ก่อนจบเดี๋ยวขอพูดเรื่องการตลาดอีกนิด
หลายร้าน หลายเวป มีหลักการทำการตลาดต่างกัน บางร้านยึดการบอกต่อ บางเวปยึด Facebook บางเวปยึด SEO บางร้านยึด Twitter ... Youtube, Blog, ... ฯลฯ ซึ่งทุกวิธีนั้นล้วนแล้วแต่มี Success Story ทั้งสิ้น มีคนที่ประสบความสำเร็จด้วยวิธีหนึ่งๆมาก่อนแล้วทั้งสิ้น แต่ว่าเราก็ต้องค้นหาให้เจอว่าแนวทางไหน "เหมาะ" กับตัวเรา / Blog เรา / ร้านของเรา นะครับ
อยากจะบอกว่าสูตรสำเร็จในการทำการตลาดนั้น "ไม่มี" นะครับ ผมเองกว่าจะยึดแนวทางที่ผมทำอยู่ทุกวันนี้ได้ ก็ต้องใช้วิธีลองผิดลองถูก เลือกในสิ่งที่ใช่ ค้นหาในสิ่งที่มีผลตอบรับดีที่สุด ทดลองอยู่เกือบ 4 เดือน กว่าจะได้แนวทางหลัก
แต่อยากจะแชร์ว่า กลยุทธ์การตลาดออนไลน์ที่ "ห่วย" ที่สุดนั้นมีนะครับ นั่นก็คือการเปลี่ยนไปเรื่อยๆ วันนี้ FB พรุ่งนี้ Twitter มะรืนนี้ Youtube ไม่มีหลักแน่นอน ไม่มีตัวชี้วัดแน่นอน ไม่รู้เลยว่ากระแสตอบรับแต่ละอย่างนั้นเป็นอย่างไร เพราะเราเหมารวมเอามันหมดทุกอย่าง ... ขอให้เจ้าของร้านแต่ละท่านยึดเอาช่องทางหลักสัก 1-2 ช่องทาง แล้วทดลองเป็นเวลาพักใหญ่ อยู่กับมันไประยะหนึ่งจนกระทั่งเราแน่ใจแล้วว่า ช่องนี้เหมาะหรือไม่เหมาะกับร้านของเรา แล้วค่อนเปลี่ยนนะครับ
สิ่งที่ "จำเป็น" สำหรับการทำเวปไซต์จริงจังหลังจากมั่นใจแล้วว่าเรามีลูกค้าแน่นอน (ผ่านระยะตั้งไข่ช่วง 2-3 เดือนแรกมาแล้ว) ก็คือการ "ดีไซน์" เวปไซต์ให้สวยงาม ความสวยงามและเป็นมาตรฐานสากลจะช่วยให้เวปไซต์ของเราดูดี มีความน่าเชื่อถือมากขึ้น ถ้าเป็นร้านก็จะรู้ว่านี่ไม่ใช่แม่ค้าไก่กานะ แต่เป็นร้านธุรกิจอย่างเป็นตัวเป็นตน ยกตัวอย่างเช่นร้านขายของชำ ถ้าเราวางของระเกะระกะ ดูไม่เป็นมืออาชีพ ป้ายราคาก็ยังไม่ติด ไม่แยกหมวดหมู่ หาอะไรก็ไม่เจอ ก็คงจะไม่มีคนอยากเข้าร้านเราจริงไหมครับ ร้านค้าออนไลน์ก็เช่นกัน เราควรจะทำให้ดี ผมสนับสนุนให้ลงทุนเรื่องความสวยงาม ในวงเงินราวๆ 1-2 หมื่นบาท เอาให้สวย แต่อย่าใช้ FLASH!!
FLASH หรือ ภาพเคลื่อนไหวงามๆที่เด้งไปเด้งมาได้ในคอมพิวเตอร์ จะเปิดไม่ได้ในโทรศัพท์มือถือส่วนใหญ่ โดยเฉพาะ iPhone และ iPad ซึ่งปัจจุบันเป็นสัดส่วนที่สูงขึ้นเรื่อยๆ เวลาลูกค้าเปิดเวปแล้วเข้าไม่ได้ ก็เหมือนเค้าขับรถมาถึงหน้าร้านแล้วเราล็อคประตู ไม่ให้รถคันนี้เข้า ในขณะที่คนอื่นเข้าได้ ก็ลองคิดดูแล้วกันครับว่าเขาจะกลับมาอีกไหม
ผ่านไป 1 ปี ปัจจุบันเวปไซต์ของผมมีผู้ใช้โทรศัพท์มือถือหรือ tablet ประมาณ 1 ใน 3 มีจำนวนหน้าที่ถูกอ่านมากกว่าวันแรกราวๆ 4-5 หมื่นเท่า มีแฟนเพจเกือบ 6 หลัก มีผู้ร่วมชะตากรรม 5 คน
ขอให้โชคดีกับการทำธุรกิจนะครับ!
ปล. ใครมีเวลาว่าง อยากให้ไปอ่านหนังสือพวก Marketing / Advertising Message ด้วย ว่าใช้คำพูดอย่างไรจะดีในการตลาด (ซึ่งส่วนใหญ่เป็นหนังสือภาษาอังกฤษ) เพราะตรงนี้จะมีส่วนช่วยในเรื่องธุรกิจออนไลน์ได้มากๆเลยครับ