ความคิดเห็นที่ 1 เอางี้ผมตีความปัญหาพื้นฐานให้ครับ คิด และ ทำ มันโอเคทั้งคู่ สิ่งที่ องค์กรต้องการคือ "การแก้ปัญหา" ครับ ถ้าคนคิด คิดแล้ว สามารถแก้ปัญหาได้ - ให้เงินเยอะ ถ้าคนทำ ทำแล้ว สามารถแก้ปัญหาได้ - ให้เงินเยอะ ก็ต้องมองย้อนกลับไปว่า เรารับไอ้คนนี้มา เพื่อมาแก้ปัญหาอะไร แล้วมันเป็นปัญหาหลักสำคัญของ องค์กรมั้ย ถ้าใช่ ต้องจ่ายเยอะนะครับ ต้องเลี้ยงหน่อย สมมุติบริษัท มีปัญหาคือ "ต้องส่งเอกสารกับ สาขาบ่อยๆ" เมื่อมีปัญหาเกิดขึ้น ก็ต้องการ คน มาแก้ปัญหา หน้าที่นั้นคือ messenger ถามว่า เค้า "ทำมาก" ไหม บอกได้เลยว่าเค้าทำ มาก แต่เค้าคิดมากมั้ย ก็ไม่ เพราะหน้าที่เค้าคือส่งเอกสาร เพราะฉะนั้น อยู่ในองค์กร คุณต้องรู้ดีว่า องค์กรของคุณ มีผลิตภัณฑ์อะไร คน ที่มาแก้ไขปัญหาให้องค์กรนี้ มี impact ใดๆต่อผลิตภัณฑ์นี้ คิด กับ ทำ ดีทั้งคู่ครับ คิดดีๆ เสนอดีๆ ก็ได้ ทำเยอะๆ แต่ไม่มีหัวคิดไม่พัฒนา ก็เน่าได้เหมือนกัน สิ่งสำคัญเราต้องโฟกัสปัญหา ว่า ปัญหาไหนใหญ่ ปัญหาไหนเล็ก ปัญหาไหนหาคนแก้ง่าย(และแก้อย่างไร) ปัญหาไหนหาคนแก้ยาก(และแก้อย่างไร) จากคุณ : sillygang เขียนเมื่อ : 12 ก.ย. 55 10:56:11

ความคิดเห็นที่ 2 หลักบริหารใช้คำว่า สร้างมูลค่า วัดผลที่ผลสัมฤทธิ์โดยรวม ปลายทางในสายงานนั้น ใครสร้างมูลค่ามากกว่า จะได้ผลตอบแทนสูงกว่า แยกง่ายๆอย่างที่จขกท.ตั้งมาไม่ได้ครับ ถ้าระดับใช้แรงงาน คนที่ทำมากกว่า ควรจะได้มากกว่า และเมื่อเริ่มตำแหน่งสูงขึ้น เป็นหัวหน้าคน ก็ต้องคิดในขอบเขตแล้วสั่งให้คนทำมากกว่าทำเอง ยิ่งสูงไปมาก ยิ่งไม่ต้องทำเลย คิดให้คนทำอย่างเดียว จากคุณ : พี (peh_chai) เขียนเมื่อ : 12 ก.ย. 55 12:20:40

ความคิดเห็นที่ 3 หน้าตา ความสวย จากคุณ : แล้วทำไม12 เขียนเมื่อ : 12 ก.ย. 55 12:38:02

ความคิดเห็นที่ 4 เคยเจอไหมครับ คิดได้แต่ทำไม่เป็น กับคนทำได้ แล้วทำไมเขาจะคิดไม่เป็น จากคุณ : kokusen เขียนเมื่อ : 12 ก.ย. 55 12:38:48

ความคิดเห็นที่ 5 คนที่สั่งงานง่าย และเข้าใจในสิ่งที่สั่งครับ จากคุณ : MamaKungking เขียนเมื่อ : 12 ก.ย. 55 13:37:44

ความคิดเห็นที่ 6 ใครๆก็ชอบคนขยันด้วยกันทั้งนั้นนะคะ  บางคนเก่ง แต่ไม่ขยัน มาสาย ไม่ค่อยทุ่มเทให้กับงานอย่างเต็มที่  ผิกกับอีกคนที่ ไม่เก่งมาก แต่ขยันมาก  ก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เงินเดือนเพิ่มได้เหมือนกันนะคะ   ที่บริษัทเรา นอกจากการทุ่มเทให้กับงานอย่างเต็มที่แล้ว  การทำโอทีหรือล่วงเวลา การไม่มาสายเป็นกระจำ  และไม่ลางานบ่อยๆ ก็เป็นปัจจัยหลักในการเพิ่มเงินเดือน และโบนัสค่ะ ที่อื่นเราไม่ทราบ แต่เราชอบคนขยัน  เสมอต้นเสมอป่ลาย  บางคนมาใหม่ๆ ก็ขยันดีๆ เพราะไม่รู้จะไปไหน แต่พออยู่ไปนานๆเข้า เริ่ม ไม่ค่อยขยันแล้ว มันก็เป็นปัจจัยหนึ่งค่ะ ในการเพิ่มเงินเดือน ขอบคุณค่ะ จากคุณ : taliew49 เขียนเมื่อ : 12 ก.ย. 55 13:43:29

ความคิดเห็นที่ 7 ไม่มีบริษัทไหนอยากจ่ายเงินเดือนสูง แต่บริษัทก็อยากได้พนักงานเก่ง ๆ มาทำงานให้ ดังนั้นปัจจัยหลักอยู่ที่ความสามารถในการต่อรองระหว่างตัวพนักงานกับ HR จากคุณ : TLL01 เขียนเมื่อ : 12 ก.ย. 55 14:43:34

ความคิดเห็นที่ 8 ในการทำงานจะแบ่งงานและระดับตามนี้ บน       เก่งคิด    เพราะจะหาแนวทางและโอกาสในการทำธุรกิจ เงินเดือนสูง กลาง    เก่งบริหารจัดการ     คือทำงานเก่งและทำงานนานเลยขึ้นตำแหน่ง                                      เพื่อจัดการคนทำงาน  เงินเดือนเพิ่มขึ้น ล่าง    ทำงาน ,ปฏิบัติการ     เมื่อทำงานงานเก่งจึงเลื่อนระดับ  เงินเดือนเริ่มต้น ดังนั้น เก่งคิดจึงเงินเดือนสูงกว่าทำงาน  แต่ประเทศไทยทำงานก็องแก็งอยากได้เงิน เพิ่มเลยไปเรียนต่อ จบมาจึงให้มาอยู่ตำแหน่งคิด เลยคิดว่าต้องมากกว่าพวกปฏิบัติ แต่เจ้าของไม่คิดอย่างงั้นเลยให้เงินไม่มาก      นี่แหละประเทศไทย จากคุณ : โจ ฮัสเลอร์ เขียนเมื่อ : 12 ก.ย. 55 16:32:45

ความคิดเห็นที่ 9 แล้วทำไมไม่เอาข้อดีๆของทั้งคุณและเจ้านาย ประเมินลูกน้องทุกๆคนแบบเดียวกันหล่ะครับ ใครได้คะแนนมากที่สุดก็ขึ้นเงินเดือนลดหลั่นกันลงไป ไม่เห็นจะต้องเลือกคิด กับ ทำ เลย ก็เอาทั้งคิดทั้งทำมาเป็นเกณฑ์การประเมินก็สิ้นเรื่อง ถ้าอยากได้คนแบบใหนก็ให้น้ำหนักข้อนั้นในการประเมินมากกว่าข้ออื่น ครับ จากคุณ : CIA001 เขียนเมื่อ : 12 ก.ย. 55 17:33:06

ความคิดเห็นที่ 10 คนทำจะได้น้อยกว่าครับ เพราะคนทำมักจะเป็นลูกน้อง ถึงจะขยันอย่างไรก็ทำได้เพียงแค่สองมือ จึงมีขีดจำกัดครับ ส่วนคนคิดมักจะเป็นหัวหน้าหรือเจ้าของกิจการ  เมื่อเล็งเห็นว่าลูกน้องไม่น่าจะผลิตสินค้าใด้ทันกับความต้องการของตลาด  ก็คิดหาคนทำมาเพื่มให้พอเหมาะกับงานครับ หากโรงงานคับแคบก็คิดหาวิธีขยับขยาย  พอโรงงานใหญ่ลูกน้องมากเกินกว่าที่หัวหน้าจะควบคุมดูแล  ก็หาหัวหน้าใหม่มาเพิ่ม หรือจะค้ดเลือกลูกน้องที่เก่งและเหมาะสม เลื่อนขึ้นเป็นหัวหน้ากลุ่มก็ได้ครับ จากคุณ : บุญถิ่น เขียนเมื่อ : 12 ก.ย. 55 19:50:30

ความคิดเห็นที่ 11 ผมว่า มัน นานาจิตตัง นะ เข้าของกิจการแต่ละคน  อาจจะคิดไม่เหมือนกันก็ได้ มันขึ้นอยู่กับ สไตล์การบริหารของแต่ละที่มากกว่าครับ แต่สำหรับผม  "ความรับผิดชอบสูง ค่าตอบแทนก็สูงตาม" เรื่อง "คิดมาก" และ "ทำมาก" มันอีกเรื่องนึง คนละส่วนกัน ค่าตอบแทนอาจจะเป็นเบี้ยขยัน,เงินตำแหน่ง,หรืออื่นๆ ถ้าคิดตาม เจ้าของกิจการเนื้อกระทู้ ยาม - โบกรถ,จดทะเบียนรถ,ช่วยลูกค้าถือของ(บ้าง),แบกน้ำใส่ตู้น้ำ,เจ้านายให้ช่วยยกของ,นั่งในตู้ยามตากแดดร้อนก็ร้อน,เผลอๆกวาดถนนอีกต่างหาก,เปิด-ปิดประตูรั้ว,แลกบัตรคนเข้าออก ฯลฯ เจ้าของกิจการ - สั่งลูกน้องทำนู่นทำนี่(ตัวเองไม่ต้องทำ),เซ็นต์เอกสาร เอาเป็นว่า ถ้าเทียบเนื้องานแล้ว ยามทำงานมากกว่าเจ้าของกิจการ  แล้วทำไมยามได้เงินเดือนน้อยกว่าเจ้าของกิจการล่ะ ?? (แม่ม บ้า) นั่นก็เพราะ "ความรับผิดชอบ" ไงล่ะ เจ้าของกิจการ มีความรับผิดชอบสูงกว่า  เลยได้เงินเดือนเยอะกว่า (ส่วนผลกำไรบริษัท เป็นส่วนของเงินทุน) ยาม - รับผิดชอบ ในส่วนรักษาความปลอดภัยทั่วไป เจ้าของกิจการ - รับผิดชอบ ความอยู่รอดของทั้งบริษัท จากคุณ : aumpaump12 เขียนเมื่อ : 12 ก.ย. 55 23:27:19

ความคิดเห็นที่ 12 คุณอาจจะคิดถูกมาตลอดจนมาเจอเจ้าของบริษัทคนนี้ หรือคุณอาจจะคิดผิดมาตลอดจนมาตั้งกระทู้นี้ วิธีคิดอย่างใดอย่างนึงไม่จำเป็นต้องถูกหรือผิดเสมอไปก็ได้ครับ ผมว่าคิดยังไงก็ทำยังงั้น สบายใจดีนะครับ จากคุณ : PoojeeChunn เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 55 03:15:14

ความคิดเห็นที่ 13 ให้คนที่พลักดันงานจนเป็นรูปเป็นร่างได้ครับ จะเน้นคิดหรือเน้นทำก็แล้วแต่ ตรงนี้มันยืดหยุ่นกันได้ ที่เจอบ่อยมากๆคือ no action talk only คือพูดสวยๆอย่างเดียว เอะอะนัดประชุม นั่งพร่ำพรรณาไปเรื่อย ขายฝันไปเรื่อย คืองานมันไม่เสร็จในห้องประชุมหรอกครับ สมัยนี้คนเน้นพูดอย่างเดียวเยอะ แล้วมักจะชอบวางตัวว่าเก่ง ว่าเจ๋งกว่าคนอื่น คือจะเอาเครดิตเต็มๆ แต่ไม่ยอมเหงื่อออก ไม่ยอมมือเปื้อน คิดไปเองว่านั่งเท่ห์ในห้องประชุม คือเก่งแล้ว ดีแล้ว จากคุณ : อยากเห็นคนไทยบินได้ เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 55 08:58:41

ความคิดเห็นที่ 14 ที่น่าจะถูกคือ คนที่ "คิด" แล้ว "ทำ" น่าจะได้เงินเดือนเยอะ ยิ่ง "คิด" แล้ว "ทำ" เยอะ เงินเดือนก็ยิ่งเยอะ ต่างกับคนที่ "ได้แต่คิด" หรือ "ได้แต่ทำ" ครับ จากคุณ : basicball เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 55 14:41:55

ความคิดเห็นที่ 15 เราว่ามันอยู่ที่หน้าที่รับผิดชอบนะถ้าเป็นพนักงานขายเสื้อผ้าอย่างที่ จขกทว่าก็คือเป็นพนักงานระดับปฏิบัติการ ถ้างานในร้านมี10 อย่างคุณทำได้ทั้ง10 อย่าง รวมงานขายด้วย จัดร้านด้วย จิปาถะคุณทำได้หมดเลยแบบนี้เราจะให้เยอะ  แต่ถ้าทำได้ดีแค่5 อย่าง เน้นแต่ขายอย่างเดียว แต่อย่างอื่นขี้เกียจมันก็ไม่น่าได้มากกว่านะ จริงป่าว แต่ถ้าอยากได้เงินเยอะต้องทำได้ 10 อย่างอะ จากคุณ : White coco เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 55 19:37:04

ความคิดเห็นที่ 16 ตำแหน่งพนักงานทั่วไป คนทำ ได้มากกว่า ตำแหน่งหัวหน้า คนคิด ได้มากกว่า สรุปคือ จะคิดหรือทำมันก็คืออย่างเดียวกันครับ คือการปฏิบัติหน้าที่ของเราให้ดีที่สุด คนที่ปฏิบัติได้ดีสุดก็จะได้มากกว่า มากกว่าในที่นี้หมายถึงมากกว่าคนที่ทำงานในระดับเดียวกันนะครับ ไม่ใช่เทียบกับคนที่คิดหรือทำ เพราะถ้าจะเทียบแบบนั้นคือเทียบตำแหน่ง ตำแหน่งสูงย่อมได้มากกว่า ไม่ว่าตำแหน่งนั้นจะคิดหรือทำ จากคุณ : Teuton เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 55 12:09:31

ความคิดเห็นที่ 17 ถ้าแค่คิดได้อย่างเดียว แต่เอามาทำไม่ได้ ก็ไม่มีประโยชน์หรอก เราเจอคนที่คิดได้เลิศเลอ เพอเฟ็ค แต่พอเอาแนวคิดมา ลงมือปฏิบัติมีปัญหาเพียบ แถมไปสร้างปัญหาให้ชาวบ้านต้อง ตามแก้อีกอ่ะ จากคุณ : ปอมชิ เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 55 12:40:14