ความคิดเห็นที่ 1 นิสัยคนไทยคับ ขี้เกรงใจ ยิ่งคุณเป็นหัวหน้าแล้ว มีหรือว่าเค้าจะบอกว่าทำไม่ไหว? ขนาดผมค่อนข้างaggressive และไม่ค่อยเกรงใจหัวหน้าเท่าไหร่ ผมยังไม่ค่อยพูดคำนี้ออกไปเลย เพราะมันแสดงถึงความไม่อดทน ไม่หนักเอาเบาสู้ พูดออกไปว่าไม่ไหว มีแต่เสียกับเสีย แต่คุณก็ไม่เคยสังเกตอาการน้องเค้าเอง เช่น ช่วงนี้น้องเค้าไม่สบายบ่อย ซึ่งแสดงให้เห็นอยู่แล้วว่างานหนักเกินสภาพร่างกายแล้ว บวกกับนิสัยผู้หญิง ก็ไปนินทา หรือ เม้าท์นั่นแหละ กับแผนกอื่น ว่าไม่อยากอยู่แล้ว จากคุณ : treser[*_-] เขียนเมื่อ : 9 ส.ค. 55 23:50:34

ความคิดเห็นที่ 2 เค้าเกรงใจคุณก็เลยไม่บอกตรงๆ มองในแง่ดีนะคะ จากคุณ : pink.roof เขียนเมื่อ : 9 ส.ค. 55 23:51:24

ความคิดเห็นที่ 3 1. เป็นผู้ใหญ่อย่าเปลี่ยนแปลงอนาคตเด็กเพียงเพราะความรู้สึกส่วนตัวครับ ควรเปลี่ยนแปลงเนื่องจากความเหมาะสมด้านการงานจะดีกว่า 2. ยิ่งแย่เข้าไปใหญ่ ถึงแม้ว่าเด็กไม่ดี แต่เราไม่จำเป็นต้องทำอะไรแย่ ๆ ตาม ผมว่าคุณกำลังหัวเสีย ทำให้ขาดภาวะความรอบคอบนะ ใจเย็น ๆ ลงหน่อยแล้วค่อยคิดดีกว่า อนาคตของเด็กไม่ใช่เรื่องเล่น ๆ ที่จะเอาอารมณ์ส่วนตัวมาตัดสิน โดยเฉพาะอารมณ์ในช่วงที่ไม่ดีแบบนี้ จากคุณ : Morning Star เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 55 00:03:18

ความคิดเห็นที่ 4 จะเป็นหัวหน้าคน....เรื่องหยุ๋มหยิมเช่นนี้อย่าเก็บมาคิดครับ เพียงแค่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แล้วนำสิ่งนั้นมาคิดแก้ไขปัญหา....ไม่ใช่เก็บมาเป็นคำถามว่าทำไมคนโน่นเป็นอย่างโน้น คนนี้เป็นอย่างนี้...เพราะคิดให้หัวแตกตาย คุณก็เปลี่ยนคนอื่นให้คิดอย่างที่เราต้องการไม่ได้ครับ จากคุณ : Chalk_HR เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 55 00:39:58

ความคิดเห็นที่ 5 ผมว่าคุณาจจะเลือกดู ลองดูข้อ 2. แต่เอาจริงๆ คุณก็อาจจะไม่อยากทำแบบนั้น เป็นผม ผมเลือกข้อ 1. ถามกับ Sale Manager ว่าเขาจะเอาไหม ซึ่งผมคิดว่า เขาไม่เอา แต่คราวนี้แหละมันเป็นโอกาสของคุณแล้ว งานนี้จะเรียกว่า "เกมการเมือง" ก็ได้นะ ใจแข็งๆ หน่อย ให้ Sale Manager รับไปดูแล (ขอร้องแกมบังคับ) ซึ่งงานนี้ไม่นานก็จะขอลาออกไปเอง เพราะงานด้าน Sale กดดันกว่าเยอะ เหนื่อย ยุ่ง เครียด วุ่นวาย เหยาะๆ แหยะๆ  ทำไม่ได้แน่นอน ระหว่างนั้นก็ประกาศรับสมัครงานไปด้วยเลย กดดันไปอีกทาง ใจแข็งๆ ในเมื่อเราเมตตา ให้โอกาสเขาแล้ว แต่เขาไม่นำพามาพิจารณาปรับปรุงตัว ก็ปล่อยเขา ที่อธิบายมานี่ พอจะมองภาพออกไหมครับ จากคุณ : ผู้ชำนาญการด้านความเหงา เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 55 01:49:14

ความคิดเห็นที่ 6 ผมว่าเปิดใจคุยกันเลยครับ อยากไปอยู่กับแผนกอื่นก็ดันเลยครับ แต่เราไม่รับคืนนะ จะได้ไม่อยู่ในสภาพต้องเกรงใจกัน น้องก็อยู่ในที่ๆน้องอยากอยู่ด้วย แต่ต้องสะดวกใจทั้ง สาม ฝ่ายนะครับ จากคุณ : 35-25-36 เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 55 08:22:00

ความคิดเห็นที่ 7 เป็นหัวหน้าคนไม่ควรหูเบานะคะ แค่ได้ยินคนเล่ามา ก็คิดไปขนาดนี้แล้ว ถ้าคาใจก็เรียกน้องมาสอบถามเลย ว่าได้ยินมาแบบนี้ จริงหรือเปล่า ถ้าเป็นเรื่องจริง ก็ไม่เห็นจขกท.ต้องทำอะไรเลย ก็ทำงานไปตามปกติ แล้วก็หาคนมาช่วยงานเพิ่มอีกคนก็ได้ ไม่เห็นต้องบีบเขาออกเลย ลูกน้องทุกคน ไม่ใช่ว่าจะกล้าพูดทุกเรื่อง กับหัวหน้าตัวเองนะ มันก็มีบางอย่างที่ปากหนัก พูดไม่ออก หรือบางทีอยากบอก แต่ไม่กล้า มันเป็นเรื่องธรรมดามากกกก ที่ไหนๆ ก็มีทั้งนั้น   ข้อ 1 ไม่ควรทำ เพราะเหมือนไปก้าวก่ายทั้งงานของหัวหน้าคนอื่น และก้าวก่ายเรื่องส่วนตัวของลูกน้องด้วย ถ้าเขาต้องไปทำกับคนอื่น เขาก็จะหาทางขวนขวายไปเอง เราควรเคารพการตัดสินใจของคนอื่น แม้ว่าเขาเป็นลูกน้อง ข้อ 2 ไม่ควรทำ เพราะถ้างั้นกลายเป็นเราเองที่ดูแย่กว่าน้องพนักงานเสียอีก เหมือนเป็นคนหูเบา มีอคติส่วนตัว แล้วใช้อำนาจ หน้าที่ในทางไม่ถูกต้อง จากคุณ : JiGGO InLove เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 55 08:24:13

ความคิดเห็นที่ 8 เห็นด้วยกับ คห.1 ครับ หัวหน้าเข้ามาถามว่าไหวไหม ใครมันจะกล้าตอบว่า ไม่ไหว กันล่ะ ไหวไม่ไหว คุณต้องดูจากเขาเอาเองครับ ... จากคุณ : Reki เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 55 08:43:31

ความคิดเห็นที่ 9 เออ งง เป็นลูกน้องนี่ไม่กล้าตอบตรง ๆ กันเหรอ สำหรับเราตอบตรง ๆ นะ ไหวคือไหว ไม่ไหวคือไม่ไหว ช่วงไหนเอางานมาโยนให้เราเยอะเกิน เจอเราด่า หัวหน้าก็คนทำงานกินเงินเดือนเหมือนกัน จะกลัวทำไม แปลกใจกะคนทำงานจริง ๆ จากคุณ : Two ways เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 55 09:47:47

ความคิดเห็นที่ 10 ข้อแรก คุณสร้าง trust ของตัวเองในมุมมองลูกน้องมากน้อยแค่ไหน ถ้่าไม่มากพอ ไม่แปลกที่ลูกน้องจะไปคุยกับคนอื่น เวลาที่ให้ก็มีส่วน การไม่ดุ ไม่ใช่เรื่องดี ถ้ามันมีผลตามมา คนไทยชอบคิดว่า ไม่ควร แต่ผมเห็นต่างว่าต้องบอก อาจไม่ใช้คำดุว่า แต่เป็นเชิงบวกในอีกแง่มุมก็ได้ สุดท้าย ถ้่าเป็นผม ก็คงจับเข่าคุยกับลูกน้่องตรง ๆ ถึงเรื่องราวทั้งหมด หาทางออกร่วมกันในลงตัว จากคุณ : ผมเองครับ เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 55 10:16:21

ความคิดเห็นที่ 11 ดู ๆ ลูกน้องคุณเค้าก็ไม่ค่อยมีประโยชน์กับงานของคุณอยู่แล้วนี่ครับ ต้องมาเป็นภาระ คอยถามว่าไหวเปล่าอีก ยุส่งให้เค้าไปอยู่กับแผนกใหม่เลยก็ดี โยนปัญหาให้แผนกใหม่เค้ารับผิดชอบไป คุณก็รับคนใหม่มาช่วยงาน ก็พอใจกันทั้ง 2 ฝ่ายครับ จากคุณ : philly เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 55 14:38:03

ความคิดเห็นที่ 12 เป็นผม ไม่ผ่านโปรครับแบบนี้ เอามาเป็นภาระผมป่าวๆ หาลูกน้องมาเพื่อแบ่งเบาภาระนะครับ ไม่ช่ายคอยเทคแคร์ลูกน้องอยู่ตลอดเวลา ส่วนเรื่อง บอกว่าไหว ปรกติครับ ที่ต้องบอกว่าไหวไว้ก่อน ตอนผมเป็นลูกน้องก็เหมือนกัน ไม่ไหวก็ต้องไหวครับ ถ้าไม่ไหว จริงๆ ก็ลาออกเองครับ ขนาดน้ำท่วม ระดับนายกของประเทศ ยังบอกยังไหว เอาอยู่ เอาอยู่ จากคุณ : niky02 เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 55 22:48:39