Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
เคล็ดลับสัมภาษณ์งาน ติดต่อทีมงาน

คอลัมน์สารพันปัญหาเงินทอง: ประวีร์ พิชัยศรทัต

         เรียนคุณประวีร์ ที่นับถือ
         ดิฉันเขียนมาเพื่อขอเรียนปรึกษาและขอทราบหลักการสัมภาษณ์งาน เนื่องจากจะต้องไปสอบสัมภาษณ์ต่อจากข้อเขียนซึ่งข้อเขียนสอบผ่านไปแล้วค่ะ การสอบสัมภาษณ์นี้ได้ยินมาว่าบริษัทคัดคนออกเกือบครึ่งทุกรุ่น ดิฉันและเพื่อนที่ไปสมัครงานด้วยกันรู้สึกตื่นเต้นและกังวลอยากมีหลักช่วยค่ะ เพราะถ้าไม่ได้งานนี้ก็คงจะลำบากเรื่องรายได้อยากทราบด้วยว่าคำถามหลักๆ ที่จะต้องถูกถามกันในการสัมภาษณ์แน่ๆ คืออะไรบ้าง  ดิฉันอ่านไทยโพสต์จากที่ฝึกงานได้ทุกวัน และจะรอคำตอบจากคุณประวีร์นะคะ
         ทิพย์  เขตวัฒนา

         ตอบคุณทิพย์ เขตวัฒนา
         สวัสดีครับท่านผู้อ่าน ในกรณีของคุณทิพย์นี้ ผมก็เชื่อว่าท่านที่เคยต้องไปให้สัมภาษณ์ ตัดสินชิงตำแหน่งที่ว่างกับเขาคง จะจำความรู้สึกได้ เคยไหมที่รู้สึกตื่นเต้นประหม่า และกลัวแบบไม่มีสาเหตุเมื่อถึงเวลาสัมภาษณ์งาน แถมบ่อยครั้งที่เจอคำถามง่ายๆ แต่ไม่รู้จะตอบอย่างไรเสียอีก
 
       หลักในการตอบคำถามสัมภาษณ์ เริ่มจากที่คุณพ่อผมเคยสอน คุณพ่อผมเป็นอาจารย์แพทย์ครับ มีการสัมภาษณ์นักเรียนแพทย์และสัมภาษณ์อื่นๆบ่อย หลังๆ คุณพ่อผมคงเห็นผมชอบพูดยาว อธิบายเยอะ จึงเขียนลงกระดาษมาให้ผมเก็บไว้ ซึ่งมี สี่ปัจจัยต่อมาทีหลังผมมีโอกาสไป  certified ได้เป็นวิทยากรหลักสูตร  High Impact  Presentation ของสถาบันมีชื่อของสหรัฐฝรั่งบอกว่าต้องมีอยู่สี่ปัจจัยเหมือนกันกับที่พ่อบอกเลย คือ precise  คือตรงประเด็น concise  คือไม่พูดยืดยาว เยิ่นเย้อ simple  การใช้ภาษาให้เข้าใจง่ายๆ และ clear  คือได้ใจความชัดเจน สรุปแล้วควรตอบให้ตรงประเด็น กระชับ ได้ใจความ มีความคิดสร้างสรรค์ รวมถึงยกตัวอย่างเพื่อให้คำตอบชัดเจนยิ่งขึ้น ที่สำคัญข้อมูลต้องถูกต้องและเป็นความจริง ซึ่งโดยทั่วไปการสัมภาษณ์ส่วนใหญ่จะใช้เวลาตั้งแต่ 20 นาที-ถึงเกิน 1 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับประสบการณ์ รูปแบบของงานและองค์กร และตำแหน่งงานของผู้สมัคร นอกจากการเตรียมตัวตอบคำถาม ควรให้ความ สำคัญเรื่องการแต่งกายบุคลิกภาพ และความตรงต่อเวลาด้วยนะครับ

        ต่อมาก็เรื่องคำถามที่มักต้องเจอเป็นประจำเวลาสัมภาษณ์ผมรวบรวมมา เรียกว่า สิบคำถามโหด ที่เราต้องผ่านไปให้ได้ ลองอ่านคำแนะนำในการผ่านด่านอรหันต์เป็นแนวทางด้วยนะครับ แล้วนำไปปรับใช้ให้เหมาะกับรูปแบบการสัมภาษณ์ของตัวเอง อย่าลืมว่า 10 คำถามนี้ไม่มีคำตอบใดที่ถูกหรือผิด เพราะล้วนแต่เป็นคำถามที่แสดงถึงความคิดสร้างสรรค์ ทัศนคติต่างๆ เกี่ยวกับงาน ที่จะบ่งบอกระดับสติปัญญา (intellectual) หรือความฉลาดในตัวเรา

        ที่สำคัญนะครับ ถ้าหากมีการเตรียมพร้อมและซ้อมูลมากเท่าไหร่ ความมั่นใจก็มากขึ้นเท่านั้น เหมือนอย่างที่สามก๊กกล่าวไว้ว่า รู้เขารู้เรา รบร้อยครั้งชนะร้อยครั้ง การซ้อมนี้ผมว่าไม่ควรซ้อมพูดคนเดียว ที่เรียกว่า  practice แต่เพียงอย่างเดียวนะครับ แต่ควรหาคู่ซ้อม แล้วพูดให้เขาฟัง และให้เขาช่วย  comment หรือแก้ ออกความเห็นให้ อย่างที่เรียกว่า rehearse ด้วย จะทำให้พูดได้ดีขึ้น

        ด่านนี้ เตรียมฝึกไปได้เลยครับ ผมรวมทั้งคำถามที่มักถูกถาม และสิ่งที่ควรทำ/ตอบ และไม่ควรไว้แล้ว (do คือควร ส่วน  don't คือไม่ควรนะครับ)

         1. ช่วยเล่าเกี่ยวกับตัวคุณให้เราฟัง
         Do  ใช้เวลาเพียง 2-3 นาที สั้นๆ แบบกระชับได้ใจความ บอกเหตุผลที่ว่าทำไมเราจึงเป็นผู้สมัครที่ดีที่สุดสำหรับตำแหน่งนี้ (เตรียมมา) รวมถึงยกตัวอย่างให้ฟังเพื่อช่วยอธิบายและเพิ่มความเข้าใจเกี่ยวกับตัวเรา คำถามข้อนี้ถ้าตอบได้ไม่ดีก็คงลำบากครับ เพราะส่วนใหญ่ก็เป็นที่รู้กันอยู่แล้วว่าเขาต้องถาม แล้วยิ่งถ้าตอบไม่ดี ผู้สัมภาษณ์จะต้องคิดว่าเราไม่มีการเตรียมตัวมา หรือ ไม่ตั้งใจ คือละเลย ไม่เห็นความสำคัญของตำแหน่งงาน
         ตอบให้ดี เช่น "หลังจากเรียนจบด้านบัญชีและทำงานที่ บริษัทตรวจสอบบัญชีมา 5 ปี ทำให้เป็นคนทำงานเร็วและละ เอียดรอบคอบ เพราะการตรวจสอบบัญชีแต่ละครั้งมีระยะเวลากำหนดชัดเจนว่ากี่วัน หรือกี่สัปดาห์ ทั้งยังฝึกความเป็นผู้นำ เพราะ ต้องดูแลน้องในทีมที่ออกตรวจงานด้วยกัน รวมถึงแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าได้ดี สิ่งเหล่านี้ทำให้ดิฉันได้รับมอบหมายดูแลงานโปรเจ็กต์ใหญ่ๆ อยู่เสมอ"

         Don't  การเล่าและบรรยายทุกสิ่งทุกอย่างเกี่ยวกับตัวเอง ตั้งแต่จบประถม มัธยม เข้ามหาวิทยาลัย จนทำงาน แต่ไม่มีจุดเด่นอะไรเพียงพอที่จะทำให้ผู้สัมภาษณ์รู้สึกสนใจในตัวคุณ ถึงประวัติของคุณจะดีอยู่ก็เถอะครับ
         ผมขอเอาไว้ต่อในฉบับหน้านะครับ.

         วันนี้เป็นตอนที่สอง จากที่คุณทิพย์ถามถึงหลักการสัมภาษณ์งาน เนื่องจากจะต้องไปสอบสัมภาษณ์ต่อจากข้อเขียน ซึ่งคนส่วนใหญ่จะกังวลเวลาต้องเข้าสัมภาษณ์ หลักการเรื่องการตอบและคำถามหลักๆ ที่จะต้องถูกถามกันในการสัมภาษณ์แน่ๆ แล้วยังมีความตื่นเต้น ประหม่า และกลัวแบบไม่มีสาเหตุเมื่อถึงเวลาสัมภาษณ์งาน

         แถมบ่อยครั้งที่เจอคำถามง่ายๆ แต่ไม่รู้จะตอบอย่างไรเสียอีก ที่ถามนั้น ผมรวบรวมและได้พูดไปในตอนแรก คือ ฉบับที่แล้วไปบางส่วนแล้วนะครับ เรามาต่อเรื่องคำถามที่มักต้องเจอเป็นประจำเวลาสัมภาษณ์ผมรวมมา เรียกว่าสิบคำถามโหด ที่เจอประจำและเราต้องผ่านไปให้ได้ อย่าลืมว่าต้องนำไปปรับใช้ให้เหมาะกับรูปแบบการสัมภาษณ์ของตัวเอง และ 10 คำถามนี้ไม่มีคำตอบใดที่ถูกหรือผิด เพราะล้วนแต่เป็นคำถามที่แสดงถึงความคิดสร้างสรรค์ ทัศนคติต่างๆ เกี่ยวกับงาน ที่จะบ่งบอกระดับสติปัญญา (intellectual) หรือความฉลาดในตัวเราครับ คำถามที่สองคือ

        2. ทำไมคุณถึงคิดว่าเหมาะกับงานนี้
         Do  เราเตรียมตัวมาแล้ว หางานมาตั้งนานกว่าจะเจอที่เหมาะ สรุปคือโอกาสมาถึงแล้วครับ อย่า กลัวที่จะพูด อาจจะเริ่มจากประสบการณ์และความสามารถที่เคยผ่านมา หรือความชอบและสนใจ อย่าลืมว่าความชอบหรือสนใจจะทำให้เราศึกษาและทำสิ่งนั้นได้ดี อันเป็นสาเหตุทำให้คุณเหมาะสมที่สุดสำ หรับตำแหน่งนี้ แล้วต่อด้วยเหตุผล ตัวอย่าง กรณีศึกษาสิ่งที่เป็นจุดเด่นและแตกต่างจากผู้สมัครคนอื่นหรือความสามารถพิเศษ
         กรณี ที่เพิ่งจบการศึกษาหมาดๆ ถ้าสมัยเรียนทำกิจกรรมมาเยอะ เช่น ออกค่าย ฝึกงาน โครงการนักเรียนแลกเปลี่ยน ฯลฯ อย่าลังเลที่จะบอกเล่าว่ากิจกรรมเหล่านั้น ทำให้ตัวเองเป็นคนที่เข้ากับคนอื่นง่าย รู้จักปรับตัว ยอมรับความคิดเห็นของคนอื่นและ เรียนรู้เร็ว เป็นต้น
         หากตกที่นั่งเด็กเรียน ไม่ค่อยสนใจกิจกรรม ให้ ตอบว่าเป็นคนที่ทุ่มเทกับเรื่องที่ได้รับผิดชอบเช่น เรื่องเรียนหรือรายงานกลุ่มอาจยกเกรดเฉลี่ยเลขสวยๆ มาเป็นตัวอย่าง หรือวิธีการเลือกวิชาเรียน ที่แสดงให้เห็นว่ามีการเตรียมตัว วางแผนการเรียนมาเป็นอย่างดี พยายามเชื่อมให้เกี่ยวกับเรื่องงานหรือสิ่งที่กำลังถูกถามนะครับ

         Don't  การตอบคำถามสั้นเกินไป หรือ พูดสั้นๆ เช่น "ด้วยประสบการณ์ทำงาน 2 ปี ที่ผ่านมา ผมเชื่อว่าสามารถทำงานนี้ได้" แล้วจบทันที ในกรณีนี้ คุณอาจจบเห่ เพราะไม่มีเหตุผลและตัวอย่างที่จะทำให้ผู้สัมภาษณ์เชื่อและมั่นใจในตัวคุณอย่าลืมครับว่าเวลาพูดอะไร ขอให้มีเหตุผลและตัวอย่างประกอบด้วย จะเพิ่มความน่าเชื่อถือและมีผลต่อimage เราเองด้วย

         3. ตามความเข้าใจของคุณ คิดว่าตำแหน่งนี้ต้องรับผิดชอบงานอะไรบ้าง
         Do ทำการบ้านก่อนมาสัมภาษณ์ด้วยการอ่านรายละเอียดของงานและคุณสมบัติของผู้สมัครที่ทางบริษัทต้องการ ทำความเข้าใจกับมัน ตอบให้สั้นและ กระชับใจความ สิ่งสำคัญก่อนตอบต้องมั่นใจว่าเข้า ใจ ถ้าไม่แน่ใจส่วนไหนไม่ต้องกลัวที่จะถาม อาจตั้งคำถามกลับในทำนองว่า เข้าใจตำแหน่งงาน แต่ไม่แน่ ใจเกี่ยวกับข้อมูลกลุ่มลูกค้า และผลิตภัณฑ์มากนัก อยากให้ช่วยอธิบายให้เข้าใจในเบื้องต้น

         Don't  ถ้าไม่รู้ อย่าพยายามตอบ เพราะถ้าตอบผิด นั่นหมายความว่าคุณไม่ได้ทำการบ้านมา ไม่ได้ให้ความสนใจกับงานนี้ แถมยังมั่วอีกต่างหากครับ ผ่าน 3 ด่านคำถามโหด คือเป็นคำถามทั่วไปที่มักถามกัน แต่คำตอบที่ได้จากผู้สัมภาษณ์มา สามารถที่จะดูอะไร หรือรู้อะไรหลายๆ อย่างจากตรงนี้ครับ อีก 6 คำถามที่เหลือไม่น่ายากเกินความสามารถ

         4. คุณรู้อะไรเกี่ยวกับบริษัทเราบ้าง
         Do  ก่อนมาสัมภาษณ์งาน จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องทราบและเข้าใจข้อมูลต่างๆ เกี่ยวกับองค์กรที่สมัคร เช่น ผลิตภัณฑ์ กลุ่มลูกค้า คู่แข่ง ภาพลักษณ์องค์กร ที่มาและประวัติขององค์กร ฯลฯ สิ่งเหล่านี้แสดงให้เห็นว่า คุณได้ทำการบ้านมา และให้ความสนใจกับองค์กรอย่างแท้จริง อย่าลืมย้ำตอนท้ายด้วยว่า หลังจากที่ศึกษาเกี่ยวกับองค์กร ทำให้เรามีความสนใจที่อยากจะทราบเกี่ยวกับองค์กรเพิ่มเติม

         Don't  การตอบแบบมั่นใจในตัวเองจนเกินไป หรือคำตอบที่สร้างภาพพจน์ไม่ดีให้กับตัวเอง เช่น "ทราบ มาว่าที่นี่กำลังขาดผู้จัดการฝ่ายการตลาด ด้วยประ สบการณ์งาน 3 ปี ในด้านนี้ ทำให้คิดว่าสามารถแก้ปัญหานี้ได้" คำตอบอย่างนี้นอกจากไม่สร้างทัศนคติที่ดีขององค์กรให้กับตัวเองแล้ว ผมว่ายังเป็นการโอ้ อวดตัวเองเกินไปครับ ติดตามต่อไปฉบับหน้านะครับ.

         สวัสดีครับ สารพันปัญหาวันนี้ เป็นเรื่องที่คุณทิพย์ถามเข้ามาเรื่องการสัมภาษณ์งานคราวนี้เป็น ตอนที่สามในหลักการสัมภาษณ์ ในเวลาที่ต้องไปสัมภาษณ์ทำงาน หรือต่อจากสอบข้อเขียนก็เป็นการสอบสัมภาษณ์ ซึ่งคนส่วนใหญ่จะกังวลเวลาต้องเข้าสัมภาษณ์นี้ครับ หลักการตอบคำถามหลักๆ ที่จะต้องถูกถามกันในการสัมภาษณ์แน่ๆ ปกติแล้วเรายังมีความตื่นเต้น ประหม่า และกลัวแบบไม่มีสาเหตุเมื่อถึงเวลาสัมภาษณ์งาน
         แถมบ่อยครั้งที่เจอคำถามง่ายๆ แต่ไม่รู้จะตอบอย่างไรเสียอีก ผมรวบรวมและได้พูดไปในสองตอนแรกไปบางส่วนแล้ว ก็มาต่อตอนที่สามในเรื่องคำถามที่มักต้องเจอเป็นประจำเวลาสัมภาษณ์ เรียกว่าสิบคำถามโหด ที่เจอประจำและเราต้องผ่านไปให้ได้ อย่าลืมว่าต้องนำไปปรับใช้ให้เหมาะกับรูปแบบการสัมภาษณ์ของตัวเอง และ 10 คำถามนี้ไม่มีคำตอบใดที่ถูกหรือผิด เพราะล้วนแต่เป็นคำถามที่แสดงถึงความคิดสร้างสรรค์ ทัศนคติต่างๆ เกี่ยวกับงาน ที่จะบ่งบอกระดับสติปัญญา (intellectual) หรือความฉลาดในตัวเราครับ คำถามที่ห้าคือ

        5.อะไรคือจุดมุ่งหมาย (เป้าหมาย) ระยะยาวในการทำ งานของคุณ
         Do  พูดถึงสิ่งที่อยากทำในอนาคต และต้องบอกวิธีที่จะทำสิ่งนั้นให้สำเร็จ ซึ่งควรจะเกี่ยวข้องกับงานที่สัมภาษณ์อยู่ เช่น อีก 5 ปีข้างหน้า อยากเป็นผู้จัดการฝ่ายการตลาดที่เต็มไปด้วยศักยภาพและความสามารถในการพัฒนาพนักงานและองค์กรให้มีประสิทธิภาพ การที่จะถึงจุดนั้นได้ต้องมีการเตรียมตัวเป็นอย่างดี เช่น การได้มีโอกาสทำงานที่บริษัทนี้ก็เป็นสิ่งหนึ่งในการ เตรียมตัวสำหรับอนาคต และอาจเพิ่มเติมตัวอย่าง เช่น วิธีการทำงานของตน เป็นต้น คำถามชนิดนี้เป็นคำถามที่ต้องเตรียมคำตอบนะครับ และควรเป็นคำตอบที่เป็นไปได้จริงด้วย

         Don't  การตอบในสิ่งที่ไม่เกี่ยวข้องกับงานที่สมัครอยู่ (ถึงแม้จะเป็นความจริง) เพราะไม่เกิดประโยชน์ใดๆ เช่น อยากเปิดร้านอาหารในอีก 10 ปีข้างหน้า ถ้าตอบเช่นนั้น อาจโดนถามต่อว่าแล้วมาสมัครงานที่นี่ทำไม แต่ที่สำคัญผู้สัมภาษณ์จะมีแนวโน้มที่จะถามอย่างอื่นต่อไปเพราะคุณตอบไม่ตรง และอาจจะสงสัยในทักษะไหวพริบของคุณ และคุณอาจจะไม่ได้งานก็เป็นได้

         6.ถ้าได้งานนี้ คุณคิดว่าจะทำงานที่นี่นานเท่าไหร่ จะอยู่นานไหม
         Do ผู้สัมภาษณ์ก็ถามไปอย่างนั้น เพราะคาดว่าผู้ถูกสัมภาษณ์คงไม่ตอบว่าอยู่ชั่วคราว แป๊บเดียวหรอกครับ แต่ลึกๆ แล้ว ผู้สัมภาษณ์มักจะมีอะไรมากกว่านั้น ในเบื้องลึก เวลาตอบให้มุ่ง ประเด็นไปที่ความทุ่มเทของตัวเองและความท้าทายของงาน ด้วย การบอกว่าตราบใดที่งานมีความยากและท้าทาย ก็จะขอทุ่มเทความ สามารถของตัวเองให้เต็มที่เพื่อสร้างคุณประโยชน์ให้กับองค์กร

         Don't บอกแผนการหรือระยะเวลา (ซึ่งเป็นความจริง) เช่น มีแผนไปเรียนต่ออีก 2-3 ปีข้างหน้า หรือ ทางบ้านมีแผนให้ไปช่วยธุรกิจที่บ้าน

         7.อะไรคือจุดอ่อนของคุณ
         Do  ควรเลือกจุดอ่อนที่เป็นความจริงและกำลังปรับปรุงหรือพัฒนาในขณะนี้ ที่สำคัญควรบอกผลลัพธ์หลังการปรับปรุงด้วย เช่น ภาษาอังกฤษไม่แข็งแรง ซึ่งตอนนี้กำลังเรียนภาษาอังกฤษอยู่ เรียนมานานเท่าไหร่ ที่ไหน และผลการเรียนเป็นอย่างไรบ้าง

         Don't มีหลายคนเคยบอกว่าให้เปลี่ยนจุดแข็งให้เป็นจุดอ่อน เช่น เป็นคนทำงานหนักมากๆ ไม่เสร็จไม่กลับ อาจจะฟังดูดี แต่คุณกำลังทำลายตัวเอง เพราะปัจจุบันนี้การรู้จักจัดสรรเวลา (work  life  balance) เป็นประเด็นสำคัญของคุณภาพชีวิต อีกอย่างคุณกำลังโกหกเพื่อให้ดูดีแถมตอบผิดประเด็นอีกต่างหาก

         สวัสดีครับ วันนี้เป็นตอนสุดท้าย จากที่คุณทิพย์ถามถึงหลักการสัมภาษณ์งาน คนส่วนใหญ่จะกังวลเวลาต้องเข้าสัม ภาษณ์ หลักการเรื่องการตอบแล้วยังมีความตื่นเต้น ประหม่า และกลัวแบบไม่มีสาเหตุเมื่อถึงเวลาสัมภาษณ์งาน และยังมีคำถามหลักๆ ที่จะต้อง ถูกถามกันในการสัมภาษณ์แน่ บ่อยครั้งที่เจอคำ ถาม ง่ายๆ แต่ไม่รู้จะตอบอย่างไรเสียอีก ผมรวบ รวมและได้พูดไปในสามตอนแรกไปบางส่วนแล้วนะครับ เรามาต่อเรื่องคำถามที่มักต้องเจอเป็นประจำเวลาสัมภาษณ์ ผมรวมมา เรียกว่าสิบคำถามโหด ที่เจอประจำและเราต้องผ่านไปให้ได้ อย่าลืมว่าต้องนำไปปรับใช้ให้เหมาะกับรูปแบบการสัมภาษณ์ของตัวเอง และ 10 คำถามนี้ไม่มีคำตอบใดที่ถูกหรือผิด เพราะล้วนแต่เป็นคำถามที่แสดงถึงความคิดสร้างสรรค์ ทัศนคติต่างๆ เกี่ยวกับงาน ที่จะบ่งบอกระดับสติปัญญา (intellectual) หรือความฉลาดในตัวเราครับ

         คำถามที่แปดคือ
         8. ทำไมคุณถึงลาออกจากงานเก่าDo ตอบความจริงให้มากที่สุด แต่สั้นกระชับใจความ ไม่จำเป็นต้องตอบทั้งหมดถ้าความจริง มันเลวร้ายเหลือเกิน อย่าลืมว่าผู้สัมภาษณ์อาจขออนุญาตติดต่อบุคคลอ้างอิงเพื่อทำการตรวจสอบข้อมูลเหล่านั้น
         Don't ควรหลีกเลี่ยงการวิจารณ์ที่ทำงานและนายเก่า เพราะเหล่านี้จะทำให้ภาพลักษณ์ของ คุณดูแย่ และนั่นหมายถึงความกล้าที่จะวิจารณ์บริษัทต่อๆ ไปที่คุณร่วมงานด้วย

         9. อะไรคือสิ่งที่คุณชอบและไม่ชอบในงาน เก่า (หรืองานที่กำลังทำอยู่)
         Do ควรบอกสิ่งที่ชอบมากกว่าสิ่งที่ไม่ชอบ และให้คำอธิบายรวมถึงเหตุผลว่าทำไมเราจึงคิดเช่นนั้น

         Don't บอกในสิ่งที่ไม่เกี่ยวกับเรื่องงานหรืออ้างอิงถึงบุคคล เพราะนั่นหมายถึงคุณกำลังวิจารณ์ คนอื่นไม่จำเป็นต้องเล่าทุกอย่างที่แย่ๆ เกี่ยวกับงาน เพราะไม่เกิดประโยชน์อะไรขึ้นมา

         10. อะไรคือสิ่งที่คุณประสบความสำเร็จสูงสุดในชีวิต
         Do ควรจะเป็นเรื่องที่รู้สึกภูมิใจที่สุดในช่วง1-2 ปีของการทำงาน คุณอาจพูดถึงการเลื่อนขั้นปรับตำแหน่งในการทำงาน หรือตลอดระยะเวลาที่ทำงานมามีแต่ความราบรื่นไม่เคยมีปัญหากับลูกค้า หากคุณมีความสำเร็จชัดเจน เช่น สามารถทำยอดการขายได้ทะลุเป้า 200% หรือ สามารถลดต้นทุนการผลิตได้ 25% ให้เล่าที่มาของเรื่องนั้นวิธี แนวดำเนินการ ผลลัพธ์ ตลอดจนอุปสรรคที่เกิดขึ้น รวมถึงวิธีการแก้ปัญหา ถ้าเป็นผู้สมัครที่เพิ่งจบการศึกษาหมาดๆ อาจจะพูดถึงเกรดเฉลี่ย หรือความภาคภูมิใจที่สามารถสอบเข้ามหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงได้

         Don't การแต่งเรื่องขึ้นเองหรือพูดเกินจริงกว่าสิ่งที่ได้ทำ ส่งผลให้วิธีการเล่าแตกต่างไป ซึ่งผู้สัมภาษณ์ที่มีความเชี่ยวชาญ จะสามารถตั้งคำถามต้อนจนจับได้ว่าเป็นเรื่องที่แต่งขึ้น

         Tips สุดท้าย ผมมีขอฝากจากคอลัมน์ สำหรับ ท่านที่กำลังจะต้องไปสัมภาษณ์นะครับ
         ปัจจุบันนี้บริษัทบางแห่ง คำถามเหล่านี้จะถูกถามเป็นภาษาอังกฤษ ดังนั้นถ้าจะให้ดี ควรฝึกตอบทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ

         ก่อนเข้าสู่ด่านอรหันต์ปราบเซียน ควรฝึกซ้อม หน้ากระจกก่อน เพื่อตรวจบุคลิกภาพผมเองได้เป็นวิทยากรให้กับหลายสถาบันในเรื่องเทคนิคการนำเสนออย่างมีประสิทธิภาพ ผมมักจะบอกผู้เข้าร่วมอบรมเสมอว่า เมื่อถูกถามไม่ว่าจะจากการประชุมผู้บริหารในบริษัทเองก็ดี จากลูกค้าก็ดี หรือจากในการสัมภาษณ์ก็ดี ในสภาวะที่มีความกดดันเช่นนี้ เวลามีผู้ถาม เราต้องแสดงการตั้งใจฟัง มีการสบตาผู้ที่ถามอยู่ ทวนคำถามบ้างก่อนตอบ ถ้าคำถามนั้นยาวหรือซับ ซ้อน ที่สำคัญต้องมี eye contact หรือ สบตาผู้สัมภาษณ์ทุกคน เวลาตอบอย่าสบตาแค่ผู้ถามคนเดียวนะครับ เวลาฟังคำถามสบตาผู้ถามคนเดียวได้ แต่เวลาตอบต้องสบตาผู้สัมภาษณ์ทุกคน ที่ผมบอกอย่างนี้เพราะว่าส่วนใหญ่แล้วการสัมภาษณ์แต่ละครั้งจะมีผู้ สัมภาษณ์หลายท่าน อย่าหลบตาหรือมองเพดานเวลาสัมภาษณ์ แม้กระทั่งการนั่งเท้าคางหรือเท้าโต๊ะ ก็เป็นการทำให้คะแนนบุคลิกภาพลดลงอย่างน่าใจหาย

         ถ้าเจอเจ้านายต่างชาติ จะทำอย่างไรบริษัทญี่ปุ่น อยากเห็นว่าที่พนักงานที่มีความนิ่ง อดทน อ่อนน้อมถ่อมตน แต่มีความมั่นใจในตัวเอง พูดจาไม่เยิ่นเย้อ สั้น กระชับ และหากสื่อสารภาษาญี่ปุ่นได้ รับรองได้เปรียบกว่าเห็นๆ บริษัทฝรั่ง (International Firms) ส่วนใหญ่อยากได้เด็กที่มีความมั่นใจ กล้าพูดกล้าคิด ไฟแรง ทุ่มเท แต่ก็มีชีวิตด้านอื่นด้วยนะอย่างเช่น มีงานอดิเรกทำ มีเที่ยวเล่นบ้างแต่ก็ทำงาน อีกอย่างที่สำคัญเลย บุคลิกภาพ ต้อง ดูมั่นใจ ดูคล่อง ฉะฉาน พูดภาษาอังกฤษได้.

         ที่มา: หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์

จากคุณ : เม่าน้อยสู่พญาปลวก
เขียนเมื่อ : 9 ต.ค. 55 07:42:16




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com