ความคิดเห็นที่ 1 ISO 22000 ครับ ถ้าเป็น SME และลูกค้าไม่ได้ขอร้องให้ทำ ทำได้แต่ไม่ต้องขึ้นทะเบียนครับ เพราะค่า Audit แพง ถึง แพงมาก ประโยชน์ของ ISO คือสามารถแก้ไขปัญหาที่ต้นเหตุที่แท้จริงและป้องกันการเกิดซ้ำ ทำให้กระบวนการผลิตมีต้นทุนลดลงเนื่องจากของที่ไม่ได้ spec หรือ ของเสียน้อย ถ้าทำ ISO เพื่อให้ Audit ผ่านได้ประโยชน์น้อยครับ สำหรับ SME ทางด้านการผลิตอาหารควนเน้นไปที่ GMP HACCP ครับ ส่วนมาตรฐานอื่นเช่น BRC HALAL แล้วแต่ความจำเป็นครับ สำหรับภาษาอังกฤษอ่านออกเขียนได้พอ เอาไว้ตีความในข้อกำหนดครับ จากคุณ : Takeshi San เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 55 12:13:44

ความคิดเห็นที่ 2 อย่างที่คห.1 บอกคะ แต่อยากบอกว่า การทำระบบพวกนี้คุณต้องได้รับความร่วมมือจากพนักงานของคุณเป็นอย่างดี เพราะระบบเหล่านี้ถ้าทำแล้ว ไม่มีการควบคุมที่ดี ไม่มีการตรวจติดตามหรือใส่ใจ(หมายถึงพนักงานในโรงงานนะคะ) พอจะ Audit ทีมานั่งไล่แก้เอกสารต่างๆมากมาย ซึ่งเป็นอะไรที่อาจต้องมีพบเจอคะ ทำไปแค่ให้ลูกค้าเห็นว่ามีระบบดังกล่าว ซึ่งหากไม่ทำจริงๆจังๆจะเกิดผลเสียตามมาทีหลังคะ สำหรับบริษัทที่รับจ้างทำก็มีนะคะ แต่ก็มีค่าใช้จ่ายสูงคะ บางครั้งอาจมีค่าจิบน้ำชา >0< จากคุณ : chibo เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 55 18:24:48

ความคิดเห็นที่ 3 ISO 9000 หรือ 9001 9002 เกี่ยวหรือเปล่าครับ ขอบคุณครับ จากคุณ : bungA เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 55 16:09:19

ความคิดเห็นที่ 4 เริ่มต้น นะครับ แนะนำทำ 1. GMP 2. HACCP 3. Halal ส่วนมาตรฐานด้านอื่นๆ ค่อยๆ ทำยอยทำทีหลังครับ เพราะต้นทุนการทำค่อนข้างสูง ISO นั้นถ้ายังไม่จำเป็นก็ไม่ต้องทำครับ ISO 14000 เป็นมาตรฐานสิ่งแวดล้อมของอุตสาหกรรมที่มีขนาดใหญ่ไปแล้ว ถ้ายังเป็นSME ในหัวข้อของ GMP นั้นจะระบุเรื่องน้ำเสีย หรือการกำจัดขยะที่เกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมเข้าด้วยนิดหน่อน แค่เพยงเบื่อต้น ใช้ GMP HACCP คุมทั้งระบบก็พอครับ ISO 9001:2000 อันนี้ก็เกี่ยวข้องครับ แต่จะเป้นมาตรฐานการจัดเก็บและควบคุมเอกสารครับ ซึ่งมาตรฐานตรงนี้ก็ยังไม่จะเป้นครับ เพราะ GMP,HACCP จะมีข้อกำหนดควบคุมเอกสารอยู๋แล้วครับ นี้จากประสบการณ์ของผมนะครับ คือ การมี มาตรฐานหลายๆตัว เป็นสิ่งที่ดีต่ออุตสาหกรรมครับ แต่สิ่งที่ตามมาก็คือ การมีมาตรฐานที่มากขึ้น บุคลากรที่มีก็ต้องมากขึ้น และมีความชำนาญมากขึ้นนะครับ เพื่อ "ดำรงรักษาไว้ซื่งมาตรฐานที่เรามี (Maintain Standard)" ผมอยากจะบอกว่า "การรักษามาตรฐาน" ไว้นั้น ยากกว่า "การขอมาตรฐาน" แต่ละตัวอีกนะครับ ดังนั้น การจะขอมาตรฐานแต่ละตัว ให้ดูดังนี้ครับ 1. ความพร้อมของเราทั้งทางด้านบุคลากร ที่จะทำระบบ แล้วก็ระบบการทำงานของเรา 2. กลุ่มลูกค้าที่เราจะทำการค้าขายด้วยนะครับ เพราะ ถ้าส่งออก ก็จะต้องมีมตรฐานมารับรองเพิ่ม รวมถึงกลุ่มประเทศที่จะทำการค้าขายด้วยครับ ประเทศที่ต่างกัน ย่อมใช้มาตรฐานที่ต่างกันครับ 3. ความต้องการของลูดค้า คล้ายๆ กับ ข้อ 2 นั่นแหละครับ แต่ตรงจุดนี้ อยากจะเน้นความคุ้มค่าในการลงทุนในการจัดทำมาตรฐานแต่ละตัวว่า สิ่งที่ได้มา คุ้มกับสิ่งที่เสียไปหรือไม่ครับ หวังว่าคงจะเป็นประโยชน์นะครับ ผมไม่ได้เป็นเจ้าของกิจการแต่อย่างใด แต่ ผมเป็นผู้ที่เกี่ยวข้องกับระบบคุณภาพต่างๆนิดหน่อยแล้วก็  อยู่ในวงการอุตสาหกรรมอาหารแค่นั้นแหละครับ ขอให้ธุรกิจเจริญรุ่งเรืองครับ จากคุณ : Pescarolo เขียนเมื่อ : 20 ก.ย. 55 11:51:29

ความคิดเห็นที่ 5 เป้นนักศึกษาจบใหม่ แล้วได้งานทำแถวบ้าน เป็นโรงงานผลิตอาหารสัตว์ ทางโรงงานให้จัดทำ GMP HACCP และ ISO ตอนนี้ปวดหัวไปหมดแล้วค่ะ ใครมีข้อมูลอะไรแนะนำช่วยบอกด้วยค่ะ ขอบคุณค่ะ จากคุณ : kitsana (t_kitsana) เขียนเมื่อ : 19 ต.ค. 55 14:24:43