 |
1. เราควรรู้จักเพื่อนอาเซียนของเราให้มากขึ้น ไม่เฉพาะแต่การเต้นระบำรำฟ้อน แต่
ควรรวมถึงประวัติศาสตร์, ชีวิตความเป็นอยู่, ปัญหาที่เขาเผชิญอยู่, การเมืองและ
เศรษฐกิจ, ความภาคภูมิใจ, ความละอาย ฯลฯ ของเขาด้วย การเรียนภาษาของเขา
ไม่ใช่เพื่อหางานทำ ในการเรียนภาษาของเขาไม่ใช่เพื่อหางานทำในประเทศของเขา
เท่านั้น แต่ที่สำคัญกว่าก็เพราะภาษาเป็นสะพานไปสู่ความรู้จักคุ้นเคย สามารถทำ
ความเข้าใจเขาจากจุดยืนของเขาเอง ไม่ใช่จากคำพิพากษาตายตัวของเรา คนไทย
ควรเป็นคนน่ารักแก่เพื่อนบ้านมากกว่าที่เราเป็นอยู่อย่างมาก และนั่นคือทางที่จะได้มา
ซึ่งความรักความเข้าใจจากเพื่อนบ้านตอบแทน เป็นความไว้วางใจที่เหมาะสำหรับการ
ร่วมทุน, ร่วมตลาด, และร่วมธุรกิจกันได้ในระยะยาว
น่าสังเกตด้วยว่า ครูตามโรงเรียนชายแดน และอาจารย์ในราชภัฏชายแดน ดูจะสำนึก
ประเด็นนี้ยิ่งกว่าผู้รู้ในกรุงเทพฯ โรงเรียนและราชภัฏหลายแห่งจัดกิจกรรมที่ส่งเสริม
ความเข้าใจเกี่ยวกับวัฒนธรรมเพื่อนบ้านให้แก่นักเรียนและนักศึกษาของตน
2. อาชีพ 7 อย่างที่กาลังจะเปิดเสรี ไม่ใช่ช่องสำหรับตลาดงานของคนในอาชีพนั้นๆ
เพียงอย่างเดียว แต่หมายถึงการปรับมาตรฐานเข้าหากันของประเทศกลุ่มอาเซียน
ด้วย เช่นภาระของนักบัญชี ไม่ใช่เพียงการต้องไปสอบให้ได้รับใบอนุญาตในประเทศ
อื่นเท่านั้น แต่หมายถึงความพยายามของวงวิชาชีพบัญชี ที่จะปรับระบบเข้าหากัน ให้
ได้มาตรฐานที่สูงจนเป็นที่ยอมรับของโลก (มาตรฐานบัญชีของประเทศเดียว ย่อมต่อ
รองเพื่อการยอมรับได้ยากกว่ามาตรฐานของ 10 ประเทศ) จะเกิดตลาดงาน และเปิด
โอกาสให้คนอาเซียนประมูลงานนอกอาเซียนได้สะดวกขึ้น
3. มาตรฐานวิชาชีพของทั้ง 7 สาขานั้น หากร่วมกันพัฒนาให้เป็นระบบที่โปร่งใส
และอาจถูกตรวจสอบจากสาธารณชนได้ง่ายขึ้น ก็จะมีการโอนย้ายทุน และฝีมือแรง
งาน ได้สะดวกกว่าที่เป็นอยู่ในเวลานี้ เพราะมีความไว้วางใจต่อกันมากขึ้น
จากคุณ |
:
ลุงแอ็ด
|
เขียนเมื่อ |
:
วันเข้าพรรษา 55 11:52:35
|
|
|
|
 |