ความคิดเห็นที่ 1 1. เราต้องเชื่อว่าตัวเองฟังออก ฟังรู้เรื่อง...ถ้ายังไม่เชื่อ ก็หลอกตัวเองไปก่อนค่ะ ว่าฟังรู้เรื่อง 555+ = เพราะ ถ้าเราคิดว่าเราฟังไม่รู้เรื่อง ตัวเราเองนั้นแหละ ที่จะเลิกฟังไปเองก่อน โดยที่ไม่คิดจะทำความเข้าใจเลย... แต่ไม่แนะนำให้ฟังเพลง นะคะ เพราะว่า เราสังเกต ขนาดเพลงภาษาไทย เรายังไม่สามารถฟังออกได้ 100% เลยในครั้งเดียว เพลงภาษาอังกฤษสามารถใช้ได้ กรณีคุณมีเนื้อเพลง แล้วอ่านไล่ตามไปค่ะ... แต่บางทีนักร้องเค้าก็ใส่ลูกเล่นทำให้บางทีฟังยากค่ะ แต่ก็สามารถฟังได้ในชีวิตประจำวัน ให้คุ้นหูค่ะ จากคุณ : Cd_HoLY-Sm เขียนเมื่อ : วันเกิด PANTIP.COM 55 20:49:22

ความคิดเห็นที่ 2 ***2. YouTube เครื่องมือฝึกภาษาอังกฤษง่าย ประหยัด และ ไม่ต้องพยายาม!!!*** = ทุกคนในนี้ย่อมมี Internet ค่ะ ^^ เปลี่ยนเวลาพักผ่อนของคุณ เป็นเวลาฝึกภาษาอังกฤษ ด้วยการหา vdo ต่างๆ ใน Youtube เชื่อว่า ทุกคนย่อมมีสิ่งที่เราสนใจเป็นพิเศษ คลิปก็มีตั้งแต่สั้นๆ 3 - 5 นาที ถึงเป็นชั่วโมงก็มี เราก็สามารถวนกลับไปดูจนเท่าไรก็ได้จนกว่าจะเข้าใจ เช่น ถ้าสาวห้องแป้ง ก็ต้องสนใจเรื่องความสวยความงาม แต่งหน้า แต่งตา ก็มี Guru หลายคนมากมายค่ะ เช่น 1. michelle phan : ระดับ ฟังง่ายค่ะ ออกเสียงชัดเจนแบบอเมริกัน...เธอเป็นกูรูเรื่อง make up อันดับ 1 ก็ว่าได้ 2.frmheadtotoe : ระดับ ฟังง่ายค่ะ ออกเสียงชัดน้อยกว่ามิเชลฟานนิดหน่อย แต่พูดช้ากว่า 3. juicystar07 : ระดับ ปานกลางค่ะ พูดเร็ว แต่ออกเสียงชัดเจน...ยังคงสำเนียงอเมริกันอยู่ 4.JoshCollierMUA : ระดับ ยาก พูดเร็วมากกกกก สำเนียงอังกฤษ แต่เค้าก็น่ารักดีนะ หากชอบดู "มิติลี้ลับ" ของไทย เป็นแฟนคลับพี่ป๋อง ก็หันไปลองเสพ series ของฝรั่งบ้างไหมคะ? 1. Ghost Adventures : ระดับ ฟังง่ายมาก - ง่ายค่ะ พิธีกร Zak Bagen นอกจากหล่อล่ำ(ปาดน้ำลาย) แล้ว...ออกเสียงดังฟังชัดเจนทุกคำจริงๆ ค่ะ รายการเค้าสนุกด้วยนะเออ... แก้ไขเมื่อ 07 ต.ค. 55 20:56:57 จากคุณ : Cd_HoLY-Sm เขียนเมื่อ : วันเกิด PANTIP.COM 55 20:50:45

ความคิดเห็นที่ 3 ชอบทำอาหาร หากคุณมาจากห้องก้นครัว มีแนะนำเล็กน้อยค่ะ 1. cookingwithdog : เป็นเพจคนญี่ปุ่นค่ะ สอนทำอาหารและขนมญี่ปุ่น...มีน้องหมาคอยอธิบายให้ สำเนียงเลยแปร่งๆ แต่ก็ฟังชัดนะคะ ระดับ Epic! (แปลก) 2. OnePotChefShow : ระดับ ปานกลาง ฝรั่งจากออสเตเรียค่ะ พูดชัดเจน แต่ไม่มาก...ปกติค่ะ สอนทำอาหารฝรั่งง่ายๆ ...แต่เราก็ดูอย่างเดียว ไม่ค่อยได้ทำคะ 3. robjnixon : ระดับ ปานกลาง จากออสเตเรียเหมือนกัน เป็นเพื่อนกับเชฟอ้วนด้านบน ชอบทำอาหารไทย แต่ ไม่ค่อยเหมือนอาหารไทยเท่าไร 555+ หรือ ชาวมาบุญครอง ก็ลองหารีวิว มือถือ หรือ แทปเลต ใน wish list ดูได้ค่ะ 1.phonedog : ระดับ ยาก ...พูดเร็วค่ะ แต่ออกเสียงชัดเจนอยู่ มีรีวิวมือถือรุ่นยอดนิยมทุกรุ่นเลย.. .รีวิวละเอียดและชัดเจนดีนะ เราว่า... แม้จะบอกว่า ไม่มีความสนใจอะไรเลย... หาตลกปกฮา เฮฮา ปาจิงโกะ ก็ได้ค่ะ จะได้คลายเครียด + ความบันเทิงไปในตัว 1.kevjumba : Kevin เป็นคนจีนค่ะ แต่สำเนียงอเมริกัน ระดับ ง่าย...ออกเสียงชัดเจน... ตลกมาก เบาสมองดี ศัพท์ไม่ยาก 2. nigahiga : ระดับ ปานกลาง - ยากมาก สำเนียงอเมริกัน ...เป็น entertainer ที่มีคน Subscribe มากที่สุดที่ youtube จ้า มี Off the pill ที่พี่แกพูดเร็วมากกกกกก คนปกติไม่มีทางฟังออก 3.charlieissocoollike : ระดับ ยาก หนุ่มหน้ามน สำเนียงอังกฤษ คนไทยคุ้นสำเนียงอเมริกันก็จะฟังยากหน่อย ตลกแบบเนิร์ดๆ มีสาระปนอยู่บ้าง 4.JennaMarbles : สาวคนนี้ฮาแตกค่ะ ... ระดับ ปานกลาง ออกเสียงชัดเจน แต่ แสลงชีอาจจะเยอะหน่อย จริงๆ ข้อนี้แหละ ที่อยากจะ แชร์ ... ไม่รู้ว่าจะถูกใจกันไหม? ดูทุกวัน...หากคุณเคยใช้เวลากับ Youtube วันละชั่วโมง ก็ลองเปลี่ยนมาฟัง Channal ภาษาอังกฤษ วันละชั่วโมง รับรองต้องดีขึ้นค่ะ ไม่จำเป็นต้องไปหาเทปฝึกให้ยุ่งยาก ... ไม่มีซับ จึงบังคับ ทำให้เราไม่ต้องอ่านซับค่ะ (ดูหนังจึงไม่ช่วยค่ะ เพราะสมาธิเราไปอยู่ที่ซับซะหมด) บางครั้งก็พูดตามเค้าบ้างค่ะ ไม่ต้องกลัวว่าใครหาว่าบ้า พูดตาม...ช่วยให้เรารู้ว่าเค้าพูดคำว่าอะไร และช่วยเรื่องการออกเสียงด้วยค่ะ หากฟังไม่ทัน ก็ หยุดถอยและกลับไปฟังใหม่หลายๆ ครั้ง ก็ต้องฟังออกค่ะ บางคน ถึงตรงนี้ อาจจะเบ้ปาก... ที่นึกว่าจะมีอะไรที่ง่ายกว่านี้...ต้องขออภัย ณ ที่นี้ด้วยค่ะ อยากให้เพื่อนๆ ตระหนักว่า กรุงโรมไม่ได้สร้างเสร็จในวันเดียว... หากเราไม่เริ่มวันนี้ ก็จะไม่มีวันได้เลยค่ะ ไม่อยากให้คนที่คิดว่าตัวเองอ่อนอังกฤษ จะไม่มีทางดีขึ้นได้ค่ะ ข้อสอบวัดมาตราฐาน ยังไงก็ยังคงวัดมาตราฐานค่ะ ทางเดียวที่จะเพิ่มคะแนนได้ คือ เราต้องยกมาตราฐานตัวเองค่ะ ^^ เพื่อนๆ มี Channal ไหน อยากแชร์ ก็มาแชร์กันได้นะคะ ^^ แก้ไขเมื่อ 07 ต.ค. 55 20:55:50 แก้ไขเมื่อ 07 ต.ค. 55 20:52:13 จากคุณ : Cd_HoLY-Sm เขียนเมื่อ : วันเกิด PANTIP.COM 55 20:51:34

ความคิดเห็นที่ 4 ขั้นต่อไปค่ะ 3. หัดสังเกตค่ะ = หากเราดูผ่านๆ อ่านผ่านๆ ฟังผ่านๆ เราก็จะได้นะคะ แต่อาจจะน้อยกว่า หากเราฝึกสังเกตค่ะ เช่น คำนี้ใช้บ่อยๆ ยังไง จุดไหนที่เรารู้ว่าอ่อน ก็สังเกตเยอะๆ ค่ะ เจอของจริงในชีวิตประจำวัน จะช่วยให้เราจำ และ เข้าใจได้มากกว่าอ่านหนังสืออย่างเดียวค่ะ 4. รู้เขา รู้เรา รบร้อยครั้ง ชนะร้อยครั้ง = หากคุณไม่เคยสอบเลย...หาข้อมูลค่ะ การสอบโทอิค จะไม่เหมือนข้อสอบอื่นๆ ที่เคยทำมาค่ะ ไม่มีเวลาให้คุณพอไปทบทวนข้อสอบเวลาสอบเสร็จ... Part Reading มี Paragraph ให้อ่าน ยาวมาก น้ำเยอะ >_<! อ่านไม่ทันเลยทีเดียว พอเค้าบอกให้วางดินสอ เจ้าหน้าที่ก็แทบจะไปกระชากออกจากมือเลยทีเดียว T^T แก้ไขเมื่อ 07 ต.ค. 55 20:53:27 จากคุณ : Cd_HoLY-Sm เขียนเมื่อ : วันเกิด PANTIP.COM 55 20:52:47

ความคิดเห็นที่ 5 ยินดีกับ จขกท ด้วยนะคะ เก่งจังค่ะ จากคุณ : ลงท้ายว่าคิดถึง เขียนเมื่อ : วันเกิด PANTIP.COM 55 20:56:27

ความคิดเห็นที่ 6 หนังสือ ที่แนะนำ 1.FAST-TRACK TOEIC LISTENING with MP3 CD = เราพบว่า listening ยากกว่า ในข้อสอบจริงค่ะ... หากทำอันนี้ได้ ของจริงจะฟังง่าย และ ฟังชัดกว่าในเล่มนี้พอสมควรค่ะ 2.FAST-TRACK TOEIC Reading = ประโยคยาวกว่า ประโยคที่ให้ในข้อสอบจริงค่ะ มี Gramma พื้นๆ ให้ทบทวน เฉลย และ Tips เล็กๆ น้อยๆ เวลาลองทำให้สังเกตว่าจุดไหนที่เราพลาดบ่อย... และเสริมจุดนั้นค่ะ เวลาลองทำ ก็ลองตั้งเวลา 1ชั่วโมง 15 นาที (75 นาที) เท่าที่สอบจริงดูค่ะ เราว่า ถ้าภาษาอังกฤษดีอยู่แล้ว 2 เล่มนี้ก็ทำให้เรารู้แนวข้อสอบจริงแล้วค่ะ แต่ส่วนตัวแล้ว Gramma เราอ่อน เราก็กลับไปทบทวน Gramma พื้นๆ คิดว่าช่วยได้พอสมควรค่ะ Gramma ที่ควรทบทวนในการสอบ Toeic นะคะ 1. Tense = พวก Simple , Past , Future อะไรเทือกนั้นอะค่ะ 2. อะไรคือ Active Voice และ Passive Voice 3. การใช้ Adjective และ Adverb 4. Vocabulary อ่านเยอะๆ เปิดดิก บ่อยๆ ช่วยเรื่องศัพท์ ถ้าฟังเพลงไหนที่ชอบ อยากรู้ความหมายเปิดดิก เดี๋ยวนี้ ก็มี Dictionary ออนไลน์ ให้ค้นหาคำศัพท์ง่ายขึ้นค่ะ ประมาณนี้ค่ะ จากคุณ : Cd_HoLY-Sm เขียนเมื่อ : วันเกิด PANTIP.COM 55 20:57:55

ความคิดเห็นที่ 7 ประสบการณ์การเข้าสอบ Toeic ครั้งแรกของเรา ก่อนอื่น เราก็ต้องกำหนดวันที่จะสอบค่ะ เราจะสอบวันพุธ ก็โทรจองเจ้าหน้าที่เลยวันอังคารตอนเช้า จองสอบวันพุธบ่ายก็ยังมีที่ว่างอยู่ค่ะ แต่เห็นว่าถ้าสอบวันเสาร์ต้องโทรจองล่วงหน้าสัก 2 - 3 วันนะคะ เราเดินทางโดย BTS ลง สถานี อโศก เดินเล่นใน Terminal21 นิดหน่อย นั่งพี่วินไปลงตึก BB Tower เสีย 15 บาทค่ะ ขึ้นชั้น 19 คนสอบรอบเช้าออกมาแล้ว ลงทะเบียน จะมีเจ้าหน้าที่คอยบอกค่ะว่าไปตรงไหน มีถ่ายรูปที่โต๊ะลงทะเบียนด้วย... รูปเราจะเอาไปติดตรงใบผลคะแนนสอบเป็นรูปขาวดำ = =" เพราะงั้น ตอนถ่ายก็จัดผมเผ้า เซตมา ดีๆ นะคะ... (เราไม่รู้...เลย...T^T...เศร้า) จ่ายเงิน 1500 บ. ค่าสอบ ถ้านัดแล้วไม่โผล่มา เสียค่าผิดนัดอีก 500 นะคะ เพราะฉะนั้น นัดแล้วต้องมานะ ^^! สอบบ่ายเปิดให้เข้าห้องสอบตอน 12.45 น. ค่ะ เรียงแถว ค้นตัว มีเครื่องตรวจโลหะด้วย ห้ามเอาเครื่องเขียนเข้าไป เค้ามีเตรียมไว้ให้ค่ะ ทั้ง ปากกา ยางลบ และ ดินสอเหลาแหลมเฟี้ยว 2 แท่ง !!! แต่ยางลบลบไม่ค่อยสะอาดนะ = =" หรือ ดินสอมันเข้มก็ไม่ทราบ...แต่ไม่มีปัญหาค่ะ ลบได้ เจ้าหน้าที่เปิดเทปกล่อมเราไปพักใหญ่ๆ อธิบายข้อสอบ เป็นภาษาไทยรอบนึง + ภาษาอังกฤษรอบนึง ก็นั่งทำสมาธิกันดีๆ ค่ะ ใกล้จะสอบ Listening กันแล้ว Listening 100 ข้อ เปิดให้ฟังรอบเดียวค่ะ... มีบางส่วนเราสมาธิหลุดเหมือนกันนะ = =" วิต่อมา ก็อ้าว...พูดอะไรละเนี้ย! ก็ต้องเลยตามเลยค่ะ แอร์ไม่หนาวนะ ส่วนอื่นของห้องไม่รู้แหละ เพราะเรานั่งติดผนัง และ ใต้ลำโพงพอดี ลำโพงก็ฟังชัดดีค่ะ พอส่วน Reading นี่อีก 100 ข้อ อย่าคิดว่าจะ เอา 100 หารกับ 75 นาที เฉลี่ยแล้วข้อละประมาณ 1 นาที กว่า... ไม่ได้เชียวนะ เพราะช่วงแรกประโยคสั้นๆ ทำไม่ถึงนาที ก็จริง แต่หลังๆ แล้ว Paragraph ยาวมากกกก น้ำเยอะ....ตอบคำถาม 3 - 5 ข้อ และ มี Paragraph คู่อีกต่างหาก...เสียเวลามากๆ ค่ะ เจ้าหน้าที่จะเตือนว่าเวลาใกล้หมดตอน 30 นาที 15 นาที และ 1 นาที ตอนเค้าแจ้งเหลือ 30 นาที เราทำมีอีก 10 กว่าข้อเรายังไม่ได้ทำ. .ลนมากกก >__<! แต่เราก็ทำทันพอดี วางดินสอมีเวลาพอไปทวนข้อที่ไม่แน่ใจอีกนิดหน่อย.. .แต่คนข้างๆ ลบบ่อยจนโต๊ะสั่นเลยอ่ะ = =" พอเวลาหมด เจ้าหน้าที่จะแทบไปดึงดินสอออกจากมือเลยค่ะ ให้วางดินสอลงทันที เค้าจะให้เรานั่งฟัง โฆษณานิดหน่อย... เวลาสอบ 2 ชั่วโมงก็จริง แต่กว่าจะปล่อยก็ 3 โมงเย็นได้ค่ะ ออกมาก็ ถ้าให้เค้าส่งคะแนนไปที่บ้านก็เขียนจดหมายเอง (มีซองให้) จ่ายเงิน และกลับได้จ้าาาา... เราสอบบ่ายวันพุธ คะแนนมาถึงมือวันศุกร์ค่ะ...^w^ จบค่ะ หวังว่าคงเป็นประโยชน์กับทุกๆ คนนะคะ ขอให้ทุกคนโชคดีในการสอบ ได้คะแนนกันเยอะๆ นะคะ จากคุณ : Cd_HoLY-Sm เขียนเมื่อ : วันเกิด PANTIP.COM 55 21:00:51

ความคิดเห็นที่ 8 เราชอบพ่อหนุ่ม charlieissocoollike มาก ถึงขั้น subscribe ไว้เลย อยากได้คนที่พูดเร็วๆ หรือสำเนียงฟังยากๆอีกจัง ฟังแล้วมันสะใจดี 55 ปล. กระทู้ดี มีประโยชน์ค่ะ จากคุณ : พี่เลี้ยงจำเป็น เขียนเมื่อ : วันเกิด PANTIP.COM 55 21:18:39

ความคิดเห็นที่ 9 เห็นด้วยครับ ขยันใช้บ่อยๆ ฝึกฟัง ฝึกพููด   จากการไป เที่ยวมาเลย์-สิงคโปร์   สิ่งที่เห็นเลยว่าทำไม ภาษาอังกฤษคนไทยถึงอ่อน      คนจีนในเมาเลย์ เค้าพยายามที่จะพูด ที่จะสื่อสาร  ถ้าพูดแล้วไม่เข้าใจ เค้าก็จะพยายามหาคำอธิบายจนกว่าเราจะเข้าใจ  ทั้งหาคำศัพท์งายๆมาแปล  หรือแม้กระทั่งแสดงท่าทางประกอบ    ปณะเดียวกัน เค้าหยายามที่จะหัดภาษาไทยด้วย ส่วนคนไทยที่ผมสัมผัส คือ   ถ้าเจอต่างชาติ หนีดีกว่า วิชาอังกษฤผมไม่ถึงกับแย่นะ  ได้ B ตลอด   แต่พอไป ตปท นี่รู้ตัวเลย ว่า  ไม่ได้เรื่องอยางแรง  คงเป้นเพราะตั้งแต่จบมาไม่ได้ใช้ด้วยหละ จากคุณ : kolfparin เขียนเมื่อ : วันเกิด PANTIP.COM 55 21:21:45

ความคิดเห็นที่ 10 ลงท้ายว่าคิดถึง : ขอบคุณค่ะ ... จนตอนนี้ก็ยังไม่เชื่อว่าตัวเองเก่งค่ะ รู้ตัวว่ายังมีจุดอ่อนอีกเยอะ 555+ พี่เลี้ยงจำเป็น : ลองเช็ค Off the pill ของ nigahiga ค่ะ เร็วสุดใน 3 โลกแล้ว :D จากคุณ : Cd_HoLY-Sm เขียนเมื่อ : วันเกิด PANTIP.COM 55 21:23:38

ความคิดเห็นที่ 11 เป็นคำแนะนำที่ดี สำีหรับคนที่อย่างเก่งภาษาอังกฤษขึ้น ชื่นชมสำหรับการแบ่งปันครับ ง่าย ๆ คือ พยายามและเริ่มจากสิ่งที่ง่ายและชอบ จากคุณ : ผมเองครับ เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 55 09:10:38

ความคิดเห็นที่ 12 ชอบค่ะ กำลังอยากได้คลิปภาษาอังกฤษอยู่พอดีเลยค่ะ ขอบคุณมากๆ แก้ไขเมื่อ 08 ต.ค. 55 11:15:48 จากคุณ : JaE-Ny ThE PiG เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 55 11:15:38

ความคิดเห็นที่ 13 แชร์มั่งๆ ผมก็เพิ่งไปสอบมาครับ ได้มา 635 ด้วยความภาคภูมิใจ ใช้เวลาเตรียมตัว 5 เดือน ทำแบบฝึกหัดอย่างเดียว  ช่วงแรกๆก็ทำวันละ 20-30 ข้อ พอช่วงหลังๆก็ซื้อหนังสือมาอีก ชุด ที่เป็นตัวอย่างข้อสอบฉบับเต็ม 200 ข้อ ทำจนหมดเล่มทุกเล่มครับ ตอนก่อนสอบ ผมตั้งเป้าไว้แค่ ประมาณ 560  เพราะเวลาทำข้อสอบจับเวลาเอง ไม่เคยเกิน 500 แม้แต่ครั้งเดียว ก็เลยตั้งความหวังไว้ไม่สูงเท่าไหร่ แนะนำหนังสือเพิ่มเติม จากเจ้าของกระทู้ เนื่องจากผมเป็นคนอ่อนแกรมม่า เลยจะขอแนะนำของ ดร. นเรศ สุรสิทธิ์ครับ เล่มนี้ช่วยพัฒนาแกรมม่าผมมากๆ จากตอนแรกๆ ทำข้อสอบถูกไม่เคยเกิน 40% เลย จากคุณ : FactFusion เขียนเมื่อ : 9 ต.ค. 55 09:18:22

ความคิดเห็นที่ 14 ไปสอบมาครั้งแรกเหมือนกันค่ะ ได้ 850 เท่ากันเลย  ไม่อ่านหนังสืออะไรทั้งนั้น เน้นฟังเยอะๆๆๆๆ กะเอาคะแนน Listening ให้ได้เยอะที่สุด  แล้วทำแบบฝึกหัดต่างๆ บนเวบไซต์เยอะๆๆ ให้จับทางข้อสอบได้ ส่วน Part Reading ก็เอาความรู้ทั้งหมดของตัวเองที่เคยเรียนมา ทำให้เร็วที่สุด ถ้าคิดเยอะ ใช้เวลาแต่ละข้อเยอะ ทำไม่ทันแน่นอนค่ะ เราว่าข้อสอบ Toeic ไม่ได้เน้นหลักไวยากรณ์มากเท่าไหร่  เน้นพูดบ่อย ฟังบ่อย ใช้ภาษาอังกฤษบ่อย ก็ทำข้อสอบได้ค่ะ เอาใจช่วยทุกคนค่ะ จากคุณ : แม่จิ๊กโก๋ เขียนเมื่อ : 9 ต.ค. 55 10:23:53

ความคิดเห็นที่ 15 เราเป็นคนนึงนะที่ภาษาแย่แบบว่า ประถมยังเก่งกว่า -*- สอบโทอิคคะแนนน้อยสุดคือครั้งแรก 320 >< ตอนนี้ดีขึ้นมาก แต่ยังไม่เกิน 700 อยากทำให้ได้เกิน 700 อยู่แต่ยังไม่ถึงสักที T___________T จากคุณ : MochaShu เขียนเมื่อ : 9 ต.ค. 55 11:55:31

ความคิดเห็นที่ 16 กำลังหัดภาษาอังกฤษอยู่เช่นกันครับ แต่เอาไว้ใช้จริง ใช้วิธีตาม จขกท เลย คือ Youtube อยากบอกว่าช่วยได้มากจริงๆ อยากเรียนรู้ภาษาอังกฤษเพิ่ม เซิร์ชใน  Youtube เรียนผ่านเน็ต หรือซื้อหนังสือมาเรียน ก็เจอการสอนแบบวิชาการ พูดอังกฤษล้วนๆ ครูต่างชาติ บางทีสอนแบบพูดเนิบๆดูไปฟังไปก็ง่วงนอนไป ส่วนตัวเราเองก็ยังไม่ได้เก่งถึงขนาดฟังอังกฤษทั้งคลิปแล้วจะรู้เรื่องเลย การฝึกฟังโดยใช้กูรู ใช้เรื่องราวต่างๆที่เราสนใจ อย่างเช่น จขกท ยกมา สามารถทำให้เราอยู่กับภาษาอังกฤษได้นานมากขึ้นจริงๆครับ ฝึกกับสิ่งเหล่านี้ พอเก่งระดับนึงแล้ว กลับไปฝึกแบบมีหลักการ ก็จะทำให้เราจำหลักการนั้นได้มากขึ้น ไม่นั่งเรียนแบบง่วงนอนเหมือนตอนแรกแล้ว รายการสอนภาษาอังกฤษที่เป็นภาษาไทย ก็เป็นตัวช่วยที่ดีในการที่จะเริ่มต้นเรียน และสำหรับบางคนที่ไม่ชอบภาษาอังกฤษเลย ไม่ถนัด รู้สึกว่าฟังไม่รู้เรื่อง เจอภาษาอังกฤษแล้วเครียด แนะนำให้หารายการฮาๆดูครับ ช่วยได้จริงๆ จะทำให้ภาษาอังกฤษไม่น่าเบื่อ เช่นรายการ English breakfast Eng on social PLOYish พูดจาภาษาพลอย เรียนกับอดัม ฯลฯ จากคุณ : นายวาคิม เขียนเมื่อ : 9 ต.ค. 55 14:06:25

ความคิดเห็นที่ 17 Toeic 850  ... ช่วยแปลที่หนุ่มฝรั่ง 2 ท่าน นี้คุยกันหน่อย ครับ ^_^ http://www.youtube.com/watch?feature=fvwp&NR=1&v=EKNV6X-Hwlo แก้ไขเมื่อ 09 ต.ค. 55 14:42:09 จากคุณ : ดีอาร์ (๛จูล่ง๛) เขียนเมื่อ : 9 ต.ค. 55 14:39:59

ความคิดเห็นที่ 18 ความคิดเห็นที่ 17 แปลแล้วได้ความดังนี้ครับ จากคุณ : นายวาคิม เขียนเมื่อ : 9 ต.ค. 55 15:04:25

ความคิดเห็นที่ 19 เราสอบเมื่อเกือบสองปีที่แล้วได้เก้าร้อยกว่าๆ จำคะแนนเป๊ะๆไม่ได้ พาร์ทฟังได้คะแนนเต็ม ฝึกง่ายๆคือดูซีรี่ย์อเมริกากับอังกฤษม สมัยมัธยมดูแบบมีซับอังกฤษ จนมหาลัยก็ไม่ต้องมีซับแล้ว ยกเว้นซีรี่ย์ที่มีศัพท์วิชาชีพต้องดูแบบมีซับอังฤษไปก่อนซักสิบกว่าตอน การฝึกฟังอย่าไปฝืน ให้ดูหนังดูซีรี่ย์หรือฟังเพลงที่ชอบ มันจะได้ไปเอง แก้ไขเมื่อ 09 ต.ค. 55 21:17:08 จากคุณ : OverSeer เขียนเมื่อ : 9 ต.ค. 55 21:16:16

ความคิดเห็นที่ 20 ขอบคุณนะค่ะ กำลังอยากหาคลิปฟังคนญี่ปุ่นพูดอังกฤษพอดี ที่ทำงาน ติดต่อบางครั้ง หูไม่ชินสำเนียงซักที จากคุณ : ดอกเล็บมือนาง เขียนเมื่อ : 9 ต.ค. 55 21:51:06

ความคิดเห็นที่ 21 เห็นหัว กท แล้วนึกถึงตัวเอง ผมก็มีความหลัง โดยเฉพาะภาษาอังกฤษ ขอเล่าของตัวเองก่อนไปอ่านเรื่องราวของ จขกท ละกันครับ -จบ ประถมจาก รร บ้านนอก พื้นฐานภาษาอังกฤษห่วยด้วยตนเอง -เข้า รร มัธยมจังหวัด ตอน ม1 โดนครูลงโทษเนื่องจากไม่รู้เรื่องภาษา ตามเขาไม่ทัน - จากนั้นมาตัวผมเองนั้น เลยเกลียดวิชานี้ไปเลยจากการโดนทำโทษ ( ไม่ดี ) -ตลอดชีวิตมัธยม กามั่ว หรือ ลอกอย่างเดียว จบ ม6 วิชาเลือก ภาษาอังกฤษ ติด 0 ด้วย( ไม่ดี ) - ตอน ม6 อ. ถาม present simple tense คืออะไร ผมตอบไม่ได้ เพราะไม่รู้เลยจริงๆ -ก่อนเข้ามหาลัย ช่วงก่อนเข้ามหาลัยอะเริ่มคิดได้ มหาลัยลอกไม่ได้ ซวยแล้ว คิดในใจ -ไปเอาหนังสือแกรมม่ามาอ่านก่อน จำหลักการ จากนั้นไปเอา student weekly เพราะอ่านง่าย จากบ้านเพื่อนมาหนึ่งลังใหญ่ๆ อ่านทุกหน้า เริ่มจับหลักได้ ศัพท์ก็ได้เยอะขึ้นจากการอ่านมากขึ้น อ่านทั้งวัน จะนอนก็ยังทวนหลักการกับศัพท์จนหลับไป - มหาลัยก็เรียนปรกติ เกรดเทอมแรก B ดีใจๆๆๆๆ - จบมหาลัยทำ รง ญี่ปุ่นหนึ่งปี ภาษาเริ่มลืมเพราะไม่ได้ใช้เท่าไหร่ แต่ก็พอถูไถน่า - เข้า บริษัทฝรั่ง อยู่ดีๆก็ถูกส่งไปสอบ ไม่ได้เตรียมตัว ประมาณว่าบอกวันนี้เช้าพรุ่งนี้ขึ้นรถไปสอบเลย หลังสอบเสร็จผมกุมหัวออกมา กลับถึงบ้านไปสมัครเรียน AUA ทันที - ได้เริ่ม AUA level 10 - ผลโทอิกออก เจ็ดร้อยนิดๆๆสำหรับคนอ่อนภาษาอย่างผม (จำไม่ได้เป๊ะๆ ผ่านมาสิบปีแล้ว) สอบเสร็จไม่มั่นใจจนต้องไปเรียนเพราะคิดว่าได้สอบรอบสองแน่ นั่นแสดงว่าข้อที่เดาผมเดาถูกเยอะ หรือฟลุ๊กนั่นเอง และแอบดีใจ ข่าวผมสอบผ่านและดันได้คะแนนมากนั้นทำให้สะเทือนไปทั่งวงการ(ทั้งแผนก อิอิอิ) นี่เป็นเรื่องราวที่ผมคิดว่า บางทีก็ไม่ยากเกินไป สนใจมันหน่อย เท่านั้นเอง ตอนนี้ไม่ได้ใช้แล้ว ขายของไปวันๆ ภาษาเร๊อะ ลืมไปหมดแล้วมั๊ง อิอิอิ ผมจึงอยากบ่นว่า เนื่องจากตอนเด็กผมยังเด็ก ยังไม่รู้ผิดชอบ ถ้าผมไม่เกลียดภาษาอังกฤษตอน ม 1 ตอนนั้น ผมอาจจะเก่งภาษากว่านี้ก็เป็นได้ และเผื่อคุณครูมาอ่านเจอเคสผม อาจอาจเห็นว่าก็พอมีเด็กน้อย(เด็กยังคิดไม่เป็นหรอก ม1 เอง รู้แต่ชอบ ไม่ชอบ) ที่โดนลงโทษจนอาจจะน้อยใจและจำฝังใจได้ ตระหนักส่วนนี้ด้วยก็ดีครับ จากคุณ : CLman เขียนเมื่อ : 9 ต.ค. 55 22:11:42 A:171.4.46.229 X: TicketID:340996

ความคิดเห็นที่ 22 JoshCollierMUA นี่ไม่ค่อยฟังเหมือนสำเนียงอังกฤษเท่าไหร่เลย มีวิธีดูยังไงเหรอคะ จากคุณ : วันนี้หนูมาคนเดียว เขียนเมื่อ : 10 ต.ค. 55 00:53:26

ความคิดเห็นที่ 23 เราทำงานที่ต้องเจอชาวต่างชาติทุกวัน ก็พยายามคุยไทยคำอังกฤษ 3 คำไป อย่างน้อยก็ดีกว่าไม่ได้ช่วยอะไรเขาเลย บ้างครั้งตอบเขาไม่ได้ก็รู้สึกสงสารเหมือนกัน :) จากคุณ : sasatorn เขียนเมื่อ : 10 ต.ค. 55 13:22:28

ความคิดเห็นที่ 24 จขกท เหมือนผมเป๊ะเลย ผมไปแลกเปลี่ยนที่อเมริกามาปีนึง เมื่อ8ปีที่แล้วครับ ผมสอบToeic ได้น้อยกว่า จขกท นิดนึง แต่เพื่อนผมหลายๆคนกดกันแตะ900 แล้วไม่เคยไปแลกเปลี่ยนด้วยนะ ผมนี่แบบ...เออะ กุ เฟล ดูซีรี่ ก็ช่วยได้นะผมว่า แต่ถ้าเรื่องไหนบทสนทนาไม่ยากเกินไป เปิดซัปอังกฤษแล้วอ่านตาม จะช่วยให้คุ้นประโยคมากขึ้น จากคุณ : ชื่อนี้ไม่ซ้ำชัวร์ เขียนเมื่อ : 10 ต.ค. 55 20:56:31

ความคิดเห็นที่ 25 ขอบคุณมากๆค่ะ จากคุณ : ข้างหลังหล่อมาก V7 เขียนเมื่อ : 11 ต.ค. 55 00:59:01

ความคิดเห็นที่ 26 อยากโดนบังคับให้ไปฝึกภาษาที่เมืองนอกจัง ลงทุนมากขึ้นนิดแต่ดีกว่าเรียนสถาบันในไทย ไม่ใช่ว่าสถาบันไม่ดีนะแต่ตัวเองไม่ดีมากกว่า ต้องไปเมืองนอกมันบังคับในตัวเลย จากคุณ : EaCaN เขียนเมื่อ : 11 ต.ค. 55 10:17:33

ความคิดเห็นที่ 27 มีประโยชน์มากครับ ผมไปสอบมา 2 ครั้ง ไม่ผ่านเลย ครั้งแรกได้ 260 ครั้งที่ 2 295 เพิ่มมานิดเดียว อดได้งานเลยครับ เพราะเหลือแค่ Toeic อย่างเดียวที่ไม่ผ่าน ภาษาอังกฤษ ผมอ่อนจริงๆ .... จากคุณ : art anfield เขียนเมื่อ : 11 ต.ค. 55 12:22:19

ความคิดเห็นที่ 28 ขอบคุณมากนะคะที่เอามาแชร์ หนูจะต้องขยันกว่านี้ หนูจะฝึกพูดฝึกฟังให้บ่อยขึ้น เท่าที่จะทำได้เลย อยากพูดเป็นแบบเก่งๆบ้าง T___T จากคุณ : เจ้าหญิงกะดอกไม้ เขียนเมื่อ : 11 ต.ค. 55 23:49:47

ความคิดเห็นที่ 29 ขอบคุณ จขกท.มากเลย เป็นไอดอล เลยอะค่ะ  จุ๊บๆๆๆ แก้ไขเมื่อ 12 ต.ค. 55 12:35:23 จากคุณ : ple-potato เขียนเมื่อ : 12 ต.ค. 55 12:35:13

ความคิดเห็นที่ 31 ขอบคุณสำหรับทริกนะคะ ... ชอบตรงที่ให้ดูคลิป youtube มากเลยค่ะ ตอนนี้เราก็ดูอยู่ตลอดเลย แต่เราจะเน้นไปเปิดตรง Education ที่มันแยกเป็นวิชาๆ มากกว่า เวลาดูเลย ดูไป หาวไป แหะๆ แบบว่ามันแอบยากอะ บางทีวิชาก็น่าเบื่อ เลยดูได้ไม่นานเท่าไหร่เลย ตอนนี้จะเปลี่ยนไปดู Channel ปรกติบ้างละ ตะกี้เปิดไปดู cookingwithdog มา ตลกมากค่ะ ชอบสำเนียงน้องหมามาก มันเข้าขั้นแปลกจริงนะ ! จากคุณ : Zhang ANQI เขียนเมื่อ : 13 ต.ค. 55 04:16:25

ความคิดเห็นที่ 32 แก้ไขเมื่อ 14 ต.ค. 55 01:22:33 จากคุณ : OhBoW เขียนเมื่อ : 13 ต.ค. 55 22:04:23

ความคิดเห็นที่ 33 ช่วยแนะนำ โพสคลิป นำร่องสักคลิปสิครับจะได้เป็นแนวทางในการฟัง จากคุณ : HyohaZ เขียนเมื่อ : 14 ต.ค. 55 20:47:18

ความคิดเห็นที่ 34 ชอบแนวทาง ของเจ้าของกระทู้ครับ  มีประโยชน์และเป็นแนวทางให้ตัวผมด้วย  ขอบคุณมากๆ และขอชื่นชมครับ ^^ จากคุณ : หนุ่มบางแค (ViRus_Max) เขียนเมื่อ : 14 ต.ค. 55 21:35:02

ความคิดเห็นที่ 35 เคยสอบที่ทำงานจัดสอบ ครั้งแรก ไม่อ่านอะไรเลยนะคะ แต่ได้ฝึกการฟังมานิดหน่อย 490 ค่ะ ได้การอ่านเยอะสุดในองค์กร ในรอบที่สอบ การฟังร่วงกราววว 5555 จากคุณ : เจ้าหญิงนอกนิยาย เขียนเมื่อ : 14 ต.ค. 55 23:55:10

ความคิดเห็นที่ 36 http://youtu.be/yK_fEX8WNf8 แนะนำครับโดยส่วนตัวชอบเรื่องแนวๆนี้ เลยอยากจะมาร่วมแชร์ด้วยกันครับ *ลิ้งไม่ขึ้นแหะ แก้ไขเมื่อ 15 ต.ค. 55 00:05:36 จากคุณ : จิรสิงห์ เขียนเมื่อ : 15 ต.ค. 55 00:05:05

ความคิดเห็นที่ 37 ปาดดดดด จากคุณ : เมื่อวาน เขียนเมื่อ : 17 ต.ค. 55 12:03:34