ความคิดเห็นที่ 1 กระทู้กระโดดถีบสินะ จากคุณ : W.NoWz!! เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 55 22:18:54

ความคิดเห็นที่ 2 อยากรู้ว่าตกลงโดดทีบจริงปะ จากคุณ : MamaKungking เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 55 22:19:47

ความคิดเห็นที่ 3 ผมว่าแย่ทั้งเจ้าของบริษัท ตัวเจ้าของกระทู้ และนายคนนั้นแหละครับ ตอนเขามาสมัครงาน ถือปืนเข้ามาบังคับให้รับหรือเปล่า การรับคนเข้ามา ความรับผิดชอบ ต้องมีร่วมกันระหว่างคนคัดกรอง กับตัวผู้สมัครเอง ถ้านายคนนั้นแย่อย่างที่ จขกท.เล่ามา คนที่สัมภาษณ์ คัดกรอง นั่นแหละสุดชุ่ย ช่วบไปบอกคนสัมภาษณ์ให้พิจารณาตัวเองด้วยอย่ามัวแต่โทษคนอื่น จริงอยู่การคัดกรองอาจจะพลาดได้คนที่ทำงานไม่ดีอย่างที่คาดหวัง แต่สิ่งที่ จขกท.เล่า มันทั้งไม่รับผิดชอบ ทำงานไม่ได้ ถ้าถึงขนาดนี้ คนสัมภาษณ์คนคัดกรองต่างหาก ที่ชุ่ย จากคุณ : พี (peh_chai) เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 55 22:44:35

ความคิดเห็นที่ 4 การให้ออกแบบนี้ คือการให้ออกโดยไม่บอกกล่าว ซึ่งเขาต้องได้รับเงินเดือน และเงินชดเชยในส่วนนี้ด้วย และการไม่จ่ายค่าจ้าง เป็นการกระทำที่ผิดกฏหมาย นายจ้างอาจโชคร้ายซ้ำสอง การพิจารณาเลือกคนเข้าทำงาน คนที่กำลังถูกเลือกก็ต้องปั้นตัวเองจนนายจ้างเชื่อว่าสามารถทำได้  แต่เมื่อเขาทำไม่ได้ ก็ไม่ผ่านประเมินและให้ออกไปตามกระบวนการจึงจะถูกต้อง บริษัทกำหนดเวลาทำงาน 9.00-18.00 น.  เขาปฏิบัติตรงตามที่บริษัทกำหนดแล้วครับ บริษัทไม่มีสิทธิ์ว่ากล่าวเขาในเรื่องนี้ ถ้าจะให้เขาทำงานเกินเวลาต้องจ่ายค่าทำงานล่วงเวลา   แต่ในเวลาทำงาน เขาไม่ตั้งใจปฏิบัติงานจนเกิดความเสียหายต่อกิจการของบริษัท บริษัทต้องมีการว่ากล่าวตักเตือนตามระเบียบครับ  ถ้าไม่เคยมี เวลาสู้กันในคดีแรงงาน นายจ้างจึงมักแพ้และต้องจ่าย ถ้าเขาร้องไปที่แรงงานบริษัทจะเสียหายมากกว่านี้ครับ จากคุณ : Uncle_Pong เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 55 22:50:24

ความคิดเห็นที่ 5 เขาถึงว่า "เหรียญมีสองด้าน" กระทู้โน้นอ่านแล้วแปลก ๆ เลยไม่ได้เมนท์ ส่วนกระทู้นี้ก็ไม่ได้คิดอะไรอีก (อ่ะ ยังไง?) เพียงแต่ชอบ อย่างน้อยก็ไม่ได้ฟังเรื่องจากฝ่ายเดียว ยังได้อ่านเรื่องจากอีกมุมหนึ่งบ้าง แต่ข้อเท็จจริงเป็นยังไงก็ต้องคนอยู่ในเหตุการณ์หรือคนที่เคยร่วมทำงานกันน่ะแหละถึงจะรู้ ...นึกถึงหนังเรื่องอุโมงค์ผาเมืองขึ้นมาเลยทีเดียว... จากคุณ : นู๋ชม เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 55 22:53:48

ความคิดเห็นที่ 6 พ้นโปรฯ หรือยัง ครับ  ? จากคุณ : otto เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 55 22:57:53

ความคิดเห็นที่ 7 ลองใช้สติครับ ถ้าคุณให้งานเขาแล้ว เขาทำไม่ได้ ไม่รับผิดชอบ คุณก็ต้องทำตามขั้นตอน เตือน ส่งจดหมาย ให้แก้ตัว ทำไม่ได้อีก ก็คงต้องเลิกจ้างเดือนนั้น แต่ทุกขั้นตอน ถ้าเค้าทำงานให้คุณ คุณต้องให้เงินเดือน แม้จะทำห่วยแตก จนเลิกจ้าง ยกเว้นแต่ว่าคุณจะใส่ในสัญญาจ้าง ถ้าทำความเดือดร้อนงานบริษัท ต้องโดนหักเงินค่าจ้างคิดยังไงๆ แต่สัญญาแบบนี้ก็คงหาคนสมัครไม่ได้นะ มันขึ้นกับคนให้งานครับ จัดงานให้ลูกจ้างดีไหม เคยรับรู้ความไม่พอใจลูกจ้างไหม น้ำพึ่งเรือ เสือพึ่งป่าครับ อย่ามองแต่ว่าให้เงินไปแล้วต้องทำที่สั่งให้ได้อย่างเดียว จากคุณ : พนักงาน (Aria_zone) เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 55 23:04:14

ความคิดเห็นที่ 8 คิดเหมือนคุณ หนูชม จากคุณ : เหมาะสมที่สุดแล้ว เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 55 23:07:40

ความคิดเห็นที่ 9 ว่าแล้ว...ว่าต้องคุยกับสักคนใครแถวๆ นี้ สมัยนี้จะอ่านอะไร เชื่อใครต้องเพิ่มวิจารณญาณมากๆ นะครับ เรื่องราวมันมักจะหักมุมตอนจบอยู่เรื่อยเลย จากคุณ : 27augustar เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 55 23:08:10

ความคิดเห็นที่ 10 ขอบคุณ ทุกคอมเม้นท์ เลยนะค่ะ จริงๆ ในมุมของเพื่อน ก็ถูกค่ะ ในฐานะพนักงาน ที่ควรเรียกร้องสิทธิ์ เราจ้างเขามาทำงาน เขาก็ควรได้เงินเดือน แต่ถ้าคุณรู้ว่า เขามีพฤติกรรมอย่างไรบ้าง ในที่ทำงาน จน เพื่อนร่วมงานต้องมาโพสกระทู้ โต้แย้ง เนี้ย ก็แค่อยากให้ มองกันสองมุม ถูกค่ะ เขาทำงาน เป็นพนักงานเงินเดือน เข้า 9 เลิก 6 แต่ ณ เวลาที่งานเร่ง ที่เราต้องพึ่งพนักงาน แล้วพนักงานไม่ช่วยเหลือ เหตุผลเพราะ ทำงานแลกเงิน ทำงานก็ยังไม่พ้นโปร ประสบการณ์ การทำงาน ก็มี และ ที่สำคัญ หัวหน้าบอกอะไรไม่ฟัง กล่าว ว่า ในเรื่องที่ผิดมากๆ ก็ขึ้นเสียง เหตุเพราะ คนที่ว่า เป็นผู้หญิง (ฐานะหัวหน้า) เพราะในสายตาเขา มองว่า ผู้หญิง ไม่มีทางเก่ง ดูถูกกัน ตั้งแต่ไม่ได้ ลงมือทำงานด้วยกัน ก็ให้วัด กันแล้ว ไงว่า ถ้าคิดว่า เก่งมากก็มาทำงาน งานชิ้นเดียวกัน จะได้รู้ว่า เป็นไง ก็อย่างที่บอกว่า ..... พูดอ้าง สรรพคุณ จนเกินไป ดูถูกคนจนเกิน แล้ว พอโดนไล่ ออกก็มา พูดว่า คนอื่น ไม่ได้อยากมาโต้แย้ง แต่เห็น คอมเม้นท์ เพื่อนแล้ว ทนเห็น คำว่า หลองลวง เมื่อให้ได้ความเห็นใจ แล้ว สมเพจ อ่ะ จากคุณ : น้ำค้างกระจ่างดาว เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 55 23:12:20

ความคิดเห็นที่ 11 ที่เคยเป็นกระทู้แนะนำรึป่าวคะ? จากคุณ : Via HTC (tippalm) เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 55 23:14:11

ความคิดเห็นที่ 12 ถามว่า จริงๆ กระทู้ที่ตั้ง ขึ้น ไม่ได้หวังอะไร มาก แค่อยากให้มุมมอง เพื่อน เท่านั้น นะค่ะ ในมุมพนักงาน เราเข้าใจว่า ต้องได้เงินเดือน เพราะ ถูกจ้างมาให้ทำงาน ในมุมของผู้บริหาร มันเหมือนโดน หยาบหน้า ทำร้ายร่างกาย และมีเจตนาจะทำร้าย ทรัพย์ สินบริษัท พูดจาก้าวร้าว (ก็คงโมโห มาก จน ไล่ออก) แต่ในมุม ของเรา ไม่ได้มองว่า บริษัท ถูก แล้ว เขาโดนรังแก เรื่องเงินเดือน แต่เรามองว่า เขาไม่พูดความจริงทั้งหมด  ใน มุมของตัวเอง ถ้าอ่านแล้ว พูดความจริงแบบไม่เรียกร้องความสนใจ แบบนี้ เรายัง มองว่า น่าเห็น ใจ มากกว่า คำว่า สมเพจ จากคุณ : น้ำค้างกระจ่างดาว เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 55 23:18:15

ความคิดเห็นที่ 13 ตอนแรกอ่านช่วงต้น ไม่ได้คิดว่าเป็นเรื่องเดียวกับกระทู้นั้น และก็คิดว่า ถ้าพนักงานคนนี้เรื่องเยอะ แล้วจะออกไป ก็จ่ายเงินเดือนให้มันจบๆ ให้เขาออกไป แล้วหาคนใหม่ที่เหมาะสมดีกว่า พออ่านไล่ๆ ลงมาถึงเห็นว่าเนื้อเรื่องมันพ้องกัน ต่างฝ่ายต่างก็มองในแง่ตัวเอง  เจ้านายมองว่าเป็นแบบนี้ๆ ลูกน้องก็มองในมุมของตัวเอง เราคิดว่า ถ้าต่างฝ่าย ต่างไม่พอใจ  ไปตกลงกันที่แรงงานดีกว่า เราไม่ได้เข้าข้างจขกท.โน้นนะคะ   แต่เราเห็นด้วยกับ คุณ Uncle_Pong และเงินเดือนต้องจ่ายค่ะ ส่วนเจ้านาย ก็อาจจะแจ้งความเรื่องทำร้ายร่างกายก็น่าจะได้ จากคุณ : โดดเดี่ยวผู้น่ารัก เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 55 23:45:40

ความคิดเห็นที่ 14 สุดท้ายเรื่องจบ ที่ไหนจามาบอกหนะ ว่าเรื่องจบที่ไหน .... เพราะเรื่องนี้ มีให้ เม้าท์ อีกยาวไกล และเราก็ไม่ใช่ ผู้บริหารคนนั้น ที่โดนทำร้ายด้วย เราเป็นแค่พนักงาน ที่อยู่ในเหตุการณ์ เท่านั้นเอง .... จากคุณ : น้ำค้างกระจ่างดาว เขียนเมื่อ : 15 ก.ย. 55 00:01:08

ความคิดเห็นที่ 15 ...ไม่เชื่อทั้งหมด ไม่เชื่อทั้งคู่นั่นล่ะ แยกเป็นประเด็น -ทำร้ายร่างกาย ก็ไปแจ้งความ -จ่ายเงินเดือน ตามกฎหมายแรงงาน อย่ามาอ้างว่ารอให้มาขอโทษ บ.อ้างอะไรก็ได้ครับ พนักงานก็เยอะกว่า จะรวมพวกมาพูดยังไงก็ได้ จะเอาสัก 10กระทู้ยังได้ครับ แน่จริงก็ฟ้องไปเลยครับ ถ้าคิดว่ามีหลักฐาน100% ไม่ต้องมาตั้งกระทู้หรอก เอาจริงไปเลย ไม่เอาแค่ไกล่เกลี่ยด้วย จากคุณ : เขียนบน iPhone (Pakinai) เขียนเมื่อ : 15 ก.ย. 55 00:33:56

ความคิดเห็นที่ 16 ผม เจ้าของกระทู้นั้น มาชี้แจง เชิญอ่าน ยาวๆ บัตรผ่านเก่า ของเพื่อนผมน้ะ บัตรผ่านนี้ผมเลย เอา อีเมล ผมสมัครเอง อมยิ้ม ไม่เคยสมัคร เลย ไม่มี ผมบอกก่อน น้ะ ผมไม่เคยบอกว่า ผมดี และ ทำถูก กระทู้นั้น ไม่เคยบอกเลยว่า ทำแบบนั้นดี และ ถูกต้อง เรื่องเงินเดือน กระทู้นั้น ผม ยอมรับว่า ลดจำนวนเงิน เพื่อไม่ให้บริษัทรู้ กับชื่อ บริษัทโดยตรง ไม่เอ่ยชื่อเลยด้วยซ้ำไป (เพราะรู้ไงว่า มันอ่านอยู่) และก็ ไอ้เจ้าของบริษัท มัน ชี้หน้า ไล่ผมออกก่อน น้ะหมดความเป็น นายจ้าง ตั้วแต่ ชี้หน้าไล่ออกแล้ว การทำลายข้าวของ กระดาษแผ่นเดียว แล้ว บัตรเข้าออก 1 ใบ แต่พูดซ้ะอย่างกับ เผา บริษัท ซึ่งผมอยากทำแบบนั้นมากๆ (อันที่จริง ผมจะทุบ notebook ด้วย หรือ จะนำ notebook กล้บบ้าน มาเป็นค่าไถ่ เพื่อให้จ่ายเงินค่าจ้างก่อน ก็จะนำมาคืน แต่ทว่า ต่อมความดีทำงาน คือ คนมันไม่ดี ไม่อยากลงกับ notebook และ อาจกลายเป็น ลักทรัพย์ เลยไม่ได้นำ notebook กลับมา) ดังนั้นที่เสียหาย ก็หักจากเงินเดือน ได้ อย่ามาพล่ามมาก มันสิ้นสุด ความเป็น พนักงานแล้ว เงินเดือน ก็ไม่ยอมจ่าย แน่จริง ก็ จ่ายเงินเดือน แล้ว ก็ไปแจ้งความ ก็ทำไปซิ่ ไม่โทรไปขอโทษ ไอ้ เจ้าของบริษัทเลวนั้น ขึ้น มรึง กรู กับผม ตังแต่คำพูดแรกเลย นี้เหรอ คนที่จะให้ขอโทษ (จะโดนเตะปากซ้ำ อีกไม่ว่า) กระทู้นั้น พยายาม ไม่โยงกับชื่อ บริษัทตรงๆ เปลี่ยน ตัวเลข เงินเดือนก็แล้ว ไม่เอ่ยชื่อก็แล้ว รายละเอียดไม่ครบ ก็เพราะ อธิบาย ในระยะสั้นๆ ก็ต้องตัด ส่วนที่ไม่จำเป็น ออก แต่ ก็ยังคง ความรู้สึก ที่ผมมีต่อ บริษัท เลวๆ แห่งนั้น ซึ่งมีครบเหมือนเดิม ทุกวันนี้ ก็เหอะ ผมพูดคำไหนคำนั้น หากเจอ ผมก็จะถีบแน่ๆ ยืนยันคำเดิม (อย่าให้เจอก็แล้วกันโดนแน่ๆ หลบให้ดีๆ) และ ก็ยอมรับว่า ทำ SEO โจมตี บริษัท และ กำลัง จะเลิกทำ เพราะมันไร้สาระ และ ไม่มีเวลาว่าง ที่ทำไปเพราะ โมโห ตอน โดนชี้หน้าไล่ออก เลยทำไปวันนั้น ไปดูวันที่ publish ได้ และ mass mail มันเป็น bot ที่ตั้งเวลาเอาไว้ใจเครื่องที่เป็น zombie ที่กระจายตามเครือข่าย หมดเวลา มันจะหยุด ส่งเอง ที่ผ่านมา ยังไม่มีเวลา เอาลง ทั้งหมด แค้นถึงขนาดติดต่อ BSA ไว้แล้ว ก็อุตส่าห์ ไม่ ไป นำจับ ได้เงินรางวัลด้วย ด้วยนิสัย เลวๆ แบบนั้น คงไหวตัวทัน ตามเคย เลย ไม่อยากเสียเวลา คงหิ้ว notebook หนีเหลือแต่เครื่องเก่าๆ ตามสันดาน อยากพล่าม อะไร ก็เชิญ แต่ ขอ บอก ยืน ยัน เลย ว่า ไม่มีใครทำงานด้วย กับคนจำพวก แบบนี้ได้ สมัครคนเข้าไปทำงานอีกกี่คน ก็ทำงานด้วยไม่ได้ คราวหน้า อาจโดนต่อย ปาก หรือ โดนแทงตาย ก็ได้ ไปชี้หน้า ไล่ใครเค้าออกมั่วตัว เชื่อเหอะ ต้องเจออีก แน่นอน พฤติกรรม กวนตรีนขนาดนั้น และ ผมอยากบอกว่า ผม ผ่านการทำงานมาแล้ว 4 บริษัท ทุกบริษัทที่ออกดีหมด ไม่เคยด่าใครก่อน และ ไม่เคยทำร้าย ใคร เลย ตั้งแต่เรียน มาจนทำงาน และ ตั้งแต่บริษัทแรก ที่แรงๆ ไม่มีเลย สำหรับ ผม ยอมรับเสมอว่า เลว นิสัย ไม่ดี ไม่ได้เก่ง ผมยอมรับความจริงเสมอ และ พยายามแก้ไขตัวเอง ตลอด อดกลั้นตลอด และ รู้ตัวเสมอ ว่าจุดไหนผมไม่ดี ว่า อันไหนทำแล้วผิด แต่อย่างว่า คนเรา มันไม่ perfect ในเมื่อไม่ perfect ผมก็ยอมรับความจริง จุดนี้ แต่ คนในบริษัทนี้ หัด ยอมรับความจริงมั่ง เลิกโทษ คนอื่น หัดมองตัวเอง อย่า เข้าข้างตัวเอง และ หลอกตัวเอง แบบที่ชอบทำ ไม่ใช่ว่า พนักงาน เลว พนักงาน นิสัยไม่ดี ไม่ทำงาน พูดหยาบ แล้วไง ต้องเลวกว่าเหรอ ไม่มีความใจกว้างเลย หัดไปดู บริษัท อื่นๆ ว่า เจ้าของ หรือ ผู้บริหาร เค้าใจกว้างเค้าทำแบบไหน ไม่ใช่ ชี้หน้าไล่ออก แม่มเลย ทำงานไม่ถูกใจ เมิงเคยหาเหตุผลบ้างไหม ว่า ทำไม เค้าต้องเป็นแบบนั้น ทำแบบนั้น อารมณ์แบบนั้น อย่ามาอ้างความชอบธรรม ด้วยคำพูด พยายาม จับผิด กับกระทู้เก่า เลย ทุกเรศว้ะ ก็เห็นกันหรือยัง เพราะ นิสัยแบบนี้แหละ เลยโดนถีบ ไง เห็นมั้ย อย่างไงก็ยืนยัน ว่า เจอก็จะถีบ จนครบ 18000 บาทเลย ขึ้นราคาให้แล้ว วันนั้น อุตสาห์ลดเหลือ 15000 อยากโดนเยอะ ก็เอา ผมพูดแล้วทำให้ได้เสมอ จากคุณ : คนก่อเรื่อง เขียนเมื่อ : 15 ก.ย. 55 00:51:05 A:173.254.216.69 X: TicketID:303828

ความคิดเห็นที่ 17 นำ้เดือด วิ่งไปเอามาม่ามาก่อนน๊า จากคุณ : Super_vip (Super_VIP) เขียนเมื่อ : 15 ก.ย. 55 01:04:30

ความคิดเห็นที่ 19 งง ใครมีลิ้ง ส่งหลังไมค์มาให้ผมด้วยนะ จากคุณ : เสือย้อมแมว เขียนเมื่อ : 15 ก.ย. 55 02:19:06

ความคิดเห็นที่ 20 #19 หากระทู้แนะนำเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว ที่โดดถีบเจ้านายอะค่ะ มารอฟังข้อเท็จจริงต่อไป!! จากคุณ : Via HTC (tippalm) เขียนเมื่อ : 15 ก.ย. 55 05:52:44

ความคิดเห็นที่ 21 รู้สึกเห็นใจนายจ้างอยู่นะ แต่นายจ้างไม่ว่าจะเจอลูกจ้างทำงานโหลยโท่ยแค่ไหนก็ยังต้องจ่ายค่าจ้าง ถ้าจะให้ออกบอกกล่าวเหตุผลให้ชัดเจน เขียนหนังสือกำกับความผิดไว้ และถ้าให้ออกทันที ต้องจ่ายล่วงหน้า 1 เดือน กรณีไม่พ้นโปร ส่วนคุณลูกจ้าง ถ้าคุณไม่ปรับปรุงนิสัยการทำงาน คุณก็คงไม่มีความก้าวหน้าในชีวิตหรอก ต่อให้ออกมาเปิดกิจการของตัวเอง ถ้าไม่พร้อมจะทำงาน ก็อย่าเพิ่งทำ ไปบวชศึกษาพระธรรมก่อนก็ได้ ทำงานแบบเห็นแก่ตัว ทำเพื่อนร่วมงานเดือดร้อน ทำบริษัทเสียหาย บาปกรรมนะครับ จากคุณ : KONICHIWA เขียนเมื่อ : 15 ก.ย. 55 06:24:00

ความคิดเห็นที่ 22 อยากให้เพื่อน ลองดู เรื่องนี้ แล้วเผื่อว่า จะเห็นว่า ผู้บริหารทุกคน ไม่ได้มีความคิด ที่จะ ดุด่า ลูกน้อง หากน้องๆ ตั้งใจทำงาน และทำงานออกมาดี http://www.madoolakorn.com/%E0%B9%80%E0%B8%8B%E0%B8%99%E0%B8%AA%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%AA%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%8D%E0%B8%8D%E0%B8%B2%E0%B8%9311%E0%B8%9E%E0%B8%A4%E0%B8%A9%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%84%E0%B8%A12555%E0%B8%9C%E0%B8%B5%E0%B9%80%E0%B8%88%E0%B8%B2%E0%B8%B0%E0%B8%9B%E0%B8%B2%E0%B8%81-4458.html <iframe width="420" height="315" src="http://www.youtube.com/embed/X0mn8eza5i0" frameborder="0" allowfullscreen></iframe> คำว่า มืออาชีพ ที่หลุดมาจากปากคุณ คืออะไร รู้ความหมายไหม คำว่ามืออาชีพ ของคุณ คือ การทำงาน ให้ครบ แปดชั่วโมง โดยไม่สนใจงานว่า จะเสร็จไหม หรือ หมายถึง การทำงานให้เสร็จแล้วบ่งบอกว่า คุณเป็นคนรับผิดชอบต่องาน เพื่อให้งานออกมาดี  ..... แก้ไขเมื่อ 15 ก.ย. 55 06:51:50 จากคุณ : คนกลาง (น้ำค้างกระจ่างดาว) เขียนเมื่อ : 15 ก.ย. 55 06:49:52

ความคิดเห็นที่ 25 อ่านเรื่องทั้ง2ฝ่ายแล้ว สรุปว่า คนด้อยคุณภาพมาทำงานด้วยกัน ต่างก็คาดหวังความมีคุณภาพของอีกฝ่าย ซึ่งไม่มีอยู่แล้ว ผลจึงออกมาเป็นเช่นนี้ สำหรับ คห.16 คุณทำงานมา 4 บริษัทแล้ว ยังได้แค่นี้ จะใช้คำพูดว่า พยายามปรับปรุงอีกหรือ คุณต้องแก้ไขตัวเอง ต่อไปคุณต้องเป็นผู้นำครอบครัวนะ คุณต้องมีลูก คุณต้องมีภาระมากมาย หากคุณไม่ปรับปรุงชีวิตคุณจะลำบากเมื่ออายุมากขึ้น เจ้าของบริษัท ที่ทำอย่างนั้น ผมยอมรับว่า ไม่สมควรที่จะเป็นเจ้าของกิจการได้ เขาทำไม่ถูกต้อง แต่ ถึงอย่างไร ถ้ามองในสถานะแล้ว เขาสามารถขึ้นมาเป็นเจ้าของกิจการได้ มีลูกน้องได้ แม้จะเป็นไปอย่างแย่ๆก็ตาม ถือว่า เขามีสถานะที่จะรับผิดชอบครอบครัว ลูกเขาได้แล้ว เพราะฉะนั้น เมื่อเทียบคุณสมบัติความเป็นลูกผู้ชาย 2 คน ที่ผู้หญิงควรมองให้เป็นผู้นำครอบครัวได้ จขกท. คงเข้าใจได้ว่า คุณตกเกณฑ์มาตราฐานที่ใครจะฝากชีวิตตั้งแต่ต้นแล้ว สรุปคือ คุณขาดคุณสมบัติตั้งแต่การสร้างตัว อันเป็นคุณสมบัติเบื้องต้นแล้ว จึงทำให้ไม่มีคุณสมบัติที่จะดูแลใครได้ ส่วนนายจ้างของคุณ เขามีคุณสมบัติการสร้างตัวได้มากแล้ว และผ่านคุณสมบัติที่จะดูแลครอบครัวได้ เขายังขาดคุณสมบัติในการเป็นเจ้าของกิจการเท่านั้น เห็นใหมว่า ลูกผู้ชาย 2 คนนี้แม้จะดูเป็นคนไร้คุณภาพ แต่เป็นการไร้คุณภาพที่ต่างชั้นกันมาก ยังมีเวลาปรับปรุงตัวนะครับ ไม่ใช่เพื่อใคร เพื่อตัวคุณเอง จากคุณ : พี (peh_chai) เขียนเมื่อ : 15 ก.ย. 55 07:43:31

ความคิดเห็นที่ 26 #25 ถูกใจค่ะ ยกนิ้วให้เลยย จากคุณ : น้ำค้างกระจ่างดาว เขียนเมื่อ : 15 ก.ย. 55 07:49:38

ความคิดเห็นที่ 27 ถ้าเป็นบริษัทผมนะ ผมทำคนเดียวดีกว่า ปล่อยให้คนไม่ดีเข้ามาร่วมงานในบริษัท บริษัทดีๆ ไม่จำเป็นต้องเป็นบริษัทใหญ่ จากคุณ : ซื่อสัตย์ มั่นคง เขียนเมื่อ : 15 ก.ย. 55 08:27:33

ความคิดเห็นที่ 28 ผมอ่าน คห.๑๖ แล้ว กลัวอย่างหนึ่งคือ ข้อหา ดูหมิ่น/หมิ่นประมาทโดยการโฆษณา ฝากให้ระวังด้วยนะครับ จากคุณ : phongmms เขียนเมื่อ : 15 ก.ย. 55 08:27:48

ความคิดเห็นที่ 29 เรื่อง นี้ น้ะ อันที่จริง มันจบ ได้ตั้งแต่ ผมทะเลาะ กับ เจ้าของบริษัท รุนแรงด่ากัน ในขณะประชุม ตอนประชุมมี 3 คน 1. ผมคนก่อเรื่อง 2. พี่โปรแกรมเมอร์ 3. เจ้าของบริษัท คนอื่นๆ ได้ยินแค่เสียงเท่านั้น ไม่ได้อยู่ในที่ประชุม และ เห็นภาพ ประกอบด้วย 1. แฟนเจ้าของบริษัท(จขกท นั้นเอง พวกเดียวกับเจ้าของบริษัท) 2. โปรแกมเมอร์ 3. เด็กฝึกงาน คนที่รุ้ดีสุดคือ ผม เพราะ ก่อเรื่องเอาไว้ ไม่มีใคร รู้ดีกว่า คนทำหรอก พอ ด่ากันรุนแรง จน เจ้าของบริษัท โมโห เพราะว่า ผมใช้คำหยาบด่า ไป เจ้าของบริษัท เลย ใช้คำหยาบด่ากลับ พร้อม เอ่ยว่า "กรูไล่เมิงออก" ผมเลย โดดทีบ ไป 1-2 ที(เร็วจนจำไม่ได้ว่า กี่ครั้ง) พร้อมกับ หง้าง หมัด เตรียมต่อย แต่บังเอิญ ผมได้ยิน เสียง เจ้าของ บริษัท ร้องเสียง หลง พร้อมทำท่าทาง เหมือน ตุ๊ด มากๆ จนผมต่อยไม่ลง เพราะ ไม่เคยต่อยตุ๊ด หรือ ผู้หญิงมาก่อน (ตอนนั้นคิดแบบนั้นจริงๆ) หลังจาก เหตุการณ์ การก่อเรื่อง ของผมจบ ผมฉีกใบลงชื่อ 1 ใบ พร้อม บัตรเข้าออก 1 ใบ ก็กลับบ้าน โดยไม่มีใครคิดมาห้ามอะไรเลย จิตดีจริงๆ บริษัทนี้ เจ้าของบริษัทสั่งให้ โปรแกรมเมอร์โทรหาผมบอก ให้ผมหาเวลาเขาไป ขอขมา แล้วจะจ่ายเงินเดือนให้ วันรุ่งขึ้น ผม โทรศัพท์ไป เจ้าของบริษัท (เหมือนน่าจะกดบันทึกสนทนาด้วยเพราะเงียบไปแว๊บนึง) ผมพูดดี และ เริ่มพูด ขอโทษก่อน เจ้าของบริษัท ก็ กรู เมิง ใส่ผม ผมก็ยอมฟัง จนจบ เพราะ ผมผิดที่ไปถีบ ผมฟังจน เจ้าของบริษัทด่าเสร็จ ผมก็เอยปาก "ขอโทษไป" ผ่านทางโทรศัพท์แล้ว ด้วยน้ำเสียงผิดจริงๆ แต่เจ้าของบริษัท ไม่ยอม ยังไงก็ต้องให้ผมไป ยกมือไหว้ ของโทษ ต่อหน้า ถึงจะยอม เรื่องเงินเดือน(ผมไม่ยอมไป เพราะยังโมโหอยู่ กลัว ทำร้ายแรงกว่าถีบจะหนักกว่าเดิม) ก็เลยเป็นที่มาที่ไป ในการตั้งกระทู้ดังกล่าว แค่ต้องการถามว่า หากผม ไปถีบ เจ้าของบริษัท แต่ทำงานมาแล้ว ตั้ง 29 วัน ควรได้เงินเดือนหรือไม่ และ คำตอบ ส่วนใหญ่ ก็เห็นตรงกัน ว่า ไม่ว่าจะผิด จะเลวจะ ชั่วร้าย จะทำงานห่วย อย่าง ไง ก็ต้องได้เงินเดือน เพราะทำงานไปแล้ว เรื่องที่เหลือ มัน จบ ลง ได้ง่ายๆ ตรงที่ได้เงินเดือน พอผมได้เงินเดือน มันจะเข้าสุ่กระบวนการ เจ้าของบริษัทก็แจ้งความไป ข้อหาทำร้ายร่างกาย (หรือ ให้ผมไปขอโทษก็ได้ ก็ทำไมไม่ขู่ผมตอนนี้ว่า หากผมไม่ขอโทษ จะแจ้งความจับ) แล้วหักเงิน ทำความเสียหาย ข้าวของ ที่ประกอบไปด้วย กระดาษ เซ็นชื่อ 1 ใบ มีอยู่ 2 วัน วันละ 600 บาท 2 วัน ก็ 1200 บาท ก็หักไป ค่า บัตรเท่าไหร่ 500 บาท ก็หักไป รวม ที่หักรวม 1700 บาท ทำงานจนถึงวันที่ 29 ก็อยากหักอะไรก็หักไป แล้วอย่าลืมจ่ายเงิน ที่สัญญาไว้ว่า จะให้ ค่าเดินทางไปทำงาน site งาน เดือนละ 2000 บาท ด้วยหล่ะ เห็นหรือยังว่า เรื่องมันจบได้ ง่ายๆ ด้วยอะไร การที่บริษัท มีเจ้าของบริษัทที่ดี ใจกว้าง มีแฟนที่ดี ใจกว้าง สัญญาอะไรไว้ก็ต้องทำ เรื่อง มัน จะ เจรจากันได้ . พูดคุยกันได้ ตั้งแต่ตอนนั้ ผมรับเงินเดือน ครึ่งเดียวยังได้เลย ไม่มีเงินเดือนจ่าย ส่งงานไม่ได้ ก็บอกันดีๆ เพราะ ผมผิด จริง ก็ยอมรับผิดตลอด ไม่เคยปฎิเสธความผิดตัวเองเลย แต่นี้ ไม่ยอม คิดอย่างเดียว ไม่จ่ายเงินเดือน มันทุเรศ หรือ ไม่ ไม่ทำตัว ให้เป็นคนดีให้คนเกรงเอง แท้ๆ ผมตั้งกระทู้แบบนั้นไป เพราะ ผม ไม่ได้เงิน เดือน ผมถือว่า ผมไม่มีอะไรจะเสีย ดังนั้น บริษัทผิดกับผมก่อนเรื่องเงินเดือน เรื่องเลย บานปลายมาจนถึงทุกวันนี้ ตราบใดที่ผมยังไม่ได้เงินเดือน ก็ไม่จบ อย่าเพิ่งอ้างเรื่อง อื่นๆ เอาแค่ที่บริษัทผิดที่ไม่จ่ายเงิน ก่อน เลย จากคุณ : คนก่อเรื่อง เขียนเมื่อ : 15 ก.ย. 55 09:36:25 A:81.170.186.175 X: TicketID:303828

ความคิดเห็นที่ 30 สุดท้ายก็เรื่อง เงินสินะ จากคุณ : goho เขียนเมื่อ : 15 ก.ย. 55 09:57:40

ความคิดเห็นที่ 31 พนักงานมาทำงานกี่วัน ก็ต้องจ่ายเงินไม่ใช่เหรอ ตามกฏหมายนะ ผมเข้าใจว่าอย่างนั้น ส่วนการเลือกคนเข้าทำงาน ต้องผ่านกระบวนการสัมภาษณ์ คัดกรองคน อึม จากคุณ : ต้นอ้อที่ไหวลม (ต้นอ้อที่ไหวลม) เขียนเมื่อ : 15 ก.ย. 55 10:03:55

ความคิดเห็นที่ 32 คห 30 ใช่ครับ ที่ผมตั้งกระทู้ถาม ตั้งแต่ กระทู้โดดถีบ เพราะ ผมอยากได้เงิน ไม่มีเงิน กินข้าว ไม่มีเงิน ไปสมัครงานใหม่ จะบอกว่า ทำเพื่อเงินก็ได้ครับ ยอมรับครับ ทั้งหมดทั้งมวล ก็เพื่อ เงินเดือน หากผมได้เงินเดือน เรื่องต่างๆ ที่เกิดจากผม ผมก็หยุด แต่นี้ผมไม่ได้เงินเดือน ไม่มีเงิน ก็ไม่มีอะไรจะเสีย ไง เลย เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้น ผมคงไม่ตั้งกระทู้เพื่อความสนุกหรอก ทำงานแล้วไม่ได้เงิน ผมไม่บันเทิงด้วยหรอก ไม่มีเงินกินข้าว ไม่สนุกสำหรับผม จากคุณ : คนก่อเรื่อง เขียนเมื่อ : 15 ก.ย. 55 10:14:21 A:96.47.226.21 X: TicketID:303828

ความคิดเห็นที่ 33 สมัครงานที่ใหม่ HR ถามว่าทำไมออกจากที่เดิม ตอบได้เลยว่า กระโดดถีบเจ้าของบริษัท หากคุณโดนตั้งข้อหาแล้ว ประวัติจะติดตัวคุณไปตลอดนะครับ ผมว่าขอโทษก่อนแล้วกันนะ เพื่องานใหม่ของคุณเอง จากคุณ : คุณชายนำนำ เขียนเมื่อ : 15 ก.ย. 55 10:49:55

ความคิดเห็นที่ 34 โปรแกรมเมอร์ประสบการณ์ 4 ปีเงินเดือนแค่ 18,000.- เองเหรอ    = =; จากคุณ : demon_secret (demon_secret) เขียนเมื่อ : 15 ก.ย. 55 10:55:36

ความคิดเห็นที่ 35 คนก่อเรื่อง ควรพิจรณาตนเอง โดยเฉพาะการใช้กำลัง เพื่อจบเรื่อง เจ้าของ และหัวหน้า ที่หยาบคายแต่ถ้ายังอยู่ในเนื้องาน ก็มีถมไป ไม่ชอบก็ลาออกไปหา นายใหม่ครับ ถ้าเป็นผม ไม่เอาเงินแล้วครับ ยอมอดตาย จากคุณ : SCREEN เขียนเมื่อ : 15 ก.ย. 55 11:09:39

ความคิดเห็นที่ 36 คห 33 ผมได้ขอโทษ ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ผมว่าเค้าน่าจะบันทึกเสียงการสนทนาวันนั้นด้วยหากผมเดาไม่ผิด แต่ว่า ทางเจ้าของบริษัท สร้างเงื่อนไข เพิ่ม โดยที่ผมต้องเข้าไป ขอ ขมา ที่ผมไม่ยอมไปเพราะ กลัวโดนเค้ายั่วยุ อีก เพราะ ไม่ชอบหน้ากันแล้วมองหน้ากันไม่ติดแล้ว จะเป็นเรื่อง หนักกว่าเดิมอีกหากผม นัดวันเข้าไปพบ ผมถือว่า ผม ทำการขอโทษไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แล้วก็ไม่คิดจะนำบริษัทนี้ กรอกลงประวัติ ไปด้วย อยู่แล้วหล่ะครับ คห 34 ก่อนมาทำงานที่นี้ เงินเดือนท้ายสุดผม 25000 บาทครับ ทำงานได้ 1 ปี แต่บริษัท โดนน้ำท่วม 54 เลยปิดกิจการ อันทีจริงผมเรียกเงินเดือนเท่าเดิม แต่โดนต่อ ผมลดเหลือ 20000 บาท แต่ว่า เค้าก็โทรมา ต่ออีกเหลือ 18000 บาท ตอนแรกผมจะไม่รับ เพราะ ผมได้อีกบริษัทนึง ให้เงินเดือน เท่าเดิมด้วย แต่ว่าทำงานไกลกว่าที่นี้มากๆ เลยปฎิเสธ อีกบริษัทไป ซวยมาทำที่นี่แทน แล้วตั้งแต่วันแรก ผม ก็คิดไว้แล้วว่า คงทำงานที่นี้ได้ไม่นาน กะแค่เก็บเงิน หาประสบการณ์ สักระยะแค่นั้นเอง ไม่ได้กะปักหลัก ก็เห็นๆ ยอมลดเงินเดือนมา ตั้งเท่าไหร่ มีใครยอมมั่งหล่ะ ผมผิดเหรอ ยอมลดเงินเดือน เพื่อมาทำงานให้ ผมเลยยืนยันว่า บริษัท นี้ โกงไง แค่เงินเดือนพนักงานยังไม่ยอมจ่าย ประสาอะไรกับไป ทำงานให้ลูกค้า ตราบใดที่ไม่ยอมจ่ายเงินเดือน ก็อย่ามาหาความชอบธรรมเลย รับสมัครงาน ไปอีกกี่คน ก็เหมือนเดิมแหละ ผมว่าผมทนสุดแล้วน้ะ แล้ว (จขกท เป็นแฟน เจ้าของบริษัท ก็บอกไป ทำมาเนียนเป็นพนักงาน ) จากคุณ : คนก่อเรื่อง เขียนเมื่อ : 15 ก.ย. 55 11:15:41 A:87.236.194.158 X: TicketID:303828

ความคิดเห็นที่ 37 เออ คุณกระโดดถีบครับ(เรียกแบบนี้นะครับ) ถามสักคำครับ เค้าจะไม่จ่ายเงินเดือนคุณถ้าคุณไม่พอใจก็ไปฟ้องแรงงานเขตสิครับ มาทำแบบนี้ แทนที่คุณจะได้เงินจะได้คดีความแทน แถมคดีอื่นนอกจากทำร้ายร่างกายด้วยนะครับ จากคุณ : et009 เขียนเมื่อ : 15 ก.ย. 55 11:22:56

ความคิดเห็นที่ 38 คห 35 ก็เนี่ยแหละ ผมทำอยู่ คือ ทำใจกับเงินเดือน ได้แล้ว ยอมคิดว่าทำบุญ ไม่เอาเงินเดือนแล้ว จบๆ กันไป เริ่มเงียบไปแล้ว แล้วผมก็ กำลังจะลบ blog โจมตีแล้ว แต่ก็มาเจอ เนี่ยแหละ แฟน เจ้าของบริษัท มาเรียกร้องความชอบธรรมอยู่ โธ่ เอ้ย บริษัทก็ผิด ที่ไม่จ่ายเงินเดือน แต่มาโทษ พยายามโยงให้มั่วไปหมด มาเล่นสนุกกับคำ เล่นสนุกกับ ความทุกข์ สนุกที่ได้ โพสต์ข้อความด่า บนเว็บบอร์ด เลยกลายเป็นเริ่มเรื่องใหม่อีกแล้ว และ อาจรุนแรง ไปอีก เท่าไหร่ก็ไม่รู้ พิจารณาตัวเอง ก่อน เลย หากไม่คิดจะจ่ายเงินเดือน ก็หุบปากไปซ้ะ แล้วพวก blog ต่างๆ ผมหายโมโห ก็ลบเองแหละ อันที่จริง กำลังจะลบอยู่แล้วด้วย กะวันจันทร์เริ่มชีวิตใหม่สักหน่อย แต่เจอ มาตั้งกระทู้ อีก นี้แหละ เพราะนิสัยแบบนี้แหละ บริษัทเปิดมา 6-7 ปี มีคนทำงานให้ 2 คน จากคุณ : คนก่อเรื่อง เขียนเมื่อ : 15 ก.ย. 55 11:24:10 A:87.236.194.158 X: TicketID:303828

ความคิดเห็นที่ 39 อ๋อ จำได้และ แก้ไขเมื่อ 15 ก.ย. 55 11:38:05 จากคุณ : ตาแป๊ะหวานเย็น เขียนเมื่อ : 15 ก.ย. 55 11:36:50

ความคิดเห็นที่ 40 คห 37 คือ คน มันไม่มีความรับผิดชอบ มันไม่ดี ไม่จริงจัย พูดแล้ว ไม่เคยทำตามที่พูด มันคิดอย่างเดียวคือ ไม่จ่าย ดังนั้น ฟ้องไป อีกกี่เดือน กี่ปี ผมจะได้เงินตรงนี้หล่ะครับ มันคุ้มกับค่า รถ ค่าเสียเวลา ผมเอาเวลาตรงนี้ ไป หางานใหม่สมัครงานใหม่ ดีกว่ามั้ย แต่ไม่อยากให้ ชนรุ่นหลัง เจอบริษัท ห่วยๆ แบบนี้อีกไง แต่บริษัท ทำเป็นร้อนตัว ก็เพราะ นิสัยแบบนี้ไง ดิ้นให้พล่านเลย แต่ที่จริง ผมไม่เคยเอ่ยชื่อ บริษัท เลย สักครั้งน้ะ หากไม่มีกระทู้นี้ ผมก็หยุดไปแล้ว กระทู้ เดิม ที่เคย ปักหมุดไว้ ก็ตกไปแล้ว ไม่เคยเอยชื่อ บริษัทเลยด้วยในกระทู้ มีใครรู้เหรอ บริษัท ชื่อ อะไร มีแต่ link โยงไปเป็น สิบๆ บริษัท ใน blog ก็กำลังลบ ทิ้งไปแล้ว จากคุณ : คนก่อเรื่อง เขียนเมื่อ : 15 ก.ย. 55 11:43:11 A:96.47.226.22 X: TicketID:303828

ความคิดเห็นที่ 41 มานั่งต้มมาม่ารอครับ จากคุณ : LAPD21 เขียนเมื่อ : 15 ก.ย. 55 11:44:17

ความคิดเห็นที่ 42 ในมุมมองผมคิดว่า.. ทั้งฝ่าย จขกท และ คุณผู้ก่อเรื่อง ขาดความเป็นมืออาชีพทั้งคู่ มืออาชีพ ไม่ได้หมายถึงผลสำเร็จเพียงอย่างเดียว แต่ยังรวมถึงการรับผิดและรับชอบกับงานที่กำลังทำร่วมกับทีม การยืดหยุ่น ปรับเปลี่ยนเงื่อนไขต่างๆ ตามความสมเหตุสมผลในสถานการณ์นั้นๆ จขกท หากต้องเลิกงานตรงเวลาเป๊ะๆ โดยไม่สนใจสถานการณ์ตอนนั้นเลย ผมคิดว่ามันตึงเกินไป แล้วยิ่งไปออกท่าทางทำร้ายคนในที่ทำงาน เรื่องนี้ถือว่า... การควบคุมอารมณ์ในการทำงานกับเพื่อนร่วมงานที่บางทีเราไม่ชอบหน้า ผมว่าเป็นสิ่งที่สำคัญมากๆ สำหรับคำว่า "มืออาชีพ" ส่วน จขกท ผมว่าคุณจ้างงานแล้วไม่ได้ในสิ่งที่คาดหวัง ก็น่าจะมีวิธีบริหารจัดการบุคคลได้ดีกว่านี้ ไม่ใช่ปลอ่ยเป็นลูกโป่งเพื่อรอวันระเบิด ลองพิจารณาดูก่อนครับ จากคุณ : อ๊ะจึ๋ย เขียนเมื่อ : 15 ก.ย. 55 11:50:46

ความคิดเห็นที่ 43 น่าจะได้เข้าเว็ปจ่าฯทั้ง 2 กระทู้เลยมั้งเนี่ย  ^^ จากคุณ : Zenmaster_T เขียนเมื่อ : 15 ก.ย. 55 12:04:11

ความคิดเห็นที่ 44 เข้ามาลงชื่อเห็นด้วยตาม #4 ครับ จริงๆบริษัทควรมีการตักเตือน เป็นหนังสือ ให้เจ้าตัวทราบก่อนละ ก่อนที่จะไปไล่กันแบบนั้น และ พนักงานคนนั้น ก็ไม่น่าจะทำแบบนั้นกับทรัพย์สินของบริษัท เสียหายเห็นๆ (ทั้งบริษัท และ พนักงานคนนั้น) จากคุณ : โลลิร่าเริง เขียนเมื่อ : 15 ก.ย. 55 12:17:03

ความคิดเห็นที่ 45 ผมเชื่อ คนกระโดดถีบ มากกว่านิดหน่อย แต่ไม่รู้ว่า กลับ 2-3 ทุ่ม หรือ 6 โมงกันแน่ แต่ที่ถูก ก็จ่ายเงินเดือน เรื่องค่าเสียหายและการทำร้ายร่างกายก็ไป แจ้งความ ฟ้องร้อง กันอีกที แยกเป็นเรื่องๆ ส่วน จขกท ที่โพส ตรงนี้ "ที่พนักงาน ออกยกชุด บริษัท ก่อนหน้าคุณเข้ามา ที่คุณอ้างถึง จะบอกให้เอาบุญนะ ว่า น้องๆ เขาออกเพราะเขา มองว่า อยากเปลี่ยนงาน และ ที่แรงกว่า นั้น บริษัทยังเห็นแก่อนาคต น้องๆ ที่ออกไป ถึงไม่ได้ เอาเรื่องอะไร กับสิ่งที่น้อง ทำไว้ ยังให้โอกาส น้องได้ทำงานที่ใหม่ หากบริษัท เอาเรื่องขึ้น มา อนาคตอาจหมด จากสายวิชาชีพนี้ก็ได้" รู้สึกบ้าอำนาจพอสมควร ไม่มีบริษัทดีๆ ที่ไหน ทำลาย หรือคิดจะทำลายอนาคตของพนักงานนะครับเพราะ ไม่มีสิทธิ์ใดๆ เลย จากคุณ : mekazero เขียนเมื่อ : 15 ก.ย. 55 12:20:22

ความคิดเห็นที่ 46 เงินเดือนที่พนักงาน ทำไปแล้ว ยังไงก็ต้องให้ ส่วนเหตุการทำร้ายร่างกาย เป็ฯการผิดวินัยร้ายแรง เป็นเหตุให้ไม่ต้องจ่ายค่าชดเชย แต่บริษัทหลังจากให้ออก แล้ว ต้องให้ใบผ่านงาน โดยไม่มีข้อความที่เป็นผลเสียหาย ใดๆ ต่อลูกจ้าง แต่อีกใบนึงคือจดหมายเลิกจ้าง ซึ่งบริษัทควรระบุเหตุการเลิกจ้างให้ ครบ เช่น เลิกจ้างเนื่องจาก พนักงาน นาย.... ทำร้าย นายจ้าง ... ถึงขั้นเลือดตกยางออก กลางที่ประชุม แต่ห้ามนำไปเผยแพร่ นะครับ จากคุณ : mekazero เขียนเมื่อ : 15 ก.ย. 55 12:23:59

ความคิดเห็นที่ 47 คห 45 เรื่องกลับบ้าน อันที่จริง ผมอยาก เรียกร้อง สอบถาม เรื่องเงินเดือนเท่านั้น ตั้งแต่กระทู้เก่า เพียงแต่ว่า อยากให้มี story หน่อยเลย เพิ่มตัดแต่ง แต่เค้าความจริง กว่า 90 % เพื่อให้กระชับฉับไว การกลับบ้าน นั่งรถ 4 ต่อ นี้มานับ ต่อที่ 1 นั่ง มอไซต์รับจ้างออกจากบ้าน มาถนนใหญ่ ต่อที่ 2 นั่งรถเมล์ จากถนนใหญ่มา 4 แยกใหญ่ เดิมข้ามทุลุ โลตัสมาอีกฝั่ง ต่อที่ 3 นั่งรถเมล์ จากอีกฝั่งโลตัส มา แยกใหญ่ ต่อที่ 4 นั่งรถเมล์ จากแยกใหญ่มา ที่ บริษัท การกลับบ้าน นั่งรถ 2 ต่อ กรณี พิเศษ ต่อที่ 1 นั่งรถสองแถวจากหน้าบ้านมายัง โลตัส ต่อที่ 2 นั่งรถเมล์ จากโลตัสมา ถึง บริษัทเลย การนั่งรถ 2 ต่อ จะเกิดได้เฉพาะ ตอนเช้าเท่านั้น ออกจากบ้าน 6 โมงเช้า ถึงสามารถ ทันรถเมล์ ที่สามารถวิ่ง 2 ต่อได้ เพราะว่าต้องใช้เวลารอ 2 แถว และ ระยะเวลาที่ 2 แถววิ่ง มายัง โลตัส ต้อง ได้จังหวะเวลาที่ รถเมล์ คันที่วิ่งถึงบริษัทเลยมา จังหวะพอดี ดังนั้น โอกาสเกิดแบบนี้ทุกวัน ยากมากๆ แต่บางวันก็ทำแบบนี้ได้ ตอนเย็น หมดสิทธิ์ แน่อนอ รถสองแถว หมดแค่ 19.00 มาถึงหน้า โลตัส ประมาณ 19.20 ไม่ทันนี้ ก็ต้องนั่งรถ ต่อเป็นทอดๆ เลิกงาน 6 โมงเย็น รอ รถเมล์ มาประมาณ 18.20 นั่งไปแยกใหญ่ ถึงประมาณ 19.00 นั่งจากแยกไป โลตัส ถึงประมาณ 19.15 จะทำให้ทัน 2 แถว พอดี ดังนั้นเลยเป็นเหตุผลในการ กลับบ้านตรงเวลา เพื่อประหยัด เงินค่ารถ เนื่องจาก ก็ได้เงินเดือนน้อยนิ่ ต้องประหยัดซิ่จริงมั้ย ไม่ได้มีคนมาขับรถรับกลับ หรือ ไม่ได้นั่ง taxi กลับทุกวัน เหมือน ใครบางคน ถูกมั้ย แต่เวลาไป site งานออกจาก site งาน 18.20 มาถึงแยกใหญ่ 19.40 ดังนั้น นั่งไป โลตัส ถึงเวลาประมาณ 20.10 จะไม่ทัน รถ 2 แถว รถรถเมล์ต่อ อีก จะประมาณ 20.30 มาปากซอย นั่งวินมอไซต์ 20.40 ถึงบ้าน 20.50 โดยประมาณ ทำให้ ต้องนั้งรถ เมล ต่อ ไปปากซอย แล้ว ต่อด้วย มอไซต์รับจ้าง ดังนั้นการที่ผมบอกว่า กลับถึงบ้าน 2-3 ทุ่มทุกวัน ผิดขนาดต้องมาจับผิดเลยเหรอ แล้วผมถึงบ้าน 2-3 ทุ่มหรือเปล่า ถึงจะไม่ทุกวันก็เหอะ แต่ทุกครั้งที่อยู่ site งาน ผมกลับแบบนี้ทุกวัน อยู่ site งาน 3 วัน ดังนั้น ก็กลับถึงบ้าน 2-3 ทุ่มเกือบทุกวัน ไม่ถูกเหรอ ออกจากบริษัท และ site งาน 6 โมงน้ะถูกแล้วครับ แต่ถึงบ้าน น้ะ 2-3 ทุ่มหรือเปล่า นี้แหละ นิสัย พยายามใส่ไฟ เต็มที่ มันเหมือนกัน ไอ้เจ้าของบริษัท กับ แฟนมันน้ะ นิสัยเดียวกัน มันเลยเข้ากันได้ ผมพูดผิดที่ีไหนหล่ะ จากคุณ : คนก่อเรื่อง เขียนเมื่อ : 15 ก.ย. 55 12:45:01 A:62.113.219.6 X: TicketID:303828

ความคิดเห็นที่ 48 ทราบแต่ว่า ถ้าผมเป็น HR ที่ใหม่แล้วทราบว่า พนักงานออก เพราะกระโดดถีบนายจ้าง ผมไม่จ้างจริงๆครับ... จากคุณ : freestyler เขียนเมื่อ : 15 ก.ย. 55 13:01:18

ความคิดเห็นที่ 49 ประสบการณ์ หกปี ทำอะไรไม่เป็นสักอย่าง เงินเดือน 12000 เราว่ายังมากไปด้วยซ้ำนะ อยากทราบชื่อเสียงเรียงนาม หลังไมค์จะบอกไหมนิ จากคุณ : nong_ao เขียนเมื่อ : 15 ก.ย. 55 13:17:12

ความคิดเห็นที่ 50 คห 48 ไม่ต้อง สนใจจุดนี้ ครับ ผมขี่ มอไซต์รับจ้าง แถว บ้านผม รับจ้างทั่วไป ก็ อยู่ได้ ไม่มีปัญหา พอมีพอกิน ผมสนใจแต่ ว่า การจ่ายเงินเดือน ควรได้หรือ ไม่แค่นั้น ส่วนการทำงาน ห่วย นิสัยแย่ ไม่ดี ผมถือว่า ผมกำหนดของผมเอง ดังนั้น เจ้าของกระทู้ แค่พยายาม หาจุด ผิดพลาดของผม มาโจมตี กลับ ผมพยายาม ตอบเพื่อให้เห็น ธาตุแท้ ของ เจ้าของบริษัท ที่เลวๆ อุตส่าห์ ไม่บอกเงินเดือน แท้จริง ปกปิดชื่อบริษัท สถานที่ตั้ง บริษัท มันยังเอา เงินเดือนแท้จริง มาเปิดเผย อีก ผู้บริหาร บ้าอะไรว้ะ ไม่รู้แม้กระทั่ง เงินเดือนพนักงานคือ ความลับบริษัท ห้ามเปิดเผย บริษัท ห่วยๆ แบบนี้ ก็คิดเองแล้วกัน ใครกล้าทำงานด้วยก็เอา จะดูว่า อยู่ได้กี่วัน สำหรับผมจบแล้วน้ะ ข้อมูล blog โจมตี ต่างๆ ผมลบหมดแล้ว จากคุณ : คนก่อเรื่อง เขียนเมื่อ : 15 ก.ย. 55 13:20:03 A:87.98.181.150 X: TicketID:303828

ความคิดเห็นที่ 51 เรื่องเดินทางมาทำงานที่บริษัทมันควรจะคิดตั้งแต่ก่อนเข้าไปทำนะครับ ไม่เห็นจะเกี่ยวโคตรจะหยุมหยิม ผมเข้าใจว่าก่อนเข้าไปทำงานมันมีคอนดิชั่นเรื่องพวกนี้ก่อนแล้ว ส่วนบริษัทก็จ่ายเงินไปซะ เพราะมันเป็นค่าแรงจะทำงานดีไม่ดีก็ต้องจ่าย จ่ายแล้วจะเอาเรื่องอะไรกันก็ว่าไป มันผิดกฏหมาย เค้าทำงานห่วยน่ะใช่แต่คุณต้องก็จ่ายเงินเดือน จากคุณ : Jump.Jr เขียนเมื่อ : 15 ก.ย. 55 13:26:14

ความคิดเห็นที่ 52 คห 49 เชื่อคนแบบนี้เหรอ ตัว จขกท เอง ก็ห่วยแตก อย่ามาพูด วิจารณ์การทำงานกันเลย ตัว จขทก เอง เขียนโค้ด ห่วยขนาดนั้น global var ยังไม่รุ้จัก ใช้โค ตะ ระ มั่ว โดยที่ไม่รุ้เรื่องรู้ราวเลย encapsulation ยังไม่รุ้จักเลย แนวคิด oop เข้าใจขนาดไหน ทำมาวิจารณ์การทำงาน มาใส่ไฟกัน เคยเห็นระบบที่ผมทำ หรือเปล่า หาก จขกท นำ ชื่อ นามสกุล จริงผม ไปบอก หล่ะ ยาว แน่ๆ ผมบอกก่อนน้ะ ผม เลิกโจมตีบริษัทไปแล้ว แต่หาก จขกท ยังมีพฤติกรรม แบบนี้ต่ออีก ผมก็จะ โจมตีที่หนักหน่วงกว่าเดิม แบบ ตายเป็นตาย เจ้งเป็นเจ้งเลย งานนี้ จากคุณ : คนก่อเรื่อง เขียนเมื่อ : 15 ก.ย. 55 13:26:44 A:87.98.181.150 X: TicketID:303828

ความคิดเห็นที่ 53 เอ่อ เป็นโปรแกรมเมอร์แต่ไม่รู้จัก encapsulation, global var นี่แย่นะ พื้นฐานมากเลย จากคุณ : demon_secret (demon_secret) เขียนเมื่อ : 15 ก.ย. 55 14:01:13

ความคิดเห็นที่ 54 เจ้าของกระทู้ เป็นภรรยาจริงหรือเปล่าครับ ถ้าจริงก็คงไม่ใช่คนกลางแล้ว และถามต่อว่า ที่ว่าอยากจะให้รับผิดชอบนอกเวลางาน ได้บอกเค้าไปหรือเปล่าครับว่าจะจ่าย OT ให้  ถ้าจ่ายให้แล้วไม่เอาเลยก็คือแย่ แล้วจริงหรือเปล่าว่าที่มีการด่า/ว่า ลูกน้องต่อหน้าลูกค้า ? +++++++++++ ส่วนคุณคู่กรณี จริงหรือเปล่าครับ ที่คุณรายงานไปว่างานเสร็จแล้ว แต่เอาเข้าจริง ๆ งานไม่เสร็จ? ปล. ตอบตามหัวข้อกระทู้หน่อย  ถ้ามีการว่าเสีย ๆ หาย ๆ ทั้งที่ไม่จริง ก็ฟ้องร้องกันแหละครับ แก้ไขเมื่อ 15 ก.ย. 55 14:26:42 จากคุณ : MAX เขียนเมื่อ : 15 ก.ย. 55 14:25:45

ความคิดเห็นที่ 55 สมมุติว่าจริงอย่างที่เล่าทั้งสองฝั่ง ผมมองว่าก็พอกันทั้งคู่แหละครับ แต่ส่วนตัวผมเลือกเชื่อพนักงานที่ถีบนิดๆ เพราะอย่างน้อยก็ไม่ได้เล่าแบบตัวเองดีคนเดียว  เห็นมาเยอะเหมือนกันครับ พวกเจ้าของกิจการที่ไม่เห็นหัวลูกน้อง ทั้งๆที่ความเป็นจริงก็พึ่งพาซึ่งกันและกัน สำหรับเรื่องกลับบ้านตรงเวลาเป๊ะหกโมง มันไม่ควรเอามาเป็นประเด็นเลยครับ ในเมื่อตอนคุณจ้างงานบอกไว้แล้วว่าเวลาเลิกงานคือหกโมงเค้าจะกลับตรงเวลาก็ไม่น่าแปลก  ตราบใดที่เค้ายังรับผิดชอบงานเค้าอยู่ (ผมอ่านกระทู้แล้วนะครับเรื่องที่บอกว่าทำงานไม่เคยทัน เดี๋ยวมีต่อครับ) ส่วนเรื่องการส่งงานไม่ทันตามกำหนด ผมมองเป็นกรณีครับ ในส่วนของเจ้านายเองเวลาให้งานก็ควรจะต้องประเมินเวลา และขนาดของโปรเจคให้เหมาะกับขนาดทีมด้วยครับ ไม่ใช่ว่างานต้องทำกัน10คน ใช้เวลาเป็นเดือนเสร็จ แล้วโยนให้ลูกจ้างไม่กี่คนทำ แล้วบอกต้องเสร็จภายในวันนั้นวันนี้ ถ้าเค้ากลับบ้านก่อนก็บอกอีกว่างานที่มอบหมายยังทำไม่เสร็จกลับได้ยังไง อย่างงี้ผมมองว่าไม่แฟร์กับลูกจ้างเหมือนกันครับ อีกเรื่องที่สำคัญก็คือเวลาสั่งงาน ผมว่ามันควรมีการสั่งล่วงหน้าก่อน ไม่ใช่อยากได้เย็นนี้ ตอนเช้าหรือตอนเที่ยงสั่งแล้วจะเอาให้ได้เลย อันนี้ผมก็มองว่ามันไม่มืออาชีพพอ  อย่างน้อยลูกน้องเค้าจะได้วางแผนงานได้ว่าจะทำส่วนไหนก่อนหลัง แล้วถ้าเค้ายังทำไม่ทันอันนั้นถึงน่าจะตำหนิครับ ที่ผมพิมพ์ส่วนพวกนี้เพราะอยากจะชี้ให้เห็นว่าจริงอยู่ว่าบริษัทอาจจะคาดหวังพนักงานให้ทำงานเต็มที่กับบริษัท แต่ก็ต้องอย่าลืมครับว่าทางบริษัทก็ต้องเคารพเวลาส่วนตัวหลังจากนั้นของพนักงานด้วย  พนักงานก็คนครับเค้าก็ต้องใช้ชีวิตส่วนอื่นของเค้านอกจากการทำงานด้วย สรุปจากที่ผมพิมพ์มาถ้าทางฝั่งเจ้าของบริษัทได้ให้งานที่เหมาะสม และแจ้งงานก่อนล่วงหน้าแล้ว อันนี้ลูกจ้างผิดแน่นอนครับ แล้วยิ่งถ้างานทำไม่เสร็จแต่แจ้งหัวหน้าว่าเสร็จแล้วแม้ว่าหัวหน้าจะสั่งงานแล้วเอาทันทีจนทำไม่ทันก็ตาม อันนี้ผมก็ไม่เห็นด้วยเหมือนกันครับ จากคุณ : Bugfix เขียนเมื่อ : 15 ก.ย. 55 14:53:28

ความคิดเห็นที่ 56 ผมมองว่า ในฐานะลูกจ้าง คุณกระโดดถีบ มีสิทธิ์ได้ค่าจ้างตามที่ทำงานจริง ส่วนนายจ้าง ก็มีสิทธิ์ฟ้องร้องทางอาญา เรียกค่าเสียหายได้ตามจริง แต่สิ่งที่คุณกระโดดถีบควรทำในฐานะลูกจ้าง คือไม่ควรไปถีบนายจ้าง จะด้วยเหตุผลใดๆ ก็ตามแต่ มันจบตั้งแต่นายจ้างเอ่ยคำว่า ไล่ออก และท่านก็ไปฟ้องร้อง การใช้กำลังเป็นสิ่งเดียวที่ผู้เป็นมืออาชีพ จะไม่ทำกันครับ จากคุณ : freestyler เขียนเมื่อ : 15 ก.ย. 55 15:04:09

ความคิดเห็นที่ 57 คห 54,55 ทำ OT ไม่เคยได้เงินน้ะครับ ผมมาทำวัน เสาร์ นั่งรถไป site งาน อีกแห่งนึง ไม่เคยมีเงิน OT ให้น้ะ หรือ เสาร์ - อาทิตย์ ผมก็นั่งทำงาน ให้อยู่บ้านด้วยน้ะ ใช้ notebook บริษัทนั้นแหละ แบกกลับบ้าน เกือบทุกวัน เอามาทำต่อที่บ้าน อันที่จริง ผมกลับบ้านเร็ว ผมก็ทำงาน ใน notebook ต่อตลอด database source code ต่างๆ ผมทำอยู่ใน notebook ครบหมดทุกโปรเจ็ค ทั้ง oracle,sql server,mysql โปรเจ็คทั้ง PHP,vb.net,C#.net ครบทุกโปรเจ็ค ทำมากกว่าที่ เค้าบอกให้ทำซ้ะด้วยซ้ำไป เพราะว่า เพื่อความสะดวกในการแก้ เกิดต้องการด่วน ผมทำแบบนี้ นี้คือ ผมขี้เกียจเหรอ เกี่ยงงานเหรอครับ ผมไม่รับผิดชอบเหรอ ถามจริงๆ เหอะ ไปดู notebook ที่ผมเคยใช้งาน ได้ มีครบแบบที่ผมว่ามา database ผมก็ต้องเสาะแสวงหาเอง dump เอง import เอง ทำเองหมด คนละเวอร์ชั่น ผมก็ยัง ไป convert ให้เลย เพื่องาน เช่น sql server 2008 แต่ลูกค้าใช้ sql server 2000 ผมก็ต้องนั่ง convert แปลง ทำแม้กระทั่ง ลง winxp ลง vmware เพื่อใช้ database รุ่นเก่าๆ ผมก็ยังทำให้เลย เสาร์-อาทิตย์ ผมว่างๆ ผมก็เปิด notebook มาแก้งานให้แก้โค้ดให้ vb.net ใข้ Third party หายากๆ แถมติด license แม้กระทั่ง site งาน ก็ใช้ version ที่ติด license ผมก็ยัง ไปหา donwload ให้ (ทั้งๆ ที่รู้อยู่เต็มอกว่า ผิดลิขสิทธิ์) ตอนเย็นเลิกงาน งานด่วน ก็กลับมาบ้านมาทำให้ยัน เที่ยงคืน ก็ทำบ่อยๆ จุดนี้ นี้ ทำให้ผม สิ่นหวัง กับบริษัทแบบนี้ เรื่อง งานเสร็จ แต่ความจริง ไม่เสร็จ เนี่ย ตลก สุดๆ เท่าที่เคยทำงานมาเลย เกิดมาไม่เคยเจอ ใคนบ้าอำนาจ ขนาดนี้ เออ ผมทำงานมา 4 ที่ มีสง อีเมล์ รายงาน ทั้ง 4 ที่ ไม่เคยมีปัญหา เพราะ ที่ทำงานแต่ละที่ เค้าเข้าใจ คำว่างานเสร็จ เป็นอย่างไง มีความไว้ใจเชื่อใจกัน แต่ บริษัท บ้านี่ ไม่เคยเข้าใจเลยว่า งานเสร็จ คือ อะไร ขอบเขต ของคำว่างานเสร็จ อยู่ตรงไหน ตั้งแต่ทำงานมาบริษัทนี้ ไม่เคย เข้าใจตรงนี้เลย ใครได้ทำงานก็จะรับรู้เอง ว่ามั่วมากๆ อย่าฟังตรงนี้มาก อคติกันแล้ว เรื่อง ดีๆ ที่ผมทำเยอะแยะ ก็ไม่เอามาพูดกันแล้ว ผิดแม้กระทั่ง กลับ บ้านตรงเวลาน้ะคิดดูก็แล้วกัน เหนื่อย คนแบบนี้ ได้ทำงานด้วย จะเข้าใจเอง อธิบายไป เหนื่อยเปล่าๆ มันเรื่อง ส่วนตัวผสมๆ แล้ว เรื่องส่วนตัว ที่ร้ายๆ สามารถ สาวไส้ ได้อีกเยอะ ผม ก็ไม่เอามาพูด ไม่คิดเอามาพูดหรอก อะไรที่เป็นเรื่อง ส่วนตัว เรื่องการทำงาน ผมว่า "ไก่เห็นตรีนงูงูเห็นนมไก่" อย่าพูด กันเลย มันสาวไส้ได้ไกลมากๆ สิ่งที่ผมรับผิดชอบ เพราะผมรู้ว่าผิดเต็มๆ ก็ทำหมดแล้ว - เพราะ ผมโทรไปขอโทษเจ้าของบริษัท ตั้งแต่วันแรกที่เกิดเรื่องแล้ว - แต่ผมไม่ได้เงินเดือน แน่ๆ แล้ว - โพสด่าเสียๆ หายๆ ผมไม่ได้เอ่ยชื่อ บริษัท ไม่ได้เอ่ยชื่อ เจ้าของบริษัท ไม่ได้เอ่ยชื่อใคร ใดๆ เลย ในเว็บบอร์ด - blog ลบออกแล้ว ดังนั้น ผม จบไปแล้ว หากคิดจะสาวไส้กันอีก มันเยอะ มากๆ จากคุณ : คนก่อเรื่อง เขียนเมื่อ : 15 ก.ย. 55 15:14:39 A:173.254.216.68 X: TicketID:303828

ความคิดเห็นที่ 58 อ่านถึงนี่ จากคุณ : โสดเสมอเมื่อเจอผู้ชาย เขียนเมื่อ : 15 ก.ย. 55 15:17:04

ความคิดเห็นที่ 59 เราก็เคยโดนประมาณนี้ แต่ของเรานี่เราไม่ได้ทำงานพลาดเองแต่นายเค๊าคุมคนที่ตัวเองเอามาไม่ได้แล้วมาโยนความผิดให้เรา ตามที่คุณบอกว่าอยากได้เงินเราว่ามันไม่จำเป็นต้องมาประจานเค๊าตามเวบบอร์ดสาธารณะเลยค่ะ ของเราพอทวงถามไปซัก2เดือนไม่ได้เงิน เราฟ้องศาลแรงงานเลยค่ะ ยังไงศาลก็เข้าข้างแรงงานอยู่ดี มาลงเวบบอร์ดให้มากความทำไมเนี่ยคุณ กลัวจะมีคดีหมิ่นตามมานะคะ แต่ขึ้นศาลมันเสียเวลาหน่อยกว่าจะได้ตังค์เราก็เข้าใจนะคะ ต้องไปไกล่เกลี่ย1รอบ ขึ้นศาลรอบ รับเงินอีกรอบ เสียเวลา แต่บังเอิญเราคิดซะว่าเราเสียเวลาเค๊าก็เสียเวลาเหมือนกัน จากคุณ : Tako & Kalamae เขียนเมื่อ : 15 ก.ย. 55 15:24:10

ความคิดเห็นที่ 60 เงินเดือน ถ้า จะเอา ได้แน่ๆ ครับ ไปปรึกษา แรงงาน เขต ดำเนินการฟรี ไม่มีค่าธรรมเนียมใดๆ จากคุณ : mekazero เขียนเมื่อ : 15 ก.ย. 55 15:37:45

ความคิดเห็นที่ 61 เราว่าแย่ทั้งคู่ค่ะ   คุณโดดถีบ แย่ตรงไปกระโดดถีบเจ้าของบริษัทนี่แหละ ส่วนเจ้าของบ.และเจ้าของทู้นี้  โครตแย่...  ถ้าบอกทำงานไม่ดีก็เลิกจ้างสิคะ  แต่เงินน่ะต้องให้เค้า  เค้าทำเท่าไหร่ก็ควรให้เท่านั้น  จะมาอ้างว่าทำงานไม่ดี  ไม่ให้เงินไม่ได้ สมมติเราเป็นเจ้าของ  เราอยากได้คนมาทำงาน  เราแกล้งจ้างมาสักคน  พอถึงเวลาที่งานเสร็จ  เราอ้างว่า  โอ้ย  ทำงานห่วยไม่มีเลย  ไล่ออกค่าจ้างไม่ให้เพราะทำห่วย  แล้วเราก็จ้างคนอื่นต่อทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ  ประหยัดหลายตังค์นะเนี่ย  เพราะทุกคนที่เข้ามาทำงานและโดนไล่ออก  ห่วยหมดทุกคน  5555555555 จากคุณ : กุนซือเอกแห่งรัฐวุ่ย เขียนเมื่อ : 15 ก.ย. 55 17:20:38

ความคิดเห็นที่ 62 คนก่อเรื่อง ต้องร้องกับแรงงานเอาเงินเดือน ส่วนบริษัท ต้องจ่ายเงินเดือน แล้วอยากจะฟ้องร้องเรื่องทำร้ายร่างกายก็ทำ ------ ได้เงินแล้วก็อโหสิกรรมกันไป จะได้ไม่ต้องเจอะเจอกันอีก จากคุณ : mookate เขียนเมื่อ : 15 ก.ย. 55 17:41:20

ความคิดเห็นที่ 63 .... แก้ไขเมื่อ 18 ก.ย. 55 11:14:49 จากคุณ : น้ำค้างกระจ่างดาว เขียนเมื่อ : 15 ก.ย. 55 17:48:35

ความคิดเห็นที่ 64 คห 63 อ่านภาษาไทย ปีละกี่บรรทัด หัดอ่านภาษาไทยให้แตกฉานก่อน ดีกว่ามั้ง --------------------------------- สิ่งที่ผมรับผิดชอบ เพราะผมรู้ว่าผิดเต็มๆ ก็ทำหมดแล้ว - เพราะ ผมโทรไปขอโทษเจ้าของบริษัท ตั้งแต่วันแรกที่เกิดเรื่องแล้ว - แต่ผมไม่ได้เงินเดือน แน่ๆ แล้ว - โพสด่าเสียๆ หายๆ ผมไม่ได้เอ่ยชื่อ บริษัท ไม่ได้เอ่ยชื่อ เจ้าของบริษัท ไม่ได้เอ่ยชื่อใคร ใดๆ เลย ในเว็บบอร์ด - blog ลบออกแล้ว --------------------------------- อ่านแล้วสรุป ได้ว่าไง ในเว็บบอร์ด ไม่มีการอ้างถึง ชื่อบริษัท ชื่อใครใดๆ เลย ส่วนใน blog ลบออกแล้ว นั้นหมายถึง ใน blog ผิดจริงตามที่ว่ามา ก็ลบออกแล้ว แต่ ต้องรอเวลา google มันเอาออก นี้ เค้าเรียกว่า รับผิดชอบมั้ย แล้ว ที่ตนเอง ทำ กับ บริษัททำ เคยรับผิดชอบ อะไรบ้าง เคยติดต่อมาพูดคุยเจรจาหรือเปล่า หายเงียบ ดีแต่พูด "เอาดีเข้าตัว ชั่วให้คนอื่น" นิสัย จริงๆ แล้ว กฎหมาย พรบ คอมฯ ไม่ต้องมาขู่ หรอก คุณจะรู้ได้ไงว่า ผม ที่กำลังโพสต์ คือ ใคร เหตุการณ์มี 6 คน และ มีคนที่โดนไล่ออก ไปอีก กี่คน ใน 6 คนเล่าให้ใครฟังบ้าง แล้วไม่คิดเหรอ ว่าคนเจ็บแค้นมีกี่คน เป็นใครก็ได้ จะจับ ไอพี เหรอ เจ้าของ blog คือ ใคร ip ที่ใช้อะไร user อะไร ไปโยนความผิดให้ใคร มั่วๆ ไม่ได้หรอก ต้องมีหลักฐาน ที่ชัดเจน ผมรับผิดชอบ ส่วนของผมแล้วน้ะ เรื่อง blog มันเกิดตั้งแต่วันแรก ที่ยังไม่ index เลย อย่ามามั่ว มันใช้เวลา เกือบๆ อาทิตย์ ถึงจะ index หากตอนนั้น มีการเจรจา พูดคุย มันจบ ไปแล้ว เอาลงได้ตั้งแต่ตอนนั้นแล้ว ไม่รู้น้ะ ผมถือว่า ผมจบ แค่นี้แล้ว หากอยาก ต่อ อีก ก็จะจัดให้อีกเรื่อยๆ นิสัยเสียแบบนี้ ต้องโดนให้หนัก ย้งมีทีเด็ดให้ปล่อยอีกเยอะ จะจัดให้หากไม่หยุด ปากดี ไม่ต้องสงสัยเลย บริษัท เป็นแบบนี้เพราะอะไร เห็นๆ อยู่ ตอนนี้ผม หยุดทุกอย่างเรียบร้อย blog รอ google เอาออกให้ จากคุณ : คนก่อเรื่อง เขียนเมื่อ : 15 ก.ย. 55 18:55:57 A:94.254.2.139 X: TicketID:303828

ความคิดเห็นที่ 65 ดีหรือชั่ว มันอยู่ที่การควบคุมกำลังใจ ถ้าใจของเราบริสุทธิ์ผุดผ่องเสียอย่างเดียว ใครจะว่าดีหรือชั่วไม่มีความสำคัญ เขาจะประณามว่าเลว มันก็เลวไม่ได้ มันก็ต้องดีอยู่ตลอดเวลา ถ้าจิตของเราชั่ว เขาจะสรรเสริญว่าดี มันก็ดีไม่ได้เหมือนกัน พระพุทธเจ้าทรงให้รักษากำลังใจเป็นสำคัญ ควบคุมกำลังใจให้ดีไว้แล้วมันดีเอง ไม่ต้องไปฟังคำของชาวบ้านเขา หลวงพ่อฤๅษี วัดท่าซุง จ.อุทัยธานี จากคุณ : Zhounat เขียนเมื่อ : 15 ก.ย. 55 19:46:26

ความคิดเห็นที่ 66 ผมว่าจากข้อมูลในกระทู้นี้ก็พอเป็นหลักฐานได้แล้วมั้งครับ ว่าคุณพนักงานเป็นคนทำ blog เพื่อให้บริษัทเสื่อมเสียชื่อเสียงจริง อันนี้คุณยอมรับเองนะ ถึงแม้ในตอนหลังคุณบอกว่าคุณลบ blog ไปแล้ว แต่คนอื่นก็รับรู้ข้อมูลที่คุณโพสต์ไปเรียบร้อยแล้ว บริษํทเกิดความเสียหายแล้ว ในทางกลับกัน บริษัทสามารถเอาชื่อ นามสกุลของคุณมาทำ SEO เพื่อให้เกิดความเสียหายกับคุณได้เช่นกัน เรื่องแบบนี้ถ้าไม่ตกลงคุยกันดีๆ ก็มีแต่เสียกันทั้งคู่นะครับ ไมมีใครได้ประโยชน์อะไรเลย จากคุณ : remem เขียนเมื่อ : 15 ก.ย. 55 19:49:45

ความคิดเห็นที่ 67 ไมดีทั้งคู่ ทั้งพนักงาน ทั้งบ.ว่าแต่บ.อะไรหว่า จะได้ไม่ไปทำ อ้อ.. แล้วส่วนจ.ข.ก.ท. แบบนี้ก็เรียกว่าไม่ใช่คนกลางหรอกนะ แบบนี้เขาเรียกเลือกข้างแล้วจ๊ะ ^^ จากคุณ : พี่เลี้ยงจำเป็น เขียนเมื่อ : 15 ก.ย. 55 20:04:21

ความคิดเห็นที่ 68 ผมว่า จขกท บอกแฟนคุณให้จ่ายเงินเดือนเค้าไปก็จบแล้ว มันผิดกฎหมายแรงงานนะคุณ จะมาอ้างนู่นอ้างนี่ อ้างคุณธรรมร้อยแปด อ้างพรบ ฟังไม่ขึ้นหรอกครับ อยากไปเอาเรื่องเค้าก็อย่าไปเอาเงินเดือนเค้ามาเป็นตัวประกัน มันคนละประเด็นกันครับ เกิดเค้าไปฟ้องร้องที่กรมแรงงานขึ้นมา เจ้าของบริษัทรับไปเต็มๆ แล้วทีนี้คนมาสมัครงานใหม่เกิดมารู้ว่า บริษัทนี้มีปัญหาเรื่องการจ่ายเงินพนง ใครเค้าอยากจะมาทำงานด้วย มันจะแย่กว่าเดิมไหม คิดยาวๆนะครับ ด้วยความเคารพครับ จากคุณ : zolam เขียนเมื่อ : 15 ก.ย. 55 20:18:41

ความคิดเห็นที่ 69 มันก็ถูกที่เจ้าของกระทู้กระโดดถีบจะมาเรียกร้องขอเงินเดือนที่พึงจะได้กับบริษัท เรื่องนี้จะไม่บานปลายถ้าไปคุยกันดีๆ ไม่ทำบล๊อก ไม่ก่อกวน ไม่ประนามหยามเหยียดกันออกสื่อขนาดนี้ แต่..ในมุมมองผม คุณไม่ควรเอาเรื่องส่วนตัวของเจ้าของกระทู้เค้ามาเม้าท์มอย เหมือนแม่ค้าเม้าท์ละครหลังข่าวนะครับ คือว่ามันไม่ให้เกียรติผู้หญิงเอาเสียเลย ผมว่าไม่แมน เหมือนออกทะเล ชักแม่น้ำทั้งห้ามาหว่านล้อมให้คนเค้ามีอคติกับเจ้าของกระทู้ ทั้งๆที่เรื่องมันคือ เอาบริษัทเก่ามาจิ้มแจ่ว แล้วขอเรียกร้องเงินเดือนแค่นั้น ว่ากันไปตามจริง หากเรื่องต้องฟ้องร้อง ต่างฝ่ายต่างผิดกันคนละกรณี ทางที่ดี ไปคุยกันดีๆเถิด สงครามคีย์บอร์ดมันยิ่งยั่วให้พวกคุณแรงมากขึ้น จากคุณ : ผมล๊อกอินน้องมาใช้ (เทียมฟ้าหน้าใส) เขียนเมื่อ : 15 ก.ย. 55 20:19:51

ความคิดเห็นที่ 70 เคยมีลูกน้องแบบคุณกระโดดถีบ แต่ไม่เคยโดนถีบ เพราะไม่เคยได้ด่า และเราเป็นผู้หญิง เค้าผู้ชาย ดีที่มันชิ่งหนีงานไปเฉยๆ หมดเรื่องหมดราว เหลือเราซึ่งปกติต้องแก้งานแทนอยู่แล้ว ทำงานถึงสี่ทุ่มซะอีก แฟนเจ้าของบริษัทก็ไม่ใช่ ถามแทนเจ้าของบริษัทค่ะ ออกหนังสือเป็นลายลักษณ์อักษร ส่งลงทะเบียนไปที่บ้าน ให้มารับเงินเดือน + เงินอะไรก็ตาม ในเวลาทำการ ได้มั้ยคะ กล้ามาก็กล้าให้ ไม่น่ากล้ามาหรอก จากคุณ : โพล่า แบร์ เขียนเมื่อ : 15 ก.ย. 55 20:28:47

ความคิดเห็นที่ 71 มันส์ดี ยังยืนยันเหมือนเดิม ว่าทำงานยังไงก็ได้เงินค่ะ ถ้าเราเป็น"คนก่อเรื่อง" เขาไล่ออกตอนนั้น เรารอรับเงินเดือนพร้อมเงินชดเชยค่ะ เพราะว่ายังไงก็ต้องได้ ในกรณีไม่บอกล่วงหน้า ไม่ไปโดดถีบเขาหรอกค่ะ สร้างศัตรูไม่รุ้ตัว(หรือตั้งใจ???) ส่วนถ้าเราเป็นเจ้าของบริษัท เราจ่ายเงินให้คุณแน่นอนค่ะ แล้วเราก็จะไม่แจ้งความ แต่จะดักทำร้ายคุณทีหลังค่ะ อาจจะเอาให้บอบช้ำจนเงินเดือนที่คุณได้ไม่พอรักษาแน่นอน หึหึหึ ปล.เราว่า บริษัทจ่ายเงินเดือนไปตามปกติ แล้วฟ้องเรียกค่าเสียหายดีกว่านะ ทำร้ายร่างกาย+ทำให้เสียชื่อเสียง ทนายเก่งๆหน่อย คุ้มกว่าเงินเดือนที่จ่ายให้แน่ๆค่ะ จากคุณ : bookalive เขียนเมื่อ : 15 ก.ย. 55 20:49:35

ความคิดเห็นที่ 72 หลังๆ กลายเป็นเข้าข้างเพศตัวเองซะงั้น จากคุณ : attentionhos (demon_secret) เขียนเมื่อ : 15 ก.ย. 55 21:03:03

ความคิดเห็นที่ 73 เรื่องกำลังเข้มข้นเลย ...            ส่วนตัวแล้วผมรู้สึกว่า วุฒิภาวะไม่พอทั้งคู่ผมในฐานะเจ้าของ บ เช่นกัน ผมไม่ไล่ลูกน้องออกเพราะว่า ความโมโห แน่นอนขนาดพนักงานที่ผมบีบออก เพราะมันดันไปกร่างใส่ลูกค้าอาวุโส เวลาออกยังจากลากันด้วยดี คุยกันรู้เรื่อง            ส่วนพนักงาน เออ ถีบ 2-3ทีจริงเหรอ ขนาดจำไม่ได้ 555+ ทำไปได้ ดีนะไม่ได้อยู่ บ ผม สมัยเด็กผมต่อยมวยไทยมาก่อน(ค่ายอยู่ติดบ้าน) ทุกวันนี้ยัง เข้าฟิตเนต วันเว้นวัน ถ้ามีใครถีบมาผม ผมจับหักข้อต่อแน่ เอา!!ลืมๆผิดเรื่อง เออ น้องทำงานมากี่ปีแล้ว น้องเป็นโปรแกรมเมอนะ เวลาแค้นมันต้องแก้แค้นวิธีอื่นเช่น แอบ จ้างเด็กไปยั่ว เจ้าของ บ แล้วถ่ายคลิ๊ปส่งให้ จขกท นี้ หุหุ สรุป รอดูดราม่า ต่อปาย แก้ไขเมื่อ 16 ก.ย. 55 10:42:48 จากคุณ : Live In the Moment เขียนเมื่อ : 15 ก.ย. 55 21:08:47

ความคิดเห็นที่ 75 ตามกฏหมายแรงงานนั้นอย่างไรก็ต้องจ่ายครับ แต่กรณีที่คุณโดดถีบนั้นเป้นการทำร้ายร่างกาย ว่ากันไปครับ   แต่ที่สำคัญถ้าสิ่งที่คุณไปโพสตามที่ต่างๆนั้นก่อให้เกิดความเสียหายให้กับบริษัทอันนี้เขาสามารถฟ้องร้องได้แถมปิดประตูแพ้ด้วยนะครับ ระวังเรื่องนี้ดีๆ จากคุณ : twtpong เขียนเมื่อ : 15 ก.ย. 55 21:11:19

ความคิดเห็นที่ 76 รบกวนคุณความเห็น 73 เอาชื่อสถาบันออกนะครับ สถาบันใครๆก็รักครับ จากคุณ : goho เขียนเมื่อ : 15 ก.ย. 55 22:08:04

ความคิดเห็นที่ 77 รอดูที่เวปดราม่าได้ไหมทู้นี้  หนุกจังเยย  ^ ^ จากคุณ : กุนซือเอกแห่งรัฐวุ่ย เขียนเมื่อ : 15 ก.ย. 55 23:19:44

ความคิดเห็นที่ 78 ตรูเข้ามาอ่านอย่างเดียว ปล ให้บริษัทจ่ายเงิน (เพื่อให้คู่กรณีประทังชีวิต) คู่กรณี เข้าไปขอโทษทีบริษัทแล้วรับเงินสดไป (หักค่าโดดถีบไปด้วย) บริษัทให้อภัย ไม่ดำเนิน คดี ยอมกันคนละครึ่งทาง จากคุณ : ไม่หมูนะครับ เขียนเมื่อ : 15 ก.ย. 55 23:28:09

ความคิดเห็นที่ 79 ผมอยากจะบอกทั้ง จขกท. และคู่กรณี ว่า ปัญหานี้ แก้ได้ง่ายมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ไปจบที่ศาลเลยครับ ถึงคู่กรณี - ไปที่ศาลแรงงานกลางเลยครับ แถวๆหัวลำโพง ที่นั่นบริการฟรี บริการดี ผมเคยใช้บริการแล้ว ไม่เสียเวลาอะไรมากเท่าไหร่ครับ เดินทางไปศาล 2-3ครั้ง เรื่องก็จบ (ผมเคยใช้บริการ เมื่อนานมาแล้ว ประทับใจมาก) ถึง จขกท. - พาแฟนไปแจ้งความ เรื่องโดนทำร้ายร่างกาย  คดีอาญา - ฟ้องแพ่งคู่กรณี ในฐานะที่ทำงานเสียหาย  หรือละเมิดสัญญาจ้าง ใดๆก็ว่าไป - หวังว่าคงจะเก็บหลักฐานที่เขาโพสด่าในที่ต่างๆไว้นะครับ ต่อให้เขาไม่เอ่ยชื่อ แต่สิ่งที่เขาพิมพ์สามารถสื่อได้ว่าเป็นบริษัทคุณ คุณสามารถฟ้องเขาได้  พรบ.คอมพิวเตอร์  ทั้งแพ่ง และอาญา (ไม่ต้องห่วงเรื่อง ip ,ใครคนโพส ?  มันมีขั้นตอนการสืบสวนอยู่แล้ว) - จะว่าไป ส่งจดหมายลงทะเบียน ให้มารับเงินเดือนที่บริษัท ก็ดีนะ (แบบคห.70 ..ถ้าเขากล้าไป อ่ะนะ เหอๆ) แค่นี้ ทุกอย่างก็จะจบ ง่ายมากๆ มาเถียงกันที่นี่ มาตั้งกระทู้โพสด่ากัน โต้ตอบกัน ผมว่า ไม่เห็นมีประโยชน์ตรงไหนเลย ปล. ประเด็นต่างๆ ผมเห็นคู่กรณีมาโต้แย้งตลอด แล้วประเด็นที่ว่า "คุณทำงานห่วย ไม่ได้เรื่องอ่ะ เจ้านายต้องมาคอยเช็ค ,ย้ายโปรเจคเพราะคุณไม่ได้เรื่อง ,ลูกค้าไม่ได้งาน  ยังอ่านไม่เห็นเจอเลย ว่าคุณแก้ตัวตรงไหน??" หมดเวลางานแต่งานไม่เสร็จ คิดจะเอาสไตล์ฝรั่ง แต่ขอโทษที ฝรั่งอ่ะ เขาเลิกงานตรงเวลาก็จริง แต่งานเขาจะเสร็จทันกำหนดส่งลูกค้าเสมอ นะจ๊ะ แต่ถ้า เลิกงานตรงเวลา แต่งานเสร็จไม่ทันส่งลูกค้า  แสดงว่า มี2อย่าง 1.คู่กรณี(พนักงาน)ทำงานไม่ได้เรื่อง ไม่มีความสามารถในการทำงานในเวลาอย่างเต็มที่(ทำงานไม่คุ้มเงิน ว่างั้น)  2.หัวหน้าผู้สั่งงาน บริหารการจ่ายงานไม่ดี ประเมินความสามารถของลูกน้องกับเวลาการทำงานไม่สอดคล้องกัน (หรืออาจจะเชื่อลูกน้อง คุยโม้ว่าเก่ง เลยจ่ายงานให้เยอะเพราะนึกว่าเก่ง 55) เป็นอย่างไหน ก็เถียงกันเอาเองนะจ๊ะ    (อ่ะ...เขี่ยให้ อิอิ) จากคุณ : aumpaump12 เขียนเมื่อ : 16 ก.ย. 55 00:13:59

ความคิดเห็นที่ 80 ออกตัวก่อนว่าอ่านข้ามๆบ้าง ถ้าประเด็นไหนตกไป หรือพูดซ้ำ หรือพูดผิดเพราะข้ามประเด็นไป ก็ขออภัย เพราะรู่สึกว่าค่อนข้างมีอารมณ์แรงด้วยกันทั้งสองฝ่าย ส่วนตัวมองว่า คุณ จกขท (ฝ่ายบริษัท) 1. ควรจะจ่ายเงินเดือนเค้าไปตามจำนวนวัน ในส่วนของชดเชย ให้ไปศึกษากฏหมายแรงงานก่อน ถ้าจำไม่ผิด โทษของการทำร้ายร่างกายมีผลสามารถออกได้ทันทีโดยไม่ต้องจ่ายชดเชย 2. แจ้งความทำร้ายร่างกาย สามารถแจ้งปรับได้ตามสมควร 3. แจ้งความทำลายทรัพย์สิน 4. ลองอ่านกฏบริษัทตัวเอง กฏหมายแรงงาน และกฏหมายอิเลกทรอนิกสื เรื่องการหมิ่นประมาท จะฟ้อง หรืออะไรก็ว่ากันไป 5. หากสิ่งที่ลูกจ้างทำ มีผลกระทบก่อให้เกิดผลเสียหายโดยตรงกับบริษัท โดยเฉพาะหากมีการเรียกค่าเสียหาย หรือค่าชดเชยจากลูกค้า ก็สามารถฟ้องได้ คุณ คนก่อเรื่อง รอรับเงินเดือนอย่างเดียวเลย สบายๆ ถ้าเค้าไม่ให้ก็ไปฟ้องกรมแรงงานได้ ถ้ามีหมายอะไรเรียกมาก็ไปตามนั้น จบ ส่วนเรื่องทั้งหมดนี้ น่าจะให้ข้อคิดกับใครได้หลายคนว่า 1. ไม่ควรโกหก หรือโอเว่อร์คุณสมบัติและความสามารถของตัวเอง เพราะเค้าจะคาดหวังว่าคุณสามารถทำได้ การตีค่าความสามารถ และฐานเงินเดือนของแต่ละบริษัทไม่เท่ากัน ดังนั้น ค้นหานายจ้างที่พอใจจะจ่ายเท่าที่เราต้องการ และต้องการแค่ความสามารถที่เรามีอยู่ หากไม่เคยทำ และคิดว่าสามารถทำได้ ให้แจ้งไปตรงๆ ไม่ใช่บอกว่าทำได้ และสุดท้ายทำไม่ได้ เพราะบริษัทจะเสีย และสำคัญที่สุด คือลูกค้าที่ไม่รู้เรื่องเลย จะเสียงาน 2. นายจ้างควรจะหาวิธีสอบถามว่า candidate สามารถทำงานได้จริงตามที่ตัวเองต้องการหรือไม่ หากตัวเองไม่ถนัดหรือไม่มีความรู้ในเรื่องนั้นๆ ควรจะหาข้อมูล หรือให้คนที่มีประสบการณ์โดยตรงกับงานมาช่วยตัดสินใจ เคสนี้ ต้องบอกว่า คุณเองก็มีส่วนผิดที่รับเค้าเข้ามาทำงาน ดังนั้น คุณก็ต้องจ่ายให้กับความไร้ประสบการณ์ของตัวเอง 3. ควรอ่านสัญญาในการทำงานให้ละเอียด ดูว่าในสัญญามีการระบุเรื่อง OT หรือไม่ หากในสัญญาไม่ระบุ แปลว่าตัวคุณยอมรับแล้ว ไม่มีสิทธิ์มาบ่นใดๆ ค่าใดๆที่ให้เพิ่มเติม ต้องมีการระบุลงเป็นลายลักษณ์อักษรในสัญญา ไม่อย่างนั้น ถือว่าเป็นการให้เพิ่มเติม โดยบริษัทจะไม่มีข้อผูกมัด 4. การทำร้ายร่างกาย ถือเป็นข้อห้ามร้ายแรง มีผลให้สามารถไล่ออกได้ทันที โดยไม่ต้องเข้ากระบวนการ กรณีนี้ หาก คุณคนก่อเรื่อง อดทน เจ้าของบริษัทก็ไม่สามารถให้ออกได้ จนกว่าจะมีการทำจดหมายแจ้งเตือนเป็นลายลักษณ์อักษรครบตามจำนวนครั้งเสียก่อน 5. การทุ่มเทกับงานนอกเหนือเวลาทำงาน เป็นความดีมากกว่าปกติ ไม่ใช่คนปกติ ดังนั้นการที่กลับบ้านตรงเวลา ไม่ได้ผิดแต่อย่างใด ถ้าหากลูกจ้างเอาเวลางานไปพักผ่อน เล่นเกม หรือ ทำงานไม่เสร็จตาม due หรืองานเสร็จแต่ไม่มีคุณภาพ ก็ต้องทำจดหมายแจ้งเตือนไปตามระเบียบขั้นตอน ก่อนที่จะเชิญออก 6. ข้อสุดท้ายนี้ ระวังให้ดีนะคะ สำหรับลูกจ้างที่คิดว่าจะประจาน หรือทำลายชื่อเสียงนายจ้าง โดยวิธีใดก็ตาม นายจ้างมีสิทธิ์ฟ้องหมิ่นประมาทได้ หากมีหลักฐานครบถ้วนค่ะ และค่าเสียหายจากการฟ้องก็ไม่น้อยแน่นอนค่ะ ยิ่งนายจ้างสามารถพิสูจน์ได้ว่า บริษัทเสียหายจากการโพส หรือหมิ่นประมาทของลูกจ้างแค่ไหน ก็สามารถเรียกคืนได้เต็มที่เลยค่ะ ไม่ว่าจะเป็นการกระทำแค่ครั้งเดียวหลังจากมีเรื่องหรืออะไรก็ตาม เมื่อความเสียหายเกิดแล้ว ก็สามารถฟ้องได้หมดค่ะ สุดท้าย ฝากให้ทั้งคนที่เป็นลูกจ้าง และนายจ้าง ได้นำข้อคิดต่างๆจากเรื่องนี้ไปใช้ และเหตุการณ์แบบนี้ จะไม่เกิดขึ้นหากทุกฝ่ายศึกษาข้อกฏหมายอย่างถี่ถ้วนและกระทำการณ์ใดๆอย่างมีสติไม่ใช้อารมณ์ค่ะ ปล. ไม่ได้เป็น HR นะคะ แค่คนเคยมีประสบการณ์ในการจำเป็นที่ต้องเอาคนที่ไม่มีประสิทธิภาพในการทำงานออก ข้อมูลอาจจะผิดพลาดคลาดเคลื่อนไปบ้าง รบกวนตรวจสอบกฏหมายแรงงานอีกรอบ จากคุณ : Advent_Fool เขียนเมื่อ : 16 ก.ย. 55 01:09:52

ความคิดเห็นที่ 81 ปกติงานสาย IT จะไม่ค่อย Fix เวลาเข้าออกงานนะ คุณจะเข้าสายออกเร็วก็ได้ แต่จุดสำคัญคืองานต้องเสร็จ แต่ก็แล้วแต่ข้อตกลงของแต่ละบริษัท ---- ที่อยากรู้จริงๆ คือ เหตุการณ์ที่เป็นต้นเหตุให้คุณกระโดดถีบหัวหน้า เป็นไปตามที่เจ้าของกระทู้เล่าหรือเปล่า คือคุณทำงานไม่เสร็จ แต่บอกว่าทำเสร็จ ซึ่งผมว่าขาดความรับผิดชอบมากๆ คือถ้าทำไม่ได้ หรือทำไม่ทันก็น่าจะบอกหัวหน้า เพื่อที่จะได้แก้ปัญหาทัน จากคุณ : remem เขียนเมื่อ : 16 ก.ย. 55 01:14:08

ความคิดเห็นที่ 82 ตรงที่บอกว่าเค้าโกหกเรื่องคุณสมบัติและความสามารถอ่ะ ถ้าคุณคิดว่าเค้าเก่งจริง คุณให้เค้าเท่านี้เองหรอ บริษัทนี้ให้เงินเดือนอย่างกับเด็กจบใหม่ แต่หวังได้คนเก่งๆ ทำงานได้หมด จากคุณ : chayakornc เขียนเมื่อ : 16 ก.ย. 55 09:34:51

ความคิดเห็นที่ 83 กระโดดถีบนี่ คนไร้การศึกษาเขาทำกันค่ะ จากคุณ : greeneyed เขียนเมื่อ : 16 ก.ย. 55 11:29:12

ความคิดเห็นที่ 84 จากข้อมูลที่พูดมาทั้งหมด มีตรงกันเรื่องเดียว คือ ประสบการณ์ทำงานกับเงืินเดือน ดังนั้น ขอเข้าข้าง จขกท ละกัน เพราะ Programmer ทำงาน4ปี เปลี่ยนงาน4ที่ แต่salary 18k นี่ แสดงว่าต้องมีปัญหาเรื่องความสามารถ ความเป็นมือาชีพ จริงๆแหละ rate จบใหม่ 20k ก็ถือว่าต่ำแล้วครับ จากคุณ : roninkung (Roninkung) เขียนเมื่อ : 16 ก.ย. 55 11:43:58

ความคิดเห็นที่ 85 ผมตั้งใจจะพิมพ์ว่า กรณีนี้ขอเชิญคุณ "aumpaump12" ครับ แต่ไม่ทันแกมาตอบก่อนซะแหล่ว 55+ จากคุณ : robotoob01 เขียนเมื่อ : 16 ก.ย. 55 12:09:59

ความคิดเห็นที่ 86 อ่านมาตั้งแต่กระทู้แรก จนการเป็นกระทู้ภาค 2 ซะแล้ว สำหรับมุมมองผมคิดว่า บริษัท >> 1. บริษัทจ่ายเงินเดือนครับ เพราะไม่ว่าเขาจะทำงานดีหรือไม่ดี ก็ถือว่าได้ใช้ความสามารถที่มีในการทำงาน ไม่ว่าผลงานจะออกมาในรูปแบบไหน เพราะถือว่าเป็นการทำงานที่จบครบถ้วน เพราะถ้าฟ้องศาลแรงงาน คุณผิดเต็มประตูครับ 2. ฟ้องทำร้ายร่างกาย และทำลายข้าวของบริษัท จะอาญา+แพ่ง ก็ว่ากันไปครับ 3. ฟ้องฐานหมิ่นประมาททำให้บริษัทได้รับความเสียหายเชิงธุรกิจ หลักฐานเก็บรวบรวมตามความจริงครับ ลูกจ้าง > 1. ได้รับเงินแล้ว ก็จบ นี่คือประเด็นที่สำคัญใช่ไหมครับ แต่จะบอกว่า โลกการทำงานมันไม่ได้กว้างมากมาย การกระทำบางอย่างหากขาดสติแล้ว มันส่งผลต่อคุณระยะยาวเลยนะครับ ไม่ว่าจะเป็นการทำร้ายร่างกาย หรือการทำ SEO ทำลายชื่อเสียงบริษัท เพราะอย่าลืมว่าบริษัทก็ทำลายคุณได้เช่นกันครับ แค่คุณกระโดดถีบนายจ้าง ทาง HR ก็มองว่าคุณไม่มีความสามารถในการควบคุมอารมณ์แล้วครับ ยังไงหากได้งานที่ใหม่ แนะนำว่า ควบคุมอารมณ์ไว้บ้าง หากสุดๆ แล้ว ให้เดินหนีไปก่อน บอกว่าปวดท้องเข้าห้องน้ำ หรือไประบายหลังเสร็จงาน เช่น ออกกำลังกายก็ได้ครับ 2. ผมเห็นด้วยนะครับ เลิกงานตรงเวลา เพราะเราเป็นมนุษย์ ไ่ม่ใช่เครื่องจักร ถ้าจะให้ทำงานเพิ่มก็จ่ายเงินล่วงเวลาครับ แต่ทั้งนี้ต้องขึ้นอยู่กับการบริหารการจัดการงานด้วย เรื่องนี้ต้องดูว่านายจ้างให้งานเหมาะสมไหมครับ   3. ตั้งแต่ผมทำงานมา ก็เสียเปรียบบ้าง บางอย่างก็ยอมได้ บางอย่างก็ยอมไม่ได้ แต่สุดท้ายก็ต้องยอมบ้างครับ เพราะบริษัทจะต้องพาองค์กรและลูกจ้างคนอื่นให้รอดต่อไป เรื่องนี้มันเป็นเรื่องว่าคุณปรับตัวเข้ากับองค์กรได้ไหมมากกว่าที่จะให้องค์กรมาปรับตัวครับ ไม่ได้บอกว่าผิดนะครับ แต่ถ้าเกิดไม่ใช่ผมเลือกหางานใหม่มากกว่าการทำอะไรแบบนี้ครับ ปล. 1.ลดอัตตาลงทั้งคู่แล้วมาคุยกันดีกว่าครับ ทางออกแบบที่ต่างฟ้องกัน จบไม่สวยทั้งคู่ครับ เพียงแต่มองว่าลูกจ้างเสียเปรียบเพราะโดนฟ้องแน่ๆ จากคุณ : ขงเบ้งกลับชาติ เขียนเมื่อ : 16 ก.ย. 55 15:35:08

ความคิดเห็นที่ 87 err.. thailand only.if you want him to work over time you have to pay extra. not to use anyone for free. more work that mean more money come in to the company but the employee still make the same income. i hate the people like you. always wants to take advantage from other people. dont care about the employee. จากคุณ : ann (lekdeno) เขียนเมื่อ : 16 ก.ย. 55 19:13:24

ความคิดเห็นที่ 88 ไม่ได้อ่านทั้งหมด  เพราะอ่านไม่ไหว  และไม่ได้ติดตามกระทู้เดิม เลยไม่รู้ว่าเรื่องเป็นไง แต่อยากบอกตรงนี้ว่า   1.  เงินเดือนพนักงาน   ต้องจ่าย ถ้าไม่จ่ายแล้วพนักงานไปร้องที่แรงงานเขต   สุดท้่ายคุณก็ต้องจ่ายอยู่ดี  แถมยังจะเสียดอกเบี้ยอีกร้อยละ 15% 2.  ค่าบอกกล่าวล่วงหน้า  ก็ต้องจ่าย เพราะกรณียังไม่ถึงเหตุที่จะสามารถไล่ออกโดยไม่บอกกล่าวล่วงหน้า (เพราะมีอารมณ์พูดสวนกันไปมา สุดท้ายเลยไล่ออก  ส่วนการกระโดดถีบเป็นเหตุการณ์ภายหลัง ไม่ใช่เหตุการณ์ที่ใช้เป็นเหตุผลในการไล่ออก) 3.  ส่วนพนักงานทำลายเอกสารของบริษัท และทำลายบัตรพนักงาน  ถือเป็นคดีอาญาข้อหาทำให้เสียทรัพย์  มีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี  คุุณหรือให้ถูก ต้องเป็นแฟนคุณ ต้องรีบไปแจ้งความให้ตำรวจดำเนินดคี 4.  ข้อหาหมิ่นประมาทผู้อื่นโดยการโฆษณา   ถ้ามีหลักฐานว่าพนักงานกล่าวหาบริษัทโดยโพสต์ชื่อจนรู้ว่าเป็นบริษัทนี้   และโพสต์ข้อความที่ทำให้บริษัทเสียหาย  แม้จะเป็นจริงหรือไม่จริงก็ตาม   บริษัทมีสิทธิแจ้งความดำเนินคดีอาญาได้ทันที  และต้องแจ้งความภายใน 3 เดือนนับแต่วันที่รู้เรื่องการโพสต์ข้อความ 5.  ส่วนที่พนักงานกระโดดถึบ  ถ้าไม่ได้รับบาดเจ็บหรือไม่มีใบรับรองแพทย์ว่าต้องใช้เวลาประมาณ 5-10 วัน บาดแผลจึงจะหาย  ก็จะเป็นแค่คดีลหุโทษ มีโทษแค่ปรับไม่กี่ร้อย   แต่ละคนต่างก็ดำเนินการตามสิทธิของตนเองไป  เท่านี้ครับ แก้ไขเมื่อ 16 ก.ย. 55 19:57:03 จากคุณ : รัษฎา เขียนเมื่อ : 16 ก.ย. 55 19:54:14

ความคิดเห็นที่ 89 .... แก้ไขเมื่อ 18 ก.ย. 55 11:16:00 แก้ไขเมื่อ 16 ก.ย. 55 20:50:22 จากคุณ : น้ำค้างกระจ่างดาว เขียนเมื่อ : 16 ก.ย. 55 20:14:59

ความคิดเห็นที่ 90 คือ ผมว่าอย่ามาอธิบายแบบนี้เลยคับ  เจาะประเด็นในกรณีที่มันเกิดไปแร้วมันไม่ได้อะไรขึ้นมา เรื่องมันจะยิ่งยาวขึ้น จขกท. กับบริษัทจะจ่ายเงินเดือนที่เหลือมั้ย หรือว่าจะฟ้องร้องที่ทำให้บริษัทเสียหาย ประเด็นนี้แหละที่ยังไม่จบ ไปอ่านมาทั้ง 2 กระทู้แร่ะ ต่างคนต่างก็เล่าในมุมของแต่ละคน เรื่องจิงเปนยังไงก็ไม่รุ อุโมงผาเมืองชัด ๆเลยนะนี่ ......... จากคุณ : My_LovE_HapPyNesS เขียนเมื่อ : 16 ก.ย. 55 23:10:03

ความคิดเห็นที่ 91 เอาแบบใจๆ สายงาน it เลยน่ะ          สายงาน it เป็นสายงานที่สัมภาษณ์แล้วรู้ได้เลยว่ารู้จริงหรือว่าดำนำ้ออกทะเล แต่นี้กลับพลาดเรื่องง่ายๆ ผมเข้าใจว่าทางบริษัทเองก็คงรีบหาคนจับยัดเข้างานโปรเจ็คที่รับมาแน่ๆ เลยจับพลัดจับพลูมาเจอกัน      ผมขอแนะนำอะไร จขกท ด้วยประสบการณ์อันน้อยนิดของผม แต่ละบริษัทมีหลักในการเขียนโปรแกรมที่ต่างกัน ถ้ามาจากบริษัทใหญ่โปรแกรมเมอร์ทำงานแค่ส่วนๆเดียวของโปรเจ็ค แต่ถ้าเป็นบริษัทเล็กๆ คนทำโปรเจ็คนั้นอย่าเรียกว่าโปรแกรมเมอร์เลยครับ เรียกว่าจับกังดีกว่า เพราะต้องทำทุกอย่างตั้งแต่ requirement เอกสารโปรแกรม คู่มือ ตามแก้ปัญหาตามหลัง บลาๆ ซึ่งนั้นหมายความว่าเวลาแค่ 29 วันผมยังคิดว่าไม่สามารถพิสูจน์ความสามารถของคู่กรณีได้ (ผมไม่ชัวร์ว่า 29 วันหรือไม่ ถ้าผิตต้องขออภัยอย่างแรงเพราะอาจทำให้ความเห็นทั้งหมดผิด) ไม่ลองคิดในมุมกลับบ้างหล่ะครับว่าคุณเองอาจจะวิเคราห์ระบบไม่ถูกต้องซักทีเดียวจนคู่กรณีไม่สามารถทำตามได้ (อาจจะขัดต่อประสบการณ์การเขียนโปรแกรมของเขา) แต่คู่กรณีไม่สามารถที่จะถามอะไรมากมายได้ เนื่องจากความคาดหวังที่พวกคุณตั้งเอาไว้มันสูงมากว่าเขาต้องทำได้แน่ๆ       ส่วนเรื่องถีบของคู่กรณีนั้น ผมว่าอย่างไรก็ไม่สมควรเอามากๆ เพราะมันจะมีผลตามหลังมาเยอะมาก หัดคิดซักนิดครับอายุก็ไม่น้อยแล้วไม่ใช่เด็กจบใหม่       แถมท้ายอีกเรื่องถ้า จขกท มีนโยบายตัดสินผลงานของคนทำงานสายงาน it แบบนี้โดยไม่มีมาตรฐานอื่นมาช่วยวิเคราะห์ ยำ้นะครับไม่มีมาตรฐานอื่น เชื่อผมได้เลยครับว่าบริษัทคุณจะมีแต่จิตรกร ไม่ใช่โปรแกรมเมอร์เพราะวันๆคอยแต่จะสร้างภาพให้คุณเห็นว่าขยันครับ จากคุณ : จับกัง IT (ซาหลิ่มหลากสี) เขียนเมื่อ : 16 ก.ย. 55 23:12:07

ความคิดเห็นที่ 92 นอกเรื่องค่ะ #84 คะ เดี๋ยวนี้เด็กจบใหม่เงินเดือน เกือบ 20 K แล้วเหรอ... เยอะจัง จำได้ว่าตอนจบใหม่ๆ ได้ 12K เอง และเมื่อผ่านโปรจะได้ 14K (ยังไม่แก่น๊า ผ่านมาแค่ 6 ปีเอง) จากคุณ : นางมารร้ายในสายหมอก เขียนเมื่อ : 16 ก.ย. 55 23:13:04

ความคิดเห็นที่ 93 เถียงกันไปอีก 100 เม้นก็ไม่จบ สาดโคลนกันไปมา จริงบ้าง ไม่จริงบ้าง คุยกันดีๆตามเหตุผล สิ่งใดที่รู้ตัวว่าผิดก็ต้องแก้ไข เอาแต่แก้ตัวกันทั้งคู่ เพื่อที่จะหาแนวร่วมฝั่งตัวเอง มันไม่มีประโยชน์อะไรหรอก ส่วนทางแก้นั้น หลายสิบคนให้ความเห็นดีๆไว้เยอะแล้ว จากคุณ : -*- เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 55 00:58:31 A:58.64.56.222 X: TicketID:334295

ความคิดเห็นที่ 94 ประสบการณ์ 6ปี ให้ 18k เหอะๆๆๆๆๆๆๆๆ คุณภาพก็ตามราคาล่ะครับ แบบนี่ แก้ไขเมื่อ 17 ก.ย. 55 01:59:41 จากคุณ : ปีศาจตาเดียว เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 55 01:57:26

ความคิดเห็นที่ 95 @#92 ส่วนตัวผมจบใหม่ก็ 20k นะครับ  PHP Programmer 20k นี่ต่ำแล้วนะ จริงๆไม่อยากทำด้วยซ้ำ ยิ่งเทียบกับมูลค่างานแล้ว โหะๆๆๆเศษเสี้ยวของราคา product จริงๆ แต่ดีได้ทำงานที่บ้านได้ ก็ทำไป ยังไงก็ต้องทำ เพื่อเก็บ profile ของตัวเอง รับงานเอง ทำเว็บเองอะไรเอง ทำบ้างไม่ทำบ้าง แบบ หมูๆหมาๆเลย มันก็ได้อยู่แล้ว 20k อ่ะเนาะ ต่ำกว่า 20k สำหรับผมมองว่าไม่คุ้มอย่างแรง ค่าวิชา กว่าจะ ศึกษากว่าจะเป็น ไม่ใช่ง่ายๆเลย JQUery เอย BackBone เอย BootStrap เอย Node.js เอย Codeigniter เอย html5+css3 เอย แค่พื้นๆพวกนี้ ต้นทุนการศึกษา ก็เยอะมากแล้ว แล้วก็ต้องทุ่มเทเวลาเข้าไปอีก แล้วเทคโนโลยีใหม่ๆก็มีมาเสมอ ก็ต้องตามตลอด ต่ำกว่า 20k ผมนอนเล่น ศึกษาของเล่นใหม่ๆ อยู่บ้านดีกว่า ^^ จากคุณ : ปีศาจตาเดียว เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 55 02:12:05

ความคิดเห็นที่ 96 ยิ่งอ่านยิ่งเพลียกับมวยคู่นี้ยังไงไม่รู้ จากคุณ : Sth like that! เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 55 04:39:28

ความคิดเห็นที่ 97 ยิ่งอ่านคห.89  เราว่ายิ่งน่าเกลียดนะคะ  คนทำงานดี ขยันทำงาน ขึ้นเงินเดือนให้ก็ถูกแล้ว แต่มันไม่เกี่ยวอะไรกับที่ไม่ยอมจ่ายเงินเดือนให้ลูกน้องที่มีปัญหาเลยนะเจ้า  คนละเคสกันเลยอะ เหมือนแม่ค้าถูกใจลูกค้าบางคน  ลดราคาให้  บริการดี   ลูกค้าบางคนแม่ค้าไม่ชอบก็โกงเิงิน พอมีคนมาโวยว่า  แม่ค้าโกงเงินเว้ย  แม่ค้าบอกว่า  ลูกค้าคนนั้นคนนี้ชั้นลดราคาให้นะ  ชั้นบริการดีนะ  ซึ่งมันไม่เกี่ยวกันสักนิด  เพราะเค้ามาโวยเรื่องโกงเงินเจ้าค่ะ จากคุณ : กุนซือเอกแห่งรัฐวุ่ย เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 55 04:47:20

ความคิดเห็นที่ 98 เห้ออ >>>> ก็มองกันไปคนละมุมไงค่ะ หากทุกคนมองในมุมพนักงาน มันก็คงบอกว่า บริษัท ส่วนหนึ่ง ก็ใช่ ที่รีบรับคนที่มีประสบการณ์ และ เคยทำงานด้าน software house มาก่อน ก็น่าจะรู้ ว่า บริษัท เล็ก ต้องทำอะไรที่มัน จับช่ายอยู่แล้ว อยู่ที่เจ้านายสั่ง ทำงานมา สองเดือน เราต้องรู้แล้วสิว่า เขาทำงานเป็นยังไง และไม่ใช่เด็กจบใหม่ที่ต้องมา นั่งสอนทุกอย่าง บอกทุกอย่าง มันไม่ใช่ เราไปนั่งทำงานไซต์ลูกค้า คุณคิดว่า จะมีใครคอยช่วย นอกจากตัวเอง เราก็ทำงานเอง คิดเอง เอาแต่ผลงานมา เสนอบริษัท เสนอลูกค้า กว่าจะมีประสบการณ์ จะมีผลงานได้ มันต้อง ศึกษาอะไรเยอะ สิ่งที่เกิดขึ้น มันเป็นที่นิสัยและอารมณ์ เขาเอง ที่ควบคุมไม่ได้ ที่มาอธิบายรือ่งเงินเดือน แค่ให้เห็นว่า ทางมุมบริษัท คิดและตกลงกันไปแบบไหน ส่วนเรื่อง ทำงานมาแล้ว ทำไมไม่จ่ายเงิน ?? 1. บริษัท บอกแล้วว่า สิ่งที่ เขาทำไป หาก เข้ามาขอขมาผู้บริหาร ที่บริษัท ก็รับเงินไป (ไม่ใช่โทรมาขอโทษ) เพราะถ้าคุณ ทำทุกอย่าง เพื่อให้ได้เงินเดือน มาโพสด่าบริษัท จนบริษัท เสียหาย มาตั้งกระทู้ ให้คนมาด่า ว่า จนเกิดกระทู้พาดพิง ทำไม คุณไม่ ทำใจกล้า เดินเข้าบริษัทมา ขอขมา แล้วคุณก็ได้เงินไป เรื่องก็จบ ) บริษัท จ่ายเงินให้พนักงาน ทุกคนที่ทำงานให้ เคสนี้เป็นเคสที่ยืดเยื้อ กระบวนการจ่ายเงินขึ้นอยู่กับการกระทำของพนักงานเอง มาขอขมา ด้วยตัวเองก็จบไปแล้ว ถ้าอยากได้เงินเดือนขนาดนั้น และก็จะไม่เกิดเรื่องนี้ ด้วย ส่วนทุกคอมเม้นท์ ที่เห็นใจเขา เราเชื่อว่า พวกคุณก็ทำงานบริษัท เห็นใจเขาก็ ช่วยเหลือเขา สิค่ะ แนะนำงาน หรือบริษัทให้เขาเข้าไปทำงาน หรือใครที่เป็นเจ้าของ ก็ช่วยเขา ... ผิดถูก ทุกคนรู้อยู่ สาดโคลนใส่กันก็ใช่ ไม่มีใครอยากว่าตัวเอง เลว ยอมรับไป ก็แค่นั้น เขามีส่วนดี แต่เราไม่พูดถึง เรามีส่วนดี เขาก็ไม่พูดถึง ก็อยากเอาเรื่องแย่ๆ มาสาดใส่กัน ก็เอา เท่านั้นเอง เหตุผล บริษัท ไม่ได้อยากได้คนเก่ง เราเองก็ไม่ได้อยากได้คนเก่ง เก่งแล้วรับผิดชอบบริษัท โชคดีมาก ไม่เก่งแล้วขยัน บริษัทก็โชคดีแต่ไม่มาก เพราะต้องค่อยสอนตลอดเว ไม่เก่ง ไม่ขยัน เก็บไว้ก็ จ่ายเงินฟรี เก่ง ไม่รับผิดชอบก็ ดูเนื้องานกันไป (ก็มันเก่ง) แต่ในบางครั้งที่เร่งด่วน บริษัทก็เลือกรับคน แบบด่วนๆ คิวว่า คนทุกคนถ้าเคารพหัวหน้า มัน สอนกันได้ บอกกันได้ เท่านั้น แต่ถ้าไม่เคารพ คุณคิดว่า ในหัวมันจะโต้แย้งอะไรบ้าง เงื่อนไขนานา ประการ คนพวกนี้ ก็ขึ้นอยู่กับอารมณ์ และการควรคุมแล้ว คุมได้ รอวันได้เงิน แล้ว ออก ก็ทำไมไม่ทำ จากคุณ : น้ำค้างกระจ่างดาว เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 55 05:34:53

ความคิดเห็นที่ 99 ^^^^ ^^^^ ^^^^ สรุปว่า ถ้าน้องเค้าไม่ไปขอขมาที่บริษัท น้องเค้าจะไม่ได้เงินเดือนคืนใช่ไหมครับ แล้วน้องเค้าเตรียมธูปกับเทียนอย่างละสามดอกแล้วคลานเข่าไปขอขมาด้วยไหมครับ ไม่ได้ประชดนะครับแต่อยากรู้เจงๆ อุอุ จากคุณ : zolam เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 55 06:46:29

ความคิดเห็นที่ 100 ไม่ใช่มองในมุมพนักงานค่ะ  แต่เราว่าทุกคห.บอกเหมือนกันหมด เรื่องทำร้ายร่างกาย  เรื่องทำงานไม่ดี  ก็อีกเรื่อง  ไปแจ้งความดำเนินคดีไป ส่วนเรื่องเงินเดือน  คุณไม่มีสิทธิ์อ้างนั่นนี่แล้วไม่จ่ายเงินเดือนค่ะ  คนละส่วนกัน จากคุณ : กุนซือเอกแห่งรัฐวุ่ย เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 55 09:31:23

ความคิดเห็นที่ 101 "ไม่คิดว่า ประชดหรอกค่ะ เพราะทุกคนอ่านแล้วก็คงคิด ก็แค่บอกว่า อยากได้เงินมากก็ กล้ามาขอขมาไหม ถ้ากล้ามาก็กล้าให้ โทรมา มันไม่ช่วย หรือถ้าคิดง่ายๆ  ถ้าเขา ทำร้าย ญาติคุณ แล้วแค่โทรมาขอโทษ คุณให้อภัย หรือป่าว  เอาแค่นี้แหละ คิดง่ายๆ สังคมไทยอยากได้คำว่า ให้อภัย แล้ว คนทำกล้าที่จะ มาแสดงตัว ว่าตัวเองยอมรับผิดแค่ไหน ยิ่งทำเรื่องบานปลายขนาดนี้ ใครเริ่มก่อน กัน ตอนนี้ถ้าจะเสียก็เสียด้วยกันทั้งคู่ ก็แค่เรื่องมันจะไปถึงไหน และจบลงที่ไหน ก็แค่รอดู ว่าใครจะเสียเปรียบกว่ากัน เท่านั้นเอง ..... ถึงตอนนั้นก็รับสภาพไป ไม่ว่าจะเป็น บริษัท หรือคนที่เป็นตัว ตั้งต้น เรื่อง" จากคุณ : น้ำค้างกระจ่างดาว (น้ำค้างกระจ่างดาว) เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 55 10:09:18

ความคิดเห็นที่ 102 ตอบ จขกท. เรื่องค่าจ้างเงินเดือน เท่าที่อ่านมาใน คห.89 และไล่มาตามลำดับ ที่ตอบโต้กับคุณกุนซือเอกแห่งรัฐวุ่ย ผมว่า จขกท. สำคัญผิดหรือไม่รู้กฏหมายแรงงานเลย เอาให้ชัดๆแบบนี้เลยครับ ต่อให้ ลูกจ้างคนนี้ลาก จขกท.ไปข่มขืน ก่อนออกจากบริษัท เพื่อความสะใจที่ได้แก้แค้นแฟน จขกท.เจ้าของบริษัท ก็ยังต้องจ่ายค่าแรงเลยครับ กฏหมายไม่ได้กำหนดข้อยกเว้นอะไรไว้เลย เงินค่าจ้างนี่ เป็นบุริมสิทธิ์ระดับเดียวกันกับ ภาษีอากร  หมายความว่า สมมุติ บริษัทA กู้เงินธนาคารมา1ล้านบาทเพื่อทำกิจการแล้วล้มละลาย ผู้ชำระบัญชีเอาทรัพย์สินขายทอดตลาดได้เงินมา1ล้านบาท เงินที่ได้ต้องเอาไปจ่ายค่าแรงและค่าภาษีก่อน เหลือเท่าไร อาจจะ1แสน2แสน ธนาคารจึงเอาไปได้ นี่ดีนะที่กฏหมายเปลี่ยนแปลงแก้ไขเมื่อปี 2551 แล้ว ถ้าเป็นต้นฉบับ2541 การประวิงค่าจ้าง ต้องเสียเงินเพิ่มสัปดาห์ละ 7% ยืนยันว่าสัปดาห์ละ7%หรือ364%ต่อปี จากคุณ : พี (peh_chai) เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 55 10:53:06

ความคิดเห็นที่ 103 จะทำอะไรก็ให้ตัวเองผิดให้น้อยทีสุด จะได้เล่นคู่กรณีหนักๆ ทั้งสองฝ่ายค่ะ... บริษัท จ้างคนมาทำงาน ครบแล้วก็จ่ายไปค่ะ จบ ถ้าคุณต้องการคำขอขมาแสดงว่าคุณมองลูกจ้างได้ต่ำมากกกกก ที่คุณต้องรอให้มาขอขมา เพราะคุณเห็นว่าเป็นแฟนคุณยอมไม่ได้ แต่ถ้ามองกันในฐานะ บริษัท กับ ลูกจ้าง มันคนละเรื่อง...ทำเพื่อความสะใจว่างั้น? อยากได้อะไรแบบนั้นไปแจ้งความดำเนินคดีทำร้ายร่างกาย แจ้งข้อหมิ่นประมาท ทำให้บริษัทเสียหาย (ได้หรือเปล่า) ส่วนคนมา ทำงาน ทำงานไม่ได้ โดนเขาว่าเขาตำหนิ ก็ก้มหน้ายอมรับไปซะ ไปทำแบบนั้นทำไมให้บริษัทเสื่อมเสีย วุฒิภาวะต่ำ...อย่างนี้ทำงานที่ไหนก็ไม่ได้หรือเปล่าคะ เราว่าพอกันทั้งคู่.. จากคุณ : WorMHoliC เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 55 11:13:59

ความคิดเห็นที่ 104 "บริษัทไม่มีนโยบาย ให้พนักงาน อยู่ดึก และทำงานเสาร์-อาทิตย์ แต่หากพนักงานมีความรับผิดชอบต่องาน ต่อบริษัท และอยากสร้างผลงาน เพื่อ มีผลต่อการขึ้นเงินเดือน หรือ พิจารณาการทำงานในด้านอื่นๆ ส่วนนี้ก็ขึ้นอยู่กับ พนักงานแต่ละคนว่า จะทำแบบไหนให้กับบริษัท" โอว...เอาแบบนี้เลยหรือ? ผมคิดว่าบ.เอาเปรียบอย่างแรง ยิ่งการพิจรณาขึ้นเงินเดือนยิ่งหนักเข้าไปอีก... ส่วนคนก่อเรื่อง ผมเชื่อว่ามือไม่ถึงเหมือนกัน.. สรุปพอกัน... จากคุณ : Karakgnut เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 55 13:35:23

ความคิดเห็นที่ 105 ศาลแรงงานเท่านั้นครับ เรื่องเงินเดือน สำหรับทำร้ายร่างกาย เตรียมไว้ 500 ครับ สำหรับเสียค่าปรับ จากคุณ : ต้วมเตี้ยมน้อย เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 55 14:28:35

ความคิดเห็นที่ 106 เราว่าเคสนี้เริ่มที่เจ้าของบริษัท ฟังดูค่อนข้างปฏิบัติและทัศนคติกับกับลูกน้องแย่มาก น่าจะยังไม่พร้อมเป็นนายคนค่ะ ตัวลูกจ้างเองก็อาจไม่มีความรับผิดชอบเพียงพอ  แต่ถ้ารับมาแล้วไม่พอใจ ก็น่าจะทำถูกขั้นตอน เราอาจจะอยู่บริษัทใหญ่ค่ะ ดังนั้นคนเป็นนายย่อมต้องมีความสามารถควบคุมตัวเองได้มากกว่า ไม่ใช่ไปแข่งกันแย่กับลูกน้อง จากคุณ : วันสุขแล้ว เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 55 14:40:20

ความคิดเห็นที่ 107 เรื่องของเรื่องคือ บริษัทไม่ยอมจ่ายเงิน เพราะโมโหที่เจ้าของโดนถีบ บอกให้มาขอขมา ก็ไม่ยอมมา แถมยังเห็นว่าบริษัทโจมตีในเน็ต เลยโมโหเข้าไปใหญ่ ส่วนลูกจ้าง พอถีบเสร็จ ก็สำนึกเลยโทรไปขอโทษ เพราะอยากได้เงินเดือนมาใช้จ่าย แต่ดันไปโจมตีบริษัททางเน็ต เลยเป็นเรื่องขึ้นมาอีก และไม่ยอมเข้าบริษัท เพราะไม่รู้จะเกิดอะไรขึ้นกับตัวบ้าง ถ้าลูกจ้างเข้าไปขอขมา แล้วบริษัทจะยอมจ่ายเงินเดือนมั้ยคะ จากคุณ : หน้าแง๊ว~* เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 55 15:15:08

ความคิดเห็นที่ 108 เสียดาย...มาอ่านตอนตลาดวายเสียแล้ว...555 จากคุณ : Chalk_HR เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 55 15:24:13

ความคิดเห็นที่ 109 เท่าที่อ่านมา ถ้าลูกจ้างทำงานดีจริง เจ้านายไม่หัวเสียหรือโมโหหรอกครับ ผมเองก็เพิ่งทำงานประสบการณ์ไม่ถึงปี ผมมาทำงานสายทุกวัน แต่ผลงานก็ไม่ได้แย่ ทำได้ตามเป้าที่หัวหน้าให้มาหรือมอบหมายมาตลอด เจ้านายก็ไม่ได้ว่าอะไร แค่บอกว่าเข้างานสาย ก็ออกงานสายตามนะ เงินเดือนผมก็ได้ max rate เพิ่มด้วยซ้ำหลังจากเซนสัญญาไปได้ 3 เดือน ผมเชื่อ จขกท. นี้มากกว่านะว่า คนโดดถีบ ทำงานแย่จริงๆ ไม่งั้นเจ้านายคงไม่หมดความอดทนหรอก จากคุณ : ultima เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 55 15:32:55 A:180.183.153.148 X: TicketID:375242

ความคิดเห็นที่ 110 ผมสรุปให้ละกัน สำหรับทางออกของทั้งสองฝ่าย เพราะอ่านแล้วมึน สำหรับผู้ก่อเรื่อง ถ้าปัญหามันอยู่ที่เรื่องของเงินค่าจ้าง คุณก็ไปร้องต่อเจ้าหน้าที่แรงงานเขตให้เขาติดตามทวงถามให้ เรื่องระดับนี้มันไม่ยุ่งยากถึงขั้นต้องฟ้องร้องกันหรอกครับ ไปเล่าให้ฟังว่า บริษัทเขาทำยังไงกับคุณ และคุณทำงานไปกี่วัน และเขาไม่จ่ายเงินเดือนเท่าไร เดี๋ยวเจ้าหน้าที่เขาก็จะมีการติดตามทวงถามให้เอง สัปดาห์เดียวก็เรียบร้อยแล้ว ไม่ต้องเสียเวลามาก ไม่ต้องเสียค่ารถอะไรมากมายอย่างที่เข้าใจกัน ส่วนของท่านเจ้าของกระทู้ ก็เตรียมมูลฟ้องเรื่องความเสียหายต่างๆเอาไว้ ไม่ว่าจะเรื่องทรัพย์สินหรือถูกทำร้ายร่างกาย แล้วก็ฟ้องเรียกค่าเสียหายเสีย ผมอ่านเนื้อหาแล้ว ต่างฝ่ายต่างถือไพ่กันคนละใบครับ ผลัดกันฟ้องให้ไปจบกันที่ศาลครับ สนุกดี...จะได้ไม่ต้องมานั่งเสียเวลาเถียงเรื่องไม่เป็นเรื่องพวกนี้ จบแล้วยังไงก็เอามาเล่าสรุปให้ฟังกันบ้างนะครับ เพราะผมเห็นความเห็นอะไรก็แล้วแต่ที่เพื่อนๆสมาชิกได้แนะนำไปตั้งแต่กระทู้ที่แล้วมาจนกระทู้นี้ ท่านทั้งสองก็เถียงข้างๆคูๆ ไม่เอา ไม่ทำ ไม่ผิดบ้าง...แล้วอย่างนี้ พวกผมจะแนะนำกันได้อย่างไรในเมื่อแนะนำไปแล้ว ไม่นำไปปฏิบัติ เอาแต่หาข้ออ้างกันอยู่นั่น แล้วเมื่อไรเรื่องจะจบเสียที จากคุณ : Chalk_HR เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 55 15:49:21

ความคิดเห็นที่ 111 เห็นด้วยกับคห.110ค่ะ  ท่าทางลงรอยกันไม่ได้แล้ว  งั้นชกกันคนละหมัด  ผลัดกันฟ้องไปเลย จากคุณ : กุนซือเอกแห่งรัฐวุ่ย เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 55 16:43:27

ความคิดเห็นที่ 112 ตามความเห็น 110 ด้วยคน และขอสำทับเพิ่มว่า หาก บริษัทยังไม่ปรับปรุงตัว ก็นั่งหาคน คอยวนเข้าออกบริษัทแบบนี้อยู่เรื่อยไปแหละ และนี่ถ้าลูกค้าไม่โทรมาหา จขกท. ก็คงไม่มาโพสสินะครับ เป็นว่า ตอนนี้ คุณคนก่อเรื่องก็สมอารมณ์หมาย ลากบริษัทออกมาจากมุมมืดได้ละ บทสรุป ตามฟอร์มพันทิพ กรณี พนักงาน บริษัทคือ 1) ขึ้นศาล ปิดกระทู้ 2) เงียบหาย ยอมความ แต่ดูแล้ว น่าจะ ข้อ 1) มากกว่า และคนก่อเรื่องเล่นปล่อยของไปซะเยอะแบบนี้ ทั้งหมิ่นประมาท ทำร้ายร่างกาย ทรัพย์สิน หาทนายเก่งๆ ไว้รับมือละกัน หาก บริษัทเขาเอาจริง จากคุณ : A.R.T. เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 55 17:25:03

ความคิดเห็นที่ 113 บริษัทนี้ น่ากลัวจริง ไรจริง   ผมคิดได้แค่นี้จริงๆ นะ จากคุณ : oดินสอน้อยo เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 55 17:27:36

ความคิดเห็นที่ 114 ตอนนี้ จขกท ทำให้บริษัทเสียไปเรียบร้อยแล้ว จากคุณ : et009 เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 55 18:05:46

ความคิดเห็นที่ 115 อ่านจนจบ ได้ความว่า พวกเขียนโปรแกรมนี่ชอบพิมพ์และเว้นวรรคเยอะเกินเหตุ -*- จากคุณ : yukraider เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 55 18:39:27