ความคิดเห็นที่ 1 อยู่ที่การใช้ชีวิตครับ บางคนเลิกงานก็กินเที่ยวไปวันๆ กับบางคนเลิกงานก็กลับไปคิดว่าวันนี้เราทำอะไรไปบ้าง พลาดอะไรไปบ้าง ควรจะรับมือหรือปรับปรุงตรงไหนบ้าง พรุ้งนี้มีอะไรที่ต้องทำอีกบ้างจะทำอะไรบ้าง คือคนพวกนี้ไม่หยุดคิดครับ แต่เค้าไม่ได้เรียกว่าเครียดนะครับ จากคุณ : ^Ai^ เขียนเมื่อ : 13 ส.ค. 55 16:13:57 A:27.130.193.225 X: TicketID:280139

ความคิดเห็นที่ 2 มีส่วนทั้งสองอย่างค่ะ ทั้งตัวเราเองและโอกาสในการทำงาน แต่เราว่า ตัวเราเองมีน้ำหนักมากกว่านะคะ เพราะคนที่ทำงานเก่ง ถึงแม้ว่าจะได้ทำแต่งานทั่วๆไปที่ไม่ท้าทาย หรือถูกจำกัดโอกาสในการแสดงความสามารถ คนทำงานเก่งเค้าก็จะไม่หยุดอยู่กับที่แค่ตรงนั้นอยู่ดี เค้าจะมีไอเดียมาสร้างสรรค์วิธีใหม่ๆ เพื่อพัฒนากระบวนการทำงานต่อไป ต่างจากคนที่ได้รับโอกาส แต่ก็ยังไม่สามารถพัฒนาการทำงานของตัวเองได้ อันนี้ดูแย่กว่านะคะ ดังนั้น เราว่าสิ่งสำคัญที่ทำให้คนเกิดการพัฒนามาจากความสามารถในการทำงานและแรงจูงใจในการทำงานเป็นหลัก ส่วนเรื่องตัวเนื้องานหรือโอกาสที่ได้รับเป็นเหมือนแรงเสริมค่ะ ถ้ามีทั้งสองอย่างก็จะยิ่งไปได้ไกล จากคุณ : เด็กหญิงริมขอบฟ้า เขียนเมื่อ : 13 ส.ค. 55 17:44:39

ความคิดเห็นที่ 3 I think both of them are important factor however they should be balance จากคุณ : Kazai เขียนเมื่อ : 13 ส.ค. 55 18:08:41

ความคิดเห็นที่ 4 การยกตัวอย่างขึ้นมาแบบไม่ตรงนัก ก็ทำให้คนอ่านสับสนไปได้เหมือนกันนะครับ จริงๆคือ คุณต้องการทราบว่า ปัจจัยที่จะทำให้คุณเป็นคนที่ทำงานได้ดี มากกว่า ถ้าคุณจำกัดปัจจัยเพียง 2 ด้าน คุณก็จะได้คำตอบเพียง 2 ด้าน แต่ถ้าเปิดคำถามให้กว้างขึ้น คุณก็จะได้คำตอบที่กว้างขึ้นเช่นกัน ผู้บริหารระดับสูงจึงชอบเปิดคำถามแบบกว้างๆให้คนทั่วไปตอบ องค์ประกอบของคนที่จะทำงานได้ดี ผมคิดว่ามีหลายองค์ประกอบนะครับ 1. ตัวเราเอง ผมคิดว่า ตัวของเราเองเท่านั้น ที่จะผลักให้ตนเอง ทำงานได้ดีขึ้น ทั้งนี้ คนที่จะเป็นคนทำงาน ก็คือตัวของคุณเอง แม้นว่าคุณจะเป็นผู้บริหารสั่งให้คนอื่นทำงานอื่นๆ มากมาย คุณก็ยังต้องทำงาน เพื่อควบคุมให้ลูกน้องทำให้สำเร็จ อยู่ดี มีบางคนมักถามผมว่า เป็นเจ้าของกิจการก็ไม่ต้องทำงานก็ได้ แต่จริงๆแล้ว ถ้าคุณไม่ทำงาน คุณคิดว่าจะไว้วางใจลูกน้องของคุณได้มากเพียงใด? และ ที่ผมเห็นเจ้าของธุรกิจที่ปล่อยกิจการให้กับคนอื่นโดยไม่เข้าไปทำงานเลย สว่นใหญ่ ล้มเหลว ส่วนน้อยที่มีคนช่วยดำเนินธุรกิจให้เจริญก้าวหน้าไปได้ดี จากคุณ : Wiboon Joong (wbj) เขียนเมื่อ : 13 ส.ค. 55 18:56:42

ความคิดเห็นที่ 5 สองอย่างประกอบกันค่ะ แต่น้ำหนักจะไปทางที่ตัวเองมากกว่า เช่น ถ้าตัวงานเป็นตัวงานที่เปิดโอกาสให้สร้างผลงานได้ และ คนที่ทำเป็นคนเก่ง โอกาสที่จะก้าวหน้านั่นมีสูง ตรงกันข้าม ถ้าตัวงานเป็นตัวงานที่อยู่ในมุมอับ โอกาสสร้างผลงานไม่มี อันนี้ก็ยากเหมือนกัน เพราะคนเก่ง อาจจะสามารถหาวิธีทำผลงานขึ้นมาได้ หรือว่าถ้าตัวงานนั้นมันยากที่จะทำผลงานจริงๆ ก็อาจจะทำให้คนเก่งไม่มีผลงานได้ ในขณะเดียวกันถ้าเอาคนไม่เก่งมา ต่อให้จะให้โอกาสมากแค่ไหน ก็ยากจะสร้างผลงานได้ ดังนั้น 2 อย่างต้องประกอบกันค่ะ เขาถึงว่ากันว่า ไม่ว่าจะทำงานใด ต้องดูความก้าวหน้าของงานนั้นด้วย และ ฝึกพัฒนาตัวเราให้มีศักยภาพค่ะ จากคุณ : Star in the Sky เขียนเมื่อ : 13 ส.ค. 55 18:58:01

ความคิดเห็นที่ 6 2. ความชอบ นิสัย และ พฤติกรรม ลักษณะนิสัยของคนเรา ก็จะบ่งบอกว่า เราจะทำงานได้ดีเพียงใด เพราะ บางงานต้องทำตอนกลางวันตั้งแต่เช้าๆ แต่ว่า ถ้าเป็นคนตื่นสาย ก็จะเข้างานสาย ทำให้ทำงานได้ไม่ดี หรือ นิสัยชอบความสะอาด แต่งานที่ทำมันต้องสกปรก เนื้อตัวเหม็น ก็ทำงานไม่ได้ สิ่งเหล่านี้ก็แสดงให้เห็นว่า คุณจะทำงานได้ดีมากน้อยเพียงใดด้วย บางคนไม่ชอบทำงานซ้ำๆ บางคนชอบทำงานคิดสร้างสรรค์ ยังไงแล้ว ก็ต้องรู้จักนิสัยตัวตนของตัวเองด้วยว่า ชอบทำงานลักษณะอย่างไร งานที่เราทำถึงจะได้ทำได้ดี 3. เนื้องาน เนื้องานที่คุณรับผิดชอบนั้น เป็นเนื้องานที่เหมาะกับคุณมากน้อยเพียงใด การที่จะทำงานได้ดี เนื้องานที่คุณได้รับ ก็ควรจะเหมาะกับการทำงานของคุณ งานท้าทาย แต่คุณไม่ชอบทำ คุณก็ทำได้ยาก งานง่ายๆ แต่ว่าคุณไม่ชอบทำก็ทำไม่ได้ เนื้องานที่คุณเข้าใจว่าต้องทำอย่างไร มองภาพออกว่า งานชิ้นนั้น ชิ้นนี้ ต้องทำอย่างไร คุณถึงทำงานได้ดี เพราะภาพในใจของคุณชัดเจนแล้วว่า ผลที่ได้จะเป็นอย่างไร ทำให้คุณทำงานได้ดี เพราะเห็นเป้าหมายแล้วครับ จากคุณ : Wiboon Joong (wbj) เขียนเมื่อ : 13 ส.ค. 55 19:02:00

ความคิดเห็นที่ 7 4. ประสบการณ์ที่ผ่านมา งานที่คุณ หากมีประสบการณ์การทำงานแบบนั้น หรือ ใกล้เคียงกับที่คุณเคยทำ คุณก็จะมีความคุ้นเคยกับงานนั้นๆ แล้วคุณก็จะทำมันได้ดี 5. เพื่อนร่วมงาน นอกจากงานและตัวคุณแล้ว เพื่อนร่วมงาน ถือว่ามีความสำคัญเช่นกันในการทำงานของคุณได้ดี เพราะ เพื่อนร่วมงานอาจจะช่วยสนับสนุนคุณ ทำให้คุณทำงานได้ดี และ สามารถประสบความสำเร็จในชีัวิตได้ ในทางกลับกัน ถ้าเพื่อนร่วมงาน ขัดแข้ง ขัดขาคุณ คุณก็อาจจะทำงานได้ไม่ดีเท่าที่ควร ไหนจะห่วงเรื่องงาน ไหนจะกลัวโดนกลั่นแกล้ง เวลาให้กับงานก็น้อยลง งานจึงออกมาไม่ดีดั่งใจนะครับ.. 6. หัวหน้างาน นอกจากนี้ ถ้าคุณมีหัวหน้างานที่ดี คอยสนับสนุนจุดแข็งของคุณ ส่งงานที่เป็นจุดแข็งของคุณ และ เป็นงานที่คุณสามารถทำได้ดี งานที่คุณทำก็จะไปได้ฉลุยเลยทีเดียว จากคุณ : Wiboon Joong (wbj) เขียนเมื่อ : 13 ส.ค. 55 19:05:59

ความคิดเห็นที่ 8 7. บริษัทฯ และ นโยบายบริษัทฯ บางคนทำงานเก่ง มีสมองคิดนั่น คิดนี่ได้ดี แต่นโยบายบริษัทฯ กลับบังคับให้ทำงานตามหน้าที่ ห้ามแตกแถว ทำให้ไม่ได้ใช้ความสามารถที่มี คุณก็ทำงานได้ แต่ถามว่าจะทำงานได้ดีหรือไม่นั้น ก็ขึ้นอยู่กับคุณ แต่ส่วนใหญ่ งานที่ออกมาก็ไม่ได้ดีมาก เนื่องจาก ความรู้สึกขัดต่อนโยบายองค์กร ทำให้งานก็ออกมาแต่ก็ดูเฉยๆไม่โดดเด่นอะไร 8. ลูกค้า อย่าลืมว่า ลูกค้า เป็นตัวได้ผลงานจากคุณไป เป็นคนที่คุณต้องให้ความสำคัญ งานคุณจะดีหรือไม่ดี บางงานก็ต้องให้ลูกค้าเป็นผู้ตัดสินใจด้วยว่า คุณทำงานได้ดีหรือไม่ งานที่จะดีหรือไม่ดี ขึ้นอยู่กับลูกค้าที่ได้งานของคุณไป ลูกค้าตัวจริง หรือ ลูกค้าตามสายงาน เช่น เจ้านาย เป็นต้น ถ้าเป็นลูกค้าตัวจริง งานของคุณจะส่งผลว่าคุณทำงานได้ดีหรือไม่ ก็ขึ้นอยู่กับยอดขายสินค้านั้นๆว่า สินค้าขายได้กับลูกค้าจริงๆหรือเปล่า มันก็เป็นตัววัดอีกตัวว่าคุณจะทำงานได้ดีมากน้อยเพียงใด 9. ลูกน้อง คุณเก่งคนเดียว ทำงานเก่งคนเดียว ก็อาจจะไม่ใช่คำตอบว่า คุณจะทำงานได้ดี หัวหน้างานผลงานมาจากลูกน้อง ถ้าลูกน้องดี งานก็ออกมาดี ถ้าลูกน้องไม่ดี งานก็ออกมาไม่ดี แต่ลูกน้องจะดีหรือไม่ดี มันก็อยู่ที่ตัวคุณว่า คุณสามารถทำให้ลูกน้องพึงพอใจมากน้อยเพียงใด เพื่อให้เขาทำงานให้คุณได้อย่างเต็มที่และ เต็มใจ การบริหาร จิตวิทยา รวมถึงน้ำใจ ต้องเอามาใช้เพื่อส่งเสริมให้งานของคุณออกมาดี ด้วย ดังนั้น คุณก็เลยต้องเข้าใจถึงหลักการต่างๆเหล่านี้ด้วย เพื่อให้งานของคุณออกมาได้ดี 10. สติ และ สมาธิ สิ่งทีสำคัญของการทำงานให้ได้ดีในมุมมองของผม ก็คือ ต้องมีสติ และ สมาธิในการทำงาน เรื่องนี้ก็สอนยาก ต้องฝึกตนเอง ฝึกใจตนเองให้มีสมาธิ รอบคอบ มีสติอยู่เสมอ ถึงจะสามารถทำงานออกมาได้ดีนะครับ... จากคุณ : Wiboon Joong (wbj) เขียนเมื่อ : 13 ส.ค. 55 19:14:33

ความคิดเห็นที่ 9 เขียนมาเยอะแยะ ไม่รู้ว่าจะตอบคำถามได้ตรงกับความต้องการของคุณได้มากน้อยเพียงใด ผมขอแจงสักนิดนะครับถึงคำว่า "ทำงานได้ดี" ซึ่งมันแยกออก 2 คำคือ "ทำงาน" หมายถึง การสร้างงานให้ออกมา ซึ่งต้องใช้บุคคลในการทำหรือดำเนินการขึ้นมา และ บุคคลคนนั้นก็คือตัวคุณ หรือ คนทำงาน นั่นเอง "ได้ดี" หมายถึง ความรู้สึกของคน ถึงผลของการทำงานของคุณว่า เขาเปรียบเทียบกับรู้สึกของเขาว่า สิ่งที่คุณทำออกมานั้น ดีหรือไม่ดี เมื่อเทียบกับมาตรฐานในใจของเขา มันอาจจะดีในสายตาคุณ แต่ก็อาจจะไม่ถึงมาตรฐานดีของใครอีกหลายคนก็ได้ ดังนั้น จึงขอสรุปให้ได้แบบง่ายๆ ว่า คุณจะทำงานได้ดี นั้น มันขึ้นอยู่กับตัวคุณ ที่ลงมือกระทำ เพื่อตอบสนองให้คนตัดสินใจว่า เขารู้สึกพอใจกับงานที่คุณทำมากน้อยเพียงใด แค่ตอบสนองคนที่ตัดสินผลงานของคุณว่า มันดีในความรู้สึกเขา งานของคุณก็จะดีตามความรู้สึกของคนตัดสิน มันเกี่ยวกับคุณ และ คนอื่นที่มองงานคุณเท่านั้น ผมว่าคุณสับสน ทำให้คำถามของคุณสับสน คิดมากไปก็ไม่ดี น้อยไปก็ไม่ดี แต่คิดให้พอดีมันยาก... หากได้คำตอบ ผมก็ดีใจด้วย แต่หากไม่ได้คำตอบ ก็ต้องขออภัยที่เขียนซะยาว เพียงเพื่ออธิบายให้คุณเข้าใจเท่านั้น... จากคุณ : Wiboon Joong (wbj) เขียนเมื่อ : 13 ส.ค. 55 19:22:55

ความคิดเห็นที่ 10 ขอบคุณมากครับ คุณ Wiboon Joong (wbj) เป็นการเปิดโลกทัศน์ให้ตัวผมอย่างมากครับ ผมเพิ่งเรียนจบครับ ยังไม่เคยทำงานเลย เมื่อได้ทราบเช่นนี้ ผมก็พอจะมีแนวทางของตัวเองแล้วหละครับ ขอบคุณทุกๆความเห็นด้วยครับ ^^ จากคุณ : ตื่นเช้าลุกขึ้นมองสิ่งใหม่ๆ เขียนเมื่อ : 13 ส.ค. 55 19:29:42

ความคิดเห็นที่ 11 ถ้าให้เลือกสองอย่าง ตัวเรายังไงก็สำคัญกว่า แต่การเลือกไปยังตัวงานก็มีผลให้เราพัฒนาไปได้เร็วหรือช้า ลองคิดดู เก่งเท่าเก่ง ถ้าสิ่งแวดล้อมไม่หนุน หัวหน้าแ่ย่ เพื่อนร่วมงานไม่ดี โครงสร้างบริษัทไม่สนับสนุน มันไปช้าแน่ แม้คุึณเก่งเท่าเก่ง โอกาสและประสบการณ์น้อย มันก็ย่อมไปได้ไม่เร็ว ไม่ไกล จากคุณ : ผมเองครับ เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 55 09:22:17

ความคิดเห็นที่ 12 จิงๆแล้วบุคคลทั้ง 2 ประเภทข้างต้น ก้อหาได้ตามสังคมการทำงานทั่วไปนะคะ เยอะมากน้อย ..พอๆกันค่ะ ขึ้นอยู่กับปัจจัยด้านองค์กรประกอบด้วย และตัวชี้วัดว่าคุณเป็นคนทำงานได้ดีหรือไม่ มันขึ้นอยู่กับตัวคุณเองมากกว่าค่ะ  ตัวงานก้อสำคัญ แต่ไม่เท่ากับทุกสิ่งที่เป็นตัวคุณ ทั้งความรู้ ความสามารถ ศักยภาพด้านต่างๆ จิงๆเคยเบื่อหน่ายกับรูปแบบการทำงาน บางสภาพแวดล้อมนะคะ ก้อเลยถามตัวเองว่าต้องการอะไร  และปัจจุบันก้อได้เริ่มทำธุรกิจที่เรารักแล้วค่ะ  ตั้งใจว่าอยากขยายการตลาดไปยังกลุ่มลูกค้าต่างชาติด้วย แต่คงต้องพยายามศักษาให้ดีก่อน รบกวนฝาก mail ไว้นะคะ : pommy_my_biz@hotmail.com เป็นกำลังใจให้ผ่านช่วงเวลาที่น่าเบื่อหน่าย นะคะ  สู้ๆค่ะ  ^__^ จากคุณ : Pommy_my_biz (Pommy_my_biz) เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 55 19:03:17

ความคิดเห็นที่ 13 มีคนให้ข้อคิดดีๆของฝ่ายธรรมมะไปแล้ว งั้นพี่ขอถ่ายทอดวิชามารให้ละกันครับ ^__^ พี่ฟันธงเลยครับว่าจะรุ่งหรือร่วง อยู่ที่คุณเป็นคนของใคร ประสปการณ์สอนให้รู้ว่าชีวิตบางคนเหมือนเดินอยู่บนพรมแดงเพราะเค้ามีคนคอยดันครับ ไม่ต้องเก่งเทพ ไม่ต้องถึกเหมือน....ด้วย ในขณะที่อีกหลายๆคนถึงมีฝีมือหรือทำงานถึกยิ่งกว่าไถนาก็ยังแป้กต่อไปครับ ซึ่งคนหลายๆคนที่ว่าก็มีทางเลือกอยู่ 2 ทาง คือคุยกับหัวหน้าแล้วทนรอความหวังต่อไป หรือ ไปโตและสบายที่อื่น คำพูดสวยหรูมันมีอยู่เต็มไปหมดแหละครับ จะเอาประโยคไหนมากล่อม แต่ชีวิตจริงก็ใช้คนเดินดินที่มีกิเลสเต็มหัวใจนี่แหละมาตัดสินอนาคตของคนอีกหลายๆคน แต่สิ่งหนึ่งที่น้องต้องไม่ลืมคือ ความสามารถเป็นเรื่องส่วนบุคคลครับ ไม่มีใครที่เก่งมาแต่เกิด พรสวรรค์เป็นแค่เศษเสี้ยวเมื่อเทียบกับความพยายาม จากคุณ : ผ่านมาแล้วก็ผ่านไป เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 55 21:01:51 A:58.11.163.106 X: TicketID:323600

ความคิดเห็นที่ 14 I agree with #3 But I think the word 'balance' should be changed into 'maximize' :) จากคุณ : SignorNupuk เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 55 20:48:46