ความคิดเห็นที่ 1 เรื่องแบบนี้มันขึ้นอยู่กับว่า องค์กรนั้นๆ ได้ให้ความสำคัญกับงานของ HR ในระดับไหน องค์กรของผมนั้น ผมได้ตกลงกับ CEO แล้วว่า ในปีหน้า ตัวชี้วัดประสิทธิภาพการทำงานของ HR ตัวนึงคือ สัดส่วนของกำไรต่อพนักงาน (EBITDA per Head) ซึ่งถือว่าเป็นการยกระดับของ HR ให้ไปเป็น Business Partner จริงๆ ไม่ใช่เป็นแค่เป็น Process driven (รับคนเข้า เอาคนออก คิดบัตรตอก ออกเงินเดือน) เหมือนแต่ก่อน สิ่งที่ผมจะต้องทำในปีหน้า คือต้องวางกลยุทธ์ให้ได้ว่า ถ้าต้องการจะทำให้ประสิทธิภาพการทำงานสูงขึ้น โดยใช้พนักงานเท่าเดิมนั้น จะต้องทำอย่างไร เอาคร่าวๆ นะครับ เช่น - ปรับปรุงกระบวนการทำงานเสียใหม่ พยายามเพิ่มสัดส่วนของ front ให้มากขึ้น เช่น แทนที่จะมี พนักงานบัญชีเยอะๆ มานั่งทำบัญชี ก็เอาระบบ ERP ดีๆ มาใช้ แล้วเอานักบัญชีที่มีศักยภาพ ไปเป็น นักวิเคราะห์ ซึ่งจะสามารถช่วยบริหารความเสี่ยงด้านต่างๆ ได้ - พัฒนาศักยภาพหรือความรู้ของพนักงาน ให้สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น จะโดยการ จัดฝึกอบรม หรืออะไรก็แล้วแต่ แต่ต้องทำให้กำไรของบริษัทดีขึ้น ไม่ได้วัดแค่ว่า จัดอบรมครบหรือเปล่า - พยายามรักษาพนักงานที่มีศักยภาพเอาไว้ และดึงดูดพนักงานที่มีความสามารถเข้าองค์กร อธิบายคร่าวๆ แบบนี้ อาจจะดูแล้วเป็นเหมือนแผนในกระดาษ แต่ปีหน้าผมจะถูกวัดแบบนี้จริงๆ นะครับ องค์กรไหนจะลองเอาไปใช้บ้าง ก็ไม่สงวนลิขสิทธิ์ครับ จากคุณ : The Ghost Buster เขียนเมื่อ : วันแม่แห่งชาติ 55 16:37:35

ความคิดเห็นที่ 2 HR จัดอบรมแต่คนอื่น ส่วนตัวไม่ค่อยได้อบรมเท่าไร จากคุณ : Sofus เขียนเมื่อ : วันแม่แห่งชาติ 55 21:45:33

ความคิดเห็นที่ 3 ม้ันเป็นหน้าที่ของ HR ครับ ทริส เขาออกกฏไว้ว่าพนักงานในองค์กรแต่ละแห่ง จะต้องมีเคสไหน อย่างไร เช่น ต้องผ่านการอบรม ปีละ กี่ ครั้ง/ ชั่วโมง เป็นต้น เขาจะมีตารางการอบรมของแต่ละคนไว้แล้วครับ เป็นการพัฒนาบุคลากรที่ถูกตามแนวทางที่กำหนดแล้วครับ อย่างกรณี (ถูก) ย้ายที่ทำงาน(แผนก) 4 ปีครั้ง ก็เป็นการกระตุ้นให้คนทำงานนะครับ เพราะความเคยชิน ซ้ำซากจำเจ ทำให้อ่อนล้า ย้ายไปที่ไหม่ พบบรรยากาศใหม่ จะกระตือรือร้นขึ้น นะครับ จากคุณ : คน ไท เขียนเมื่อ : 13 ส.ค. 55 08:04:13 A:1.0.190.149 X: TicketID:286511