1. บุคลิกต้องให้
:นี่แบบไหนคะ ไม่รู้ว่าจำเป็นมั้ยนะคะ แต่เคยอ่านเจอมาว่า บุคลิกพ่อค้า คือ คนที่เดินอย่างนอบน้อมค่ะ หลังค้อมนิดๆ เพราะต้องเข้ากับทุกฝ่ายทุกอาชีพได้ จะไปผยองหรือแกร่งกล้าแบบข้าราชการนายตำรวจหรืออาชีพอื่นๆก็คงไม่ได้ และเท่าที่คลุกคลีมาตลอดชีวิต ส่วนใหญ่ที่ค้าขายเจริญๆเนี่ยก็เป็นแบบนี้จริง และที่สำคัญใจกว้างเป็นมหาสมุทร(กับคนอื่น) แต่เคี้ยวกับตัวเองและคู่ค้า ป๊ะเคยสอนค่ะว่า เลี้ยงส่วนเลี้ยง จะเลี้ยงเพื่อนเลี้ยงลูกค้าดีแค่ไหนก็ได้ แต่เงินค้าขายสักบาทนึงก็ขาดไม่ได้เด็ดขาด
2. มีพรสวรรค์ / หัวคิดของนักขาย / หัวการค้า
: คนเราถ้าสนใจสิ่งไหน มักจะมีฉันทะในการทำสิ่งนั้น มันก็จะต่อไปเรื่อยๆเอง ก็ไม่รู้ว่าเรียกว่า พรสวรรค์รึเปล่า แล้วก็หัวการค้าก็น่าจะเกิดจากประสบการณ์มากกว่านะคะ คลุกคลีไปเรื่อยๆ มันจะซึมซับเข้ามาเองแบบไม่รู้ตัวค่ะ ลองศึกษาข้อมูลและหาโอกาสเอาตัวเข้าไปอยู่ในวงการนั้นดูนะคะ
3. พื้นฐานครอบครัวทำการค้าขายอยู่แล้ว จึงอาศัยเรียนรู้จากที่บ้านแล้วสืบทอดกิจการต่อ หรือ ขยับขยายออกมาต่อยอดธุรกิจเดิม / ทำธุรกิจของตัวเอง
: ก็อาจมีข้อได้เปรียบอยู่บ้าง แต่เคยเห็นกิจการรุ่งเริองสุดๆแต่ทายาททำเจ๊งมั้ยคะ ส่วนตัวเห็นมาเยอะค่ะ ถ้าไม่มีตรงนี้ ก็ต้องหาครูในชีวิตสิคะ อยากเป็นแบบไหน ก็ไปอยู่กับคนแบบนั้น วงการนั้น คือ ทางลัดที่ดีที่สุด (connection) รู้จักคนให้มาก คุยกับผู้ใหญ่เยอะ จะได้อะไรมากเลยค่ะ
ความเห็นส่วนตัวนะคะและจากประสบการณ์ที่เห็นตระกูลฝั่งพ่อแม่และครอบครัวทำการค้ามาตลอด (มีทั้งเจ๋งกินไม่หมดชาตินี้และเจ๊งไม่เหลืออะไรเลยแม้แต่ที่ซุกหัวนอน) ส่วนที่บ้านเราไม่มีใครเอาเลยค่ะ มีเราที่พึ่งหันมาสนใจและอยากทำ หลังไปทำงานออฟฟิสอยู่นานสองนาน ซึ่งดูเหมือนจะช้าไป เพราะเค้าเลิกทำไปแล้วค่ะ (เราเป็นลูกหลงหน่ะค่ะ โตไม่ทัน เสียดายสุดๆ) อย่างนี้ต้องเรียกว่าต้นทุนเป็นศูนย์มั้ยคะ แถมหนี้หลงเหลือจากการค้าเป็นของขวัญตั้งแต่ยังเรียนไม่จบด้วยซ้ำ ทุกวันนี้พี่น้องยังช่วยกันผ่อนใช้ไม่หมดเลย
(แต่ดิฉันชิวนะคะ เพราะเห็นญาติรวยมากมาย เป็นหนี้แบงก์สิบล้านร้อยล้าน เค้ายังกินอิ่มนอนหลับกัน)