ความคิดเห็นที่ 1 ขอเกริ่นประวัติคร่าว ๆ ผมจบด้าน engineering จากสถาบันรัฐแห่งหนึ่ง เมื่อสัก 3-4 ปีที่แล้ว เงินเดือนก็เกรดกลาง ๆ คือที่ 2 หมื่นกว่า ๆ จบมาก็ทำงานโรงงานไปปีกว่า ๆ กับตำแหน่งหัวหน้าฝ่าย ความอิ่มตัวบังเกิด ประกอบกับค่าใช้จ่ายกับรายได้ พออยู่ได้ แต่อย่าคิดว่าจะมีเงินก้อน หรือหวังรวยในเร็ววัน พอดีตอนนั้นสบโอกาสมีคนรู้จักต้องการทีมติดตั้งระบบ เลยหาทางเพิ่มรายได้ หาทีมลูกมือ วิ่งดูหน้างานไปด้วย ทำงานประจำไปด้วย ก็เหลือบ้าง เจ๊งบ้างอยู่ 3-4 งาน  จนลาออกจากที่เก่ามาทำที่ใหม่ จากการชีกชวนจาก เจ้าของบริัทที่ใหม่ ช่วงคาบเกี่ยวลาออกมา มีงานที่เหมามางานนึงราคาแสนกลาง ๆ หมายมั่นปั้นมือ จะเหลือเงินก้อนสักแสน สองแสนในชีวิต สรุป "เจ๊ง" ครับ จากคุณ : high_voltage_XL เขียนเมื่อ : 1 ส.ค. 55 00:58:24

ความคิดเห็นที่ 2 มากล่าวถึงงานในบริษัทใหม่ เป็นธุรกิจสายรับเหมาเต็มตัว เข้ามารับผิดชอบในงานรับเหมาส่วนใหม่ของบริษัทคือง่นระบบที่ผมทำอยู่เดิมนั่นเอง เนื่องจากเดิมบริษัทนี้ไม่ได้รับทำงานตรงนี้ืพูดง่าย ๆ ก็คือเปิดตัวนี้มาเพราะให้ผมมาดูแลโดยเฉพาะ หน้าที่ผมคือ ทุกอย่าง คุยงาน ขายงาน ออกแบบ ถอดอุปกรณ์ เสนอราคา ตั้งงบโครงการ หาผู้รับเหมา คุมงาน วางบิล เงินเดือนประมาณ 2 หมื่นกลาง ๆ ไม่ได้มากมาย แต่แลกมาด้วยอิสระด้านการทำงาน และหวังผลกับเงินปันผลจากหุ้นลมปลายปีเท่านั้นเอง จากคุณ : high_voltage_XL เขียนเมื่อ : 1 ส.ค. 55 01:03:43

ความคิดเห็นที่ 3 ผมมีหนี้ติดตัวมาจากงานเก่า อีกทั้งการใช้ชีวิตเพลบอยในช่วงหนึ่ง และพื้นฐานทางครอบครัวไม่ได้ดี แม่เป็นแม่ค้าสูงอายุ ส่วนพ่อเป็นเพียงภารโรงที่เกษียรอายุราชการ กว่าจะเรียนจบมาได้ ต้องอาศัยพี่ ๆ ที่จบแล้วมีงานทำ ช่วยกันส่งเสีย และพึ่งทุน กยศ ทำให้การทำงานที่ใหม่แม้จะสนุก แต่ก็ติดขัดในเรื่องเงินหลายๆครั้ง บางเดือนแทบไม่ชนเดือน แต่สิ่งนึงที่ผมไม่เคยขาดหายคือการให้เงินแม่ทุกเดือน และรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในบ้าน ด้วยความหวังของลูกทุกคนย่อมอยากให้พ่อแม่มีความสุข และสบายกายสบายใจ ความรู้สึกว่าเรายังดูแลแม่ไม่ได้ดีก็ยังมีเสมอๆ จากคุณ : high_voltage_XL เขียนเมื่อ : 1 ส.ค. 55 01:13:01

ความคิดเห็นที่ 4 วันนึง อยู่ๆแม่ผมลุกไม่ขึ้น เนื่องจากภาวะความดัน และไขมันอุดตันในสมอง ได้พาแม่ไปโรงพยาบาล เมื่อรับแม่แอดมิท แม่ได้อยู่ห้องรวม แต่เป็นเตียงที่อยู่นอกระเบียง ทุกครั้งที่ไปเยี่ยมแม่ผมรู้สึกหดหู่มาก แม้พี่สาวจะบอกว่าพยายามจองห้องพิเศษแล้ว แต่ว่ามันเต็ม อีกทั้ง รพ รัฐคนไข้เยอะ เลยต้องจำใจมานอนด้านนอก แต่ทุกครั้งที่เห็นภาพแม่ ผมยังคอตีบเสมอ ๆ เมื่อไหร่ผมจะมีเงินรักษา ดูแลคนในครอบครัว ยามเจ็บยามป่วย ได้ไปโรงพยาบาลดี ๆ กับเค้าสักที ตอนนั้นคิดแล้วได้แต่สังเวชตัวเอง ---------------- กลับมาที่เรื่องงานที่ใหม่ ผมทำจนครบรอบปี โดยช่วยกันทำงานกับเพื่อนอีกคน ที่มาช่วยเพิ่มในภายหลัง ตั้งตาเฝ้ารอ เงินปันผล สิ้นปีผ่านไป มกราผ่านไป กุมภาผ่านไป ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ... ตอนนั้นใจผมคิดว่า คงโดนเบี้ยวแน่ ๆ ปีนี้พร้อมความอัดอั้นตันใจ เสมอๆ เวลาคิดเรื่องนี้ ตอนนั้นยอมรับว่าไม่มีความสุขในการทำงานเลย จุดเปลี่ยน ผมจำได้ดี วันนั้นผมอยู่ออฟฟิศ กำลังเตรียมตัวออกไซต์งาน ก็เหมือนเดิม เปิดเว็บบิทโหลดหนังตามปกติ แล้วเพิ่งไปเจอเรื่องนึงที่อยากดู ตอนเข้าโรง แต่ไม่ได้ดู ตอนออกมาใหม่ๆ ก็ไม่ได้ดู เรื่องนั้นก็คือ ... "เถ้าแก่น้อย" เวลานั้น ผมคงไม่คิดว่าหนังจากบิทเรื่องนึง จะเปลี่ยนชีวิตผมได้เร็วภายในเวลาไม่ถึง ครึ่งปี จากคุณ : high_voltage_XL เขียนเมื่อ : 1 ส.ค. 55 01:25:19

ความคิดเห็นที่ 5 ทำงาน้สด กลับมาออฟฟิศ กลับบ้าน ต่อโน๊ตบุ๊คเข้ากับจอทีวี แล้วผมก็นอนดูชีวิตของไอเด็กหัวทอง ๆ ชื่อต๊อบ หลังจากเห็นฉากที่ต๊อบเอาของไปส่งยัง DC seven eleven  แล้วมีเลือดกำเดาไหล ผมขนลุก คอตีบ และผมรู้สึก ไฟลุกโชน .... พร้อมกับอินโทรเมโลดีแหลม ๆ ตามด้วยเสียงของน้องพิจิกา "รอนแรมมาเนิ่นนานเพียง 1 ใจ กับทางที่โรยเอาไว้ด้วยขวากหนาม" ..... ผมตัดสินใจ กรูจะลาออก แล้วไปเปิดบริษัทแบบ เต็มตัว จากคุณ : high_voltage_XL เขียนเมื่อ : 1 ส.ค. 55 01:29:48

ความคิดเห็นที่ 6 วันรุ่งขึ้น คุยกับเพื่อนที่ทำงานด้วยกัน แล้วก็ตั้งใจว่าจะจดทะเบียนบริษัท เมื่อคิดว่าออกแน่ คราวนี้ที่เราต้องมีคือลูกค้าครับ ผมโทรหาทุกคอนเนคชั่นที่รู้จัก แนะนำตัวไปยังบริษัทเก่าๆ คนเก่าๆที่เคยทำ และอีกทางคือพยายามหางานด้านใหม่ที่ไม่ซ้ำกับสายเดิมไวด้วย เพราะ 100 ทั้ง 100 เปิดบริษัทมาทับกับเจ้านายเก่า ถ้าเค้าไม่อวยพรให้โชคดี ก็คือเป็นศัตรูกันแน่ๆ ครับ ผมพยายามหากลุ่มลูกค้าใหม่ๆ ผมสมัครเว็บไซต์ฟรี จดชื่อโดเมนในนามบริษัทและมีอีเมล์ ในนามบริษัท ซึ่งผมถือว่าสำคัญมาก บ่อยครั้งที่ผมรับนามบัตรจาก supplier ผมจะดูว่าบริษัทนี้มีเว็บไหม มีโดเมน เซิฟเวอร์เมล เป็นของตัวเองไหม ไม่รู้ว่าคนอื่นคิดแบบไหน แต่ผมรู้สึกว่าสำคัญมาก  100 คน อาจจะมีคิดเหมือนผมสัก 10 คน นั่นแสดงว่าผมมีความน่าเชื่อถือเพิ่มขึ้นละ 10 คน ในระหว่างหางาน ก็ทำเอกสารเปิดบริษัทไปด้วย โดยผมทำเอกสารเองทั้งหมด แม้กระทั่งวันไปยื่นจดและกับมาแก้ไข ก็เป็นคนทำเองครับ สรุปผมลาออกสิ้นเดือนนั้นคือ มีนาคม ผมกับเงินก้อนนึงคือเงินเดือนและยืมเพื่อนที่ทำงานมาอีกครึ่งแสน เพราะผมต้องมีเงินสำรองไว้ในกรณีไม่มีงานสักเดือน 2 เดือนครับ แต่กว่าจะจดทะเบียนบริษัทเรียบร้อยก็เมษายนครับ จากคุณ : high_voltage_XL เขียนเมื่อ : 1 ส.ค. 55 01:44:37

ความคิดเห็นที่ 7 ขึ้นเดือนใหม่ เข้ามาเกาะติดครับ แจกกิฟให้ก่อนเลย จากคุณ : immarch เขียนเมื่อ : 1 ส.ค. 55 01:48:53

ความคิดเห็นที่ 8 พิมพ์นานๆ ชักง่วงแหะ จะพยายามเท่าที่ไหวนะครับ ........ เป้าหมายผมคือ ขายงานได้เฉลี่ยมีเงินเข้าบริษัทสัก 1-2 แสน เป้าหมายคือปีแรกขอปิดงบสัก 2 ล้าน กำไรสัก 20-30% นั่นหมายความว่า น่าจะเพียงพอแล้วกับรายรับเฉลี่ย 40,000-50,000 บาทต่อเดือน ตอนนี้ผมก็ขายงานไปเรื่องครับ ไปแนะนำตัว หมั่นเอาชื่อบริษัทไปฝากในเว็บต่าง ๆ ทำใบเสนอราคาเยอะแยะมากมายไปหมด เดือนเมษาก็ได้มางานนึงครับ มูลค่าแสนต้น ๆเป็นงานติดพันมากจากที่เก่า ก็โอเคละนะ ถือเป็นนิมิตหมายที่ดี ระหว่างนั้นก็มีพี่คนนึง ที่เคยใช้งานผม สมัยทำงานส่วนตัวครั้งแรก แกแนะนำผมให้กับบริษัท ๆ นึง บอกว่าต้องการผู้รับเหมางานระบบนี้ ผมก็โทรนัดกันแล้วดข้าไปคุยครับ .... ตื่นเต้นมากครับ คุยงานกับชาวต่างชาติและคนไทย ยิ่งรู้ราคายิ่งตื่นเต้น จำบรรยากาศวันที่คุยได้แม่น แนะนำตัว พรีเซนส์ประวัติ แล้วทางเค้าก็บีฟ สโคฟงาน และที่เด็ดที่สุด คือเค้าให้ boq ผมมาปึกนึง พร้อมกับพูดว่า ขอราคาต่ำกว่านี้ 10% คุณไปดูมาว่าทำได้ไหม แล้วเสนอราคามา  ผมเปิดราคา มาดู เหยด 4 ล้านกว่าบาท ตอนนั้นใจนึงก็อยากได้มากๆ อีกใจก็คือ จะเอาทุนจากไหนมาทำวะ ทั้งเนื้อทั้งตัวมีไม่ถึงแสน แต่ผมจำคำสอนนึงได้เสมอว่า "ชีวิตมันมีแค่ทำ กับไม่ทำ ไม่ทำก็คือไม่ได้อะไรเลย แต่ถ้าทำ มันอาจจะได้หรือไม่ได้ " ผมกลับมาใช้เวลาประมาณ 3-4 วันทำราคาแล้วเคาะตัวเลขเบ็ดเสร็จ ผมทำถูกกว่าเจ้าอื่นได้แน่ๆ เพราะ overhead ผมมันต่ำ   แต่10% มันก็ต่ำมากไป ผมเลยมีราคาสุดท้ายที่ประมาณ 5%  ซึ่งผมก็เสนอไปตามนั้น แต่ในระหว่างที่เค้ากำลังไปดูราคานั้น ทางผมหาทุนให้ควั่กเลยครับ โทรหาทุกคนที่พึ่งได้ รวมทั้งคุยกับ supplier ที่รู้จัก เกริ่นไว้คร่าว ๆ ทุกคนพูดเหมือนกันว่า ไว้ได้แล้วค่อยมาคุยกัน ซึ่งนั่นหมายความว่าไม่มีอะไรที่แน่นอนเลย ผมเหมือนมีบุญ แต่มีกรรมจริงๆ จากคุณ : high_voltage_XL เขียนเมื่อ : 1 ส.ค. 55 02:00:30

ความคิดเห็นที่ 9 อ่อ ในการรับงานผมสกรีนงานมากครับ อย่างที่บอกทุนเราต่ำ ถ้าล้มไป ไม่มีโอกาสฟื้นเลยครับ กฎที่สำคัญของผมเลยคือ ทำงานต้องเก็บเงินได้ครับ ฉะนั้น ผมจะตัดลูกค้าไม่ค่อยหน้าไว้ใจออกเลยครับ สายอสังหาริมทรัพย์ หรือบริษัทที่เป็นครอบครัว ๆ เล็ก ๆ. หรือบริษัทที่เริ่มมีกลิ่น ซึ่งผมพอจะมีคอนเนคชั่นเช็คอยู่บ้าง บริษัทพวกนี้ผมตัดออกเลยครับ ผมยังไม่พร้อมล้มเหลวตั้งแต่เริ่ม กลับมาที่งานที่ดีลอยู่ ในระหว่างหาทุนและรอคำตอบ ผมก็เช็คประวัติด้วย ตัวผมเองรู้จักบริษัทนี้ตั้งแต่แรกๆแล้วครับ เนื่องจากเป็นบริษัททำสายเฉพาะด้าน แต่ไม่เคยร่วมงานด้วย ก็เลยสกรีนจากหลาย ๆ ท่านที่รู้จัก รวมถึงพี่คนที่แนะนำผมให้บริษัทนี้ เค้าก็รับงานจากบริษัทนี้มาหลายปีแล้ว แต่พี่เค้าทำคนละสายกับผมหนะครับ โอเคร ความน่าเชื่อถือทุกคนการันตีว่า aa ครับ ผมสบายใจในเปราะนึง อีกทั้งลูกค้าที่น้างบริษัทนี้อีกทอด ก็เป็บกลุ่มทุนขนาดใหญ่ครับ เอ่ยไปใครๆ ก็รู้จัก ตอนนี้ผมมีสิ่งที่ต้องคิดสองอย่าง คือจะได้งานไหม กับถ้าได้จะมีปัญญาเอาทุนมากจากไหน จากคุณ : high_voltage_XL เขียนเมื่อ : 1 ส.ค. 55 02:11:17

ความคิดเห็นที่ 10 ประมาณ 1 สัปดาห์ ช่วงปลายเมษาก็ได้รับการติดต่อกลับมาครับ คือนัดไปคุย final ที่ออฟฟิศเค้า เพื่อชี้แจงรายละเอียดและต่อรองราคา ผมตื่นเต้นมากครับวันนั้น คุยกับทางหัวหน้างานนี้ ซึ่งเป็นคนต่างชาติ แบบเกร็ง ๆ พยายามรวบรวมสติ สรุปได้ยินคำพูดคำนึงคือ I believe he can do หัวใจมันพองจริง ๆครับ. พองก่อนที่จะเหี่ยวเวลาคิดว่าจะเอาทุนจากไหนมาทำ 5555+ ผมกลับออกมาด้วยใจที่เต้นระรัว ดีใจปนกังวล ถ้าผมทำสำเร็จ. ถ้าผมทำมันสำเร็จ ผมจะสร้างเงินในบัญชีเฉียดล้าน ในเวลาไม่ถึงครึ่งปี อุปสรรคอย่างเดียวที่ขวางผมอยู่คือทุน. ผมต้องการทุน จากคุณ : high_voltage_XL เขียนเมื่อ : 1 ส.ค. 55 02:17:30

ความคิดเห็นที่ 12 งะ ความเห็น 11หายไปไหน พิมพ์ไปตั้งเยอะ ข้อความในความเห็น 11 หลักจากเข้าไปคุยไม่นาน ทางแอดมินเค้าติดต่อมาว่าจะส่ง LOI มาให้ เพื่อให้ผมเซ็นตอบรับ เพื่อดำเนินการร่างสัญญาต่อไป ผมก็รับเมล์แล้วเปิดดู ครับ ยอดเงิน 4.2 ล้าน ผมคิดในในว่านี่ยอดขายเราจริงๆ เหรอ ทั้งๆ ที่จดทะเบียนยังไม่ถึง. 2เดือน ผมมอง LOi แล้วคิดถึงกำไรจากงานนนี้ คิดถึงแม่ที่ไม่ต้องนอนเตียงริมระเบียงเวลาไปหาหมออีกแล้ว พลันนึกได้. ผมยังไม่ได้จด ภพ 20 นี่นา ว่าแล้วก็รีบจดอย่างไวเลยครับ ใช้เวลาประมาณ 2-3 วันวิ่งเข้าออกอย่ 2-3 ครั้ง ได้เอกสารรับคำร้องไว้เป็นหลักฐานเบื้องต้น รอตัวจริง ครับหลังจากได้งานแล้ว ผมก็ต้องวิ่งหาทุน ผมเข้าหาทุกคนที่รู้จักและช่วยเราได้ ตอนนี้นี่เองทำให้ผมได้รู้ว่า ใครจริงใจ และใครแค่สร้างภาพ ผมไม่่ได้ว่าคนที่ไม่ให้ทุนผมนะครับ ทุกคนมีภาระ ผมแค่รู้ถึงจิตใจและความจริงใจของคนหลาย ๆคนที่คบสมาคมด้วย ผมได้เงินก้อนนึงจากเพื่อนร่วมงานเก่า ที่เคยเกื้อหนุนกันมาเสมอ ๆ แต่นั่นยังไม่พอ ผมจึงตัดสินใจคุยกับที่บ้าน โดยผ่านพี่สาวคนโต ผมพยายามแสดงให้ทุกคนเห็นว่า ผมโตพอที่จะทำมันได้ ในวัย 26 ปี ผมไม่ได้เป็นลูกชายตัวเล็กเสเพลคนเดิม ๆ และพิสูจน์ให้พี่ๆ เห็นว่า ผมจะทำให้ทุกคนมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ผมขอเอาโฉนดที่บ้านไปจำนองครับ สุดท้ายผมก็เงินก้อนนั้นมา เติมเต็มจนครบ และตอนนี้งานนี้ผมเบิกจ่ายงานกว่า 70% แล้วครับ ทุนหนักๆ ที่ต้องใช้คือค่าของ กว่าสามล้านบาท ผมหามาจัดส่งครบถ้วนเรียบร้อย ตอนนี้เหลือเก็บกำไรกับบริหารค่าใช้จ่ายค่าแรงครับ เหลือที่ไม่ได้เก็บเงินประมาณล้านนึง ซึ่งงานนี้ผมค่อนข้างหมดห่วงแล้วครับ น่าจะเหลือไม่น้อยกว่า 7 แสนเป็นอย่างต่ำ ส่วนยอดขาย 10 ล้านนี่ คือล่าสุดสัปดาห์ที่แล้วได้คุยงานอีกที่และได้ยืนยันแล้วว่าได้งาน รอแค่เอกสารครับ สรุปยอดขายตอนนี้. 0.13+4.2+1.3+ล่าสุด 4.5 = 10.13 ล้านบาทครับ ที่จริงรายละเอียดงานนี้มีอีกพอสมควร ทำอย่างไรกว่าจะได้เริ่มงาน กว่าจะขอเครดิต กว่าจะหา supplier ได้ อุปสรรคกับงานแรก ขอยกยอดไว้คืนพรุ่งนี้นะครับ เพราะพรุ่งนี้กลางวันต้องขับรถไปดูหน้างาน ขอบคุณเถ้าแก่น้อย ขอบคุณแสงสุดท้าย ขอบคุณจริง ๆครับ แก้ไขเมื่อ 01 ส.ค. 55 02:59:56 จากคุณ : high_voltage_XL เขียนเมื่อ : 1 ส.ค. 55 02:39:55

ความคิดเห็นที่ 13 เข้ามาขอบคุณที่เล่าครับ ชอบมากเรื่องราวพวกนี้ ทำให้ผมมีแรงบันดาลใจขึ้นอีกเรื่อยๆ รออ่านต่อครับผม จากคุณ : immarch เขียนเมื่อ : 1 ส.ค. 55 02:54:31

ความคิดเห็นที่ 14 เถ้าแก่น้อยรายถัดไปมาแล้ว ยินดีด้วยนะคะ มีความสามารถมากจริงๆ อายุ 26 เอง พี่อายุ 27 แล้ว ยังต๊อกๆอยู่ออฟฟิศอยู่เลย กำลังมองหาธุรกิจอยู่แต่ไม่รู้จะทำอะไรอะ จากคุณ : pat เขียนเมื่อ : 1 ส.ค. 55 09:37:59 A:58.137.142.196 X: TicketID:365369

ความคิดเห็นที่ 15 รอค่ะ อย่าลืมมาต่อน๊า ^ ^ จากคุณ : gift_thanitta เขียนเมื่อ : 1 ส.ค. 55 10:23:11

ความคิดเห็นที่ 16 เอ้า โหวตไว้รออ่านต่อ จากคุณ : FreeWing เขียนเมื่อ : 1 ส.ค. 55 10:57:00

ความคิดเห็นที่ 17 ยินดีด้วย กับความสำเร็จนะครับ  และมั่นใจว่า จะเจริญรุ่งเรืองไปอีกครับ   เพราะ จขกท มีความมุ่งมั่น ตั้งใจมากๆ จากคุณ : oดินสอน้อยo เขียนเมื่อ : 1 ส.ค. 55 10:57:29

ความคิดเห็นที่ 18 ตอนนี้ตัวผมเองก็เพิ่งลาออกจากงานมาเมื่อวานนี้เอง ต้องการออกมาตามหาตัวตนจริงๆของตัวเอง ได้มาอ่านข้อความดีๆ โดนใจ ที่เป็นอีกหนึงแรงบันดารใจ ยินดีกับความสำเร็จของคุณด้วยครับ.... จากคุณ : oohnakrab เขียนเมื่อ : 1 ส.ค. 55 11:23:10

ความคิดเห็นที่ 19 ขอบคุณมากครับ ไม่กล้าก็ไม่ก้าว ไม่กล้าตัดสินใจก็ไม่ได้ผลลัพธ์ คุณสุดยอดครับ คุณนั่นแหละลูกค้าผู้ชาย อย่าไปกลัวที่จะฝันให้ยิ่งใหญ่ครับ จากคุณ : mix_more เขียนเมื่อ : 1 ส.ค. 55 13:07:47

ความคิดเห็นที่ 20 เข้ามาดู ... จากคุณ : D_YONG เขียนเมื่อ : 1 ส.ค. 55 13:37:35

ความคิดเห็นที่ 21 สุดยอดครับ สามารถจัดระบบบริษัท และรับงานได้ขนาดนี้ ถ้ามีอะไรผิดพลาดขึ้นมา มีโอกาสติดลบเยอะแน่ๆ ยังไงก็ขอให้อย่าประมาณนะครับ วันนี้เป็นวันของเรา แต่พรุ้งนี้อาจไม่ใช่ แต่ยังไงก็ขอให้ผ่านไปให้ได้ครับ และขอให้รวยๆนะครับ ผมเองก็เริ่มทำธุรกิจของตัวเองได้1ปีแล้วลงทุนไป3แสน แต่ตอนนี้ยังไม่ค่อยดีเท่าไหร่ แต่ทุกครั้งที่ได้ทำงานของตัวเอง ผมรู้สึกว่าผมมีความสุขและสามารถทำมันได้ทั้งวันทั้งคืนเลย ตอนนี้ผมก็อายุเท่าคุณครับ ปล. ผมก็ดูหนังเรื่องเดียวกับคุณนะ ถ้าเทียบกับกวน มึน โฮ ,ATM เออรักเออเรอ อะไรประมาณ มันคงไม่สนุกเท่าหนังพวกนี้ แต่มันทำให้คนอย่างผมมีไฟขึ้นมาเหมือนกัน จากคุณ : อ๊อฟ (yunisoft) เขียนเมื่อ : 1 ส.ค. 55 14:26:52

ความคิดเห็นที่ 22 ยินดีด้วยครับ จากคุณ : Honza_Like a ku เขียนเมื่อ : 1 ส.ค. 55 14:28:44

ความคิดเห็นที่ 23 อืม กล้าที่จะก้าว มันก็จะไปถึงจุดที่ ต้องการได้ จากคุณ : ก้นกบ เขียนเมื่อ : 1 ส.ค. 55 14:33:08

ความคิดเห็นที่ 24 สุดยอดเลยค่ะ ดีจังตอนนี้คิดจะทำธุรกิจของตัวเองเหมือนกันแต่ไม่รู้ว่าจะทำอะไรดี เครียดค่ะ ต้องทำงานเป็นลูกน้องเค้าตลอด เฮ้อออออ จากคุณ : sandglass12 เขียนเมื่อ : 1 ส.ค. 55 15:01:49

ความคิดเห็นที่ 25 เข้ามาชื่นชมในความกล้าครับ ขอให้ประสบความสำเร็จ เจริญรุ่งเรืองนะครับ ชื่นชมในความเป็นลูกกตัญญูครับ จากคุณ : คนไทยไม่ท้อ เขียนเมื่อ : 1 ส.ค. 55 15:04:02 A:202.28.7.20 X: TicketID:324733

ความคิดเห็นที่ 26 แนะนำเลยแหละครับ ว่าใครอยากฮึด อยากมีแรงที่จะทำอะไรของตัวเอง ดูเรื่องถ้าแก่น้อย และฟังเพลงแสงสุดท้ายด้วย "เติมพลังให้ใจดวงนี้ ไม่ยอมแพ้" จากคุณ : ณปัณณ์ เขียนเมื่อ : 1 ส.ค. 55 16:36:35

ความคิดเห็นที่ 27 เราคิดว่า คุณเก่งตั้งแต่กล้าคิดแล้ว จากคุณ : คุณหนูผลไม้รูปไข่ เขียนเมื่อ : 1 ส.ค. 55 16:55:13

ความคิดเห็นที่ 28 ผมก็อยู่สายรับเหมาเหมือนกัน.. อยากกล้าแบบเจ้าของกระทู้บ้าง แต่ติดว่างานประจำที่ทำอยู่ตอนนี้ก็พอมีเงินให้เหลือเก็บอยู่พอสมควร ก็เลยไม่กล้าเสี่ยงที่จะเปิดบริษัทเพื่อทำเองควบคู่กันไป แต่ตั้งใจไว้แล้วว่าจะไม่ยอมเป็นพนักงานกินเงินเดือนไปแบบนี้ตลอดไปแน่ๆ.. ปล. ชื่อล็อกอิน จขกท. น่าจะอยู่สายงานเดียวกับผมแน่ๆ จากคุณ : TavanTa_san (TavanTa_san) เขียนเมื่อ : 1 ส.ค. 55 19:13:14

ความคิดเห็นที่ 29 แสงสุดท้าย เผื่อบางท่านยังไม่ได้ฟัง เอาไปเติมแรงฮึดของทุกท่านนะคะ ส่วนตัวชอบเวอร์ชั่นนี้ น้องน่ารักดี ... จากคุณ : อำแดงเฟริ์น เขียนเมื่อ : 1 ส.ค. 55 22:24:10

ความคิดเห็นที่ 30 ขอบคุณทุกกำลังใจและคำแนะนำครับ ผมจะเก็บไว้เสมอ ดีใจที่เห็นหลายๆ ท่าน ได้อีก1เรื่องเป็นแรงบันดาลใจครับ พอดีกลับมาจาก ตจว ตั้งแต่หัวค่ำแล้วครับ แต่ด้วยความเหนื่อย เพลียจึงหลับไป วันนี้ผมจะทยอย อธิบายรายละเอียดต่าง ๆ ปลีกย่อย   อย่าถือว่าเป็นคำสอนนะครับ คิดว่าเป็นการบอกอีกประสบการณ์ หนึ่งในการทำธุรกิจส่วนตัว เช่นการสร้างความน่าเชื่อถือ  การหาลูกค้า ปัญหาและอุปสรรค การบริหารจัดการทุน เท่าที่พอนึกได้นะครับ จากที่ทราบแล้วจากด้านบน หลังจากผมตัดสินใจจะทำธุรกิจส่วนตัว ผมก็ต้องเริ่มมองหาลูกค้า ก่อนที่เราจะไปหาลูกค้า เราจำเป็นต้องสร้างความน่าเชื่อถือก่อนครับ เริ่มจาก รวบรวมผลงานที่ผมเคยทำ ทำออกมาในรูปแบบ presentation สำหรับแนะนำตัวทางเมล์ สร้างเว็บไซต์ ใส่รายละเอียดต่าง ๆ และสมัคร google app free for business เท่านี้คุณก็มีเมล์เซิฟเวอร์ส่วนตัว ในชื่อ abc@company.com ได้แล้วครับ ให้น้องที่ทำงานที่สนิทกัน ทำโบรชัวร์ครับ ได้ไฟล์แล้วก็ไปจ้างเค้าพิมพ์มาพอประมาณ หว้สำหรับติดมือไปแจกเวลาเจอลูกค้าครับ ทำนามบัตร โดยใช้นามบัตรแบบ PVC แทนนามบัตรแบบพริ้นท์เองทั่วไป เหตุผลก็คือความน่าเชื่อถืออีกนั่นเองครับ เวลามันถูกแจกไปสู่ลูกค้า ผมว่ามันแลดูลงทุนกว่าการเอากระดาษแข็งมาปริ้นท์เองทั่วไป ผมเทียบจากความรู้สึกเวลาได้รับนามบัตรแบบต่าง ๆ จาก supplier นะครับ จากคุณ : high_voltage_XL เขียนเมื่อ : 1 ส.ค. 55 22:42:12

ความคิดเห็นที่ 31 ต่อไปการสร้างความน่าเชื่อถือในตัวผมเอง อยากที่ทราบธุรกิจสายงานรับเหมาคุณต้องทำให้ลูกค้าเชื่อได้สองอย่าง หนึ่งคือ เชื่อว่าคุณมีความสามารถและความรู้พอที่จะทำงานนี้ได้ สองคือ เชื่อว่าคุณมีเงินทุน มีปัญญาที่จะรับงานจากเค้า โดยไม่ชงหรือเชิดเงินหนีไป ข้อ 1 ผมมีสิ่งยืนยันจากผลงานที่ผ่าน ๆ มาจากงานเก่า ๆ ใน reference ที่แนะนำตัว ส่วนข้อ 2 นอกจากสิ่งต่าง ๆ ข้างต้น สิ่งหนึ่งที่สำคัญคือตัวเราเองครับ เวลาที่เราไปยื่นนามบัตรแล้วเค้ามองชื่อตำแหน่ง managing director บุคลิค การแต่งกาย เสื้อผ้า หน้า ผม ของเรา ทำให้เค้าเชื่อได้ไหมว่าเรานี่หละคือ md ของบริษัทที่จะมาประูลงานเค้า ผมเริ่มปรับปรุงข้อนี้ของตัวผมเองทันทีเมื่อรู้ว่าจะออกไปหาลูกค้า. จากเดิมเสื้อเชิ๊ตมือสอง จากตลาดนัด กางเกงยีนส์จากร้านตามคลองถมทั่วไป ผมตัดสินใจเดินขึ้นห้าง เพื่อหาเสื้อผ้าแบรนด์เนมครับ แต่เป็นแบรนด์เนมที่ต้องเซลล์ เท่านั้น จำได้ดีครับ วันนั้นตั้งใจให้แฟนพาไป เซนทรัล ขึ้นไปแผนกแต่งกายบุรุษ เจอยี่ห้อ john langford, pier gardin  70% sale off วันนั้นผมซื้อมาทั้งหมด 5 ตัวยี่ห้อ john langford เสื้อ 3กางเกง 2 หมดเงินไป สองพันกว่าบาทเองครับ เนื่องจากมันจัดโปรซื้อ 4 แถม 1แต่ต้องเป็นยี่ห้อเดียวกัน ด้วยความเสียดายโปรโมชั่น เลยกลับไปจัดมาอีก 5 ตัว ใน2 วันหลังจากนั้น. 5555 ผมหมดค่าเสื้อผ้าหน้าผมและ accs ไปประมาณ 1 หมื่นบาทครับ จนรู้สึกว่าโอเครแล้ว ต่อไปคือยานพาหนะ ผมมีรถเก๋งอยู่ 1 คันสภาพเก่าประมาณ 3-4 ปี ก็ถือว่าไม่ขี้เหร่เท่าไหร่ แต่มีรอยพอสมควร จัดการเก็บสี ขัดเงา หมั่นล้างบ่อย ๆ  ก็โอเคในระดับนึง ตอนนี้ผมพร้อมจะออกไปแนะนำตัวกับลูกค้าแล้วครับ จากคุณ : high_voltage_XL เขียนเมื่อ : 1 ส.ค. 55 22:59:23

ความคิดเห็นที่ 32 ทางคุณทำอะไรอ่ะครับ เพราะดูจากชื่อแล้ว ผมมั่นใจว่าเราต้องอยู่วงการเดียวกัน แต่ที่ถามไม่ใช่เพราะต้องการไปแข่งขันอะไร เผื่อว่า ในอนาคตเราอาจจะมีโอกาสได้ช่วยเหลือเกื้อกูลกันในด้านที่แต่ละคนทำอยู่ต่อไป จากคุณ : ชื่อนี้ไม่มีคนรู้จัก เขียนเมื่อ : 1 ส.ค. 55 23:01:12

ความคิดเห็นที่ 33 งาน EE ,C&I, FA และด้าน ME พอได้ในบางส่วนครับ ยินดีที่จะมีพันธมิตรเพิ่มเสมอ ๆ ครับ สำหรับผมไม่มีคู่แข็งทางธุรกิจเลยครับ นโยบายหลักของผมทุกคนคือพันธมิตร หลายๆครั้งเพื่อนร่วมธุรกิจนี่แหละครับ คือผู้ช่วยในยามคับขันที่จะกล่าวถึงในเรื่องต่อไปครับ จากคุณ : high_voltage_XL เขียนเมื่อ : 1 ส.ค. 55 23:12:36

ความคิดเห็นที่ 34 แวะมาชื่นชม ให้กำลังใจ น้องลูกกตัญญูนะครับ ทำอะไรต่อไปในอนาคตขอให้มีสติและอย่าลืมวันที่ยังลำบากนะ จากคุณ : เม็ดทรายสีฟ้า เขียนเมื่อ : 1 ส.ค. 55 23:17:42

ความคิดเห็นที่ 35 ลงชื่อ ตามอ่านๆ อ้อ ขอบคุณที่เอามาเล่าเป็นวิทยาทานค่ะ จากคุณ : lovelypriest เขียนเมื่อ : 1 ส.ค. 55 23:58:26

ความคิดเห็นที่ 36 มาถึงตอนจะออกไปหาลูกค้า ผมแบ่งเป็น 2 ส่วนใหญ่ๆครับ 1.คือกลุ่มที่รู้จักและเคยร่วมงานกันมาแล้ว 2.คือลูกค้าใหม่ แต่เลือกเฉพาะในสายอุตสาหกรรมด้านเกษตรที่เราเชี่ยวชาญ เหตุผลในข้อ 1 คือไม่ต้องพูดมากครับ เรามีเครดิตด้านความสามารถแล้ว เข้าไปเหมือนเปิดตัวเฉย ๆ ว่าเรากลับมารับเองละนะ ส่วนข้อ2 เหตุผลคือผมทำงานระบบในสายอุตสาหกรรมนี้มาพอสมควร มันทำให้เรามีประสบการณ์และความรู้ในเชิงลึก เราจะทราบว่าควรเผื่ออะไรเหลือ ควรเผื่ออะไรขาด โอกาสในความผิดพลาดจะยิ่งน้อยลงครับ จากคุณ : high_voltage_XL เขียนเมื่อ : วันอาสาฬหบูชา 55 00:21:12

ความคิดเห็นที่ 37 ผมวิ่งออกหาลูกค้าจริง ๆ อยู่ประมาณ 1 เดือน คือช่วงเมษาถึงพฤษภาคม ได้ลูกค้ารายใหม่มาพอควร ที่ทำให้มีโอกาสได้เสนอราคา จนกระทั่งได้งานแรก ทีนี้ทำอย่างไรเราถึงจะได้งาน อันนี้ขอกล่าวถึงทั่ว ๆ ไปนะครับ แน่นอนในวงการรับเหมา ผู้ที่เสนอราคาต่ำที่สุดคือผู้ได้งาน แต่ในชีวิตจริงไม่ใช่เสมอไป ราคาเราต่ำสุดแล้ว พรุ่งนี้เจ้าที่เคยราคาสูงกว่าเรา เค้าจะโผล่มาราคาต่ำกว่าเรา เพราะ "คนใน" ใช่ครับ คนใน หรือคนที่คอยบอกข้อมูลราคาแต่ละเจ้า. หากเรามีข้อมูลตัวนี้ ได้เปรียบสุด ๆ ยิ่งคนในตำแหน่งใหญ่โต ยิ่งโอกาสสูง ตัวนี้ผมขอละเอาไว้ในฐานที่เข้าใจนะครับ ถือว่าเป็นด้านสีเทาของทุกวงการ แต่เราก็ต้องเข้าใจ ว่าทุกคนส่วนใหญ่ ทำงานเพื่อผลตอบแทนทั้งสิ้น และด้วยความที่ผมค่อนข้างใจกว้าง ผมจึงมีคนใน หลาย ๆ ที่พอสมควร ^ ^ จากคุณ : high_voltage_XL เขียนเมื่อ : วันอาสาฬหบูชา 55 00:31:23

ความคิดเห็นที่ 38 สู้ๆ มันต่างกันแค่ทำกับไม่ทำจริงๆด้วย จากคุณ : แม่นางคำ เขียนเมื่อ : วันอาสาฬหบูชา 55 08:42:21

ความคิดเห็นที่ 39 ผมอ่านเรื่องของพี่แล้วผมไม่เข้าใจอ่ะ แต่ผมเห็นหัวข้อเลยเข้ามา ว่าแล้วว่าต้องเป็นหนังเรื่องนี้กับเพลงๆนี้แน่ๆ เพราะมันก็ทำให้ผมขนลุกและพยายามมากขึ้นเหมือนกันครับ " ชีวิตมันไม่ยากเย็นขนาดนั้น... สองมือจะมีเรี่ยวแรงขนาดไหน... " จากคุณ : Jao_Nok_Noi เขียนเมื่อ : วันอาสาฬหบูชา 55 09:59:19

ความคิดเห็นที่ 40 "ชีวิตมันมีแค่ทำ กับไม่ทำ ไม่ทำก็คือไม่ได้อะไรเลย แต่ถ้าทำ มันอาจจะได้หรือไม่ได้ " โดน!! จากคุณ : Restarted เขียนเมื่อ : วันอาสาฬหบูชา 55 10:17:34

ความคิดเห็นที่ 41 เดาก่อนเข้ามาอ่านว่าเพลง แสงสุดท้าย ถูกจริงด้วย จากคุณ : RockCafe เขียนเมื่อ : วันอาสาฬหบูชา 55 10:24:19

ความคิดเห็นที่ 42 รายละเอียดของหนังเถ้าแก่น้อย "โม้ซะเป็นส่วนใหญ่" นะครับ แต่ถ้าทำให้คนหลาย ๆ คนที่ได้ดูแล้วฮึดสู้ขึ้นมาอย่างคุณ ก็ถือว่าเป็นหนังที่ดีและประสบความสำเร็จครับ * จากคุณ : macenjoy เขียนเมื่อ : วันอาสาฬหบูชา 55 12:11:32

ความคิดเห็นที่ 43 เมื่อวานก็เพิ่งนั่งดู หนังเรื่องนี้จากในโน๊ตบุ๊คหลังจากโหลดมานาน แต่ไม่มีเวลาดู เพราะทำแต่งาน ณ ตอนนี้ผมยังดูไม่จบนะครับ ดูถึงยังขายเกาลัดอยู่เลยแต่คิดว่า มีประโยนช์กับผมมากๆๆๆๆๆ เพราะไหวพริบ น้องต๊อบ โดนใจผมมาก ตอนไปซื้อเครื่อง PSP แล้ววันนี้ผมกลับได้มาเจอ กระทู้นี้ของคุณอีก มันยิ่งจุดไฟในตัวผมให้ ยิ่งโหมขึ้นมาอีก จากเดิมที่กำลัง วางแผนในอนาคตของตัวเองอยู่ เพราะตอนนี้อายุก็ล่วงมา 33 ขวบแล้ว แต่ยังไม่ได้สร้าง อะไรที่เป็น กิจการของตัวเองเลย เพราะมัวแต่หลงระเริงกับค่าตอบแทนเกือบแสน ต่อเดือน แต่มันก็ยังไม่ใช่คำตอบในชีวิตของ วิศวกร อย่างที่อยากจะเป็น เพราะอยากทำงานวิศวกรรม มากกว่าเป็นวิศวกรแก่ๆ ขอบคุณเจ้าของกระทู้นี้ครับ ผมได้อะไรอีกเยอะ จากคุณ : jick_kim เขียนเมื่อ : วันอาสาฬหบูชา 55 13:37:13

ความคิดเห็นที่ 44 กะแล้วว่าต้องเป็นเพลงแสงสุดท้ายแน่ๆ ทุกครั้งที่ฟังมันมีพลังแบบนี้จริงๆค่ะ จากคุณ : ก้าบๆเหมียวโฮ่งๆฮี้กั่บๆ เขียนเมื่อ : วันอาสาฬหบูชา 55 17:10:16

ความคิดเห็นที่ 45 ทุนน้อยมาก ถ้าหมุนเงินไม่ทัน โอกาสร่วงสูงมากๆ เท่าที่ฟัง กำไรคุณไม่เท่าไร เจอลูกค้า ดึงเช็ค หรือ เบี้ยวเช็ค ผมว่าคุณเจ้งได้ง่ายๆ ระวังก็แล้วกัน จากคุณ : อดิ เขียนเมื่อ : วันอาสาฬหบูชา 55 17:11:04 A:58.11.196.208 X: TicketID:369281

ความคิดเห็นที่ 46 คล้ายคุณ jick_kim   ดูถึงตอนขายสาหร่าย ตั้งแต่น้ำท่วม หลังจากนั้นแล้วชีวิตยุ่งๆ เลยลืมๆ ไป เลยไม่ได้ดูต่อ จากคุณ : โดดเดี่ยวผู้น่ารัก เขียนเมื่อ : วันอาสาฬหบูชา 55 21:32:48

ความคิดเห็นที่ 47 เพลงแสงสุดท้าย เป็นเพลงที่ทำให้เรามีพลังในทุกๆครั้งที่ฟัง ขอบคุณสำหรับการแชร์เรื่องราวดีๆนะค่ะ จากคุณ : แม่ช้างนำโชค เขียนเมื่อ : วันอาสาฬหบูชา 55 22:04:51

ความคิดเห็นที่ 48 อ่าส์ ได้กลับมาใช้ note book สักที ขออภัยหากบางท่านอ่านแล้ว งง ๆ นะครับ ส่วนใหญ่จะมีเวลามาโพสต์ต่อช่วงดึก ๆ ขอบคุณทุกคำแนะนำติชม และกำลังใจอีกครั้ง @คุณ อดิ ผมเข้าใจในจุดนี้ดีเลยครับ เนื่องจากทุนเราน้อย เวลาส่งของแต่ละงวดเหลือ cash flow ในบัญชีไม่ถึงสองหมื่นยังมีเลยครับ แต่ผมคำนึงถึงจุดนี้ไว้ก่อนแล้วครับ คือเนื่องจากเคสนี้เป็นงานขนาดใหญ่ มูลค่าสูงผมคุยกับทางลูกค้าตรง ๆ เรื่องลดระยะเวลารอดีลรับเชคครับ จากลูกค้าเคยขอเวลา 30 วันต่อ 1 ดีล ผมคุยตรง ๆ ว่าขอ 15 วันครับ ซึ่งลูกค้าก็โอเคร แต่ก็มีเงื่อนไขว่าอย่างช้าสุด เค้าขอไม่เกิน 21 วัน ซึ่งเราคุยกันตั้งแต่วันไปคุยราคา final แล้วครับ ซึ่งผมมีเครดิตส่วนใหญ่อยู่ที่ 30-45 วัน ฉะนั้น ผมมีเวลาเผื่อไว้อย่างต่ำ 10 วันโดยประมาณ กรณีเชคเลื่อนครับ ส่วนลูกค้าไม่จ่ายเชค อันนี้อย่างที่บอกข้างต้นครับ ผมสกรีนลูกค้าก่อนรับงานอย่างมากครับ ลูกค้าไม่รู้หัวนอนปลายเท้า ลูกค้ามีประวัติไม่ดี ผมไม่เคยดีลด้วยเลยครับ มีหลายที่ครับ ที่ติดต่อมาให้เข้าไปดูงาน ลูกค้าที่ผมบอกว่าวิ่งเข้าไปหา ไปแนะนำตัว ผมดูที่องค์กรณ์ทั้งสิ้นครับ จากคุณ : high_voltage_XL เขียนเมื่อ : วันอาสาฬหบูชา 55 23:58:42

ความคิดเห็นที่ 49 ^^ จากคุณ : high_voltage_XL เขียนเมื่อ : วันเข้าพรรษา 55 00:07:05

ความคิดเห็นที่ 50 ตอนนี้มาถึงช่วงเริ่มโปรเจ็คครับ 3 สิ่งที่ผมต้องทำ หาของ หาคน หาเครื่องมือ เอาเรื่องแรก หาของก่อนครับ กับเงินในมือแค่ ครึ่งล้าน กับของที่ต้องส่งต้นทุนสองล้านกว่าบาท ตอนนั้น นึกออก 2 อย่างครับ แล้วผมก็ทำทั้ง 2 อย่าง 1 วิ่งเข้าไปคุยกับพี่ที่รู้จักกัน เค้าทำธุรกิจสายรับเหมาอยู่ก่อนแล้ว เคยถ้อยทีถ้อยอาศัยกัน ซึ่งเค้าจะมีเครดิตอยู่บ้างบางส่วน แต่ราคาที่ได้จะสูงมาก 2 เข้าไปคุยกับ supplier ที่ซื้อขายกันมานาน ตั้งแต่สมัยผมรับงานนอกเล็ก ๆ จนกระทั่งทำงานที่เก่า ก็ยังตามซื้อมูลค่าต่อดีลหลักหลายล้าน ซึ่งผมตั้งความหวังกับ supplier เจ้านี้ไว้มากครับ คบค้าสมาคมกันมาร่วม 2-3 ปี ยังจำวันที่เข้าไปนั่งคุยกับเฮียเจ้าของร้านได้ดี (มั่นใจว่ายังไงก็ได้ของแน่) ผมก็คุยตามตรง ผมได้งานตัวนี้มาเท่านี้ ผมต้องใช้รายการสินค้าตามนี้ มูลค่าประมาณนี้ ผมจะขอเครดิต เฮียเท่านี้ ระยะเวลาหลังจากไปส่งของไม่เกิน 30 วัน แต่คำตอบคือ "ถึงแม้เราจะเคยรู้จักแต่ซื้อขายกันมานาน แต่บริษัทเรายังใหม่ และไม่รู้ว่าเราจะบริหารจัดการได้ไหม บริษัทที่เรารับงานมาเฮียพอจะรู้จัก แต่เฮียกลัวว่าเราจะบริหารเรื่องเงินไม่ดี" สรุปคำพูดเฮียคือ เฮียกลัวผมรับเงินจากอีกที่มาแล้วไม่จ่ายเงิน ไม่ได้กลัวบริษัทที่จ้างผมโกง แต่กลัวผมโกง เฮียเสนอทางเลือกมาคือให้ผมไปขอให้คนที่จ้างผม มาซื้อกับเฮียโดยไม่ผ่านผม คำตอบที่ได้ตอนนั้น ยอมรับว่า โมโห ปนเสียใจ ปนกังวล มาก ๆ ครับ คุยกับเฮียเสียงสั่น ๆ สักพัก ผมก็ลากลับ ตอนนั้นยอมรับว่าแค้นใจ ปนเจ็บใจมาก จากคุณ : high_voltage_XL เขียนเมื่อ : วันเข้าพรรษา 55 00:30:56

ความคิดเห็นที่ 51 ขับรถกลับมาด้วยใจฟุ้งซ่าน โกรธ ก็ โกรธ กังวลเรื่องของก็กังวล ผมมีเวลา ประมาณ 1 เดือน ต้องส่งของทั้งหมด หลังจากระงับอารมณ์และความเครียดได้ คืนนั้นผมนั่งคิดวิธีแก้ปัญหา นั่งวิเคราะ schedule งานแล้ววางแผน เราไม่จำเป้นต้องเอาของไปส่งตูมเดียวนี่หว่า ตัดสินใจวันรุ่งขึ้น โทรหาผู้ว่าจ้าง ขอแบ่งส่งมอบของเป็น 2 งวด คือเดือนละงวด ซึ่งอธิบาย พร้อมมีเหตุผลที่ทำให้ทางนายจ้างสบายใจและยอมรับได้ ...... ต่อจากนั้น ก็คิดถึงของล็อทแรกที่จะต้องส่ง ในเมื่อเรามีงบเท่านี้ สิ่งที่ผมคิดได้คือ "จะเอาเงิน 4 แสน (อีก 1 แสนต้องกันไว้ใช้เตรียมเครื่องมือ ที่พัก ค่าเช่าต่าง ๆ ) ซื้อของอะไรไปส่งเพื่อเก็บเงิน แล้วได้กำไรหรือได้เงินก้อนกลับมาสูงที่สุด" นั่งไล่ราคาต้นทุนแต่ละตัว ติดต่อ supplier แต่ละเจ้า ซึ่งทางออกที่ดีที่สุดคือ ในเมื่อเราซื้อเงินสด เราจะซื้อกับโรงงานโดยตรงก็ได้ ไม่จำเป็นต้องผ่าน dealer ลดต้นทุนได้ไม่ต่ำกว่า 10-15% ครับ นี่แหละ ทางออกที่ดีที่สุดของผม...... สรุปล็อทแรกผมมีของไปส่งและเก็บเงินงวดนั้นมาประมาณเกือบ9 แสนบาทครับ แต่ไม่ได้ซื้อเงินสดทั้งหมดนะครับ บางตัวโรงงานยอมให้วาง down payment 30% ผมได้เงินมาหมุนเพิ่มจากของล็อทนั้นประมาณ 3 แสนบาท สรุปตอนนี้ทุนซื้อเพิ่มเป้น 7 แสนแล้วครับ ...... ชีวิตไม่สิ้นก็ดิ้นกันไป รูป ยอดเงิน ถ่ายวันที่ไปรับเชคครับ ขอถ่ายไว้หน่อย เป็นเงินที่สูงที่สุดที่เคยมีเข้ามาในบัญชีตั้งแต่เกิดมา แก้ไขเมื่อ 03 ส.ค. 55 01:00:24 จากคุณ : high_voltage_XL เขียนเมื่อ : วันเข้าพรรษา 55 00:50:30

ความคิดเห็นที่ 52 ผมยังตามมาอ่านต่อนะครับ ................ จากคุณ : jick_kim เขียนเมื่อ : วันเข้าพรรษา 55 08:54:20

ความคิดเห็นที่ 53 ตามมาอ่านครับ ผมอยู่สายงาน Sanitary ครับ จากคุณ : ลูกผู้ชายหัวใจคลาสสิค เขียนเมื่อ : วันเข้าพรรษา 55 10:27:54

ความคิดเห็นที่ 54 ผมขอติเรื่องเดียวนะครับ เรื่องที่เจ้าของกระทู้ มักจะคิดแค้นใจ และตำหนิ คนที่ไม่ให้ความช่วยเหลือ อย่าลืมว่าคุณไม่ได้ตกอับไปขอความช่วยเหลือ แต่คุณขอความช่วยเหลือเพราะอยากจะโตขึ้นเจริญขึ้น ถ้าคุณเจ๋งจริง ควรจะคิดถึงศักยภาพของตนเองมาเป็นที่หนึ่ง ในเรื่องเถ้าแก่น้อย ก็ไม่มีฉากไหนที่เค้าไปขอความช่วยเหลือใครไม่ได้แล้วโกรธ ตนย่อมเป็นที่พึ่งแห่งตน   การมีเครดิต ก็เกิดจากการที่คุณสั่งสมความน่าเชื่อถือ สั่งสมบารมี  ถ้าไม่ได้คุณก็ต้องยอมรับ ไม่ใช่เอามิตรภาพมาเป็นเครื่องมือในการขอเครดิต ผมก็เคยโดนนะครับ เลยเข้าใจดี จะมาขอยืมเงินเราแต่ไม่ดูสถานะภาพเราเลย ไม่ใช่ไม่ให้ยืม แต่ให้ยืมได้เท่าไหร่มากกว่า พอไม่ได้ตามที่หวังก็โกรธกัน ตัดพี่ตัดน้อง ส่วนผมเอง ก็เคยโดนปฏิเสธจากคนที่ผมเคยช่วยเหลือ ทุกวันนี้ยังใช้หนี้ผมไม่หมดด้วยซ้ำ ผมไม่ได้ขอยืมเงินนะครับ แต่ขอให้ช่วยค้ำประกัน ทุกวันนี้ ยึดหลักเศรษฐกิจพอเพียงครับ  เอากำไรมาขยับขยาย เติบโตช้า  แต่ก็ไม่ต้องเป็นหนี้ครับ จากคุณ : gtbboyz เขียนเมื่อ : วันเข้าพรรษา 55 14:56:44

ความคิดเห็นที่ 55 งานแนว EPC ระวังในส่วนของ allowance กับ contingency ด้วยนะครับ เพราะสุดท้ายอาจกลับมาเข้าเนื้อ  ยิ่งงานใหญ่ Schedule & Cost Control สำคัญมาก จากคุณ : ganemochi เขียนเมื่อ : วันเข้าพรรษา 55 15:30:16

ความคิดเห็นที่ 56 คุณเท่มากค่ะ ^_^ จากคุณ : น้องเปิ่น เขียนเมื่อ : วันเข้าพรรษา 55 17:00:02

ความคิดเห็นที่ 57 เข้าใจว่าจขกท. แค่รู้สึกเสียหน้ารึเปล่าครับที่คนรู้จักกันแต่ไม่เชื่อใจกัน แต่เฮียแกก็ทำถูกต้องเลยนะครับ จำไปเป็นแบบอย่างได้เลย เรื่องธุรกิจก็ต้องมองแบบธุรกิจครับ เฮียแกหนักแน่นจริงๆ จากคุณ : omaizo เขียนเมื่อ : วันเข้าพรรษา 55 17:08:59

ความคิดเห็นที่ 58 ขอบคุณทุกท่านครับ ตอนนั้นไม่เชิงรู้สึกเสียหน้าครับ แต่รู้สึกโดนดูถูกมากกว่าครับ ส่วนตอนนี้ไม่ติดใจอะไรแล้วครับ ช่วงหลังยังเชคราคาร้านเฮียอยู่เลย แต่ส่วนใหญ่จะซื้อเจ้าใหม่อีกที่นึง เนื่องจากราคาถูกกว่าครับ จากคุณ : high_voltage_XL เขียนเมื่อ : วันเข้าพรรษา 55 20:53:24

ความคิดเห็นที่ 59 กรณีคห.50 และ 51  ไม่ควรโทษใคร ไม่มีใครผิด ...มันเป็นเช่นนั้นจึงเกิดทางเลือกใหม่ขึ้นมาให้จขกท.ซึ่งก็ดีกว่าเดิม จากคุณ : FreeWing เขียนเมื่อ : วันเข้าพรรษา 55 23:59:57

ความคิดเห็นที่ 60 ผมก็ได้แรงบันดาลใจจากหนังเรื่องเถ้าแก่น้อยเหมือนกันครับ ตอนนี้อายุ 27 แล้ว ยังไม่มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน...ขอเวลาแค่ครึ่งปีครับ ครึ่งปีเท่านั้น แล้วผมจะมาโพสให้ จขกท. อ่านบ้างครับ จากคุณ : amnakim เขียนเมื่อ : 4 ส.ค. 55 01:07:54

ความคิดเห็นที่ 61 ต้องไปหาดูบ้างแล้ว เถ้าแก่น้อย จากคุณ : ดอกเข็มสีฟ้า เขียนเมื่อ : 4 ส.ค. 55 13:35:30

ความคิดเห็นที่ 62 ดีใจด้วยนะค่ะ กับความสำเร็จในขั้นแรก   เป็นห่วงเรื่อง ระบบบัญชีของบริษัท ยังไงก็ดูแลเรื่องภาษีให้ดีๆ  ทั้งภาษีหัก ณที่จ่าย ภาษีมูลค่าเพิ่ม  ภาษีนิติบุคคล ด้วยนะคะ  เพราะเห็นมาหลายรายแล้ว คิดว่าได้กำไร สุดท้ายมันจะเข้าเนื้อเอาอีก   ถ้าระบบทุกอย่างดีแล้ว ก็ขอให้ประสบความสำเร็จยิ่งๆขึ้นไปอีกนะคะ จากคุณ : แฟนจุงโบ เขียนเมื่อ : 5 ส.ค. 55 11:53:05

ความคิดเห็นที่ 63 อ่านแล้วใจมันพองๆแฮะ วันนึงจะได้ตามรอยไปบ้างไหมเนี่ย... จากคุณ : bookalive เขียนเมื่อ : 5 ส.ค. 55 19:50:59

ความคิดเห็นที่ 64 เก่งครับ จากคุณ : RAORUE เขียนเมื่อ : 9 ส.ค. 55 09:46:55

ความคิดเห็นที่ 65 ยินดีด้วยครับ แต่จด vat ด้วย   ให้ระวังเรื่องภาษี เป็นอย่างยิ่งเลยนะครับ ...สายวิศวะ สายนักขาย จะไม่ค่อยสนใจ ตายกันมาเยอะแล้ว จากคุณ : จินหยง เขียนเมื่อ : 9 ส.ค. 55 10:36:28

ความคิดเห็นที่ 66 รอมาอัพเดทต่อน่ะ ^^ จากคุณ : หนูอยู่ตรงไหนของฟากฟ้านะ เขียนเมื่อ : 9 ส.ค. 55 11:29:02

ความคิดเห็นที่ 67 เก่งค่ะ กล้าตัดสินใจ เราจะทำธุรกิจส่วนตัวเหมือนกัน อุกรณ์พร้อม แต่ขาดเงินทุน ไม่กล้าที่จะเป็นหนี้จำนวนมาก ความกลัวนี่แหละทำให้เราไม่ชนะใจตนเองซะที จากคุณ : คุณหนูใบหม่อน เขียนเมื่อ : 9 ส.ค. 55 11:30:20

ความคิดเห็นที่ 68 เชื่อว่าคุณไม่ได้เก่งเพียงอย่างเดียวแต่มีหัวใจเป็นผู้ประกอบการ หัวใจและความคิดของคนที่จะสร้างธุรกิจ ขอชมเชยและติดตามความสำเร็จของคุณต่อไปเรื่อยๆนะคะ จากคุณ : freedomable (FreedompUypUi) เขียนเมื่อ : 9 ส.ค. 55 13:33:50

ความคิดเห็นที่ 69 อุปสรรคก่อให้เกิดปัญหา ทางออกคือปัญญาในการแก้ไข "ปัญหามา ปัญญาเกิด" จากคุณ : peviedot เขียนเมื่อ : 9 ส.ค. 55 15:18:46

ความคิดเห็นที่ 70 เอ่า โทดทีนะครับที่หายไปนาน เพิ่งเข้ามา ทีแรกคิดว่ากระทู้ตกไปแล้วครับ อีกอย่างเพิ่งกลับมาจาก ตจว ด้วยครับ ปล แก้ไขจากคะ เป็นนะครับ แก้ไขเมื่อ 09 ส.ค. 55 21:44:40 จากคุณ : high_voltage_XL เขียนเมื่อ : 9 ส.ค. 55 21:32:13

ความคิดเห็นที่ 71 จขกท ได้แรงบันดาลใจจากการโหลดบิทหนังเรื่อง "เถ้าแก่น้อย" ก็อย่าลืมไปซื้อ DVD แท้ สะสมไว้  เพื่อเป็นกำลังใจให้ GTH กับ MVD เค้าด้วยนะครับ :) จากคุณ : puieang เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 55 09:01:06

ความคิดเห็นที่ 72 เสี่ยงไปเปล่า เกิดเจ๋ง นี้ บ้าน ไม่จุ้ง หรอ ถ้าเจ๊งคงไม่เอามา โพสหรอก ใช่ไหม ? ความคิดผม  อ่านได้แต่ไม่แนะนำน่ะครับ ผมจะทำอะไร จะไม่ไปเอาบ้านพ่อบ้านแม่มาจำนองหรอกครับ ทำงาน  รับงานมาปุ้บ มันไม่ได้ตังค์ปั๊บหรอกครับ  อุบัติเหตุ ระหว่างงาน ส่งงานไม่ได้ตกหล่นมันมี  ความเสี่ยงมันก็มี  แบบนี้เรียกโคตรเสี่ยงถ้าไม่มีแผนสอง  ทำงานโปรเจคผมว่าเอาเงินเย็นมาลงทุนนี้ผมรับได้ แต่กู้เงินมาลงทุน สำหรับ มือใหม่นี้ไม่ควรอย่างแรงครับ ผมยอมขายลูกชิ้นรวยช้าแต่ไปเรื่อยๆ ดีกว่า อย่างน้อยผมก็มีทางถอย  ผมไม่เชื่อว่าคนเราจะไม่พลาดเลย ความผิดพลาดเป็นเรื่องปกติทำธุรกิจ รุ่งครึ่ง เจ๊งครึ่ง แต่ที่เอามาโชว์อะ รุ่งทั้งนั้น  ครับคุณคงเก่ง แต่ต้องถือว่าครั้งนี้ถือว่าคุณโชคดีครับ ถ้าซวยละเป็นผมนี้ได้ มีฆ่าตัวตายกันบ้างอะ เอาที่บ้านมา ลงด้วยนี้ผม ไม่ตามอะครับ  ที่แย้งนี้ไม่ได้ไม่ชื่อชมน่ะครับ  แต่อยากให้่คนอ่านมองอีกมุมนึง เสี่ยงมากผลตอบแทนสูงครับ  แต่เจ็บสูงเหมือนกัน จากคุณ : แก้วคุง เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 55 11:43:26

ความคิดเห็นที่ 73 จขกท.รับทำงานงานระบบไฟฟ้าใช่หรือไม่ครับ เห็นด้วยกับ@65ครับ แก้ไขเมื่อ 10 ส.ค. 55 12:55:39 จากคุณ : tigerpoll เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 55 12:54:32

ความคิดเห็นที่ 74 ทางผมสามารถรับทำตู้ไฟฟ้าได้ครับ ทั้งตู้แบบ local และแบบ type test (brand schneider) เผื่อมีงานที่ต้องใช้ก็ลองติดต่อมาได้ครับ จากคุณ : ชื่อนี้ไม่มีคนรู้จัก เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 55 22:43:59

ความคิดเห็นที่ 75 ขอบคุณนะครับที่มาแชร์ทำให้ผมมีกำลังใจเพิ่มมากขึ้น เพราะผมก็กะลังเดินอยู่ในเส้นทางนี้เช่นเดียวกัน ผมกำลังจะเปิดบริษัทเอง ทิ้งผู้ลงทุนให้ผมดูแลกิจการแทนไว้เบื้องหลัง กับปัญหาองค์กรที่สูงท่วมหัว ขอบคุณมีกำลังใจมากมายครับ จากคุณ : Eli (Eli) เขียนเมื่อ : 13 ส.ค. 55 00:34:03