ความคิดเห็นที่ 1 ใส่ขวดดีกว่ามั๊ยคะ ใส่ถุงทานยากค่ะ กล่องโฟมมีขายที่โลตัสค่ะ จากคุณ : Gee (MadamGee) เขียนเมื่อ : 19 ก.ย. 55 10:29:41

ความคิดเห็นที่ 2 จากประสบการณ์ผมนะครับ การเข้าไปคุยกับพวกพ่อค้าแม่ค้าแล้วเสนอให้เค้าลองขายดูเป็นอะไรที่ยากมากครับ พูดตรงๆก็คือพวกนี้ขี้กลัว กลัวที่จะทำธุรกิจอะไรทั้งนั้นครับ ชอบทำอะไรเดิมๆ ดังนั้นกว่าคุณจะคุยแล้วเสนอแนวทางว่าถ้าลองขายดูคุณได้กำไรเท่านั้น เท่านี้ พวกนี้บางทีคิดตามไม่เป็นครับ ผมอาจจะพูดแรงนะครับ แต่ว่ามันเป็นเรื่องจริง ผมจะบอกได้เลยว่าสิ่งแรกๆที่เค้าบอกคุณกลับมาหลังจากที่เสนอคือ ไม่มีเวลาขายหรอกแค่นี้ก็ไม่มีเวลาจะทำแล้ว, ไม่มีลูกน้องช่วยขาย, ไม่ละ ทำเก๊กฮวยเป็น, กำไรบาทเดียวทำเองดีกว่า สิ่งพวกนี้คุณต้องเจอ แล้วแน่นอนถ้าคุณผ่านด่านอรหันนี้ได้ คุณก็สำเร็จ แล้วถ้าให้ผมแนะนำคือช่วงแรกคุณต้องใช้การแจกเข้าสู้คุณถึงจะพอเปิดตลาดได้ครับ โดยจากประสบการณ์ผมในด้านการขายอาหารส่งร้านอาหารอีกทีนะ ผมทำได้มา ครึ่ง เดือนแล้ว พบหน้าแม่ค้ามาเกือบ 100 ร้านแล้ว ไม่ฟังแม้แต่เสียงเรา 20-30% ได้, เจอแม่ค้าทัศนคติแง่ลบ 40%, ที่เหลืออยากลองอะไรใหม่ๆแต่อย่างว่า การที่เค้าอยากลอง แต่เดี๋ยวพอไปปรึกษาทางบ้านทีไรเป็นเรื่องมาทุกที แล้วแนะนำอีกอย่างนะครับ การฝากขายหรือการให้ทานฟรีๆในช่วงแรก ระวังอย่างยิ่งเลยคือพวกเห็นแก่ตัว คือทำท่าทีเหมือนจะสนใจ และขอลองสินค้า พอได้กินฟรี อยู่ดีๆบอกปัดว่า ไม่ละ พวกนี้มันก็มีครับ ผมอวยพรให้คุณทำได้ละกัน แต่จากประสบการณ์ผม ผมบอกตามตรงนะ พูดกับคนที่การศึกษาน้อยมันยากจริงๆ ผมไม่ได้ดูถูกแต่มันเรื่องจริง ยิ่งแม่ค้าพ่อค้าพวกนี้เหลี่ยมจัดเยอะครับ ผมเองอยุ่วงการขายมาทั้งชีวิต บ้านขายอุปกรณ์ก่อสร้าง ตัวเองมีอะไรพอขายได้ก็รับมาขายต่อตั้งแต่เด็ก พอมาเข้าวงการเกี่ยวกับของกิน เล่นซะเราท้อวันเว้นวันเลย จากคุณ : งงเลย เขียนเมื่อ : 19 ก.ย. 55 10:37:17 A:125.25.109.6 X: TicketID:369679

ความคิดเห็นที่ 3 กำไร 1 บาท  ร้านค้าไม่น่าจะสนใจค่ะ  ไหนจะค่าแช่ตู้เย็น ค่าหลอด ค่าถุง  เผื่อของเสียหาย    กำไรจริงไม่รู้จะถึง 10% หรือป่าว เห็นด้วยกับคุณ งงเลย  ค่ะ  ว่าการขายส่งตามร้านค้าถ้าทำได้  อนาคตสบายค่ะ แก้ไขเมื่อ 19 ก.ย. 55 10:57:57 จากคุณ : lucky min เขียนเมื่อ : 19 ก.ย. 55 10:57:01

ความคิดเห็นที่ 4 ลองไปคุยดูค่ะ เราซื้อชาเย็นร้านนึงประจำ มีขนมปัง และ คุกกี้มาขอวางขาย 3 เจ้า เค้าบอกว่าให้เลือกซื้อดูแล้วช่วยบอกเค้าด้วยว่าอันไหน ดี ไม่ดี ยังไง ทานแล้วรู้าสึกยังไง ร้านขายของชำที่เรารู้จัก ก็รับแซนวิชทำสดมาขาย แล้วก็คอยเชียร์ด้วยนะ วันไหนมีไส้อะไรใหม่ๆ ก็จะบอก ลองดูได้ค่ะ ไม่ยาก แค่อย่าท้อ จากคุณ : PiG A Pui เขียนเมื่อ : 19 ก.ย. 55 10:58:34

ความคิดเห็นที่ 5 อยากให้กิฟท์ คห. 2 โดยเฉพาะบรรทัดสุดท้าย... จากคุณ : norikaten เขียนเมื่อ : 19 ก.ย. 55 11:04:23

ความคิดเห็นที่ 6 เท่าที่คิดออก พวกพ่อค้าแม่ค้าที่เปิดร้านขายของใช่ว่าจะการศึกษาน้อยกันทุกคนนะคะ >> แล้วถึงแม้ว่าจะน้อย ก็ใช่ว่าจะโง่ดักดานนะคะ เจ้าของร้านก็ต้องฉลาด(เลือก)พอสมควรน่ะค่ะ (ไม่งั้นร้านโชห่วยเล็กๆ จะอยู่รอดได้ในสมัยนี้หรือคะ) จากคุณ : พอลล่า เขียนเมื่อ : 19 ก.ย. 55 11:09:28

ความคิดเห็นที่ 7 วรรคสุดท้ายของ คห. 2 ใช่เลยค่ะ อีกอย่าง ถ้าคุณทำแล้วขายดี ไม่นาน เค้าจะทำของเค้าเองค่ะ แก้ไขเมื่อ 19 ก.ย. 55 11:26:11 จากคุณ : JaE-Ny ThE PiG เขียนเมื่อ : 19 ก.ย. 55 11:25:48

ความคิดเห็นที่ 8 ผมกำลังจะเข้ามาต่อ ตามที่ คห อื่นๆว่ามาเลยว่า เดี๋ยวถ้าขายดีก็จะมาทำเอง ไปๆมาๆตอนเปิดตลาดเราลงทุนเองหมด พอขายดีเล่นทำเองกันซึ่งๆหน้าครับ ที่ผมเจอนะ ตอนเปิดตลาด ขอชิมฟรี ขอของทดลองขายฟรี ทำป้ายร้านให้ฟรี พอจะเริ่มขาย พี่แกทำขายเองซึ่งๆหน้า เวลาเข้าไปหาก็ทำท่าที่เป็นยุ่ง มีการไล่อีก ทั้งๆที่เราพูดจาีดีแต่พี่แกพาโวยวายหาเรื่อง เอาเป็นว่าต้องถ้าขายเองได้ก็ขายเองเลยครับ สบายใจกว่า ไอ้การขายผ่านหน้าร้านอันนี้พูดได้คำเดียวว่ายากมาก ผมเองความอดทนสูงๆ ยังแอบโมโหไม่ได้แต่ไม่ได้แสดงอารมณ์อะไรได้แต่เก็บมาด่าเวลาเดินเข้ามาในรถ ว่าเจอแบบนี้เครียดมาก ไม่คิดว่าจะเจอคนเห็นแก่ตัวแบบนี้ในโลกเยอะ จากคุณ : งงเลย เขียนเมื่อ : 19 ก.ย. 55 11:42:27 A:125.25.109.6 X: TicketID:369679

ความคิดเห็นที่ 9 ผมพูดตรงๆนะวงการนี้คำนวณจริงมันง่ายแต่ทำจริงมันยากมากครับ ตอนผมเริ่มทำธุรกิจของกินนะ ผมเริ่มด้วยแนวคิดว่า ผมขายหนึ่งร้านค้า กำไรร้านละ 50 บาท/วันก็พอ ในหนึ่งเดือนผมหาลูกค้าเพิ่มได้ 10 เจ้าก็พอ แปลว่าเดือนแรกผมได้รายได้ 15,000 บาทแล้ว ทำไปแค่ปีเดียว เดือนสุดท้ายผมจะมีรายได้ประมาณ 180,000 บาท ยิ่งทำยิ่งทวีคุณ แต่พอเอาเข้าจริงผ่านมา ครึ่งเดือนผมลุยหาลูกค้าได้ 1 ราย แต่ผมปรับเปลี่ยนกลยุทธตลอดว่า จะไงให้ดีกว่าเดิม เอาง่ายๆผมประเมิณวิธีการทุกๆ 2-3 วันเลยเชียวละ ผมเลยกะว่าจะลองทำถึงท้ายปีถ้าไม่สำเร็จผมจะไปทำอย่างอื่นแทนละ ตัวผมเองอายุ 20 กว่าๆ กินเงินเดือนเกือบ5หมื่น ลาออกมาทำเองผลสรุปเป็นแบบนี้ เริ่มเครียดว่าใจร้อนคิดใหญ่เร็วไป เิริ่มในธุรกิจที่ไม่คุ้นเคย อาศัยใจสู้และพยายามปรับเปลี่ยนกลยุทธตลอดเวลายังจะดับเลยตอนนี้ครับ เอาเป็นว่ามีอะไรผมจะพยายามเสริมให้แล้วกันครับ เป็นประโยชน์หรือไม่ผมไม่ทราบนะครับ เพราะตัวผมเองตอนนี้ก็กำลังแย่ เอาเป็นว่าเล่าสู่กันฟังแล้วกัน เดี๋ยวบ่ายโมงผมจะไปเสนอขายของต่อมีอะไรดึกๆจะเข้ามาเล่าให้ฟังว่า โลกแห่งความเป็นจริงมันโหดร้ายแค่ไหน เอาเฉพาะวันนี้พอ วันอื่นๆไม่อยากเล่า เดี๋ยวจะกลายเป็นรายการวงเวียนชีวิตไปซะเปล่าๆ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ผมก็แนะนำให้คุณลองทำนะครับ ผมเชื่อว่าถ้าเรายิ่งทำเรายิ่งเข้าใกล้ความสำเร็จ เราอย่าให้ลูกค้าที่มีทัศนคติแย่ๆมาทำร้ายอนาคตเราเลยครับ สู้โว้ย !!!! จากคุณ : งงเลย เขียนเมื่อ : 19 ก.ย. 55 11:55:01 A:125.25.109.6 X: TicketID:369679

ความคิดเห็นที่ 10 สวัสดีครับได้ความรู้จากประสบการณ์จริงผมก็กำลังจะลุยธุรกิจค้าส่งขนมทำเองนะ พอมีลูกค้าอยู่ 2 เจ้าตอนนี้ทำงานประจำอยู่สิ้นเดือนนี้ก็โดนเลิกจ้าง ซะงั้น!! บ.ย้ายฐาน กะว่าเลิกจ้างแล้วจะมีเวลาลุยสักหน่อย...คงต้องเจออย่างคุณ งงเลย อย่างหลีกเลี่ยงบ่ได้  อืม..สู้ครับทุกท่าน จากคุณ : ขายขนม (ท่ามะปราง) เขียนเมื่อ : 19 ก.ย. 55 14:17:04

ความคิดเห็นที่ 11 งั้นเอาเราบ้างนะคะ ในมุมมองแม่ค้า ป.ตรี  ไม่ได้อะไรนะคะ(แซวๆ) เห็นด้วยกับมุมของ คุณ งงเลย เห็นด้วยในหลายๆกรณีเลยค่ะ อ่ะ  ไม่ต้องสมมุติละ มีนักขายหลายเจ้า ที่พยายามหาของมาฝากขายกันเรื่อยๆเลยค่ะ ทั้งมาในรูปแบบเซลของบริษัทต่างๆ หรือแม้กระทั่ง ทำเองแล้วอยากฝากขายแบบ จขกท  ทีนี้เราจะอธิบายให้ฟังว่า ในมุมของเจ้าของร้านที่คุณอยากเอาของไปฝากน่ะ เขาไม่ได้โง่เลย แต่เขาแค่มองว่า ของที่คุณไปนำเสนอนั้นมันไม่คุ้มกับค่าส่วนแบ่งกำไรพื้นที่ในร้านของเขาค่ะ คุณไม่รู้หรอกว่า เขามีค่าใช่จ่ายเท่าไหร่ กว่าจะมาเปิดร้านแบบนี้ได้ เสีย ค่าไฟ ค่าเช่าที่ เผลอๆมีค่าแป๊ะเจี๊ย เยอะแยะเลย ทีนี้ของที่เขาเลือกมาขายส่วนใหญ่มันต้องตอบโจทย์ลูกค้าของเขาได้ในระดับนึงแล้ว อย่าไปคิดแทนแม่ค้าเลยค่ะ ว่าเขามองไม่ออก เขามองแล้วต่างหากว่ามันไม่คุ้ม คนขายส่งให้แม่ค้าส่วนใหญ่ก็ชอบคิดว่า แหม ให้เอาวางไว้ ยังไม่เก็บตังส์ก็ได้ ค่อยมาว่ากันตอนสิ้นเดือน เหมือนจะดีในสายตาคุณ แต่ในสายตาของแม่ค้า มันรู้สึกไม่ปลอดภัย มันเหมือนคุณเป็นเจ้าหนี้ ที่สิ้นเดือนขายได้ก็มาเก็บ มันทำให้ความรู้สึกอิสระ ซื้อมาขายไป ได้เงินเลยของเขามันหมดไป แม่ค้าหลายๆเจ้ารวมถึงเรา เห็นเงิน กองอยู่ในช่องเก็บเงิน เราก็จะดีใจเออๆๆ วันนี้ขายดีเนอะ ไรงี้ แต่แบบ พอมีคุณนักขาย เดินมา มันเหมือน เอ้า ต้องส่งหนี้ซะละ อะไรแบบนี้ ทั้งๆๆที่จริงก็รู้นะ ว่า ของตรงนั้นมันไม่ได้ลงทุนเอง เขาแค่มาเก็บต้นทุนของเขาไป แต่ว่า มันก็เหมือนเก็บความอิสระของความเป็นแม่ค้าไปด้วยอ่ะ ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน หลังๆตัดปัญหา ไม่รับพวกฝากขาย เพราะ ไม่มั่นใจว่าสินค้าคุณภาพดีมั๊ย เพราะว่าเราเป็นหน้าด่าน เราเป็นคนรับรองกับลูกค้าของเรา หากสินค้ามีปัญหา ภาพลักษณ์ของร้านเราก็โดนไปด้วย   รวมไปถึง การเงินของแม่ค้าที่ยังไม่ค่อยเป็นระบบเท่าไหร่ด้วยค่ะ พูดซะกว้าง จขกท ถามถึงน้ำเก๊กฮวย  เราว่านะคะ ถ้ามีญาติๆ เปิดร้านอยู่ ขอเขาวางน่าจะได้ แบ่งใส่ขวด ขวดละ 10 บาท ดูดีกว่าค่ะ ทำหลายๆรสเลย นี่แถวบ้านนี่ก็ขายดีอยู่ แต่ก็ต้องรับได้นะคะ หากเขาเห็นว่าของเราขายดี แล้วเขาจะทำเอง ขายเอง แต่ก็แหละ มีร้านประเภท ที่คิดว่า ขี้เกียดทำเองก็มีค่ะ ลองดูๆ จากคุณ : สมองคิดอะไรๆได้เสมอ เขียนเมื่อ : 19 ก.ย. 55 14:50:47

ความคิดเห็นที่ 12 ขอบคุณมากค่ะ   คงเก็บเอาไปคิดก่อนตอนนี้ ขอบคุณทุกท่านมากๆ อีกคนั้งค่ะะ จากคุณ : คุณแม่มาเฟีย เขียนเมื่อ : 20 ก.ย. 55 06:16:33

ความคิดเห็นที่ 13 เคยไปช่วยญาติดูแลร้านสะดวกซื้อย่านชุมชมช่วงหนึ่ง(ช่วงที่มีปลดพนักงานกันเยอะๆหน่ะครับ) อดีตพนักงานออฟฟิศที่ผันตัวเองมาทำขนมขายหรืออื่นๆ แล้วนำมาฝากขายเยอะมากกกกกกกกกก แต่ละคนมาก็จะมีจุบจิบติดมือมาให้เทสกัน แค่กินขนมเทสก็อิ่มแล้วครับ บางเจ้าให้ชิมปุ๊บรู้เลยว่าเพิ่งหัดทำ บางเจ้าก็อร่อยจริงแต่เจอราคาส่งก็รู้เลยว่าของออกยากแน่ๆ พอมีตัวเลือกเยอะๆ แต่พื้นที่วางของมีจำกัด ก็จะเหลือที่ให้ฝากวางได้เพียงไม่กี่เจ้า ดังนั้นทางร้านก็จะคัดเจ้าที่คิดว่า ทางคนซื้อน่าจะซื้อได้ง่าย(ราคา) / ซื้อไปแล้วติดใจ(อร่อย)/ ไม่เป็นภาระกับทางร้าน(บูดเสียง่าย หรือต้องใส่ตู้แช่จะไม่ค่อยเวิร์ค) และสุดท้ายขายแล้วได้กำไรเหมาะสมกับการที่ต้องเสียพื้นที่ของชั้นวาง จากคุณ : Gold-E เขียนเมื่อ : 20 ก.ย. 55 07:30:30

ความคิดเห็นที่ 14 กระทู้ต้องสู้จริงๆๆ  ขอสู้ด้วยคนนะคะ.... เกิดมาจนก็ต้องดินรนกันต่อไป @^_^@ จากคุณ : Wait you...N เขียนเมื่อ : 20 ก.ย. 55 15:37:24

ความคิดเห็นที่ 15 ตอบแบบไม่คิดอะไรมากมายนะคะ รับ4 ขาย5 กำไรบาทเดียว อยากได้ร้อยบาทก็ต้องขาย100ถุง เก็กฮวยทำง่ายจะตาย ทำเองอย่างดีต้นทุนก็ตกประมานถุงละ 2บาท ขาย5บาท อยากได้ร้อยบาทก็ขายแค่ประมาณ 34 ถุงเอง หน้าโรงเรียน หน้าโรงงาน จ่ายค่าที่  มีระยะเวลาขายจำกัด การรับมาเพื่อขาย ก็ต้องได้กำไรที่คุ้มค่า ปริมานที่ขายก็ต้องขายได้มากๆ มีสินค้าหลายชนิด ถึงจะคุ้ม รับฝากวางขาย ก็คงจะต้องคิดต่อว่า รับมามันคือรายได้ที่เราจะได้เพิ่ม หรือ รับมาแล้วเป็นภาระ ลองเป็นส่งพวกตามร้านขายข้าว ขายก๋วยเตี๋ยว ร้านอาหาร อีกทางเลือกมั้ยค่ะ เพราะเค้ามีรายได้หลักอยู่แล้ว ถ้ามีน้ำพวกนี้เพิ่มขึ้นจากน้ำเปล่า น้ำอัดลม ก็น่าจะเป็นทางเลือกที่มากขึ้นให้ลูกค้าเค้า จากคุณ : idyzlesla เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 55 03:16:12