|
เข้าใจหัวอกคนหางานเลยจริงๆว่ามันกดดันและเครียดมากแค่ไหน หลังจากเพิ่งผ่านช่วงเวลาแห่งการหางานนั้นมาหมาดๆ
เจ้าของกระทู้เรียนจบป.โท มีประสบการณ์ทำงาน 1 ปี แล้วก็เดินทางตามหาความฝันไปหาประสบการณ์ชีวิตต่างประเทศอีก 1 ปี
กลับมาด้วยหัวใจ พลังงานเต็มเปี่ยม คิดว่าเอาน่าอย่างน้อยๆเราก็จบมีประสบการณ์บ้าง ได้ภาษาอีกนิดหน่อยหาไม่ยากหรอกมั้งงาน
แรกๆก็ตั้งเป้าหมายบริษัทใหญ่ๆ ได้ผ่านเข้ารอบสัมภาษณ์ทีก็ดีใจ แต่พอได้ไปสัมภาษณ์ เหมือนได้เิปิดโลกทรรศน์ว่ารอบตัวเรานี่คน profile หรูๆเต็มไปหมด การแข่งขันมันช่างดุเดือดและเข้มข้นดีจริงๆ
อกหักผิดหวังจากการสัมภาษณ์ทีก็หงอยเหงา ไอ้เราไม่เท่าไหร่หรอกค่ะ มันหนักใจตรงที่พ่อก็มีความหวังไปกับเราด้วย เราทุกข์เค้าก็ทุกข์ไปกับเราจริงๆ
(ช่วงนี้เข้าใจเลยว่าความรักจากพ่อแม่ยิ่งใหญ่จริงๆ และคนที่จะอยู่เคียงข้างเราไม่ว่าเราจะทุกข์หรือจะสุขก็คือพ่อแม่เรานี่แหละค่ะ กำลังใจสำคัญที่ทำให้เราลุกขึ้นสู้ทุกครั้ง)
ตอนนี้มุึมมองเปลี่ยนไปนะ..จากที่คิดว่าต้ององค์กรใหญ่ๆ ตามประสาคนกินเงินเดือนเนอะ
ได้ทำบริษัทชื่อเสียงดีๆ มันก็ภูมิใจที่จะคุยบอกใครๆ
แต่พอได้ไปสัมภาษณ์จริงๆ เรารู้สึกได้เลยว่าเราเกร็ง
เหมือนเราต้องสร้างตัวเราอีกคนขึ้นมาว่าฉันมีศักยภาพมากที่คุณเลือกแล้วต้องไม่ผิดหวัง
รู้สึกว่ามันไม่ใช่เราละ เราทำเพื่อให้เค้าเลือกเราก็แค่นั้น
มันก็ถูกแล้วที่ทุกคนก็ต้องขายของคุณสมบัติของตัวเองเพื่อที่จะได้รับงาน
แต่พอมาตั้งสติดีๆ มองให้ครบทุกด้าน แล้วค้นหาความต้องการของตัวเองจริงๆว่าต้องการอะไร
อนาคตเราอยากไปอยู่จุดไหน..
สำหรับคนอื่นจะเป็นยังไงไม่รู้ แต่เราได้คำตอบกับตัวเองว่า เราไม่ได้อยากจะยิ่งใหญ่ให้ใครๆพากันมาอิจฉาว่าได้ทำงานบริษัทดีดี มีเงินเดือนเป็นแสนๆพร้อมกับความกดดันอันหนักหน่วง
หายใจเข้าหายใจออกเป็นงานๆๆๆๆ
สำหรับตอนนี้เราขอแค่ได้ทำงานในสายงานที่เรียนมา ใช้ความรู้เรียนมาอย่างเต็มที่ก่อนว่าเราจะยังชอบที่จะอยู่กับมันมั้ย
มีผลงานการทำงานที่ทำให้องค์กรพัฒนา ตัวเองภาคภูมิใจ
มีเงินเดือนเลี้ยงดูตัวเอง เลี้ยงดูครอบครัว (แม้ท่านจะไม่ได้เดือดร้อน แต่มันก็ภูมิใจที่ได้ตอบแทนท่านบ้าง)
และความฝันลึกๆที่ยังต้องรอประสบการณ์และเงินทุนอยู่บ้าง คือกลับไปอยู่กับครอบครัว ปลูกผัก ทำร้านอาหารเพื่อสุขภาพ และอยู่แบบพอเพียง
สุดท้ายได้ไปสัมภาษณ์งานกับบริษัทเล็กๆ พี่คนสัมภาษณ์ใจดี เราก็ไม่เกร็ง รู้สึกเป็นตัวของตัวเอง ไม่ต้องสร้างภาพว่ายิ่งใหญ่ทนทาน เพียงแค่เล่าให้เค้าฟังถึงตัวตนของเราจริงๆ และสิ่งที่ผ่านมาและความตั้งใจที่อยากจะทำ
สุดท้ายก็ได้งานกับที่นี่ และตรงสายที่เรียนมาและค่อนข้างเฉพาะทาง เงินเดือนก็ตามที่คาดหวัง
ที่สำคัญรู้สึกสบายใจมากๆที่ได้เริ่มงานที่นี่ บรรยากาศภายในที่ทำงานเหมือนบ้าน พี่ๆใจดี หัวหน้าน่ารัก
ก็ไม่รู้ว่าต่อไปจะเจอกับอะไรในอนาคต แต่สัญญาว่าจะตั้งใจทำงาน เก็บเกี่ยวประสบการณ์ให้ได้มากที่สุด
แม้จะเริ่มต้นจากองค์กรเล็กๆ ตราบใดที่เรารู้ว่าเรากำลังทำอะไร จุดมุ่งหมายของเราอยู่ตรงไหน
แค่นี้ก็พอแล้วค่ะ
สุดท้ายขอให้กำลังใจทุกคนที่กำลังหางานนะคะ เข้าใจเลยจริงๆว่ามันเหนื่อย มันท้อ บางครั้งเข้าขั้นหดหู่ บางครั้งถึงกับจิตตก คิดไปว่าเอ๊ะนี่เราไม่มีค่าขนาดไม่มีใครต้องการเลยหรือเนี๊ยะ
ก็อยากให้ทุกคนมีความหวังนะคะ ช่วงหางานเป็นช่วงเวลาที่ดีจริงๆที่ทำให้เราได้ทบทวนตัวเองว่าเราต้องการอะไรกันแน่ และเราอย่ามองไม่เห็นค่าตัวเอง บางทีการที่เราสัมภาษณ์แล้วเราไม่ได้รับเลือกมันก็ไม่ได้หมายความว่าเราไม่ดี บางทีเราอาจจะไม่เหมาะกับองค์กรเค้าจริงๆ และขอให้มีความเชื่อว่าถ้าเรารู้ว่าเราต้องการอะไร จะต้องมีที่ที่เหมาะกับเราแน่นอน เป็นกำลังใจให้ทุกคนค่ะ :)
| จากคุณ |
:
kjNT20 
|
| เขียนเมื่อ |
:
25 ก.ย. 55 09:57:00
|
|
|
| 
ให้กำลังใจคนหางานค่ะ
