ความคิดเห็นที่ 1 ตอนที่ไปสมัครงาน ผมก็เตรียมเอกสารไปพร้อมครับ ทางบ. เค้าก็มีโจทย์เขียนโปรแกรมมาให้ลองทำ ซึ่งผมก็ทำได้หมดครับ จากนั้นก็สัมภาษณ์กับ hr แล้วต่อด้วยสัมภาษณ์กับ หัวหน้าเลยครับ ซึ่งหัวหน้าค่อนข้างถูกใจผมอยู่ เพราะผมจบเร็ว ได้เกียรตินิยม หัวหน้าเสนอเงินเดือนให้ที่ 12k ครับ ตอนแรกผมก็บอกเขาว่าขอคิดดูก่อน (ตอนแรกหวังไว้ที่ 13,500 ครับ) แต่สุดท้ายก็ตัดสินใจไปทำครับ เพราะที่อื่นทีไ่ปสัมภาษณ์ไม่ได้เรียก และอยากได้งานไวๆ วันเริ่มงานวันแรกก็วันที่ 10 ต.ค. นี่แหละครับ (ปี 53) ช่วงที่เริ่มงานเดือนแรกๆ ยังไม่ค่อยมีอะไรมากครับ พี่เค้าให้ดูพวกวีดีโอ วิธีเขียนโปรแกรม แล้วก็เรียนรู้โปรแกรมที่ บ. ทำอยูน่ะครับ (บ.นี้เป็น Software House ครับ) หลังจากผ่านเดือนแรกไป งานเริ่มสนุกครับ สนุกว่าตอนเรียนซะอีก (ตอนเรียนนี่ดูง่ายไปเลยครับ) ก็มีเครียดบ้างนะครับ เวลาคิดไม่ออก ยิ่งตอนจะผ่านโปรยิ่งเครียดครับ เค้ามอบหมายงานมาชิ้นนึง ให้สร้างหน้าจอใหม่ของโปรแกรมอะครับ ตอนนั้นยอมรับเลยว่างงมาก แต่พี่ๆเค้าใจดีมากครับ ไม่ว่าผมจะสงสัยหรือติดอะไร ถามพี่เค้าได้ทุกอย่างเลย (แต่ผมก็ถามเฉพาะที่ติดจริงๆแหละครับ ไม่อยากเรียกบ่อย เพราะพี่เค้าก็ติดงานอยู่เหมือนกัน) ผมได้ประสบการณ์จากที่นี่เยอะมากๆครับ ผมทำไปได้ 7 เดือน ก็ตัดสินใจลาออกครับ ออกแบบยังไม่ได้งานใหม่ด้วย เพราะเหนื่อยกับการเดินทางครับ เรื่องงานผมรับได้ สนุกและท้าทายดี มีอะไรใหม่ๆตลอด แต่เดินทางไม่ไหวครับ นั่งหลายต่อ รอรถนานด้วย ซึ่งตอนที่คิดจะออกเนี่ย ผมก็มีไปสมัครหลายที่แหละครับ แต่ไม่มีที่ไหนเรียกเลย แต่ก็คงเป็นโชคของผมอีกล่ะมั้ง เมื่อมี บ. นึงที่ผมเคยไปสมัครไว้ (เป็นสถานีโทรทัศน์รายใหญ่รายนึงครับ ที่เดียวกับสรยุทธ์) โทรมานัดสัมภาษณ์ครับ ซึ่งเป็นวันเดียวกับวันที่ผมขอลาออกนั่นแหละ พอผมออกจากที่แรก พักอีก 10 วัน ก็เริ่มงานต่อเลย แล้วก็ทำจนมาถึงปัจจุบันนี่แหละครับ จากคุณ : Boatsu เขียนเมื่อ : 10 ต.ค. 55 12:05:16

ความคิดเห็นที่ 2 ทีนี้ผมขอพูดถึงเรื่องการใช้เงินของผมบ้างนะครับ ตอนทำที่แรก ผมได้ 12k แต่ยังไม่ได้ให้เงินที่บ้านครับ เพราะผ่อนโน๊ตบุ๊คอยู่ พอผ่อนหมด ก็ลาออกพอดี พอมาทำที่ปัจจุบัน ได้ 14k ผ่านโปรได้เพิ่มอีกเป็น 16.5k ครับ ตอนยังไม่ผ่านโปร ผมก็ให้แม่เดือนละ 5k ครับ เหลือเก็บบ้างนิดหน่อย พอผ่านโปรก็ให้เพิ่มเป็น 6k ครับ ตอนสิ้นปี 54 ผมได้ปรับเงินเดือนอีก 500 กลายเป็น 17k ครับ ทุกอย่างเหมือนจะผ่านไปได้ด้วยดี แต่ก็มีเรื่องที่ต้องสู้อีกครับ หนี้ที่แม่ผมจ่ายมาแต่ดอกตลอดนั้น (จ่ายไป 5-6 ปีแล้ว) แม่ผมก็ไม่อยากจ่ายแต่ดอกตลอดครับ อยากจ่ายก้อนเดียวจบไปเลย แต่ไม่มีเงินก้อนหนิ ทำไงล่ะ? แม่ผมไปขอร้องให้น้าช่วยกู้เงินจากธนาคารใหม่ครับ แล้วเอาเงินส่วนนึงไปจ่ายหนี้ข้างนอกให้หมด ผลคือ ไม่มีหนี้ข้างนอกแล้วครับ แต่ก็ต้องแลกกับการผ่อนบ้านที่หนักขึ้น เมื่อก่อนผ่อนเดือนละ 12k แต่ตอนนี้ต้องผ่อนเพิ่มเป็น 22k ถือว่าหนักทีเดียวครับ และน้องสาวผมก็เข้ามหาลัยแล้วด้วย ทำให้มีค่าใช้จ่ายเพิ่มอีก ผมจึงต้องให้เพิ่มเป็น 7.5k ครับ เดือนนึงเหลือใช้ประมาณ 8k ก็ตึงๆหน่อย แต่ก็พออยู่ได้ครับ จากคุณ : Boatsu เขียนเมื่อ : 10 ต.ค. 55 12:11:13

ความคิดเห็นที่ 3 ต่อๆ ครับ กำลังเคลิมเลย จากคุณ : peetsuker (peetsuker) เขียนเมื่อ : 10 ต.ค. 55 12:21:36

ความคิดเห็นที่ 4 รออ่านต่อๆ จากคุณ : immarch เขียนเมื่อ : 10 ต.ค. 55 12:45:08

ความคิดเห็นที่ 5 มาต่อแล้วครับ ไปกินข้าวมา ตอนที่จ่ายหนี้ข้างนอกได้หมดแล้ว แม่ผมก็ยังเครียดอยู่ครับ เพราะถึงแม้ว่าหนี้ข้างนอกจะหมด แต่บ้านที่ผ่อนมา 3-4 ปี ต้องมาเริ่มผ่อนใหม่หมด และยอดผ่อนต่อเดือนก็ 2หมื่นกว่า ซึ่งต้อผ่อนไป 15 ปี เลยครับ และคนที่ช่วยผ่อน ก็มีผมกับพี่สาวผมนี่แหละครับ แม่ผมบอกว่าอยากให้ลูกๆมีเงินเก็บไว้ใช้ไว้ซื้อของที่อยากได้บ้าง ผมก็ปลอบแม่ว่า ยังดีกว่าเราเป็นหนี้ข้างนอกนะ เป็นหนี้บ้านยังดีกว่าอีก ไม่เป็นไรหรอก ผ่อนไปเรื่อยๆเดี๋ยวก็หมด พอน้องเรียนจบก็จะมาช่วยผ่อนบ้านได้อีกแรงไง ผมยอมรับนะว่าบางทีเห็นคนอื่นเค้าซื้อของชิ้นใหญ่ๆด้วยเงินสดก็อิจฉาเหมือนกัน อยากจะมีเงินก้อนไว้ซื้อของใหญ่ๆบ้าง แต่ทำไงได้ เรามีภาระที่หนัก เวลาอยากได้อะไร ผมเลยต้องผ่อนเอาครับ แต่ผมไม่เคยใช้บัตรเกินตัวนะ ผมใช้บัตรเครดิตมาจะปีนึงแล้ว ไม่เคยผิดนัดชำระแม้แต่งวดเดียว ช่วงเรียนมหาลัย เนื่องจากเป็น ม. เอกชน จึงไม่แปลกที่ผมจะเห็นหลายๆคนขับรถมาเรียน ใช้ของแบรนเนมแพงๆ ผมไม่เคยอิจฉานะ เพราะยังไงเงินเหล่านั้นก็เป็นเงินของพ่อแม่ ถ้าใช้เงินตัวเองทั้งหมดก็ว่าไปอย่าง ตอนนี้ผมก็คงจะทำที่ปัจจุบันไปเรื่อยๆแหละครับ บางทีก็คิดอยากเปลี่ยนงานเพื่ออัพเงินเดือนบ้าง แต่อยู่ที่เดิมก็ดีอยู่แล้ว แค่จะตึงๆหน่อยเวลาจะใช้เงิน ผมคิดว่าผมโชคดีนะที่ไม่ได้เกิดมาสบายไปซะทุกอย่าง เพราะถ้าผมสบาย มีเงินใช้ตลอด ผมคงไม่ตั้งใจเรียนให้จบไวๆ เพื่อหางานทำ หาเงินมาผ่อนบ้านก็ได้ จากคุณ : Boatsu เขียนเมื่อ : 10 ต.ค. 55 12:52:18

ความคิดเห็นที่ 6 ผ่อน 22 K เฉพาะดอก หนี้ก็น่าจะประมาณ 4 ล้านกว่า ๆ ลองเจาะลึกถามคุณแม่  ยอดหนี้เท่าไร  จ่ายแล้วลดต้นเท่าไร ไม่งั้นจ่ายไปจ่ายมา  ไม่มีวันหมด เอาใจช่วย จากคุณ : --^ไชโย^-- เขียนเมื่อ : 10 ต.ค. 55 12:58:44

ความคิดเห็นที่ 7 เอาใจช่วย สู้ๆจ้า จากคุณ : hungry jack เขียนเมื่อ : 10 ต.ค. 55 12:58:57

ความคิดเห็นที่ 8 #6 22k ดอก 6k ครับ ยอดที่กู้มา 2.2 ล้านครับ ผ่อนได้ปีกว่าแล้วครับ จากคุณ : Boatsu เขียนเมื่อ : 10 ต.ค. 55 13:11:00

ความคิดเห็นที่ 9 ผิดที่ผู้ใหญ่ ไม่มีการวางแผน การเงิน แล้วโยนภาระให้เด็ก จากคุณ : amited เขียนเมื่อ : 10 ต.ค. 55 13:20:32

ความคิดเห็นที่ 10 #9 แต่ผมไม่เคยน้อยใจนะ กับการที่ต้องจ่ายหนี้ที่เราไม่ได้ก่อ ยังไงเค้าก็เป็นพ่อแม่เราครับ และตอนเด็กๆผมก็ผลาญเงินท่านไปเยอะแล้ว อย่างน้อยมันก็เป็นหนี้ที่เกิดจากการซื้อบ้าน ทำให้ผมมีที่อยู่อาศัยครับ ตอนนี้ก็ต้องสู้กันต่อไปครับ ^_^ จากคุณ : Boatsu เขียนเมื่อ : 10 ต.ค. 55 13:22:35

ความคิดเห็นที่ 11 ดีครับที่คิดได้ไว.... แต่ว่าอยากจะเตือนนะครับ..ว่าอย่ามัวหลงว่าสิ่งที่เป็นมันสุดยอด แล้ว... คนเราต้องก้าวไปข้างหน้าอีกนะครับ.... ชีวิตผมหนักกว่าคุณอีก... ซึ่งก็คิดว่าแย่แล้ว.. แต่พอออกมาข้างนอกมันมีหนักกว่าผมอีกหลายเท่า... สู้ต่อไป จากคุณ : 555 เขียนเมื่อ : 10 ต.ค. 55 13:46:27 A:58.137.9.194 X: TicketID:320980

ความคิดเห็นที่ 12 ครับ ผมรู้ตัวเองดีครับ ว่าผมยังอ่อนประสบการณ์อยู่ ผมยังต้องพัฒนาตัวเองอีกเยอะครับ ชีวิตผมอาจจะสบายกว่าอย่างที่ คห.11 บอกแหละครับ ขอบคุณที่เตือนสติครับ จากคุณ : Boatsu เขียนเมื่อ : 10 ต.ค. 55 13:53:47

ความคิดเห็นที่ 13 เป็นกำลังใจให้ สู้ๆ ครับ.... จากคุณ : songwonbin เขียนเมื่อ : 10 ต.ค. 55 13:56:46

ความคิดเห็นที่ 14 ดีแล้ว ที่ จขกท ยัง รักเรียนจนจบ ไม่งั้น ภาระ คงตกหนักที่แม่ จากคุณ : ก้นกบ เขียนเมื่อ : 10 ต.ค. 55 14:27:24

ความคิดเห็นที่ 15 เจ้าของกระทู้ เป็นคนกตัญญู ต่อไปในอนาคตต้องประสบผลสำเร็จในหน้าที่การทำงานแน่ๆ ค่ะ ปล. ที่ทำงานแรกกดเงินเดือนจังค่ะ ตอนพี่จบใหม่เมื่อ หลายปีก่อน เริ่มงานที่ 17000 ค่ะ สายงานเดียวกัน โปรแกรมเมอร์เหมือนกัน ที่สองก็ยังน้อยอยู่นะ อยากให้ลองมองงานที่ใหม่ค่ะ ลองดู บ.ต่างชาติมั๊ยคะ เงินเดือนเพิ่มขึ้นจะได้ช่วยแบ่งเบาภาระทางบ้านได้มากขึ้นด้วยค่ะ เอาใจช่วยนะคะ จากคุณ : Keep It Cool เขียนเมื่อ : 10 ต.ค. 55 14:39:05

ความคิดเห็นที่ 16 ขอบคุณ คห.15 ครับ กะว่าปีหน้าอาจจะลองๆมองหาดูครับ จากคุณ : Boatsu เขียนเมื่อ : 10 ต.ค. 55 15:14:48

ความคิดเห็นที่ 17 ไม่เห็นติดเกมส์เท่าไรเลยครับ ผมว่าคุณรักดีมากกว่า จากคุณ : dogmatist เขียนเมื่อ : 10 ต.ค. 55 15:32:26

ความคิดเห็นที่ 18 เห็นด้วยกับ คห.15 จขกท เป็นคนที่กตัญญูอนาคตตกน้ำไม่ไหลตกไฟไม่ไหม้ครับ เป็นกำลังใจให้ครับ จริงๆอยากแนะนำให้เรียนต่อ แต่ถ้าติดปัญหาเรื่องเงิน อาจจะเอาเวลาไปทุ่มให้กับเรื่องภาษาแล้วใช้เป็นบันไดไต่ขึ้นไปอีกระดับครับ ญาติผมจบตรีคอมเหมือนกันได้ภาษาไปต่างประเทศ เงินเดือนจะสองแสนกว่าแล้ว ปล.ส่วนตัวผมอดีตเด็กติดเกมส์เหมือนกันครับ (ติดแบบว่า สมัยมหาลัยเล่นทั้งวันทั้งคืน ดีว่าเอ็นติดมหาลัยของรัฐค่าเทอมเบิกได้) จบตรีมาได้แบบปริ่มๆ เหอๆ แต่เชื่อมั้ยครับจุดเปลี่ยนผมอยู่ตรงจุดนี้เหล่ะครับ ตอนนี้ก็ยังเรียนอยู่กลับมาเป็นนักศึกษา ป.เอก คนเดียวในรุ่นที่จบมา แถมพ่วงด้วยธุรกิจที่ทำกับพี่ชาย กลับไปเล่าให้เพื่อนๆหลังห้องสมัยเรียนแทบไม่มีใครเชื่อ เพื่อนยังบอกเลยนี้เอ็งต้องเป็นหน้าเป็นตาให้เด็กหลังห้องเรานะ เพราะคนเก่งๆคนอื่นยังเรียนโทกันอยู่เลย ลองดูครับ แก้ไขเมื่อ 10 ต.ค. 55 15:39:45 แก้ไขเมื่อ 10 ต.ค. 55 15:38:58 จากคุณ : nanoon45 เขียนเมื่อ : 10 ต.ค. 55 15:38:00

ความคิดเห็นที่ 19 ผมก็อดีตเด็กติดเกมส์ ตอนนี้เป็นโปรแกรมเมอร์เหมือนกัน (28) ทำอยุ่บริษัทต่างชาติ สบายเลย ถ้าไม่ติดเกมส์ตอนนั้นก็คงไม่มีวันนี้ จากคุณ : W.NoWz!! เขียนเมื่อ : 10 ต.ค. 55 19:21:29

ความคิดเห็นที่ 20 ผมก็ติดนะ เกมสมัยจอเขียวๆเลย เหมือนมันเป็นแรงบันดาลใจให้มาทางด้านคอมพ์ ตอนนี้ผมก็เป็นลูกจ้างฝั่งคล้ายๆคุณขางบน จากคุณ : KhunGong เขียนเมื่อ : 10 ต.ค. 55 23:16:15

ความคิดเห็นที่ 21 คิดว่าเกมไม่ว่าผู้หญิงผู้ชาย ก็เคยเล่นกันมาหมด แต่ผู้ชายจะหนักหน่อย อยู่ที่ คน มากกว่า ว่าจะเลือกไปทางไหน คุณเองก็มีโอกาสที่ดี ที่มีคนส่งเสีย บ้างคนเรียนไปทำงานไป แต่คุณทำอยู่ในตอนนี้เป็นสิ่งที่ดี จากคุณ : คนบางแคแค่บ้างคน เขียนเมื่อ : 11 ต.ค. 55 08:09:19

ความคิดเห็นที่ 22 ได้ขึ้นกระทู้แนะนำด้วย ขอบคุณทุกคนมากครับที่ช่วยโหวต ^_^ จากคุณ : Boatsu เขียนเมื่อ : 11 ต.ค. 55 08:33:59

ความคิดเห็นที่ 23 ผมก็ทำงานสายเดียวกับ จขกท. ตอนผมจบใหม่ ๆ ตอนปี 2554 เงินเดือน startที่ 20K ภาระก็ไม่มี    เหลือเก็บเดือนละ 7-8 พันบาท ในขณะที่เพื่อน ๆ ที่เรียนมาด้วยกันเงินเดือน start 25-30K ผมรู้สึกต่ำต้อยมาก รู้สึกว่าเป็นโปรแกรมเมอร์กิ๊กก็อกมาก แต่พอมาอ่านกระทู้นี้ความคิดนี้ก็หายไปผมรู้สึกมีกำลังใจมากขึ้นครับ เพราะยังมีคนที่แย่กว่าเรา จขกท.มีความกตัญญู ขอให้เจริญก้าวหน้ายิ่ง ๆ ขึ้นไปครับ แก้ไขเมื่อ 11 ต.ค. 55 08:54:49 จากคุณ : โปรแกรมเมอร์ฝึกหัด เขียนเมื่อ : 11 ต.ค. 55 08:49:53

ความคิดเห็นที่ 24 เด็กติดเกมเหมือนกันค่ะ 555+ ติดทั้งเกมทั้งการ์ตูน แต่จบมาได้เกียรติ 1 นะคร๊าาาาา เราเรียนสายภาษาอ่ะค่ะ เพราะเราชอบดูการ์ตูน soundtrack ชอบอ่านการ์ตูนแบบ original เล่นเกมก็เล่นเซิร์ฟต่างประเทศด้วย อยากรู้ว่าเกมมันอ่านว่าอะไร อยากศึกษาอะไรหลายๆอย่าง สุดท้ายเลยมุ่งไปทางภาษา แถมยังชอบคอมด้วยเลยศึกษาเป็นงานอดิเรกตลอดตั้งแต่เด็กๆจอคอมยังเป็นสีเขียวอยู่เลย ตอนนี้ทำงาน office ธรรมดาแต่มีหน้าที่ดูแล website ของหน่วยงาน รายได้เสริมก็ทำเว็บขายของเหมือนกัน เขียน script เอง ทำอะไรเองหมดเลย รู้สึก happy ดีค่ะ คนชอบถามว่าจบคอมมาหรอ พอเราบอกจบภาษามาก็ทำหน้าอึ้งๆ 555+ เด็กติดเกมติดการ์ตูนไม่ได้มีข้อเสียเสมอไปเนอะ คนที่เรารู้จักหลายคนก็เก่งๆทั้งนั้น ^___^ จากคุณ : ~เด็กหญิงฟันหน้าสามซี่~ เขียนเมื่อ : 11 ต.ค. 55 11:11:38

ความคิดเห็นที่ 25 อั๊ยย่ะ มารายงานตัว ตอนเด็ก ๆ ก็ติดเกมส์ครับ หนักมาก เกมส์ทุกชนิด เกมส์ออนไลน์ พอเข้าช่วง ม.4 ติดยา โดนไล่ออกจากโรงเรียนรัฐบาลชื่อดังแห่งนึง ย้ายเข้าไปเรียน ปวช. นานาชาติแห่งนึง ก็เกเร ติดเที่ยว ติดหญิง แต่มีคอมเป็นของตัวเองแล้ว (แต่ก็เล่นเกมส์อยู่) พอเข้ามหาวิทยาลัยนี่ ติดเที่ยว ติดเหล้า ติดหญิงหนักมาก - -' แทบเรียนไม่จบ โชคดีที่เป็นคนติดคอมมาก เลยเริ่มศึกษาการเขียนโปรแกรมด้วยตัวเองตั้งแต่ก่อนเข้ามหาวิทยาลัย พอเรียนช่วง ปี 2-3 ก็เริ่มรับงานเล็ก ๆ น้อย ๆ (แต่ได้เงินเดือนนึงก็ 3-10k) ซึ่งเด็กมหาลัยหาเงินได้เท่านี้ก็เยอะแล้ว พอเริ่มหาเงินได้ก็ไม่ได้ของเงินที่บ้านแล้ว ยกเว้นค่าหน่วยกิต ม.เอกชน ผมเรียน 4 1/2 ปีครับ ด้วยคอนเซ็ปไม่รีบ คนอื่นลง 6 ตัว ผมลง 3-4 ตัวก็พอ เรียนอะไรเยอะแยะ เดี๋ยวเครียด 555555 ช่วงครึ่งปีสุดท้ายผมขาดหน่วยกิตเดียว ลงตัวเดียวต้องมีเรียนวัน พฤหัส ช่วงบ่าย ผมตัดสินใจหางานทำไปด้วยไม่งั้นมันว่าง และแล้วฟ้าก็ประทาน บริษัทมาเลเซียแห่งนึงเรียกผมเข้าไปทำงาน(ด้วย port ที่ทำมา 2-3 ปี ความยาว 3 หน้ากระดาษ) ด้วยข้อเสนอว่า ผมจะไม่มาทำงานวันพฤหัสจนกว่าจะเรียนจบ และห้ามหักเงินเดือน คุยกะ MD โดยตรง เริ่มต้นเงินเดือนแรกในชีวิต 18k. ครับ ทำอยู่ได้ 4 เดือน ผมเรียนจบพอดี ก็เลยลาออกมาทำฟรีแลนซ์ ทำ Agency กับเพื่อน เดือนนึง 2-3 หมื่น แต่อย่างว่า ฟรีแลนซ์ช่วงงานเยอะก็เยอะจัด ช่วงเงียบก็แทบไม่มีจะกิน เลยสมัครงาน ได้ไปทำงานบริษัทเพลงอินดี้แห่งนึง ปัจจุบันมีเว็บไซต์และช่องทีวีดาวเทียมเกี่ยวกับเพลงนอกกระแส ได้เงินเดือน 20k ทำอยู่ประมาณ 5 ปีตอนลาออกมาได้เงินเดือนอยู่ 30k ตอนลาออกมาเป็น sr. หลังจากนั้นก็ได้ไปทำงานบริษัทใหญ่มากแห่งนึง(บริษัท A.) เป็น sr. เข้าไปแบบมึน ๆ ที่เงินเดือน 35k เข้าไปเดือนแรกแสดงผลงานได้ดี ได้รับโอกาสมาออกแบบและคุมระบบใหม่ของบริษัท แล้วก็ได้ไปเป็นทีมลีดของเซ็คชั่นที่ทำเงินให้บริษัท มีน้องโปเกม่อนร่วมทีม ๆ อยู่ประมาณ 20 คน ทำอยู่ 2 ปี เงินเดือนขึ้นน้อยมาก ง้องแง้ง ๆๆ ระหว่างนั้นก็จะมี head hunter โทรจีบเป็นระยะ ๆ บางเดือน 7-8 ราย ข้อเสนอดี ๆ ทั้งนั้น แต่ด้วยความไม่อยากเปลี่ยนงาน เพราะมันมีความเสี่ยงสูง จนวันนึงข้อเสนอที่เค้าให้มามันโอเคมาก เป็นบริษัทต่างชาติ จึงตัดสินใจก้าวต่อไป เงินเดือนมากกว่าครึ่งแสนไปแล้ว ปัจจุบันเท่างานที่ใหม่ได้ 4 เดือน กำลังเบื่อเพราะระบบการทำงานไม่ค่อยดี เลยมองหาบริษัทใหม่ที่ + เงินเดือนเพิ่มขึ้นอีก 10-15k เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา พี่ที่บริษัท A โทรมา บอกว่ากำลังจะไปคุมงานใหม่ จัดตั้งทีมใหม่ สนใจจะกลับไปทำงานกับเค้าไม๊ พร้อมข้อเสนอตำแหน่งที่สูงขึ้น และเงินเดือนที่เพิ่มขึ้นจากปัจจุบัน ถ้าสนใจจะกลับไปพี่พร้อมจะสู้เงินเดือน ตอนนี้กำลังรอเข้าพบ MD ครับ ^^ ขอพระเจ้าอวยพร ให้ผมได้รับโอกาสนี้ด้วยเถอะ ^^ ผมเรียนจบตอน 24 ปัจจุบัน อายุ 30 ใกล้จะ 31 ครับ หวังว่า รูปแบบการทำงานของผม จะเป็นแรงบัลดาลใจให้โปรแกรมเมอร์รุ่นน้องหลาย ๆ คนนะครับ เงินเดือนผมอาจจะไม่เยอะเท่าโปรแกรมเมอร์เก่ง ๆ อีกหลายคน แต่สำหรับผม มันมากพอที่จะให้แม่ ผ่อนรถสวย ๆ คันนึง ใช้ชีวิตสุขสบาย อยากทานอะไรก็ได้ทาน แค่นี้ผมว่ามันก็โอเคแล้ว จากคุณ : เค้าเปล่านะ เขียนเมื่อ : 11 ต.ค. 55 11:17:32

ความคิดเห็นที่ 26 เงินเดือนเยอะกว่าผม หนี้ก็เยอะกว่าผมด้วยครับ ... จากคุณ : Mr.โอ้ละหนอ เขียนเมื่อ : 11 ต.ค. 55 11:31:05

ความคิดเห็นที่ 27 ผมก็ติดมาหมดแล้วครับ ติดผู้หญิง ติดเกมส์ ติด creep เหลือแต่ติดผู้ชาย ผมว่าไม่ว่าจะทำอะไร ประสบการณ์ชีวิตสำคัญมากเป็นการต่อยอดในการประสบความสำเร็จในอนาคต จากคุณ : zApvEr (-POsSeSsiOnz-) เขียนเมื่อ : 11 ต.ค. 55 14:53:22

ความคิดเห็นที่ 28 สู้ ๆ ครับ รับงานนอกไหมครับ พี่มีเยอะ ทำไม่ทัน จะได้ช่วย ๆ กันครับ :) สนใจหลังไมค์มานะครับ จากคุณ : ~แสวงรัก~ เขียนเมื่อ : 11 ต.ค. 55 19:33:05

ความคิดเห็นที่ 29 ทางไอที ยิ่งเก่งโปรแกรมประยุกต์กับงานของแผนกต่าๆ และขอให้ได้ภาษาสื่อสารได้อีก ยิ่งรุ่ง รุ่งตั้งแต่อายุน้อยๆ ด้วย จากคุณ : Christian Chang เขียนเมื่อ : 11 ต.ค. 55 22:10:24