 |
ผมให้ความเห็นเป็นกลางๆก่อนนะครับ เนื่องจากผมฟังความจากท่านเพียงฝ่ายเดียว หากให้ชี้ผิดถูก คงต้องรับฟังความเห็นจากรอบด้าน
แต่จากที่ผมสรุปได้ในขั้นต้นคือ กล่าวง่ายๆว่า ลูกค้าของบริษัทที่คุณทำงานอยู่นั้น เขามาจ้างให้คุณทำงานโดยตรงโดยไม่ผ่านบริษัท เมื่อฟังข้อนี้แล้วก็ต้องบอกว่า ผิดแล้วเต็มๆในเบื้องต้น ผิดในส่วนที่เขาเรียกว่า "ผิดมารยาทในการทำงาน" มิใช่ว่าลูกจ้างจะไม่มีสิทธิหารายได้พิเศษนะครับ แต่การหารายได้พิเศษที่เบียดบังผลประโยชน์ของนายจ้าง เป็นสิ่งที่ไม่ควรทำ และฎีกาหลายฉบับได้เคยตีความเอาไว้แล้วว่า เป็นความผิดร้ายแรง สามารถเลิกจ้างได้โดยไม่ต้องจ่ายค่าชดเชย ไม่ว่าจะมีสัญญาหรือระเบียบข้อบังคับว่าไว้หรือไม่ก็ตาม
เนื่องจากว่า การที่ลูกจ้างรับงานตรงจากลูกค้าของนายจ้าง เป็นการเจตนาจงใจทำให้นายจ้างได้รับความเสียหาย จากการขาดรายได้ของนายจ้าง ถือเป็นความผิดร้ายแรง ซึ่งต่างจากการที่ลูกจ้างไปรับจ้างทำงานอย่างอื่นนะครับ หากคุณทำงานให้บริษัทในช่วงกลางวัน ส่วนกลางคืนไปทำงานร้านอาหารอะไรเช่นนี้ กฎหมายถือว่าบุคคลแต่ละท่านมีสิทธิส่วนตัวที่จะทำงาน หรือดำรงชีวิตอย่างไรก็ได้ ซึ่งไม่กระทบกับงานประจำ (แต่หากทำงานพิเศษมา และตอนเช้ามาทำงานประจำไม่ได้ นี่ก็สามารถลงโทษได้อีกเช่นเดียวกัน)
ดังนั้นในส่วนกรณีของคุณนั้น ประการแรก หากบริษัทต้องการลงโทษเช่นที่กล่าวมาต้องพิจารณามูลความผิดตามสิทธิหลายเรื่องเช่น ทำธุรกิจแข่งขันกับนายจ้างหรือไม่ และสอง ทำให้นายจ้างเสียหายหรือไม่ ซึ่งทั้งสองประการนี้ จากสิ่งที่ท่านเจ้าของกระทู้ได้เล่ามา ล้วนแล้วแต่เข้ามูลความผิดด้วยกันทั้งนั้น เพราะการทำธุรกิจของคุณนั้น ใช้ฐานข้อมูลลูกค้าของนายจ้าง ถึงแม้ว่าลูกค้าจะเข้ามาติดต่อคุณเอง แต่ตัวคุณก็ทราบดีว่า ลูกค้ารายนี้เป็นลูกค้าของบริษัท และทราบดีว่าหากตัวคุณเองรับงานตรง ก็ทำให้บริษัทขาดรายได้ ซึ่งถือว่าลูกจ้างทำธุรกิจอันเป็นการแข่งขันกับนายจ้าง ทำให้นายจ้างเสียผลประโยชน์ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การที่คุณกำชับมิให้ลูกค้าบอกโรงพิมพ์ ยิ่งเป็นคำพูดมัดตัวว่าตัวท่านเองทราบดีแก่ใจอยู่แล้วว่าการกระทำของท่านนั้นไม่ถูกไม่ควร ผมต้องเรียนตามตรงว่า พรบ.คุ้มครองแรงงานและพรบ.แรงงานสัมพันธ์นั้น มิได้มีเจตนารมย์เพียงเพื่อปกป้องลูกจ้างเพียงอย่างเดียว แต่ก็ให้สิทธิในการคุ้มครองนายจ้างด้วยเช่นเดียวกัน หากบริษัทซึ่งเป็นนิติบุคคล ตั้งขึ้นมาเพื่อแสวงหาผลกำไร แต่ไม่มีกำไรด้วยการที่ลูกจ้างตัดทางทำมาหากินของนายจ้างเอง แล้วบริษัทเหล่านั้นจะทำงานและดำเนินธุรกิจต่อไปได้อย่างไร อย่าลืมนะครับว่า การกระทำของท่านอาจเข้าข่ายมาตรา 119 (2) จงใจทำให้นายจ้างได้รับความเสียหาย
กรณีของคุณนั้น นายจ้างไม่ต้องขอให้คุณลาออกเลยด้วยซ้ำ แต่สามารถเลิกจ้างไม่จ่ายเงินชดเชยได้เลยครับ หากคุณได้ทำผิดอย่างที่กล่าวไว้ข้างต้นจริง ท่านสามารถศึกษาฎีกาเพิ่มเติมได้จากฎีกาที่ผมยกตัวอย่างให้ เช่น คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3831/2542 , หรือ 3862/2530
| จากคุณ |
:
Chalk_HR  
|
| เขียนเมื่อ |
:
20 ก.ย. 55 09:21:13
|
|
|
|
|
กำลังจะโดนเลิกจ้างงานครับ
