|
เงินมากขนาดนี้เป็นผมผมก็รับเหมือนกัน
1 จะจดทะเบียนเป้น หจก ในรูปแบบใดดี - ไม่ทราบลักษณะธุรกิจ คิดว่ารับชั่วคราวหรือรับถาวร ถ้าเป็นแค่งานนี้งานเดียว แนะนำว่าแค่หาชื่อคนที่ไว้ใจได้ไปรับเงินแทนก็พอแล้ว แต่พยายามกระจายรายได้ แต่ถ้ารับเรื่อย ๆ คุณอาจจด หจก. หรือบริษัทก็ได้ ถ้ารายได้เกิน 1.8 ล้านบาทต่อปีอย่าลืมจด VAT ด้วย 2 ผลตอบแทนครั้งนี้ มากพอที่จะซื้อรถยนต์ราคาแพงและคอนโดได้ ผมสามารถซื้อในนาม หจก แล้ว นำมาเป็นค่าใช้จ่ายได้หรือไม่ - ถ้าเป็นบริษัทหรือ หจก. - รถยนต์ใช้ชื่อบริษัทได้ แต่ระวังเรื่องการหักค่าใช้จ่าย เพราะไม่ใช่ว่าหักปีแรกทั้งหมด แต่หักเป็นค่าเสื่อมราคา 5 ปี และหักได้ไม่เกิน 1 ล้านบาท เช่นได้เงินมา 2 ล้าน ซื้อรถยนต์ 1.5 ล้าน เวลาหักหักได้แค่ 1 ล้านบาท 5 ปีปีละ 2 แสน ผลก็คือปีแรกบริษัทมีกำไรเท่ากับ 2,000,000 - 200,000 = 1,800,000 เสียภาษีอานเหมือนกัน อาจะต้องหาทางแยกรายได้เป็น 2-3 ปี ถ้าทำได้ หรือใช้ชื่อบุคคลอื่นมาเอาเงินออกจากบริษัทเพื่อลดกำไรลง
- คอนโดก็เหมือนรถยนต์ หักได้เต็มแต่ต้องหักถึง 10 ปี เช่นซื้อ 2 ล้านหัก 10 ปี ปีละ 200,000 ก็เสียภาษีอานเหมือนกัน และที่สำคัญอสังหาส่วนใหญ่ราคาจะเพิ่มขึ้นตามเวลา เช่น ซื้อวันนี้ 2 ล้าน ผ่านไป 5 ปีอาจกลายเป็น 3 ล้านถ้ามีโครงการรถไฟฟ้าหรือสาธารณูปโภคเหล่านี้ผ่าน ปัญหาคือเวลาขาย ถ้าเป็นบุคคลธรรมดาเวลาขายคุณไม่ต้องเสียภาษีกำไรจากการขายนี้ แต่หากเป็นบริษัทคุณต้องรับรู้รายได้ กำไร และเสียภาษีอีกครั้งหากขายได้กำไร และที่สำคัญการซื้อคอนโดในนามบริษัทจะต้องมีเหตุผลพอที่จะบอกได้ว่าเสริมกับกิจการของบริษัทอย่างไร ซึ่งคอนโดยระบุยากมาก นอกจากคุณจะจดทะเบียนบริษัทในคอนโดนี้หรือทำธุรกิจให้เช่าคอนโดก็อีกเรื่องหนึ่ง 3 การเสียภาษีของ หจก จะ ปนกับภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาที่ได้รับจากงานประจำหรือไม่ และทางบริษัท จะรู้หรือไม่ - แยกกันคนละใบ บริษัทไม่รู้ นอกจากงานจะมีความสัมพันธ์กันก็อีกเรื่องหนึ่ง แต่ระวังอย่าเอาชื่อตัวเองไปเป็นกรรมการบริษัท เพราะสามารถตรวจสอบได้ง่าย
ถ้าจะเปิด หจก.หรือบริษัท แนะนำว่าเลือกสำนักงานบัญชีดี ๆ ไม่อย่างนั้นปวดหัวเลย
จากคุณ |
:
TLL01
|
เขียนเมื่อ |
:
4 ส.ค. 55 10:05:48
|
|
|
|
|