ความคิดเห็นที่ 1 ตอบข้อนี้อะ " การควบคุมกระบวกการซื้อ " มันหมายถึงกระบวนการซื้อของลูกค้าใช่ไหม จากคุณ : MamaKungking เขียนเมื่อ : 13 ต.ค. 55 20:40:09

ความคิดเห็นที่ 2 ใช่ครับ คือ ควบคุมกระบวนการซื้อของลูกค้า แต่ไม่ใช่ควบคุมลูกค้านะครับ เพราะถ้าเมื่อไรก็ตามที่นักขายทำให้ลุกค้ารู้สึกว่าถูกควบคุม ลูกค้าจะมีปฏิกริยาในเชิงลบ (ในลักษณะต่างๆ) Solution Selling ให้ความสำคัญกับ การควบคุมกระบวนการซื้อของลูกค้า เพื่อให้ นักขายสามารถประเมิน และ พยากรณ์ยอดขายได้อย่างมีประสิทธิผล มีนักขายจำนวนมากที่ไม่สามารถควบคุมกระบวนการซื้อได้ และไม่สามารถบอกว่า โอกาสการขายนั้นจะจบเมื่อไร ซึ่งนักขายควรบอกได้ไม่ยาก จากคุณ : SolutionSellingCoach (SolutionSellingCoach) เขียนเมื่อ : 14 ต.ค. 55 13:23:27

ความคิดเห็นที่ 3 ขอเสวนาธรรมหน่อย เอาแบบบ้านๆหน่อยนะครับ ผมพอเข้าใจหลักการขายนะครับ ความสำเร็จของผมคือการที่ลูกค้าไม่ต้องสั่งของเอง เราวางแผนการสั่งให้ลูกค้าเบ็ดเสร็จ ( กลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค) แต่ปัญหาของผมจริงๆคือ ลูกน้องไม่เข้าใจความหมาย ส่วนมากเข้าใจว่า ขายของได้มาก คือ เก่ง อัดของให้ลูกค้าเยอะๆ คือ เก่ง สุดท้ายปัญหามันก็เกิด เช่นสต็อกบวม เวียนสินค้าเก่าใหม่ในร้านไม่ถูก(มันเยอะเกิน) ผลที่ตามมา คือการคืนสินค้า สินค้าชำรุดเสียหาย พอจะมีธีแนะนำไหมครับ ว่าจะสอนลูกน้องยังไง จากคุณ : MamaKungking เขียนเมื่อ : 14 ต.ค. 55 16:38:17

ความคิดเห็นที่ 4 #3 อย่าโลภ จากคุณ : xhai เขียนเมื่อ : 15 ต.ค. 55 09:55:23

ความคิดเห็นที่ 5 คุณ MamaKungking ครับ ผมว่า อาจจะลองดูว่า ที่ลูกน้องเข้าใจ ว่า การขายอย่างนั้น แล้ว เก่ง มีปัจจัยสนับสนุนให้เขาคิดอย่างนั้นบ้างหรือปล่าว ครับ เช่น ขายอย่างนั้น แล้ว ได้ Commission ดี ถ้าเป็นอย่างนั้น เขาก็อาจจะอยากเก่งแบบนั้น ก็ได้นะครับ หรืออีกมุมหนึ่ง การเกิดปัญหา Stock บวม คืนสินค้า ฯลฯ เขาต้องรับผิดชอบอะไรมั้ยครับ (นอกจากโดนหัวหน้าตำหนิ) มีคำพุดนึง ของฝรั่ง ว่า You Get What You Measure for เราจะได้อย่างที่เราวัด ถ้าเราแสดงการกระทำ (ไม่ใช่คำพูด) ว่าเราวัดที่ยอดขายเป็นหลัก มันจะส่งสัญญาณไปที่จิตใต้สำนึกของนักขายและนักขายก็จะพยายามทำทุกแนวทางที่ทำได้ยอดขายเยอะๆ ผมข้างเคียงที่เขาไม่ต้องรับผิดชอบโดยตรง อาจจะมีน้ำหนักไม่มากนะครับ ขอโทษด้วยครับ ถ้าอ่านแล้วดูเป็นวิชาการ แต่ผมว่ามันเป็นประเด็นที่น่าคิดนะครับ และเป็นเรื่องที่ผมเจอมาพอสมควรในการทำ Solution Selling Coaching จากคุณ : SolutionSellingCoach (SolutionSellingCoach) เขียนเมื่อ : 15 ต.ค. 55 10:35:38

ความคิดเห็นที่ 6 เอาแบบบ้านๆอะดีแล้วครับ ภาษาวิชาการมันปวดขมอง เคยมองที่ค่าคอมเหมือนกัน เรื่องยอดขายจริงๆผมไม่ค่อยซีเรียส ผมค่อนข้างถือว่ายอดขายสินค้าทั้งหมดไม่ได้เกียวกับว่า เซลล์ขายให้ลูกค้าได้เท่าไร ผมสนว่าลูกค้าขายให้ผู้ใช้งานหรือผู้บริโภคมากกว่า เน้นจริงๆที่การเยี่ยมร้านค้าให้ครบทุกร้าน ขยันหาร้านใหม่ บริหารสต็อกลูกค้าให้ดีๆ เคยแม้กระทั้งปรับค่าคอม เปลี่ยนเป็นระบบ อินเซนทิฟ+คอม ซึ่งผมว่าง่ายกว่าและมากกว่าแบบเดิม สุดท้ายมันกลายเป็นว่า พนักงานทั้งหลายเลือกที่จะทำอย่างใดอย่างหนึ่งในแต่ละรอบการขาย เหมือนกับว่าพนักงานทั้งหลายหาจุดลงตัวกันไม่ถูก แค่ลงไปควบคุมเอง ก็ดีอยู่ได้แป็ปๆ พอเริ่มปล่อยก็เริ่มพัง เรื่องของเสีย เคยกำหนดเหมือนกัน กลับกลายเป็นว่าเหมือนทุกคนกลัวการทำผิด ลงของไม่พอกับความต้องการของลูกค้ามั่ง ร้านไหนมีของเสีย ร้านบางร้านไม่สำคัญก็ทิ้งเสียเลย ง่ายดี อืม.....นั้งคิด แล้วก็คิด คงเป็นเพราะตัวผมเองแหละกำหนดมากไป พนักงานก็อยู่ยาก กำหนดน้อยไปก็เละ คงจะสอนหนักงานให้เข้าใจ และเข้าถึงการเป็นนักขายที่ดียาก ในเมื่อพนักงานทำงานแลกเงิน เขาย่อมทำเพื่อที่จะให้ได้เงินมากที่สุด อยากเอาหัวตัวเองโขกกำแพงสักห้าหกที คงต้องหาจุดสมดุลกันใหม่ จากคุณ : MamaKungking เขียนเมื่อ : 15 ต.ค. 55 13:16:37

ความคิดเห็นที่ 7 ความคิดเห็นที่ 6 ใจเย็นครับ เดี๋ยวจะเจ็บหัวตัวเอง โดยที่ลูกน้อง ไม่รู้สึกรู้สม อะไร ลองดูที่กฎ 80-20 ดูครับ เช่น ถ้ามีนักขาย ส่วนน้อยที่ ทำให้คุณ ปวดหัวกับปัญหานี้ (ส่วนใหญ่ น่าจะพอรับได้) คงต้อง ประยุกต์ใช้ กระบวนการ Coaching ดูกับ นักขายที่คุณ เห็นว่า เหมาะสม แล้วลงทีละคน สักระยะนึง จะสามารถ บริหารจัดการได้ง่ายกว่ามาก ที่ผมพบก็คือ ส่วนใหญ่ ไม่ใช่ไม่รู้ (หรือไม่รู้ก็บอก หรือ สอนให้รู้ได้ไม่ยาก) แต่ไม่ทำเพราะเหตุผลบางอย่างมากกว่า ครับ คือ มี Ability ที่จะทำเรื่องนั้นๆ แต่ไม่มี Willing ที่จะทำเรื่องนั้นๆ ถ้าเป็นลักษณะนี้ Training หรือ Telling หรือ Ordering หรือ Forcing ไม่ Work แน่นอนครับ โดยเฉพาะ ถ้าคุณมี ลูกน้องเป็น นักขาย Gen-Y Coaching น่าจะเป็น แนวทางที่คุณ ควร พิจารณานะครับ แรกๆ อาจจะดูเหนื่อยหน่วย แต่ ผลที่ได้คุ้มค่าในระยะยาวหน่อยนะครับ จากคุณ : SolutionSellingCoach เขียนเมื่อ : 15 ต.ค. 55 13:43:12

ความคิดเห็นที่ 8 เออ........อยากจะบอกว่าผมก็ยัง gen y นะ แต่ก็ยอบรับ gen y ปวดหัวกับมันมาก ชอบอะไรที่มันสำเร็จรูป เอาง่ายๆเข้าว่า Coaching เมื่อสักครู่ก็คิดอยู่เหมือนกัน คงต้องตามนั้นแหละครับ งานนี้คงตองลงมือเองอีกแล้ว เคยอยู่เหมือนกันให้เซลล์ที่ค่อนข้างดีที่รู้งาน ไป สอนผลออกมา ร้านแทบพัง ทะเลาะกันมั่วไปหมด คนอายุน้อยๆไฟแรงๆมักมั่นใจตัวเองสูง ให้คนที่ระดับใกล้เคียงกัน หรือต่างกันไม่มากสอนงาน แทบจะไม่เข้าสมอง ขอบคุณครับทำให้ผมคิดอะไรดีๆได้ จากคุณ : MamaKungking เขียนเมื่อ : 15 ต.ค. 55 14:26:34