ความคิดเห็นที่ 1 ขอพูดจากมุมมองและประสบการณ์ของผมเองนะครับ สินค้าและบริการของผมที่เคยทำให้ลูกค้าในต่างประเทศต้องใช้วัตถุดิบ ซึ่งผู้ที่สามารถผลิตวัตถุดิบให้ผมได้ในเมืองไทยมีเจ้าเดียวครับ เป็นผู้ผลิตเครื่องเขียนรายใหญ่ของไทยก่อตั้งมานานมาก ออกแนวครอบครัวคนจีน ผมใช้วัตถุดิบจากรายนี้มาประมาณเกือบ 10 ปี ตั้งแต่งานเล็กไปจนถึงงานใหญ่ จนเมื่อ 3 ปีที่แล้วผมได้ลองค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับวัตถุดิบของผมก็พบว่าในเมืองไทยคงจะมีเจ้านี้เจ้าเดียวและรู้สึกว่าเขาไม่ได้มีการพัฒนาเท่าที่ควร เลยลองหาแหล่งวัตถุดิบจากต่างประเทศ (สหรัฐอเมริกา) ซึ่งมีผู้ที่สามารถจะผลิตวัตถุดิบให้ผมได้ประมาณ 40 ราย และมีคุณภาพดีกว่ามาก แม้ว่าราคาจะสูงกว่าก็ตาม ผมจึงตัดสินใจเปลี่ยนไปใช้วัตถุดิบจากอเมริกา ผมมองว่าข้อเสียของการที่ธุรกิจไม่มีคู่แข่ง อย่างหนึ่งเลยก็คือขาดการพัฒนา ซึ่งทำให้เราไม่รู้ว่าธุรกิจเราอยู่ในระดับใด จากคุณ : อาคารกระดาษ (อาคารกระดาษ) เขียนเมื่อ : 11 ต.ค. 55 17:30:31

ความคิดเห็นที่ 2 ไม่ใช่ไม่อยากแข่ง แต่มันแข่งไม่ได้มิใช่หรือ อะฮุอะฮุอะฮุ /โดนอุ้ม จากคุณ : PaBo เขียนเมื่อ : 11 ต.ค. 55 18:02:43

ความคิดเห็นที่ 3 บอกเค้าไปว่า ถ้าประเทศไหนที่เวลาผ่านไป 20 ปี ทุกอย่างเหมือนเดิม  ราคาของเท่าเดิม ค่าแรเท่าเดิม  ประเทศนั้น  ก็คงไม่น่าอยู่สำหรับคนในประเทศเช่นกันครับ จากคุณ : โดมในดวงใจ เขียนเมื่อ : 11 ต.ค. 55 18:35:47

ความคิดเห็นที่ 4 ฝรั่งเริ่มม้วนเสื่อ  หลังจากเจอซัมซุง หัวเหว่ย ราคาถูกกว่า จากคุณ : --^ไชโย^-- เขียนเมื่อ : 11 ต.ค. 55 18:50:34

ความคิดเห็นที่ 5 จขกท พูดถึงสองเรื่อง 1) ค่าแรงถูก แสดงว่าฝรั่งก็ชอบของถูกเหมือนกันนะเนี่ย   โหจะให้ค่าครองชีพเหมือน 20 ปีก่อนก็เกินปาย 2) ธุรกิจผูกขาดโดยคนไม่กี่ตระกูล หมายถึงว่า 20 ปีก่อนมีการแข่งขันกันมากกว่าตอนนี้เหรอครับ  มันน่าจะกลับกันนะ  เมื่อก่อนเบียร์มีเจ้าเดียว  แล้วก็มีช้างมาตีตลาดเล่นเอาสิงห์วูบไปพักใหญ่ อีกเรื่องที่อาจจะไม่เกี่ยวนัก  คือตลาดประกอบเครื่องคอมพิวเตอร์แบรนด์ไทย ที่สมัยก่อนมีหลายเจ้ามากกว่าตอนนี้ครับ  ตอนนี้โดนแบรด์นอกตีตลาดไปหมด จากคุณ : Ter @ AFC เขียนเมื่อ : 11 ต.ค. 55 19:40:26

ความคิดเห็นที่ 6 เราว่าฝรั่งพูดก็ถูกนะ ในแง่คนต้องการ แต่ไอ้เราคนไทย ในแง่มุมคนอยู่น่ะ  ก็อยากบอกฝรั่งสองคนนั้นว่าเชิญกลับประเทศไปเหอะ หากรับไม่ได้ จากคุณ : ลูกกระปุก เขียนเมื่อ : 11 ต.ค. 55 19:59:34

ความคิดเห็นที่ 7 ถ้าคิดแบบนี้ก็คงต้องreinvestไปประเทศด้อยพัฒนาอยู่ร่ำไป  บอกว่าชอบค่าแรงถูก แต่อยากให้ราคาถูกกำหนดโดยผู้ซื้อ ดูตรรกะแปลกๆอยู่นะ จากคุณ : ยัยนู๋งก เขียนเมื่อ : 11 ต.ค. 55 21:11:24

ความคิดเห็นที่ 8 เรื่องค่าครองชีพสูงขึ้น โคตรจะธรรมดาครับ ค่าครองชีพเราสูงขึ้น ก็เพราะมีการลงทุนในบ้านเรามากขึ้น คุณภาพคน คุณภาพสถานที่ คุณภาพของการบริการ ทุกๆ อย่างมันสูงขึ้น สมัย 20 ปีที่แล้ว มันสบายเท่าประเทศไทยสมัยนี้มั้ยล่ะครับ อีกเรื่อง ปัจจัยภายนอกก็มีผลโดยตรงต่อค่าใช้จ่ายที่ถีบตัวสูงขึ้น อย่างค่าน้ำมัน และราคาสินค้าจากคู่แข่งทางการค้านานาประเทศ อย่างจะให้เรากดราคาตัวเอง ขายต่ำกว่าคนอื่น ก็ไม่ได้ 20 ปีที่แล้ว โทรศัพท์ในไทย มีสักแค่ไหน ไฟฟ้า ประปา ถนน มีๆ หายๆ คุณภาพแย่บ้างอะไรบ้าง สายการบิน ผู้ให้บริการขนส่ง ฯลฯ หลายๆ อย่างมันพัฒนาขึ้น จะให้เรากินแกลบหรือไร ถ้าจะให้เท่าเดิม พวกเค้าเองก็ต้องรู้ เพราะประเทศที่พัฒนาแล้วแทบทุกประเทศ ศก.ขยายตัวแค่หลัก 1-3% กันเป็นปกติ เพราะมันถึงจุดอิ่มตัว แต่อย่างศก.ประเทศกำลังพัฒนา มันก็ถีบตัวสูง อย่าง จีน ก็เป็นประเทศกำลังพัฒนา ศก.โตทีเกือบๆ 10% เพราะศก.ที่ขยายตัวอย่างรวดเร็ว ก็นำมาซึี่่งการพัฒนาชาติ และนำไปสู่ค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้น เพราะคุณภาพคนมันมากขึ้น คุณภาพบริการมันดีขึ้น จะเท่าเดิมได้อย่างไร ชาติพัฒนาแล้ว จึงหาทางลดต้นทุนด้วยการหอบฐานการผลิตมาประเทศจนๆ ค่าแรงถูกๆ แต่มันไม่มีทางถูกไปตลอดกาล เพราะค่าแรงมันก็ต้องเพิ่มขึ้นไปตามกาลเวลา ถ้าชาติไหนจะหอบฐานการผลิตไปที่อื่นก็ต้องคิดให้หนัก เพราะ ไทย ไม่ได้มีดีแค่ ถูก อย่างเดียวอย่างที่เข้าใจ ข้อดีอย่างแรงของเราคือทำเลที่ตั้งงเรา ไทย คือศูนย์กลางภูมิภาคเอเีชียตะวันออก/ใต้ อย่างแท้จริง อีกหน่อย จีน ต้องเข้าหาเราอีกเยอะ อีกทั้ง การที่เราพัฒนาขึ้น ค่าครองชีพสูงขึ้น ค่าแรงสูงขึ้น ก็มาพร้อมกับระบบพื้นฐานที่ดีขึ้น และรองรับกับศก.และอุตสาหกรรมได้ดีขึั้้น ลองเสี่ยงไปเวียดนาม, ลาว, กัมพูชา, พม่า โอเคว่าคุณได้ค่าแรงเรี่ยพื้นติดดินแน่ๆ แต่คุณก็ต้องทนกับโครงสร้างพื้นฐานที่ห่วยแตก และเมื่อประเทศกำลังพัฒนาเหล่านี้เติบโต สักวันค่าแรงพวกนี้ก็จะสูงเหมือนไทย และอาจจะไม่นานนักด้วย แล้วเมื่อนั้น จะเอาโรงงานยัดใส่กระเป๋ากางเกงกลับมาไทยหรือ? ปัญหาของไทย จริงๆ ไม่ใช่เรื่องแพง แต่เรื่องการกระจุกตัวมากกว่า ความเจริญมันกระจุกอยู่แต่กรุงเทพฯจนมันกลายเป็นประเทศกรุงเทพฯไปแล้ว จีนเอง ค่าแรงขั้นต่ำยังอยู่กันแค่ 100-200 หยวน/เดือน เรียกว่าต่ำกว่าค่าแรงขั้นต่ำที่สหรัฐฯแทบจะ 10 เท่า และนี่คือกุญแจที่ทำให้จีนยังโตพรวดๆ เพราะศก.จีนจะชะลอตัวลงแน่นอน ทันทีที่ "ต้นทุน" ในการขับเคลื่อนศก.ในประเทศมันแพงขึ้น ค่าแรงคนแพงขึ้น ค่ารถแพงขึ้น ค่าโทรศัพท์ ค่าสำนักงาน ค่าฯลฯ คนหันไปมองจีน เพราะศก.ขนาดใหญ่ ทำให้จากที่ราวกับตามหลังสหรัฐฯอยู่เป็นร้อยปี จะมาเห็นหลังกันไวๆ เอาเสียแล้ว แต่ในความเป็นจริง มันไม่ง่ายแบบนั้นเลย ประเทศไทย ที่ผ่านมาตลอด กว่า 70% ของ GDP ได้มาจากการส่งออก ที่คนบางส่วนอาจจะหลอกตัวเองว่าเราเป็นประเทศอุตฯ เพราะส่งออกชิ้นส่วนรถยนตร์ สิ่งทอ ยาง เครื่องประดับ ชิ้นส่วนอิเล็กฯ ฯลฯ ฟังดูไฮโซ แต่จริงๆ แล้วเป็นของตปท.ที่มาตั้งในไทยทั้งนั้น ของไทยจริงๆ ที่ขายเยอะๆ ก็ยังมีแต่ผลผลิตทางการเกษตรเป็นหลัก ทั้งๆ ที่มีนศ.จบตรีกันหลายแสน จบมหาลัยสารพัด แต่ส่วนใหญ่ดันฝันจะเป็นลูกจ้างต่างชาติ นั่งอ็อฟฟิศ แอบเล่นเฟสบุ๊ค ผ่อนไอโฟน มันก็อีแบบนี้ จากคุณ : art_sarawut เขียนเมื่อ : 11 ต.ค. 55 21:28:49

ความคิดเห็นที่ 9 ประสบการของผมกับชาวต่างชาติกลับต่างกัน จากที่ได้สัมผัส  ประเทศไทย  ยังคงเป็นประเทศที่น่าลงทุนอยู่ แม้ว่าเราจะเสียโอกาสไปมาก  กับความวุ่นวายทางการเมืองในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา รวมไปถึงผลกระทบจากน้ำท่วมใหญ่เมื่อปีที่แล้ว แต่โดยภาพรวมก็ยังน่าลงทุนอยู่มาก เศรษฐกิจประเทศเรายังมีขยายตัวสูง  และมีแนวโน้มสูงขึ้นอีก ในขณะที่ที่อื่นกลับชลอตัว         - อเมริกากำลังจะเผชิญกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยอีกรอบ       - อัตราว่างงานในเยอรมันสูงขึ้นมาก           - ความแตกต่างระหว่างคนรวยกับจนในญี่ปุ่นกำลังสูงขึ้น  หนุ่มสาววัยทำงานต้องไปทำงานพาร์ทไทม์เพิ่มขึ้น       - วิกฤตเศรษฐกิจในยุโรปที่ยังไม่กระเตื้อง       - อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจในจีนน้อยกว่าที่คาดการ แค่อยากจะบอกว่า  เมืองไทยยังน่าลงทุนสำหรับชาวต่างชาติ และแค่อยากจะบอกว่า  เทียบกับเมื่อ 20 ปีที่แล้ว  ทุกที่เปลี่ยนแปลงหมดครับ 20 ปีก่อนเคยจ่าย 30000  ตอนนี้จ่าย 2-300000 แสนก็ไม่แปลก เพราะค่าสินค้า ค่าครองชีพ ต่างก็ขึ้นกันหมด 20 ปีที่แล้ว   น้ำมันลิตรละเท่าไหร่ 20 ปีที่แล้ว   ทองราคาเท่าไหร่ 20 ปีที่แล้ว   ก๋วยเตี๋ยวชามละกี่บาท แล้วดูราคาตอนนี้ซิ เมืองไทยยังเป็นที่ที่น่าลงทุน   และอยู่อาศัยของชาวต่างชาติครับ จากคุณ : kawao เขียนเมื่อ : 11 ต.ค. 55 21:34:51

ความคิดเห็นที่ 10 คิดแปลกดี อยากกลับก็กลับไปเถอะ 20 ปี จะไม่ให้ค่าแรง ขึ้นกันลยหราาาาาา แล้วคอมพิวเตอร์ มือถือ โทรทัศน์ แต่ละร้านมันขาย เท่ากันที่ไหน   -*- จากคุณ : ขนมหลายชั้น เขียนเมื่อ : 11 ต.ค. 55 21:52:51

ความคิดเห็นที่ 11 เห็นโรงงานรอบๆ ตัว ขยาย plant กันอยู่ตลอดเวลา คนต่างชาติไม่กี่คน คงตัดสินทั้งหมดไม่ได้ซะแล้วสิ จากคุณ : . (Christian Chang) เขียนเมื่อ : 11 ต.ค. 55 21:53:47

ความคิดเห็นที่ 12 ตอบ คห.8 ตอนนี้ผมอยู่บริษัทต่างชาติ แต่ก็ไม่ได้มีความสุข หรือpassionที่อยากจะทำให้คนชาติอื่นรวย เลิกงานปุ๊บเด้งกลับบ้านทันที ผมเคยอยู่บริษัทคนไทยมาก่อน และผมรู้สึกดีมากกว่าที่จะทุ่มให้บริษัทไทย ทำโอฟรีให้ทุกวันอย่างไม่เหน็ดเหนื่อย ตอนนี้เริ่มอยากจะมีกิจการเป็นของตัวเอง เด็กไทยรุ่นใหม่ออกมาทำอะไรเองเยอะนะคับ รอบตัวผมเนี่ยเยอะเลยนะ เพื่อนบางคนตั้งบรีษัทที่ปรึกษาตั้งแต่ยังเรียนไม่จบ บางคนตั้งบริษัทเป็นผู้แทนจำหน่าย บางคนผลิตสินค้าขึ้นมาเอง แต่ทั้งหมดนั้นการเป็นลูกจ้างมาก่อน มันช่วยให้ประสบการณ์ต่อยอดในการทำธุรกิจได้เยอะเลยครับ เรื่องฝรั่งต่างชาติ ตอนนี้ผมกลับเห็นว่าเยอะขึ้นนะครับ 2 วันมานี้ฝรั่งมาถามทางผมตลอด แถวบ้านผมแถวชานเมือง ฝรั่งก็นั่งกินข้าวตามโลตัส เดินตามตลาดเยอะขึ้นอย่างเห็นได้ชัด แต่ก่อนไม่เคยมี น่าจะเป็นไปตามการขยายของเมืองด้วยส่วนหนึ่ง กรุงเทพขยายตัวเร็วมากครับ แต่ก่อนจะเจอฝรั่ง ส่วนใหญ่จะพบแต่แถวดาวทาวน์ ตามข้าวสาร สุขุมวิท ทองหล่อ ว่างๆลองไปอุดรสิครับ เหมือนเมืองขึ้นฝรั่งไปแล้วอ่ะ อุอุ ปล.อันนี้ไม่นับฝรั่งที่มาเป็นexpat หรือบินมาเป็นspeaker มาสัมมนาของบริษัทผมนะคับ อันนี้บินมาบ่อยมากแทบทุกวีค ผมล่ะขี้เกียจจะไปต้อนรับจัดการเอกสารให้ งานการอื่่นไม่ได้ทำ แก้ไขเมื่อ 11 ต.ค. 55 22:16:50 แก้ไขเมื่อ 11 ต.ค. 55 22:14:06 จากคุณ : treser[*_-] เขียนเมื่อ : 11 ต.ค. 55 22:03:07

ความคิดเห็นที่ 13 อยู่ตรงนี้ ก็เมืองไทย ก็ทนกันไปได้แต่ ช่างมัน!! ต่อให้จนกว่านี้ ก็ไม่ตาย ก็คอยทำใจอยู่นานแล้ว ก็คงไม่ว่ากัน... สิบกว่าปีแล้ว เพลงนี้ ได้ฟังไม่กี่วันก่อน.....โดน!!! ปล.ไม่เปลี่ยนเลย เมืองไทย ฮ่าๆ จากคุณ : rewrite เขียนเมื่อ : 11 ต.ค. 55 22:28:16

ความคิดเห็นที่ 14 ความคิดผม ไม่นานครับ พวกโรงงานต่างประเทศหลายเเห่งจะย้ายออก ไปพม่า เวียดนาม กัมพูชา อินโด หมด เเต่อย่างว่าประเทศพวกนี้ค่าครองชีพก็ไม่ได้ถูกเลย เเเถมตอนนี้เเรงงานเค้าเองก็เริ่มเรียกร้อง ขึ้นค่าเเรง อะไรกันเเล้ว ล่าสุดแรงงานอินโดประกาศหยุดงานทั่วประเทศไปเเล้ว จะหยุดอีกถ้ายังไม่ได้ ผมว่า ประเทศไทยต้องย้ายจากการเป็น OEM เป็น ODM ได้เเล้ว บุคลากรของเราเก่งๆมีเยอะ นักออกแบบ วิทยาศาสตร์ วิศวะ เเต่ประเด็นไม่มีใครสนับสนุนเลย รัฐบาลไม่จริงจัง คนไทยก็ไม่สนับสนุนคนไทยด้วยกัน จากคุณ : prun poa เขียนเมื่อ : 12 ต.ค. 55 00:59:17

ความคิดเห็นที่ 15 ประเด็นคือ อยากให้คนไทยรับฟังความคิดของต่างชาติครับ ไอ้ที่จะไล่ให้ออกไปจากประเทศ มันง่ายจนไม่ต้องคิด แต่ วิธีจะทำอย่างไร ให้เม็ดเงินยังอยู่ในไทย มันยากเกินไปหรือเช่นไร ผมว่า ฟังเขาแล้วเอามาคิด เอามาพิจารณา ดีกว่า ไปปิดประตูตาย ไม่ใช่หรือครับ สิงคโปร์ เขาก็ไม่ต่างจากเรา ที่ Regional HQ ย้ายฐานออก เพราะ ค่าใช่จ่ายที่เพิ่มขึ้น อยากจะให้ทุกคนมองในแง่ผู้ลงทุน มากกว่า ลูกจ้าง จากคุณ : โบกกรัก เขียนเมื่อ : 12 ต.ค. 55 02:43:49

ความคิดเห็นที่ 16 พูดในแง่ของการผูกขาดทางการค้านะครับ ที่จริงเราเองก็มีกฎหมายควบคุมการค้าให้มีการแข่งขันอย่างเป็นธรรมนะครับ โดยทฤษฎีแล้วผูกขาดไม่ได้อยู่แล้วครับ แต่ในทางความเป็นจริงไม่ค่อยได้ใช้เท่าไหร่หรอกครับกฎหมายนี้ จากคุณ : Sauce เขียนเมื่อ : 12 ต.ค. 55 07:07:09

ความคิดเห็นที่ 17 ผมว่า จขกท. ต้องฟังหลายๆกระแสฯ นะครับ  ที่เล่ามา ออกแนวแปลก มากๆๆ 1. ค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นต่างๆ ค่าแรง เป้นไปตามสากล  มันต้องขึ้นบ้าง  เทียบกับ อเมริกา  ยุโรป ญี่ปุ่น เราถุกกว่ามากมาย   ค่าทนาย อเมริกาสิ โหดสุดๆ....  ที่ไปฟังเค้าเล่ามา ผมว่าบิดเบือนไปหมด ไอ้ที่คิดแพงๆ ขึ้น ก็ฝรั่งที่เอาระบบนี้มาใช้ไม่ใช่หรือ..... ผมมีเพื่อนทำงานนานในต่างประเทศ รวมทั้งฝรั่งลอนดอน  ญี่ปุ่น ต่างอยากมาเมืองไทยทั้งนั้น  เพราะสบายๆ  ค่าครองชีพดีกว่าบ้านเค้าเยอะ 2. ที่บอกว่า ไม่มีกม. ป้องกันการผูกขาด  ขออภัย ไปหาอ่านใหม่นะครับ เค้ามีชัดเจน แต่บางครั้งคู่แข่งฟ้องไม่ได้ เพราะ  ต่างคนต่างรู้ทันกัน งง กับการยก ไทวัสดุ....  แล้ว โกลบอล ล่ะ อื่นๆล่ะ  เค้ามีเงิน ก็ทำธุรกิจได้ ไม่แปลกนะครับ  ไม่ได้มีการผูกว่า จะซื้ออะไรต้องไปที่นั่น  คุณมีเงิน ก็ทำได้ แต่ฝรั่งไมได้ทำมากกว่า  เว้น Ikea มั้งที่เค้ามาเปิด ตลาดของตกแต่ง ทำให้ ขาเก่าๆ ต้องแข่งขันมากขึ้น 3. ซื้อของราคาเท่ากับที่อื่น หรือแพงกว่า  แปลว่าคุณยังไม่เข้าใจระบบฯ    เรามีภาษี อาทิเช่น....   HDD  ส่วนใหญ่ ได้รับการส่งเสริมผลิตเพื่อส่งออก จึงไม่คิดภาษีต่างๆในการนำเข้าชิ้นส่วน  แต่หากจะกลับมาขายในปทง ต้องไปแสดงการชำระภาษีชิ้นส่วนด้วย สินค้าไทยที่ดูทันสมัย เครื่องไฟฟ้า ต่างๆ  มันแค่ประกอบในไทยครับไมได้ทำเองแต่ต้น หรือขั้นปฐม  หลายๆคน เข้าใจว่าเราผลิตได้หมด... compressor แอร์ บางยี่ห้ออยู่มานานเป้นสิบปี รู้มั้ย เค้าซื้อลวดทองแดงนำเข้า ชิ้นส่วนนำเข้า   ทีวีจอพลาสมา  จอผลิตในต่างประเทศ  ชิ้นส่วนอื่นๆก็นำเข้า ยิ่งมีแบนด์ ยิ่งซื้อเฉพาะที่ตัวเองกำหนดเท่านั้น 4. "สิงคโปร์ เขาก็ไม่ต่างจากเรา ที่ Regional HQ ย้ายฐานออก เพราะ ค่าใช่จ่ายที่เพิ่มขึ้น "  คุณแน่ใจเหรอว่าใช่ มีผุ้ขายผม เป็นตัวแทนขายที่ s'pore  วันหนึ่งตกงาน เพราะ ญี่ปุ่นเลิกสาขานี้ โดยสาขาประเทศอื่นๆ มันยังเปิดอยู่ เพราะ... สาขาประเทศนั้นลุกค้าใหญ่ได้เลิกกิจการไปแล้ว....ไม่สามารถทำเงินได้ ก็ปิด อีกราย ไล่ปิดสาขาใน asean ถาม ผจก.ว่าทำไมปิด  ...เค้าก็ตอบชัดเจน  เปิดมาหลายสิบปี  เพราะสมัยก่อน ติดต่อลำบาก ต้องไล่เปิดสาขาในแต่ละประเทศคอยดูแลงาน ตอนนี้ไม่ใช่  เราเดินทางกันง่าย  มีเน็ต มีโทรฯ ทำให้ต้องม่เปิดสาขาทุกประเทศ  ประกอบกับ สินค้าบางราย เริ่มขายเองมีช่องทางมากขึ้น ภาษาดีขึ้น คุยตรงกันเองได้ ไม่ต้องผ่าน สนง.ตัวแทนแบบเค้า.... สรุป ผมว่าฝรั่งที่คุณว่า เค้าอยากกลับมากกว่า  ที่อ้างมา มันงงๆ บ้านเรากำลังมีการแข่งขันสูงขึ้น ให้เลือกมากขึ้น จากแต่ก่อน คุณแทบเลือกอะไรไม่ได้เลย ที่ผ่านมา ตลาดมันเล็กไงในบ้านเรา ฝรั่งเลยไม่สนใจ  ขายของก้ผ่านตัวแทน   BMW  BENZ  PEPSI  ตามมายึดคืนจากคนไทย  ถามหน่อย.... ทำไมยี่ห้อข้างต้นมาแล้ว ราคาไม่เห็นลดลงล่ะครับ ตอนนี้ฝรั่งก็เอาไปทำเองขายเองแล้ว.....PEPSi ก็กำลังไปตามยถากรรม คือขายเอง... จากคุณ : TheRed2008 เขียนเมื่อ : 12 ต.ค. 55 07:08:24

ความคิดเห็นที่ 18 ทำไมเราต้องทำตัวเราให้ราคาถูก....เพื่อจะให้คนอื่นมาชอบด้วยครับ..... ญี่ปุ่นทำตัวเองแพงมากๆ....ยังมีแต่คนอยากจะวิ่งไปหาโครมๆ..... จากคุณ : rosickyus เขียนเมื่อ : 12 ต.ค. 55 08:32:40

ความคิดเห็นที่ 19 สรุปน่าอยู่น่าลงทุนของฝรั่ง 2 คนนี้คือ ราคาถูกแค่นั้นใช่มั้ยครับ ไม่เป็นไรครับไม่ไหวก็กลับประเทศไปเถอะครับ ยังมีคนอื่นที่รอเข้ามาอีกเยอะครับ ตอนนี้หมดยุคพวกฝรั่งละครับ จีน อินเดีย ญี่ปุ่น เกาหลี กำลังมาแทนละครับ ฝรั่งก็ม้วนเสื่อกลับไปเถอะครับถ้าคิดกันได้แค่นี้ จากคุณ : xhai เขียนเมื่อ : 12 ต.ค. 55 08:48:46

ความคิดเห็นที่ 20 ถ้าอยากให้ประเทศไทยโตเร็วๆแบบจีน จะให้ใครมารับค่าจ้างเดือนละ 500หยวนครับ? ถามจริง เป็นคุณ คุณเอามั้ยละ ทำเพื่อประเทศชาติ ถ้าอัตราการเติบโตสูงอันดับ 1 ของโลกแต่คนไทยส่วนใหญ่ยังอดๆยากๆ เราจะเติบโตไปเพื่ออะไร? จากคุณ : Ploeauer เขียนเมื่อ : 12 ต.ค. 55 09:05:21

ความคิดเห็นที่ 21 เป็นธรรมดาสำหรับประเทศ จากด้อยพัฒนา ไปสู่ กำลังพัฒนา และก้าวสู่ พัฒนาแล้ว นักลงทุนทั่วโลก ย่อมแสวงหาประเทศด้อยพัฒนาที่มีศักยภาพ ทั้งด้านการเมือง เศรษฐกิจ แรงงานราคาถูก ที่เหมาะสมแล้วลงทุน แต่ก่อนหลังแพ้สงคราม ญี่ปุ่นก็เหมือนกับจีน ที่ผลิตแต่สินค้าคุณภาพต่ำราคาถูกให้คนทั่วโลกได้บริโภค ใช้ไปก็บ่นไปแต่ก็ซื้อ เอาเงิน้ข้าประเทศเยอะๆก่อนแล้วก็พัฒนาสู่สินค้าคุณภาพ แรงงานคุณภาพ ราคาแพง จีนก็กำลังดำเนินรอยตาม เดี๋ยวนี้ที่จีน วัตถุดิบ ค่าครองชีพก็สูงขึ้นพอสมควรแล้ว แรงงานก็ขึ้น คุณภาพสินค้าก็เริ่มมีโรงงาน ผลิตสินค้าคุณภาพขึ้นมาเยอะแล้ว ตอนนี้จีนอยู่ในช่วงกำลังพัฒนา ไทยเราก็เลยจุดนั้นมานานแล้ว ควรจะผลิตสินค้าคุณภาพ แรงงานคุณภาพราคาแพง ค่าครองชีพสูงๆก็ยิ่งดี แต่รายได้ก็ควรสูงขึ้นด้วย เราไม่มีจุดเด่นที่จะไปแข่งขันเรื่องราคาค่าแรงกับจีน เราต้องแข่งในจุดแข็งของเรา คือ ขายการท่องเที่ยว การแพทย์ครบวงจร สร้างแบรนด์สินค้า เกษตรอินทรีย์ ซึ่งตรงนี้ประเทศเรามีจุดแข็ง จากคุณ : นะจังงัง เขียนเมื่อ : 12 ต.ค. 55 09:08:14 A:1.20.0.181 X: TicketID:273954

ความคิดเห็นที่ 22 ตลกที่สุด  20 ปีผ่านไป  จะให้ราคาของมันเท่าเดิม หรือประเทศยังย่ำอยู่ที่เดิมๆ ....ตรรกะเห็นแก่ได้ของนายทุนต่างชาติว่างั้น จขกท. น่าจะอธิบายกลับบ้าง ว่า "มันเป็นไปไม่ได้" จากคุณ : แอ๊ปเปิ้ลป่า เขียนเมื่อ : 12 ต.ค. 55 10:03:01

ความคิดเห็นที่ 23 จะเอาค่าครองชีพ 20 ปีที่แล้วมาเทียบกับปีนี้มันก็ต่างแหงอยู่แล้ว เป็นการเปรียบเทียบแบบไม่มีเหตุผล ค่าบริการบัญชี หรือค่าบริการกฎหมาย นอกจากมันแพงขึ้นตามค่าครองชีพแล้ว ความซับซ้อนของงานมันก็มากขึ้นด้วย ยี่สิบปีก่อนมีมาตรฐานบัญชีไม่กี่สิบฉบับ เดี๋ยวนี้มีร่วมร้อย แถมมีคุกพ่วงมาด้วยอีกต่างหาก ความซับซ้อนของงานมันมากขึ้น ความเสี่ยงของงานก็มากขึ้น  ถ้าจะเทียบก็เทียบกับประเทศเขาด้วยสิว่าเมื่อก่อนราคาพวกนี้มันเท่าไหร่ แล้วปัจจุบันมันเท่าไหร่  หรือของไทย 3 แสน อเมริกา 3 พันล่ะ ราคาสินค้าที่ยกมาก็ประหลาดมาก  สินค้าไฮเทคทั้งหลายไทยเป็นต้นกำเนิดที่ไหนล่ะครับ  นำเข้ามาทั้งนั้น มันเป็นไปไม่ได้เลยถ้าจะมาหวังว่าซื้อ iphone ในไทยแล้วจะถูกกว่าอเมริกา  แล้วสินค้าพวกนี้การแข่งขันสูงมาก มาร์จิ้นไม่ได้สูงอย่างราคาหรอก เพราะงั้นไปซื้อที่ร้านไหนราคามันก็พอๆ กัน เพราะว่ามันลดไม่ได้อีกแล้ว จากคุณ : TingTing เขียนเมื่อ : 12 ต.ค. 55 11:18:17

ความคิดเห็นที่ 24 ... เพื่อนฝรั่งคุณไม่ค่อยตามกระแสโลก  แต่พยายามลดต้นทุนทางธุรกิจตัวเอง สุดท้าย บริหารไม่ได้ก็ม้วนเสื่อกลับบ้านแล้วบอกว่าประเทศนั้นประเทศนี้ ไม่น่าลงทุน ส่วนพวกเราที่อยู่ในประเทศ ก็จะไปพึ่งพวกนี้มาลงทุนแล้วจ้างงานอย่างเดียว ก็คงจะไม่รอด ประเทศเราต้องปรับตัว  ทั้งระบบ  ไม่ใช่อยู่ด้วยความหวังลม ๆ จากรัฐที่ผิดหวังมาตลอดทุกยุคทุกสมัย ปรับตัว เตรียมใจ เพราะอนาคตต่อไป  ประเทศเราอาจจะไม่ใช่ ณ ปัจจุบันไปเลยทั้งระบบก็ได้ จากคุณ : ดาราวิปลาส เขียนเมื่อ : 12 ต.ค. 55 11:19:19

ความคิดเห็นที่ 25 เรื่องการกุมอำนาจผูกขาดการค้า ของไม่กี่ตระกูล  อันนี้ไม่เถียง  (ไม่ชอบ แต่ก็ไม่มีปัญญาแก้ไข) แต่เรื่อง ค่าครองชีพแพงว่า20ปีที่แล้ว ตกลง...ไอ้ฝรั่งพวกนี้ จะให้กูอยู่อย่างทุรกันดารใช่ไหม เมิงถึงจะพอใจ จากคุณ : aumpaump12 เขียนเมื่อ : 12 ต.ค. 55 11:19:34

ความคิดเห็นที่ 26 คิดคล้ายๆ เพื่อนฝรั่งเยอรมันเราคนนึงเลย แต่ไม่เกี่ยวกับเศรษฐกิจนะคะ ความจริงเธอนิสัยดีนะ แต่เธอเคยบ่นๆๆๆ เกี่ยวกับเมืองไทยประมาณที่คุณว่าแหละว่าตรงนั้นไม่เห็นดี ตรงนี้ไม่เห็นดี เราเลยถามกลับไปว่า กลับไปอยู่ประเทศยูดีกว่ามั้ย จะได้แฮปปี้กว่านี้ เพื่อนเราหน้าหงายแล้วก็อ้อมแอ้มตอบกลับว่า.. อย่างน้อย อยู่ที่นี่ ค่าครองชีพก็ยังถูกกว่าบ้านเค้า คือว่าอยู่บ้านเมืองเค้าน่ะ สะดวก ปลอดภัย สวัสดิการรัฐดีกว่าก็จริง แ่ต่ก็ต้องจ่ายภาษีแพง เพื่อเข้าถึงบริการเหล่านั้น ซึ่งถ้าเอาเงินจำนวนนี้มาใช้ชีวิตในไทย ก็ได้ชีวิตทีีสบายกว่าด้วยซ้ำ จากคุณ : ณ พิชา เขียนเมื่อ : 12 ต.ค. 55 11:30:59

ความคิดเห็นที่ 27 มาเล่าเพิ่มเติมเฉยๆ เสน่ห์ที่ทำให้ต่างชาติมาลงทุนในไทย ข้อที่สำคัญข้อหนึ่งเลยคือ " ฝีมือแรงงาน " คนไทยมีความสามารถในการผลิตอะไรที่เป็นงานช่าง งานฝีมือ อย่างพวก รถยนต์ อย่างนี้ คนไทยเก่งนะ คือสมมติว่า ถ้ามีการประท้วงในโรงงาน หรือลาออก พนักงานคนไทยขาดแคลน แล้วจะไปเอาแรงงานต่างด้าวมาทำ ก็ยังไม่ได้น่ะ คือฝีมือมันผิดกัน  การผลิตต้องชะงักไป ( ทำให้พวกนี้ เงินเดือนจะดีมาก เพราะนายจ้างต้องง้อ ) หรืออย่างพวก กระเป๋าแบรนด์เนม  งานตัดเย็บ  คนไทยก็ทำได้ดี มีแบรนด์ดังๆมาทำที่เมืองไทย ซึ่งคุณภาพยังดีกว่า แรงงานเวียดนาม, จีน ฯลฯ อยู่มาก จากคุณ : จำฉันได้ไหม เขียนเมื่อ : 12 ต.ค. 55 11:51:16

ความคิดเห็นที่ 28 ทุกอย่าง ก็ ต้องมี การ พัฒนา  จะให้เหมือน 20 ปีก่อน คงไม่ได้หรอก ถึงอย่างไร เมือไทย ก็ ยังเป็น บ่อเงินบ่อทอง ให้คนมอกอบโกยอยู่ดี  พอโกยเสร็จก็ หอบเงินกลับประเทศ คนที่ อยู่ได้ เพราะ มีความคิดก้าวหน้า รู้จักการบริหารต้นทุน  ถ้าทำไม่ได้ ก็ จะมาดอดโอยว่า เมื่อ 20 ปีที่แล้วไม่เห็นเป็นอย่างนี้ จากคุณ : ก้นกบ เขียนเมื่อ : 12 ต.ค. 55 11:58:06

ความคิดเห็นที่ 29 ฝรั่งเห็นแก่ตัวอ่ะ จะให้คนไทยจมปรัก ให้พวกคุณมาเที่ยวสบายๆหรือ ถึงว่ายุโรปล่มจม เพราะห่วงแต่ตัวเองสบายกัน จากคุณ : เด็กขงเบ้ง เขียนเมื่อ : 12 ต.ค. 55 12:08:30

ความคิดเห็นที่ 30 จริงๆ ไม่เกี่ยวกับกระทู้เลยนะ แต่ผมติดใจกับไอคำว่ารัฐบาลไม่สนับสนุน ธุรกิจคุณเงินคุณทำไมต้องรอคนอื่นสนับสนุน รัฐบาลจริงๆควรมีหน้าที่แค่บริหารบริการสาธารณะ และเศรษฐกิจภาพรวมห่างๆ เพราะรอแต่คนมาอุ้มนี่แหละธุรกิจไทยจึงไม่ไปใหนมากกว่า จากคุณ : hil4552 เขียนเมื่อ : 12 ต.ค. 55 18:59:32

ความคิดเห็นที่ 31 บางความเห็นก็โชว์โง่นะ .... ผมว่า ถ้าไม่รู้อะไร .. นั่งอ่านเงียบ ๆ ดีกว่าครับ จากคุณ : ผมเป็นมาเฟีย เขียนเมื่อ : 12 ต.ค. 55 19:44:49

ความคิดเห็นที่ 32 เราคิดว่าที่เค้าบ่นกันในฐานะของผู้ประกอบการที่เวลาต้นทุนการผลิตสูงขึ้นเค้าก็ต้องหาแหล่งผลิตใหม่ที่ราคาถูกลง ก็เหมือนเวลาพ่อค้าแม่ค้าเมื่อปีที่แล้วซื้อของในตลาดราคาเท่านี้ ปีนี้ข้าวของแพงต้นทุนสูงขึ้นมากก็บ่นเป็นธรรมดา อย่าไปคิดอะไรมาก คนไทยยังบ่นเมืองไทยข้าวของแพง ไข่แพง มะนาวแพงเลย ก็แบ่งๆให้ฝรั่งเค้าบ่นบ้าง จากคุณ : LiLLa_JoY เขียนเมื่อ : 12 ต.ค. 55 19:55:43

ความคิดเห็นที่ 33 ถ้าฝรั่งมันบอกว่าประเทศไทยไม่เหมือนเดิม(ขาดเสน่ห์)อีกต่อไปแล้ว เพราะโดนหญิงไทยหลอกแต่งงานมากขึ้นหรือ หลอกหญิงไทยแต่งงานได้ยากขึ้น..........จะน่าเชื่อหน่อย 555 ค่าครองชีพ................มันขึ้นตามมูลค่าเศรษฐกิจอยู่แล้ว(จีดีพี) ค่าแรง30 ปีที่แล้วร้อยบาทกว่าๆ..............ปัจจุบันจะให้เท่าเดิมได้อย่างไร จากคุณ : atk เขียนเมื่อ : 13 ต.ค. 55 01:14:14

ความคิดเห็นที่ 34 ค่าแรง 30 ปีที่แล้ว 30 บาท ปัจจุบัน 300 ไม่ได้เแปลว่า ข้าวราดแกง เมื่อก่อน 3.50 บาท ครับ น้ำมัน ลิตรละ 39 บาท 30 ปีก่อน ไม่ใช่ 3.9 บาท ค่าธรรมเนียมรายปี price walter house เพิ่มจาก ปีละ 30000 เป็น 250000 ผลต่างมัน 220,000 บาท เปอร์เศนต์ดูน้อย แต่มูลค่ามหาศาล ผมรู้ว่า ทุกท่านเลือดรักชาติ ไม่ต่างจากผม แต่อย่ารักจนตาบอด มองแต่ว่า ไทย เหนือกว่า ชาติใดครับ แบบนี้เขาเรียก ลืมตัวเองไปหน่อยครับ ถ้าทุกคน ตั้งใจทำให้ ประเทศน่าลงทุน ไม่ดีไปกว่า ไล่เขาให้ออกไปจากประเทศหรือครับ ส่วนเรื่อง กฏหมายผูกขาด ไม่เคยมีใครบังคับใช้กฏหมาย เช่นเดียวกับภาษีมรดก เพราะ คนออกกฏหมาย คือ พวกที่จะถูกบังคับใช้กฏหมาย แล้วเขาจะออกมาทำไม จากคุณ : โบกกรัก เขียนเมื่อ : 13 ต.ค. 55 02:34:18

ความคิดเห็นที่ 35  ความคิดเห็นที่ 18    ทำไมเราต้องทำตัวเราให้ราคาถูก....เพื่อจะให้คนอื่นมาชอบด้วยครับ..... ญี่ปุ่นทำตัวเองแพงมากๆ....ยังมีแต่คนอยากจะวิ่งไปหาโครมๆ..... จากคุณ : rosickyus  ก็คุณภาพญี่ปุ่นกับคุณภาพไทยมันเท่ากันหรือ? จากคุณ : ผึ้งน้อยพเนจร เขียนเมื่อ : 13 ต.ค. 55 07:44:21

ความคิดเห็นที่ 36 ฝากบอกเพื่อน จขกท ด้วยว่า ตอนปี 2540 ค่าเงิน 50 บาท/ $1 ตอนปี 2005 ค่าเงิน 40 บาท/$1 ปีนี้ 2012 ค่า่เงิน 30 บาท/$1 แหงสิท่าน ท่านชอบเมื่อ 10 กว่า - 20 ปีที่แล้ว จากคุณ : LAPD21 เขียนเมื่อ : 13 ต.ค. 55 09:24:03

ความคิดเห็นที่ 37 ประเทศไทยน่าอยู่กว่าที่ฝรั่งคิด ฝากไปบอกด้วยครับ จากคุณ : Mr.Alibaba เขียนเมื่อ : 13 ต.ค. 55 10:58:08

ความคิดเห็นที่ 38 คห.35 แน่นอนครับ....ผมทำงานกับญี่ปุ่นมาเป็น 10 ปี ผมย่อมเข้าใจถึงคุณภาพ ของประเทศนี้ดี.. ที่อยากบอกก็คือ...เราน่าจะพัฒนาตัวเองไปในแนวนั้น (คุณภาพ,วิจัยและพัฒนา) มากกว่าจะกดให้ตัวเองเป็นพวกราคาถูกๆไปตลอดเพื่อที่จะให้คนอื่นมาสนใจเรา.. ญี่ปุ่นเองก็ใช้เวลาพัฒนาตัวเองไม่น้อยกว่า 30 ปีหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 เพื่อสลัดความเป็น ประเทศราคาถูกจนกลายมาเป็นยักษ์ในปัจจุบัน ถ้าเราทำตัวเองให้ราคาถูกเพื่อให้คนอื่นมาสนใจ...ก็เปรียบเหมือนกับผู้หญิงที่ยอมขึ้น เตียงกับผู้ชายง่ายๆเพื่อให้มารักตัวเอง........คุณคิดว่ามันจะยั่งยืนไหมล่ะครับ?? แก้ไขเมื่อ 13 ต.ค. 55 14:51:15 จากคุณ : โรคุง (rosickyus) เขียนเมื่อ : 13 ต.ค. 55 14:47:33

ความคิดเห็นที่ 39 พวกหัวทองคิดแบบนี้ หวังแต่จะกอบโกย ก็เชิญกลับประเทศมันไปเหอะ จากคุณ : iamfine_thanks เขียนเมื่อ : 13 ต.ค. 55 21:12:57

ความคิดเห็นที่ 40 เลิกบ่นแล้วไปทำงานซะ !! จากคุณ : คนไทยไม่ท้อ เขียนเมื่อ : 13 ต.ค. 55 21:51:21 A:125.24.92.120 X: TicketID:324733

ความคิดเห็นที่ 41 ไม่ได้ว่าอะไรนะ แต่คนไทยส่วนใหญ่ชอบคิดว่าประเทศไทยน่าอยู่ที่สุดในโลก น่าลงทุนมากที่สุดในโลก อาหารอร่อยที่สุดในโลก คนไทยนิสัยดีที่สุดในโลก อะไรๆก็สุดยอดไปหมด คำถามคือจริงหรือเปล่า? หรือเราคิดเองเออเองไปคนเดียว จากคุณ : Champoo Extra Care เขียนเมื่อ : 14 ต.ค. 55 09:14:04

ความคิดเห็นที่ 42 ถ้า จขกท มีความคิดกว้างไกลแบบของท่านอื่นที่แสดงความคิดเห็นในนี้ น่าจะพอถกกับเพื่อนฝรั่งของคุณได้นะครับ จากคุณ : โลกสีน้ำเงินเข้ม เขียนเมื่อ : 14 ต.ค. 55 16:33:00

ความคิดเห็นที่ 43 ค่าครองชีพสูงขึ้น แต่คุณภาพแรงงานต่ำลง ทัศนะคติของแรงงานสมัยนี้ เทียบกับ20ปีก่อนไม่ได้เลย จากคุณ : BonaPart เขียนเมื่อ : 14 ต.ค. 55 19:03:17

ความคิดเห็นที่ 44 ทาสฝรั่ง จากคุณ : Nosten เขียนเมื่อ : 14 ต.ค. 55 19:56:16

ความคิดเห็นที่ 45 มันก็แค่ข้ออ้างแหละว๊า 20ปีนะโว๊ย ไม่ใช่20วัน ขนาด20วันผักบุ้งมันยังโตได้ ประสาอะไรกับ20ปี จากคุณ : ปอมปอม มิยาโตวิช เขียนเมื่อ : 14 ต.ค. 55 21:27:13

ความคิดเห็นที่ 46 ประเทศไทย คิด Vat แค่ 7%  มาดูแถวยุโรปกันบ้างดีใหมคะ อย่างต่ำ 19% ค่ะ ฮอลแลนด์เพิ่งประกาศขึ้นจาก  19% มาเป็น 21% เมื่อ 1  ต.ค 2012 ที่ผ่านมานี่เอง   ค่าครองชีพที่ว่าสูงๆ  มาดูทางนี้กันบ้างดีกว่าว่าขนาดใหน จากคุณ : amonwan เขียนเมื่อ : 18 ต.ค. 55 11:38:27