สงสัยคนเดินดินกินปลากระป๋อง ไม่อยู่ในสายตา ของท่าน ๆ ผู้สูงส่ง ว่าแล้วก็ไปกวาดขยะดีกว่า จากคุณ : แอ๊บแบ๊ว เขียนเมื่อ : 31 ก.ค. 55 14:42:07 A:125.27.122.72 X: TicketID:294750

ความคิดเห็นที่ 13 ผมเคยทำงานในหน่วยงานของรัฐ เห็นภาพการเบิกเงินรักษาพยาบาลพ่อแม่แบบจัดเต็มมาเยอะมากครับ ผมคำนวณค่ารักษาพยาบาลที่เบิกไป ถัวเฉลี่ยตีมูลค่าเป็นเงินในเดือนหนึ่ง ๆ พบว่ามันเป็นตัวเงินที่เยอะมากครับ ในตอนนั้น พ่อแม่ผมยังอายุไม่มาก สุขภาพยังดีอยู่ ผมไม่เคยได้เบิกเงินในส่วนนี้ (ซึ่งก็ดีแล้ว) แต่เพื่อนร่วมงานที่อายุค่อนข้างมาก พ่อแม่สูงอายุ เริ่มเจ็บป่วยออด ๆ แอด ๆ กลุ่มนี้เบิกกระจายเลยครับ ผมคิดไปคิดมา คิดว่าไปทำงานเอกชน เรียกเงินสูงกว่าผลประโยชน์ที่จะได้รับค่ารักษาพยาบาล แล้วค่อยซื้อประกันเอา ดีกว่าครับ ผมเลยได้ข้อสรุป ตรงตามที่คุณ จขกท. ว่ามา คือถ้าในกรณีที่ได้เบิกรักษาจริง ยังไงก็คุ้มมากครับ ปัญหาคือจะเข้าไปยังไง เข้าไปแล้วมีระเบียบการเบิกจ่ายยังไง (อายุงานกี่ปี เบิกได้เท่าไรฯลฯ) จากคุณ : veronicaz เขียนเมื่อ : 31 ก.ค. 55 15:29:18

ความคิดเห็นที่ 14 เราว่าไม่มีหรอกค่ะ ถ้าทำเอกชนแล้วก้าวหน้า ก็ทำต่อไป เงินเดือนดี โอกาสก้าวหน้ามี เอาเงินไปซื้อประกัน เอาไปรักษาพ่อแม่ ดีกว่ายอมออกไปทำราชการเพื่อเอาสวัสดิการรักษาพ่อแม่ เรามองยังงัยๆ มันก็ไม่ได้จะคุ้มเลยกับการลาออกจากเอกชนที่ก้าวหน้าแล้วไปทำงานราชการเพื่อรักษาพ่อแม่ จากคุณ : Star in the Sky เขียนเมื่อ : 31 ก.ค. 55 15:52:58

ความคิดเห็นที่ 15 ก่อนคุณตาผมเสีย เป็นโรคไต ค่ารักษาพยาบาลแพงมาก โชคดีที่มีญาติเป็นข้าราชการใช้สิทธิเบิกไปเกือบ 10 ล้าน ตอนนั้นญาติคนอื่นที่เงินเดือนเกือบแสน หรือแสนกว่า เงียบกันกริบเลยครับ ไม่มีใครช่วยจ่ายเลย จากคุณ : ผมรู้ เขียนเมื่อ : 31 ก.ค. 55 15:55:34

ความคิดเห็นที่ 16 เป็นเราเราเลือกราชการค่ะ มีผลดีในระยะยาว มั่นคงด้วยค่ะ เสียดายที่เราไม่มีโอกาสซักที...พยายามมาตลอดเลย จากคุณ : แกะขาววอสอง เขียนเมื่อ : 31 ก.ค. 55 16:28:42

ความคิดเห็นที่ 17 สิทธิข้าราชการ เห้นชัดเจนก็ต่อเมื่อเป็นโรคเรื้อรัง แบบคห.15 ถ้าเกิดเจ็บป่วยฉุกเฉินขี้นมา ก็ไม่ต่างกับบัตรทองหรือประกันสังคมหรอก สู้ประกันสุขภาพวงเงินสูงๆไม่ได้เลย มีประกันแทบจะปูพรหมให้เข้า ญาติเป็นทหารเกิดอุบัติเหตุขาเกือบขาด ใช้สิทธิส่งโรงบาลรัฐ หมอจะตัดขาท่าเดียว แต่พอย้ายไปโรงบาลเอกชนไม่ต้องตัด รักษาได้เฉย ส่วน อีกคนแค่ผ้าตัดใส้ติ่ง ญาติผมก็เกือบตายเพราะสิทธิข้าราชการนี่แหละ จากคุณ : FootLong เขียนเมื่อ : 31 ก.ค. 55 18:13:18

ความคิดเห็นที่ 18 พูดอย่างกับว่าราชการมันเข้าได้ง่ายๆนั่นแหละครับ  ไม่ใช่นึกอยากเข้าแล้วเข้าได้เลย กว่าจะสอบ กว่าจะเข้าได้มันต้องฝ่าฟัน ไม่ตั้งใจจริงเข้าไม่ได้ แค่ไปสมัครสอบยังขึ้้เกียจเลย แล้วถ้าลอง พ่อแม่ ป่วยแล้ว จะเข้าราชการวันนี้ พรุ่งนี้เบิกมารักษา อะไรมันจะพอเหมาะขนาดนั้น ไม่ทันหรอก แล้วเรื่องยาที่บอกว่าราชการเบิกได้น่ะ มันไม่ใช่ทุกตัวะ มันมียาในบัญชีที่เบิกได้ และยานอกบัญชีที่เบิกไม่ได้  ป่วยหนักหรือเรื้อรังแล้วน่ะ สวัสดิการจะรัฐหรือเอกชน ประกัน ก็เอาไม่อยู่ คุณต้องเอาเงินก้อนมาโปะ สำรองจ่าย ถึงจะพอค่ารักษาพยาบาลได้ ถ้าเข้าได้และเป็นข้าราชการก็ให้รีบเลย เริ่ม 15000  มี บำเน็จ บำนาญให้เมื่อเกษียณอายุ ค่าตำแหน่ง ค่าประชุม ค่าต่างๆยังมีอีกมาก เกษียณแล้วก็ยังมีรายรับ แต่เอกชนล่ะ ทำไงเมื่อ 60 ปี เพราะแบบนี้บรรจุราชการมันถึงยาก ขนาดหมอเดี๋ยวนี้ยังไม่บรรจุเป็นข้าราชการเลย ต้องเป็นพนักงาน ต้องเป็นลูกจ้างโรงพยาบาล  มีไม่กี่หน่วยงานเท่านั้นที่บรรจุเป็นข้าราชการได้เลย เห็นๆ ก็โน่น ตำรวจ ทหาร ปลัดอำเภอ ศาล แต่ล่ะอย่างนี่ยากๆๆ ทั้งนั้น แค่เห็นคนสมัครสอบ คุณก็ท้อแล้ว แต่สำหรับเอกชนน่ะ  อายุไม่เกินแกง คุณสมัครเข้าไปเถอะ มันต้องมีรับบ้างแหละ แต่เรื่องรายได้เยอะแยะนี่ไม่รับประกันหรอกน่ะ แต่พอหมุนเวียนชิวิตน่ะได้ จากคุณ : golfturbo (golfturbo) เขียนเมื่อ : 1 ส.ค. 55 00:57:59

ความคิดเห็นที่ 19 ใช่ๆเห็นด้วยกับ คห 18 พูดยังกะว่างานราชการมันเข้ากันได้ง่ายๆงั้นแหละ (งานราชการไม่ใช่ส้วมสาธารณะน่ะโว๊ยจะได้เข้ากันง่ายๆ) จากคุณ : บอสใหญ่ (บอสใหญ่) เขียนเมื่อ : 1 ส.ค. 55 09:53:38

ความคิดเห็นที่ 20 รับราชการดีในหลายๆด้าน แต่ด้านการรักษาพยาบาล รู้หรือไม่ว่าบัตรทองได้สิทธิมากกว่าสิทธิราชาการ อาทิ เคลือบหลุมร่องฟัน หรือ เป็นโรคร้ายก็รักษาได้เท่ากันกับราชการ ในอนาคต สิทธิการเบิกยา และการรักษาโรค สำหรับข้าราชการจะน้อยลงเรื่อยๆ เวลานี ก็ต้องจ่ายเพิ่ม 200 แม้รักษาในเวลาราชการ ถามว่า เพราะอะไร จนท.บอกว่า กรมบัญชีกลางให้เท่านั้นจ้า ที่เหลือจ่ายเพิ่ม  ประท้วงอะไรได้ นอกจากลาออกจากราชการไปซะ Viartril-s ยารักษาเข่าเสื่อมของข้าราชการชรา ก็เบิกไม่ได้ ไม่มียาทดแทน เพราะสปสช.ว่าเป็นอาหารเสริม จากคุณ : ฟองสมุทร เขียนเมื่อ : 1 ส.ค. 55 16:12:08

ความคิดเห็นที่ 21 ราชการดีในระยะยาวนะครับ  ถ้าปรับตัวเข้ากับระบบได้ แต่ถ้าไม่มี ก็ต้องใช้การซื้อประกันสุขภาพเอา ตรงนี้ ถ้าจขกท ดูแลพ่อแม่คนเดียว ต้องคำนึงถึงตัวเองด้วยนะครับ ถ้ายังอยู่เอกชน ก็ต้องซื้อประกันสุขภาพให้ตัวเองไว้ด้วย เพราะหาเงินคนเดียว ถ้าเจ็บป่วยไป จะกระทบการเงินมาก เพราะรายได้หยุดชะงัก แล้วรายจ่ายเพิ่มทันที เป็นผลกระทบสองเท่าเลยครับ จากคุณ : ป้อม (Bgate) เขียนเมื่อ : วันอาสาฬหบูชา 55 15:17:55

ความคิดเห็นที่ 22 ขอบคุณที่มองว่าเป็นข้าราชการมันต๊อกต๋อย เราเข้าใจแล้วค่ะว่าทำไมข้าราชการไทยต้องคอรัปชั่น เพราะไม่อยากเป็นข้าราชการจนๆ ให้ใครดูถูกล่ะมั๊ง... จากคุณ : คนวังหน้า เขียนเมื่อ : วันอาสาฬหบูชา 55 23:29:34

ความคิดเห็นที่ 23 น้องชายเป็นตำรวจสัญญาบัตรค่ะ แม่เลยมีสิทธิ  แม่เราไม่สบายบ่อย แต่ส่วนมากถ้าไม่หนักเราก็พาไปรพ.เอกชนตลอด เคยอาหารเป็นพิษก็ไปนอนเอกชน คืนนึงหมื่นกว่าแต่สบายใจ สะอาด เพราะเคยพาแม่ไปรพ.รัฐบาล ตั้งใจไว้เลยว่า ถ้าไม่เจ็บหนัก รักษานาน ผ่าตัด จะพาแม่ไปรพ.เอกชนเท่านั้น จากคุณ : อยากเด็กกว่านี้สักสิบปี เขียนเมื่อ : 5 ส.ค. 55 14:13:35