|
ลูกค้า...
ช่วงแรกที่เราต้องออกไปหาลูกค้าเอง เราจะกลัวมาก เพราะตัวเองไม่ได้เรียนสายตรง และลูกค้าแต่ละบริษัทก็มีชื่อเสียงทั้งนั้น
ลูกค้าบางคนก็น่ารัก คุยดี บางคนก็มีหัวโขนเยอะ ไม่อยากลดตัวคุยกับเซลล์ มองเราแบบยังกะเราเป็นนางทาสก็มี (จนบางครั้ง..เอ๊ะ ชั้นอยู่ยุคไหนเนี่ย) ทำให้บางครั้งเราก็แอบคิดเหมือนกัน ชั้นก็ไม่อยากคุยกับเธอหรอก เชอะ
คนที่น่ารักก็แสนน่ารัก คุยดี ไม่เรื่องมาก ถ้าเจอลูกค้าแบบนี้เราจะเต็มที่ ลดแลกแจกแถม ประมาณว่าเจ้ใจใหญ่ จัดเต็มไปเลยน้อง แต่ถ้าเจอลูกค้าไม่น่ารัก บาทเดียวก็ไม่เอา (เซลล์ก็มีแบลค์ลิสต์ลูกค้าเหมือนกัน)
เราเคยร้องไห้ต่อหน้าลูกค้า 2 ครั้ง (ร้องเพราะเจ็บใจ ไม่ได้ร้องฟูมฟาย) ครั้งแรก หลังจากเสร็จงานแล้ว เราต้องเดินไปใน plant ระยะทางไปกลับเกือบ 2 กม.เพื่อให้ลูกค้าคนที่ 1,2 เซ็นต์เอกสาร ซึ่งอยู่กันคนละที่) ซึ่งเอกสารต้องเซ็นต์ 2 แผ่นแต่ลูกค้ารายแรกกลับเซ็นต์แค่แผ่นเดียว ดังนั้นลุกค้าคนที่ 2 จึงไม่ยอมเซ็นต์ 2 แผ่น ซึ่งเราได้อธิบายและร้องขอให้เซ็นต์ให้ 2 แผ่นเลย เราจะได้ไม่ต้องเดินมาอีกรอบ ไม่งั้นวันพรุ่งนี้เราก็ต้องเดินเข้าออกอีกรอบ และยังไงก็ต้องมีลายเซ็นต์หัวหน้า (คนที่ 3) ปิดท้ายอยู่ดี ซึ่งลูกค้าคนที่ 2 ไม่ยอม และบอกกับเราว่าพรุ่งนี้มาเอาแล้วกัน เราเลยย้ำว่าพรุ่งนี้พี่จะเซ็นต์ให้ครบใช่ไหมคะ เค้ากลับบอกว่าก็อันเดียวนี่ละ แล้วก็เดินเอกสารใหม่อีกครั้ง (หมายความว่าเราต้องเดินอีก 2 ครั้ง) และเราก็ร้องขออีกครั้ง แต่เค้ากลับไล่เราให้กลับไปแล้วบอกว่า ไม่มีอารมณ์เซ็นต์ มีอะไรไหม ... เราปรี๊ดมาก โมโห เจ็บใจที่ทำไมต้องมาเจอกับคนแบบนี้ เราไม่ชอบคนที่ใช้อำนาจแบบไร้สาระ จู่ๆน้ำตาก็ไหลซึม แล้วเราก็บอกว่า ให้เห็นใจเราบ้าง ต่างคนต่างทำหน้าที่ตัวเอง รู้ไหมผรม.แบบเราต้องเจออะไร ถ้าทำตามลูกค้าบอก ก็โดนหัวหน้าตัวเองว่า ไม่ทำลูกค้าก็โมโห บลาๆๆ เค้าคงเห็นน้ำตาสาวสวยแบบเรา เลยยอมเซ้นต์
หลังจากนั้นเราก็ให้สามีสืบว่าคนนี้คือใคร จะไปดักตีทีหลัง (เปรี้ยวมาก ได้แต่จำชื่อเท่านั้นล่ะ) และมารู้ทีหลัง พี่มหาวิทยาลัยเดียวกัน คณะเดียวกัน เปรี้ยวไหมละ และพี่เค้าบอก...อ้าว ทำไมไม่บอกว่าจบที่เดียวกัน (จะบ้าเหรอ..ใครจะไปป่าวประกาศว่าชั้นจบนู่นนี่มานะ)
เรื่องชู้สาว.. โชคดีที่บ.ปัจจุบันไม่ได้เน้นเอ็นเตอร์เทรน เอาใจลูกค้าหนุ่มๆ ทำให้เราไม่ต้องเปลืองตัว (ถึงจะยอมเปลืองตัว ลุกค้าก็คงไม่อยากจับตัวป้าๆแบบเรา 555+) เคยมีเคสลูกค้าโทรมาเหมือนกัน เราบอกไปว่ากำลังจะแต่งงาน (จริงๆแต่งแล้ว) ลูกค้าก็ยังตื้อ สุดท้ายแฟนลูกค้าโทรมา เราเลยบอกไปว่าเราแต่งงานแล้ว ไม่ได้คุยอะไรกับลูกค้า มีแต่เรื่องงาน หัวหน้าเราบอกทีหลังบอกลูกค้าไปเลย มีลูกมีผอ อัว แล้ว..จะได้จบ ... เราว่าถ้าบอกไปลูกค้า เค้าคงคิด แหม..สวยตายหล่อน บอกทำไม ไม่ได้ถาม คิดว่าหล่อนเป็นพอลล่าเหรอ??
ถ้าเจอลูกค้าประเภทที่ชอบเซลล์น่ารักกุ๊กกิ๊ก เรามักจะไม่ได้งาน แต่ถ้างานที่ต้องใช้ข้อมูลทางเทคนิค อันนั้นล่ะ ถึงค่อยมาคุยกัน
ลูกค้าที่เราไม่ชอบมากที่สุด คือ ลุกค้าที่รับสินบน เราบอกลูกค้าว่า ถ้าลูกค้ามีปัญหาด้านงาน ให้เราหาข้อมูล ดูหน้างาน วิเคราะห์หน้างานให้ เหนื่อยแค่ไหนเรายอมทำ ถ้าผลสุดท้ายเราไม่ได้งานเพราะราคา เรารับได้ (เพราะบ.จะมีกำหนดขอบเขตราคาที่รับงานได้) ซึ่งเราก็จะได้บอกกับหัวหน้าว่างานนี้ไม่ได้นะ เพราะติดปัญหาราคาสูงกว่า
แต่บางครั้งเราเจอลูกค้าประเภท..มีปัญหา ถามข้อมูล ให้เราดูหน้างาน และวิเคราะห์ เสนอราคา สุดท้ายเอาราคาเราไปให้เจ้าที่สนิทดีดราคามาให้ต่ำกว่าแล้วได้งานไป เราบอกตรงๆ เราเหนื่อยนะ เราเต็มที่กับงาน ถ้าคุณคิดว่าเจ้าอื่นดี คุณให้เค้าวิเคราะห์ให้แทนสิ ทำไมไม่ถามเค้าล่ะ
กับอีกประเภท...รับสินบนกันมีเจ้าในใจแล้ว แล้วมาให้เราเสนอเพื่อจะได้ตรงตามหลักจัดซื้อจัดจ้าง แบบนี้เราเหนื่อย
เหนื่อยงานเราไม่ท้อ แต่เหนื่อยกับความไม่ซื้อสัตย์ของคน เราโครตเหนื่อย
จากคุณ |
:
ChemNizz
|
เขียนเมื่อ |
:
11 ส.ค. 55 02:59:26
|
|
|
|
|