 |
เจ้าของบริษัทกินเลขา เมียตามมาตบที่ออฟฟิศ ดราม่าสุดๆ [ย้ายจาก : ]
|
 |
เล่าสู่กันฟังด้วยความเครียดระคนขัน
บริษัทเราเป็นบริษัทเล็กๆ มีพนักงานประจำสาขาอยู่ 4 คน คือ เจ้านาย, เลขาฯ, ตัวเราเป็นฝ่ายผู้เชี่ยวชาญในสายงานว่ากันจริงๆก็คือทำทุกอย่างในบริษัท ยกเว้นจ่ายเงินเดือน และ คนขับรถเจ้านายที่ควบตำแหน่งช่างไฟ เด็กยกของ และจิปาถะ
น้องเลขาตอนเพิ่งมาทำงานใหม่ๆแบบเพิ่งเรียนจบจากวิทยาลัย ขาวใส เรียบร้อย พูดน้อย ดูนิ่มๆ ก็ทำงานด้วยกันเรื่อยมา เค้าเรียกเราโดยเรียกว่าพี่+ชื่อเล่นเรามาตั้งแต่แรก เราก็เรียกเค้าด้วยชื่อเล่นธรรมดา (เค้าเด็กกว่าประมาณ 3 ปี)
เจ้านายเป็นคนจีน เมีย 1 ลูก 1 อยู่ที่แผ่นดินใหญ่ อยู่เมืองไทยทำตัวเป็นหนุ่มโสด ชอบทำกิริยาก้อร่อก้อติกกับลูกน้องแนวหมาหยอกไก่ตลอดเวลา เราก็โดนบ้างประปราย แต่ด้วยความเป็นคนแข็งๆ พูดแรงๆไปสองสามทีเค้าก็เลิกราไปเอง
ปกตินั่งทำงานอยู่ในออฟฟิศก็บรรยากาศทั่วไป ต่างคนต่างทำสิ่งที่ตัวเองต้องทำอยู่ที่โต๊ะของตัวเอง คุยกันเฉพาะเรื่องงาน และประชุม
หลายปีผ่านไป เราเริ่มเห็นความเปลี่ยนแปลงบางอย่าง น้องเลขาเริ่มแต่งตัววับๆแวมๆ เสื้อคว้านนม กางเกงรัด หัดแต่งหน้ากรีดตา ทำผมสวยเช้ง และเลิกเรียกเราว่าพี่ โดยเริ่มจากการเรียกอย่างไม่เต็มคำก่อน เห็นเราไม่ว่าไรไปสักเดือน เริ่มเรียกชื่อเฉยๆ ผ่านไปสักพักเสียงเริ่มจิก จนปัจจุบัน แม้แต่ชื่อของเราเค้าก็ไม่เรียก แต่จะเป็นการพูดห้วนๆ หรือถามห้วนๆโดยพูดถึงหัวข้อเกี่ยวกับเราเพื่อให้เราตอบเอง แต่ไม่เรียกชื่อ (เอาจริงๆ ถ้าเค้าเรียกเราเฉยๆตั้งแต่แรกคงไม่รู้สึกอะไร เพราะอายุไม่ได้ต่างกันมาก เราเฉยๆกับเรื่อง seniority แต่มาเปลี่ยนหลังจากผ่านไป 4 ปีนี่มันยังไงอยู่นะ แปลกๆ)
ทีแรกเราคิดว่าน้องคงจะโตเป็นสาวมั้ง อาจจะกำลังมีแฟนหรือมีคนมาจีบ เลยเริ่มเปลี่ยนแปลงตัวเอง แต่เรื่องมันไม่ง่ายแค่นั้น ...
จากเด็กพูดน้อย น้องเลขาเริ่มฉอเลาะกับเจ้านายมากขึ้น มีการมานั่งเบียดๆคุยกันคิกคักสองคนในออฟฟิศ (ทั้งๆที่กรูนั่งอยู่ด้วย) เวลาเจ้านายกลับจีน ก็จะโทร Skype คุยกันหลายๆชั่วโมงทุกวัน ไม่ทำงานกำการเอาแต่พิมพ์แชท (เดาว่าแชทกับเจ้านายนี่แหละ) และหันมาจิกใช้ให้เราทำนี่ทำนั่นแทน กับพี่คนขับรถยิ่งไม่ต้องพูดถึง แม้พี่เค้าจะเป็นผู้ใหญ่อยู่ในวัยกลางคน ก็โดนนางจิกใช้ และโขกสับด้วยน้ำเสียง สีหน้า และวาจาอย่างออกนอกหน้า
กลิ่นทะ:-)ๆมันรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ เพราะเจ้านายทะเลาะกับเมีย เมียจะฟ้องหย่าเพราะจับได้ว่าซ่อนกิ๊กไว้ที่ไทยเพราะเห็นข้อความแชทสองแง่สองง่ามจุ๊กกรู๊ววว จึงเป็นอันต้องย้ายกลับไปบ้านเก่าที่แผ่นดินใหญ่ให้เมียคุมประพฤติระยะหนึ่ง ทิ้งสาขากรุงเทพไว้ให้เราจัดการ และเลขาหัวใจสลายหนึ่งคน
ก่อนที่เรื่องจะเข้มข้นถึงจุดนั้น เราเองก็แอบเห็นข้อความแชทของทั้งสองคนที่ค้างอยู่ที่หน้าจอหลายครั้ง ไม่รู้ว่าน้องเค้าเผลอ หรือตั้งใจเพื่อเป็นการประกาศศักดิ์ดาว่าชั้นอัพเกรดแล้วนะยะกันแน่? แต่ที่แน่ๆ เจ้านายโคตะระสัพเพร่าที่ให้เมียยืม account skype เลยกลายเป็นหลักฐานมัดตัว
หลังจากท่านเจ้านายถูกคุมประพฤติ ทุกครั้งที่เค้าบินมาตรวจความเรียบร้อยที่สาขาก็จะมีเมียเหน็บมาด้วย บางครั้งก็มีเพื่อนเมียมาด้วย นั่งมาคุ กดดันกันอยู่ในออฟฟิศ พอเจ้านายเดินคล้อยหลังออกไปห้องน้ำ หรือไปคุยงาน เมียและเพื่อนก็จะพูดคุยด้วยเนื้อหาเชือดเฉือนจิกกัด (จุดนี้เรารู้สึกว่า ละครดราม่าหลังข่าวนั้นดูเบาไปเลย) เราในฐานะผู้ชม ก็ทั้งเสพดราม่าอย่างเพลิดเพลินและแอบเครียดอยู่ในใจ
เรารู้สึกว่า เรื่องมุ้งๆแบบนี้ไม่ควรจะเอามาแผ่กันในออฟฟิศ เราทำงานของเราอยู่ดีๆ ทำไมถึงต้องมารับรู้กับเรื่องโลกีย์ของคนอื่นด้วย? เรารักงานที่เราทำนะ และก็มีความสุขกับการทำงานนี้มาตลอด แต่พอบรรยากาศในการทำงานมันกลายมาเป็นแบบนี้ เราก็เริ่มไม่ค่อยมีความสุขแล้ว
จากเดิมที่เคยตื่นเช้ามาแล้วอยากรีบออกจากบ้านไปทำงาน ตอนนี้กลับคิดแต่ว่า ถ้าไปออฟฟิศวันนี้ จะได้เจอภาพไหน? ระหว่างภาพเจ้านายกับเลขากำลังซบบ่าคลอเคลียกัน หรือ เมียเจ้านายกำลังตั้งทัพจิกกัดเมียน้อย หรือในวันเบาๆ ก็เป็นเมียน้อยเจ้านายมาระบายอีโก้ใส่เราโดยการจิกใช้เราให้ทำงานที่เค้าสมควรจะเป็นคนทำ ... ความคิดเหล่านั้นทำให้เราหมดกำลังใจที่จะลุกขึ้นจากที่นอนเลย
หนทางเดียวที่เราเห็นตอนนี้ก็คือ หางานใหม่ และภาวนาให้เจ้านายที่ใหม่ไม่บ้ากาม
แต่สิ่งที่ยังติดอยู่ในใจก็คือ ... เค้าไปได้กันตอนไหน? (ว๊ะ)
1. ได้กันแล้ว น้องเลยเปลี่ยนลุค เพราะได้เทิร์นโปรต้องประกาศตัว
2. น้องเห็นว่าหน้าที่การงานไม่รุ่ง เลยเปลี่ยนลุคเพื่อให้ได้กับเจ้านาย จะได้อัพเกรดสถานะ
3. ไหนว่าไม่อยากรู้เรื่องของเค้าไง ละจะมัวคิดอยู่ทำไม ไปตามทางของเราดีกว่า
หุหุหุ เขียนยาวเป็นนิยายเลย แต่เอาจริงๆ เรื่องจริงเน่ากว่านิยาย
ลาออกไปแต่งหนังสือขายดีกว่าเว้ยเฮ้ย!!!
| จากคุณ |
:
Artibest  
|
| เขียนเมื่อ |
:
6 ก.ย. 55 17:10:42
|
|
|
| |
... เข้ามาดู
